วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 330 Giving it all

Miracle Throne Chapter 330 Giving it all

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 330 ต่อสู้ถึงที่สุด 


บทที่ 330 ต่อสู้ถึงที่สุด 



วิชาการโจมตีเช่นนี้ไม่เคยเห็นหรือว่าเคยได้ยินมาก่อน.

ความเจ็บปวดที่เป็นทวีคูณ,สร้างความเสียหายอย่างรุนแรง,ด้วยพลังดังกล่าวนั้นถูกขยายออกเป็นนับหมื่นเท่า,กระแทกเข้ามายังจิตวิญญาณซ้ำแล้วซ้ำเล่า,เป็นทะเลแห่งความตายที่กระหน่ำเข้ามาเป็นระลอก,คลื่นแห่งความตายที่กระแทกซัดสาดมายังจิตใจของเขา,จนไม่สามารถจะบรรยายความเจ็บปวดได้เลย.


แม้ว่าหม่าลีมู่นั้นจะเป็นนักรบที่ทรงพลังแข็งแกร่งก็ตามที.

หากแต่ด้วยการถูกโจมตีด้วยพลังจิตเข้ามาภายในจิตใจ,ไม่ว่าจะเป็นทหารชั้นยอดเพียงใด,ก็ยากที่จะต่อต้านได้,ด้วยต้องรู้สึกเจ็บปวดทรมานมากกว่าปรกติถึงหมื่นเท่า,เขาจะสามารถทนได้อย่างงั้นรึ?,บางทีในโลกใบนี้คงไม่มีนักรบคนใหนที่จะสามารถต้านพลังโจมตีทางจิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้เป็นแน่,การโจมตีเข้ามาจิตวิญญาณที่ฉีกขาดจิตวิญญาณของเขาให้เป็นชิ้นๆ,ถึงแม้ว่าจะโชคดีรอดไปได้ก็ตามที,ท้ายที่สุดก็จะคลุ้มคลั่งไม่ต่างไปจากคนบ้าอย่างไม่ต้องสงสัย.

ที่คือเขตแดนพันธนาการอเวจีไร้ของเขต!

ฉู่เทียนที่โจมตีเข้ามาด้วยสัมผัสเทวะที่น่าหวาดเกรงโจมตีเข้าไป!

ความเจ็บปวดมากมายที่โถมกระหน่ำโจมตีมายังจิตวิญญาณของหม่าลีมู่ไม่หยุดหย่อน,จนทำให้โครงสร้างดวงจิตวิญญาณในตอนนี้กำลังพลังทะลายลงแล้ว,ขณะที่หม่าลู่มู่กำลังจะทรุด,ทันใดนั้น,มิติวิญญาณอเวจีก็ระเบิดออกมากลายเป็นฟองอากาศไป.

ภูติวิญญาณเทพอสูรเก้าดวงเนตรหายไปในทันที.

ใบหน้าของฉู่เทียนที่ขาวซีดเหงื่อไหลออกมาเป็นทาง"บัดซบ,เกือบแล้วเชียว!"

หม่าลีมู่ในเวลานี้ถูกฉุดให้หลุดออกมาจากโลกจริงในทันที,แต่ยังคงร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน,พร้อมกับกลิ้งไปมาอยู่บนฟื้น,ร่างกายที่ชักกระตุกเกร็งแน่น,ดวงจิตของเขาที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส,ไม่สามารถที่จะฟื้นฟูได้ในเวลาสั้นๆแน่นอน.

ดวงจิตยังไม่พังทะลาย!

พลังฝึกตนของหม่าลีมู่นั้นแข็งแกร่งกว่าฉู่เทียน,ทำให้เขามีพลังวิญญาณมากกว่า,ทำให้มีความทนทานกว่าปกติมาก,ฉู่เทียนที่ไม่ได้มีพลังวิญญาณเพียงพอจึงไม่สามารถที่จะจัดการเขาได้อย่างราบคาบ,สัมผัสเทวะของเขาที่ต้องผสานกับภูติวิญญาณเทพอสูรเก้าดวงเนตร,จึงทำให้ผลาญพลังวิญญาณมากกว่าเดิม,ดังนั้นเมื่อภูติวิญญาณหายไป,ทำให้เขาไม่สามารถที่จะโจมตีได้อย่างสมบูรณ์,ตอนนี้พลังของเขาได้หมดไปซะก่อนแล้ว,ดังนั้นดวงจิตของหม่าลีมู่จึงยังไม่แตกสลายไปอย่างสมบูรณ์.

