วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 362 Chaotic forest

Miracle Throne Chapter 362 Chaotic forest

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 362 ป่าแห่งความวุ่นวาย


บทที่ 362 ป่าแห่งความวุ่นวาย




ป่าแห่งความวุ่นวายนั้นไม่ได้มีฤดูกาลครบทั้งสี่ มีเพียงแค่ฤดูฝนและฤดูร้อนเท่านั้น.

ตอนนี้ป่าแห่งความวุ่นวายนั้นเป็นฤดูฝน,ความชื่นที่กระจายไปทั่วอากาศ,สายฝนที่ปกคลุมไปทั่วแนวเขาข้ามไปยังฝั่งตะวันออก,แทบจะปกคลุมไปทั่วป่าแห่งความวุ่นวาย,พื้นดินอุดมสมบูรณ์ไปทุกที,แทบจะไม่มีพื้นที่แห้งแล้งเลย,ทำให้พืชพันธ์สามารถเติบโตได้ง่าย,มีพืชมากมายหลากหลายที่เติบโตขึ้นอย่างหนาแน่น,อสุรวิญญาณ,เอลฟ์,ซีเหรินโม่ (Ogre) ตราบเท่าที่ปลูกพืชลงบนพื้นดิน,ไม่จำเป็นต้องดูแลใดๆ,เพียงแค่ปีเดียวก็สามารถเก็บเกี่ยวและออกผลได้ทันที.


ในป่าแห่งนี้ไม่มีเขตแดนอาณาจักรใดๆ,ไม่มีกฏ,ไม่มีใครควบคุม,ประชากรในนี้ไม่จำเป็นต้องจ่ายภาษี,ไม่จำเป็นก้มหัวจงรักภัคดีต่อใครตราบเท่าที่แข็งแกร่งก็สามารถที่จะอยู่ในป่าแห่งนี้ได้และเก็บเกี่ยวทรัพยากรต่างๆได้อย่างไม่หมดสิ้น.

นี่คือสวรรค์สำหรับผู้แข็งแกร่ง!

และเป็นนรกสำหรับผู้อ่อนแอ!

เขตแดนรอบๆในเวลานี้อุดมสมบูรณ์มีพืชที่แปลกประหลาดมากมายหลายพันธ์ที่แตกต่างกันนับตั้งแต่สมัยโบราณกาล,มีอสูรวิเศษที่มีคงอยู่จนมาถึงปัจจุบัน,มีเผ่ามังกรโบราณ,เผ่าเอลฟ์ที่สูงส่ง,ทุกเผ่าต่างก็มาอยู่รวมกันในป่าแห่งความวุ่นวายแห่งนี้เป็นดินแดนบ้านเกิด.

แม้ว่าทรัพยากรที่มีมากกว่าประชากรมากกว่า 100 เท่าก็ตามที,ทว่าสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ยังไม่สามารถหลีกเลี่ยงการต่อสู้กันได้,การต่อสู้กันระหว่างเผ่า,การต่อสู้ระหว่างเผ่าต่างๆกับสัตว์อสูร,และยังมีการต่อสู้กันระหว่างสัตว์ร้ายและสัตว์ร้าย,เป็นภาพที่เกิดขึ้นเป็นประจำในป่าแห่งนี้.

ความต้องการของแต่ละคนนั้นไม่มีที่สิ้นสุด.

ยกตัวอย่างราชามังกร,เขาที่เป็นมังกรยักษ์ที่มีอายุหลายพันปีแล้ว,ครอบครองนครมังกรที่ยิ่งใหญ่มีทรัพยากรมากมายนับไม่ถ้วน,อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่พอใจ,ในทุกๆปีเขาจะต้องปล้นทรัพยากรจากเมืองอื่นๆอีกมากมาย.

เผ่ายักษาอาศัยอยู่ในเทือกเขาใหญ่,อยู่ลึกเข้าไปในหุบเขาหลายร้อยลี้,สร้างพระราชวังอันใหญ่โต,ซ้ำยังมีพื้นที่ยึดครองในพื้นที่อื่นๆเป็นจำนวนมากในทวีปแห่งนี้.

