วันอังคารที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 317 Worry that always died

Miracle Throne Chapter 317 Worry that always died

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 317 ความกังวลของชายชรา


บทที่ 317 ความกังวลของชายชรา



"แม่ทัพใหญ่ท่านเข้าใจผิดแล้ว"ราชาหนานเซี่ยที่หัวเราะออกมาหลายครั้ง"ข้าขอแนะนำคนทั้งสองคนนี้คือฉู่เทียนและเมิ่งชิงอู๋,เป็นประธานและผู้ก่อตั้งหอการค้าปาฏิหาริย์,หากกล่าวถึงหอการค้าปาฏิหาริย์,ไม่ใช่ว่าท่านเองก็รู้จักไม่ใช่รึ?"

ใบหน้าของตงฟางเจวียนที่สั่นไปมา"พวกท่านคือผู้ก่อตั้งหอการค้าปาฏิหาริย์อย่างงั้นรึ?"


ท่าทางของแม่ทัพอาวุโสถึงกับเปลี่ยนเป็นหน้ามือเป็นหลังมือเลยอย่างงั้นรึ?เป็นเรื่องแปลกเป็นอย่างมาก,การโฆษณาของหอการค้าปาฏิหาริย์มาถึงชายแดนรึอย่างไร?ฉู่เทียนเองก็ไม่รู้ว่าเขาจะมีชื่อเสียงขนาดนั้น!

ตงฟางเจวียนที่ถอยหลังหนึ่งกล่าว,ก่อนที่จะแสดงท่าทางเคารพอย่างสุดซึ้งกับพวกเขา.

การกระทำเช่นนี้ทำให้เมิ่งชิงอู๋นั้นรู้สึกเก้อเขินทีเดียว,นี่คือแม่ทัพชาญศึกที่มีชื่อเสียงของอาณาจักรหนานเซี่ยทำไมถึงได้ต้องแสดงความซาบซึ้งกับพวกเขาขนาดนี้กัน?

"ก่อนหน้ากองกำลังของพวกเรา,เกี่ยวกับเรื่องเสบียงอาหารนั้น,นับว่าเป็นเรื่องที่เป็นปัญหาเป็นอย่างมาก.นอกจากนี้เหล่าทหารยังขาดสารอาหารอีกด้วย,ถึงแม้ว่าจะพยายามเติมเต็มอาหารที่ดีที่สุดแต่ก็ยากที่จะช่วยสนับสนุนพลังแความแข็งแกร่งต่อร่างกายได้,ซึ่งแน่นอนว่ามันทำให้พลังรบของพวกเราได้ถดถอยเป็นอย่างมาก"ตงฟางเจวียนที่กล่าวออกไปอย่างตรงไปตางมา,ด้วยท่าทางซาบซึ้ง."ตอนนี้ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องสารอาหารและความแข็งแกร่งต่อร่างกายแล้ว,เหล่าทหารของพวกเรานั้นสามารถที่จะทำงานได้ตลอดทั้งวัน,และยังทำให้พวกเขามีความสามารถในการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น,ด้วยอาหารกระป๋องของหอการค้าปาฏิหาริย์นั้นนับเป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ยอดเยี่ยมเพิ่มความสามารถของกองทัพของพวกเรามาก,เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่สนับสนุนความแข็งแกร่งกองทัพของพวกเราได้มากมายทีเดียว!"

เรื่องมันเป็นเช่นนี้นั่นเอง!

ไม่แปลกใจเลยว่าท่าทางถึงได้เปลี่ยนไปเช่นนั้น!

"เรื่องบุญคุณก็นับว่าเป็นเรื่องของบุณคุณ,ป้อมปราการแห่งนี้เหล่าสูไม่สามารถที่จะละเมิดกฏได้."ใบหน้าของแม่ทัพอาวุโสก็หันกลับไปในทันที,ก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถให้พลเรือนเข้ามาได้,นับว่าเป็นการฝ่าฝืนกฏของทหาร!"

