วันพฤหัสบดีที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 50 Establishing a Heavenly Imperial Court

Immortality Chapter 50  Establishing a Heavenly Imperial Court

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 50 แปลนศาลสวรรค์


บทที่ 50 แปลนศาลสวรรค์



ด้วยวิชากายาเทพอสูร,ระดับสอง!

เมื่ออยู่ในเวลาที่ตัดสินความเป็นความตายนั้น,ก็ทำให้จงซานสามารถก้าวผ่านระดับได้,อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยผลของวิชากายาเทพอสูรที่ใช้เป็นครั้งแรกนั้น,ทำให้ร่างกายของเขาเจ็บปวดไปทั่วร่างจำเป็นต้องพักอย่างน้อยสองวันถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้,เมื่อร่างกาของเขาฟื้นฟูและใช้ทักษะดังกล่าวอีกครั้งจะทำให้ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด,ทว่าอย่างน้อยต้องทำให้ผลให้วิชากายาเทพอสูรหมดไปซะก่อน.


หยุนฉียนที่จัดการลอกคาบศพอสรพิษสีชาด ที่อยู่ไกลออกไป,ซึ่งในร่างกายของมันนั้นมีของวิเศษหลายอย่างทีเดียว.

"จงซาน,เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามด้วยความเป็นห่วงขณะที่ทำการตรวจสอบอาการบาดเจ็บของเขา.

"ข้าสบายดี,เพียงแค่แค่พักวันสองวันก็หายแล้ว."จงซานที่ส่ายหน้าไปมา.

เป่ยชิงซือยืนอยู่ไม่ห่างออกปเฝ้ามองคนทั้งสองซึ่งเวลานี้ภายในใจของนางเวลานี้มีอารมณ์ที่ซับซ้อน,ไม่รู้ว่านางจะวางตัวอย่างไรต่อหน้าจงซาน,ทำให้นางได้แต่ยืนนิ่งด้วยท่าทางกระอักกระอวลและเงียบงัน,นางจ้องมองไปยังฝั่งของหยุนเฉียนทว่าภายในใจของนางยังคิดถึงเรื่องของจงซาน.

"ทุกคนไปใหนกันแล้วรึ?"จงซานที่จ้องมองไปรอบๆ,ซึ่งไม่เห็นใครอยู่ที่นี่แล้ว.

"ข้าเองก็ไม่รู้."เทียนหลิงเอ๋อที่ตอบกลับพลางเช็ดน้ำตาที่ยังเหลือเป็นทาง.

ในเวลานั้น,เทียนหลิงเอ๋อที่ใส่ใจแต่เรื่องของจงซานและอสรพิษสีชาดยักษ์,ทำไมนางจะต้องสนใจเรื่องอื่นๆด้วยล่ะ?

เห็นเทียนหลิงเอ๋อร้องไห้โฮราวกับเด็กเล็ก,จงซานที่เผยยิ้มและพยายามเช็ดน้ำตาที่อาบแก้มของนาง,ทว่าขณะที่จะยกออกไป,เขาก็ตระหนักได้ว่ายังมีคาบโลหิตเกรอะกังบนมือของเขาจึงยกขึ้นได้แค่ครึ่งเดียวก็ลดมือลงมา.

"ซานซือเจี่ย,เกิดสิ่งใดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่หันหน้าออกไปสอบถามเป่ยชิงซือต่อ.
  Sān shījiě ศิษย์พี่หญิงลำดับสาม.

ในเมื่อเทียนหลิงเอ๋อสอบถามนางตรงๆ,เป่ยชิงซือจึงได้หันหน้ากลับมา,ทว่าครั้งมองเห็นจงซานก็รู้สึกกระอักกระอ่วนใจอีกครั้ง,อย่างไรก็ตามนางก็แสร้งทำว่าเรื่องในวันนั้นนางได้ลืมมันไปแล้ว.

"เห่าซานหนีออกไปด้วยการคุ้มกันของมังกรเขา,ขันทีของเขาถูกสังหารไป,และทุกคนต่างก็ไล่ล่าตามเห่าซานไป."เป่ยชิงซือที่กล่าวออกมาตามความจริง.