สภาเอลฟ์ของราชันย์แห่งเอลฟ์,เอลฟ์นั้นมีเมืองในปกครองหลายสิบเมือง,ครอบครองป่าและพืชพันธ์หลายอย่างและจับมือกันระหว่างกลุ่มอิทธิพลเอลฟ์เหลายเผ่า,มีความรู้ที่มากมายนับไม่ถ้วนจากโบราณกาล.

ราชินีเผ่าแห่งท้องทะเลผู้งดงาม,สร้างเมืองอยู่ในทะเล,ยืดยาวปกคลุมไปยังชายฝั่งทิศตะวันออกลากยาวไปจนถึงพื้นที่ส่วนกลางของป่าแห่งความวุ่นวาย,นางที่ยึดครองท้องทะเลและชายฝั่งรอบๆเอาไว้ในมือ....

มีเผ่าอื่นๆมากมายนับไม่ถ้วน,ความแข็งแกร่งของพวกเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าอาณาจักรภายนอกระดับจวั้นกว๋อระดับต้นๆเลย,ยังมีผู้บุกเบิกอีกหลายกลุ่มที่ต้องการเข้ามาในป่าแห่งความวุ่นวาย,ก่อให้เกิดการต่อสู้ไม่หยุดหย่อน,ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใหนต่างก็ต่อสู้เพื่อแย่งชิง,ทำให้ป่าแห่งความวุ่นวาย,สับสนอลหม่านเป็นอย่างยิ่ง.

ผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งและโดดเด่นมักท้าทายผู้อ่อนแอ,ผู้อ่อนแอกว่ามักจะซ่อนอยู่ในเงามืด,ยิ่งอ่อนแอเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องซ่อนตัวให้มิดชิดเท่านั้น,รักษาชีวิตตัวเองในเงามืดของป่า,ไม่มีใครรู้ว่าภายในป่าแห่งนี้มีคนมากมายเท่าไหร่มีเผ่าอะไรบ้าง,ที่จริงคนที่ซ่อนตัวอยู่นั้นไม่มีใครรู้แน่ชัดเช่นกัน ว่าพวกเขามีความแข็งแกร่งหรืออ่อนแอขนาดใหน.
............

ป่าแห่งความวุ่นวายนั้น,ดินแดนรอบๆนั้น,ไม่ได้มีฝนที่รุนแรงนัก,ทว่ากลับเป็นเขตแดนที่ค่อนข้างอบอุ่นแต่ชื่น,เป็นเขตแดนเริ่มต้น,ของป่าที่มีต้นไม้ใหญ่และเถาวัลย์ป่ามากมาย,มีเห็ดชนิดต่างๆและตะไคร่น้ำจับตัวกันหนาแน่น,มีอสรพิษมากมายที่ชอนไชอยู่ในเหล่าพืชพันธ์ต่างๆเป็นจำนวนมาก,ทุกๆมุมนั้นเต็มไปด้วยอันตราย.

กระจายไปอยู่รอบๆป่า.

และยังมีพื้นที่เปิดโล่งอยู่หลายแห่ง.

ดูเหมือนว่ารอบๆนี้จะเป็นถิ่นที่อยู่ของอสูรยัง,มีตะกวดขนาดใหญ่อยู่ที่นี่หลายตัว,มันปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าขนลุกออกมารอบๆ,ร่างกายของพวกมันที่มีเกล็ดสีเขียวมรกต,ตะกวดตนหนึ่งที่อยู่ตรงกลางพร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าเกรงขามที่สุดออกมา,ทำให้สัตว์อสูรอื่นๆไม่กล้าเข้าใกล้.

คลืน คลืน!

เสียงที่ดังส่งผ่านไปทั่วทั้งป่า.

ตะกวดยักษ์ที่ยืนเด่น,ส่งเสียงคำรามไปทั่วทั้งป่า,เสี่ยงที่สั่นสะเทือนไปรอบๆ,ก่อนที่จะมีปราณกระบี่ที่สับลงมายังตะกวดยักษ์ทะลวงไปยังเกล็ดของมันทำให้เกิดความเสียหายหลายแห่งเช่นกัน.

