วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 307 Fights the dragon regiment

Miracle Throne Chapter 307 Fights the dragon regiment

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 307 กองกำลังมังกรสงคราม


บทที่ 307 กองกำลังมังกรสงคราม




คนของตระกูลหนานกงถึงกับเปลี่ยนเป็นหินไปในทันที,ดูเหมือนว่าจะไม่สามารถยอมรับการโจมตีดังกล่าวได้,ทว่าราชานหนานเซี่ย,จักรพรรดิอู๋อานและเหวินเฉิงพร้อมกับคนอื่นๆ,ใบหน้าตอนนี้ถึงกับเปลี่ยนเป็นจริงจัง,พวกเขาตระหนักได้ว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้น.


นี่คือวิชาบำเพ็ญอย่างหนึ่ง,ทว่ามันไม่ใช่วิชาลับ!

คนทั้งคู่นั้นใช้พลังในรูปแบบที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง!

วิชาลับนั้นเป็นส่วนหนึ่งของวิชาบำเพ็ญ,เป็นกระบวนท่าเดียวที่แสดงออกมา,ดังนั้นมันจึงไม่สามารถขยายพลังให้เพิ่มขึ้นมาได้สูงนัก,ไม่เพียงเท่านั้นพลังของมันยังขึ้นอยู่กับพลังฝึกตนและระดับของวิชา,วิชาจะแข็งแกร่งขึ้นอยู่กับพลังฝึกตน,และก่อนที่จะใช้วิชาลับเองก็ต้องรวบรวมพลังวิญญาณเข้ามากักเก็บก่อนที่จะใช้ออกไป.

ส่วนวิชาบำเพ็ญหลักนั้นแตกต่างกัน,ด้วยพื้นฐานและการก่อสร้างรากฐานของพลัง,ทำให้วิชาบำเพ็ญหลักนั้นแข็งแกร่งกว่า,พื้นฐานของพลังทรงพลังกว่า,และความแข็งแกร่งของรากฐานก็แข็งแกร่งกว่า,วิชาบำเพ็ญหลักจึงเหนือกว่า,และยังสามารถที่จะเพิ่มพลังขึ้นไม่สิ้นสุด,ไม่มีคอขวดใดๆที่จะฉุดรั้งพลังเอาไว้นั่นเอง.

ยิ่งมีวิชาบำเพ็ญชั้นยอดก็จะทำให้พลังฝึกตนเพิ่มขึ้นและเติบโตได้ดี,และจะยิ่งมีพลังที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นอีกด้วย,ยิ่งมีวิชาบำเพ็ญที่ยอดเยี่ยม,ศักยภาพในการเติบโตก็จะยิ่งสูง,ดังนั้นการเลือกวิชาบำเพ็ญนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก,ทว่าวิชาบำเพ็ญนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้ฝึกด้วย,หากเหมาะสมกับวิชาดังกล่าวแล้วล่ะก็ จะยิ่งกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งและทรงพลังยิ่งขึ้น,หรือหากไม่เหมาะสมล่ะก็จะกลายเป็นพวกอ่อนแอและอ่อนแอลงเรื่อยๆ.

หนานกงหยุนนั้นเป็นเพียงผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 6 เท่านั้นกลับมีพลังทำลายล้างมากายถึงเพียงนี้เลย.

เช่นนั้นหากว่านางก้าวไปถึงระดับปลุกดวงจิตระดับ 9 หรือ มีพลังเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงแล้ว,นางจะมีพลังมากมายเพียงใดกัน?

ทุกคนในตอนนี้ถึงกับหายใจติดขัด,หนานกงหยุนกล่าวว่าวิชาบำเพ็ญดังกล่าวนั้นนางเพิ่งใช้มันได้เป็นครั้งแรก,นั่นก็หมายความว่า <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>เป็นเพียงแค่ระดับทั่วไป กับสามารถที่จัดการกับวิชาสืบทอดของตระกูลหนานกง <<เพลิงผลาญสวรรค์>> ในระดับสมบูรณ์ขั้นสุดได้อย่างงั้นเหรอ,ที่จริงแล้วนี้คือวิชาบำเพ็ญของมนุษย์จริงๆรึ?ราวกับว่ามันเป็นวิชาของเทพอสูรก็ไม่ปาน!

