วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 389 Greatly complete

Miracle Throne Chapter 389 Greatly complete

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 389 ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่


บทที่ 389 ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่



ตัวตนระดับสูงของหอการค้าปาฏิหาริย์ได้เดินทางมาถึงแล้ว,นางที่เป็นผู้นำสวมชุดสีขาวที่ดูสะอาดประณีต,รูปร่างสวยสง่าสมบูรณ์แบบ,ผุดผ่องยากที่จะมีฝุ่นละอองมากล้ำกลายเป็นเหมือนดั่งเทพธิดาที่สูงส่ง,ไม่ใช่ใครที่ใหนนางก็คือรองประธานหอการค้าปาฏิหาริย์นั่นเอง.


หลังจากที่ได้รับข้อความว่าฉู่เทียนและเหว่ยเหว่ยถูกเอลฟ์จับตัวไปนั้น,นางก็ได้นำกองกำลังเผ่าคนเถื่อนที่ฝึกฝนจนกลายเป็นนักรบอสูรคลั่ง 3000 นายเร่งรีบเดินทางมายังเมืองเล็กออเตอแมน,ในเวลานั้นเมืองเล็กระส่ำอยู่เหมือนกัน,เนื่องจากพันธมิตรที่เพิ่งรวมตัวกัน,อาจจะแตกสลายไปได้ง่ายๆ,แต่ด้วยการที่ท่านหญิงเดินทางมาทำให้สามารถควบคุมสถานการณ์ให้มั่นคงได้ในที่สุด.

ความสามารถในการบริหารของเมิ่งชิงอู๋นั้นยอดเยี่ยมอย่างไม่ต้องสงสัย.

ตอนนี้เมื่อฉู่เทียนกลับมายังเมืองเล็ก,ต้องประหลาดใจเมืองเล็กแห่งนี้ไม่ได้ถดถอยลงเลย,ซ้ำยังรุ่งเรื่องกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ,หลังจากที่เมิ่งชิงอู๋เดินทางมายังเมืองเล็กก็สามารถที่จะเรียกขวัญทุกคนกลับมาได้,พร้อมกับทำการพัฒนาระบบต่างๆของเมืองเล็กขึ้นใหม่,สร้างกฎเกณฑ์ที่ดีขึ้น,ทำให้เมืองเล็กแห่งนี้ดีขึ้นตามลำดับ.

เมิ่งหยิงหยิงที่เข้าไปทุบหน้าอกของฉู่เทียนเบาๆ"ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ได้กลับมาซะอีก?คิดว่าเจ้าถูกพวกเอลฟ์จับตัวไป,ข้าเตรียมที่จะนำคนบุกเผ่าเอลฟ์เพื่อช่วยเจ้าแล้ว!"

"จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร,ข้าที่หน้าตาหล่อเหลาถึงเพียงนั้น,เมื่อเดินทางไปถึงเผ่าเอลฟ์,สาวงามเผ่าเอลฟ์มากมายต่างก็ร้องขอข้าแต่งงาน,ข้าต้องใช้แรงพอกับวัวเก้าตัวกับเสืออีกสองตัวรวมกันถึงจะวิ่งหนีออกมาได้."ใบหน้าของฉู่เทียนที่หนายิ่งกว่ากำแพง"เจ้าดูนั่นแม้แต่เหล่าพิกซี่ที่งดงามยังต้านทานข้าไม่ได้เลย,จนต้องตามข้ากลับมาไม่ใช่รึ?"
九牛二虎之力 [jiǔniú èrhǔzhīlì]  ทำทุกอยางเท่าที่จะทำได้ สุดกำลังความสามารถ ประมาณว่าใช้แรงพอๆกับวัวเก้าตัวกับเสืออีกสองตัวมารวมกัน

"หลงตัวเองชะมัด!ไม่คิดที่จะรักษาหน้าตาตัวเองเลย!"เมิ่งหยิงหยิงที่กล่าวเป็นลาง"หากว่าข้าเป็นเอลฟ์ล่ะก็,เห็นเจ้าหน้าด้านเพ้อเจอกระล่อนเช่นนี้เช่นนี้ข้าต้องเย็บปากของเจ้าเข้าหากันเป็นแน่."

โหดร้ายเช่นนั้นเลยรึ?

สาวน้อยคนนี้แทบกินไม่ได้นอนไม่หลับมาตั้งหลายวัน.