เห็นท่าทางของเป่ยชิงซือที่แสร้งทำเป็นว่านางสงบใจได้,จงซานจึงพยักหน้าตอบรับ,เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้นางต้องรู้สึกกระอักกระอวลใจมากกว่านั้น.

"ข้าจำเป็นต้องบำเพ็ญโคจรพลังรักษาตัวเองก่อน,หลิงเอ๋อเจ้าช่วยข้าหาบ่อน้ำรอบๆนี้ได้หรือไม่,ข้าต้องการทำความสะอาดร่างกาย."จงซานกล่าว.

นางที่พยายามเช็ดน้ำตาตัวเอง,เทียนหลิงเอ๋อก่อนหน้านี้ที่โศกเศร้าถึงที่สุดตอนนี้ถูกแทนที่ด้วยความดีใจ,นางพยักหน้าอย่างหนักแน่น,และทำตามคำขอร้องของจงซานทันที.

หลังจากที่นางตอบรับ,นางก็เร่งรีบวิ่งออกไปยังทิศทางอื่นๆเพื่อหาแหล่งน้ำทันที.

หยุนเฉียนที่ยังชำแหละอสรพิษสีชาดอยู่ดังนั้นตอนนี้จึงเหลือเป่ยชิงซือกับจงซาน.

"ข้าจะไปช่วยนางหาบ่อน้ำ."เป่ยชิงซือกล่าวออกมาทันที,นางที่จากไปโดยไม่รอให้จงซานตอบกลับด้วยซ้ำ,นางก็เหินตรงไปยังทิศทางของเทียนหลิงเอ๋อทันที.

เห็นท่าทางของเป่ยชิงซือแล้ว,จงซานที่แอบสรวลในใจพร้อมกับส่ายหน้าไปมา,พร้อมกับปิดตานั่งสมาธิควบคุมลมหายใจ.

ครั้งนี้,บาดแผลของเขาที่ได้รับนับว่าหนักหนาทีเดียว.

จงซานนั่งบำเพ็ญอยู่ราวๆสองชั่วโมง,ร่างกายของเขาก็ฟื้นฟูกลับมาบ้างเล็กน้อย,อย่างไรก็ตามปราณแท้ของเขาในเวลานี้ด้วยผลของวิชากายาเทพอสูรทำให้มันลดลงไปกว่าเดิม 30%.

ขณะที่เขาลืมตาขึ้นมา,เขาก็เห็นคนทั้งสามกลับมาแล้ว.

"จงซาน,เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"เทียนหลิงเอ๋อสอบถามออกมาด้วยสายตาที่เป็นห่วง.

"ดีขึ้นมากแล้ว,ว่าแต่เจ้าเจอบ่อน้ำหรือไม่?"จงซานสอบถาม.

"มีบ่อหนึ่งห่างจากที่นี่ออกไปห้าลี้,ซึ่งใกล้สุดแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่ตอบออกมาในทันที.

"ข้าจะพาเจ้าไปก็แล้วกัน."หยุนเฉียนกล่าว.

"ขอบคุณ."จงซานพยักหน้า.

หลังจากที่หยุนเฉียนโบกสะบัดเรียกระบี่เหินออกมาซึ่งทำให้มันขยายใหญ่และมีที่ด้านหลังนั้นดูเหมือนว่าจะมีส่วนประกอบของไม้ที่ส่องประกายแสงสีเขียว,จงซานที่ขึ้นเหยียบกระบี่เหิน,หยุนเฉียนก็พวกเขาเหินข้ามภูเขาตรงไปยังบ่อน้ำในทันที.

จากนั้นไม่นาน,หยุนเฉียนกล่าวว่า,"มันอยู่ที่นั่นแล้ว."

"ขอบคุณ."จงซานพยักหน้า.

ส่วนเรื่องของศพอสรพิษสีชาดนั้น,หยุนเฉียนไม่ได้เอ่ยถึงแต่อย่างใด,อีกอย่างหนึ่งจงซานเองก็ไม่ได้ใส่ใจที่จะถามด้วยเช่นกัน,เขาที่ถอดชุดอออกและจากนั้นก็ลงไปในบ่อเพื่อชำระร่างกาย.