<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>นับเป็นวิชาบำเพ็ญที่ทรงพลังระดับทวีปแห่งนี้เลย,อาจจะนับได้ว่าเป็นวิชาบำเพ็ญที่น่าหวาดกลัวในระดับต้นๆ,ไม่ได้ด้อยไปกว่าวิชาของเหล่าจักรวรรดิขนาดใหญ่ฝึกกันเลย.

ที่จริงแล้วฉู่เทียนเองก็ประหลาดใจไม่น้อย.

ด้วยวิชา<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ซึ่งเป็นหนึ่งในเวลาไม่กี่อย่างที่เขาได้นำมาจากยุคอนาคต,แม้ว่ามันจะไม่ได้ด้อยไปกว่าวิชา <<เก้าเทพอสูรเปลี่ยนร่าง >> แต่ก็นับได้ว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่ยอดเยี่ยมที่พัฒนาแล้วในปัจจุบัน,เป็นวิชาบำเพ็ญที่ฝึกยากเป็นอย่างมาก,ในระยะเวลาอันสั้นๆนั้นยังไม่แม้แต่ที่จะเข้าใจพื้นฐานมันได้เลย.

一朝一夕 ความหมายคือ (yì zhāo yì xī)ระยะเวลาอันสั้น

ก่อนหน้านี้ฉู่เทียนได้สอนวิชานี้ให้กับหนานกงหยุน,เขาไม่ได้หวังว่านางจะสามารถเรียนรู้ได้ในทันที,ตามที่ฉู่เทียนคาดการนั้น,หนานกงหยุนจำเป็นต้องสร้างพลังฝึกตนให้มากกว่านี้ซะก่อน,อย่างน้อยที่สุดที่จะเรียนรู้มันได้,จะต้องอยู่ในเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงเท่านั้น,นอกจากนี้มันยังใช้ทรัพยากรที่น่าสะพรึงกลัว,ถึงแม้จะเป็นหอการค้าปาฏิหาริย์ในเวลานี้ยังไม่เพียงพอที่จะหามันมาได้เลย.

ก่อนหน้านี้เมื่อนางได้ต่อกรกับตงฟางเห่าเหรียน,หนานกงหยุนราวกับว่าตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง,จากนั้นไม่กี่วัน,คาดไม่ถึงเลยว่านางจะเข้าใจมันได้อย่างงั้นรึ?

ลึกล้ำยิ่งนัก!

หนานกงหยุนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับต่ำเพียงแค่ปลุกดวงจิตระดับ 6 เท่านั้น,ไม่คิดเลยว่าจะสามารถที่จะสัมผัสถึงวิชาดังกล่าวได้,แม้ว่าจะไม่ได้ไปถึงสำเร็จขั้นต้นดินแดนขนาดเล็กก็ตาม,ทว่านางก็สามารถที่จะใช้ ทักษะบางอย่างของ<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ออกมาได้,ซึ่งสำหรับฉู่เทียนแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่ไม่อยากเชื่ออยู่เช่นกัน.

เพราะว่ามีภูติวิญญาณเปลวเพลิงระดับพระเจ้า,ดังนั้นจึงสามารถเข้าใจในวิชาบำเพ็ญดังกล่าวได้ง่ายๆอย่างงั้นรึ?

แต่ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยว่าจะสามารถเพิ่มพลังธาตุเปลวเพลิงได้มากมายถึงเพียงนี้!

ถึงจะเป็นภูติวิญญาณระดับพระเจ้า,แต่ <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ก็ยังเป็นเพียงแค่ระดับตระหนักรู้เท่านั้น,พลังของภูติวิญญาณระดับพระเจ้าเองก็ยังไม่ตื่นเต็มทีด้วยซ้ำ,ความเข้มข้นของพลังวิญญาณนั้นไม่น่าจะสูง,ถึงจะครอบครองภูติวิญญาณระดับพระเจ้าอย่างไร,การจะฝึกฝนวิชาบำเพ็ญก็ยากที่จะบอกได้ว่าจะรวดเร็วได้ขนาดนั้น.

ดูเหมือนว่าเรื่องดังกล่าวนี้จะเกี่ยวกับสายโลหิตของตระกูลหนานกงอย่างแน่นอน.

