Immortality Chapter 68 Turning The Table
นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 68 พลิกกลับ.
บทที่ 68 พลิกกลับ.
จงซานที่กระโดดลงจากกระบี่เหินทันทีหลังจากที่ตัดแขนของเมียวเซียนเหริน.
ด้วยบาดแผลที่เมียวเซียนเหรินได้รับ,ทว่าเขาก็ตอบสนองในทันทีมือขวาของเขาที่ฝืนยืนออกมาจับมือซ้ายที่กำลังล่วงหล่นและเท้าของเขาเตะไปยังร่างของจงซานก่อนที่จะกระโดดลงไป.
ร่างของจงซานที่ลอยออกไปล่วงหล่นลงไปในหุบเขาอย่างรวดเร็ว.
"ตูมมมม"
ร่างของจงซานที่กระแทกเข้ากับศิลาขนาดใหญ่,เกิดเป็นฝุ่นและควันกลุ่มใหญ่ฟุ้งไปทั่วอากาศ.
ด้วยเจียงซือเงินที่ตามมาอย่างรวดเร็ว,เมียวเซียนเหรินที่กำมือซ้ายอย่างยากลำบาก,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีเขียว,เขาเร่งรีบจากไปหลังจากที่ชำเลืองมองไปยังชายชุดดำและจงซาน,เขาที่หายไปลับสายตาจากชายชุดดำแทบจะในทันที.
ชายชุดดำที่จ้องมองการต่อสู้ของจงซานและเมียวเซียนเหรินด้วยความสับสน,ส่วนเจียงซือตนอื่นๆที่มุ่งตรงไปยังพื้นที่ที่จงซานหล่นลงมา,ทว่ากลับไม่สามารถพบเขาแล้ว.
เมียวเซียนเหรินที่หนีไปและจงซานก็หายไปอีกคน,ชายชุดดำที่ถอนหายใจยาวก่อนที่จะเรียกเจียงซือทั้งหมดกลับมาหาเขา.
เขาโบกสะบัดมือเรียกโลงศพเปล่า 28 โลงออกมา..
24 เจียงซือทองแดง, 3
เจียงซือเงิน,และหนึ่งเจียงซือทอง,หลังจากที่ชายชุดดำบริกรรมคาถาบางอย่าง,เจียงซือทั้งหมดก็นอนลงไปในโลกศพ,ก่อนที่ฝาโลงจะปิดลง,นับเป็นฉากที่น่าขนลุกทีเดียว.
ชายชุดดำที่สะบัดมือนำตะปูออกมา,ก่อนที่จะโยนออกไป,พร้อมกับถูกตอกลงไปบนโลงศพทุกโลก,ยึดฝามันเอาไว้แน่น,ก่อนที่เขาจะนำยันต์อักขระอีก
28 ใบ,ประทับไว้บนโลงปิดผนึกอีกชั้น.
ท้ายที่สุด,ด้วยการสะบัดมือครั้งสุดท้าย,โลงศพทั้งหมดก็หายไป,ถูกเก็บเข้ามาในอุปกรณ์เก็บของต่างมิติ.
หลังจากที่เก็บกวาดทุกอย่างแล้ว,ชายชุดดำที่ทำการตรวจสอบพื้นดิน,อักษรรูนมากมายที่กระจายอยู่บนพื้น,ในเวลานี้มันเริ่มจางลงเรื่อยๆและหายไปในที่สุด.
"วู๊ซซ,วู๊ซซ,วู๊ซซซ..."
ทันใดนั้น,คนแปดคนก็ปรากฏขึ้นมาบนท้องฟ้า,ในกลุ่มพวกเขานั้นไม่มีใครใช้ของวิเศษช่วยในการบินเลย,พวกเขาเหาะมาด้วยพลังของตัวเอง,แน่นอนว่าคนเหล่านั้นอย่างน้อยต้องก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณแล้วเท่านั้น.
