วันพฤหัสบดีที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 312 Urgent military situation

Miracle Throne Chapter 312 Urgent military situation

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 312 สภาวะฉุกเฉินทางการทหาร.


บทที่ 312 สภาวะฉุกเฉินทางการทหาร.



รูปแบบของปืนนั้นไม่ใช่ปืนกลแบบปรกติทั่วไป,แต่เป็นการออกแบบพิเศษของรังกระสุนที่มีการบรรจุพลังงานผนึกเข้าไปกับหมุดกระสุน,หมุดกระสุนนั้นเป็นวัตถุดิบที่สร้างมาจากโลหะหยินโลหิตที่มีลักษณะพิเศษ,มีคุณสมบัติไม่สนใจพลังป้องกันระดับปลุกดวงจิตใดๆ,สามารถที่จะทะลวงเกราะป้องกันเข้าไปสร้างความเสียหายโดยตรงได้ซึ่งเป็นโลหิตที่เขาได้มาจากวิหารโลหิตสีชาดนั่นเอง.


หมุดแต่ละชิ้นนั้นฉู่เทียนได้หลอมขึ้นมาด้วยตัวเอง,ทำให้มีความแหลมคมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน,และยังมีการสกัดกลั่นพิษของแมงป่องอสรพิษเข้าไปอีกด้วย.เพิ่มความสามารถของหมุดดังกล่าวให้ทรงประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก.

"หยุดมือ!"

จักรพรรดิอู๋อานที่ยกมือขึ้น.

เกิดเป็นกระบี่ยักษ์สีแดงโลหิต,พุ่งทะลวงหล่นลงมาจากท้องฟ้า,ก่อนที่จะหมุนวนรอบร่างของหวังเทียนหลง.

พร้อมกับผลักร่างของศพทมิฬที่กำลังรุมกระทืบหวังเทียนหลงให้กระเด็นถอยออกไปหลายสิบจ้างทีเดียว,ก่อนที่พวกมันจะหยุด,จักรพรรดิอู๋อานที่ทำการแยกทั้งสองฝั่งออกมา,พร้อมกับนำร่างของหวังเทียนหลงขึ้นมาจากหลุมและนำมาวางไว้ด้านหน้า,การต่อสู้และแพ้ชนะได้ตัดสินกันแล้ว,ไม่จำเป็นต้องปล่อยให้ดำเนินการต่อไปอีก.

"ฉู่เทียนชนะ!"

ฉู่เทียนที่หัวเราะออกมาหลายครั้ง"ยอมให้ข้าชนะ,ท่านยอมให้ข้าชนะ,หยิงหวู่โหว่,...แต่ตามข้อตกลง,ท่านไม่สามารถจะใช้ฉายานี้ได้อีกต่อไปแล้ว,งั้นข้าจะเรียกท่านว่า จอมพลหวัง ถึงจะถูก,ขอบคุณจอมพลหวังที่ปราณี."

หวังเทียนหลงตอนนี้หน้ามืดแทบสิ้นสติ.

"ฮ่า ฮ่า!"หนานกงหยุนที่เผยยิ้มออกมาอย่างเฉิดฉายพร้อมกับกล่าวออกมาเสียงดัง"การเดิมพันนี้เป็นจอมพลรับปากด้วยตัวเอง,ราชาหนานเซี่ยและจักรพรรดิทั้งสามต่างก็เป็นพยาน,ตระกูลหวังคงจะไม่กลับคืนคำหรอกนะ?!"

ใบหน้าของคนตระกูลหวังถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีดและดำมืดสลับกัน.

การได้รับการแต่งตั้งให้เป็นโหวที่เกิดขึ้นในวันนี้,และยังถูกริบกลับคืนในวันเดียวกัน,เรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้คงเพียงพอที่จะทำให้คนทั่วทั้งอาณาจักรหนานเซี่ยหัวเราะไปทั้งแผ่นดิน,ไม่ต้องเอ่ยถึงหวังเทียนหลงและคนของตระกูลหวังที่ต้องอับอายขายหน้า,นอกจากนี้ความอับอายนี้ย่อมไม่สามารถที่จะชำระล้างออกไปได้เลย!