เมิ่งชิงอู๋เองก็พยายามข่มใจให้สงบ,หลายวันมานี้นางก็เป็นกังวลไม่น้อยกว่าน้องสาวนางเลย,"ที่จริงแล้วหลายวันมานี้เจ้าไปทำอะไรมารึ?ทำไมเผ่าเอลฟ์ถึงได้ปล่อยเจ้ามา?ไม่ใช่ว่าพวกเขาต้องการลงโทษเจ้าหรอกรึ?"

"เผ่าเอลฟ์จะทำอะไรข้าได้ล่ะ,มีแต่จะหาผลกำไรให้ได้มากที่สุดก็เท่านั้น!"

กับสิ่งที่ฉู่เทียนกล่าว,ทั้งสองพี่น้องเข้าใจได้อย่างดี.

เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก.

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ได้สอบถามถึงรายละเอียดแล้ว,พวกนางเองก็ยังตื่นตะลึงกับโชคของฉู่เทียนไม่น้อย,โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้กลายเป็นพันธมิตรกับเหล่าพิกซี่,และยังพบวิธีในการพัฒนาเทคโนโลยีเขตแดนจิตวิญญาณ,เรื่องที่เกิดขึ้นนี้น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างยิ่ง.

แม้ว่าจะไม่เข้าใจในความคิดของเผ่าพิกซี่,แต่เมื่อเห็นเหล่าพี่น้องพิกซี่แล้ว,ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตที่ตัวจิ๋วน่ารักยิ่งนัก,ดึงดูดพวกนางเป็นอย่างมาก.

"ยินดีต้อนรับสู่เมืองเล็กนะ."เมิ่งชิงอู๋เที่เดินไปอยู่ด้านหน้าเหล่าพิกซี่"เอ๊ะ,พวกเจ้าดูเหมือนจะเหนือยล้ามากมายเลย?"

สถานที่แห่งนี้มีพลังจิตวิญญาณที่ดูเบาบางมาก,เหล่าพิกซี่นั้นเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นอมตะ,ทว่าในเวลานี้ร่างกายของพวกนางนั้นดูไม่ค่อยดีนัก,ในความเป็นจริงนั้นเหล่าพิกซี่มีความละเอียดอ่อนในสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมาก,และมีผลต่อชีวิตของพวกนาง,เมื่ออาศัยอยู่ในดินแดนที่มีพลังจิตวิญญาณต่ำย่อมต่างจากพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพลังวิญญาณมากมายแน่นอน,พวกนางในเวลานี้จึงกลายเป็นอ่อนแอในทันที.

แต่ถึงกระนั้นฉู่เทียนก็ได้เตรียมการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้แล้ว.

ฉู่เทียนที่เตรียมการสร้างพื้นที่สะสมพลังจิตวิญญาณขึ้นมา,โดยการนำสมุนไพรมากมายยักย้ายถ่ายเทให้กับเหล่าพิกซี,เพื่อที่จะสร้างสวนขึ้นใหม่,เหล่าพิกซี่ก็จะสามารถฟื้นฟูพลังได้,และก็จะสามารถทำงานและใช้ชีวิตในเมืองเล็กแห่งนี้ได้.

หลังจากที่ช่วยเหลือเหล่าพิกซี่สร้างที่อยู่,ฉู่เทียนก็ทำการเรียกประชุมครั้งใหญ่,อย่างแรกต้องการตรวจสอบความพร้อมของแต่ละคนโดยเฉพาะพลังฝึกตนของพวกเขา.

พลังฝึกตนของฉู่เทียนที่ได้เพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ก้าวไปยังระดับปลุกดวงจิตระดับ 9 ,ซึ่งเขาสามารถล้มผู้เชี่ยวชาญระดับ 9 ขั้นปลายระดับโหว่ของหนานเซี่ยได้อย่างสบายๆ,หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้ระดับ 1 เขายังมั่นใจได้กว่า 50 เปอรเซ็น.

ส่วนคนอื่นๆนั้นยังช้าอยู่มาก.

หนานกงหยุนที่มีพลังฝึกตนพัฒนาเร็วสุด,ตอนนี้นางมีระดับปลุกดวงจิตระดับ 8 แล้ว,ถัดมาก็เป็นสองพี่น้องเมิ่งชิงอู๋ที่เพิ่งทะลวงระดับปลุกดวงจิตระดับ 7 ,ส่วนเฉินปิงยวีและตงฟางเห่าเหรียนยังคงอยู่ระดับ 9 ขั้นปลายเช่นเดิม.

ฉู่เทียนรู้สึกเบาใจเล็กน้อย.

