Immortality Chapter 76 Charging into the Formation
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 76 ทะลวงค่ายกล.
บทที่ 76 ทะลวงค่ายกล.
ด้วยสถานะของจงซานในเวลานี้,การจะหาจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์นั้นแทบจะเป็นแค่ความฝัน,ทว่าคงจะไม่ได้ลำบากนักหากว่าลอบตามคนเหล่านี่ไปอาจจะโชคดีคว้ามันมาก็เป็นได้.
อย่างไรก็ตามในเวลานี้ยังไม่มืดนักเขาจึงยังไม่สามารถส่งร่างเงาออกไปได้,ตอนนี้จึงทำได้แค่รอ.
ผ่านไปในที่สุดวันที่จะทะลวงค่ายกลก็มาถึง,ตราบเท่าที่ดวงจันทร์เต็มดวง,พวกเขาก็จะเริ่มปฏิบัติการณ์ในทันที.
คนแปดกลุ่มที่ยืนอยู่หน้าฝั่งทางเข้าของแปดประตู,เซียนเซิงสุ่ยชิงและพวกยืนอยู่กับกลุ่มของเทียนชา
จงซาน,เทียนหลิงเอ๋อ,หยิงหลาน,เป่ยชิงซือ,กงจูเฉียนโหยว,กู่หลินและคนของกงจู่เฉียนโหยวอีกสิบคนยืนอยู่บนภูเขาสูงแห่งหนึ่ง.
กลุ่มของพวกเขาที่ยืนอยู่ด้านหน้าของประตูบาดเจ็บ(伤),ทว่ากลุ่มอิทธิพลอื่นๆนั้น,ต่างก็ไม่สามารถมองเห็นถึงเป้าหมายของกงจูเฉียนโหยวได้.
กงจูเฉียนโหยวที่จับจ้องมองไปยังประตูบาดเจ็บ(伤),จากนั้นก็หันหน้าไปมองฝั่งจงซาน."การทะลวงค่ายกลนั้นอันตรายมาก,พวกเจ้าสามารถประจำอยู่ตำแหน่งตรงนี้ได้.
กงจู่เฉียนโหยวที่กล่าวแนะนำออกมา,นางที่รู้สึกประทับใจที่เห็นจงซานได้ใช้ชีวิตของเขาช่วยชีวิตเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้ในการเข้าโจมตีเห่าซานเมื่อครั้งที่แล้ว,นอกจากนี้นางยังพบว่าสาวน้อยชุดดำที่รู้เรื่องค่ายกลแปดประตูกุญแจทองนั้นเป็นหลานสาวของจงซาน,ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
จงซานรู้ดีด้วยสถานะของเขาในเวลานี้แตกต่างกับกงจูราวกับฟ้าและปฐพี,และการที่จะให้นางยื่นมือเข้ามาช่วยก็นับว่าเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างมาก.
"ขอบคุณกงจูที่เป็นห่วง,ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น,พวกเราก็ต้องการติดตามกงจูเข้าไปในค่ายกล,"จงซานที่กล่าวออกมาด้วยความเคารพ.
อีกด้านหนึ่ง,จงซานก็ต้องการที่จะเห็นค่ายกลเพื่อตัวเขาเอง,อีกด้าน,เขาไม่คิดว่าจะมีที่ใหนปลอดภัยหากว่าอยู่ด้านนอก,แต่หากอยู่ในกลุ่ม,อย่างน้อยก็มั่นใจว่าเป่ยชิงซือจะป้องป้องพวกเขาเมื่อพบกับอันตรายเกิดขึ้น.
"ชิ,เจ้าต้องการจิตวิญญาณค่ายกล,ด้วยความสามารถกระจิดริดแค่นี้อย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางดูแคลน.
จงซานไม่ได้รู้สึกโกรธเกรี้ยวแต่อย่างใด,ไม่เพียงแต่ไม่มีผลอะไรกับจงซาน,มันยังได้กลายเป็นข้อแก้ตัวในการเข้าไปข้างในได้ด้วย.
"ถูกแล้ว,กงจู่กล่าวเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับโชควาสนาของแต่ละคนที่จะสามารถค้นหาจิตวิญญาณค่ายกลได้."จงซานกล่าวตอบ.