ไม่ได้การแล้ว!

ในเวลานี้เขาไม่มีพลังที่จะโจมตีรอบที่สองได้อีกแล้ว.

เมิ่งชิงอู๋ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้น,เพราะว่าโลกจิตวิญญาณและโลกจริงแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง,ฉู่เทียนที่ทำร้ายหม่าลี่มู่ในโลกจิตวิญญาณไปถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน,หากแต่ในโลกจริงนั้นผ่านไปเพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้นเอง,ไม่สามารถที่จะสัมผัสได้เลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้น.

สิ่งที่เมิ่งชิงอู๋เห็นนั้น,เป็นฉู่เทียนที่ใช้ดวงตาหนึ่งดวงจ้องเขม็งไปยังหม่าลีมู่,หม่าลีมูกับเกิดบาดแผลไปทั่วร่าง,และสูญเสียการควบคุมตัวเอง,ส่วนฉู่เทียนในเวลานี้เองก็ทรุดลงนอนไปกับพื้นเช่นกัน.

ที่จริงแล้วมันเกิดสิ่งใดขึ้นกัน?

ฉู่เทียนที่ล้มลงไม่สามารถขยับได้แล้ว,ทว่ายังคงกัดฟันร้องตะโกนออกไป"จิ้งจอกน้อย,ตอนนี้,รีบจัดการมันเร็วเข้า!"

ดวงตาทั้งสองข้างของจิ้งจอกน้อยส่องประกายแสงสีเขียวมรกต,ก่อนที่จะพยายามท่องอาคมควบคมเหยี่ยวสายฟ้าให้ได้ซึ่งตอนนี้มีสายฟ้าสีน้ำเงินกำลังเปล่งประกายแปบๆ.

เหมือนว่าเหยี่ยวสายฟ้ากำลังต่อต้านจิ้งจอกน้อยอยู่.

จิ้งจอกน้อยที่ร้องออกมเสียงแหลมเล็ก,ร่างกายของเหยี่ยวสายฟ้าสั่นสะท้าน,สัมผัสเทวะของจิ้งจอกน้อยที่แผ่ปกคลุมไปทั่วร่างของเหยี่ยวสายฟ้า,ท้ายที่สุดเหยี่ยวสายฟ้าในตอนนี้ก็ได้ตกอยู่ในการควบคุมของจิ้งจอกน้อยแล้ว,พร้อมกับส่งเสียงดังก้องกังวาน.

"หืมๆๆ...สารเลว!"ร่างของหม่าลี่มู่ที่สั่นไม่หยุด,ยังไม่สามารถแม้แต่หยิบดาบของตัวเองได้"ร่างของข้า...!ข้าจะสังหารเจ้า!ข้าจะฆ่าเจ้าให้ตาย!"

ฉู่เทียนในเวลานี้หมดสติไปเรียบร้อยแล้ว.

หม่าลี่มู่ที่ได้รับบาดเจ็บทางจิตวิญญาณสาหัส,ดวงจิตของเขาในเวลานี้บาดเจ็บจนยากที่จะรักษา,อาการบาดเจ็บทางจิตครั้งนี้อาจจะมีผลไปชั่วชีวิต,ถึงเขาจะได้รับความเสียหายอย่างหนักการโจมตีที่ดุร้ายบ้าคลั่งมายังดวงจิตแต่แล้วเขาก็ยังไม่ตาย,นั่นก็เพราะว่าพลังวิญญาณของฉู่เทียนนั้นหมดซะก่อนที่จะสังหารเขาได้นั่นเอง.

"เจ้า...ต้องตาย!