ตระกูลของนางคือผู้สืบทอดแห่งหงส์เพลิง,เพราะว่าบรรพชนของพวกเขานั้นเป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญที่โดดเด่น,ดังนั้นสายโลหิตของพวกเขาจึงมีพลังแฝงที่ทรงพลังอย่างงันรึ?ดูเหมือนว่าหนานกงหยุนจะโชคดีที่สามารถกระตุ้นพลังของสายเลือดออกมาได้,ดังนั้นนางจึงสามารถที่จะฝึกฝน <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>> โชคดีที่แสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้รึอย่างไร?

พรสวรรค์ของหนานกงหยุนช่างสูงเหนือกว่าที่จะจินตนาการจริงๆ!

ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าเหตุผลจะเป็นอย่างไร,หนานกงหยุนก็สามารถตระหนักรู้ได้ในระดับต้นอย่างราบรื่น,เป็นความจริงที่ไม่สามารถเปลี่ยนได้,ฉู่เทียนรับรู้ถึงความร้ายกาจของ <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ดี,หลังจากที่นางฝึกวิชาชุดนี้แล้วล่ะก็,นางจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในคุณสมบัติธาตุเปลวเพลิงที่ร้ายกาจที่สุดในปฐพีทีเดียว.

ตอนนี้หนานกงหยุนที่อยู่ในระดับปลุกดวงจิต,กับสามารถสร้างภูติคุ้มกันเปลวเพลิงได้แล้ว.

พลังของหนานกงเจี้ยนที่แสดงออกมานั้น,เป็นไปไม่ได้เลยที่จะสร้างบาดแผลให้กับนางได้,ซ้ำยังช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับหนานกงหยุนด้วยซ้ำ.

นี่ก็เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น.

หากว่านางฝึกฝนวิชาบำเพ็ญดังกล่าวไปถึงสำเร็จไปถึงระดับสามประสบผลเป็นเอกลักษณ์แล้วล่ะก็.

เช่นนั้นก็จะทำให้นางสามารถต้านทานเปลวเพลิงทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ไม่ว่าจะเป็นเพลิงที่มีความร้อนขนาดใหนก็ตาม,ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าจะเป็นเพลิงทีแข็งแกร่งขนาดใหน,ไม่มีทางที่จะสามารถสังหารหนานกงหยุนด้วยพลังเปลวเพลิงได้,และยิ่งหากว่าฝึกฝนวิชา <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ไปถึงขั้นสุดแล้วล่ะก็,ตราบเท่าที่นางยังมีพลังวิญญาณเหลือ,ร่างกายของหนานกงหยุนก็จะไม่มีวันตายหรือถูกทำลายได้เลย.

แน่นอนว่านี้คือเหตุผลหนึ่งที่ฉู่เทียนได้มอบวิชาดังกล่าวนี้ให้กับหนานกงหยุน!

เมื่อเขาตัดสินใจที่จะสอนวิชาดังกล่าวนี้ให้กับหนานกงหยุน,แน่นอนว่าเขาจะต้องให้ความสำคัญกับนางอย่างแน่นอน,ด้วยวิชาดังกล่าวนี้,เพียงพอที่จะกลายเป็นสุดยอดผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของทวีปแห่งนี้ได้เลย.

หนานกงหยุนที่ล้มหนานกงเจี้ยนอย่างสบายๆ,ทำให้นางใจชื้นขึ้นมาในทันที"ผู้เยาว์ที่เป็นอนาคตของตระกูลเราก็เพียงแค่คนธรรมดา!หากเอาวิชาเหล่านั้นมาเทียบกับ วิชากายานิรันดร์โอบแสงดารา และศาสตร์เทพแห่งนิพาน ที่ร้ายกาจแล้ว,ยังมีใครที่จะห้ามข้าให้ไปฝึกฝนจากภายนอกอีกรึ?"

คนตระกูลหนากงในตอนนี้ถึงกับรู้สึกหมดกำลังใจราวกับถูกค้อนทุบมึนงงไปทันที

หดหู่,หดหู่อย่างลึกล้ำที่สุด.

วิชาสืบทอดจากโบราณของตระกูลหนานกงที่สืบทอดมาหลายร้อยปี,พวกเขาที่ภาคภูมิใจในวิชาลับของพวกเขาเป็นอย่างมาก,ท้ายที่สุดตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ขยะ!"

สายตาของจักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง,ใบหน้าที่จริงจังได้กล่าวออกมาอย่างขึงขัง"นี่คือวิชา <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>> ที่เพิ่งตระหนักรู้ได้จริงๆรึ?"

"ข้าขอบอกกับจักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาถึงท่านจะสนใจวิชาชุดนี้ก็ตาม."ฉู่เทียนที่เดินมาด้านหน้ากล่าวต่อจักรพรรดิสุริยันต์แผดเผา"ถึงข้าสามารถที่จะมอบวิชา<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>นี้ให้ท่านก็ได้,ทว่าถึงท่านต้องการจะฝึกก็ตามที,เงื่อนไขของมันที่จะฝึกได้นั้นจะต้องมีภูติวิญญาณหงเพลิงเท่านั้น,ถึงท่านได้วิชาชุดนี้ไปมันก็ไร้ประโยชน์? ความแข็งแกร่งของวิชาชุดนี้นั้น,หากตกมาอยู่ในอาณาจักรเล็กๆตระกูลเล็กๆนั้น,มีแต่จะนำภัยพิบัติมาให้กับท่าน!"

เป็นความจริงดังที่ฉู่เทียนกล่าว.

จักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาก็เห็นกับตาตัวเองแล้ว.

ขณะที่หนานกงหยุนใช้วิชา<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>นั้นนางสามารถรวมร่างเข้ากับหงส์เพลิงได้กลายเป็นร่างเดียวกัน,สามารถบอกได้ว่าหากไม่ใช่ภูติวิญญาณระดับพระเจ้านั้นไม่สามารถที่จะฝึกฝนได้เลย,และต้องเป็นภูติวิญญาณระดับเพระเจ้าของหงส์เพลิงเท่านั้นถึงจะดีที่สุด,หนานกงหยุนที่เป็นเหมือนกับสวรรค์ประทานมา,ไม่แปลกใจเลยว่าฉู่เทียนถึงให้ความสำคัญกับนางมากเลยทีเดียว.

จักรพรรดิสุริยันแผดเผารับรู้ได้แล้วว่าในอดีตนั้นเขาได้ทำผิดพลาดทำให้ตระกูลหนานกงได้สูญเสียสุดยอดพรสวรรค์ไป.

เพราะว่าการตัดสินใจที่ผิดพลาดในอดีตทำให้พรสวรรค์ที่หายากที่สุดในปฐพีที่ไม่เคยมีมาก่อน,นางที่จะสามารถกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับต้นๆของทวีปได้,อนาคตวันข้างหน้านั้นช่างเจิดจรัสส่องประกายแสงหลายหมื่นเท่า,ตอนนี้ได้ไกลเกินกว่าที่จักรพรรดิสุริยันแผดเผาจะทำอะไรได้แล้ว.

สวรรค์.

สายโลหิตหงส์เพลิงที่มีความแข็งแกร่งไร้ที่สิ้นสุดนั้นกลับมาตื่นขึ้นในร่างของนางนี้เอง!

ลีฮวอโหวนั้นมีความคิดที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง,เขาที่เต็มไปด้วยความคับแค้นใจและโกรธเกรี้ยวอย่างถึงที่สุด"จักรพรรดิ,ผู้สืบทอดรุ่นที่สามที่โดดเด่นที่สุดถูกทำลายไปแล้ว,พวกเจ้าทุกคนกลับยินยอมกลืนคำดูถูกได้อย่างงั้นรึ?"

"หุบปาก! แพ้ก็คือแพ้! คนของตระกูลหนานกงแพ้ไม่เป็นหรืออย่างไร!"จักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาที่ตำหนิออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,ราวกับคนแก่ที่เหนื่อยหน่ายใจ,ต้องไม่ลืมว่าหนานกงเจี้ยนเองก็เป็นหลานชายที่เขารักเช่นกัน,เขาจ้องมองไปยังหนานกงหยุน"หวังว่าเจ้าจะจำคำพูดของตัวเองที่ได้กล่าวออกมา!"

หนานกงหยุนพยักหน้า,"ข้าคือผู้สืบทอดของหงส์เพลิงตลอดไป!"

ลีฮวอโหวที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว,แน่นอนว่าเขาเข้าใจได้ในทันทีในความคิดของจักรพรรดิสุริยันต์แผดเผา,หนานกงหยุนคงจะมีอนาคตที่ไม่ธรรมดาแน่นอนในอนาคต,จักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาไม่สามารถที่จะไม่สนคนที่มีพรสวรรค์เช่นนั้นได้แน่.

