วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 70 A Mixed Bag of People in Front of Eight Gates Mountain

Immortality Chapter 70   A Mixed Bag of People in Front of Eight Gates Mountain

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 70 ผู้ฝึกตนมากมายที่ด้านหน้าภูเขาป้าเหมิน.


บทที่ 70 ผู้ฝึกตนมากมายที่ด้านหน้าภูเขาป้าเหมิน.


ผู้ฝึกตนมากมายที่ด้านหน้าภูเขาป้าเหมิน.

หนอนไหมที่สามารถวิวัฒนาการจนกลายเป็นมังกรได้อย่างงั้นรึ?

เมียวเซียนเหรินที่รอคอยให้มังกรเหล่านั้นฟักออกมาจากรังของมัน,จากนั้นเขาจึงจะนำมันมาทำให้มันเชื่อง,ส่วนไหมเก้าสีเองก็นับเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ดีเยี่ยมเป็นพิเศษในการสร้างของวิเศษ.


มังกรรึ?จงซานไม่ได้ต้องการมังกรทั้งสองตัวแม้แต่น้อย,เขาต้องการที่จะสังหารมังกรนี้เลยด้วยซ้ำ,เขาเพียงแค่ต้องการร่างของมันเท่านั้น,ส่วนในเวลานี้,ยังไม่มีเวลาในการสังหารมังกรเหล่านี้,อีกอย่างรังไหมเองก็ยังถักทอไม่เสร็จ.

"หยิงหลาน,ไปหาลังไม้มา,ข้าต้องการนำพวกมันไปกับพวกเราด้วย."จงซานกล่าว.

"อืม."หยิงหลานพยักหน้าก่อนจะวิ่งออกจากห้องลับไป.

จงซานที่เดินออกไปยังมุมและทำการเก็บมุกคงหลิงทั้งหมดมา.

"หลิงเอ๋อ,เจ้ารู้หรือไม่ว่ามุกคงหลิงนั้นมาจากใหนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่หันหน้าไปหาเทียนหลิงเอ๋อ.

เทียนหลิงเอ๋อที่กำลังจ้องมองหนอนไหมมังกรเก้าสีด้วยท่าทางอยากรู้เป็นอย่างมาก,ขณะที่จงซานถาม,นางก็หันหน้ากลับมาตอบว่า"ข้าเองก็ไม่มั่นใจ,ทว่าข้าได้ยินเตี่ยของข้าบอกว่ามุกคงหลิงนั้นยังมีอีกชื่อซึ่งเรียกว่า,เตาอบฟ้าดิน.มันเป็นของขวัญที่สวรรค์ได้ประทานให้ในทุกๆร้อยปี,เมื่อมันเกิดขึ้น,ผู้ฝึกตนทั้งหมดทั่วโลกสามารถยึดครองมาเป็นของตัวเอง."

"หืม?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาด้วยท่าทางประหลาดใจ,ของขวัญจากสวรรค์?เตาอบฟ้าดิน?

ไม่นานหลังจากนั้น,หยิงหลานที่หากล่องไม้ไม่ใหญ่นักกลับมา,ก่อนที่จะพวกเขาจะนำหนอนไหมมังกรเก้าสีใส่ลงไป,นอกจากนี้หยิงหลานยังได้นำผ้าปูเตียงกลับมาด้วย,เพื่อใช้ห่อกล่องเหล่านั้นพร้อมกับผูกตรึงเข้ากับร่างกาย.

แน่นอนเนื่องด้วยกำไลเก็บของนั้นไม่สามารถที่จะใส่สิ่งมีชีวิตลงไปได้,และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เมียวเซียนเหรินไม่ได้นำสิ่งของดังกล่าวนี้ใส่ลงไปในกำไลเก็บของตัวเอง.

ทั้งสองที่เป็นสมบัติฟ้าดินที่หายากมากๆ,ในสายตาของจงซานแล้ว,ไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าเมียวเซียนเหรินจะโชคดีได้สมบัตินี้มา,และทำให้จงซานได้รับไหมมังกรเก้าสีในที่สุด,ตอนนี้เมื่อได้รับมันมาแล้ว,ดูเหมือนว่าแผนการสร้างราชวงศ์ของเขาจะรวดเร็วยิ่งขึ้นกว่าเดิม.