"โฮก!!!"

ตะกวดโจมตีกลับไปอย่างบ้าคลั่ง,ปากที่ใหญ่โตของมันอ้าขึ้นงับไปยังประกายแสง,แต่ก็ไม่พบกับสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย,ต้นไม้รอบๆถูกทำลายพังเป็นชิ้นส่วนถอนรากถอนโคลนด้วยพลังกระแทกของมัน,เสียงระเบิดที่ดังขึ้นกลางอากาศ,แต่ละการโจมตีนั้นสร้างความเสียหายกับตะกวดยักษ์เป็นอย่างมาก.

คนธรรมดาห้าคนสวมชุดคลุมปกปิดตัวตนปรากฏขึ้นที่สนามการต่อสู้.

แม้ว่าคนทั้งห้านั้นจะเป็นเพียงแค่มนุษย์ธรรมดา,ทว่าตะกวดตนนี้รู้สึกถึงกลิ่นอายที่อันตรายถึงขีดสุด,พวกมันรวมตัวกันโจมตีไปยังคนเหล่านั้นทันที,ใครจะรู้ล่ะในเวลานั้น,คนผู้หนึ่งก็โบกมือขึ้นปรากฏเป็นคลื่นมิติที่แยกขึ้นไปบนอากาศ,พ่นอะไรบางอย่างออกไปยังเหล่าตะกวดเหล่านั้น,ก่อนที่มันจะกระแทกไปยังร่างของพวกมัน.

คลืนๆๆ!

เกล็ดของตะกวดยักษ์หลายตัวระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ,พลังมากมายมหาศาลกระจายตัวไปทั่ว.

ราชันย์ตะกวดที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,ก่อนที่จะก้าวออกมาพร้อมกับพุ่งไปหาคนทั้งสามก่อนหน้านี้ในทันที.

ในเวลาเดียวกันจิ้งจอกน้อยที่กระโดดออกมา,ร่างกายตัวเล็กจิ๋วของมันก็เปลี่ยนแปลงกลายเป็นอสูรจิ้งจอกดุร้ายขนาดใหญ่,เมื่อมันจ้องมองไปยังด้านหน้า,ราชาตะกวดที่เปลี่ยนเป็นงงงวยดวงตาเหม่อลอย,หลังจากนั้นก็หันหลังกลับอย่างไม่คาดคิด,พร้อมกับเข้าโจมตีตะกวดตนอื่นๆอย่างดุร้าย.

คนผู้หนึ่งก็กระโดดขึ้น.

พลังความเย็นที่แผ่ออกไปแช่เข็งตะกวดยักษ์ตนหนึ่งทันที.

อีกคนหนึ่งที่เปลี่ยนปราณพลังกลายเป็นกระบี่ยักษ์,พร้อมกับสับลงไปบนรูปปั้นน้ำแข็งดังกล่าวในทันที.

การต่อสู้นี้เป็นไปด้วยความระมัดระวัง,ตะกวดยักษ์สิบตนนั้นไม่ได้อ่อนแอแต่อย่างใด,เป็นสัตว์อสูรระดับ 2 ,หลายตัวนั้นมีพลังปลุกดวงจิตระดับ 8 ,ส่วนฝั่งมนุษย์นั้นคนที่มีพลังต่ำสุดมีพลังปลุกดวงจิตระดับ 7 และสูงสุดคือเอลฟ์ที่มีพลังเขตแดนภูติแท้.

ใช่แล้ว.

นักเดินทางทั้งห้านี้ไม่ใช่ใครอื่น,คือกลุ่มของฉู่เทียนนั่นเอง!

เมิ่งหยิงหยิงที่ส่งเสียงหวีดดังขึ้นหนึ่งที,ป่ารอบๆก็สั่นไปในทันที,ก่อนที่จะปรากฏเงาของกองกำลังกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมา,เมื่อทุกคนในเวลานี้เห็นศพของตะกวดแล้ว,ต่างก็ส่งเสียงชื่นชมและดีใจ.

