วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 279 Scarlet blood owner

Miracle Throne Chapter 279 Scarlet blood owner

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 279 ถังจู่โลหิตสีชาด


บทที่ 279 ถังจู่โลหิตสีชาด




เวลากลางคืน.

เหล่าชาวบ้านที่อาศัยในเมืองซีเจาแห่งนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหมอก.ภายในเมืองแห่งนี้เป็นสถานที่ในการปลุกวัตถุดิบในการฝึกฝนมากมายนับไม่ถ้วน,มีป่ากกที่เหนียวแน่นทนทาน,วัตถุดิบรากบัวที่ใช้เป็นยาได้,และยังมีแมลงแปลกๆที่ใช้เป็นส่วนผสมปรุงยา,ด้วยทรัพยากรเหล่านี้เป็นวัตถุดิบในการทำมาหากินของพวกเขา.


ในเวลาเดียวกันนั้น,ร่างๆหนึ่งที่ชุ่มไปด้วยโลหิตเร่งรีบเข้ามาด้วยความกระวนกระวายผ่านเข้ามาบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยดินโคลน,ก่อนที่จะมาถึงคลังสินค้า,ทั่วทั้งร่างที่เต็มไปด้วยโคลนเลน,และตอนนี้เขาเริ่มทำความสะอาดเหล่าโคนเลนเหล่านั้น.

รูปร่างของชายหนุ่มที่ดูเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก,อาจจะนับได้ว่าใบหน้าของคนผู้นี้หล่อเหล่าทีเดียว,ทว่าด้วยรอยแผลที่ปรากฏขึ้นอยู่หลายแห่ง,ดังนั้นจึงทำให้เห็นค่อนข้างเหมือนอันธพาล,รูปร่างหน้าตาเหมือนไม่ใช่คนดี.

ชายหนุ่มคนดังกล่าวที่เห็นศิลาขนาดใหญ่สีเขียว,ก่อนที่จะเห็นเครื่องหมายสีดำที่อยู่ด้านบน,ราวกับว่าทำให้เขาเบาใจ,เผยท่าทางมีความสุข"ยอดเยี่ยมจริงๆ..."

ชายหนุ่มที่เดินมาถึงด้านหน้าของคลังสินค้า,ก่อนที่จะเคาะประตูเป็นจังหวะจะโคนหลายครั้งบนประตูไม้ที่ชำรุด.
!

ประตูไม้ดังกล่าวปรากฏพลังที่มองไม่เห็นได้ฉุดประตูเปิดออกมา.

ลมที่รุนแรง,พัดโกรกออกมาจากด้านในทันที.

เสียงที่ไม่แยแสดังก้องผ่านอยู่ในหู"เข้ามา!"

ชายหนุ่มที่เข้ามายังคลังสินค้าร้าง,ที่ตรงกลางของคลังสินค้านั้น,มีหญิงชราหนังเหี่ยวคนหนึ่งนั่งอยู่,มีเส้นผมที่หล่นไปเกือบหมด,และเหลืออยู่เพียงหลอมแหรม,นิ้วทั้งสิบเป็นสีชาด,ดวงตาทั้งสองข้างจ้องมองออกมาด้านนอก,กลิ่นคาวโลหิตที่โชยออกมา,ราวกับหนังหุ้มปิศาจร้ายหรือสัตว์ประหลาดที่ปรากฏอยู่,ร่างกายของนางนั้นมีหมอกสีแดงหมุนวนอยู่ตลอดเวลา.

หญิงชราที่สวมชุดสีดำเสื้อผ้าผู้ชาย,ที่แขนของนางนั้นมีมีกระบี่ที่ปรากฏดาบขนาดใหญ่ซึ่งปรากฏรูปเสื้อดาวและมีรูปสลักของชายโบราณที่ดุร้ายมีหนวดเครารุงรัง,ที่ด้านหลังของนางนั้นมีชายชุดดำสองคน,ท่าทางเหมือนกับโจรร้าย,ส่งกลิ่นอายดุร้ายออกมา.

"แปลก."ชายคนหนึ่งที่จ้องมองไปยังชายหนุ่ม."ทำไมถึงมีเพียงเจ้าล่ะ?"

ชายหนุ่มที่หมอบลงไปกับพื้น"ประมุขสาขาทั้งสองถูกสังหารระหว่างทางแล้ว!"

หญิงชาราถึงกับขมวดคิ้วแน่น.

"เจ้ากล่าวอะไร? ท่านประมุขสาขาทั้งสองมีพลังที่ล้ำลึก,จะถูกสังหารได้ง่ายๆได้อย่างไร!"ชายล่ำสันยังคงยืนอยู่อย่างสงบกล่าวออกมาอย่างสุขุม!"หากว่าพวกท่านถูกสังหาร,แล้วเจ้ามีชีวิตรอดได้อย่างไร?"