หนอนไหมมังกรเก้าสีนั้นโดยปรกติก็ไม่ใช่สิ่งอันตราย,จงซานที่เคลื่อนย้ายมันลงในกล่อง,ก่อนที่จะนำศิลาวิญญาณสองก้อนใส่เข้าไปในกล่องด้วย,จากนั้นก็ปิดผนึกกล่องเอาไว้อย่างดี.


จงซานที่เอ่ยต่อหยิงหลาน."หยิงหลานเจ้ามันมันเอาไว้ที่ด้านหลัง,จากนั้นก็สวมชุดคลุมเอาไว้อีกชั้น."

หยิงหลานที่รู้สึกประหลาดใจกับคำสั่ง,ทว่าก็พยักหน้าตอบรับ,นางเร่งรีบนำกล่องไม้กล่องหนึ่งผูกรัดเอาไว้ด้านหลัง,ก่อนที่จะสวมเสื้อคลุมทับอีกชั้น,ซึ่งสามารถปกคลุมไปทั่วร่างของนาง,ในเวลานี้นางดูเหมือนคนหลังค่อมที่มีเสื้อคลุมปิดอยู่.

จงซานเผยยิ้ม,พึงพอใจกับรูปร่างใหม่ของหยิงหลาน,"เอาล่ะเก็บศิลาวิญญาณทั้งหมด,พวกเราจะได้จากไปซะที."

"อืม,"ทั้งสองสาวพยักหน้าและเร่งรีบเก็บศิลาวิญญาณทั้งหมดลงในถุง.

พวกเขาสามารเก็บเกี่ยวได้หลายหมื่นศิลาวิญญาณ,จงซานได้ตัดสินใจให้เทียนหลิงเอ๋อ 8,000 ,1,200 ให้หยิงหลานและตัวเขาเก็บเอาไว้เพียงไม่กี่ร้อยชิ้น.ในเมื่อจงซานได้รับหนอนไหมมังกรเก้าสีแล้ว,เขารู้สึกว่าเทียนหลิงเอ๋อควรได้รับศิลาวิญญาณจำนวนมากเอาไว้,นอกจากนี้นางกำลังจะทะลวงขั้นไปยังระดับแกนทองในเร็วๆนี้,จงซานจึงต้องการมอบมันให้กับนางมากกว่าปรกติ,สำหรับหยิงหลานและเขานั้น,ยังไม่จำเป็นต้องใช้พวกมันในเวลานี้แต่อย่างใด.

"จงซาน,ทำไมเจ้าเก็บพวกมันไปเล็กน้อยเองล่ะ?"เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่ต้องการเอาเปรียบจงซาน,นางรู้สึกไม่ค่อยดีนัก.

"เจ้ากำลังจะทะลวงผ่านขั้นไปยังระดับแกนทองในเร็วๆนี้,เก็บมันเอาไว้ใช้เถอะ,หากว่าพวกเราจำเป็นต้องใช้,ข้าจะขอเจ้าเอง."จงซานกล่าว.

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่มีความสุขเป็นอย่างมาก,ก่อนที่จะเก็บมันเข้าไปในกำไลเก็บของ.

หยิงหลานนั้นไม่เคยสงสัยในการตัดสินใจของจงซาน,สำหรับนางแล้ว,การตัดสินใจของกู่เหยี่ยเยี่ยนั้นล้วนแล้วแต่มีจุดประสงค์อยู่แล้ว.

"กู่เหยี่ยเยี่ย,พวกเรายังจะเดินทางไปยังทิศตะวันออกอยู่รึ? มันจะมีอันตรายเหมือนกับครั้งนี้อีกรึไม่?"หยิงหลานสอบถาม.

"ตามที่เมียวเซียนเหรินกล่าว,เดินทางเพียงแค่สองวันก็ถึงที่หมาย,ทว่าหากจะกลับไปยังต้องใช้เวลาถึงสามวัน,ถึงจะกลับไปก็ใช่ว่าจะไม่พบอันตรายอีกครั้ง? นอกจากนี้ที่ภูเขาป้าเหมินนั้นยังมีคนของสำนักไคหยาง,พวกเราจะปลอดภัยเมื่ออยู่ที่นั่น,นอกจากนี้,ยังมีกลุ่มอิทธิพลอื่นๆอีกมากมาย,ยิ่งคนมาก,พวกเราก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้น."จงซานกล่าว.

"อืม."หยิงหลานพยักหน้า.

พวกเขาที่ออกมาจากห้องลับ,จงซานที่ทำลายห้องลับดังกล่าวด้วยดาบยัก,สองสาวเวลานี้ได้สวมชุดคลุมสีดำคลุมไปทั่วร่างพร้อมกับตามจงซานเดินทางไปยังทิศตะวันออก.