หัวหน้าหมู่บ้านได้มอบยาศักดิ์สิทธิ์สิบขวดให้กับฉู่เทียน.

เพื่อเป็นการตอบแทนกลุ่มคนของฉู่เทียน.

แก่นวารีแห่งชีวิตภายในหมู่บ้านของพวกเขา,ได้ถูกเหล่าตะกวดเหล่านี้ยึดครองไป,เหล่าคนในหมู่บ้านได้เข้าโจมตีพวกมันหลายครั้ง,ทำให้พวกเขามีผู้บาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนไม่น้อย.

วันนี้ได้บังเอิญพบเข้ากับนักเดินทางทั้งห้าจากภายนอกที่ยินดีช่วย,ดังนั้นจึงได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นทั้งหมด.

คิดไม่ถึงเลยจริงๆ!

เพียงแค่กำจัดเหล่าตะกวดยักษ์เหล่านี้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้ยาทิพย์ที่ล้ำค่าเป็นจำนวนมาก,ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงหมู่บ้านเล็กๆตามชายแดนของป่าแห่งความวุ่นวายกับมีทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ขนาดนี้,แตกต่างกับอาณาจักรหนานเซี่ยอย่างเทียบกันไม่ได้เลยจริงๆ!

ในคืนนั้น,อสูรวิญญาณได้ก่อกองไฟขึ้น,พร้อมกับทำการย่างเนื้อของตะกวด,เนื้อที่ถูกหั่นออกมาแล้วถูกย่างวางบนเหล็กร้อน,ไขมันที่มีกลิ่นหอมหยดลงมาสู่กองไฟเสียงดังซีๆ.

เหล่าคนในเผ่ากระต่ายต่างล้อมรอบกองไฟพร้อมกับร่ายร่ำไปมา.

บนใบหน้าของพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความยินดี.

เหล่าผู้เยาว์เผ่ากระต่ายเป็นสาวน้อยคนหนึ่ง,ที่นำเนื้อของตะกวดที่สุกดี,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความขวยเขินส่งมันมาให้กับฉู่เทียน,ทุกคนต่างก็เข้าใจได้ในความหมาย,หากว่าต้องการล่ะก็พวกเขาสามารถที่จะบริการพิเศษให้เลย,ในป่าแห่งความวุ่นวายนั้นไม่มีคำว่าศีลธรรมอันดีงาม,โดยเฉพาะเหล่าอสูรวิญญาณที่มักทำตามความปรารถนาของตนเอง.

ฉู่เทียนที่รับเนื้อย่างที่น่าอร่อยมาพร้อมกับจ้องมองยังสาวน้อยเผ่ากระต่าย.

ดูจากท่าทางแล้ว,เผ่ากระต่ายดูเหมือนจะคล้ายกับมนุษย์อยู่เหมือนกัน,พวกเขาเหล่านี้ไม่ได้มีขนที่ฟูฟ่องไปทั่วร่างเหมือนกับอสูรวิญญาณปรกติ,ความจริงอสูรวิญญาณที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก,ทว่าพวกเขาจะมีหางงอกออกมาเท่านั้น,ส่วนเผ่ากระต่ายนั้นจะมีหูที่ยาวขึ้นมาเหมือนกระต่าย...เผ่ากระต่ายนั้นนับว่าเป็นเผ่าที่มีหญิงสาวหน้าตางดงามอยู่ไม่น้อยเลย.

เหล่ากระต่ายสาวเหล่านี้ดูเหมือนว่าหัวหน้าหมู่บ้านจะคัดมาเป็นพิเศษเพื่อเอาอกเอาใจพวกเขาอย่างเห็นได้ชัด.

ฉู่เทียนที่ได้โอกาสกินดื่มสุรากับเหล่าหญิงสาวเผ่ากระต่ายพร้อมกับสอบถามข้อมูลต่างๆให้ได้มากที่สุด.

