วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 300 Serial TV opera

Miracle Throne Chapter 300 Serial TV opera

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 300 ละครทีวี


บทที่  300 ละครทีวี




ราชาหนานเซี่ยในตอนนี้รู้ดีอย่างแจ่มแจ้งว่าเขาได้ประเมินฉู่เทียนต่ำจนเกินไปมากมายทีเดียว.

คนผู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่ออาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้ได้,แน่นอนว่าเขาจะกลายเป็นเสาหลักของอาณาจักรได้เลย,กล่าวอีกอย่างหนึ่งหากว่าไม่สามารถควบคุมได้,จะทำให้เกิดความวุ่นวายโกลาหลได้เช่นกัน.


ตอนนี้มีสองทางเลือกเท่านั้น.

ข้อแรกต้องยับยั้งไม่ให้ฉู่เทียนเติบโตขึ้นมาได้.

ตัวเลือกที่สองนั้นคือช่วยฉู่เทียนจนกลายเป็นผู้มีอำนาจ.

ด้วยนิสัยของราชายหนานเซี่ยนั้นย่อมต้องเลือกข้อแรกอย่างชัดเจน,นั่นก็เพราะเขาที่ต้องการจะคงอำนาจของตัวเองเอาไว้,ทว่าก็ยังมีตัวแปรอื่นที่เขาไม่ปรารถนาอยู่เช่นกัน,เขาเองนั้นก็ต้องการที่จะกระจายขั้วอำนาจทั้งสามของอาณาจักรแห่งนี้ออกมาอีกด้วย,เพื่อหลีกเลี่ยงขั้วอำนาจที่สามนั้นจะขยายเพิ่มมากขึ้น,กว่าเดิม,จนท้ายที่สุดก็จะทำให้สถานการณ์ภายในราชวังเขาสู่อันตราย.

เป็นความจริงในตอนนี้,อาจจะเป็นฉู่เทียนที่จะช่วยเขาได้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้!

หอการค้าปาฏิหาริย์นั้นมีอิทธิพลเป็นอย่างมาก,ไม่เพียงแต่มีอิทธิพลต่อความเป็นอยู่ของชีวิตของประชาชนทั่วอาณาจักรอย่างลึกซึ้ง,มีเฉินปิงยวีที่เป็นผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 9 ขั้นปลาย,มีกลุ่มฉลามเขี้ยวยักษ์ในกำมือ,สิ่งสำคัญยังมีจักรพรรดิอู๋อานและต้าเซวจื่อสนับสนุน,ตลอดจนโหวเยว์วายุเทพ,และโหวเยว์ศัลย์ทอง,มีคนสนับสนุนเป็นจำนวนมาก,ยากที่จะขัดขวางหรือจัดการได้ง่ายๆ.

สิ่งสำคัญที่สุด,อาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้ต้องการความสามารถของฉู่เทียน.

ตอนนี้ยังมีการวิจัยอาวุธพลังเวทย์ที่กำลังพัฒนาอยู่,ราชาหนานเซี่ยเข้าใจแจ่มแจ้งดี,หากว่าสามารถพัฒนาผลิตเป็นจำนวนมากให้กับกองทัพได้แล้ว,อาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้จะสามารถจู่โจมตีเผ่าเฉวียนหยงกลับไปได้แน่นอน,ความฝันของราชาหนานเซี่ยก็จะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป,และพิเศษกว่านั้นตระกูลตงฟางเองก็จะกลายเป็นตระกูลที่ไร้เทียมทาน.

ด้วยทั้งหมดของเหตุผลที่กล่าวมานี้.

จึงไม่สามารถแตะต้องฉู่เทียนได้เลย.

หรืออย่างน้อยที่สุดก็ไม่สามารถแตะต้องได้ในตอนนี้.

