วันจันทร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 390 Meets troublesome

Miracle Throne Chapter 390 Meets troublesome

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 390 พบปัญหา


บทที่ 390 พบปัญหา



พลังจิตวิญญาณที่หนาวเย็นกลายเป็นสายลมที่ระเบิดออกมาพร้อมๆกัน.

เหมือนกับสับไปยังเต้าหู,เกิดเป็นรอยตัดขนาดใหญ่ขึ้นบนหุบเขาในทันที.


ต้นไม้ใบหญ้าศิลาขนาดใหญ่ต่างก็ถูกบดขยี้ด้วยปราณกระบี่ในทันที,เกิดเป็นฝุ่นคละคลุ้งปกปิดเต็มไปหมด,นี่คือปราณกระบี่เปลวเพลิงที่ระเบิดออกมา,ปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ทีเดียว,ไม่ใช่พลังความร้อนที่หลอมละลาย,แต่เศษดินเศษหินต้นไม้ที่อยู่ในรัศมีเกิดการเสื่อมสภาพไป,พร้อมกับกลายเป็นฝุ่นผงและถูกลมพัดปลิวออกไป.

ฉู่เทียนที่เห็นพลังดังกล่าวแล้วเผยสีหน้าประหลาดใจและดีใจอยู่ไม่น้อย.

จะต้องรู้ด้วยว่ากระบี่อเวจีของเขานั้น,ไม่ใช่แค่อุปกรณ์ทั่วไป,แต่ยังเป็นอาวุธที่มีจิตวิญญาณ,มีปราณกระบี่ที่รุนแรง,เป็นพลังที่ไม่เคยมีมาก่อน,เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเลยจริงๆ!

นี่คือผลของวิชาลับวิชาบำเพ็ญที่ก้าวไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นสุดอย่างงั้นรึ?

ปราณกระบี่ที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าเดิมหนึ่งเท่า,ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติจิตวิญญาณเปลวเพลิง,ยังผสานรวมกับเพลิงโลกันตร์อย่างไม่คาดคิด,ฉู่เทียนที่สัมผัสได้ถึงเพลิงโลกันตร์บางส่วนที่กำลังซึมผ่านเข้ามาภายในร่างกายของฉู่เทียนผ่านสานรวมเข้ากับภูติวิญญาณกระบี่ของเขา,ราวกับว่ากระบี่อเวจีในเวลานี้สามารถที่จะสื่อสารผสานรวมพลังเข้ากับภูติวิญญาณกระบี่ของเขาได้.

ดังนั้น,อาวุธก่อนหน้านี้ไม่สามารถเอามาเทียบได้เลย,แม้ว่าเขาจะยังไม่แสดงเพลิงอเวจีออกมา,พลังของกระบี่อเวจีในเวลานี้กลับแข็งแกร่งมากกว่าเดิมซะอีก!

ยอดเยี่ยมมาก!

นี่คือหนึ่งในเพลงกระบี่จากโบราณกาลหลังจากที่ฉู่เทียนได้ทำการปรับปรุงใหม่,ก็กลายเป็นเพลงกระบี่ที่สมบูรณ์แบบ,ลำพังในเวลานี้เขาได้ก้าวไปถึงปลุกดวงจิตระดับ 9 ขั้นปลายแล้ว,ไม่รู้เลยว่าหากใช้เพลิงกระบี่ลับออกไปพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นไปถึงระดับใหน,แทบจะอดใจไม่ไหวที่จะได้ทดสอบจริงๆ.

ฉู่เทียนที่เก็บกระบี่เข้าฝักก่อนที่จะออกมาจากหุบเขาดังกล่าว.

ในเมืองเล็กออเตอแมนในเวลานี้ท่านหญิงรวมทั้งเหล่าอาวุโสคนแคระต่างมารวมตัวกัน,เป็นการประชุมกันระหว่างอาวุโสเผ่าคนแคระ,และคนของหอการค้าปาฏิหาริย์,เผ่าเอลฟ์หลายคน,และมีฉู่เทียนที่เพิ่งกลับมา,เพราะว่าในเวลานี้มีเรื่องสำคัญที่ต้องตัดสินใจ.