ความเร็วของทุกคนค่อนข้างดีทีเดียว!

อย่างไรก็ตามในป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้,ยิ่งมีความแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งอยู่รอดได้มากขึ้น,ยิ่งมีความแข็งแกร่งก็ยิ่งมีศัตรูน้อยลง,ต้องไม่ลืมว่าถึงจะเป็นป่าแห่งความวุ่นวายหรือจะเป็นอาณาจักรหนานเซี่ยเอง,ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้ก็ไม่ได้มีมากมายนัก,ถึงจะไม่รู้ว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้มีจำนวนมากเท่าไหร่,แต่ก็ไม่มีอาณาจักรภายนอกกล้าบุกเข้ามาง่ายๆแน่.

หอการค้าปาฏิหาริย์เองจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้อีกไม่เช่นนั้นคงจะไม่ดีนัก!

ตอนนี้มีแค่เพียงเหว่ยเหว่ยอันไม่ใช่รึ?

เหว่ยเหว่ยอันที่รับผิดชอบหนักจนเกินไป,นางที่มีพลังต่อสู้มากที่สุด,ใช่ว่านางจะรับมือได้ตลอดต้องไม่ลืมว่าการใช้พลังมิตินั้นกินพลังวิญญาณมหาศาล,ดังนั้นตามเป้าหมายของฉู่เทียนนอกจากการสะสมทรัพยากรแล้ว,ยังต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของทุกคนไปพร้อมๆกันด้วย.

หอการค้าปาฏิหาริย์ด้วยพื้นฐานที่สร้างขึ้นมานี้พวกเขาจะกลายเป็นผู้แข็งแกร่งในป่าแห่งนี้ได้.

เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยากนัก,ด้วยหอการค้าปาฏิหาริย์ที่ร่ำรวยขึ้นเรื่อยๆ,และยังมีฐานการผลิตที่แข็งแกร่งในอาณาจักรหนานเซี่ย,สะสมทรัพยากรมากมายที่เพียงพอจะสร้างผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้ได้อีกหลายคน,ตอนนี้ได้ก้าวเข้ามาสร้างเมืองเล็กภายในป่าแห่งความวุ่นวายได้แล้ว,พวกเขาที่มียาทิพย์ระดับ 2 เป็นจำนวนมาก,ถึงแม้แต่สมบัติรวมกันทั้งหมดของอาณาจักรหนานเซี่ยในเวลานี้ยังไม่สามารถเทียบพวกเขาได้เลย.

และมันก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ.

ฉู่เทียนที่ได้เตรียมสุราเทพธิดาเป็นจำนวนมาก,เพื่อที่จะเตรียมทำให้ทุกคนก้าวข้ามคอขวดทะลวงไปยังระดับเขตแดนภูมิแท้,และยังมีเหล่าพิกซี่คอยช่วยเหลือในการเลื่อนระดับให้เป็นไปด้วยดี,ยังต้องกังวลอีกเหรอว่าทุกคนจะไม่สามารถเลื่อนระดับได้?

ฉู่เทียนที่ได้ดำเนินแผนการเพิ่มพลังฝึกตนของทุกคนในทันที.

หลายวันมานี้,ท่านหญิง,หยิงหยิง,หยุนเหยาและเฟิงไฉ่เตี๋ย,ทุกคนต่างก็สามารถทะลวงระดับได้ถึงสองขั้น,ก้าวไปยังปลุกดวงจิตระดับ 8 ได้กันทุกคนแล้ว,ส่วนหนานกงหยุนเองก็สามารถเลื่อนระดับไปยังระดับ 8 ขั้นปลาย,และทะลวงไปยังระดับ 9 ได้ในที่สุด.

เฉินปิงยวีและตงฟางเห่าเหรียน,พวกเขาทั้งคู่หลักจากที่ได้รับการช่วยเหลือเป็นพิเศษ,ฉู่เทียนที่ไม่เพียงปรุงยาทิพย์ศักดิ์สิทธิ์ให้เฉพาะ,ยังได้เตรียมสุราเทพธิดาให้อีกด้วย,พร้อมกับให้เหล่าพิกซี่ช่วยเหลือในการบำเพ็ญ,เพื่อช่วยให้พวกเขาทะลวงคอขวดที่ดูจะยากกว่าปกติ,ตอนนี้คนทั้งสองที่ปิดตัวบำเพ็ญอยู่,ตามที่ฉู่เทียนคาดการนั้นตอนนี้ผ่านกระบวนการมากกว่า 80 เปอร์เซ็นแล้วคาดว่าจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอน.