ชายผู้หนึ่งที่สวมชุดสีม่วงที่หรูหราเป็นอย่างมาก,รูปร่างเหมือนกับปุถุชนวัยกลางคนใบหน้าที่ดูมีสง่าราศีน่าเกรงขาม,ดูแตกต่างจากคนทั่วไปมาก,ส่วนอีกเจ็ดคนที่เหลือด้านหลัง,พวกเขานั้นต่างก็แสดงท่าทางเคารพนอบน้อมอย่างถึงที่สุด.
"เซียนเซิงซือ."
ชายชุดม่วงที่กล่าวทักทายชายชุดดำอย่างเคารพ.
ถึงแม้ว่าเขาจะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณแล้วก็ตาม,ชายชุดม่วงก็ยังแสดงท่าทางเคารพต่อเซียนเซิงซือ,ทั้งที่เขาอยู่แค่เพียงขั้นแกนทองเท่านั้น.
"องค์เหนือหัว,ข้าได้ตรวจสอบพื้นที่รอบๆนี้แล้ว,จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่."ชายชุดดำรายงาน.
"ไม่ได้อยู่ที่นี่รึ?
เช่นนั้นก็คงจะมีแค่ภูเขาป้าเหมินแล้ว."ชายชุดสีม่วงขมวดคิ้วไปมา.
"อืม,ข้าเองก็ได้ตรวจสอบหลายพื้นที่แล้ว,เหลือแค่เพียงภูเขาป้าเหมิน,ที่มีเสียงคำรามของมังกรเท่านั้น."เซียนเซิงจื่อพยักหน้า.
"เช่นนั้นคงต้องพึ่งท่านแล้ว."ชายชุดม่วงที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.
"เหนือหัวโปรดวางใจ,เมื่อข้ารับปากแล้ว,ขอแค่เพียงมีจี้หยกเก้ามังกรสวรรค์,ข้าจะต้องทำงานอย่างเต็มที่เพื่อนำมามอบให้ท่าน."เซียนเซิงซือ
พยักหน้า.
"เช่นนั้น,พวกเราเดินทางกันเถอะ."ชายชุดม่วงกล่าว.
"อืม."เซียนเซิงซือพยักหน้ารับ.
เซียนเซิงซือที่นำกระบี่ไม้ออกมาพร้อมกับโยนขึ้นไปบนอากาศเป็นกระบี่เหิน,พร้อมกับขึ้นไปบนกระบี่เหินลอยตามคนทั้งแปดมุ่งไปยังทิศตะวันออก.
หลังจากคนเหล่านั้นจากแล้ว,บริเวณที่จงซานล่วงหล่นลงมานั้น,เขาก็ผุดออกมาจากซอกหิน,กลายร่างเป็นเงาดำ,ก่อนที่เงาดำนั้นจะกลายเป็นรูปลักษณ์ของจงซานอย่างช้าๆ.
จงซาน,นี่คือจงซานอีกร่าง.
ที่มุมปากของเขานั้นมีโลหิตซึมออกมา,เขาที่กุมไปยังหน้าอก,ดูเหมือนว่าการที่ถูกเมียวเซียนเหรินเตะในครั้งนั้นทำให้เขาได้รับอาการบาดเจ็บเหมือนกัน.
จงซานที่ไม่ได้สนใจบาดแผลเท่าใดนัก,เขายังคงจ้องมองไปยังทิศทางของเซียนเซิงซือและพรรคพวกจากไป.
"จี้หยกเก้ามังกรสวรรค์?
อยู่ที่ภูเขาป้าเหมิน."จงซานที่พึมพำไปมา.
เห็นชัดเจนว่ามันสายเกินไปแล้วที่จะไล่ตามพวกเขา,ตอนนี้,สิ่งสำคัญที่สุดคือการกลับไปรวมกับจงซานร่างหลักและสังหารเมียวเซียนเหรินซะ.
แทบจะในพริบตาเดียว,ร่างของจงซานที่เปลี่ยนเป็นเงาอีกครั้ง,ก่อนที่จะเคลื่อนที่ราวกับภูติผี,หายไปจากตำแหน่งที่เขายืนอยู่ในทันที,เป็นเงาสลัวๆเคลื่อนที่ผ่านซอกหลืบผ่านป่าไม้เคลื่อนที่ผ่านเงาต่างๆไปด้วยความรวดเร็วเป็นอย่างมาก.