ราชาหนานเซี่ยนั้นไม่ใช่ราชาที่โดดเด่นแต่อย่างใด,ทว่าเขาก็สามารถที่จะนั่งบัลลังก์มาหลายสิบปี,แน่นอนว่าเขาเป็นราชาที่ดูเหมือนจะไม่สลับสำคัญกับเรื่องต่างๆอะไรนัก,เขารู้ว่าควรจะวางตัวอย่างไร,สิ่งใหนสำคัญที่จะหลีกเลี่ยงสิ่งใดที่ความจะวางอำนาจ,เพื่อที่จะรักษาตำแหน่งและสถานการณ์ในตำแหน่งของเขาให้ราบลื่นได้.

ฉู่เทียนที่ได้รินสุราเพื่อขออภัยต่อราชาเพื่อรักษาหน้าของเขา.

"เจ้าเองก็รู้ว่าในการประลองฝีมือกันนั้น,ข้าจำเป็นต้องใส่ใจอย่างงั้นรึ?"ราชาหนานเซี่ยที่ราวกับว่าไม่ได้สนใจเรื่องต่างๆเลย"ตราบเท่าที่ไม่มีการสังหารฝ่ายตรงข้าม,การแข่งขันที่ยุติธรรม,ถึงจะเป็นราชา,ก็ไม่มีสิทธิ์เข้ายุ่ง,ซ้ำยังต้องสนับสนุนอีกต่างหาก,เซวซือฉู่,เป็นเสาหลักของอาณาจักรไปแล้ว,แม้ว่าจะเป็นคนที่เถรตรงไปหน่อย,ทว่าก็เป็นคนที่เชื่อใจได้,ข้าเองหลังจากนี้,ยังต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า,จะไปโกรธแค้นเคืองเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร!"

สองพี่น้องเมิ่งชิงอู๋ในตอนนี้ที่ได้ยินคำพูดดังกล่าวทำให้เบาใจได้อย่างสมบูรณ์.

ด้วยคำพูดที่กล่าวจริงใจพอเป็นพิธี,เห็นได้ชัดว่าราชาหนานเซี่ยนั้นไม่ได้ต้องการที่จะสร้างปัญหาใดกับฉู่เทียน.

"สุราชั้นยอด,สุราเลิสรสทีเดียว!"ราชาหนานเซี่ยที่ได้รับเหล้าหวานของฉู่เทียน"เซวซือฉู่ไม่คิดว่าจะมีพรสวรรค์ด้านนี้ด้วย,ไม่คิดเลยว่าจะมีทักษะในการหมักสุราชั้นยอดออกมาได้,เห่าเหรียนบุตรของข้าเป็นคนไม่เอาไหนจริงๆ,ถ้ามีความสามารถได้ซักครึ่งหนึ่งของเจ้า,ตระกูลตงฟางคงจะไม่ขาดผู้สืบทอดที่มีความสามารถแน่นอน."

ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาอย่างเฉิดฉาย"ต้าหวังซือเองก็นับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่โดดเด่น,องค์ราชาใยต้องกล่าวเช่นนั้นด้วยเล่า?"

"ใช่รึ?!"ราชาหนานเซี่ยที่ลิ้มลองสุราชั้นเลิศจ้องมองไปยังฉู่เทียนด้วยท่าทางลึกซึ้งจริงจัง"ข้าอยากฟังความคิดเห็นเจ้าจริงๆ,เจ้าคิดว่าเห่าเหรียนน่าชื่อชมอย่างงั้นรึ?"

ด้วยปัญหาที่เขามีบางทีคงเป็นเกี่ยวกับความรู้ซะมากกว่า.

ทว่าฉู่เทียนเองก็ไม่คิดที่จะตอบความจริงออกไป"ต้าหวังซือนั้นนับว่าเป็นคนที่มีพรสวรรค์ระดับอาณาจักร,และจะสามารถเป็นเสาเหลักของอาณาจักรแห่งนี้ได้!"