ทุกๆคนมีพลังที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว.

ขอเพียงแค่ 1-2 เดือนด้วยความเร็วเท่าตอนนี้,พวกเขาจะมีผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้อีกหลายคน,ในเวลานั้นหอการค้าปาฏิหาริย์ก็จะสามารถเข้าร่วมการแข่งขันกับเหล่าผู้มีอำนาจระดับสูงนับร้อยเผ่าพันธ์ในป่าแห่งความวุ่นวายนี้ได้.

ขณะที่ฉู่เทียนคิดอะไรหลายๆอย่าง,วางแผนในการเตรียมการอยู่นั้น,ทันใดนั้นเมิ่งชิงอู๋ก็ได้เข้ามาพบกับเขาในทันที"ข้ามีบางสิ่งที่อาจจะช่วยเหลือเจ้าได้."

ท่านหญิงกำลังจะมอบสิ่งใดให้กับข้าอย่างงั้นรึ?

นับเป็นเรื่องที่หายากจริงๆ!

ท่านหญิงที่นำดาบดำออกมาจากถุงเก็บของ,ก่อนที่จะยื่นมันให้กับฉู่เทียน,ฉู่เทียนที่เพ่งพิศจ้องมองอยู่นานเหมือนกัน,เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งซ่อนอยู่ในอาวุธชิ้นนี้,"ดาบนี้คือ...เป็นอาวุธของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้อาณาจักรเฉวียนหยงอย่างงั้นรึ?"

"ดาบเพลิงใต้พิภพ,เป็นอาวุธของหม่าลีมู่อาณาจักรเฉวียนหยง,อาจจะช่วยอะไรบ้างก็ได้,มันเป็นศาสาตราวิญญาณสื่อสารดวงจิต,ซึ่งเป็นดาบวิเศษที่เผ่าเกอตีหยีสืบทอดมาจากบรรพบุรุษ,ด้วยอาวุธวิเศษเช่นนี้,ย่อมเลือกผู้เป็นนายที่เหมาะสม,ท้ายที่สุดก็ไม่มีใครใช้ได้,ทว่าก่อนหน้านี้,ข้าได้ส่งให้เหล่านักวิจัยศึกษาดาบนี้แล้ว,ซึ่งพบว่ามันมีพลังเปลวเพลิงที่ไม่ธรรมดาซ่อนอยู่,ข้าเลยคิดว่ามันจะช่วยเพิ่มวิชาบำเพ็ญของเจ้าก็ได้."

"งั้นรึ?งั้นข้าจะลองดู!"

ฉู่เทียนที่นำดาบเพลิงใต้พิภพและกระบี่อเวจีออกมา,อาวุธทั้งสองที่สัมผัสกันเบาๆ,แม้ว่าจะไม่ต้องใช้พลังวิญญาณกระตุ้น,แต่เหมือนว่าอาวุธทั้งสองนั้นจะมีความแหลมคมเป็นอย่างมาก,พริบตานั้นก็เกิดเป็นประกายสายฟ้าที่พวยพุ่งออกมา,พลังทั้งสองที่กำลังผลักกันไปมา,ราวกับว่าต้องการดูดซับพลังของกันและกัน,ดูเหมือนว่าอาวุธทั้งสองนั้นจะเป็นอาวุธที่เป็นปฏิปักษ์กันอย่างรุนแรง,ต่างฝ่ายต่างก็ต้องการที่จะกลืนกินอีกฝ่ายไป.

เป็นความจริง!

ดาบเพลิงใต้พิภพและกระบี่อเวจีนั้นแทบจะเหมือนๆกัน.

ดาบเพลิงใต้พิภพนั้นดูเหมือนว่าจะมีดวงจิตเปลวเพลิงอยู่ด้วยเหมือนกัน.

หากเดาไม่ผิดแล้วล่ะก็คงจะเป็นดวงจิตเปลวเพลิงทมิฬซึ่งเป็นจิตวิญญาณแห่งความมืด,นับว่าเป็นคู่ต่อกรที่สู่สีกัน,หนึ่งจิตวิญญาณจิตวิญญาณแห่งสวรรค์และอีกหนึ่งจิตวิญญาณแห่งความมืด,เหมือนว่าทั้งสองต่างก็เป็นศาสตราวุธประเภทเดียวกัน,ทว่าเพลิงแห่งความมืดนั้นเป็นพลังงานที่เป็นพลังแห่งความตาย,แม้ว่าทั้งคู่จะแตกต่างกันเล็กน้อย,แต่ก็เป็นสายพันธ์เดียวกัน,มีพลังที่แข็งแกร่งเช่นเดียวกัน.

