วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 36 Calm Zhong Shan

Immortality Chapter 36 Calm Zhong Shan

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 36 ความสุขุมของจงซาน


บทที่ 36 ความสุขุมของจงซาน


ความสุขุมของจงซาน.

เทียนหลิงเอ๋อเริ่มหวาดกลัวขึ้นมาทันที,มันกลายมาเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?เป็นเช่นนี้ได้อย่างไร?

จงซานเองก็ไม่ต้องการจะตายเช่นกัน,เขาจะตายที่นี้ได้อย่างไร,เขาที่ทนลำบากมานานแสนนานเพื่อเข้าสำนักเซียน,ท้ายที่สุดจะต้องตายที่นี่อย่างงั้นรึ?อย่างไรก็ตาม,ในเมื่อศิลาบนยอดเขากำลังจะแตกกระจายเป็นเสี่ยงๆแล้ว,เวลานี้พวกเขาทั้งสองจะต้องล่วงหล่นลงไปพร้อมๆกันแน่.


"หลิงเอ๋อ,ใช้ผ้าแพรแดงของเจ้าบินไปซะ,ข้าสามารถใช้ดาบชะลอความเร็วกับหน้าผาได้,"จงซานที่ตัดสนใจในทันที.

"ข้าไม่สามารถใช้ผ้าแพรไหมที่เสียหายเช่นนี้,บินได้แล้ว."

ได้ยินคำพูดของจงซาน,ภายในใจของจงซานถึงกับตื่นตระหนก,ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?

"จงซาน,ข้าไม่ควรที่จะทิ้งเจ้า,ทว่าข้าก็ไม่สามารถทนได้เช่นกัน,ข้าเสียใจ,ข้าคงไม่ได้เห็นศิษย์พี่ใหญ่อีกต่อไปแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่เต็มไปด้วยความเสียใจ.

จงซานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกมากมาย,เขาจ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ,"หากว่าพวกเรารอด,ข้าจะพาเจ้าไปหาศิษย์พี่ใหญ่."

หลังจากที่พูดจบ,ศิลาที่พวกเขายั้งเท้าอยู่ก็แตกออกเป็นเสี่ยงๆ,เทียนหลิงเอ๋อและจงซานล่วงหล่นลงพื้นไปด้วยกัน.

"อ๊ากๆๆๆ"

เทียนหลิงเอ๋อที่หวีดร้องด้วยความหวาดกลัว,นางและจงซานที่กำลังล่วงหล่นลงไปใต้หุบเขาแล้ว.

ไม่มีอะไรที่สามารถเปลี่ยนทิศทางของพวกเขา,พวกเขากำลังจะตกไปสู่ความตาย?จงซานที่รู้ว่าหากตกจากที่สูงขนาดนี้,บางทีร่างกายของพวกเขาคงจะต้องกลายเป็นเนื้อบดอย่างแน่นอน.

อย่างไรก็ตาม,จงซานก็ยังคงสุขุมแม้อยู่ในช่วงระยะเวลาวิกฤติ,ถึงแม้ว่าร่างจะล่วงหล่นอย่างรวดเร็ว,ทว่าสมองของเขาก็คิดอย่างรวดเร็วราวกับว่ามันหมุนเร็วกว่าการล่วงหล่นของพวกเขาซะอีก.

ไม่ถึงสองลมหายใจ,จงซานก็คิดแผนบางอย่างได้.

เขาที่ใช้มือขวาคว้าผ้าแพรไหมสีแดงพร้อมกับดึงเทียนหลิงเอ๋อเข้ามาให้อยู่ในอ้อมกอดของเขา.

"อ๊าก."

เทียนหลิงเอ๋อที่หลับตาแน่น,ขณะที่นางหวีดร้องก็ถูกดึงเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของจงซาน,ขณะที่นางตระหนักได้ว่าเป็นจงซานเป็นคนที่โอบกอดนางไว้,นางเองก็ใช้แขนทั้งสองข้างกอดเขาเอาไว้แน่นเช่นกันราวกับว่าเขาคือชีวิตของนาง.

จงซานนั้นไม่มีอารมณ์ความรู้สึกคิดอะไรกับเทียนหลิงเอ๋อในเวลานี้แน่นอน,กับเหตุการณ์เร่งด่วน,เขาที่ใช้ผ้าแพรไหม,ค่อยๆดึงร่างยึดเอาไว้กับก้อนหินใหญ่ที่กำลังล่วงหล่นไปพร้อมๆกันให้เข้ามาใกล้.

พร้อมกับกอดเทียนหลิงเอ๋อและพลิกร่างเพื่อขึ้นไปอยู่บนศิลา,ขณะที่พวกเขานั่งอยู่บนก้อนหิน.