ราชาหนานเซี่ยที่กล่าวออกมาเป็นนัยย์"เจ้าหมายความว่า เห่าเหรียนนั้นเหมาะที่จะเป็นจักรพรรดิอู๋อานคนที่สอง,ทว่าไม่เหมาะที่จะเป็นราชาหนานเซี่ยอย่างงั้นรึ?"

耐人寻味 ความหมายคือ (nài rén xún wèi)ชวนให้ขบคิดกันเป็นเวลานาน


เป็นความจริง.

นิสัยใจคอของตงฟางเห่าเหรียนนั้น ที่จริงคล้ายคลึงกับจักรพรรดิอู๋อานอย่างแท้จริง.

"เอาล่ะ,เรื่องนี้ไม่ต้องกล่าวถึงแล้ว"เรื่องดังกล่าวนี้ราชาหนานเซี่ยรู้ดีอยู่แก่ใจ,คนอื่นๆอาจจะไม่เข้าใจนัก,เขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจคำชื่นชมของฉู่เทียนแต่อย่างใด,เขาได้เปลี่ยนเรื่องในทันที"ภาพยนตร์ของหอการค้าปาฏิหาริย์นับว่าได้รับความนิยมที่ยอดเยี่ยม,ราชาอย่างข้ารู้สึกพึงพอใจ,ดังนั้นจึงต้องการที่จะร่วมมือกับหอการค้าปาฏิหาริย์สร้างภาพยนตร์ขึ้นมาอีกสักเรื่องและต้นทุนในการผลิตนั้นในครั้งนี้,จะได้รับการสนับสนุนจากราชอาณาจักร,ส่วนเจ้าให้ความสนใจในการผลิตให้ทุกคนพึงพอใจออกมา,และทำการเผยแพร่ซึ่งหอการค้าปาฏิหาริย์และตระกูลตงฟางจะมีส่วนแบ่งคนละครึ่ง,ไม่รู้ว่าเจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?"

นี่คือเหตุผลที่แท้จริงสินะ!

คนอื่นๆยากที่จะเชื่อเช่นกัน.

ราชาหนานเซี่ยนั้นไม่เพียงแต่รับผิดชอบเรื่องอุปกรณ์,ทว่ายังจะช่วยจ่ายต้นทุนการผลิต,ตลอดจนรายได้ที่ได้มาแบ่งปันกัน 50 เปอร์เซ็น,ผลประโยชน์ทั้งหมดแทบจะตกอยู่ที่หอการค้าปาฏิหาริย์,มีอะไรซ่อนอยุ่หรือไม่กัน?

สายตาของฉู่เทียนที่หยุดนิ่ง"องค์ราชามีขอเรียกร้องใดอย่างงั้นรึ?"

"ขอเรียกร้องเดียว,ภาพยนตร์ดังกล่าวนั้นจะต้องเป็นเรื่องราวและสร้างภาพพจน์ให้กับพวกเราทั้งคู่,หอการค้าปาฏิหาริย์มีหน้าที่ในการผลิตและแจกจ่ายออกไป."

เข้าใจแล้ว!

หลังจากที่ได้ชมภาพยนตร์ของหอการค้าปาฏิหาริย์,ก็คงเข้าใจได้อย่างชัดเจนว่าสามารถที่จะสร้างอิทธิพลขึ้นมาได้,ดังนั้นจึงต้องการโอกาส,ในในการสร้างความมั่นคงของตระกูลราชวงศ์,เพื่อรักษาสถานะของตระกูลให้มั่นคงนั่นเอง.

วัฒนธรรมและมิติใหม่ของภาพยนตร์กำลังปรากฏขึ้นแล้ว,และได้กลายเป็นที่คาดหวัง.

อย่างไรก็ตามคาดไม่ถึงเลยเช่นกันว่าคนแรกที่เข้ามาขอความร่วมมือ,กลับกลายเป็นราชาหนานเซี่ย.