การพลังของทั้งสองที่เข้าปะทะกันแล้ว,ฉู่เทียนพอจะคาดเดาได้ว่า,ดาบเพลิงใต้พิภพและกระบี่อเวจีมีพลังแตกต่างกันไม่มากนัก,หากว่าอีกฝ่ายสามารถกลืนกินอีกฝ่ายได้ละก็,พลังของมันจะเพิ่มพูนขึ้นเป็นอย่างมาก.

"ยอดเยี่ยม!"

"ท่านหญิงมอบของขวัญชิ้นนี้มาให้ข้าได้ถูกเวลาจริงๆ!"

ฉู่เทียนที่แสดงท่าทางซาบซึ้งเป็นอย่างมาก,หลังจากที่กล่าวเสร็จไม่กี่คำ,เขาก็ไม่พูดพร่ำทำเพลงปิดตัวฝึกฝนในทันที.

วิชาบำเพ็ญของฉู่เทียนในเวลานี้ได้มาถึงคอขวดแล้ว,จำเป็นต้องใช้เวลาอีกนานถึงจะสามารถข้ามผ่านได้,ด้วยเพลงกระบี่กระบี่อเวจีนั้นได้มาถึงเขตแดนประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์แล้ว,ตอนนี้เป็นการยากลำบากมากๆที่จะหาวัตถุดิบทรัพยากรที่จะนำมาใช้ในการฝึกฝน,ไม่คิดเลยว่าเขากับได้พบกับสิ่งของชิ้นนี้ที่จะช่วยเพิ่มวิชาบำเพ็ญของเขาขึ้นได้.

ฉู่เทียนที่ปิดตัวในถ้ำแห่งหนึ่งในหุบเขา.

กุมกระบี่อเวจี,พร้อมกับเริ่มฝึกฝน.

อาวุธทั้งสองต่างก็เป็นศาสตราวุธที่ทรงพลัง,ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นฝ่ายใหนที่ถูกกลืนกิน?

ฉู่เทียนคิดว่าจะต้องสำเร็จอย่างแน่นอนเขาได้ทำการกระตุ้นอาวุธทั้งสอง,ปล่อยให้มันปลดปล่อยพลังต่อสู้กันอย่างหนักหน่วงรุนแรง,พลังเปลวเพลิงสีขาวม่วงและสีดำม่วง,ทั้งสองต่างปลดปล่อยพลังต่อกรข่มกันและกัน,พลังทั้งคู่ที่รุนแรงต่อสู้สุดกำลัง,รุนแรงขึ้นและรุนแรงขึ้นอีกหลายสิบเท่า,คลื่นพลังปลดปล่อยออกมาฉีกกระชากเศษหินรอบๆให้แตกสลายกลายเป็นผุยผง,ถึงกับทำให้ผืนปฐพีสั่นสะเทือน

เป็นพลังที่รุนแรงนัก.

หากไม่เพราะเวลานี้เขามีพลังปลุกดวงจิตระดับ 9 แล้วล่ะก็,บางทีคงไม่สามารถควบคุมพวกมันเอาไว้ได้แน่นอน!

เปลวเพลิงที่รุนแรงสองสายกำลังต่อกรกันไม่หยุด,และยังขยายพลังออกมาเรื่อยๆอีกหลายเท่า,เปลวเพลิงกระบี่อเวจีนั้นดูเหมือนว่าตอนนี้กำลังค่อยๆได้เปรียบช้าๆ,หากว่าเป็นจิตวิญญาณเพลิงธรรมดาคงจะถูกดูดกลืนไปแล้ว,แต่นี่คือจิตวิญญาณเปลวเพลิงแห่งความมืดที่ไม่ธรรมดา,พลังและคุณภาพของทั้งคู่นั้นไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย,ใครจะชนะนั้นแทบไม่สามารถบอกได้เลย.