ราชาหนานเซี่ยแทบบ้าแต่ก็ยิ้มออกมา,พร้อมกับบอกกล่าวออกไปอีกครั้ง"ท่านลุง,ท่านคิดว่าราชาเช่นข้าเป็นคนที่เลอะเลือนขนาดนั้นเลยรึ? ข้าที่เดินทางมากไกลถึงเพียงนี้จะมาสร้างปัญหาให้กับป้อมปราการแห่งนี้ได้อย่างไร,แน่นอนว่ามันมีเหตุผลอยู่,เอาเป็นว่าข้าจะให้ต้าเซวจื่ออธิบายเรื่องนี้ให้กับท่านฟังก็แล้วกัน."

ตงฟางเจวียนที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย.

มีเหตุผลจริงๆรึ?

ตงฟางเจวียนนั้นไม่ได้รู้จักกับกู่เซียนชิวเท่าใดนัก,ทว่าก็ชื่อชมชื่อเสียงของต้าเซวจื่อผู้นี้ดี,เขาตระหนักได้ว่าคนผู้นี้เป็นเสาหลักของอาณาจักรแห่งนี้,อาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากเขามากมายนัก.

กู่เซียนชิวที่เห็นท่าทางดื้อร้นของแม่ทัพผู้นี้,ก็อดไม่ได้ที่จะมีอารมณ์อยู่เหมือนกัน"เรื่องที่จักรพรรดิอู๋อานเดินทางไปยังรัฐซังนั้น,ท่านแม่ทัพคงจะได้ยินมาอย่างแน่นอน."

"แน่นอนว่าข้าได้ยินมา,จักรพรรดิอู๋อานได้นำกองทัพออกไป,เพื่อที่จะเข้าจู่โจมจัดการเผ่าเฉวียนหยงไม่ใช่รึ? ไม่เพียงแต่นำกองกำลังออกรบหลายสิบครั้งแล้ว,ทุกครั้งก็กลับมาพร้อมกับชัยชนะได้ในทุกครั้ง!"

"ราชาเองก็คิดเช่นนั้นเช่นกัน!"กู่เซียนชิวที่ได้โอกาสพร้อมกับกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ดังชัดเจน"จักรพรรดิอู๋อานคงจะนำชัยกลับมาในไม่นานนี้,เมื่อถึงเวลานั้นองค์ราชาก็จะทำการเตรียมทัพเพื่อบุกเผ่าเฉวียนหยงทางภาคเหนือต่อ!"

"อะไรนะ?เตรียมตัวบุกภาคเหนือ!"ตงฟางเจวียนที่ดูฉีดเลือดไก่ขึ้นมาในทันที,ใบหน้าตกกระสีดำที่หยาบกร้านตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสีม่วงขึ้นมาทันที"จริงรึ? ถึงเวลาแล้วอย่างงั้นรึ? เผ่าเฉวียนหยงที่เกิดสงครามภายในอยู่,หากว่าได้รับความกดดันจากภายนอกเข้าแล้วล่ะก็,พวกมันย่อมไม่สามารถรวมพลังกันได้,ตอนนี้การจะพิชิตดินแดนภาคเหนือจึงเป็นเรื่องที่จะรอช้าไม่ได้?"

ราชาหนานเซี่ยที่พยักหน้าเล็กน้อย"ด้วยความแข็งแกร่งของกองกำลังของพวกเราในเวลานี้,การจะบุกเข้าโจมตีเผ่าเฉวียนหยงนับว่าเร็วจนเกิดไป,ทว่าอาณาจักรหนานเซี่ยของเราตอนนี้ไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว,พวกเรามีหอการค้าปาฏิหาริย์!"

ตงฟางเจวียนถึงกับฮึกเหิมขึ้นมาด้วยเช่นกัน.

หากราชาหนานเซี่ยกล่าวว่าจะโจมตีเผ่าเฉวียนหยงก่อนนี้สามสิบปี,ตงฟางเจวียนต้องห้ามแน่นอน,เพระว่าความแข็งแกร่งของอาณาจักรหนานเซี่ยนั้นยังไมเพียงพอที่จะบุกเผ่าเฉวียนหยง.