ร่างของหม่าลีมู่ที่กำลังสั่นไม่หยุดคุกเข่าฝืนทนที่จะยืน,ดวงตาทั้งสองที่เหมือนว่าจะไม่สามารถจ้องมองไปข้าหน้าได้,เขาที่รู้สึกภายในหัวสมองดังวิ้งๆไม่หยุด,เขาที่กำลังคำรามเสียงดัง,เหมือนกับสัตว์ป่าที่กำลังคลั่ง,ก่อนที่จะหยิบดาบดำยาวที่หล่นอยู่บนพื้นขึ้นมาได้.

"เพลิงนรกโลกันตร์!"

ดาบของเขาที่สั่นไม่หยุดก่อนที่คมดาบจะปลดปล่อยเปลวเพลิงที่รุนแรงออกมา,ตอนนี้แผ่กระจายพลุ้งพล่านไปทุกทิศทุกทาง.

หม่าลีมู่ในเวลานี้ไม่สามารถที่จะเล็งไปยังเป้าหมายได้,ตอนนี้ทำได้แค่ปลดปล่อยพลังเปลวเพลิงออกมาอย่างไร้ทิศทาง,ด้วยพลังวิญญาณที่ทรงพลังอาณาจักรภูติแท้,เพียงพอที่จะสังหารทุกคนที่เข้าใกล้ได้เลย.

ทว่าในเวลาเดียวกันนั้นเหยี่ยวสายฟ้าที่ร้องเสียงหวีดหวิวก่อนที่จะปลดปล่อยสายฟ้าที่รุนแรงกระแทกไปยังร่างของหม่าลีมู่,แทบจะทันทีที่พลังกระแทกไปยังร่างของหม่าลีมู่,ส่งร่างของเขาลอยกระเด็นออกไปก่อนที่กองอยู่บนพื้น,ดาบยาวของเขาที่หลุดไปจากมือ,หมุนเคล้งลอยละล่องออกห่างไปไกลหลายสิบเมตรพร้อมกับปักลงไปบนพื้น.

ตูมมมม!

เปลวเพลิงสีดำของเขาที่ม้วนกลับขยายใหญ่ขึ้น,ก่อนที่จะแตกสะบั้นหายไปในทันที.

หม่าลีมู่ที่คำรามเสียงดังลั่นพยายามที่จะลุกขึ้นอีก,หากแต่เยี่ยวสายฟ้าก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับตวัดกงเล็บที่แหลมคมออกมาพร้อมกัน,เขาที่ยกแขนขึ้นขวางเหยี่ยวสายฟ้าเอาไว้,ถูกกระแทรกให้ร่างกายจมลงไปในดินครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว,ก่อนที่เหยี่ยวสายฟ้าจะถูกสะบัดให้ลอยออกไปไกล.

หม่าลีมู่ที่คำรามลั่นปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา เป็นลูกพลังยิงไปยังร่างของเหยี่ยวสายฟ้า,กระแทกให้เหยี่ยวสายฟ้าลอยเคว้งหล่นไปกองกับพื้นทันที,ร่างกายของมันเสียหายไปครึ่งหนึ่งหากแต่ยังมีชีวิตอยู่.

จิ้งจอกน้อยที่เต็มไปด้วยท่าทางตื่นตระหนก.

หากว่าเหยี่ยวสายฟ้าถูกสังหาร,มันก็ไม่มีวิธีในการต่อสู้แล้ว.

จิ้งจอกน้อยนั้นไม่ได้มีทักษะการต่อสู้ที่แข็งแกร่งนัก,ด้วยวิชาที่มันมีในตอนนี้ก็แค่เพียงวิชาอัญเชิญ,และทักษะในการควบคุม,ซึ่งมีผลกับเหล่าสัตว์อสูรเท่านั้น,ซึ่งก็เท่ากับว่ามันจะไม่มีวิธีในการเผด็จศึกหม่าลีมู่นั่นเอง.

ในเวลาวิกฤตินั้น,เมิ่งชิงอู๋ที่ชักกระบี่อเวจีของฉู่เทียนออกมา,ก่อนที่จะพุ่งเข้าหาหม่าลีมู่อย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จะฟันไปที่หลังของหม่าหลีมู่ที่กำลังพยายามจัดการกับเหยี่ยสายฟ้า,กระบี่ฟันฉับไปยังหลังของหม่าลีมู.

เคล้ง!