"หลังจากที่พวกเราได้ทำการตรวจสอบแล้ว,เผ่าเอลฟ์ในเวลานี้ต่างก็มีข้อเสนอ,"อาวุโสคนแคระที่ได้ทำการประกาศ,"ตอนนี้พวกเราได้อนุญาตให้เผ่าเอลฟ์เข้ามาในเมืองเล็กอย่างเป็นทางการแล้ว!"
”!”

เหว่ยเหว่ยอันที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการเสนอในครั้งนี้นั่นเอง.

รักษาการเจ้าเมืองเมิ่งชิงอู๋ที่กล่าวออกมา"การที่เผ่าเอลฟ์ร่วมมืออย่างเป็นทางการในเมืองเล็กแห่งนี้,จากการประเมินพลังความสามารถของเผ่าเอลฟ์ทั้ง 1000 คนแล้ว,เผ่าเอลฟ์ก็จะมีสิทธิความเป็นเจ้าของ 15 เปอเซ็นอย่างถูกต้อง,การได้กองกำลังเผ่าเอลฟ์เข้าร่วมมือในครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องผสมกับกองกำลังอื่นแต่อย่างได้,ซึ่งกองกำลังดังกล่าวนั้นมีองค์หญิงเหว่ยเหว่ยอันเป็นผู้นำ,ซึ่งสามารถที่จะออกคำสั่งทั้งภายในภายนอกได้อยู่แล้ว."

เหล่าเอลฟ์เองรู้สึกพึงพอใจกับการแก้ปัญหาในครั้งนี้เป็นอย่างมาก.

ตอนนี้เมืองเล็กออเตอแมนนั้นได้สร้างระบบการป้องกันที่สมบูรณ์แบบ,กลายเป็นผู้มีอิทธิพลใหญ่เป็นเมืองเล็กในชายขอบป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้ไปแล้ว,แน่นอนไม่ใช่ว่าพวกเขาจะรับใครเข้ามาได้เลย,พวกเขาต้องได้รับความเห็นจากเหล่าอาวุโสคนแคระอีกทีก่อน,ซึ่งในการที่จะให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรนั้นจะต้องได้รับการตัดสินใจจากหุ้นส่วนใหญ่ทุกๆคน.

เพราะว่าหอการค้าปาฏิหาริย์นั้นมีหุ้นในเมืองเล็กแห่งนี้กว่า 50 เปอร์เซ็น,หากว่าได้รับความตกลงจากอาวุโสคนแคระแล้วล่ะก็,ผลลงความคิดเห็นเกือบทั้งหมด,ก็แทบจะอยู่ฝั่งพวกเขาอยู่แล้ว,แต่อย่างไรก็ตามกฎเกณฑ์ต่างๆเองก็ต้องเป็นไปอย่างเคร่งครัดเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้สูญเสียความสมดุลในเมืองเล็กแห่งนี้ด้วย.

ซึ่งแน่นอนอำนาจปกครองเหล่านักรบคุ้มกันเมืองนั้นเป็นของเจ้าเมือง,ด้วยการมีกองกำลังทั้งหมดเพียงคนเดียว,ทำให้ลดการก่อการจรจลได้,และทำให้ทุกคนได้รายรับจากเงินปันผลเต็มเม็ดเต็มหน่วย.

ตอนนี้ในเมืองเล็กแห่งนี้นั้นมีนักรบอสูรคลั่ง 6000 คน,และยังเป็นนักรบที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในเมืองเล็กแห่งนี้,ทำให้กองกำลังอื่นๆไม่กล้าที่จะกระทำการไร้เหตุผล,และเมื่อมีกองกำลังเอลฟ์เข้าร่วม,ก็มีการแบ่งปันสัดส่วนกลายเป็น 20 เปอร์เซ็นในทันที,หอการค้าปาฏิหาริย์ในเวลานี้เหลือหุ้นจำนวน 50-60 เปอร์เซ็น.