อีกด้านหนึ่ง,เมียวเซียนเหรินที่ได้รับบาดเจ็บหนักอย่างที่เขาไม่เคยเป็นมาก่อน.
เขาที่จ้องมองไปยังแขนซ้ายที่เขากำลังกำมันเอาไว้อยู่,ภายในใจเต็มไปด้วยความโกรธจนถึงที่สุด,หากว่าเวลานั้นเขาไม่ต้องการหนี,เขาจะต้องสับจงซานออกเป็นชิ้นด้วยตัวเขาเอง,เขาประมาทเกินไป,เขาไม่ทันสังเกต,จนทำให้เขานั้นถูกตัดแขนออกมา.
เมียวเซียนเหรินต้องการกลับไปขจัดพิษออกจากร่างของเขาให้เร็วที่สุด,พร้อมกับรักษาบาดแผล,ต่อแขนของเขากลับคืน,หากเขาไม่รีบล่ะก็,อาจจะทำให้เขาตายไปก็ได้.
เมียวเซียนเหรินนั้นไม่ใช่คนโง่,หากเป็นเหมือนดังในอดีต,เขาจะไม่กลับไปยังที่พักเขาแน่นอน,เขาจะต้องค้นหาสถานที่เพื่อรักษาบาดแผลก่อน,ทว่าตอนนี้ในที่พำนักของเขานั้นมีสมบัติมากมายที่ซ่อนอยู่.
อาการบาดเจ็บของเขาที่ชะลอลงเล็กน้อย,ทว่าเขาก็ยังเดินทางไปถึงที่พำนักของเขาในเวลาต่อมา.
หลอดเลือดสีเขียวที่บวมปูดขึ้นที่ศีรษะ,เมียวเซียนเหรินที่กัดฟันแน่นอดทนต่อความเจ็บปวดเดินตรงไปที่ประตู,เขาจำได้ว่าที่นี่มีเทียนหลิงเอ๋อและหยิงหลานอยู่.
สายตามที่หรี่ตาจ้องมองไปรอบๆกวาดไปทุกทิศทาง.
"ชิ,ดูเหมือนว่าจะเป็นแผนการหลอกข้าตั้งแต่แรกแล้ว,พวกเจ้าทั้งสองหาญกล้ามาก,คิดว่าจะหนีพ้นอย่างงั้นรึ?ด้วยจิตวิญญาณติดตามอย่างน้อยต้องใช้เวลาสามวันถึงจะสลาย,ในเมื่อพวกเจ้ายังอยู่,เช่นนั้นก็จงชดใช้แทนจงซานซะ,ข้าจะให้พวกเจ้าทั้งสองเป็นฐานเตาปรุงยารักษาแผลของข้า,เพื่อชดเชยที่จงซานบังอาจทำกับข้า,มันช่างน่าเสียใจกับความงามของพวกเจ้าจริงๆ."ใบหน้าสายตาที่ชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา,ก่อนที่เขาจะมุ่งตรงไปยังอีกหุบเขา,พุ่งตรงไปยังทิศทางของเทียนหลิงเอ๋อ.
เมียวเซียนเหรินมั่นใจว่าด้วยวิชาหงหลวนของเขาก็เพียงพอที่จะจัดการหญิงสาวทั้งสองคนแล้ว.
กลับมายังหุบเขามีสองสาวยืนอยู่,และชายอีกคน,นั่นก็คือจงซานนั่นเอง,เป็นจงซานร่างหลัก,เขากำลังจ้องมองไปยังหญิงสาวทั้งสองด้วยท่าทางจริงจัง.
"พวกเจ้าจำสิ่งที่ข้าได้กล่าวออกไปก่อนหน้านี้ได้หรือไม่?"จงซานกล่าว.
"อย่าได้กังวล."เทียนหลิงเอ๋อพยักหน้าในทันที.
"หยิงหลาน,เจ้าคือหัวใจของแผนการพวกเรา,อย่าได้พลาดกับหน้าไม้แปดแรงวัวโดยเด็ดขาด."จงซานที่จ้องอมงไปยังหยิงหลาน.