วันนี้อาณาจักรหนานเซี่ยที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน,จักรพรรดิอู๋อานเองก็มีความสามารถเพียงพอที่จะพิชิตภาคเหนือได้.

ราชาหนานเซี่ยรุ่นแรกนั้นต้องการที่จะเข้าโจมตีเผ่าเฉวียนยหง,แทบจะเป็นการกำหนดชะตากรรมนี้เอาไว้แล้ว,หากแต่ไม่สามารถที่จะระบุเวลาได้,อาจจะอีกสิบปี,อาจจะ 20 ปีหลังจากนี้,


แม่ทัพเก่าแก่ของอาณาจักรหนานเซี่ยเช่นเขา,หวั่นเกรงยิ่งนักว่าจะไม่มีโอกาสนั้น,แม่ทัพที่จวนจะปลดอายุ,เขานั้นไม่เคยเสียใจเลยที่ต้องมาประจำการที่ป้อมปราการแห่งนี้,คอยปกป้องเผ่าเฉวียนหยงมาตลอด 50 ปี,ได้แต่คาดหวังว่าสักวันจะได้นำทัพออกไปยังแนวหน้า.

เป็นความปรารถนาสูงสุดของตงฟางเจวียนที่ต้องการนำทัพบุกดินแดนทิศเหนือ,เขาที่ต้องการที่จะตายในสนามรบเพื่อทวงคืนทุ่งหญ้าเฉวียนหยงกลับคืนมา.

ตอนนี้โอกาสที่ใฝ่ฝันนั้นได้ปรากฏออกมาแล้ว,จะไม่ทำให้ตงฟางเจวียนนั้นดีใจประหลาดใจได้อย่างไรกัน?

แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความฮึกเหิมก็ตามที,ทว่าความร้ายกาจของเผ่าเฉวียนหยงทหารผ่านศึกเช่นเข้านั้นรู้ดี,เขาที่ไม่ได้ต้องการเกียรติยศซื่อเสียง,และไม่ได้มีพลังที่มากมายเทียบเท่ากับจักรพรรดิอู๋อาน,ทว่าด้วยการต่อสู้มากมายนับไม่ถ้วนกับเผ่าเฉวียนหยงตลอด 50 ปีนั้นทำให้เขาเข้าใจความลึกลับและความแข็งแกร่งเผ่าเฉวียนหยงมากกว่าใครๆ.

ทุ่งหญ้าเฉวียนหยงที่มีหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเวลา,ไม่มีใครสามารถมองเห็นกองกำลังที่แท้จริงของพวกมันได้,ถึงอาณาจักรหนานเซี่ยจะแข็งแกร่งขึ้น,ที่จริงแล้วก็ยังเป็นอาณาจักรเล็กๆเท่านั้นเอง.

ในอดีดที่ผ่านมาอาณาจักรต้าเซี่ยที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมากยังต้องถูกทำลายลงจนย่อยยับ.

อาณาจักรหนานเซี่ยเวลานี้เตรียมที่จะบุกยึดดินแดนภาคเหนือจริงๆนะรึ?

กู่เซียนชิวเองก็ดูเหมือนว่าจะสามารถเห็นท่าทางของทหารเฒ่าผู้นี้ได้,เมื่อเห็นตงฟางเจวียนที่ได้แต่นิ่งเงียบ,แน่นอนว่าคงจะกำลังรู้สึกขัดแย้งในใจตัวเองอยู่,จึงได้เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล"ที่บอกว่าเกี่ยวข้องกับหอการค้าปาฏิหาริย์นั้น,เกี่ยวกับความลับมากมาย,การที่จะกล่าวออกมานั้นไม่สะดวกนัก,ไว้มีโอกาสข้าและเหนือหัวจะบอกกล่าวต่อท่านเอง,ข้าบอกได้ง่ายๆว่าการเดินทางในครั้งนี้นั้นมีเป้าหมายอยู่!"

ความลับอย่างหนึ่งนั้นแน่นอนว่าคืออาวุธพลังเวทย์.