"ชิ,งั้นข้าขอลาล่ะ!"

หลีฮวอโหวสะบัดแขนเสื้อ,ก่อนที่จะนำหนานกงเจี้ยนกลับไปในทันที.

เหวินเฉิงที่จ้องมองไปยังท่าทางของจักรพรรดิสุริยันต์แผดเผา,ได้แต่ทอดถอนใจ เหล่าโถวหนานกงที่อายุแก่เกินไปแล้วแล้ว,เขาที่กำลังจับจ้องมองไปที่ฉู่เทียนอีกคน,ภายในใจกำลังคิดเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน,เขาที่เต็มไปด้วยความสงสัย,คนผู้นี้ยังมีความลับอีกมากมายเท่าไหร่ที่ซ่อนเอาไว้?

ใบหน้าของราชาหนานเซี่ยเองก็เปลี่ยนเป็นจริงจังและซับซ้อนเป็นอย่างมาก.

แม้ว่าเขาจะครองอำนาจมากว่า 20 ปีแล้ว,ทว่าเรื่องเช่นนี้ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย,ฉู่เทียน,หนานกงหยุนและหอการค้าปาฏิหาริย์,เป็นตัวแปรที่ยากที่เขาจะสามารถควบคุมได้,จนทำให้ราชาหนานเซี่ยในตอนนี้รู้สึกไม่สบายใจเลยทีเดียว.

"หนานกงหยุนแสดงฝีมือออกมาสุดยอดเลย,ทำให้ทุกคนต้องยกย่องเจ้าจริงๆ!"ราชาหนานเซี่ยที่เก็บท่าทางร้อนใจเอาไว้,พยายามทำจิตใจให้สงบ,ทำตัวให้เป็นปรกติ,"นับว่าเป็นพรสวรรค์ที่หายาก,จะเป็นการเสียประโยชน์ไปเปล่า?หากว่าให้คนเช่นนี้ไมได้รับการสนับสนุน,ข้าจะประทานรางวัลให้กับหนานกงหยุน,ให้กลายเป็นอัศวินที่ทรงเกียรติของอาณาจักร,มอบยาศักดิ์สิทธิ์สิบเม็ด,ยาทิพย์จิตวิญญาณอีกสิบหีบ,หวังว่าจะช่วยสนับสนุนเจ้าได้,และกลายเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำพาอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้ไปสู่ความรุ่งโรจน์!"

"องค์ราชาฉลาดยิ่งนัก!"

คนมากมายต่างส่งเสียงดังสนับสนุน.

ไม่ปล่อยโอกาสที่มีต้องสูญปล่าวไป.

หนานกงหยุนที่ขอบคุณความกรุณาขององค์ราชา.

เมิ่งหยิงหยิงที่นำผ้าคลุมไปสวมให้กับหนานกงหยุน,หลังจากที่นางได้เผยพลังวิญญาณมหาศาลออกมาทำให้เสื้อผ้าหลายส่วนถูกเผาไหม้ไป,จนทำให้เผยเห็นแผ่นหลังที่งดงามของนางเลยทีเดียว.

"พี่หนานกงท่านช่างร้ายกาจจริงๆ!"เมิ่งหยิงหยิงที่เต็มไปด้วยความชื่นชมจ้องมองไปยังนาง"ตอนนี้ท่านร้ายกาจกว่าฉู่เทียนแล้ว!"

"แค๊กๆ!"ฉู่เทียนที่ไอไปหนึ่งครั้ง"แม่นางน้อย,กล่าวอะไรออกมา!"

เมิ่งหยิงหยิงที่เด๊าะลิ้นหนึ่งครั้ง"แล้วไงล่ะ!"

ในตอนนี้นั้นฉู่เทียนเองก็ยากที่จะรับประกันได้ว่าจะชนะหนานกงหยุนได้จริงๆ.

ขณะที่เรื่องวุ่นวายต่างๆกำลังจะจบแล้ว,ทุกคนที่กำลังรู้สึกผ่อนคลาย,ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดังกึกก้องดังผ่านเข้ามา,กองกำลังมังกรบินที่มีเสียงดังคำราม,พร้อมกับฝุ่นควันมากมายที่กำลังฟุ้งกระจายพัดปลิวม้วนไปมา.