ด้วยแผนการที่ล้ำลึกของราชาหนานเซี่ยที่ทำการประทานตำแหน่งโหว หยิงหวู่โหวในครั้งนี้,ก็เพื่อที่จะกำราบความยโสของฉู่เทียน,ไม่ให้ฉู่เทียนได้อหังการเกินหน้าเกินตา.

ท้ายที่สุด?

หยิงหวู่โห่วที่ไม่สามารถแต่งตั้งได้,ยังทำให้ชื่อเสียงตกต่ำลงด้วย.

ฉู่เทียนในวันนี้จะมีชื่อเสียงที่ก้าวข้ามหยิงหวู่โหวมากมายหลายเท่า,จนสามารถที่จะกลบกลืนชื่อเสียงของโห่วผู้นี้ให้หายไปเลย? คนผู้นี้ยากที่จะจัดการไปซะแล้ว,ไม่มีทางเลยที่ราชาหนานเซี่ยจะควบคุมได้,หากว่าเป็นเช่นนี้ในอนาคตจะสั่นคลอนตระกูลราชวงศ์ขนาดใหนกัน?

เหวินเฉิงนั้นสามารถที่จะตระหนักได้ถึงความคิดของราชาหนานเซี่ยได้ดี"การพ่ายแพ้ของหยิงหวู่โหวในครั้งนี้,ไม่ใช่พ่ายแพ้ต่อความแข็งแกร่ง,แต่เพราะประมาทคู่แข่งขันมากจนเกินไป,การชนะของฉู่เทียนเอง,ก็ใช่ว่าชนะด้วยพลัง,แต่เป็นเพราะด้วยความรู้ความสามารถช่วยเหลือ, หยิงหวู่โหวนั้คือฉายาของทหารผู้เกรียงไกร,จึงเป็นฉายาเฉพาะ,ยังไม่เหมาะสมกับตระกูลหวังในครั้งนี้,ตัวข้าจึงขอเสนอยึดคืนฉายาดังกล่าวกลับคืนมาก่อน,จนกว่าจะมีการพิจารณาใคร่ครวญอย่างดีอีกครั้ง,ค่อยกลับมาแต่งตั้งเฟิงโห่วในครั้งต่อไป!"

轻敌 ความหมายคือ (qīng dí)ประมาทข้าศึก


"ข้าเองก็มีความคิดเหมือนกับจักรพรรดิเหวินเฉิงเช่นกัน."ใบหน้าของราชาหนานเซี่ยที่ดูครุ่นคิดกล่าวออกมา"จอมพลหวังที่เป็นกองกำลังทัพหน้าที่ชาญศึก,ท่านจะประมาทศัตรูง่ายเช่นนี้ได้อย่างไร? จงจดจำเรื่องครั้งนี้เป็นบทเรียนให้ดี!"

หวังเทียนหลงที่เร่งรีบคุกเข่าอย่างเคารพ"ขอบคุณองค์ราชาที่สอนสั่ง!"

ฝั่งคนของฉู่เทียนรู้สึกไม่พึงพอใจอยู่เช่นกัน.

เห็นได้อย่างขัดเจนว่าชายคนนี้ยังมีโอกาสได้รับตำแหน่งโหวเยว์,เพียงแต่ตอนนี้เลื่อนออกไปก่อนเท่านั้นไม่ใช่รึ?

อย่างไรก็ตามด้วยความเห็นของราชาหนานเซี่ยเช่นนี้,ไม่เพียงแค่จักรพรรดิอู๋อานและจักรสุริยันต์แผดเผาก็ยากจะคัดค้าน,ต้าเซวจื่อเองก็คงทำได้แต่ยอมรับ.

การได้เป็นเฟิงโหวเองก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ,จะให้ยกเลิกไปง่ายๆได้อย่างไร?

นี่ไม่เพียงแต่จะเป็นเรื่องที่จะสั่นสะเทือนไปทั้งราชสำนักยังเกี่ยวข้องกับประชาชนจำนวนมากตระกูลหวังเองก็นับว่าเป็นตระกูลที่สำคัญของตำหนักจักรพรรดิ,ซ้ำยังเป็นตระกูลราชวงศ์เก่า,มีประวัติศาสตร์ยาวนาน,สิบปีมานี้มีชื่อเสียงทางการทหารที่มากมาย,ถึงจะพ่ายแพ้การเดิมพันในครั้งนี้,ตระกูหวังเองก็ยังมีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย,ไม่มีทางที่ที่ราชาหนานเซี่ยจะกระทำการไม่ดีต่อพวกเขาได้? ถึงจะไม่สามารถแต่งตั้งโหวได้ในตอนนี้,อย่างน้อยก็ชะลอเอาไว้ก่อนได้,อย่างน้อยที่สุด ก็สามารถที่จะรักษาหน้าตาให้กับฉู่เทียนได้บ้าง.