แน่นอนว่า,ต้องยอมรับเลยว่าราชาหนานเซี่ยผู้นี้มีวิศัยทัศน์ที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก,เขาสามารถที่จะมองเห็นคุณค่าของภาพยนตร์นี้ได้,นับว่ามีสายตาที่แหลมคมผู้หนึ่ง.

"เช่นนั้น...เพราะว่าธุรกิจเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น,แน่นอนว่ามันจะเป็นเส้นทางที่ยิ่งใหญ่เปี่ยมไปด้วยมูลค่า."

"ไม่จำเป็นต้องกังวลแต่อย่างใด?ตราบเท่าที่หอการค้าปาฏิหาริย์ประสบความสำเร็จ,องค์ราชาก็จะประสบความสำเร็จเช่นกัน,แม้ว่าจะเป็นกระบวนการผลิต,องค์ราชาก็จะมีส่วนร่วมกับหอการค้าปาฏิหาริย์."

"องค์ราชาต้องการให้ข้าสร้างภาพยนตร์แบบใดกันล่ะ?"

"แน่นอนว่าจะต้องเกี่ยวกับราชอาณาจักร,ตลอดจนวีระบุรุษของตระกูลตรงฟางที่ทำการต่อสู้กับเผ่าเฉวียนหยิง,สร้างเป็นละครชุดจวบจนถึงวันนี้,ให้ทุกคนได้จดจำผลงานที่สมบูรณ์แบบในโรงภาพยนตร์,ข้าต้องการให้แนะนำเกี่ยวกับการต่อสู้ของราชอาณาจักรกับเผ่าทั้งสิบของเผ่าเฉวียนหยิง,และสร้างภาพพจน์ให้กับตระกูลตงฟาง,ให้สามารถยืนอยู่ในจิตใจของประชาชนทุกคน."

เพ่ย.

คาดไม่ถึงเลยว่าจะมาไม้นี้.

การสร้างภาพยนตร์เพื่อเยินยอตัวเอง,ความทะเยอทะยานของตระกูลตงฟางนับว่าไม่น้อยเลย!

ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังเมิ่งชิงอู๋ราวกับว่าจะสอบถามด้วยสายตา,เพราะว่าการบริหารงานท้ายที่สุดแล้วคือนางนั่นเอง,เมิ่งชิงอู๋ที่สามารถมองเห็นโอกาสที่มากกว่าฉู่เทียน,เรื่องเช่นนี้เรื่องกำไรขาดทุนนั้นต้องขึ้นอยู่กับนาง,แน่นอนว่าทุกอย่างนั้นให้นางเป็นคนตัดสินใจ.

เมิ่งชิงอู๋ที่พยักหน้าให้กับฉู่เทียน,หลังจากนั้นจึงได้กล่าวกับราชาหนานเซี่ยว่า"การที่ได้สร้างภาพยนตร์ร่วมกับตระกูลราชวงศ์นั้น,นับว่าเป็นเกียรติกับหอการค้าปาฏิหาริย์แล้ว."

"เยี่ยม!"แสดงท่าทางตื่นเต้น"ข้าต้องการภาพยนตร์ที่มีชื่อเรื่องว่า"ไฟสงครามของต้าเซี่ย" เป็นพงศาวดารของเหล่าประถมกระษัตริย์,ที่มีมานานหลายพันปี,และมีตระกูลตงฟางที่เป็นหนึ่งในราชวงศ์กษัตริย์เหล่านั้น,ที่พยายามปกป้องอาณาจักรเหมือนดังบรรพบุรุษ!"

นี่คือความตั้งใจที่จะมีการจัดตั้งความร่วมมือการครั้งแรก.

"ตัดสินใจตามนี้."ราชาหนานเซี่ยไม่ได้คิดที่จะหยุดแผนการนี้,"ราชาเช่นช้าคงจะต้องไปดูหวังซือที่ไม่ได้ความก่อน,คงต้องขอลาไปก่อน!"

"น้อมส่งองค์ราชา!"