ซึ่งแน่นอนว่ากองกำลังเผ่าเอลฟ์นั้นทรงพลังแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,เกรงว่าอาจจะเหนือกว่านักรบอสุรคลั่งของหอการค้าปาฏิหาริย์อีกด้วย.

เผ่าเอลฟ์ที่นำสัตว์ขี่มาด้วย,ทำให้พวกเขามีพลังที่ล้ำเลิศ,ยูนิค่อนเป็นสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งมาก,ดังนั้นความแข็งแกร่งของเผ่าเอลฟ์ 1000 ตน,สามารถเทียบได้กับนักรบอสูรคลั่ง 2000 คน.

กองกำลังเผ่าเอลฟ์นั้นมีเหว่ยเหว่ยอันเป็นผู้นำ,ซึ่งแน่นอนว่าลึกลงไปนั้นมีหอการค้าปาฏิหาริย์ควบคุมอีกทีหนึ่ง,ซึ่งอาจจะกล่าวได้ว่าความแข็งแกร่งของหอการค้าปาฏิหาริย์ในเมืองเล็กแห่งนี้ทรงพลังเป็นอย่างมาก,ส่วนเหล่าพันธมิตรคนอื่นๆย่อมมีสัดส่วนลดลงมากเลยทีเดียว.

แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถที่จะเรียกร้องใดๆได้.

เพราะว่าเหตุผลหลักที่พวกเขาได้รับจากเมืองเล็กออเตอแมนนั้น,ทำให้พวกเขาได้ช่องทางในการค้าเพิ่มขึ้นมหาศาล,พวกเขาไม่จำเป็นต้องควบคุมเมืองเล็กเลยแม้แต่น้อย,และอีกอย่าง,เผ่าเอลฟ์นั้นเป็นกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่ในป่าแห่งความวุ่นวาย,ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขายากที่จะมีใครกล้าท้าทาย?

ด้วยการได้เอลฟ์เป็นพันธมิตร,ย่อมทำให้เมืองปลอดภัยขึ้น!

กฏใดๆหรืออำนาจบริหารนั้นหาได้สำคัญ,ขอเพียงแค่สามารถได้รับผลตอบแทนและผลประโยชน์มากมายในระยะยาว,ใครจะเป็นผู้นำนั้นหาได้มีใครใส่ใจ.

แต่ถึงกระนั้นแม้ว่าจะเป็นเช่นนั้น,ยิ่งได้รับผลกำไรมากมายขึ้นเท่าไหร่,ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกลายเป็นที่สนใจ,หลายเผ่าพันธุ์ขนาดใหญ่ที่ค่อยๆลงทุนเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ,ต้องไม่ลืมว่าเมืองเล็กออเตอแมนนั้นรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทุกอย่างรวมทั้งการฝึกฝนให้กับกองกำลังที่จัดส่งมา,ซึ่งทำให้กองกำลังของพวกเขาแข็งแกร่งขึ้นและยังประหยัดทรัพยากรตัวเองอีกด้วย.

การที่เผ่าเอลฟ์ร่วมมือกับเมืองเล็กแห่งนี้ยิ่งทำให้ที่แห่งนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น,ซึ่งเป็นหนึ่งในเรื่องสำคัญที่พวกเขาเดินทางมาทำการค้าในที่แห่งนี้.

เพราะว่าในป่าแห่งนี้มีชนเผ่าพื้นเมืองมากมายนับไม่ถ้วน,ซึ่งแน่นอนว่าเผ่าเอลฟ์นั้นเป็นเผ่าที่มีชื่อเสียงที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย,ก่อนหน้าหลากหลายเผ่าที่อ่อนแอต่างก็ยังลังเลอยุ่,ตอนนี้พวกเขาเชื่อแล้วว่าเมืองเล็กออเตอแมนในเวลานี้ปลอดภัยขึ้นแล้ว,ดังนั้นจึงมีหลากหลายเผ่ามากมายที่เดินทางมาตั้งถิ่นฐานและทำธุรกิจ.