"การต่อสู้ในครั้งนี้,ทำให้ราชาเช่นข้าได้เปิดหูเปิดตา,เซวซือฉู่ควรค่าแล้วที่จะเป็นผู้เยาว์แห่งปาฏิหาริย์,ดังนั้นข้าจะมอบยาทิพย์ จิตวิญญาณสิบหีบ,ยาทิพย์อีก 10 กล่อง,พร้อมกับทองคำ 12,000 ชั่ง!"

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าฉู่เทียนนั้นจะพึงพอใจกับผลที่ได้หรือไม่,ความเห็นของราชาหนานเซี่ยในครั้งนี้ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะแก้ไขอะไรได้แล้ว,ดังนั้นจึงทำอะไรไม่ไดนอกจากยอมรับเท่านั้น.

จักรพรรดิทั้งสามเองก็แสดงท่าทางสนับสนุนความเห็นดั่งกล่าวเช่นกัน,ในเวลานี้,คงทำได้เพียงเท่านี้.

ขณะที่ผลสรุปของการแข่งขันดังกล่าวนี้กำลังจะจบสิ้นไปนั้น.

ทันใดนั้น,บนท้องฟ้าก็เกิดเสียงดังกึกก้องส่งเสียงหวีดหวิวผ่านเข้ามา.

นักรบซีจิวที่พุ่งผ่านตำหนักพุ่งลงมาจากท้องฟ้าอย่างรวดเร็วก่อนที่จะลงมาจากหลังซีจิวพร้อมกับพุ่งออกมาคุกเข่าลงอย่างรุนแรงต่อราชาหนานเซี่ยด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ"เรียนองค์ราชา,สถานการณ์เร่งด่วน!"

ราชาหนานเซี่ยและสามจักรพรรดิที่ดูตื่นตะลึง,พร้อมกับกล่าวออกมาพร้อมกัน.

"รายงาน!"

องค์รักษ์ซีจิวที่ยืนรายงานไปข้างหน้า"นี่คือรายงานจากหน่วยสอดแนม,กองกำลังของเผ่าเฉวียนหยงจำนวนหนึ่ง,ตอนนี้สงสัยว่ากำลังเดินทางตรงไปยังรัฐซัง,จากเส้นทางแล้วเป็นที่น่าสงสัยมาก,ขอให้องค์ราชาโปรดตัวสินใจ!"

ราชาหนานเหซี่ยที่ดูลังเลอยู่ชั่วขณะ"มีจำนวนเท่าไหร่?"

เหวินเฉิงขมวดคิ้วกล่าวออกมา"จากเส้นทางของเผ่าเฉวียนหยงแล้ว,พวกมันราวกับว่าต้องการตรงเข้ามายังรัฐซัง,พวกเราควรที่จะเพิ่มกำลังป้องกันของรัฐซังให้มากกว่านี้,ไม่เช่นนั้นแล้วหากรัฐซังตกไปอยู่ในมือของศัตรู,ตำหนักจักรพรรดิของเราถูกแยกให้โดดเดี่ยวบนภาคเหนือ,จำกัดการเคลื่อนไหวของพวกเราไว้."

"ข้าไม่คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น,ที่จริงตำแหน่งของรัฐซังนั้นอยู่ค่อนข้างสูง,และยังลึกเข้ามาอีกด้วย,หากเผ่าเฉวียนหยงต้องการที่จะยึดครองแล้วล่ะก็,ก็ยังยากที่จะโจมตีสำเร็จ,นี่เป็นเพียงแค่ร่องรอยการเคลื่อนไหวเท่านั้น,อาจเป็นเพียงแค่กองกำลังเคลื่อนที่เร็วที่ไม่ได้มีจำนวนมากมายนัก,หรือเป็นเพียงแค่ชนกลุ่มย่อมของกองทัพพวกมันเท่านั้น"จักรพรรดิอู๋อานที่ครุ่นคิด,"ข้าสังสัยว่าเป็นการตบตาอย่างหนึ่งของพวกมันเท่านั้น,เป้าหมายที่แท้จริงของพวกมันนั้นก็คือฟาร์มสัตว์อสูรของรัฐซังต่างหาก!"