คนหลายๆคนต่างก็ยกมือคารวะไปที่ด้านหน้า,พร้อมกับจ้องมองแผ่นหลังของราชาที่กำลังจากไป.

เมิ่งหยิงหยิง,หนานกงหยุนและคนอื่นๆต่างก็สบตากันไปมาด้วยท่าทางงงงวย.

นี่คือตงฟางเห่าเหรียนหนึ่งในสองผู้อหังการแห่งตำหนักจักรพรรดิอย่างงั้นรึ?

นี่คือราชานหนานเซี่ยที่เป็นสุดยอดความเด็ดขาดรึอย่างไร?

เมิ่งหยิงหยิงที่รู้สึกประหลาดใจ"ทำไมไม่เห็นเหมือนกับคำเล่าลือกันเลยล่ะ?หวังซือที่หัวแข็ง,องค์ราชาตามข่าวแล้วจะเป็นคนที่เอาแต่ใจ,แต่เหมือนว่าจะเป็นคนที่เรียบงายเป็นกันเองไปแล้ว."

平易近人 ความหมายคือ (píng yì jìn rén)1.อ่อนโยนเข้ากับคนอื่นได้ง่าย, 2.เข้าใจง่าย


หนานกงหยุนเองรู้สึกว่ามันดูลึกล้ำที่จะเข้าใจได้.

เมิ่งชิงอู๋ที่ส่ายหน้าไปมา"จะบอกว่าอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้เป็นอาณาจักรขนาดเล็กก็ไม่ผิด,และการที่เป็นราชาในอาจักรแห่งนี้,ก็ใช่ว่าจะทำได้ทุกอย่าง,นอกจากนี้ยังมีเฟิงจวินทั้งสามอีกที่อยู่ภายในการควบคุมของเขา,การเป็นราชาในอาณาจักรนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย."

บางที.
.....

ถัดมาจากนั้นสองวัน.

ทุกๆวันโรงหนังหลักทั้งสี่โรงนั้นถูกจองเต็มที่นั่งทุกๆรอบ,ประชาชนหลังไหลมาเป็นสาย,นับว่าเป็นสิ่งดึงดูดประชาชนให้สนใจเรื่องราวภาพยนตร์ดังกล่าวเป็นอย่างมาก,ภายหลังจากที่ภาพยนตร์ได้รับความนิยม,ทุกๆแห่งต่างก็ถูกพูดถึงกันแทบจะทุกวันหลังอาหารเลยก็ว่าได้.

"สงครามโลหิตสีชาดนั้นสร้างชื่อเสียงให้กับหอการค้าปาฏิหาริย์เป็นอย่างมาก,เนื่องจากตัวเอกของเรื่องนั้นเป็นฉู่เทียน,ทำให้เขากลายเป็นดาวดวงใหม่ที่สว่างไสวราวกับดาวหาง.

โดยเฉพาะหลายวันมานี้,ฉู่เทียนที่สามารถล้มสุดยอดอหังการหวังซือ ตงฟางเห่าเหรียน,ยิ่งทำให้เขาได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก,ทำให้ทุกคนต่างขุดคุ้นเรื่องราวของเขาจากรัฐกลาง,และจากนั้นก็ยิ่งทำให้ประชาชนตื่นตะลึงและประหลาดใจเป็นอย่างมาก.

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า.

ฉู่เทียนที่ก้าวเข้ามาภายในตำหนักจักรพรรดิจะกลายเป็นดาวดวงเด่นที่สว่างโชติช่วงขนาดนี้.

เหล่าคนมากมายต่างก็ยกย่องเทิดทูนฉู่เทียนให้กลายเป็นวีระบุรุษ.

หรือแม้แต่เมิ่งหยิงหยิงในเวลานี้,ยังได้รับฉายา,องค์หญิงของประชาชน ภาพพจน์ของนางนั้นราวกับว่าได้เกิดเป็นองค์หญิง,ทั้งรูปร่างที่เยาว์วัยสวยงาม,ทำให้คนมากมายคลั่งใคร่เป็นอย่างมาก.