ซึ่งแน่นอนว่าขวัญกำลังใจของพวกเขานับวันก็ยิ่งมั่นใจเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ?

เมิ่งชิงอู๋ที่ทำการเก็บข้อมูล,เพื่อใช้ในการพัฒนาเมืองเล็กแห่งนี้ให้พัฒนายิ่งขึ้น,ภายในระยะสามเดือนที่ผ่านมานี้ประชากรเพิ่มขึ้นสองถึงสามเท่าทีเดียว,บางทีภายในหนึ่งปีเมืองเล็กแห่งนี้อาจจะกลายเป็นศูนย์กลางการค้าขนาดใหญ่ที่มีระบบกองกำลังร่วมกันปกป้องที่พิเศษอย่างแน่นอน.

เมืองเล็กออเตอแมนแห่งนี้มีประสิทธิภาพการค้าที่สูงมาก,แน่นอนว่าหอการค้าปาฏิหาริย์ที่ขยายการลงทุนเพิ่มเรื่อยๆ,มีห้างสรรพสินค้าที่มีสินค้าต่างๆมากมาย,มีร้ายขายยาแห่งปาฏิหาริย์,มีร้านยันต์เวทย์ปาฏิหาริย์,และยังมีโรงภาพยนตร์และที่พัก,ซึ่งตอนนี้ได้ผุดขึ้นไปทุกที่ในเมืองเล็กแห่งนี้.

หอการค้านั้นเต็มไปด้วยสินค้าคุณภาพและราคาสมเหตุสมผลและการจัดส่งที่รวดเร็วทันใจ.

ตอนนี้สินค้าที่เหล่าชาวพื้นเมืองนำออกไปขายต่อนั้นมีชื่อเสียงไปทั่วป่า.

เมื่อมีชื่อเสียงแล้ว,ก็กลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว,มีผู้คนมากมายที่นำวัตถุดิบมาขายในเมืองเล็กแห่งนี้,และพวกเขาก็ต้องการสินค้าต่างๆของเมืองออเตอแมนเป็นอย่างมากอีกด้วย,หอการค้าปาฏิหาริย์ได้รับผลประโยชน์ทั้งสองต่อเลยก็ว่าได้.

ฉู่เทียน,เมิ่งหยิงหยิงและเหว่ยเหว่ยอัน,พวกเขาที่เป็นเหมือนกับกลุ่มคนกลุ่มแรก,เป็นกลุ่มคนที่ทำการก่อตั้งเมืองเล็กแห่งนี้,เมื่อเห็นมันคึกคักเจริญเช่นนี้ภายในใจอดที่จะภาคภูมิใจไม่ได้.

ป่าแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากมากเมื่อเห็นเมืองๆหนึ่งที่ดูคึกคักเจริญขนาดนี้,มีเหล่าคนมากมายที่เดินทางมา,ใต้พื้นดินเมืองเล็กที่กลายเป็นดินแดนที่รุ่งเรื่องอย่างคาดไม่ถึง,นอกจากนี้ยังเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น,อาจจะนับได้ว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์ในป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้เลย,เรื่องเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจไม่น้อย.

"ฉู่เทียน,ฉู่เทียน!"เมิ่งหยิงหยิงที่เร่งรีบวิ่งมาหา,"สวนด้านหลังของพวกเรายอดเยี่ยมมากเลย,เจ้ารีบไปดูเร็วเข้า!"

หยิงหยิงที่คว้ามือฉู่เทียนลากไปยังหุบเขาลับด้านหลัง.

หุบเขาขนาดเล็กด้านหลังเมืองเล็กนั้นมีสวนอยุ่ด้านหลัง.