พลังวิญญาณที่แข็งแกร่งได้กระแทกร่างของเมิ่งชิงอู๋ให้ลอยออกมา 4-5 เมตร,ไม่เพียงเท่านั้นฝ่ามือของนางยังได้รับบาดเจ็บ,มือของนางที่บวมขึ้นมาเลยทีเดียว.

ไม่ได้การแล้ว!

ฝ่ายตรงข้ามแข็งแกร่งจนเกินไป!

ถึงตอนนี้หม่าลีที่จมลงไปในดินครึ่งหนึ่งและหมดสติไปแล้ว,ทว่านางก็ยังยากที่จะทำร้ายเขาได้ง่าย.

ทันในนั้นจิ้งจอกน้อยก็พบรังกระสุนที่มีหมุดสีแดงตกอยู่ข้างๆร่างของฉู่เทียน,ทันใดนั้นมันเร่งรีบเข้าไปเก็บอย่างรวดเร็ว,ก่อนที่มันจะนำหมุดหยินหยางโลหิตออกมาจากรังกระสุนที่อยู่ด้านใน,จิ้งจอกน้อยที่อมหมุดเหล่านั้นเข้ามา,ก่อนที่จะพยายามกวัดแกว่งขาหน้าเป็นสัญญาณให้กับเมิ่งชิงอู๋.

เมิ่งชิงอู๋ที่พยักหน้า.

จิ้งจอกน้อยที่พ่นหมุดหยินโลหิตจำนวนมากออกไปพร้อมกับ,พร้อมกับใช้วิชาอสูรในการควบคุมพวกมันอีกด้วย,ทำให้มันพุ่งออกไปหาหม่าลี่มู้ด้วยความเร็วที่เร็วกว่าเสียงซะอีก.

หม่าลีมู่ที่ตอนนี้ได้หมดสติไปจากการโจมตีของเหยี่ยวสายฟ้าและอาการเจ็บปวดท่างจิตวิญญาณ,ตอนนี้เขาจะสามารถต้านทานการโจมตีนี้ได้อย่างไร? พลังวิญญาณของเขาไม่เหลือป้องกันร่างกายแล้ว,หมุดทั้งหมดที่ถูกควบคุมด้วยสัมผัสเทวะฝังเข้าไปในร่างของหม่าลีมู่,พร้อมกับมีส่วนหนึ่งจมไปยังดวงตาทั้งสองข้างของเขาด้วยกันในทันที.

"อ๊ากกก!"

หม่าลีมู่ตะโกนออกมาเสียงดัง,ก่อนที่จะตวัดกงเล็บของเขาไปมาอย่างไร้ทิศทาง,พลังวิญญาณที่ส่งออกมาอย่างไรจุดหมาย,ถึงแม้ว่าจะเป็นการโจมตีของผู้เชียวชาญเขตแดนภูติแท้ก็ตามที,หากถูกโจมตีเข้าไปล่ะก็คงจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย,หากแต่ด้วยการสูญเสียทิศทางในการควบคุมพลัง,เขาจึงยากที่จะจับเป้าหมายได้,และไม่รู้ว่าเมิ่งชิงอู๋อยู่ทิศทางใด.

และตอนนี้เมิ่งชิงอู๋ที่ต้องการที่จะเสี่ยงอีกครั้ง,นางที่ยกกระบี่อเวจีของฉู่เทียนขึ้น,ดวงตาที่แน่วแน่จ้องมองไปยังหม่าลีมู่,พร้อมรอคอยโอกาส,ในการโจมตีครั้งนี้จะต้องสำเร็จ!

และในเวลานั้นเช่นกัน,คมกระบี่อเวจีก็ส่องแสงโชติช่วงขึ้นมาอย่างคาดไม่ถึง.

เปลวเพลิงสีขาวม่วงที่แผ่ซานออกไปรอบๆหมุนวนคมกระบี่เอาไว้.