เมิ่งหยิงหยิงที่ทำการเตรียมเนื้อใหม่เพื่อทำการปรุงด้วยพลังเวทย์.

"เนื้อนี้มีรสชาดดีขึ้น!"

"ใช่ใหม? ข้าคิดว่ามันค่อนข้างเหนียวไปหน่อยนะ!"

หลายๆคนต่างกินด้วยความเอร็ดอร่อย,โดยเฉพาะจิ้งจอกน้อยที่มันกินเนื้อย่างไปหลายสิบกิโลแล้ว,พร้อมเข้าไปล้อมวงกองไฟ,เนื้อย่างเป็นอาหารที่อร่อยสำหรับมันมาก,นับว่าเป็นเนื้อที่พิเศษเป็นอย่างมาก,มีไวน์ผลไม้ที่มีรสเป็นเอกลักษณ์,เผ่าของพวกเขาเหล่านี้อาศัยอยู่ในดินแดนแห่งนี้มาเป็นเวลานาน,ไม่ได้พบกับเผ่ามนุษย์ที่เดินทางมาที่แห่งนี้มากนัก.

ในเวลานี้กลับมีคนทั้งห้าที่เดินทางเข้ามา.

เฉินปิงยวีและตงฟางเห่าเหรียนพร้อมกับเหว่ยเหว่ยอัน,คนทั้งสามนั้นเป็นทั้งผู้คุ้มกันและผู้นำทาง,ส่วนเมิ่งหยิงหยิงที่ดูจะไร้เดียงสาราวกับว่ามาท่องเที่ยว.

ฉู่เทียนในเวลานี้เป็นผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 8 ,ส่วนเมิ่งหยิงหยิงเองก็เพิ่งจะทะลวงผ่านไปยังระดับ 7 ไม่นานมานี้เอง,ตามหลังหนานกงหยุนไม่นาน,ทว่าดูเหมือนจะเร็วกว่าเมิ่งชิงอู๋และพรรคพวกคนอื่นๆด้วย,เพราะว่าได้เหว่ยเหว่ยอันแนะนำโดยเฉพาะ,ฉู่เทียนที่คอยกระตุ้นนาง,ทำให้นางพยายามฝึกฝนอย่างสุดความสามารถ!

ไม่กี่วันหลังจากนั้น.

ทุกคนก็ออกเดินทาง.

ป่าแห่งความวุ่นวายนั้นมีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก,อาจจะคำนวณคราวๆแล้วมีสัดส่วนมากกว่าอาณาจักรหนานเซี่ยหลายสิบเท่า,ดินแดนแต่ละแห่ง,แม้ว่าจะจะอยู่ภูมิประเทศเดียวกันก็ตามที,ที่จริงแล้วก็ไม่ได้มีผืนป่าปกคลุมไปทั้งหมด,ยังมีบางแห่งที่เป็นทะเลทราย,ชายหาด,บึงและพื้นที่อื่นๆอีกหลายแบบ,นอกจากนี้ความหนาแน่นของประชากรก็ไม่สามารถเทียบได้กับอาณาจักรหนานเซี่ยได้,อย่างไรก็ตามพื้นที่แถบนี้มีสัตว์อสูรที่มากมายกว่าอาณาจักรหนานเซี่ยหลายเท่า.

เพราะว่าป่าแห่งความวุ่นวายมีขนาดใหญ่มากๆ.

เหว่ยเหว่ยจึงไม่สามารถบอกสถานการณ์ในป่าแห่งความวุ่นวายได้อย่างชัดแจ้ง,เพียงแต่ได้แนะนำเกี่ยวกับกลุ่มอิทธิพลขนาดใหญ่,ส่วนกลุ่มอิทธิพลขนาดเล็กและกลุ่มอิทธิพลที่ซ่อนตัวอยู่นั้น,นางไม่สามารถบอกออกมาได้,ถึงแม้ว่าจะเป็นอาวุโสเอลฟ์เองก็ไม่สามารถบอกออกมาได้ชัดเจน.