ฉู่เทียนเลือกสถานที่แห่งนี้เพื่อสร้างสวนสมุนไพรที่สมบูรด้วยตัวเอง,ที่แห่งนี้ไม่มีถนนตัดผ่าน,มีเพียงแค่ทางลับเข้ามาเท่านั้น,สามารถที่จะเดินทางไปยังเมืองเล็กได้ในทันที,มีขนาดพื้นที่ไม่ใหญ่นัก,พื้นที่แห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่มากมาย,หากมองลงมาจากบนอากาศแล้วไม่สามารถที่จะมองเห็นหุบเขาแห่งนี้ได้เลย.

ฉู่เทียนที่จัดเตรียมสถานที่แห่งนี้เพื่อรวบรวมพลังจิตวิญญาณโดยใช้หุบเขาที่ล้อมรอบปิดกั้น,ปลูกสมุนไพรหายากในหุบเขาแห่งนี้,โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาทิพย์ต่างๆ,ซึ่งเป็นยาทิพย์ที่มีคุณภาพสูง,และสถานที่แห่งนี้ยังเป็นสถานที่ลับที่มีการปกป้องระดับสูง,ซึ่งเป็นสถานที่ชั่วคราวที่สร้างให้กับเหล่าพิกซี่นั่นเอง.

หุบเขาขนาดเล็กนี้เทียบกับเมืองเล็กออเตอแมนที่เสียงดังจอแจ,สถานที่แห่งนี้เป็นเหมือนกับอีกโลกใบใหม่ที่เงียบสงบร่มรื่น,มีเหล่าดอกไม้นับร้อยชนิดที่ปลูกไว้,ส่งกลิ่นหอมโชยไปทั่วอากาศ.

ฉู่เทียนที่ถูกเมิ่งหยิงหยิงลากตรงมายังทุ่งกว้างแห่งนี้,ทุกหนทุกแห่งที่เต็มไปด้วยดอกไม้ที่สดใหม่กำลังเบ่งบาน,เป็นเหมือนกับโลกในสรวงสวรรค์เลยก็ว่าได้.

"ลูลู,เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"

พิกซี่ที่กำลังดูแลเหล่าดอกไม้และสมุนไพรอยู่,ที่แห่งนี้นั้นมีการติดตั้งเครื่องเล่นหลายเครื่องเอาไว้และยังมีวิทยุ,เพื่อที่จะให้เหล่าพิกซี่ได้รับข่าวสารและชมภาพยนตร์ในที่แห่งนี้,และยังมีวิทยุที่มีรายกายดนตรีและละครต่างๆอีกด้วย.

ลูลูที่เห็นฉู่เทียนเดินทางมา,ทันใดนั้นพวกนางก็บินออกไปอย่างมีความสุข"พวกเรามีความสุขมาก,ขอบคุณที่หาบ้านใหม่ให้กับพวกเรา!"

นี่คือสถานที่จัดเตรียมให้กับเหล่าพิกซี่.

หอการค้าปาฏิหาริย์เองได้ซื้อสมุนไพรที่สดใหม่มากมายนับไม่ถ้วน,และใช้ในการทำยา,แน่นอนว่าบางครั้งก็ไม่สามารถที่จะแปรรูปได้ทัน,เพื่อรักษาความสดไว้ตอนนี้จึงได้ทำการปลูกสมุนไพรเหล่านี้,โดยที่มีเหล่าพิกซี่คอยดูแลและเป็นบ้านใหม่ของพวกนาง,ซึ่งแน่นอนว่าเหล่าสมุนไพรเหล่านี้โตวันโตคืนและรักษาความสดได้ตลอดเวลา.

ปรติแล้วพื้นที่แห่งนี้ไม่ค่อยเหมาะที่จะปลูกสมุนไพรนัก.

หากปลูกด้วยวิธีปรกติโดยมนุษย์ล่ะก็มีโอกาสต่ำมากที่จะเจริญเติบโต,แต่ด้วยความสามารถของพิกซี่แล้ว,สามารถรับรองได้ว่ายาทิพย์ทุกต้นนั้นจะเติบโต,ซึ่งเป็นการป้องกันทรัพยากรของหอการค้าปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง ไม่ให้เสียเปล่า.