หนึ่งวันหลังจากนั้น,ผลข้างเคียงของวิชากายาเทพอสูรของเขาก็หายไป,ร่างเงาของเขาเองก็ตามมาทันพร้อมกับนำศิลามิติอีกครึ่งหนึ่งเพิ่มขนาดกำไลเก็บของและร่างสองร่างก็รวมกันเป็นหนึ่ง.

หลังจากนั้นหนึ่งวัน,ท้ายที่สุดพวกเขาก็มาถึงภูเขาป้าเหมิน.ซึ่งตอนนี้มีร่องรอยของผู้ฝึกตนมากมายที่มาถึงก่อนแล้ว,ตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องแกะรอยอีกต่อไป,เพราะว่าสามารถเห็นผู้ฝึกตนมากมายที่ปรากฏขึ้นที่นี่แล้ว.

มีพายุทรายขนาดใหญ่ที่ปกคลุมไปทั่วบริเวณซึ่งมีรัศมี 100 เมตร,เป็นพายุที่มีขนาดใหญ่พวยพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,เป็นพายุหมุนที่ปกคลุมล้อมรอบจุดศูนย์กลางเอาไว้ไม่ขยับไปใหน.

พายุทรายนี้ทรงพลังราวกับกองทัพขนาดใหญ่,ปลดปล่อยพลังที่น่าเกรงขามต่อคนที่มองเห็นมัน.

พายุทรายในป่าอย่างงั้นรึ? นี่น่าจะเป็นอาคมที่เกิดจากค่ายกลมากกว่า.

"ภูเขาป้าเหมิน,ค่ายกลแปดประตูกุญแจทอง?"จงซานที่เพ่งพิศจับจ้องไปยังเหตุการณ์ด้วยหน้า.

พื้นที่รอบๆเหมือนว่าจะยังดูเงียบสงบอยู่,มีแค่เพียงพายุทรายที่พัดกระหน่ำเท่านั้น.

จงซานที่ยืนอยู่บนก้อนศิลาขนาดใหญ่ก่อนที่จ้องมองไปรอบๆเห็นผู้ฝึกตนมากมายที่อยู่รอบๆพื้นที่แห่งนี้,พวกเขาต่างก็ยึดครองตำแหน่งที่แตกต่างและเฝ้ามองพายุทรายที่ไม่น่าเชื่อนี้,บางคนลองเสี่ยงผ่าเข้าไป,แต่สุดท้ายก็ต้องถอยกลับคืนมา,บางครั้งมีหลากหลายคนที่มีโลหิตไหลออกมาจากปากจมูกและตา,ดูเหมือนว่าพวกเขาต่างก็ได้รับผลกระทบที่เกินกว่าจะคาดได้จากพายุทรายขนาดใหญ่นี้.

"กู่เหยี่ยเยี่ย,นี่คือค่ายกลแปดประตูกุญแจทองอย่างงั้นรึ?"หยิงหลานไม่อยากกับเชื่อกับภาพที่เห็นเลย.

มันดูแตกต่างจากที่นางเคยสร้างขึ้นมาแต่ก่อนมาก,บางทีค่ายกลที่นางเคยใช้ในสงครามในอดีตนั้นเป็นแค่รูปแบบอย่างง่ายๆเท่านั้น.

จงซานที่ไม่ได้ตอบแต่อย่างใด,เขายังคงจ้องมองพื้นที่รอบๆ,มีคนมากมายที่กำลังรอคอยเฝ้ามองรอบๆรอคอยเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น,แต่ก็มีบางกลุ่มที่กำลังต่อสู้กันอยู่,บางกลุ่มนั้นมีคนมากกว่าหนึ่งร้อยคนด้วยซ้ำ,ดูเหมือนว่าเขาจะต้องระมัดระวังให้มากยิ่งกว่าเดิมแล้ว.


"จงซาน,นั่นศิษย์พี่สาม,และศิษย์พี่ใหญ่ใช่หรือไม่?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้นพร้อมกับเรียกจงซาน.

จงซานที่รุ้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเมื่อได้ยินคำพูดดังกล่าว,พวกเขาจะปลอดภัยขึ้นมากกว่าเดิมหากว่าอยู่ในกลุ่มของสำนักไคหยาง.