เรื่องดังกล่าวนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากเกี่ยวข้องกับกลยุทธ์ทางการทหาร,นับว่าเป็นไพ่ตายที่มีอยู่,ในเวลานี้ไม่สะดวกที่จะเปิดเผยออกมา,ราชาหนานเซี่ยเองก็ได้กำชับเอาไว้แล้ว,เขาย่อมไม่กล้าที่จะกล่าวถึงแน่นอน.

กู่เซียนชิวที่กล่าวออกมาด้วยเสียงดังฟังชัด"หอการค้าปาฏิหาริย์ที่ต้องเดินทามายังป้อมปราการหน้านั้นมีเทคโนโลยีใหม่ที่ต้องมาติดตั้ง,เป็นเทคโนโลยีในการรับส่งข้อความในทันที...."

เมื่อกู่เซียนชิวเริ่มอธิบาย.

ร่างกายของตงฟงเจวียนกำลังสั่นสะท้านด้วยความตื่นตะลึง.

จริงๆรึ?ในโลกนี้มีเทคโนโลยีที่ลึกลับขนาดนี้เลยรึ?!
 หากว่าหอการค้าปาฏิหาริย์ทำเช่นนั้นล่ะก็,ด้วยการสื่อสารดังกล่าวนั้นจะทำให้การรบนั้นมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก,ไม่เพียงแต่ทำให้อัตราความสำเร็จในการวางแผนกลยุทธ์มีมากขึ้นยังสามารถทำให้เหล่าหทารมีชีวิตรอดในสงครามมากขึ้นอีกด้วย!

ตงฟางเจวียนนั้นเข้าใจเรื่องเช่นนี้ดี,ในการรบนั้นยังมีสิ่งที่เรียกว่ากลยุทธ์ทางทหาร,การคาดเดาและเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ต่างๆในแนวหน้า,เป็นสิ่งที่สำคัญเป็นอย่างมากในสงคราม.

หากว่าสามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่สนามรบได้อย่างรวดเร็ว,จะสามารถที่จะสอดแนมและเข้าโจมตีได้อย่างรวดเร็วราวกับเสือซุ่มรอเหยื่อ,ด้วยข้อมูลต่างๆทางทหารที่อยู่ในแนวหน้า,หากว่าสามารถสงต่อไปยังตำหนักจักรพรรดิได้ในพริบตา,จะทำสามารถวางกลยุทธ์ทั้งถอยหรือบุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ.

ลดความล้มเหลวที่เกิดจากความล่าช้าของข้อมูลได้!

แน่นอนว่าเพียงแค่ข้อมูลจุดเดียวของสนามรบนั้นไม่สามารถที่จะควบคุมสถานการณ์ของสนามรบได้,แต่หากว่าหากว่ามีเครือข่ายข้อมูลโดยเร็วที่ได้รับพริบตา, แน่นอว่าย่อมสามารถบงการสนามรบได้อย่างแน่นอน!

หอการค้าปาฏิหาริย์ที่นำเทคโนโลยีมาให้กับเปล่าทหาร,ตอนนี้ยังนำเครื่องมือสื่อสารที่ล้ำค่าเข้ามาอีก.

ด้วยความแตกต่างนี้ไม่ต้องบอกเลยว่าจะสามารถช่วยชีวิตเหล่าทหารได้อีกมากเท่าไหร่,ด้วยผลประโยชน์มากมายถึงเพียงนี้,ตงฟงเจวียนซาบซึ่งฉู่เทียนจนไม่สามารถอธิบายออกมาได้เลย!

ฉู่เทียนเผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวล,"แม่ทัพอาวุโส,ตอนนี้พวกเราเข้าไปได้หรือยัง? ท่านควรจะรู้ว่าหากสายไปเพียงแค่หนึ่งนาที,อุปกรณ์ดังกล่าวนั้นก็จะเสร็จช้าไปอีกหนึ่งนาทีเช่นกัน!"

ตงฟงเจวียนที่ชื่นชมฉู่เทียนเป็นอย่างมาก"เหล่าสู หยาบคายแล้ว,เชิญเข้ามาได้เลย,เข้ามาได้เลย!"