"อืม."หยิงหลานพยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง.
จงซานที่พยักหน้า,เขาที่เพิ่งกลับมาถึง,และได้บอกแผนการให้กับหญิงสาวทั้งสอง,ตอนนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ,ไม่สามารถที่จะผิดพลาดได้เลย,
ขณะที่พวกเขาพูด,จงซานก็เห็นประกายแสงบางอย่างพุ่งตรงมาจากหุบเขาด้านข้าง,เมียวเซียนเหรินกลับมาแล้ว.
เตรียมพร้อม!
จงซานและหยิงหลานที่แอบซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้,โดยมีเทียนหลิงเอ๋อที่ยืนอยู่กลางลานด้านหน้า,โครม!
ศิลาขนาดยักษ์ที่แตกระเอียดเมื่อเมียวเซียนเหริ่นยั้งเท้าลงบนพื้นปรากฏตัวอยู่ไม่ห่างจากเทียนหลิงเอ๋อ.
เขาที่เก็บแขนที่ขาดเอาไว้,ยืนอยู่โดยมีแขนข้างเดียว,ใบหน้าเขียวช้ำ,จ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อที่กุมผ้าแพรไหมแน่น,ด้วยจิตวิญญาณติดตามเขาสามารถบอกได้ว่าหยิงหลานซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆนี่เอง.
เขาที่จ้องมองไปยังทิศทางที่หยิงหลานซ่อนตัวอยู่,สายตาที่หรี่เล็กลง,พร้อมกับปล่อยหมอกหงหลวนออกมาจากร่างกาย,ก่อนที่จะพวยพุ่งไปยังทิศทางของพวกนางทั้งสอง.
ในเวลาเดียวกันนั้น,เทียนหลิงเอ๋อก็นำหยกอักขระออกมา,หยกอักขระที่ส่องประกายแสงวับวาว,ก่อนที่นาจะบดมันไปทันที,หลังจากที่นางบดขยี้หยกทั้งสองแล้ว,มันก็ฉายลำแสงพุ่งออกมา,หนึ่งสีแดงเพลิงที่ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง,ส่วนอีกหนึ่งก็ปะทุประกายแสงสีขาวที่บริสุทธิ์ออกมาเช่นกัน,วิหคเพลิงและวิหคเหมันตร์,ร่างพลังงานของวิหกทั้งสอง,ดูราวกับว่ามีชีวิตที่เหมือนจริงมาก,เทียนหลิงเอ๋อผู้บดหยกอักขระทั้งสองทำให้นางคือผู้ควบคุมพวกมัน,ก่อนที่นางจะบังคับให้พวกมันพุ่งตรงไปยังเมียวเซียนเหริน.
"อักขระเจ้าวิหก?"เมียวเซียนเหรินที่เบิกตากว้างไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย.
วิหคเพลิงและวิหคเหมันตร์นั้นมีพลังที่ไม่ธรรมดาเลย,มันสามารถที่จะจัดการผู้ฝึกตนแกนทองระดับต้นได้เลย,แม้ว่าเมียวเซียนเหรินจะได้รับบาดเจ็บ,ทว่ามันก็ยังไม่เพียงที่จะคุกคามเขาได้.
เมียวเซียนเหรินที่เหลือเพียงแขนขวาข้างเดียว,ทว่าเขายังสามารถควบคุมกระบี่เหินได้ดั่งใจนึก,ตลอดจนกระบี่เหินอาบพลังสีชมพูพุ่งตรงไปยังวิหคเหมันตร์.
แม้ว่าเมียวเซียนเหรินนั้นจะตอบสนองอย่างรวดเร็ว,ทว่าก็ยังไม่เท่ากับสายตาของเทียนหลิงเอ๋อ,ตราบเท่าที่นางมองเห็นเขา,วิหคทั้งสองก็สามารถเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าเมียวเซียนเหริน.
กระบี่เหินที่กระแทกเข้ากับวิหคเหมันตร์ขณะที่อีกตนวิหคเพลิงเมียวเซียนเหรินที่ยกเท้าขวาเตะไปที่วิหคเพลิง,ด้วยม่านเกราะป้องกันร่างกายที่ขาของเขากระแทกออกไปทำให้มันแตกออกเป็นเสี่ยง,เมื่อมันปะทะเข้ากับวิหกเพลิงอย่างรุนแรง.