เทียนหลิงเอ๋อเวลานี้,นางคงจะไม่ได้ตระหนักถึง,ขณะที่นางเห็นคนของสำนักตัวเอง,นางกลับเอ่ยถึงศิษย์พี่หญิงสามก่อน แทนที่ปกตินางจะต้องเอ่ยถึงศิษย์พี่ใหญ่ก่อนเสมอ,นางเองคงจะไม่สังเกตเห็นเหมือนกันว่านางได้เปลี่ยนไปแล้ว.

จงซานที่จับจ้องมองไปยังทิศทางที่เทียนหลิงเอ๋อกล่าว,ทุกคนที่กำลังจ้องมองไปยังคนสองคนบนยอดเขา,หนึ่งคนในนั้นคือเทียนชาในชุดคลุมสีดำ,ผ้าคลุมของเขากำลังสะบัดร่ายรำไปตามแรงลม,ใบหน้าของเขาที่ดูจริงจังเป็นอย่างมาก,มือซ้ายของเขากุมฝักกระบี่,ส่วนที่มือขวาของเขากุมกระบี่ในท่าทางแปลกๆ,ตำแหน่งแปลกๆ.

เพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภา,เขาที่เคยแสดงกระบวนท่าที่แปลกประหลาดในการสังหารขันทีเฒ่าก่อนหน้านี้.

ที่ด้านหน้าของเทียนชานั้นเป็นชายคนหนึ่งซึ่งมีผมสีดำและผ้าคลุมสีแดง,ชายคนดังกล่าวนั้นกุมกระบี่โลหิต,ซึ่งมีหยดโลหิตที่หลั่งออกมาจากกระบี่,สายตาที่เย็นชาจ้องมองไปยังเทียนชา,ราวกับว่าขาจะต้องฟันเทียนชาให้ได้ในกระบวนท่าถัดไป.

บุรุษทั้งสองต่างก็สบตากันและกันพร้อมกับรวบรวมพลัง,พวกเขาที่รอคอยการโจมตีในกระบวนท่าต่อไป.

ไม่ไกลออกไปนั้น,คนจากสำนักไคหยางที่รอคอยอย่างกระวนกระวาย,เป่ยชิงซือที่อยู่กับคนเจ็ดคน,มีสองคนที่หายไปจากสองสามวันก่อนหน้านี้.

ที่ด้านหลังของชายผมแดง,มีร่างสามร่างที่นอนอยู่บนพื้น,พวกเขาถูกสับออกเป็นสองท่อนและตายไปเรียบร้อยแล้ว.

จงซานที่อยู่ฝั่งชายขอบทิศตะวันตกของค่ายกล,ส่วนเทียนชาและชายชุดแดงต่อสู้กันอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ,ในเวลานั้น,ที่ชายขอบค่ายกลแปดประตูกุญแจทองทิศเหนือ,มีคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังจับจ้องมองไปยังการต่อสู้ของเทียนชาอยู่.

คนกลุ่มนี้คือกงจูเฉียนโหยว,กู่หลินและเซียนเซิงสุ่ยจิงนั่นเอง.

"เซียนเซิงสุ่ยจิง,ท่านคิดว่าใครจะชนะอย่างงั้นรึ?"กงจูเฉียนโหยวที่เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,ยากที่จะคาดคิดว่านางกำลังคิดอะไรอยู่.

"สำนักไคหยาง,มีเพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภา,กงจู,ท่านคิดว่าใครจะได้ชัยล่ะ?"เซียนเซิงสุ่ยจิงที่ตอบออกมาพร้อมรอยยิ้มขณะสะบัดพัดไปมา.

"เพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภา,พันปีจะมีสักคนที่สามารถฝึกฝนวิชานี้ได้."กงจู่ที่ไม่ได้ตอบคำถาม,ขณะที่นางจับจ้องมองไปยังเทียนชาขณะพูด.

"พวกเขามาจากสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นกู่หลินที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ.

"ถูกแล้ว,พวกเขามาจากสำนักไคหยาง,เซียนเซิงสุ่ยจิง,ท่านต้องการให้พวกเขามาช่วยหรือไม่?"กงจูเฉียนโหยวที่สอบถามออกไป.

"หากทำได้,ทำไมจะไม่ทำล่ะ?ทว่ากงจู่จะชักชวนพวกเขาอย่างไรล่ะ."เซียนเซิงสุ่ยจิงที่พยักหน้าสอบถามออกไป.

"เฉียนโหยว,เจ้ามีป้ายคำสั่งของสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"กู่หลินที่สอบถามออกมาในทันที.