ทุกคนต่างจับจ้องมองเป็นตาเดียวกัน.

ร่างกายของหลายคนถึงกับสั่นเลยทีเดียว.

รัฐซังนั้นเป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์อสูรที่มีชื่อเสียงที่สุดของอาณาจักรหนานเซี่ย,มีสัตว์ขี่มากมายหลายแสน หลายล้านตัวที่ถูกฝึกให้กับเหล่าทหารเคลื่อนที่เร็ว,เกือบทั้งหมดนั้นมาจากรัฐซัง,หากว่าฟาร์มดังกล่าวถูกเผ่าเฉวียนหยงทำลายแล้วล่ะก็,นับว่าเป็นผลลัพที่ย่ำแย่เป็นอย่างมากแน่นอน,และจะทำให้ประสิทธิภาพของทหารเคลื่อนที่เร็วของอาณาจักรหนานเซี่ยลดลง,ท้ายที่สุดก็จะเป็นประโยชน์ต่อเผ่าเฉวียนหยงนั่นเอง.

การเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้นับว่าเป็นกลยุทธ์ตัดไฟแต่ต้นลมที่ร้ายกาจมาก.

ราชาหนานเซี่ยถึงกับเดือดพล่าน"ทัพหน้าที่เพิ่งถอยกลับมา,เผ่าเฉวียนหยงก็เคลื่อนไหวเลยรึ? พวกมันดูเหมือนว่ากำลังกระวนกระวายอยู่!"

"เรื่องดังกล่าวนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องง่าย."จักรพรรดิอู๋อานที่เผยท่าทางเป็นกังวล"เผ่าเฉวียนหยงผ่านมาหลายปีไม่เคยบุกเข้าโจมตีเลยแสดงว่าอาจจะวางแผนที่จะบุกเข้าโจมตีอาณาจักรหนานเซี่ยครั้งใหญ่ในครั้งนี้ก็เป็นได้."

การเคลื่อนไหวทางการทหารในครั้งนี้,เป็นไปได้ว่าจะมีการวางแผนล่วงหน้าเอาไว้นานแล้ว.

ผ่านมาหลายต่อหลายปีแล้ว,เผ่าเฉวียนหยงได้กลับมารวมกลุ่มกันอีกครั้งพร้อมกับเตรียมรุกราน,ในความเป็นจริงแล้วนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่ดีทีเดียว,การโจมตีดังกล่าวนี้ได้แตกต่างไปจากเดิมเป็นอย่างมาก,ดูเหมือนว่าเผ่าเฉวียนหยงนั้นต้องการที่จะเข้าโจมตีรัฐซังก่อน,เป็นการทำลายฐานความแข็งแกร่งของอาณาจักรหนานเซี่ย.

เขตแดนหวังหยีนั้นนับว่าเป็นใจกลางของอาณาจักรหนานเซี่ย,จึงเป็นเขตแดนที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.

ซ้ำยังมีสามจักรพรรดิและหนึ่งราชาป้องกัน,มีทหารพื้นราบเป็นจำนวนถึงหนึ่งในสามทั่วทั้งอาณาจักร,และยังมีกองกำลังไพ่ตายที่มีชื่อเสียงอีกมามาย ต่างก็รวมตัวอยู่ในเขตอาณาเขตหวังหยี,หากจะกล่าวแล้วล่ะก็กำลังรบ 80 เปอร์เซ็นต์นั้นได้รวมอยู่ในเขตแดนหวังยีทั้งหมด,จึงทำให้เขตแดนดังกล่าวนี้หลายสิบปีไม่สามารถบุกเข้ามาได้นั่นเอง.
 
ในเมื่อการบุกอาณาเขตหวังหยีไม่เป็นผล.

จึงทำให้เผ่าเฉวียนหยงเล็งเป้าไปยังรัฐซังที่อยู่ใกล้ๆแทน.