เทียนหลิงเอ๋อที่ค่อยๆได้สติ,ตอนนี้พวกเขาอยู่บนก้อนหิน,นางที่อยู่ในอ้อมแขนของจงซาน,และไม่รุ้เช่นกันว่าเขาต้องการทำอะไร.

"ปล่อยแพรไหมแดง."จงซานกล่าว.

เพื่อแรงสะท้อนกลับ,เทียนหลิงเอ๋อที่ปล่อยผ้าแพรไหมจากก้อนศิลายักษ์ทันที.

ด้านล่าง,ไม่ไกลแล้ว,พวกเขาสามารถมองเห็นพื้นด้านล่างๆได้แล้ว.

พวกเขาทั้งคู่บนศิลาก้อนใหญ่ที่กำลังล่วงหล่นลงไปบนพื้นด้วยความเร็วสูง.

"ย๊ากๆๆๆๆ"

จงซานที่กอดเทียนหลิงเอ๋อไว้แน่น,คำรามดังลั่น,พร้อมกับกระโดดขึ้นจากก้อนหินที่ยั้งเท้าอยู่ในทันที.

"พรึบๆๆๆๆ"

ศิลายักษ์ที่พุ่งตกลงไปยังพื้นด้วยความเร็วกว่าเดิมห้าเท่า,ราวกับปืนใหญ่ที่ถูกยิงออกไป,จงซานที่กอดเทียนหลิงเอ๋อที่ถูกลดความเร็วลง.

อย่างไรก็ตามมันยังไม่เพียงพอที่จะช่วยชีวิตพวกเขา,พวกเขายังคงล่วงหล่นลงพื้นอย่างรวดเร็วเช่นเดิม.

ความหวาดกลัวของเทียนหลิงเอ๋อ ถูกแทนที่ด้วยความหวังเล็กๆ,นางที่เริ่มเชื่อใจจงซานว่าจะช่วยให้เขาและนางได้,พวกเขาจะต้องไม่เป็นไร,พวกเขาจะต้องปลอดภัยแน่นอน.

อย่างไรก็ตาม,พวกเขาก็ยังเคลื่อนที่เข้าหาพื้นด้วยความเร็ว.

จงซานที่ชักดาบยักษ์ของเขาออกมาด้วยแขนข้างหนึ่ง.

"กอดข้าเอาไว้ให้แน่น."

จงซานที่ร้องบอกเทียนหลิงเอ๋อ.

เทียนหลิงเอ๋อที่ใช้แรงทั้งหมดที่มีเวลานี้กอดจงซานเอาไว้.

จงซานที่รวบรวมปราณทั้งหมดที่มีพร้อมกับฟันออกไปด้านหน้าล่างรุนแรง.

"พรึดๆๆๆๆ"

ดาบยักษ์ที่ลอยออกไปด้านล่าง,และสะบัดพวกเขาให้ลอยขึ้นช่วยลดความเร็วลงอีก.

"ตูมมมมมม"

"ตูมมมมมม"

เสียงของศิลายักษ์ที่กระแทกพื้นและตามด้วยดาบยักษ์ของเขาที่กระแทกพื้นตามๆกัน.

ณ จุดนี้,จงซาน,ที่คาดคะเนความสูงจากที่เขากำลังจะหล่นลงไปนั้น,อาจจะทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บหนัก,ทว่าไม่ทำให้ตายแน่นอน.

ตราบเท่าที่พวกเขาไม่ตาย,เช่นนั้นทุกอย่างก็ควรค่าแล้ว.

อย่างไรก็ตาม,ด้วยการเหวี่ยงดาบลงไปนั้น,ทำให้ร่างกายของเขาถูกดีดขึ้นมาด้านบน,เทียนหลิงเอ๋ออยู่ด้านล่างของจงซาน.

จงซานทันที่ที่ตั้งตัวได้,เขาก็จับเทียนหลิงเอ๋อ,พร้อมกับพลิกเปลี่ยนตำแหน่งกัน,ให้ร่างเทียนหลิงเอ๋ออยู่ด้านบน.

เทียนหลิงเอ๋อสามารถสัมผัสได้ว่านางถูกจับพลิกตำแหน่ง,ร่างของนางที่กำลังกดทับลงไปบนหน้าอกของจงซาน,ทันใดนั้นไม่สามารถบอกความรู้สึกได้,น้ำตาที่เอ่อล้นไหลออกมาไม่หยุด,นางที่กอดคอจงซานแน่น.

"ตูมมมมมม!"