เมิ่งชิงอู๋ที่รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก,ที่นางสามารถยืมพลังของกระบี่อเวจีได้ด้วย,ทั้งที่นางนั้นไม่ใช่เจ้านายของกระบี่อเวจี!บางทีกระบี่อเวจีชินนี้อาจจะแตกต่างจากศาสตราวุธสื่อสารดวงจิตทั่วไป,ซึ่งดวงจิตของศาสตราวุธสื่อสารดวงจิตทั่วไปนั้นจะมีปัญญาไม่สูงนัก,ทว่ากระบี่อวเจีนั้นกับแตกต่าง มันสามารถพัฒนาภูมิปัญญาของมันไปอยู่ในระดับสูงจนสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง,เมื่อเมิ่งชิงอู๋ใช้กระบี่ดังกล่าว,ดวงจิตของ โหยวหมิง,จึงไม่ต่อต้านนางและยังช่วยนางอีกด้วย.

ตอนนี้,ฉู่เทียนที่บาดเจ็บจนหมดสติไปแล้ว,เมิ่งชิงอู๋ที่ต้องการจะสังหารอสุรวิญญาณเพื่อช่วยเหลือเจ้านายของมัน.

ดังนั้นกระบี่อเวจีที่ไม่เพียงแต่ไม่ต่อต้านเมิ่งชิงอู๋,ยังปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาเพื่อช่วยในการโจมตีอีกด้วย.

เมิ่งชิงอู๋ที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา,ก่อนที่จะกระโดดออกไปอย่างรุนแรง,คมกระบี่อเวจีในเวลานี้เปลี่ยนเป็นสีขาวน้ำเงินเป็นริ้วแสงพุ่งเข้ามาไป,ฟันฉับไปยังท้ายทอยของหม่าลีมู่,สับหัวของหม่าลีมู่หลุดออกจากตัวในทันที.

โลหิตที่พุ่งกระฉูดเป็นสาย.

ผู้เชี่ยวชาญเผ่าเฉวียนหยงที่ร้ายกาจที่สุด,คาดไม่ถึงเลยว่าสุดท้ายต้องตายไป,เมิ่งชิงอู๋ที่มีทักษะในการต่อสู้เพียงเล็กน้อยจนแทบจะบอกได้ว่าอ่อนแอ,ไม่คาดคิดเลยว่านางจะสามารถกุดหัวของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนภูติแท้ได้.

จิ้งจอกน้อยที่รุ้สึกเบาใจ,ท้ายที่สุดก็สามารถรักษาชีวิตน้อยๆของมันได้.

เมิ่งชิงอู๋ที่พบว่าข้างๆศพของหม่าลีมู่นั้นจะพบกับถุงเก็บของชั้นดีขนาดเล็กอยู่,นางที่สัมผัสได้ว่าถุงดังกล่าวนั้นมีพลังเวทย์มิติบรรจุอยู่,นี่คือวัตถุเวทย์มิติ,เป็นกระเป๋าเก็บของต่างมิติ,แม้ว่ามันจะมีขนาดเพียงแค่ห้าลูกบาตเมตรเท่านั้นเอง,แต่ก็นับว่าเป็นที่กระเป๋าเก็บของต่างมิติชั้นยอดทีเดียว.

เมิ่งชิงอู๋ที่ไม่มีเวลาตรวจสอบว่าด้านในนั้นมีสิ่งใด,นางที่ทำการเก็บกระบี่ทมิฬของหม่าลีมู่เข้าไปไว้ด้านใน,ก่อนที่จะกลับไปหาฉู่เทียน,นางที่แนบศีรษะลงบนอกของเขา,เสียงลมหายใจและชีพจรที่แผ่วเบา,แต่ว่ายังไม่ตาย.

ฉู่เทียนได้รับบาดเจ็บแบบใดกัน,เมิ่งชิงอู๋ไม่รู้ชัดเจนนัก,ทว่าบอกได้เลยว่าอยู่ในสภาพย่ำแย่เป็นอย่างมาก.

นางที่กัดฟันอุ้มเข้าพร้อมกับตรงไปยังทิศทางของตำหนักจักรพรรดิ,เมื่อวานนี้ฉู่เทียนอุ้มนาง,วันนี้กลับกลายเป็นว่านางจะต้องอุ้มฉู่เทียน,ช่างเหมาะที่จะเป็นคู่สร้างคู่สมกันจริงๆ.