"ตูมมมมมมม"
เวลานี้เขาอยู่ในสภาพอ่อนแอ,แรงเตะแม้ว่าจะยังทรงพลังเพียงพอที่จะทำให้วิหคเพลิงสลายหายไป,ทว่าก็ทำได้แค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น,วิหคเพลิงนั้นไม่ได้พังทลายง่ายดายขณะนั้น,ด้วยการควบคุมของเทียนหลิงเอ๋อนั้น,ทำให้วิหคเพลิงทะลวงผ่านเข้าไปในเกราะปราณป้องกันของเมียวเซียนเหริน,เผาไหม้ขากางเกงของเขา,จนสามารถมองเห็นหัวเข่าเขาได้เลย.
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น,กระบี่เหินของเขาที่กระแทกเข้ากับวิหคเหมันตร์,ภายใต้การควบคุมของเทียนหลิงเอ๋อ,วิหคเหมันตร์ที่ผลักดันกระบี่เหินไปมาอยู่ชั่วขณะ.
เมียวเซียนเหรินที่เพ่งสมาธิไปที่กระบี่เหินของเขา,ก่อนที่มันจะปลดปล่อยลำแสงกระแทกไปยังวิหคเหมันตร์แตกออกเป็นเสี่ยงๆในชั่วพริบตา.
ขณะที่กระบี่เหินปลดปล่อยพลังออกไปนั้น,ในชั่วเวลาแค่อึดใจนั้นเมียวเซียนเหรินก็ได้ยินเสียงที่น่าขนลุกดังขึ้นมา.
"ปังงง!"
ลูกศรยักษ์,บางทีควรจะเรียกว่าทวนยักษ์ซะมากกว่า,พุ่งตรงมายังขาของเมียวเซียนเหรินที่ถูกเผาไหม้ด้วยวิหคเพลิงก่อนหน้า.
พลังโจมตีมหาศาลกระแทกเข้าไปยังขาของเขาที่ไร้ม่านปราณเกราะป้องกัน,โลหิตสาดกระจาย,ขาของเขาก็ขาดออกไปในทันที.
เมียวเซียนเหรินที่สุญเสียแขนไปแล้วตอนนี้ยังเสียขาไปอีกข้าง.
ใบหน้าของเขาถึงกับกระตุกจ้องมองออกไปยังทิศทางที่ลูกศรยักษ์พุ่งมา,มันมาจากทิศทางของหยิงหลานนั่นเอง,ทำไม,ทำไมนางไม่ได้รับพิษจากหมอกหงหลวนอย่างงั้นรึ?
อีกฝั่งหนึ่งไปไม่ไกลออกไปนั้น,เทียนหลิงเอ๋อก็ถอยออกมาในทันที,นางที่หลบจากหมอกหงหลวอย่างรวดเร็ว,ด้วยการใช้ผ้าแพรไหมของนางลอยห่างออกมา,ด้วยความเร็วสูง,และทำการล่อกระบี่เหินของเมียวเซินเหรินที่บินไล่ตามมาด้วย.
"อ๊ากๆๆๆๆๆ"
เมียวเซียนเหรินที่หวีดร้องราวกับคนบ้า,เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะต้องติดกับดักของสองสาว,แม้ว่าเขาจะต้องการใช้พวกนางเป็นของเล่นก็ตาม,ทว่าตอนนี้ดวงตาของเมียวเซียนเหรินกับเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด.
อย่างไรก็ตาม,ในเวลานั้น,สายตาของเขาก็เห็นร่างๆหนึ่ง,ที่ได้ทำให้ความโกรธเกรี้ยวของเขาได้กลายเป็นท่าทางหวาดผวา,นี่คือร่างที่เขาถีบหล่นลงไปบนหุบเขาก่อนหน้านี้.
จงซาน,นี่คือจงซาน,มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?
เขาคือจงซานอย่างงั้นรึ?
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality
#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)
สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click
***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น