พื้นที่ในป้อมปราการนั้นไม่ได้ใหญ่นัก,ทว่าโครงสร้างปิดมิดชิด,มีเพียงแค่ประตูสองแห่ง,ภายในนั้นเป็นกำแพงที่ปิดล้อมแข็งแกร่ง,มีทางเดินยาวลึกเข้าไปด้านใน,เป็นช่องทางที่ทหารสามารถนำพาหนะผ่านเข้าไปได้,ป้อมปราการทั้งห้านั้นเชื่อมต่อกันโดยสมบูรณ์.

ป้อมปราการขนาดใหญ่ทั้งห้า.

ถูกเชื่อมด้วยกำแพงยักษ์กระจายตัวห่างกันออกไป.

กองกำลัง 600,000 ประจำการ,เพื่อป้องกันการโจมตี.

อาณาจักรหนานเซี่ยที่ใช้เวลาในการสร้างหลายสิบปี,มีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,สามารถที่จะปกป้องอาณาจักรแห่งนี้ได้,ฉู่เทียนที่เข้ามายังกำแพงเหล็ก,ก่อนที่จะเตรียมคนหลายคนพร้อมกับกู่เซียนชิว,เริ่มต้นสร้างหอคอยคลื่นแม่เหล็ก,และหอคอยศิลาซ่อนเงา,ตลอดจนหอคอยคลื่นแสงเหนือ,ทั้งสามอย่างไปพร้อมๆกัน.

ฉู่เทียนที่วางแผนในการติดตั้งสถานีกระจายเสียงแบบพิเศษพร้อมกับสร้างลำโพงกระจายเสียง,ในเวลาสำคัญจะต้องรอดพ้นจากการโจมตีแลกการเผาไหม้ได้,ตงฟางเจวียนที่สร้างห้องควบคุมพิเศษ,พร้อมกับจุดที่จะสามารถออกคำสั่งการกระจายเสียงกระจายไปทั่วบริเวณได้อย่างทั่วถึง,แม้แต่ออกไปด้านนอก,ก็สามารถที่จะใช้ในการออกคำสั่งเข้ามาภายในได้,และยังมีการใช้เครื่องบันทึกเสียงอัตโนมัต,เพื่อที่จะรับข้อมูลที่อยู่ภายนอกป้อมปราการได้ด้วย.

หลักจากที่ตงฟางเจวียนที่รู้ความสามารถของสิ่งประดิษฐ์ต่างๆทั้งหมด,แทบจะทำให้เคราของเขากระตุกด้วยความตกใจได้เลย.

ด้วยเรื่องทั้งหมดนั้นได้เติมเต็มความมุ่งมั่นของเขา,วันที่เฝ้าฝัน,ถงขนาดที่เขาได้บอกกว่าว่าแม้ว่าเขาต้องตายก็จะช่วยเหลือฉุ่เทียน,นอกจากนี้ยังได้มอบเหรียญตราอย่างหนึ่งให้กับฉู่เทียน,เป็นเหรียญตราที่ไม่มีใครกล้าที่จะหยุดเขาได้ในสถานที่แห่งนี้.

เวลากลางคืนค่อยๆปกคลุม.

หอการค้าปาฏิหาริย์ที่ยังคงดำเนินงานไม่หยุดหย่อน.

ราชาหนานเซี่ยบนหอคอยที่จ้องมองออกไปรอบๆ,ดวงตาที่คมกริบจับจ้องมองไกลออกไป.

ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว,สรรพสิ่งช่างลึกล้ำ,กว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด,สายลมที่หวีดหวิว,พัดพาความหนาวเย็นเข้ามา,เป็นสัญญาณของตำนานที่กำลังจะถือเกิด.

ราชาหนานเซี่ยที่ดูพึงพอใจ.

เขารู้ดีว่าเขานั้นไม่ใช่ราชาที่โดดเด่นอะไรเลย.

ทว่าก็ใช่ว่าเขาจะไม่สามารถเป็นสุดยอดราชาได้.