"ข้าไม่ได้มีป้ายคำสั่งของสำนักไคหยาง,ทว่าข้ามีป้ายคำสั่งจากสำนักยี่เหิงซึ่งน่าจะพอใช้แทนกันได้."กงจู่เฉียนโหยวที่ชำเลืองมองออกไปขณะพูด.

"พวกเขาทุกคนต่างก็ก้าวไปถึงระดับแกนทองทั้งหมดแล้ว,พวกเขาจะสามารถช่วยพวกเราในการทะลวงค่ายกลไห้สำเร็จได้."เซียนเซิงสุ่ยจิงพยักหน้า.

บนภูเขาสูงอีกลูกหนึ่งอยู่ร่างหว่างจุดของจงซานและเทียนชา,มีคนสองคนที่เฝ้ามองการต่อสู้อยู่,คนทั้งสองสวมชุดสีขาวและมีกระบี่สะพายอยู่ด้านหลัง.

"ฉู่จิว,เพลงกระบี่ของทั้งสองคนเป็นอย่างไรบ้าง?"ชายหนุ่มที่จ้องมองไปยังเทียนชาและเริ่มถามออกมา.

"คนชุดคลุมดำนั่น,ใช้เพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภา,ซึ่งเป็นเพลงกระบี่ที่ทรงพลังมาก,เมื่อกระบี่ออกจากฝัก,จะรวบรวมพลังทั้งหมดเข้ามารวมกันและปะทุออกไปเพียงแค่กระบี่เดียว,มีพลังที่ยากจะต้านได้,เพียงกระบวนท่าเดียวก็สามารถสังหารฝ่ายตรงข้ามได้ในทันที,สามารถบอกได้ว่าเพลงกระบี่ของเขาเหนือกว่าอีกฝ่ายมาก,คนผู้นี้ต้องเป็นคนที่มาจากสำนักไคหยางแน่นอนและยังเป็นคนเดียวในพันปีที่สามารถฝึกฝนและใช้เพลงกระบี่ชุดนี้ได้,คนผู้นี้อยู่ในระดับแกนทองขั้นเก้าแต่ทรงพลังสามารถสะกดข่มคนที่มีระดับก่อตั้งวิญญาณได้,ส่วนชายชุดแดงนั่นใช้เพลงกระบี่ดื่มโลหิต,ทักษะของเขาเองมุ่งเน้นในการสังหารเช่นกัน,กระบี่ของเขาที่โชกไปด้วยโลหิตตลอดเวลา,เป็นเพลงกระบี่ที่มีจิตปิศาจที่รุนแรงและมีชื่อเสียงในความโหดร้ายเป็นอย่างมาก,เมื่อกระบี่ออกจากฝัก,ปราณปิศาจของมันสามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามสับสนได้,แม้ว่ามันจะมีพลังน้อยกว่าเพลงกระบี่ตัดสวรรค์กลืนนภาแต่ก็ยังถือว่าน่าหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย,ชายคนดังกล่าวอยู่ในระดับสิบแกนทอง,ห่างจากระดับก่อตั้งวิญญาณก้าวเดียว."ฉู่จิวที่อธิบายราวกับว่าเขาเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเพลงกระบี่ของทั้งสองเป็นอย่างดี.

ชายหนุ่มพยักหน้าเล็กน้อยขณะรับฟัง,"ฉู่จิว,การที่ข้านำเจ้ามานี้,ราวกับว่าได้นำหอตำราเคลื่อนที่มาด้วย,ในโลกนี้คงจะไม่มีเพลงกระบี่ใดที่เจ้าไม่รู้จัก."

"กงซือ,ท่านยกยอข้ามากไปแล้ว,ในโลกนี้ยังมีเพลงกระบี่อีกมากมาย,เป็นไปไม่ได้ที่ข้านั้นจะรู้จักพวกมันทั้งหมด,เพลงกระบี่ที่ทั้งสองใช้ออกมานั้นล้วนแล้วแต่มีบันทึกเอาไว้ใน"หอหมื่นกระบี่"และข้าโชคดีได้อ่านและศึกษาพวกมัน,ดังนั้นเพลงกระบี่ที่ข้ารู้จักก็มีเฉพาะที่อยู่ในบันทึกเท่านั้น."ฉู่จิวที่ตอบออกมาอย่างรวดเร็ว.


"อืม."ชายหนุ่มพยักหน้าและกลายเป็นเงียบงัน.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น