เผ่าเฉวียนหยงที่มีกันอยู่หลายเผ่านั้น,หลังจากที่ราชันย์แห่งเขี้ยวได้ตายลง,ตลอดสิบปีนี้พวกมันก็เกิดสงครามภายในมาตลอด,แต่ละเผ่าต่างก็ห้ำหั่นแย่งชิงอำนาจกัน,ทำให้ไม่สามารถที่จะรวมกำลังกลายเป็นกองกำลังขนาดใหญ่เทียบกับเมื่อก่อนได้.

ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าอาณาจักรทุ่งหญ้าเฉวียนหยงตอนนี้กำลังแตกแยก,ถึงจะเป็นเผ่าเฉวียนหยงเมื่อทุกเผ่ารวบรวมกันก็ยังยากที่จะบุกทะลวงตำหนักจักรพรรดิได้,ทำให้ทางเลือกของพวกมันตอนนี้จึงคิดที่จะบุกทะลวงรัฐซัง,เพื่อที่จะแยกเขตแดนหวังหยีออกมา,แบะตัดกำลังและทรัพยากรสนับสนุนนั่นเอง.

ดังนั้นการยกทัพเตรียมบุกรัฐซังในครั้งนี้,จึงนับว่าเป็นแผนการขั้นแรก.

แน่นอน,ราชาหนานเซี่ยและสามจักรพรรดิเองก็ไม่ได้กังวลมากนัก.

เรื่องเช่นนี้จริงๆยากที่จะทำได้สำเร็จ,อาณาจักรหนานเซี่ยตอนนี้ไม่ได้มีปัญหาภายใน,สถานการณ์การเมืองในตอนนี้ก็นับว่ามันคง,เผ่าเฉวียนหยงที่เพิ่งรวมตัวกันได้ขั้นตน,หลังจากที่เกิดสงครามภายในมายาวนาน,ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในตอนนี้อาจจะไม่ได้มั่นคงเหมือนอย่างที่เคยเป็นแน่นอน.

บางทีนี่อาจจะเป็นยุทธ์ศาตร์ในระยะยาวในร่วมมือกันเพื่อแก้ไขปัญหาความวุ่นวายภายในอยู่ก็เป็นได้.

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเผ่าเฉวียนหยงจะทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จ,ก็ใช่ว่าจะสามารถตัดพื้นฐานความแข็งแกร่งของอาณาจักรหนานเซียไปได้,ที่จริงอาจจะไม่ได้มีผลที่จะช่วยให้พวกมันสามารถโจมตีอาณาจักรหนานเซี่ยได้สำเร็จอยู่แล้ว.

"มาก็ดี!"ราชาหนานเซี่ยที่ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะพร้อมกับชกฝ่ามือตัวเองด้วยท่าทางคับแค้นใจ"รวบรวมจอมพลทั้งหมดในทันที,วางแผนในการโจมตีเผ่าเฉวียนหยง,พวกเผ่าเฉวียนหยงเร่ร่อนเหล่านี้,แม้ว่าจะมีข้อมูลของเหวินเฉิง,อย่างไรก็ตามทุ่งหญ้าเฉวียนหยงก็กว้างขวางไร้ที่สิ้นสุด,ไม่มีทางที่จะสามารถระบุตัวพวกมันได้ง่ายๆ,ในเมื่อมันรวมกองกำลังใหญ่โตเข้ามาเอง,นับว่าเป็นเนื้อชิ้นใหญ่,ที่ราชาอย่างข้าจะต้อนรับพวกมัน!"

"องค์ราชา!"หวังเทียนหลงที่ได้ยินคำพูด,พร้อมกับคุกเข่าลงในทันที"กองกำลังมังกรสงครามใคร่ขอออกไปรบในครั้งนี้.

"เจ้าได้รับบาดเจ็บในครั้งนี้,ทางที่ดีรักษาตัวให้ดีก่อน,ลำพังการโยกย้ายกองกำลังมังกรสงครามจากแนวหน้านั้นไม่สามารถทำได้ในทันที,เจ้าไม่สามารถที่จะเดินทางไปรัฐซังในครั้งนี้ได้!"

หวังเทียนหลงกล่าวออกมา"ทำไมต้องยึดติดกับกองกำลังใหนด้วยล่ะ? เพียงแค่มอบกองกำลังธรรมดาให้ข้าพร้อมกับขุนพลไม่กี่คนของกองกำลังมังกรสงคราม,ข้ามั่นใจว่าจะสามารถจัดการกับเผ่าเฉวียนหยงที่บุกเข้ามาโจมตีอาณาจักรของพวกเราได้! และบาดแผลเพียงเท่านั้น,ไม่ได้มีความหมายอะไรเลยสำหรับข้า!"