เมิ่งหยิงหยิงที่เห็นดอกไม้นับร้อยชนิดบานไปทั่ว,ส่งกลิ่นหอมกระจายไปทั่วหุบเขาขนาดเล็กแห่งนี้.ทำให้นางรู้สึกตื่นเต้นอุทานออกมาทีเดียว"ช่างงดงามอะไรเช่นนี้!"

อะไรกันล่ะ?

นี่มันงานชิ้นเอกของข้าเชียวนะ!

ฉู่เทียนที่ได้โอกาสจงใจกล่าวออกมาอย่างถ่อมตัว"อะไรกัน?หากว่าเจ้าได้เดินทางไปยังสวนพิกซี่จริงๆล่ะก็,เจ้าจะรู้ว่ามันสวยยิ่งกว่านี้อีก!"

เมิ่งหยิงหยิงที่อุทานเสียงดัง"จริงๆเหรอ?"

"แน่นอนว่าสวนของพิกซี่นั้นมีสถานที่งดงามที่สุด,พวกเรายินดีต้อนรับหยิงหยิงหากมีโอกาสไปเยี่ยมสวนพวกเราได้เลย!"ลูลูกล่าวเชิญอย่างอบอุ่น,พร้อมกับทอดถอนใจ"พวกเรานั้นไม่เคยออกมาจากสวนของพิกซี่เลย,การเดินทางครั้งนี้มันสำคัญต่อเหล่าพิกซี่มาก,หากไม่มีป่า,ไม่มีสวนพืชพรรณ,พิกซี่ไม่มีทางอยู่รอดได้."

"ใช่แล้ว!"

"หากพวกเราออกจากป่าแล้วล่ะก็,พลังของพวกเราก็จะแห้งเหือด."

"พวกเราจะต้องปกป้องป่า,ฉู่เทียนพวกเราจะเริ่มสร้างเขตแดนจิตวิญญาณได้หรือยัง?"

หลังจากที่เหล่าพิกซี่เดินทางไกลเป็นครั้งแรก,ราวกับว่าพวกนางได้ตระหนักถึงเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมากเกี่ยวกับธรรมชาติซึ่งมีผลต่อการมีชีวิตของพวกนางทั้งเผ่า,ทำให้กระตือรือร้นต้องการที่จะสร้างเขตแดนจิตวิญญาณเป็นอย่างมาก.

เป็นเรื่องที่จะรอช้าไม่ได้!

"ไม่ต้องร้อนใจ,เกี่ยวกับเทคโนโลยีจิตวิญญาณที่จะสร้างขึ้นนั้น,พวกเราทำมันขึ้นจากไม่มีอะไรเลย,ข้าจะต้องสอนเทคโนโลยีนี้กับหยิงหยิงและท่านหญิงก่อน."ฉู่เทียนนั้นยังมีเวลาอีกมาก,ซึ่งจำต้องให้พิกซี่นั้นเพิ่มความแข็งแกร่งก่อน,ต้องไม่ลืมว่าพิกซี่นั้นจะอ่อนแอไปตามสภาพแวดล้อม,พวกนางยังไม่พร้อมในเวลานี้และพวกนางเองก็ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับวงเวทย์เลย,จำเป็นต้องศึกษาเรื่องดังกล่าวนี้จากสองสาวอีกที"เมื่อเวลาพร้อมแล้ว,ข้าจะให้หยิงหยิง,รับผิดชอบนำเหล่าพิกซี่สร้างห้องทดลองเขตแดนจิตวิญญาณ."

เมิ่งหยิงหยิงที่เดาะลิ้นครั้งหนึ่ง.

ซึ่งนางเองก็นับว่ามีความสามารถมากมายหลากหลายทีเดียว.