เมิ่งหยิงหยิงที่กัดเนื้อย่าง"พวกเราจะเข้ามาอยู่ในป่าแห่งนี้ได้อย่างไร?"

"ก็ไม่ยาก,แน่นอนว่าจะต้องยึดเมืองให้ได้สักเมือง!"เหว่ยเหว่ยเองก็ไม่คิดว่ามันจะทำได้สำเร็จเช่นกัน,แต่ก็ไม่กล่าวสิ่งใดออกมา"ป่าแห่งความวุ่นวายนั้นมีเมืองนับพื้นนับหมื่น,แต่ละเมืองนั้นต่างก็มีทรัพยากรมากมาย,อยู่ในเขตพื้นที่ปลอดภัยที่สุด,ตราบเท่าที่เราสามารถคว้าเมืองมาได้สักเมือง,พวกเราก็จะกลายเป็นผู้ปกครองของเขตนั้นๆ,กลายเป็นหนึ่งในผู้มีอิทธิพลในการบริหารเมืองนั้นๆได้,เหมือนกับหมู่บ้านที่สามารถพัฒนาเมืองขึ้นมาได้!"

เมิ่งหยิงหยิงที่ดูเหมือนกับสนใจ"ถ้าอย่างงั้นรึ?พวกเราไม่ไปยึดมาสักเมืองไม่ดีกว่าเหรอ!"

ฉู่เทียนที่เกลือกกลิ้งตาไปมา"หากว่าสามารถยึดเมืองเหล่านั้นมาได้ง่ายๆขนาดนั้น,ป่าแห่งความวุ่นวายคงจะถูกรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันไปแล้ว."

"ใช่แล้วล่ะ!"เหว่ยเหว่ยอันพยักหน้า"ดินแดนป่าแห่งความวุ่นวายนั้นทรงพลังและน่าหวั่นเกรงกว่าอาณาจักรหนานเซี่ยเป็นอย่างมาก,ถึงแม้ว่าจะเป็นป่าทั่วๆไป,บางทียังมีองค์รักษ์ระดับดินแดนภูติแท้ปกป้องอยู่หลายคน,การจะยึดเมืองสักเมืองนั้น,เป็นเรื่องยากมากๆกว่าการทำลายอาณาจักรหนานเซี่ยทั้งหมดซะอีก."

เมิ่งหยิงหยิงที่แอบตกใจจนพูดไม่ออก.

แม้แต่เมืองระดับทั่วๆไปยังมีความแข็งแกร่งจนน่าอัศจรรย์ขนาดนั้นเลยรึ?บางทีด้วยความสามารถของหอการค้าปาฏิหาริย์ในเวลานี้คงไม่มีทางที่จะยึดมาได้สักเมือง,ถึงแม้ว่าจะยึดมาได้ก็ไม่สามารถป้องกันได้,ต้องไม่ลืมว่าเขตแดนในป่านี้เต็มไปด้วยความวุ่นวาย,มีเผ่าต่างๆหลายร้อยเผ่ามีกองกำลังที่แยกตัวออกมาเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง.

เหว่ยเหว่ยอันที่ถอนหายใจหนึ่งครั้ง"ช่างน่าสงสาร,ข้ายังไม่โต,ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะขอท่านพ่อให้ยกเมืองเอลฟ์ให้ข้าสักเมือง."

พรึดดดด!

หลายๆคนแทบสำลักทีเดียว.

ใบหน้าของฉู่เทียนที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจจ้องมองไปยังเหว่ยเหว่ยอัน,แม้ว่าเขาจะรู้ว่าสถานะของเหว่ยเหว่ยอันไม่ธรรมดา,ทว่าไม่คิดว่าจะสูงเช่นนี้,สิ่งที่นางได้กล่าวออกมานั้นบิดาของนางคือราชาเอลฟ์จริงๆรึ?


"ตอนนี้คงไม่มีหวังแล้ว,ข้าได้ออกมาจากเผ่าโดยพลการ ,ด้วยความผิดนี้สภาเอลฟ์คงไม่ยินยอมที่จะมอบเมืองให้กับข้าเป็นแน่."


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น