อย่างไรก็ตามเมิ่งชิงอู๋ไม่สามารถที่จะเดินได้เร็วนัก,นางที่เดินไปได้อาจจะราวๆสิบกิโลเมตร,นางก็ได้พบเข้ากับกองลาดตระเวน,กลังจากที่ได้แสดงฐานะของฉู่เทียน,หัวหน้าทีมลาดตระเวนก็มอบรถเทียมสัตว์อสูรให้กับพวกนาง,พร้อมกับพาไปส่งยังตำหนักจักรพรรดิเป็นการส่วนตัว.

ตำหนักจักรพรรดิในเวลานี้เต็มไปด้วยความวุ่นวายสับสน.

กลุ่มของต้าเซวจื่อกู่เซียนชิวได้เดินทางมากถึงก่อนพวกเขาพร้อมกับได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับป้อมปราการด่านหน้าซึ่งได้ตกไปอยู่ในมือของศัตรูพร้อมกับได้หนีออกมาพร้อมกับฉู่เทียน,กู่เซียนชิวที่ได้รับบาดแผลเต็มตัวไปหมดเมื่อกลับมายังตำหนักจักรพรรดิ,เพราะว่ามีคนเป็นจำนวนมากที่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง,ดังนั้นข่าวเรื่องนี้จึงไม่สามารถที่จะปกปิดไว้ได้,เป็นเหตุให้สร้างอาการตื่นตระหนกให้กับทุกคนในทันที.

อีกไม่กี่วัน,ก็มีเหล่าทหารหลายพันคนที่ได้รับบาดเจ็บหนีรอดออกมาได้จากป้อมปราการด่านหน้าเดินทางมาถึงด้วยเช่นกัน.

หลังจากเหล่าทหารหนีรอดมาได้ข่าวดังกล่าวยิ่งทำให้นครจักรพรรดิในเวลานี้เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก,และข่าวราชันย์แห่งเขี้ยวได้นำอาณาจักรเฉวียนหยงเข้าจู่โจมสายฟ้าแลบ,ทำให้ป้อมปราการด่านหน้าพังทลายลงในทันที,ซ้ำยังมีข่าวเกี่ยวกับราชาหนานเซี่ยที่ถูกหวังเทียนหลงลอบสังหารอีกด้วย.

ข่าวใหญ่ทั้งสองที่สร้างความเศร้าสลดให้กับทุกคน!

จะทำให้ทุกคนในตำหนักจักรพรรดิรับมือได้อย่างไร!

ตอนนี้จักรพรรดิอู๋อานที่เดินทางไปสนามรบด้านนอก,สถานการณ์รัฐซังเองในเวลานี้ก็ยังไม่คี่คลาย,จักรพรรดิอู๋อานเวลานี้คงไม่มีเวลาในการเดินทางกลับมาช่วยเป็นแน่! ตำหนักจักรพรรดิตอนนี้มีทหารรักษาการอยู่ 400,000 นาย,นักรบซี่จิวสองพันคน,ทว่าเท่านี้จะสามารถต้านทานกองกำลังของอาณาจักรเฉวียนหยงได้อย่างงั้นรึ?

เมื่อราชาหนานเซี่ยได้สวรรคต,เขาได้จัดแจงราชบัลลังก์ตัวเองให้กับจักรพรรดิอู๋อาน ตงฟางเชวียน.

ไม่คาดคิดเลยว่าราชานหนานเซี่ยจะพบเข้ากับสถานการณ์เลวร้ายเช่นนั้นเขา,กองกำลังของเผ่าเฉวียนหยงที่บุกเข้ามาในกำแพงป้องกัน,และตอนนี้อีกไม่กี่วันจะต้องยกทัพมาถึงตำหนักจักรพรรดิ,และคงจะเป็นสงครามอย่างแน่นอน.

เหล่าผู้นำอาณาจักร,แม่ทัพขุนพลต่างๆ,ตอนนี้อยู่ในสภาวะทำอะไรไม่ถูก,ประชาชนทั่วอาณาจักรเองเต็มไปด้วยท่าทางขวัญหนีดีฝ่อ,รับรู้ได้ว่าอันตรายกำลังใกล้เข้ามาแล้ว.

ในเลานี้.