ภาพยนตร์นั้นไม่เพียงแต่สร้างอิทธิพลเพิ่มให้กับพวกเขา,เมื่อภาพยนตร์ สงครามโลหิตสีชาด ได้เปิดการแสดง,และเป็นที่นิยมนั้นทำให้เหล่าประชาชนมากมายสนใจในสินค้ามากขึ้นอีกด้วย.

เสนาธิการจวอเหยี่ยนของตระกูลหนานกงที่ไม่สมารถทนกับคำวิจารย์ของประชาชนได้,ตอนนี้ได้ถูกส่งออกไปจากตำหนักจักรพรรดิไปเรียบร้อยแล้ว,ไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นถูกส่งไปประจำการที่ใด.

ตระกูลหวังเองก็โชคร้ายไม่แพ้กัน

คฤหาสน์ของตระกูลหวังนั้นสถานการณ์ไม่ดีนัก พวกเขาต้องถูกปาไข่ใส่รอบๆกำแพงอยู่เป็นประจำ,ตอนนี้คนของตระกูลหวังไม่กล้าที่จะเดินทางออกมาตามถนนเลย,ด้วยหวั่นเกรงที่จะเกิดความวุ่นวายหรือถูกลอบโจมตี,แม้แต่ถูกตะโกนก่นด่าอีกด้วย.

ในเวลาสั้นๆ,ตระกูลหวังที่เป็นตระกูลราชวงศ์เก่ามีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน,เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น,กับต้องการเป็นจำเลยให้กับประชาชนทั่วเมืองไปซะแล้ว.

ถึงแม้ว่าจะเป็นเหล่าองค์รักษ์ที่พวกเขาจ้างมาก็ยังไม่จับกลุ่มนินทาพวกเขา.

ไม่เว้นแม้แต่คนที่สัญจรไปมาผ่านตำหนักของพวกเขาต่างก็แสดงท่าทางดูหมิ่นและรังเกียจพวกเขา,ทำให้พวกเขานั้นรับรู้ได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนมากมาย,จนทำให้พวกเขานั้นได้รับผลกระทบทางจิตใจเป็นอย่างมาก!

"ข้าขอน้อมขอให้องค์ราชาให้ความเป็นธรรมกับตระกูลหวังของพวกเราด้วย!"

จอมพลหวังถูที่คุกเข่าต่อหน้าราชาหนานเซี่ย,ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความหดหู่และขุ่นเคืองใจอย่างรุนแรง.

"จบกันแล้วแม้ว่าจะเป็นความผิดพลาดของตัวข้า,ทว่าตระกูลหวังนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์,ชื่อเสียงทีสั่งสมมาหลายร้อยปีนี้กับถูกเจ้าเด็กสารเลวฉู่เทียนสร้างภาพยนตร์ทำลายไปจนหมดสิ้น! ตระกูลหวังของข้า,กองกำลังมังกรสงครามที่ต้องเสียสละอยู่แนวหน้า,เป็นกองกำลังรบที่มีชื่อเสียง,กลับต้อบงมาถูกประชาชนทั่วทั้งเมืองดูถูกดูแคลนเช่นนี้,มันช่างทำลายขวัญกำลังใจของพวกเราเป็นอย่างมาก! ขอให้พระองค์จงได้ทำการปิดโรงหนังทั้งหมดในตำหนักจักรพรรดิและให้หอการค้าปาฏิหาริย์ต้องรับผิดชอบการกระทำของพวกเขาในครั้งนี้ด้วย!"

บางทีจอมพลหวังถูกคงจะยังไม่รู้.

ราชาหนานเซี่ยนั้นได้ทำการพูดคุยตกลงกันอย่างลับๆในการให้ความร่วมมือในการสร้างภาพยนตร์กับฉู่เทียน,ตอนนี้ได้เริ่มเตรียมการในการสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่แล้ว,ดังนั้นการที่จอมพลหวังถูต้องการที่จะปิดโรงภาพยนตร์ของหอการค้าปาฏิหาริย์นั้น,เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้.