เขาที่นำเสื้อผ้าสิ่งของทุกอย่างที่อยู่ด้านในออกมาจากกำไลเก็บของ,อย่างไรก็ตามสิ่งของส่วนมากนั้นถูกน้ำย่อยของอสรพิษนั้นละลายไปจนหมด,เขาจึงทำได้แค่ทำความสะอาดเสื้อผ้าที่เปื้อนโลหิตออกเพื่อที่จะสวมมันอีกครั้ง.

หลังจากที่เขาทำความสะอาดร่างกายของเขา,บาดแผลที่อยู่รอบๆร่างกายของเขาเองดูเหมือนว่ามันจะดีขึ้นมาไม่น้อยเหมือนกัน.

พวกเขาทั้งคู่กลับมาหาเทียนหลิงเอ๋อและเป่ยชิงซือ.

"ศิษย์พี่หญิง,ศิษย์พี่ใหญ่บอกว่าให้พวกเราไปพบกับพวกเขาที่ภูเขาซุยหยุน,เขาจะไปเจอพวกเราในอีกห้าวัน."หยุนเฉียนที่กล่าวต่อเป่ยชิงซือ.

"เจ้าไปพบกับเขาแล้วกัน."เป่ยชิงซือกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้วไปมา.

"แต่ว่า,ข้าได้สัญญากับเขาแล้ว,ศิษย์พี่หญิง,อย่าเพิ่งรีบร้อน,ไม่เช่นนั้นข้าคงยากที่จะหาคำอธิบายกับเขาได้,และอีกอย่างศิษย์พี่ใหญ่ก็สัญญากับท่านแล้วว่าจะไปเป็นเพื่อนท่านที่ภูเขาป้าเหมิน,หากว่าท่านจากไปเช่นนี้ล่ะก็,คง..."หยุนเฉียนที่แสดงท่าทางกระอักกระอวลใจ.
  Bā mén shān ภูเขาแปดประตู.

เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาครุ่นคิดชั่วขณะก่อนที่จะพยักหน้าและกล่าวว่า,"ก็ได้,พวกเราจะไปรอเขาที่ภูเขาซุยหยุน."

"ภูเขาซุยหยุนอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.


ในอาณาจักรต้าคุนนั้น,มีภูเขาที่เรียกว่าภูเขาซุยหยุน,ซึ่งนับว่าเป็นสถานที่อันตรายที่สุดในต้าคุน,คนธรรมดาทั่วไปนั้นไม่สามารถที่จะปีนภูเขาที่สูงชันนั้นได้แน่,ภูเขาดังกล่าวนั้นเป็นเหมือนกับแท่งศิลาขนาดยักษ์ที่ตั้งตระหง่านชี้ตรงขึ้นไปบนท้องฟ้า,และยังมีความสูงอย่างไม่อยากเชื่อ,ทว่าที่บนยอดเขานั้นกับเป็นพื้นที่ราบที่เขียวขจี,ทำให้ดูเหมือนว่ามองเห็นเป็นเหมือนกับเหล่ามวลเมฆามีสีเขียว,หรือว่าจะเป็นที่นั่น?

"อยู่ห่างไปทางตะวันตก 800 ลี้,พวกเราน่าจะไปถึงที่นั่นก่อนตะวันตกดิน."หยุนเฉียนกล่าว.

เป็นความจริง,เป็นภูเขาซุยหยุนที่เขาคิดเอาไว้.

เทียนหลิงเอ๋อที่หันหน้าไปมองจงซานที่กำลังขมวดคิ้วไปมา,เพราะว่าเขาสัญญาไว้ว่าจะพานางไปหาศิษย์พี่ใหญ่,ทว่าตอนนี้เขาได้จากไปก่อน,ดังนั้นพวกเขาคงทำได้แค่เพียงไปรอที่ภูเขาซุยหยุน.

"หลิงเอ๋อ,แล้วพวกเจ้าล่ะ?"หยุนเฉียนสอบถามออกไป.

"พวกเราจะไปกับท่านและรอด้วย."จงซานที่ตอบออกมาในทันที.