เพราะว่าด้วยนางมีภูติวิญญาณกระจกเงาที่สามารถคัดลอกความสามารถได้หลากหลาย,สามารถช่วยเหว่ยเหว่ยอันในห้องทดลองมิติและยังสามารถที่จะช่วยเหล่าพิกซี่เกี่ยวกับห้องทดลองเขตแดนจิตวิญญาณอีกด้วย.

ส่วนเมิ่งชิงอู๋นั้นนางมีความสามารถเรียนรู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุด,ซึ่งภูติวิญญาณของนางนั้นไม่ได้มีคุณสมบัติอื่น,ไม่มีทักษะการต่อสู้,ไม่มีความสามารถช่วยเหลือได้,แต่มีความสามารถสนับสนุนความรู้ทางทฤษฏีได้อย่างมีประสิทธิภาพ,ซึ่งแน่นอนว่านางย่อมมีความรู้ที่ลึกซึ้งกว่าน้องสาวนางมาก.

เมิ่งหยิงหยิงที่ได้แต่คิดในใจ.

ตอนนี้นางมีความรู้ได้ครึ่งหนึ่งของฉู่เทียนแล้วรึยังนะ?

ต้องไม่ลืมว่าฉู่เทียนนั้นมีความรู้มากมายเหลือเกิน,เมิ่งหยิงหยิงเองก็รับมาไม่น้อยเลย!

ไม่เพียงแต่เมิ่งหยิงหยิงที่มีความสามารถที่พิเศษและความสามารถหลากหลาย,เมิ่งหยิงหยิงยังเป็นคนที่ฉู่เทียนไว้ใจที่สุด,เมิ่งหยิงหยิงจะมีความสุขทุกครั้ง,ที่สามารถช่วยเหลืองานของฉู่เทียนสำเร็จได้ในแต่ละอย่าง,มันราวกับทำให้นางตระหนักได้ว่านางมีคุณค่าสำหรับเขา.

งานต่อไปของนางก็คือการสร้างห้องทดลองเขตแดนจิตวิญญาณ.

เมิ่งหยิงหยิงที่กำลังชื่นชมความงามของหุบเขาแห่งนี้,ทันใดนั้นก็ได้ยินเครื่องสื่อสารดังขึ้นในอกเสื้อของฉู่เทียน.

เกิดสิ่งใดขึ้นกัน!

คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้ารบกวนบิดาในเวลานี้.

ฉู่เทียนที่ห่อเหี่ยวเล็กน้อยก่อนที่จะนำเครื่องสื่อสารขึ้นมาพูดสาย.

เป็นเสียงของหนานกงหยุนที่ดังออกมาจากด้านใน"เจ้านาย,ไม่ได้การแล้ว,มีคนลอบทำร้ายพวกเรา,กองลาดตะเวนสองกองถูกเข้าโจมตี,ตอนนี้พวกเราได้รับบาดเจ็บหนัก,ท่านช่วยมาดูหน่อย."

ใบหน้าของฉู่เทียนถึงกับเปลี่ยนเป็นถมึงทึงเมื่อได้ยินเรื่องดังกล่าว.

ในเวลานี้อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ,ดังนั้นเกรงว่าจะมีปัญหาอะไรตามมา.

ไม่ใช่เรื่องแปลกอันใด,เมืองเล็กออเตอแมนนั้นพัฒนารวดเร็วเป็นอย่างมาก,เป็นไปไม่ได้ที่จะราบรื่นไปได้ตลอด,ต้องไม่ลืมว่าที่นี่คือป่าแห่งความว่นุวาย,ทว่าไม่คิดว่าปัญหาจะมาเร็วถึงขนาดนี้!

"พวกเราไปดูกัน!"


 เมิ่งหยิงหยิงที่รู้สึกเสียดาย,ที่กว่าจะหาเวลาได้อย่างยากลำบากที่จะได้อยู่กับฉู่เทียน,ท้ายที่สุดยังไม่ได้คุยกันด้วยซ้ำ.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น