เสียงกระแทกดังสนั่น,จงซานที่ใช้ด้านหลังของเขากระแทกลงไปบนพื้น,ฝุ่นควันมากมายฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่.

จงซานที่มีทักษะวิชากายาเทพอสูรป้องกันร่างกาย,ทว่าผลกระทบของการกระแทกก็ยังทำให้เขาได้รับบาดเจ็บหนัก,ทั้งเขาและเทียนหลิงเอ๋อที่อยู่ในอ้อมกอดทันทีที่กระแทกพื้นทั้งคู่ก็หมดสติไปพร้อมๆกัน.

สองชั่วโมงหลังจากนั้น.

จงซานเป็นคนแรกที่ฟื้นขึ้นมา,ท่ามกลางหุบเขาที่เงียบสงบ,เขาตื่นขึ้นเพราะว่าผลของวิชากายาเทพอสูรได้สิ้นไปแล้ว,ความเจ็บปวดที่ลั่นไปทั่วร่างอย่างรุนแรงจนทำให้เขาต้องตื่นขึ้นมา.

ในชั่วระยะที่เขาตื่นขึ้นมา,จงซานที่ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา.

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า"

ยังมีชีวิต,ยังมีชีวิตอยู่!ฮ่าฮ่าฮ่า.

แม้ว่าความเจ็บปวดจะกระจายไปทั่วร่าง,เขาก็ยังคงร่างเริง,ที่เขายังมีชีวิต.

หลังจากที่หัวเราะออกมา,จงซานก็สัมผัสได้ถึงความเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน,กระดูกที่ลั่นไปทั่วร่างราวกับว่ามันจะแตกสลายออกเป็นเสี่ยง.

หลังจากผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง,จงซานก็รู้สึกค่อยๆดีขึ้นมาเล็กน้อย,เขาที่จ้องมองไปยังร่างของเทียนหลิงเอ๋อ,บนใบหน้าของนางที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา.

การล่วงหล่นลงมาครั้งนี้,สร้างความหวาดกลัวต่อนางขนาดนั้นเลยรึ?จงซานที่เผยยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น,ทว่าเขาคงไม่รู้ว่า,น้ำตาของเทียนหลิงเอ๋อที่หลั่งออกมานั้นเป็นตอนสุดท้ายที่นางหล่นลงมาพร้อมกับเขา.

"หลิงเอ๋อ,หลิงเอ๋อ!"จงซานที่ร้องเรียก.

ขนตาของนางที่ค่อยๆขยับไปมาเล็กน้อย,เทียนหลิงเอ๋อที่ค่อยๆลืมขึ้นมาช้าๆ.

ทันทีที่นางลืมตามขึ้นมา,ก็พบว่าตัวเองนั้นอยู่ในอ้อมกอดของจงซาน,ใบหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงทันที,ก่อนที่จะค่อยๆลุกขึ้น.

"อุ๊ป!"

ขณะที่พวกเขาทั้งคู่ยืนขึ้น,ร่างของเทียนหลิงเอ๋อที่ยังทรงตัวไม่อยู่ล้มลงไปยังอ้อมแขนของจงซานอีกครั้ง.

จงซานที่ประครองนางไว้,เห็นได้ชัดว่านางได้รับบาดเจ็บที่ขาซึ่งเกิดจากกระบี่ของหลิวหมิงนั่นเอง.

แม้ว่าร่างของเขาจะยังเจ็บปวดอยู่ก็ตาม,ทว่าจงซานก็สามารถพาเทียนหลิงเอ๋อไปนั่งบนหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง,ก่อนที่เขาจะฉีกขากางเกงของเทียนหลิงเอ๋อออก,เผยให้เห็นขาที่นวลขาว.

ใบหน้าที่กลายเป็นสีแดงเมื่อน่องขาของนางเผยออกมาให้จงซานเห็น,นางที่เม้มปากแน่น,ทว่าก็ยังเงียบงัน,นางรู้ดีว่าเขาต้องการที่จะตรวจสอบบาดแผลของนางเท่านั้น.

จงซานที่นั่งลงพร้อมกับยกขาของเทียนหลิงเอ๋อขึ้นวางบนตักและตรวจสอบแผลของนางอย่างระมัดระวัง.

"ถุงน้ำ."จงซานกล่าว.

"ถึงน้ำรึ?"ใบหน้าของเทียนหลิงเอ๋อที่แดงซาน,สมองโล่ง,ราวกับว่านางไม่เข้าใจว่าจงซานกำลังพูดอะไร.

"ในกำไลเก็บของ,ข้ามั่นใจว่ามีสิ่งนี้อยู่."จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"อืมๆ."เทียนหลิงเอ๋อที่เร่งรีบเอาถุงน้ำออกมา.

