วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 293 Film and television play

Miracle Throne Chapter 293 Film and television play

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 293 ภาพยนตร์


บทที่ 293 ภาพยนตร์



หากจักรพรรดิสุริยันต์เป็นพยัคฆ์ร้ายที่ดุร้าย.

เช่นนั้นจักรพรรดิเหวินเฉิงก็เหมือนกับอสรพิษร้ายเช่นกัน.

อสรพิษร้ายนั้นบางครั้งก็ร้ายกาจยิ่งกว่าพยัคฆ์ซะอีก,ส่วนคนอื่นๆนั้น,ยกตัวอย่างตระกูลหวัง,ฉู่เทียนไม่ได้เอามาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย.


หนานกงหยุนที่รู้ว่าเหล่าคนของตระกูลหนานกงนั้นได้ถูกฉู่เทียนไล่ออกไปแล้ว,ทันใดนั้นถึงกับทำให้นางน้ำตาซึมเลยทีเดียว,ก่อนที่จะวิ่งเข้ามากอดฉู่เทียนเอาไว้"ขอบคุณ,ข้าไม่ต้องการจะกลับไปยังตระกูลหนานกงจริงๆ...ขอเพียงข้า,ท่านช่วยข้าป้องกันออกจากคนเหล่านั้น,ข้ากลัวว่าจะทำให้ทุกคนต้องเกิดปัญหา,ทำให้ทุกคนเดือดร้อน.."
 "เจ้ากล่าวอะไรกันเล่า?"ฉู่เทียนที่แสดงท่าทางใจกว้างและเต็มไปด้วยความยุติธรรมและตบไปที่อก"ข้าต้องปกป้องเหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน,เป็นหน้าที่ของเจ้านายไง,มันเป็นหน้าทีของข้าอยู่แล้ว,เจ้าวางใจอยู่ในหอการค้าปาฏิหาริย์,สบายใจได้,จักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาไม่กล้ากระทำการอะไรรุนแรงแน่นอน!"

义不容辞 ความหมายคือ (yì bù róng cí)ภารกิจอันพึงปฏิบัติโดยไม่สามารถบอกปัดได้


ฉู่เทียนเชื่อมั่นขนาดนั้นเลยอย่างงั้นรึ?

สองพี่น้องเมิ่งชิงอู๋ที่เร่งรีบออกมาสอบถามเรื่องของฉู่เทียนในวันนี้.

ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง,เรื่องที่ทำให้ทุกคนโกรธเกรี้ยวและตื่นตะลึง,เขาไม่เพียงแต่ต้องเผชิญหน้ากับราชาหนานเซี่ย,ยังทำการโต้แย้งกับจักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาและยังมีตระกูลหวังอีกด้วย,จนทำให้คนเหล่านั้นควันออกหูถูกตำหนิไปทั้งห้องโถง,ท้ายที่สุดเขาก็เดินออกมาอย่างปลอดภัย?

"แปลก?"เมิ่งชิงอู๋ที่เต็มไปด้วยความสงสัย"ราชาหนานเซี่ยที่ปรกติเป็นคนแข็งกร้าว,เจ้าที่ทำให้เขาเสียหน้าไปตั้งหลายอย่าง ด้วยนิสัยของราชาหนานเซี่ย,ปล่อยเจ้าไปง่ายๆได้อย่างไร."

ฉู่เทียนเองก็ไม่ได้รู้สึกแปลกอะไรนักที่ผลออกมาเป็นเช่นนี้"ท่านหญิงที่ชาญฉลาดยังไม่เข้าใจความจริงอีกรึ?"

เมิ่งชิงอู๋ที่เกลือกกลิ้งตาไปมา"เจ้า,งั้นบอกข้าหน่อยสิ."

"อย่างแรก,ราชาหนานเซี่ยไม่มีเหตุผลพอที่จะลงโทษข้า,อย่างที่สองราชาหนานเซี่ยเกรงใจจักรพรรดิอู๋อานและต้าเซวจื่อ,ตลอดจนข้ามีความสามารถ.อย่างที่สามนั้น,เขาได้พบแล้วว่าข้าอาจจะเป็นตัวกลางที่จะทำให้อำนาจในนครจักรพรรดิสมดุล."

อย่างแรกและสองนั้นก็พอเข้าใจได้.

ส่วนอย่างที่สามนี้หมายความว่าอย่างไร?