ได้ยินคำพูดของจงซานแล้ว,หยุนเฉียนที่ขมวดคิ้วไปมา,รอศิษย์พี่ใหญ่อย่างงั้นรึ?ใครขอให้เจ้าไปรอศิษย์พี่ใหญ่กัน?ทว่าในเมื่อเป่ยชิงซือและเทียนหลิงเอ๋ออยู่ที่นี่,หยุนเฉียนก็ไม่มีอะไรที่จะโต้แย้งใดๆได้.

ส่วนเทียนหลิงเอ๋อนั้น,เห็นชัดเจนว่านางไม่มีปัญหาอะไร,ตอนนี้จงซานไม่มีอันตรายแล้ว,ทำไมไม่ไปรอศิษย์พี่ใหญ่ล่ะ?

ส่วนเป่ยชิงซือ,นางเห็นจงซานไปด้วย,ภายในสายตาของนางนั้นแสดงท่าทางไม่สะดวกอยู่เล็กน้อย,ทว่าท้ายที่สุดนางก็ไม่ได้กล่าวโต้แย้งอะไร.

พวกเขาทั้งสี่คนก็บินออกไป,เป่ยชิงซือนั้นได้พาเทียนหลิงเอ๋อไปด้วย,ส่วนหยุนเฉียนพาจงซานไป,ตอนเย็น,พวกเขาทั้งหมดก็มาถึงยอดเขาซุยหยุน.

มีโต๊ะศิลาที่อยู่บนยอดเขาซังหยุน,และมีเก้าอี้อยู่ด้วยหลายตัว,ดูเป็นที่พักง่ายๆ,ทุกคนที่ร่อนลงบนยอดเขา,จงซานที่จ้องมองไปยังพื้นที่รอบๆ.

"พวกเราจะต้องรอที่นี่อย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว,ที่นี่ล่ะ,เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น."หยุนเฉียนกล่าว.

ได้ยินคำพูดของหยุนเฉียนแล้ว,จงซานที่ถอนหายใจเบาๆ,จะให้รอที่นี่อย่างงั้นรึ?พวกเขาจะต้องรอคอยกี่วันล่ะ? ท้องฟ้าโปล่งเช่นนี้,หากว่ามีพายุ,สายฟ้าจะต้องฟาดลงมายังยอดเขาแห่งนี้แน่นอน.

"ที่ด้านล่างนี้,ข้ามีหมู่บ้านเล็กๆอยู่ที่เนินเขา,ก่อนที่ข้าจะเข้าสำนักไคหยาง,ข้าได้ซื้อเอาไว้,พวกเราลงไปรอที่ด้านล่างก่อนเป็นไง?"จงซานกล่าว.

"ไม่ได้ๆ,หากว่าพี่ใหญ่มาแล้ว,พวกเขาไม่เห็นพวกเราล่ะ?"หยุนเฉียนที่ส่ายหน้าโต้แย้งในทันที.

เห็นท่าทางดื้อรั้นของหยุนเฉียน,จงซานได้แต่ขมวดคิ้วไปมา,ขณะที่เขาพูดกับจงซาน,น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความดูแคลนจงซานเป็นอย่างมาก,แม้ว่าจะเป็นความเห็นที่ดีอย่างไร,เขาก็ไม่มีทางยอมรับ,อย่างไรก็ตามการที่ต้องอดทนต่อชายคนนี้นั่นไม่ใช่รูปแบบของจงซาน.

"เอาอย่างนี้เป็นไง,ท่านก็รอที่นี่แล้วกัน,ส่วนพวกเราจะไปรอที่หมู่บ้านด้านล่าง,หากศิษย์พี่ใหญ่มาถึง,ท่านก็มาแจ้งเราแล้วกัน."
ศิษย์น้องของอาจารย์(ทั้งชายและหญิง) เรียกว่า (shīshū) หรือเรียกว่าอาจารย์อา

ได้ยินคำพูดของจงซาน,หยุนเฉียนที่ขมวดคิ้วไปมา,แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใด.

"หลิงเอ๋อ,อาจารย์อา,พวกเราลงไปด้านล่างกันเถอะ."จงซานที่กล่าวต่อเป่ยชิงซือและเทียนหลิงเอ๋อ.