กู่หลินแค่นเสียงฮึดฮัด.
กงจูเฉียนโหยวที่เปี่ยมไปด้วยเชาว์ปัญญา,นางย่อมเข้าใจถึงความหมายที่ซ่อนอยู่ของจงซานได้,นางเองก็ไม่เชื่อว่าจงซานต้องการจิตวิญญาณค่ายกล,ก่อนที่จะพยักหน้ายินยอม.
"อาต้า,เจ้าดูแลคนทั้งสามนี้ก็แล้วกัน."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวกับติดตามด้านหลัง.
"ครับ."ชายที่กอดกระบี่อยู่ตลอดตอบรับออกมา,เขาที่ติดตามกงจูเฉียนโหยวมาโดยตลอด.
"ขอบคุณ."จงซานที่กลาวออกมาด้วยเสียงจริงจัง.
"อืม."กงจูพยักหน้าตอบรับ,หลังจากนั้นนางก็ไม่ได้กล่าวอะไรตอนนี้กำลังเฝ้ามองประตูบาดเจ็บ(伤)ด้านหน้าพวกเขาอยู่.
ที่ไกลออกไปนั้น,ด้านหน้าประตูความตาย(死),เซียนเซิงซือที่เฝ้ามองด้านหน้าพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.
"เซียนเซิงซือ,ทำไมพวกเราจะต้องเลือกประตูความตาย(死)ด้วยล่ะ?"บางคนข้างเขาสอบถามออกมา.
"เกิดตามมาด้วยตาย,ตายแล้วก็เกิด,หากเหนือหัวต้องการจิตวิญญาณค่ายกล,แน่นอนว่าไม่สามารถเดินทางเข้าประตูความตาย(死)ได้,อย่างไรก็ตามหากว่าพวกเราต้องการจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ล่ะก็,ประตูความตาย(死) นี้มีโอกาสมากที่สุด,ด้วยพลังที่หนักหน่วงรุนแรงของค่ายกล,จะทำให้พวกเรารับรุ้ตำแหน่งของจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ได้."เซียนเซิงซือที่ใช้มือลูบเคลาของตัวเองเบาๆ.
"พวกเราไม่ได้มาหาจิตวิญญาณค่ายกลหรอกรึ?"ชายอีกคนหนึ่งที่สอบถามออกมา.
"เชื่อฟังเซียนเซิงซือ."ชายผู้หนึ่งที่กล่าวอย่างขึงขัง.
"ครับ,องค์เหนือหัว."ทุกคนที่ตอบรับอย่างแข็งขัน.
เซียนเซิงซือที่จ้องมองไปยังคนเหล่านั้น,แม้ว่าพลังฝึกตนของเขานั้นจะด้อยกว่า,ทว่าเรื่องความรู้เชาว์ปัญญาล่ะก็พวกเขาไม่มีทางเทียบตัวเขาได้แน่นอน.
ความมืดกำลังคืบคลานมา,ดวงตะวันที่ค่อยๆลับตา,ดวงจันทราที่กำลังเผยแสงโผล่ขึ้นมาบนทิศตะวันออก.
เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ทำการคำนวณเวลาด้วยการนับนิ้วไปมาที่ด้านหน้าประตูชีวิต(生),เขาที่นำกลุ่มของเทียนชาซึ่งตอนนี้,กำลังรอเขาอยู่.
เมื่อคำนวนไปได้ครึ่งหนึ่ง,ดวงตาของสุ่ยจิงก็หรี่เล็กลง,ก่อนที่จะหยุด,ชำเลืองมองไปยังค่ายกล,พร้อมกับสะพัด,พร้อมกำลังจะออกคำสั่ง.
"กวีกกก!"
ที่บนท้องฟ้า,เกิดเสียงที่กระจายออกไปรอบๆถูกส่งออกมาจากหมอกเมฆ.
เสียงดังกล่าวนี้สร้างความสุขสันต์ให้กับทุกคนที่ได้ยิน,จนทำให้ทุกคนชะงักไป.
แทบจะทุกคนจ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้า.
จงซานเองก็จ้องมองขึ้นไปบนฟ้า,เห็นวิหกยักษ์กำลังบินอยู่,วิหกตนนี้บินอยู่สูงเหนือขึ้นไปบนพายุค่ายกล,บินวนล้อมรอบค่ายกลแห่งนี้.