ฉู่เทียนที่ได้อธิบายออกมาอย่างระเอียด"วันนี้ภายในวังหลวงนั้น,ข้าไม่เพียงแต่ยุแหย่จักรพรรดิสุริยันต์แผดเผา,ข้ายังทำการสั่งสอนบทเรียนกับคนตระกูลหวังอีกด้วย,และจักรพรรดิเหวินเฉิงเองก็โกรธเกลียดข้าอย่างที่สุด,ทว่าที่จริงแล้วราชาหนานเซี่ยนั้นควรที่จะต้องห้ามปรามพวกเขาเอาไว้!ทว่าต้าเซวจื่อและจักรพรรดิอู๋อานนั้นสนับสนุนข้า,ดังนั้นด้วยท่าทางของข้าที่แสดงออกมานั้น,ทำให้อิทธิพลต่างๆในเมืองหลวงตอนนี้เกิดความสมดุลขึ้นมา,ข้าสามารถที่จะช่วยเขาทำให้อำนาจและบารมีของเขาสมดุลได้นั่นเอง."

เมิ่งชิงอู๋นั้นเป็นคนที่ฉลาด,เมื่อได้ยินคำอธิบายทำให้นางสามารถเข้าใจได้ในทันที.

สถานะของจักรพรรดิทั้งสามนั้นมีตำแหน่งที่สูงเป็นอย่างมาก,มีผลต่อการตัดสินใจทุกอย่าง,สามจักรพรรดินั้นนับว่ากุมอำนาจครึ่งหนึ่งเลยก็ว่าได้และตลอดเวลานั้นพวกเขาเองก็ไม่เคยมีความขัดแย้งอะไรกันเลยแม้แต่น้อย,ทุกสิ่งที่ตัดสินใจแล้วจะไปในแนวทางเดียวกันโดยปริยาย,ส่วนนอกจากสามจักรพรรดิแล้ว,ยังมีต้าเซวจื่อ,และตระกูลหวัง..อื่นๆอีกหลายเสียง,ทุกคนต่างก็มีอิทธิพลที่ไม่ธรรมดา,บ่อยครั้งที่ขัดแย้งกันบ้างแต่ก็ไม่ได้หนักหนาอะไร,สถานะของราชาหนานเซี่ยนั้นถึงแม้ว่าจะดูสูงส่ง,ทว่าก็ยากที่จะควบคุมกลุ่มคนทุกคนได้อย่างสมบูรณ์แบบได้.

ฉู่เทียนที่ปรากฏตัวออกมาเพื่อสร้างความขัดแย้ง,ด้วยต่างคนต่างต้องรักษาอำนาจของตัวเองเพื่อใช้ในการเผชิญหน้ากัน,พวกเขาต่างแข่งขันกันอย่างลับๆ,ทำให้ราชาหนานเซี่ยนั้นไม่ได้มีส่วนร่วมด้วย,หากว่ามีเรื่องขัดแย้งขึ้นมา,แน่นอนว่าจะเป็นหน้าที่ของราชาหนานเซี่ยที่จะต้องออกมาควบคุมสถานการณ์และควบคุมทุกอย่างไว้ในมือของพระองค์.

ดังนั้น,ตัวตนของฉู่เทียน,ไม่ใช่ว่าจะจัดการได้ง่ายๆ,ด้วยเขาที่มีจักรพรรดิอู๋อานและต้าเซวจื่ออยู่เบื้องหลัง,เช่นนั้นหากว่าเหวินเฉิงและจักรพรรดิสุริยันต์แผดเผาต้องการจะจัดการเขาจะต้องผ่านมาทางราชาหนานเซี่ยเท่านั้น,

ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนนั้นไม่ได้มากมายนัก.

สถานการณ์ตอนนี้เหมาะที่จะต้องคงไว้เป็นอย่างมาก.

ยิ่งความขัดแย้งมีมากขึ้นเท่าไหร่,ราชาหนานเซี่ยก็จะยิ่งได้เปรียบ,เพราะว่าอีกทั้งสองฝังนั้นย่อมต้องการความช่วยเหลือจากองค์ราชา,เช่นนั้นแล้วก็จะมีแต่ได้รับประโยชน์เลยไม่ใช่รึ?

"ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นั่นเอง."เมิ่งชิงอู๋ที่เผยท่าทางอับอาย"ข้ายังไม่สามารถเทียบกับเจ้าได้เลยแม้แต่น้อย."
原来如此  yuán lái rú cǐ อ๋อ..ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เอง,ใช้ในกรณีที่ เข้าใจความจริง หรือสาเหตุของเรื่องในทันที


"เฮ้ท่านหญิง,จะกล่าวเช่นนั้นได้อย่างไร?เรื่องทางการเมืองนั้นไม่ใช่เรื่องที่จะเรียนกันได้ง่ายๆ!"