เห็นจงซานที่เอ่ยกับนางด้วย,เป่ยชิงซือที่ขมวดคิ้วไปมาทว่าก็พยักหน้าตอบรับ.

"คงต้องรบกวน,ซือตี้แล้ว."เป่ยชิงซือที่กล่าวต่อหยุนเฉียน.

ในเวลานี้,ท้ายที่สุดหยุนเฉียนรู้สึกเสียใจขึ้นมาทันที,เพราะว่าตอนแรกนั้นเขาคิดว่าจงซานจะนำเพียงเทียนหลิงเอ๋อลงไปด้วยล่าง,ทว่าตอนนี้กลับกลายเป็นว่าเขาต้องอยู่คนเดียวที่นี่,เขาไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อย,ไม่ว่าอย่างไรเขาก็รู้สึกรำคาญจงซานเป็นอย่างมาก.

"ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด."หยุนเฉียนที่พยักหน้าอย่างจำใจ.

จากนั้น,เป่ยชิงซือก็นำเทียนหลิงเอ๋อและจงซานลงไปด้านล่าง,ไปตามทิศทางที่จงซานบอก.

หยุนเฉียนที่ยืนอยู่บนยอดเขา,จ้องมองไปยังจงซานด้วยความขุ่นเคืองทว่าเขากับไม่สามารถทำอะไรได้,เขาได้แต่เฝ้ามองพวกเขาที่ร่อนลงยังหมู่บ้านแห่งนี้,ไม่ได้ไกลไปนัก,เขาจำเป็นต้องรอศิษย์ที่ใหญ่ที่นี่คนเดียว,รู้สึกห่อเหี่ยวใจและรำคาญไปพร้อมๆกัน.

หลังจากมาถึงหมู่บ้านปุถุชน,เป่ยชิงซือรู้ดีว่าจะต้องหลีกเลี่ยงสร้างความสนใจ.

พวกเขาที่ร่อนลงก่อนถึงหมู่บ้าน,จงซานที่พาคนทั้งหมดเดินเข้าไป,จงซานเวลานี้รูปร่างที่เปลี่ยนไปมากทว่าเขาก็มีตราประทับแสดงให้กับพ่อบ้านว่าเขานั้นเป็นเจ้าของหมู่บ้านนี้ได้.

พ่อบ้านที่ทำการจัดเตรียมที่พักให้กับคนทั้งสามในทันที.

เทียนหลิงเอ๋อที่กินอาหารเสร็จก็เข้าห้องนอนของนางหลับไปในทันที,ส่วนเป่ยชิงซือเองก็พักอยู่ในห้องของนาง.

จงซานที่กลับมาห้องของตัวเอง,และเริ่มต้นทำความสะอาดกำไลเก็บของ.

ภายในนั้น,มีตั๋วเงินจำนวนมากตอนนี้มันไร้ประโยชน์แล้ว,น้ำย่อยของอสรพิษสีชาดนั้นทรงพลังมาก,สิ่งของหลายอย่างที่เสียหาย,ทำให้เขาต้องกำจัดพวกมันทิ้งไป.

แม้แต่กระบี่สองเล่มที่เขาเก็บเอาไว้ก็ยังละลาย,ผลโลหิตนิพพานลูกสุดท้ายก็ถูกน้ำย่อยอสรพิษละลายเช่นกัน,จงซานทำความสะอาดพื้นที่เก็บของทั้งหมด,สุดท้ายแล้วมีเพียงแค่สองอย่างที่ยังสามารถใช้ประโยชน์ได้.

หนึ่งคือสูตรยา,ระดับสี่,เม็ดยากวงหัว.

และอีกสิ่งหนึ่งคือกล่องไม้ที่ทำจากต้นท้อ,มีลวดลายอักขระสลักเอาไว้อย่างสวยงาม,ราวกับของวิเศษ,ดวงตาของจงซานที่เปล่งประกาย,สิ่งนี้สามารถคงอยู่แม้แต่อยู่ในน้ำย่อยของอสรพิษยักษ์,ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน,เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?ไม่ใช่กล่องไม้ธรรมดาอย่างงั้นรึ?

บ่าวรับใช้ที่น้ำสะอาดมาให้จงซานทำความสะอาดกล่องไม้อีกครั้ง,ไม่มีรอยเสียหายแม้แต่ที่เดียวจริงๆ.