ราชาหนานเซี่ยองค์แรกนั้นเป็นคนที่โดดเด่นเป็นอย่างมากทั้งความสามารถและวิสัยทัศน์,เขาได้พยายามมากมายนับไปไม่ถ้วน,พยายามที่จะปลูกฝังความสามารถในการต่อสู้ของประชากร,ไม่ใครที่สามารถทำได้เช่นเขา,เขาที่ต้องการที่จะแย่งชิงแผ่นดินนี้กลับคืน.

นับว่าเป็นความใฝ่ฝันของราชาทุกคนนับตั้งแต่บรรพบุรุษมาแล้ว!

ถึงแม้ว่าจะเป็นราชาที่มีความสามารถทั่วไป,ก็จดจำเรื่องดังกล่าวนี้ได้อย่างขึ้นใจ.

ราชาหนานเซี่ยนั้นถูกเร้าด้วยความรู้สึกนี้มากขึ้นและก็มากขึ้น,หากว่าเขาสามารถกู้คืนแผ่นดินต้าเซี่ยได้แล้วล่ะก็,เช่นนั้นก็จะนับว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่เลยไม่ใช่รึ? ตงฟางเห่าสุดยอดราชาที่จะกลายเป็นคนที่ลูกหลายทุกรุ่นต่างสรรเสริญ,อย่างน้อยที่สุดในมุมหนึ่งของทวีปแห่งนี้,ก็จะมีชื่อของเขาที่จะกลายเป็นตำนาน!

ในเวลาเดียวกันนั้นเสียงไอแค๊กๆที่นุ่มนวลดังผ่านเข้ามา.

วิมานของราชาหนานเซี่ยที่แตกสลาย,ภายในใจรู้สึกขุ่นเคืองอยู่เล็กน้อย,หากแต่เมื่อเขาหันกลับมาพบกับฝ่ายตรงข้าม,ความขุ่นเคืองเหล่านั้นก็หายไปทันที,พร้อมกับกล่าวออกไปว่า"ท่านลุง,มาพบกับข้ามีอะไรอย่างงั้นรึ?"

ตงฟางเจวียนที่ก้าวออกมาช้าๆพร้อมกับกล่าวออกไปว่า"เหล่าสูมีอะไรจะบอกกล่าวต่อองค์ราชา."

ราชาหนานเซี่ยที่ชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย"มีเรื่องอันใด,เป็นความลับอย่างงั้นรึ?"

ตงฟางเจวียนที่เงียบไปซักครู่ก่อนที่จะกล่าวออกมา"บางที คนอย่างหวังเทียนหลงนั้น,ไม่ใช่คนดีนัก!"

"?" ราชาหนานเซี่ยที่รู้สึกประหลาดใจ"จอมพลหวังนั้นเป็นนักรบที่มีชื่อเสียง,จักรพรรดิอู๋อานเองก็ยังมอบรางวัลให้เขา,ข้าเองยังต้องมอบฉายา หยิงหวู่โห่วให้เขา,ทำไมท่านถึงได้กล่าวว่าใช้ไม่ได้ล่ะ?"

ตงฟงเจวียนที่ถอนหายใจยาวหนึ่งครั้ง"จักรพรรดิอู๋อานนั้นสนใจแต่การต่อสู้เพิกเฉยต่อนิสัยใจคอ,นอกจากนี้เขาที่เป็นผู้นำเหล่าแม่ทัพ,ย่อมไม่ได้คลุกคลีกับหวังเทียนหลงเป็นการส่วนตัว,เหล่าสูนั้นแตกต่างไป,คนผู้นี้ดวงตาแพรวพราวเล่ห์เหลี่ยมยิบยับ,หลายสิบปีมานี้,ข้าสามารถเห็นนิสัยใจคอเขาได้ดี."

ราชาหนานเซี่ยที่ขมวดคิ้วแน่น,"หวังเทียนหลงนับเป็นชายหนุ่มที่มีความสามารถทางทหารที่ยอดเยี่ยม,บุคลิกสุขุม,นิสัยถ่อมตน,ไม่เคยร้องขอลาภยศ,เพียงเท่านี้ยังไม่เป็นคนดีอีกรึ?"