หงมรกต,นี่คือหงมรกตอย่างงั้นรึ?
แม้ว่าจงซานจะไม่เคยเห็นหงมรกตมาก่อน,แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะไม่รู้จัก,เขาที่เคยเห็นภาพของมันในโลกปุถุชน,วิหกลึกลับ?
จำพวกเดียวกับหงส์เพลิงอย่างงั้นรึ?
จงซานที่สัมผัสได้ว่า,ราวกับว่มีใครบางคนขี่อยู่บนวิหกยักษ์นั่น,ทว่ามันอยู่ไกลมาก,เขาไม่สามารถบอกได้อย่างชัดเจน.
หงส์มรกตที่บินโคจรอยู่รอบๆชั่วขณะจากนั้นมันก็เบนหัวมุ่งตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือทันที,ดูเหมือนว่ามันจะผ่านเข้ามาเพียงแค่สงสัยเท่านั้น,พริบตาเดียว,วิหกยักษ์ก็บินหายลับตาไป.
หงห์มรกตบินไปแล้ว,บินตรงไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือ.
"จงซาน,หงส์มรกตนั่นมันตรงไปยังทิศทางของสำนักไคหยาง,มันกำลังจะไปสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกมาด้วยท่าทางสงสัย.
"หืม,เจ้ารู้ด้วยรึว่าสำนักไคหยางอยู่ทิศใหน?"จงซานที่ค่อนข้างประหลาดใจ.
"แน่นอน,ข้าไม่เคยลืมหรือสับสนเรื่องทิศทาง."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวอย่างมั่นใจ.
กงจูเฉียนโหยวเองก็จ้องมองขึ้นไปบนท้องฟ้าด้วยท่าทางสงสัย,ทว่าหลังจากนั้นก็หันหน้ากลับมายังค่ายกลและกล่าวออกมาว่า"ถึงเวลาแล้ว,เตรียมตัวให้พร้อม."
"รับทราบ."ทุกคนตอบรับ.
"ดี."
อีกฝั่งหนึ่ง,เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ชี้พัดไปยังค่ายกลและทุกคนต่างก็ตามเขาไป,พุ่งตรงไปด้านหน้า,ไม่ว่าใครต่างก็ใช้ของวิเศษออกมาเพื่อทะลวงเข้าไปยังค่ายกล,นอกจากนี้ไม่ว่าทิศใหน,แม้แต่คนที่มีระดับเซียนเทียนต่างก็วิ่งตรงเข้าไปในค่ายกลด้วย.
ด้วยการเคลื่อนไหวของสุ่ยจิงส่งผลกับทุกทิศทุกทาง,ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ทิศใหนต่างก็ตรงเข้าไปยังประตูต่างๆทั้งหมด.
จงซานที่ยืนอยู่ด้านหลังกงจูเฉียนโหยว,รอคอยอย่างอดทน,มีคนมากมายที่มารวมตัวกันที่ประตูบาดเจ็บ(伤)
และพร้อมที่จะเคลื่อนที่เข้าไปข้างใน,ทว่าด้วยเหตุผลบางอย่าง,กงจูเฉียนโหยวราวกับว่ากำลังรอบางสิ่งอยู่.
ในเวลาเดียวกันขณะที่จงซานก้าว,ร่างแยกเงาที่แยกออกมาลงไปยังเนินเขาซ่อนตัวอยู่ในความมืด.
ร่างแยกเงาของจงซานนั้นได้เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วไปยังประตูความตาย(死),ตรงไปยังด้านหน้าของประตูที่เซียนเซิงซือเลือกนั่นเอง.
ความเร็วของร่างแยกเงานั้นรวดเร็วมาก,ราวกับลูกศรที่ออกจากคัน,เพียงพริบตาเดียวก็หายไป,ข้ามผ่านภูเขา,แทรกร่างเขาไปยังซอกหินและฝุ่นควัน,ลอดผ่านไปราวกับว่าไม่มีสิ่งใดขวางกั้นมันได้.
เซียนเซิงซือเองก็ไม่ได้เร่งรีบเหมือนกับคนอื่น,เขายังคงรอคอยเวลาอยู่เช่นกัน.