"คำพูดบางอย่างไม่ใช่ว่าจะพูดได้,บางทีพูดไปจะมีประโยชน์อย่างงั้นรึ?"

"ขอโทษที,ข้าเป็นเพียงแค่นักธุรกิจ,สร้างสิ่งประดิษฐ์เพื่อหาเงินและความร่ำรวยก็พอแล้ว,ไม่ได้ต้องการสร้างชาติอะไรสักหน่อย,ท่านหญิงกำลังคิดอะไรกัน?"ได้โอกาสฉู่เทียนได้เปลี่ยนเรื่องในทันที"หลายวันนี้หอการค้าปาฏิหาริย์มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง,ช่วยบอกกล่าวข้าเร็วเข้า!"

เมิ่งชิงอู๋ที่เริ่มรายงานสิ่งที่นางได้ทำมา.

เมิ่งชิงอู๋ที่ควรค่าจะเป็นภรรยาของฉู่เทียนจริงๆ...สามารถเติมเต็มงานของเขาได้ทั้งหมด!

ฉู่เทียนที่มอบหมายงานให้กับเมิ่งชิงอู๋นั้น,ไม่ได้ขาดตกบกพร่องอะไรเลย,สามารถทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์เลย

สถาบันวิจัยของตำหนักจักรพรรดิได้ทำการก่อตั้งขึ้นเรียบร้อยแล้ว.

ส่วนโรงงานสร้างอาวุธในตำหนักจักรพรรดิก็เสร็จเรียบร้อยแล้วเช่นกัน.

หอการค้าปาฏิหาริย์ได้ควบรวมกิจการอีกหลายแห่งในตำหนักจักรพรรดิ,และสามารถที่จะสร้างสินค้าประเภทต่างๆออกมา,นอกจากนี้ยังได้ข่าวคราวจากสถาบันวิจัยจากรัฐกลางแล้วว่า,ปืนกลพลังเวทย์นั้นสามารถที่จะพัฒนาได้สำเร็จแล้ว,ตอนนี้เองก็สร้างโรงงานผลิตอาวุธที่รัฐกลางได้แล้วอีกด้วย.

เมิ่งชิงอู๋ที่กล่าวเสริมมาอีกว่า"พวกเราได้พัฒนาเทคโนโลยีถ่ายภาพขึ้นมาได้แล้ว,ตอนนี้สามารถที่ส่งกระจายคลื่นภาพได้แล้วและยังสามารถบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย."

ฉู่เทียนที่เหมือนเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว.

ตำหนักจักรพรรดิที่ได้ถูกติดตั้งหอคอยสัญญาณศิลาซ่อนเงาเป็นจำนวนมาก.

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก,ข้าและหยิงหยิง,หลังจากที่ได้ศึกษาเป็นอย่างดี,ในที่สุดก็สามารถที่จะนำมาหากำไรได้แล้ว."

ที่จริงสองสาวต้องการที่จะทำให้ฉู่เทียนประหลาดใจนั่นเอง!

"อะไรอย่างงั้นรึ?"

"แม่นางน้อยหยิงหยิง ข้ายอม.."

เมิ่งหยิงหยิงที่นำบันทึกแผ่นหนึ่งมา,เหมือนกับว่ารายงานบางอย่าง,หลังจากที่ฉู่เทียนตรวจสอบแล้ว,ทันใดนั้นนางก็เผยยิ้มที่เฉิดฉายออกมา"ฉู่เทียน,เจ้าต้องขอบคุณข้า เร็วเข้าเลย!"

"ขอบคุณเจ้าอย่างงั้นรึ?"

"ท่านหญิงผู้นี้จะสามารถทำให้เจ้ามีชื่อเสียงในทันที!"

ฉู่เทียนที่รู้สึกประหลาดใจ"ข้าไม่มีชื่อเสียงอย่างงั้นรึ? ล้อเล่นน่า!"

เมิ่งชิงอู๋ที่กล่าวออกมาทันที"อย่าให้เขาต้องเดาอีกเลย,บอกเขาไปเถอะ."