ในเวลานั้น,จงซานจำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้,เห่าซานที่ส่งอสรพิษยักษ์ออกไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน,เป็นไปได้ว่าอสรพิษแต่ละตัวได้กลืนสมบัติเอาไว้ในท้องก่อนที่จะแยกย้ายออกไปรึอย่างไร?

ประกายแสงแห่งความคาดหวังก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของจงซาน,เขาจับจ้องไปยังกล่องไม้ที่ทำจากต้นท้อ,มีอะไรอยู่ข้างในกัน.

กล่องไม้ดังกล่าวนี้ไม่ได้ลงเวทย์ปิดผนึกเอาไว้,จงซานที่ค่อยๆเปิดกลไกที่ล๊อคกล่องไม้นี้ออกมา.

"แค๊กๆๆ."

กล่องไม้ท้อที่ถูกปลดล๊อก,จงซานค่อยๆแง้มเปิดกล่องดังกล่าวออกมา.

อย่างช้าๆ,เพียงแค่แสงสว่างในห้องของเขานั้น,เพียงพอที่จะให้เขาเห็นสิ่งของในกล่องดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์.

คัมภีร์? คัมภีร์สีทองม้วนหนึ่ง? คัมภีร์ดังกล่าวนั้นถักทอมาจากไหมชั้นเยี่ยม,ดูหรูหราโอ่อ่าเป็นอย่างมาก.

จงซานที่ค่อยๆหยิบม้วนคัมภีร์ดังกล่าวออกมา,ทันใดนั้นจงซานที่รู้สึกคุ้นตา,ม้วนคัมภีร์ดังกล่าวนี้,ทำไม,ทำไมดูเหมือนราชโองการ? ใช่แล้วมันคือราชโอการของเหล่าหวงตี้ของโลกมนุษย์,มันเป็นราชโองการสีทอง.
皇帝  Huángdì ,ฮ่องเต้,จักรพรรดิ,ราชา.

ด้วยความระมัดระวัง,จงซานที่ค่อยๆคลี่ม้วนคัมภีร์ดังกล่าวออก,เป็นความจริง,เหมือนกับราชโองการมากๆ.

ด้วยความระมัดระวังวังจงซานคลี่ม้วนคัมภีร์ออกมาทั้งหมด,เขาสามารถมองเห็นตัวอักษรขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก,ตัวอักษรเหล่านี้ทำให้แขนของจงซานสั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น.

ในเวลาเดียวกัน,จงซานก็รู้สึกแทบจะตะโกนออกไปก้องฟ้า,เขาไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองเลย,เป็นความดีใจจนน้ำตาไหล,ซึ่งจงซานปกติแล้วจะเป็นคนมีสติและสุขุมเป็นอย่างมาก,แม้แต่ครั้งแรกที่เขาเห็นเคล็ดวิชาหงหลวนเทียนหรือแม้แต่เคล็ดวิชากายาเทพอสูรเขาก็ไม่เคยสูญเสียการควบคุม,แต่ในตอนนี้เขาแทบจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เลย.

ชื่อของราชโองการนี้,มีอักขระสามตัว,ที่ดูประณีต.

"แปลนศาลสวรรค์"
天庭Zhù tiāntíng ผังศาลสวรรค์

นี่คือ แปลนศาลสวรรค์.

วรรคแรก,"รวบรวมโชควาสนาจากทั่วอาณาจักร,รวบรวมโชควาสนาจากปฐพี,รวบรวมวาสนาจากฟ้า,รวบรวมโชควาสนาจากทั่วสรรพสิ่ง,ต่อต้านสวรรค์,มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์!"


วรรคที่สอง,"ก่อตั้งราชวงศ์สวรรค์,ก่อสร้างประเทศ,รวมรวมโชคลาภจากทั่วประเทศ,จากผืนปฐพี,จากผืนฟ้า,จากทั่วทั้งสรรพสิ่งรับพลังเพื่อต่อต้านกรรมสร้างที่มั่นที่แข็งแกร่งเพื่อต่อต้านสวรรค์."

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 ตอนต่อวัน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น