ร่างแยกเงานั้นได้เข้าไปใกล้กลุ่มคนของเซียนเซิงซือแล้ว,ซึ่งอยู่ไม่ไกลออกไป,ร่างแยกเงาที่รอคอยอย่างอดทน,เขารอคอยเข้าร่วมการค้นหาจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์ร่วมกับคนเหล่านี้.
มีคนจำนวนมากที่เข้าไปในค่ายกลแล้ว,พายุทรายที่กำลังโหมกระหน่ำรุนแรงยิ่งขึ้นกว่าเดิม,ดูเหมือนว่ามันจะพลุ้งพล่านราวกับว่ามันกำลังจะระเบิดออกมาเลยทีเดียว.
เพียงไม่นานเท่านั้น,คนเป็นจำนวนมากที่เข้าไปในค่ายกล,เหลือเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่กำลังรอคอยอย่างอดทน.
จงซานเองก็ยืนอยู่ด้านหลังกงจูเฉียนโหยวอย่างอดทนเช่นกัน.
"ได้เวลา,เข้าไปในค่ายกลแล้ว."กงจูเฉียนโหยวที่กล่าวออกมาในทันที.
"ครับ."
กงจูเฉียนโหยวที่ก้าวและเหยียบไปบนสายลม,อาต้าที่นำเมฆออกมาพร้อมกับพาจงซาน,หยิงหลานและเทียนหลิงเอ๋อไปด้วย.
มีอีกหลายคนที่เหยียบสายลมก้าวขึ้นไปด้วยเช่นกัน,พวกเขาเป็นเหมือนกับองค์รักษ์ของกงจูเฉียนโหยว,และมีอีกคนที่นำเมฆออกมาพากู่หลินไปด้วย,ส่วนคนอื่นๆที่เหลือต่างก็มีกระบี่เหิน,พวกเขาที่บินตรงพุ่งไปยังค่ายกล,ก่อนที่จะค่อยๆร่อนลงบนพื้นด้านหน้าก่อนที่จะเข้าไปในพายุ.
กงจูเฉียนโหยวนั้นไม่ได้เลือกที่จะบินเข้าไปข้างใน,นางที่นำกลุ่มคนของนางเดินเข้าไปข้างใน.
ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปข้างในนั้นก็สามารถสัมผัสได้ว่าฝุ่นทรายมากมายกำลังพัดพาเข้ามาหาพวกเขา,ทุกคนตอนนี้กำลังปล่อยกลิ่นอายและปราณแท้ออกมาเพื่อป้องกันรอบๆร่างกาย,ไม่ให้พายุทรายพัดกระหน่ำใส่ร่าง.
แม้ว่าหยิงหลานจะไม่มีปราณแท้ป้องกันตัวเอง,ทว่านางก็มีเสื้อคลุมสีดำที่สามารถปิดกั้นฝุ่นทรายพัดร่างนางได้.
จงซานที่กุมมือหยิงหลานและเทียนหลิงเอ๋อเอาไว้ก่อนที่จะเดินตามกงจูเฉียนโหยวไป.
ในเมื่อแทบจะมองไม่เห็นข้างหน้าได้ชัดเจน,ทัศนะวิสัยที่ค่อยข้างแย่,จงซานจึงไม่ต้องการให้พวกเขาทั้งสามคนแยกจากกัน,จึงได้กุมมือพวกนางเอาไว้แน่น.
เทียนหลิงเอ๋อเมื่อจงซานกุมมือเล็กๆของนาง,ถึงกับตัวสั่นเล็กน้อย,ใบหน้าที่ร้อนผ่าวเป็นสีแดงทว่าก็ไม่ได้ต่อต้านอะไร,ส่วนหยิงหลานที่อยู่ในชุดคลุมสีดำ,ไม่สามารถที่จะเห็นท่าทางของนางได้.
เป่ยชิงซือที่เห็นการกระทำของจงซาน,นางที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,ทว่าก็เดินตามจงซนไป,ราวกับว่ากำลังปกป้องความปลอดภัยให้กับเขา.
มีคนกลุ่มหนึ่งที่เดินตามหลังกงจู่เฉียนโหยวเข้าไปในค่ายกล.
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น