เมิ่งหยิงหยิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางดีใจมากๆ."ข้าได้ประดิษฐ์เทคโนโลยีใหม่พร้อมกับท่านพี่,พวกเราพบว่าศิลาซ่อนเงานั้นสามารถที่จะเก็บภาพเอาไว้ได้,พวกเราเลยสามารถพัฒนาให้เก็บภาพเคลื่อนไหวโดยใช้ศิลาซ่อนเงาบันทึกภาพนั่นเอง,สิ่งประดิษฐ์ที่สามารถเก็บรูปภาพเคลื่อนไหวได้อย่างไรล่ะ."

"แล้วมันอย่างไรล่ะ?"

"โง่จริง,นี่เป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่แล้ว."เมิ่งหยิงหยิงที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางตื่นเต้น,นางกล่าวออกมาด้วยความมั่นใจ"ตอนนี้คนในทวีปแห่งนี้,ยังไม่มีสิ่งที่จะให้ความบันเทิงเลย,จิตใจที่ว่างเปล่า,ไม่ได้มีสิ่งใดที่จะช่วยให้พวกเขาสนุกสนานได้เลย,พวกเราจะทำการเก็บภาพเคลื่อนไหวด้วยสิ่งประดิษฐ์ที่สร้างจากศิลาซ่อนเงาและจากนั้นก็ใช้มันให้ความบันเทิงกับทุกคน,สิ่งนี้จะกลายเป็นตำนาน,สร้างบางอย่างให้เป็นเรื่องราวเป็นเป็นละครเรื่องหนึ่ง,สร้างเรื่องราวดังกล่าวนี้เพื่อให้พวกเขามีความสนใจ,พวกเขาทุกๆคนจะชื่นชอบจนต้องบันทึกลงในตำราเลย,ข้าคิดว่าจะสร้างละครเรื่องแรก,เป็นเรื่อง<สงครามโลหิตสีชาด> บอกเล่าเรื่องราวที่เจ้าได้ทำการช่วยเหล่าผู้คนมากมาย,และประสบการณ์การต่อสู้กับปิศาจร้ายอย่างยิ่งใหญ่!"

น้ำในปากของฉู่เทียนแทบพุ่งออกมา.

สองสาวคิดเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?

ความจริงในยุคของฉู่เทียนนั้น,เทคโนโลยีเหล่านี้นับว่าเจริญเติบโตเป็นอย่างมาก,ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือละครล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งทั่วไป,จนฉู่เทียนไม่ได้คิดถึงจุดนี้เลย,ท้ายที่สุดแล้วกลับกลายเป็นว่าสองพี่น้องเมิ่งชิงอู๋สามารถคิดมันออกมาได้.

สิ่งดังกล่าวนี้แทบจะไม่ต่างอาหารกระป๋องแห่งปาฏิหาริย์เลย.

เทคโนโลยีเหล่านี้เป็นสิ่งที่ธรรมดาทั่วไปสำหรับเขา,จนมันหายไปจากความคิดของเขาไปเลย.

ใบหน้าของเมิ่งหยิงหยิงที่เต็มไปด้วยความคาดหวังจ้องมองไปยังฉู่เทียน"เจ้าคิดว่าสิ่งดังกล่าวนี้เป็นอย่างไร?"

"ยอดเยี่ยม,เป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมากเลย!"สมองของฉู่เทียนกำลังหมุนไปมาอย่างรวดเร็ว"พวกเราจะใช้ตำหนักจักรพรรดิแห่งนี้,ทำการขยายชื่อเสียงของพวกเรา,หอการค้าปาฏิหาริย์จะมีขนาดที่ยิ่งใหญ่กว่าใครๆ."

เมิ่งหยิงหยิงพยักหน้า"เจ้ามีอะไรต้องการอะไรอีกหรือไม่?"

"งานแรกที่ต้องทำนั้น,ไม่ใช้ว่าจะต้องใช้เงินทุนมากมายหรอกเหรอ,แต่ไม่ว่าจะใช้เงินไปมากเท่าไหร่,อย่างแรก,ภาพพจน์ของข้าต้องดูดี,ตกลงนะ?"

เมิ่งหยิงหยิงที่เกลือกลิ้งลูกตาไปมา"เกี่ยวกับเรื่องกำไรขาดทุนนั้น,เจ้าไม่จำเป็นต้องกังวลเลย,เรื่องนี้ท่านพี่มีความสามารถทางการค้าอยู่แล้ว,ไม่ว่าจะลงทุนไปมากเท่าไหร่,นางสามารถที่จะหากลับมาคืนได้สองเท่าแน่นอน."

ฉู่เทียนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง.

ในการสร้างภาพยนตร์หรือละครขึ้นมาแต่ละเรื่องนั้นต้นทุนไม่ได้น้อยเลย,ได้เท่าทุนก็ถือว่าดีมากแล้ว,จะสามารถทำกำไรได้จริงๆรึ?