"ฮ่า ฮ่า! แม่ทัพนับว่าเป็นคนที่มุ่งมั่นในความรับผิดชอบจริงๆ,ข้าบอกได้เลยว่าในอีกไม่ช้านี้,จะต้องมีสงครามเกิดขึ้นแน่นอน,รับรองว่าเจ้าจะมีโอกาสในเวลานั้น!"ราชาหนานเซี่ยนั้นไม่เห็นด้วยที่จะให้หวังเทียนหลงออกรบในครั้งนี้"สงครามในครั้งนี้นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ,นี่ถึงเวลาที่ราชาหนานเซี่ยจะออกโรงแล้ว,พวกเราจะทำการวางแผนในการบุกทิศเหนือครั้งใหญ่,ดังนั้นสงครามครั้งนี้จะต้องระมัดระวังอย่างรอบคอบ,ข้าจะให้จักรพรรดิอู๋อานเป็นคนบัญชาการด้วยตัวเองในครั้งนี้!"

หวังเทียนหลงต้องยอมรับด้วยใจจริง.

服气 ความหมายคือ (fú qì)เลื่อมใสศรัทธาด้วยความจริงใจยอมด้วยความจริงใจ


ในเมื่อราชาหนานเซี่ยเอ่ยปากที่จะให้จักรพรรดิอู๋อานเป็นคนคุมทัพด้วยตัวเอง,เขาก็ไม่สามารถที่จะกล่าวอะไรโต้แย้งได้อีกแล้ว.

ทั่วทั้งอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้จะมีใครที่ทรงพลังแข็งแกร่งกว่าจักรพรรดิอู๋อานอีกรึ? ด้วยผู้เชี่ยวชาญทีระดับเขตแดนภูติที่แท้จริง,ก็แทบจะไม่สามารถหากใครต่อกรได้แล้ว,หากว่าเขาเป็นคนนำทัพด้วยตัวเองล่ะก็,ยังไม่โจมตีด้วยซ้ำ,เพียงแค่ชื่อเสียงของเขาก็เพียงพอที่จะสั่นสะท้านเผ่าเฉวียนหยงให้ขวัญหนีดีฝ่อไปแล้ว.

"จักรพรรดิทั้งสาม,กลับไปตำหนักพร้อมกับข้า,พวกเราจะทำการประชุมวางแผนกลยุทธ์กัน."ราชานหนานเซี่ยก่อนที่จะกล่าวต่อคนอื่นๆ"วันนี้แยกย้ายกันได้แล้ว!"

ราชาหนานเซี่ยและจักรพรรดิทั้งสามก็จากไป.

เหล่าคนของฉู่เทียนเองก็กลับหอการค้า,ทุกคนเองต่างรู้สึกไม่เบิกบานแม้แต่น้อย,ฉู่เทียนที่สงสัยจึงได้ถามออกมา"พวกเจ้ามีอะไรต้องกังวลกัน? ชายคนนั้นก็ได้รับการสั่งสอนแล้ว,ตำแหน่งโหวเยว์ก็ถูกริบคืน,ราชาหนานเซี่ยตอนนี้ที่คิดการใหญ่,เตรียมตัวที่จะยึดเขตแดนภาคเหนือทั้งหมด,เขาไม่โง่พอที่จะทำอะไรแม่ทัพชาญศึกตอนนี้หรอกน่า!"

"พวกเราไม่ได้คิดเช่นนั้นซะหน่อย."เมิ่งหยิงหยิงที่จ้องมองเขม็งไปยังฉู่เทียน"อาณาจักรหนานเซี่ยกำลังจะเกิดภัยสงคราม!"

"แล้วมันอย่างไรเล่า?"

หนานกงหยุนที่แย้งออกมาด้วยเช่นกัน"เจ้าไม่เป็นกังวลหรืออย่างไร? ที่จะต้องเปิดศึกกับเผ่าเฉวียนหยง,หลายร้อยปีที่ผ่านมานั้นอาณาจักรหนานเซี่ยแทบไม่ได้ลืมตาอ้าปากเลย!"