"ภาพยนตร์ของพวกเขานั้นมีอิทธิพลต่อประชาชนอย่างคาดไม่ถึงเลยจริงๆ,ทว่าภาพยนตร์ดังกล่าวนั้นกลับได้รับความนิยมไปทั่วบ้านทั่วเมือง,หากว่าสั่งปิดเพียงแค่เหตุผลนี้,ข้าเกรงว่าจะทำให้ประชาชนก่อความวุ่นวายขึ้นมาได้,ไม่เพียงแค่ไม่สามารถลบความไม่ยุติธรรมให้กับตระกูลหวังไปได้,ข้าเกรงว่าจะทำให้คนนับหมื่นนับแสนก่อความวุ่นวายซะมากกว่า."

จอมพลหวังถูที่กล่าวออกมาอย่างชอบธรรม"ภาพยนตร์ดังกล่าวที่เผยแพร่ออกมานั้น,ได้ทำลายวัตนธรรมของอาณาจักรเรา,หากว่ามีการแสดงที่พาดพิงเรื่องราวเช่นนี้เป็นเวลานาน,หากว่าละเลยไม่สนใจเกี่ยวกับการรบกับทางภาคเหนือ,ผลกระทบที่จะมีกับอาณาจักรหนานเซี่ยของพวกเรานั้นคงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ทำให้จิดวิญญาณของพวกเราหมดสิ้นไป,และพวกเราจะสามารถต่อต้านกับเผ่าเฉวียนหยงได้อย่างงั้นรึ?"

"จอมพลหวังถูอย่าได้ตื่นเต้น,ไม่ต้องกังวลไป."ราชาหนานเซี่ยราวกับว่าได้เตรียมการไว้เรียบร้อยแล้ว"ผู้สนับสนุนของฉู่เทียนในตอนนี้มีอยู่มากมาย,ราชาเช่นข้าเองก็คิดที่จะยับยั้งเช่นกัน,เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้ต้องประสบความสำเร็จไปมากกว่านี้."

จอมพลหวังถูที่ได้ยินกู้รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก"ราชาช่างชาญฉลาด!"

จอมพลหวังถูนั้นได้เขามายังตำหนักเพื่อร้องเรียน,ทุกอย่างนั้นอยู่ในการคาดการของราชาหนานเซี่ยอยู่แล้ว.

ที่จริงแล้วนับตั้งแต่ที่เขาออกมาจากหอการค้าปาฏิหาริย์ในช่วงเย็นวันนั้น,ราชาหนานเซี่ยเองก็ได้คิดวิธีตอบโต้,ไม่เพียงเขาไม่ต้องการยุแหย่ฉู่เทียนด้วยตัวเอง,และยังสามารถที่จะข่มขวัญของฉุ่เทียนได้อีกด้วย.

ราชาหนานเซี่ยที่ได้เขียนราชโองการขึ้นมา,ก่อนที่จะประทับตราราชวงศ์,พร้อมกับมอบคำสั่งดังกล่าวออกไป"เจ้านำสิ่งนี้ไป!"

จอมพลหวังถูที่เห็นราชโองการแล้ว,ทันใดนั้นโลหิตก็สูบฉีดเป็นอย่างมาก,พร้อมกับคุกเข่าลง,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและกล่าวออกมาเสียงดัง"เป็นพระคุณแล้ว,องค์ราชา!"

"เรื่องในครั้งนี้อย่าให้ใครรู้,รีบไปจัดการซะ!"

"รับด้วยเกล้า!"

จอมพลหวังถูที่เต็มไปด้วยความยินดีเดินทางออกไปจากพระตำหนัก.


ราชาหนานเซี่ยที่เผยรอยยิ้มที่แปลกประหลาดเต็มไปด้วยเลิศนัยน์


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น