เมิ่งหยิงหยิงที่ยื่นบทให้กับฉู่เทียน"ข้าได้ขอให้พี่หนานกงเป็นตัวเอกของเรื่องด้วย,เรื่องราวของข้า,เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไรบ้าง!"

เรื่องราวที่บันทึกเอาไว้นั้น,จะเป็นเรื่องราวในการต่อสู้และผจญภัย.

ไม่คิดเลยว่า,สาวน้อยคนนี้จะมีฝีมือในการสร้างงานศิลปะเช่นนี้ขึ้นมาได้.

ฉู่เทียนที่ได้เสนอความคิดที่เขาเคยเห็นมา"ข้าคิดว่าควรที่จะใส่เรื่องราวเกี่ยวกับความรักไปด้วยจะเป็นเรื่องที่ดีเยี่ยม."

"ความรัก?เพิ่มเข้ามา?"

"เจ้าสามารถที่จะสร้างตัวละครหญิงสาว,เป็นตัวเอกเช่นเจ้าเมิ่งหยิงหยิงไง,โดยสร้างบทเป็นองค์หญิงจากอาณาจักรหนึ่ง,แล้วถูกโจรจับตัวไป,ท้ายที่สุดข้าก็ได้ไปช่วยเหลือเจ้า,และท้ายที่สุดพวกเราก็ได้อยู่กินด้วยกันอย่างมีความสุขไงล่ะ."

เรื่องราวที่องค์หญิงถูกโจรร้ายจับตัวไปที่จริงเป็นเรื่องที่ตกยุคเป็นอย่างมาก.

อย่างไรก็ตามในยุคสมัยนี้,นับว่าเป็นเรื่องที่ควรจะได้รับความนิยมทีเดียว.

ใบหน้าของเมิ่งหยิงหยิงที่เปลี่ยนเป็นแดงซ่าน"เจ้าไม่อายรึอย่างไร,ไมใช่ว่าเรื่องนี้จะให้คนอื่นเห็นได้อย่างไรกันล่ะ?"

"เจ้าคิดอะไรเล่า?นี่เป็นเพียงการแสดง,เป็นศิลปะ!มีอะไรต้องขายหน้าด้วยล่ะ?"ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง"เจ้าจะเปลี่ยนท่านหญิงเป็นตัวเอกก็ได้,หรือหนานกงหยุนก็ไม่มีปัญหา."

ใบหน้าของเมิ่งชิงอู๋ที่เปลี่ยนเป็นสีแดงเช่นกัน,ทว่าก็ไม่ได้กล่าวสิ่งใดออกมา.

หนานกงหยุนที่หัวเราะออกมาเสียงดัง"ข้าไม่มีความเห็น,ฮี ฮี!"

"ไม่ได้,ไม่ได้! ท่านพี่นั้นเป็นผู้นำหอการค้าปาฏิหาริย์,ดังนั้นจะต้องรักษารูปลักษณ์ที่สง่างาม,พี่หนานกงเองต้องเป็นผู้คนที่แข็งแกร่งน่าเกรงขาม,ส่วนองค์หญิงนั้นดูอ่อนแอ,จะให้พวกนางแสดงเช่นนี้ได้อย่างไร?"เมิ่งหยิงหยิงที่แสดงท่าทางเขินอาย เสยผมไปมา"ดูเหมือนว่า,ข้าจะต้องเสียสละเป็นคนแสดงแล้ว."

ทุกคนที่พากันหัวเราะคิกคัก.

ด้วยความคิดของสาวน้อยผู้นี้พวกเขาจะไม่สามารถคาดเดาได้อย่างไร?

ทันใดนั้นฉู่เทียนที่ราวกับว่ามีความคิดบางอย่างขึ้นมาในทันใด.

ตระกูลหนานกงและตระกูลหวังไม่ใช่ว่าพวกเจ้าโอหังมากเกินไปหรอกรึ?มาดูกันว่าเวลานี้ท่านลุงฉู่เทียนจะตกแต่งเรื่องให้พวกเจ้าอย่างไร!

ฉู่เทียนที่กล่าวต่อเมิ่งหยิงหยิง"เรื่องราวของเจ้าต้องปรับปรุงหน่อยให้มันน่าสนใจมากขึ้นแล้วล่ะ,ข้าคิดว่ามันจะดูดียิ่งขึ้นหากว่ามีตัวร้ายด้วย,ยกตัวอย่าง..."