"มาแล้วรึ?"สายตาของราชาหนานเซี่ยที่เป็นประกาย,ทันใดนั้นก็โบกมือไปมา,"เตรียมต้อนรับ!"

เหล่าองค์รักษ์วังหลวงที่ตั้งแถวเกียรติยศและพร้อมกับนักดนตรีที่บรรเลงเพลิง.

เสียงดังกระหึ่ม,ดังก้องกังวานสนั่นวังหลวงทีเดียว.

ทุกคนคนที่รับรู้ได้ถึงพื้นดินที่สั่นสะเทือนราวกับกำลังถูกทุบด้วยค้อน,สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าเกรงขาม,ทำให้ทุกคนถึงกับสั่นไหวไปมาทีเดียว,คนหลายคนที่จ้องมองออกไปด้วยความสงสัย,กองกำลังในชุดสีดำที่ปรากฏขึ้นมาด้านหน้า,เป็นกองกำลังที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,ทว่าพาหนะของพวกเขานั้นไม่ธรรมดาเลย,แตกต่างจากอาวาวายุสายฟ้าอย่างสิ้นเชิง.

ผู้นำกองกำลังดูมีสง่าราศีดูยิ่งใหญ่,สัตว์ขี่ของเขาเป็นสัตว์อสูรที่สวมหมวกเหล็กและชุดเกราะเต็มยศสีดำ.

ใบหน้าเล็กๆของเมิ่งหยิงหยิงรู้สึกตื่นตะลึงอยู่ไม่น้อย"นั่นไม่ใช่มังกรดินหรอกรึ? มีมังกรดินมากมายเลย!"

เมิ่งชิงอู๋ที่รู้สึกไม่อยากเชื่อเช่นกัน,มังกรดินเหล่านี้มีเป็นสัตว์อสูรระดับ 2 ,ความจริงแล้วนับว่าเป็นสัตว์อสูรที่มีสายโลหิตของเผ่ามังกร,ยิ่งมีโลหิตที่บริสุทธิ์ขนาดใหน,ก็จะยิ่งมีพลังที่น่าพรั่นพรึงมากเท่านั้น,และยังสามารถที่จะพัฒนากลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ได้อย่างสบายๆเลย.

สายโลหิตของมังกรดินเหล่านี้ไม่ได้สูงนัก,ทว่าอย่างน้อยที่สุดน่าจะเป็นสัตว์อสูรระดับสองขั้นต้น,เทียบกับมนุษย์แล้วเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับดวงจิตเสมือน,ซึ่งก็นับว่าเป็นเรื่องปรกติไม่มีอะไรต้องประหลาดใจ.


不足为奇 bù-zú-wéi-qí ไม่ใช่เรื่องแปลก

ตอนนี้นักรบทั้งหมดที่ได้ขี่มังกรดินเข้ามา!

กองกำลังมังกรดินจำนวนมากที่น่าเกรงขามนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!

ในช่วงหลังๆมานี้,มังกรบินจะถูกจับมาฝึกฝนให้กลายเป็นสัตว์ขี่,ด้วยพลังป้องกันที่สูงเป็นอย่างมาก,และมีนิสัยที่กล้าหาญ,นอกจากนี้ยังมีความทนทานเป็นอย่างมาก,สามารถที่จะเดินทางไปได้ทุกที,ไม่ว่าจะเป็นสนามรบแบบใหน,ก็สามารถที่จะเคลื่อนทัพและบุกเข้าไปได้,มังกรดินจึงนับว่าเป็นสัตว์ขี่ที่มีสมรรถนะเป็นอย่างมาก.

กองกำลังของอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้มีกองกำลังมังกรดินที่แข็งแกร่งขนาดนี้แล้วรึ?

กองกำลังวายุของอาณาจักรหนานเซี่ยยังเทียบไม่ได้เลย,นอกจากนี้ยังมีกองกำลังซีจิวที่มีความแข็งแกร่งอีกหนึ่งกอง,แต่ก็ไม่ได้มีขนาดใหญ่โตนัก,ทำให้เรื่องจำนวนนั้นไม่สามารถเทียบได้กับกองกำลังมังกรดินที่มีขนาดใหญ่มากกว่า.