ตงฟางเจวียนที่กล่าวต่อ"เหล่านั้นล้วนแล้วแต่เป็นบุคลิกภายนอก,สิ่งที่เหล่าสูเห็นนั้น,เขาที่ไม่ได้เรียกร้องตำแหน่ง,แต่ในใจนั้นเต็มไปด้วยความความทะเยอทะยานเป็นอย่างมาก,เหล่าสูคิดว่าหวังเทียนหลงผู้นี้กำลังปกปิดเรื่องราวบางอย่างเอาไว้,และการจะต้องการเป็นจอมพลแม่ทัพอยู่,ข้าเกรงว่า..."

ราชาหนานเซี่ยที่โบกมือไปมาหยุดเขา"ท่านลุงกล่าวเช่นนั้นมีหลักฐานอย่างงั้นรึ?"

"ข้ายังไม่มีหลักฐาน."

"ตามความเห็นของท่าลุง,เขาไม่คู่ควรที่จะเป็นจอมพลแม่ทัพอย่างงั้นรึ?"

"เกี่ยวกับเรื่องนี้ที่ข้าเป็นกังวล,ผู้เยาว์ของอาณาจักรหนานเซี่ยนั้นยังไม่เคยมีผู้ใดที่ได้รับตำแหน่งจอมแม่ทัพ,และตอนในเวลานี้มันแตกต่างออกไปมาก,ด้วยเทคโนโลยีของฉู่เทียนและหอกาค้าปาฏิหาริย์,ผู้ควบคุมกองกำลังทางบกนั้นไม่จำเป็นต้องมีความสามารถสูงก็ได้."

ราชาหนานเซี่ยที่แสดงท่าทางไม่ค่อยพอใจ.

กำลังต้องการเอ่ยถึงสิ่งใด.

ต้องให้คนธรรมดาไม่ต้องมีความสามารถมาควบคุมกองกำลังป้องกันกำแพงป้องกันรึอย่างไร?สงสัยว่าแม่ทัพอาวุโสคงจะเลอะเลือนจริงๆแล้ว!

ตงฟางเจวียนที่เห็นราชาหนานเซี่ยไม่ถึงพอใจ,ทันใดนั้นจึงได้กล่าวออกไปว่า"เหล่าสูนั้นไมได้อิจฉาคนที่มีความสามารถ,หากว่าหวังเทียนหลางนั้นเชื่อใจได้จริงๆ,เหล่าสูก็ไม่มีเหตุผลที่จะแย้ง,เพียงแต่ว่าคนผู้นี้...."

ราชาหนานเซี่ยที่หัวเราะออกมาเสียงดัง"เอาล่ะ,เอาล่ะ,ท่านลุงคิดมากจนเกินไป,แม่ทัพหวังนั้นเป็นคนสุขุม,ไม่เคยเรียกร้องสิ่งใด,ไม่สนใจในลาภยศ,แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบกับท่านลุงได้,ทว่าก็เป็นคนดีคนหนึ่ง,ตอนนี้อาณาจักรหนนเซี่ยที่ต้องเลือกคนสักคน,ข้าจะเป็นคนเลือกเอง?ส่วนการแต่งตั้งจอมพลแม่ทัพนั้น,ท่านลุงที่ยังคงแข็งแรงอยู่,ยังสามารถที่จะทำงานได้อีกหลายสิบปี,ดังนั้นไม่เห็นจำเป็นต้องกังวลเลย!"

ตงฟางเจวียนที่ต้องการจะกล่าวอะไรออกมา,ทว่าก็เต็มไปด้วยความลังเลใจ

ราชาหนานเซี่ยที่ตอบขัด,"ข้าเองรู้สึกเหนื่อยอยุ่นิดหน่อย,ท่านลุงเองก็ควรที่จะไปพักเหมือนกัน,วันพรุ่งนี้จะได้ข้าไปตรวจสอบป้อมปราการอื่นๆ,เพื่อที่จะได้สร้างขวัญกำลังใจให้กับทหารทุกคน,หลักจากสงครามจบสิ้น,เราค่อยมาคุยเรื่องนี้กันอีกที."


จากนั้น,ราชาหนานเซี่ยที่จากไป.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น