พวกเขาในเวลานี้ต่างก็ปรึกษาพูดคุยกันเกือบหนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว.

แผนการสร้างภาพยนต์ในครั้งนี้ก็ได้ข้อสรุป.

เมิ่งหยิงหยิงที่ได้ทุกคนแต่งเติมเนื้อเรื่องให้น่าสนใจยิ่งขึ้น.

ที่จริงแล้วในการสร้างภาพยนตร์ขึ้นมานั้นมีต้นทุนไม่น้อยเลย,เพราะว่าในกระบวนการผลิตนั้น,ไม่เพียงต้องใช้คนเป็นจำนวนมาก,ยังจำเป็นต้องใช้ศิลาซ่อนเงาเป็นจำนวนมากเช่นกัน,และศิลาซ่อนเงาในอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้ก็นับว่าเป็นวัตถุดิบที่หายากไม่น้อยเลย!"

ผลผลิตของแร่ดังกล่าว,ทั่วทั้งอาณาจักรหนานเซี่ยนั้นมีไม่เกินสามแห่ง,ผลผลิตทุกๆปีนั้นจึงมีค่อนข้างจำกัด,ดังนั้นราคาของมันจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีราคาแพง,หลังจากที่นำมาใช้แล้ว,ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะนำกลับมาใช้ใหม่เพื่อลดต้นทุนได้,หรือยิ่งผลิตมากขึ้นเท่าไหร่,ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่จะทำให้ต้นทุนถูกลง.

อย่างไรก็ตาม,คงจะต้องลองทำดูก่อน.

เงินสดของหอการค้าปาฏิหาริย์ในตำหนักจักรพรรดินั้น,มีอยู่ราวๆ 600 ล้านเหรียญทอง,ตอนนี้เมิ่งหยิงหยิงนำออกมาลงทุน 200 ล้านเหรียญทอง,ไม่ได้ทำให้นางใส่ใจนัก,และก็ไม่ได้คิดว่าเป็นปัญหาด้วย.

แน่นอนว่าด้วยเงินทั้งหมดนั้นสามารถที่จะซื้อศิลาซ่อนเงามาทั้งตลาดได้.
 เมิ่งหยิงหยิงที่ทำการรวบรวมคนกว่า 100 คนในการสร้างในครั้งนี้,นางที่เริ่มวางแผนงานและศึกษาเรื่องราวต่างๆ,ด้วยการจัดการหอการค้าปาฏิหาริย์ของเมิ่งชิงอู๋ในเวลานี้,ไม่ว่าจะเป็นสถานีกระจายเสียง,สื่อและช่องทางต่างๆ,สามารถสร้างความสนใจให้กับทุกคนไม่น้อย.

ป้ายโฆษณา เกี่ยวกับละครทีวีตอนนี้ได้ถูกกระจายไปทุกๆแห่ง.

เรื่องราวดังกล่าวนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ขึ้นในนครจักรพรรดิแห่งนี้,ผู้คนมากมายที่ได้ยินเรื่องละครทีวี,ซึ่งไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเคยมีเรื่องราวเช่นนี้ด้วย.

เมิ่งชิงอู๋ที่ได้ทำการซื้อโรงละครขนาดใหญ่หลายแห่งทั่วทั้งนครจักรพรรดิ,พร้อมกับทำการปรับปรุงฉากในการติดตั้งจอของศิลาซ่อนเงาขึ้นมา,หลังจากที่ทีมงานสร้างของเมิ่งหยิงหยิงได้ทำงานสร้างเสร็จสิ้น,ในเวลานี้ก็ถึงคราวที่จะนำออกมาเสนอต่อสาธารณะชนเรียบร้อยแล้ว.

ข่าวเรื่องดังกล่าวนี้ได้กระจายไปทั่วทั้งนครจักรพรรดิ.

ปรากฏมีคนให้ความสนใจมากมายล้นหลาม.


ไม่เพียงแต่เหล่าประชาชนทั่วไป,ทั้งเหล่าขุนนางเชื้อราชวงศ์,ทุกคนต่างก็ให้ความสนใจในการสร้างละครทีวีในครั้งนี้ด้วย,นับว่าเป็นเรื่องที่ต้องพูดคุยกันหลังอาหารเลยทีเดียว,สุดท้ายแล้ว,ศัพท์ใหม่,"ละครทีวี"ได้กลายมาเป็นคำใหม่ยอดนิยมของนครจักรพรรดิไปเรียบร้อยแล้ว.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น