เขาที่ใช้เศษกางเกงที่ฉีกขาดของนาง,พร้อมกับชุบน้ำและเช็ดที่ปากแผลของนางอย่างระมัดระวัง,ด้วยการกระทำที่เอาใจใส่เป็นอย่างมาก,ทำให้หัวใจของเทียนหลิงเอ๋อเต้นไปมาไม่หยุด,ไม่รู้ว่าทำไม,ใบหน้าของนางที่ร้อนผ่าว,ลามไปจนถึงคอที่เริ่มมีสีชมพูระเรื่อ ,เทียนหลิงเออรู้สึกราวกับว่ามือของจงซานเป็นดั่งเหล็กร้อนเมื่อสัมผัสกับขาของนาง,มันได้ส่งผ่านความร้อนส่งตรงมายังหัวใจของนาง,ขณะที่เขาทำความสะอาดแผลให้กับนางนั้น,หัวใจของเทียนหลิงเอ๋อที่เต้นระส่ำอย่างรุนแรงโดยไร้ซึ่งเหตุผล.

"สุรา."จงซานที่กล่าวต่อเทียนหลิงเอ๋อ.

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่ตัวแข็งเป็นหุ่น,พร้อมกับนำเหยือกสุราออกมาอย่างเก้ๆกังๆ.

จงซานที่ใช้สุราเทลงไปบนขาที่เรียวงามของเทียนหลิงเอ๋อ.

"อ๋าๆๆ"

ความเจ็บปวดนี้ได้ปลุกนางขึ้นมาจากความเพ้อฝันในทันที.

"ผ้าขาว."จงซานที่กล่าวออกมาอีกครั้ง.

เทียนหลิงเอ๋อที่นำผ้าขาวออกมาให้เขา,จงซานทำการพันบาดแผลด้วยผ้าขาวไปบนขาของนางเพื่อปิดปากแผลอย่างประณีต.

เทียนหลิงเอ๋อที่เฝ้ามองจงซานที่ทำแผลให้นาง,หัวใจของนางที่เต้นไม่หยุดเลยแม้แต่น้อย,นางไม่รุ้เหมือนกันว่า,นางในเวลานี้กำลังคิดสิ่งใดอยู่.

จงซานที่วางขาของนางลงและกล่าวออกไปว่า"เจ้าเร่งรีบบำเพ็ญโคจรพลัง,เพื่อรักษาร่างกายเถอะ."

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้ารับ.

นางที่เริ่มนั่งสมาธิพร้อมกับโคจรพลังเพื่อรักษาร่างกาย,หลังจากนั้นสองชั่วโมงนางก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง.

"ดีขึ้นรึยัง?"จงซานสอบถาม.

"อืม,ดีขึ้นมากแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อพยักหน้า.

"เช่นนั้นถึงรอบของข้าที่เจ้าต้องเฝ้ายามให้แล้ว,ข้าต้องใช้เวลาบำเพ็ญโคจรพลังเช่นกัน."จงซานกล่าว.

เทียนหลิงเอ๋อที่แทบสำลักลมหายใจที่ได้ยินคำพูดของจงซาน,ทว่านางก็พยักหน้าพร้อมทั้งอดกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา.

เมื่อเทียนหลิงเอ๋อตอบรับ,จงซานก็เร่งรีบนั่งสมาธิหลับตาโคจรพลังเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของเขาในทันที.
เมื่อเห็นจงซานหลับตาบำเพ็ญแล้ว,เทียนหลิงเอ๋อไม่สามารถที่จะอดกลั้นน้ำตาให้ไหลได้อีกต่อไป.

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ต้องโทษนางคนเดียว,หากว่านางเชื่อฟังจงซานตั้งแต่แรก,จงซานคงไม่ต้องทำหน้าที่เป็นหมอนมนุษย์ให้กับนาง,เขาได้รับบาดเจ็บกว่านางมาก,แต่ถึงกระนั้น,เขาก็ยังเป็นผู้คุ้มกันเพื่อให้นางได้รักษาร่างกายก่อน,เขาคอยคุ้มกันนางขณะที่นางโคจรพลังรักษาร่างกายจนดีขึ้น,จากนั้นเขาค่อยฟื้นฟูรักษาร่างกายของตัวเอง.


นับเป็นครั้งแรกเลยที่เทียนหลิงเอ๋อรู้สึกว่าตัวเองนั้นเป็นคนดื้อรั้นจนเกินไป,ที่พวกเขาต้องมาอยู่ในสภาพเช่นนี้ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเพราะความดื้อดึงของนางคนเดียว.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 วันต่อตอน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น