เรื่องสงครามนั้น,นับว่าเป็นหัวข้อที่หนักอึ้งทุกครั้งในหัวข้อสนทนาทั่วไป.

ไม่ว่าจะเป็นใครที่ใหน,ต่างก็ต้องกระวนกระวายใจเป็นเรื่องธรรมดา.

ลำพังต้องเปิดศึกกับเผ่าเฉวียนหยิงที่น่าหวาดกลัว,ทั้งที่หลายสิบปีมานี้ไม่เคยบุกเข้ามา!

ฉู่เทียนที่เกาศีรษะไปมา,ที่จริงเขาที่เพิ่งเดินทางมาถึงตำหนักจักรพรรดิได้ไม่กี่วันเท่านั้น,ตามถนนหนทางก็ยังดูปรกติ,เหล่าเมืองต่างๆภายในเขตหวังหยีหลายต่อหลายเมืองไม่รู้ว่ากำลังเกิดเสียงในขึ้น,มีเผ่าเฉวียนหยงกี่เผ่า,มีประชากรและความแข็งแกร่งเท่าไหร่,มีอาวุธและวัฒนธรรมเป็นอย่างไร,ยังไม่เข้าใจสิ่งใดเลย,ดังนั้นฉู่เทียนจึงไม่คิดที่จะเปิดหรือตัวสินด้วยสงคราม,ซึ่งเป็นสิ่งเป็นสิ่งที่ขัดกับความต้องการของกับราชอาณาจักรแน่นอน.

"พวกเจ้ากังวลจนเกินเหตุ."ฉู่เทียนที่ปลอบใจทุกๆคน"ราชาหนานเซี่ยและสามจักรพรรดิไม่ใช่คนธรรมดา,พวกเขาต่างศึกษาเผ่าเฉวียนหยงอย่างแจ่มแจ้ง,ในเมื่อพวกเขายังไม่กล่าวสิ่งใด,นั่นก็หมายความว่าสงครามในครั้งนี้พวกเขามั่นใจ."
杞人忧天 ความหมายคือ (qǐ rén yōu tiān)กระต่ายตื่นตูม,เป็นกังวลเกินกว่าเหตุ

อาณาจักรหนานเซี่ยนั้นได้พักสงครามมากว่าสิบปีแล้ว,ตอนนี้จึงมีกองกำลังมากมาย.


สิ่งที่สำคัญในตอนนี้,อาณาจักรหนานเซี่ยนั้นแตกต่างไปจากเดิม,ด้วยการก่อสร้างโรงงานอาวุธพลังเวทย์ขึ้นมาแล้ว,ในอีกไม่ช้าก็พร้อมรบเต็มที,เมื่ออาวุธถูกติดตั้งทั้งกองทัพ,ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าเผ่าเฉวียนหยงนั้นจะไม่อยู่ในสายตา,ถึงแม้ว่าจะเป็นทั้งอาณาจักรของพวกมันก็ยากที่จะต้านทานได้.

ด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี,สามารถที่จะสร้างความแข็งแกร่งที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก.

เมิ่งชิงอู๋ที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย,"สงครามคือหายนะและก็เป็นโอกาสอีกด้วย,อย่างน้อยที่สุดราชาหนานเซี่ยนั้นก็ต้องการใช้ประโยชน์พวกเรา,ดังนั้นจึงไม่มาหาเรื่องพวกเราอีกต่อไป,พวกเราก็ควรจะใช้เวลานี้ในการพัฒนาหอการค้าให้ดียิ่งขึ้น!"

เมิ่งหยิงหยิงที่กล่าวต่อฉู่เทียนในทันที"ในอีกทางหนึ่ง,ฉู่เทียนเจ้าไม่สนใจสงคราม!"

"เจ้าถามข้าเพื่ออะไร?"ฉู่เทียนที่รู้สึกสงสัย."ข้าไม่รู้เรื่องกลยุทธ์ทางทหาร,ข้าไม่ชอบควบคุมกำลังพล,รวมทั้งการก่อตั้งกองกำลังทหารเองข้ายังไม่รู้,เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าจะสามารถนำกองทัพออกไปรบหรืออย่างไร?"

เมิ่งหยิงหยิงที่ดูเบาใจ"เช่นนั้นข้าก็เบาใจ!"


หญิงสาวคนนี้กำลังคิดสิ่งใดกัน?!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น