ก่อนหน้านี้กองกำลังซีจิวที่อยู่ใต้บัญชาขององค์ราชา,มีหน้าที่ในการลาดตะเวนและปกป้องตำหนักจักรพรรดิโดยเฉพาะ.

แล้วกองกำลังกองนี้มีมีเรื่องอะไรกัน?

ฉู่เทียนที่รุ้สึกถึงกลิ่นคาวโลหิตที่โชยมาเลยก็ว่าได้,กองกำลังมังกรดินนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่ากองกำลังซีจิวเลย,และยังสามารถที่จะตะเวนไปได้ทุกที่ในสนามรบ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามีความแข็งแกร่งที่จะเป็นแนวหน้าต่อสู้รับกับกองกำลังของเผ่าเฉวียนหยงได้อย่างสบายๆ.

"กองกำลังมังกรสงคราม!"

"กองกำลังมังกรสงคราม!"

ทุกคนต่างก็อุทานร้องออกมาด้วยเสียงดัง.

สิบปีก่อนหน้ากองกำลังของหลีเหยี่ยนถูกทำลายไป,กองกำลังมังกรสงครามที่เป็นกองกำลังแนวหน้าที่ขึ้นมาแทนที่กองกำลังของหลี่เหยี่ยน,สามารถที่จะเป็นแนวหน้าป้องกันศัตรูได้อย่างแข็งแกร่ง,ไม่เช่นนั้นแล้วกองกำลังที่บ้าคลั่งของเผ่าเฉวียนหยงคงจะเข้ามาได้แล้ว,นับว่าเป็นกองกำลังที่ปกป้องเขตแดนหวังยวีที่ทรงพลังไม่น้อย

สิบปีมานี้,กองกำลังมังกรสงครามที่ทำการกวาดล้างเผ่าเฉวียนหยง,และเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งโดดเด่น,นำชัยชนะมาได้หลายต่อหลายครั้ง,จึงทำให้พวกเขานั้นมีชื่อเสียงในอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้เป็นอย่างมาก.

กองกำลังมังกรดินที่กำลังเคลื่อนที่เข้ามาช้าๆ.

สายโลหิตของมังกรดินนั้น,หากมีสายเลือดต่ำสุดจะมีเกล็ดเป็นสีดำและแต่ไปก็จะเป็นมังกรดินเกล็ดสีแดง,จนท้ายที่สุดสายเลือดเข้มข้นสุดก็จะมีเกล็ดเป็นสีทอง,เหล่าทหารกลุ่มนี้ส่วนมากแล้วจะเป็นมังกรดินเกล็ดสีดำ,ซึ่งนับว่าเป็นกองกำลังมังกรดินที่มีสายโลหิตระดับต่ำ,เป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถเติบโตกลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ได้.

แต่ในตอนนี้,มังกรดินที่นำหน้านั้นเป็นมังกรที่มีเกล็ดสีแดง,เริ่มมีร่องรอยของสีแดงบ้างแล้ว,ทำให้ดูเป็นพันธ์พิเศษที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,แสดงว่าเป็นมังกรดินระดับสูงที่มีสายโลหิตค่อนข้างบริสุทธิ์,หากว่าฝึกฝนไปอีกหน่อย,ในอนาคตข้างหน้าอาจจะกลายเป็นสัตว์อสูรระดับ 3 ได้เลย.

ชายหนุ่มที่ดูโดดเด่นเป็นอย่างมากบนหลังมังกรดิน,พร้อมกับกุมหอกสีทองขนาดใหญ่,สวมชุดเกราะวิเศษสีทองมีประกายแสงวับวาว,เสื้อคลุมสีทองที่กำลังปลิวไสว,ราวกับการโบกสะบัดของริ้วธง,เขาที่ก้าวเหินลงมาจากหลังของมังกรบิน,พุ่งตัวลงมาราวกับอุกกาบาตสีทอง,พร้อมกับเหินลงกระแทกพื้นเสียงดังสนั่นฝุ่นกระจาย.

"จอมพลหวังเทียนหลงผู้นำกองกำลังมังกรสงคราม,คารวะองค์ราชา!"

หลังจากที่จอมพลหลีฮวอโหวก่อนหน้านี้.

ก็เป็นจอมพลหวังเทียนหลงที่นำกองกำลังกลับมาอย่างงั้นรึ?


นับเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นเลยจริงๆ!

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น