ที่หอการค้าปาฏิหาริย์เมิ่งชิงอู๋ได้นำฉู่เทียนกลับมาแล้ว,นางที่ได้รับการชื่นชมอย่างมากจากอาณาจักรหนานเซี่ย,ไม่เพียงแต่เป็นสาวงามอันดับหนึ่งของอาณาจักรหนานเซี่ย,ฉู่เทียนและเมิ่งชิงอู๋ยังเป็นคนสุดท้ายที่ปกป้องราชาหนานเซี่ย,เมื่อป้อมปราการด่านหน้าแตก,คนทั้งสองแทบจะพบกับโชคร้ายมากกว่าโชคดี.

ไม่มีใครคาดคิดว่าเมิ่งชิงอู๋นั้นจะยังสามารถรอดชีวิตกลับมาได้.

เมิ่งชิงอู๋ที่มีชีวิตรอดกลับมา,ทว่าก็ยังไม่สามารถวางใจได้,สภาพของนางที่โชลมไปด้วยโลหิตและดินโคลน,ผมของนางที่ยุ่งเหยิงพะรุงพะรัง,ใบหน้าของนางที่ซีดผอมและขาวซีดเต็มไปด้วยความอ่อนแอ,แทบจะไม่สามารถทรงตัวได้,เห็นได้ชัดเจนว่าที่ขาของนางเองก็ได้รับบาดเจ็บมาด้วย.

ส่วนสถานการณ์ของฉู่เทียนนั้นย่ำแย่อย่างที่สุด,ตอนนี้ยังไม่ได้สติเลย,นอกจากนี้สัญญาณชีพก็ยังอ่อนแอเป็นอย่างมาก.

"ท่านพี่,ฉู่เทียน!"

เมิ่งหยิงหยิงและหนานกงหยุนพร้อมกับคนอื่น,ที่เป็นกังวลเป็นอย่างมากเมื่อได้รับข่าว,เมื่อพวกนางเห็นพวกเขากลับมาได้,ก็เร่งรีบออกไปรับในทันที.

"ข้ากลัวว่าจะตายตามท่านไปแล้ว!"ดวงตาทั้งสองข้างของเมิ่งหยิงหยิงที่ชุ่มไปด้วยน้ำตา,นางเข้ากอดเมิ่งชิงอู๋แน่น,"ท่านพี่เป็นคนที่สำคัญที่สุดของหยิงหยิง,หากท่านไม่อยู่แล้ว,ข้าจะอยู่ต่อไปได้อย่างไร!"

เมิ่งชิงอู๋ที่ตบไปที่หลังของเมิ่งหยิงหยิงเพื่อปลอบประโลม,"ข้าเองก็คิดว่าจะไม่ได้กลับมาเจอเจ้าอีกแล้ว,แต่โชคดีที่ฉู่เทียนได้ต่อสู้สุดความสามารถ,ข้าจึงสามารถกลับมาได้,อย่างไรก็ตามฉู่เทียนในตอนนี้ดูไม่ดีนัก..."

หัวใจของเมิ่งหยิงหยิงที่รัดตรึงขึ้นมาทันที,เมื่อเห็นร่างของฉู่เทียนอาบไปด้วยโลหิต,ปกคลุมไปทั่วทั้งร่าง"ฉู่เทียน,เขา? เขาถูกทำร้ายอย่างงั้นรึ? เขาบาดเจ็บได้อย่างไร...."

"ข้าเองก็ไม่รู้!"

ฉู่เทียนที่ไม่ถูกโจมตีเลยแม้แต่น้อย,ทว่าเขาก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส,และบาดแผลที่เขาได้รับในเวลานี้,เมิ่งชิงอู๋แทบจะไม่สามารถบอกได้เลย,ทว่าหลายต่อหลายวันมานี้สัญญาณชีวิตของเขาอ่อนแอลงเรื่อยๆ,บางทีนี้อาจจะสาหัสเกินกว่าที่นางคิด.


"ยังทำอะไรอยู่ล่ะ?หนานกงหยุนที่รับรู้ได้ว่าอาการของฉู่เทียนนั้นหนักหนาทีเดียว"หยิงหยิง,เจ้าไปยังสถาบันวิจัย,เรียกกลุ่มของเหล่าฟู่ให้รีบมาดูอาการของฉู่เทียนเร็วเข้า!"



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น