เปลวเพลิงอเวจีนั้นไม่ใช่เปลวเพลิงธรรมดา.แต่เป็นเพลิงอเวจีที่ได้จากการสกัดกลั่นจากราชันย์ภูติมานับพันปี,และยังมีการรวมพลังพิเศษของอสุรโลกันต์เข้ามาด้วย,ซึ่งก่อนหน้านี้มันได้กลืนกินเปลวเพลิงสีมรกตของอสุรกายเพลิงโลกันตร์เข้ามานั่นเอง,ดังนั้นจึงมีพลังของเพลิงอสุรกายอีกอย่างหนึ่ง,และจิตวิญญาณยังเติบโตจนสามารถสร้างร่างรูปมนุษย์ขึ้นได้,เป็นแก่นชีวิตที่มีภูมิปัญญาเป็นของตัวเอง,ย่อมเหนือกว่าเปลวเพลิงทมิฬ.

ท้ายที่สุด.

ดาบเพลิงใต้พิภพก็ไม่สามารถต้านได้,ในเวลานี้มันได้ถูกกระบี่อเวจีดูดกลืนไปทั้งหมดแล้ว,ท้ายที่สุดก็แตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆด้านหน้าของเขา,ดาบเพลิงใต้พิภพที่หักออกเป็นส่วนส่วนกระบี่อเวจีที่ดูดกลืนเปลวเพลิงสีม่วงดำพร้อมกับปลดปล่อยคลื่นพลังสีขาวม่วงออกมาไม่หยุดหย่อน.

หลังจากที่กระบี่อเวจีดูดกลืนดาบเพลิงใต้พิภพ,จิตวิญญาณกระบี่ก็เพิ่มขึ้นไม่หยุด!

พลังที่ทะยานเกินขีดจำกัด,ราวกับว่าจะไม่มีจุดสิ้นสุด,พวยพุ่งลุกโชนเต็มเปี่ยมด้วยพลัง!

คลืนนนน!

ขุนเขาขนาดใหญ่ถึงกับสั่น.

ทันใดนั้นประกายแสงวับวาวที่ไม่ธรรมดาก็พุ่งทยานขึ้นไปบนท้องฟ้า.

ฉู่เทียนรับรู้ได้ว่าจิตวิญญาณกระบี่โหยวหมิงในเวลานี้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะก้าวไปถึงเขตแดนภูติแท้แล้ว,นั่นก็หมายความว่ากระบี่เอวจีได้ถูกยกระดับขึ้นแล้ว,ตอนแรกนั้นมันเป็นศาสตราวิญญาณสื่อสารดวงจิตระดับ 2 ,ตอนนี้ได้กลายเป็นศาสตราวิญญาณสื่อสารดวงจิตระดับ 3 ไปแล้ว.

ศาสตราวุธสามารถเลื่อนระดับได้ด้วยรึ?

เหล่าช่างฝีมือต่างๆก็ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย.

แต่ถึงกระนั้นเดิมทีนั้นกระบี่อเวจีเองก็เป็นศาสตราวุธสื่อสารดวงจิตระดับ 3 มาก่อนตั้งแต่แรกแล้ว,ด้วยถูกผนึกเอาไว้ในสุสานศพทมิฬหมื่นปีมาเป็นเวลานาน,ดังนั้นจึงยังไม่ตื่นเต็มที,ในเวลานี้พลังของมันได้ฟื้นฟูโดยสมบูรณ์แล้ว.

และด้วยเมล็ดเพลิงอเวจีที่ได้จากราชันย์ภูติที่มีอายุนับพันปี,พร้อมกับกลืนกินอสุรกายเพลิงโลกันตร์และยังมีจิตวิญญาณแห่งความมืดจากดาบเพลิงใต้พิภพเข้ามาอีก,ในเวลานี้ศักยภาพของมันเหนือกว่าเมื่อก่อนมาก,บางทีอาจจะเป็นการวิวัฒนาการไปอีกระดับก็เป็นได้.

หลังจากที่กระบี่อเวจีดูกลืนจิตวิญญาณเพลิงแห่งความมืด,พลังส่วนเกินเองก็หลั่งไหลเข้ามาในร่างของฉู่เทียนทั้งหมด,ทำให้พลังของเขาเลือนระดับจากปลุกดวงจิตระดับ 9 ไปยังปลุกดวงจิตระดับ 9 ขั้นปลายแล้ว,และสิ่งสำคัญที่สุดวิชาบำเพ็ญกระบี่อเวจีเองก็ทะลวงผ่านประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์ไปยังเขตแดนเข้าสู่ขั้นสมบูรณ์แบบขั้นสุดไปแล้ว!


ทำให้เพลงกระบี่ลับของเขาได้สำเร็จเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว,วิชาลับกระบี่อเวจีก็ได้ก้าวไปถึงระดับสูงสุดแล้วนั่นเอง.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น