"พวกเรา,เมื่อผ่านป่าแห่งหนึ่งเมื่อคืนนี้,ท่านประมุขได้ส่งข้าออกมาล่อพวกมัน,แต่ผลสุดท้ายกลับไม่ได้ผล,และข้าได้ยินภายในป่าที่ซ่อนพวกเราถูกโจมตี,คนกลุ่มนี้มีพลังฝึกตนที่ลึกล้ำ,ข้าไม่สามารถเข้าไปช่วยอะไรได้เลย,ท้ายที่สุดท่านประมุขทั้งสองก็ถูกสังหาร,ข้าทำอะไรไม่ได้นอกจากนำตราคำสั่งโลหิตสีชาดหนีออกมาได้!"

ระหว่างที่กล่าวนั้น.

ชายหนุ่มได้นำตราประทับออกมา.

"นี่....ตระประทับโลหิตสีชาดจริงๆเหรอ!"สายตาของชายล่ำสั่นจ้องมองออกมาด้วยความโลภโมโทสัน,ตราประทับโลหิตสีชานั้นเป็นเหมือนมีบัตรผ่านเข้าไปในวิหารใหญ่,ซึ่งในมือของถังจู่นั้นก็มีอีกชิ้นที่จะสามารถนำเข้าไปด้านใน,ดังนั้นตระประทับโลหิตสีขาดนั้นจึงมีสิบอันและถูกแบ่งปันให้กับคนอื่นๆคนล่ะอัน.

"เป็นสาวกที่น่ารังเกียจที่สุด!"ใบหน้าของชายร่างกำยำโกรธเกรี้ยวตำหนิออกมาอย่างรุนแรง"ประมุขสาขาได้ตายไป,แต่เจ้ากลับรอดมาเพียงคนเดียว,ข้าจะสั่งสอนคนเลวเช่นเจ้าเอง!"

เป็นการกล่าวออกไปอย่างไม่แยแส,ไม่ได้ใส่ใจเขามาตั้งแต่แรกแล้ว.

ไม่มีใครรู้ว่านี่คือรูปแบบของเหล่าผู้ฝึกตนสายมารรึอย่างไร?

คนที่เหนือกว่าเท่านั้นถึงจะมีสิทธิอหังการ,คนที่ดุร้ายและเข็มแข็งกว่าถึงจะมีสิทธิมีชีวิต,เพียงแค่ก้อนหินไร้ประโยชน์ใยต้องสนใจด้วยรึ?

"ถังจู,ท่านดูนี่..."

ใบหน้าของหญิงชราที่เปลี่ยนเป็นน่าเกียจน่ากลัวลืมตาขึ้นมาช้าๆ,สายตาของนางจ้องมองมายังชายหนุ่ม"เจ้ามีนามว่าอะไร?"

"ผู้น้อยมีนามว่าเหลิงจวิ้น,...."

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ.

แขนที่เหี่ยวแห้งก็คว้าไปที่ลำคอ,ก่อนที่จะกดข่มเขาลงไปบนพื้น.

ชายหนุ่มที่ตื่นตระหนก,"ต้าเหรินถังจู่,ท่าน..."

"พลังฝึกตนที่อ่อนด้อยเช่นเจ้า,ทำไมกันประมุขสาขาทั้งสองถึงโดนสังหาร,เจ้าหนีมาได้คนเดียวอย่างงั้นรึ?"น้ำเสียงที่แหบเคลือสาบกระด้างราวกับกระดาษทราย,ทุ้มต่ำ"เจ้าคิดว่าจะจะมีคนเชื่อเจ้าง่ายๆอย่างงั้นรึ?บอกมาเจ้ามาที่นี่ได้อย่างไร."

หมอกโลหิตที่คลุมไปทั่วร่างของชายหนุ่ม,ส่องสว่างขึ้นมาพร้อมๆกัน.

ความแข็งแกร่งของหญิงชรานั้นล้ำลึกเป็นอย่างมาก,นอกจากนี้ยังมีนิสัยใจคอที่เหี้ยมโหด,ด้วยแรงกดดันจิตสังหารที่รุนแรง,แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตที่แท้จริง,ยังไม่สามารถที่จะต้านได้,ไม่ต้องเอ่ยเลยว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตปรากฏจะสามารถต้านได้.

"ผู้น้อยเป็นลูกหลานของตระกูลเหลิงรัฐซัง,บรรพชนเป็นสาวกของลัทธิปิศาจสวรรค์,เหมิงเอิน,บรรพชนหลายต่อหลายรุ่นที่ส่งต่อกันมา,นับถือคำสั่งสอนของท่านเซี่ยนรอคอยวันคืนชีพ!หากไม่เชื่อพวกท่านสามารถสืบส่วนได้เลย!"ใบหน้าของชายหนุ่มที่แสดงสีหน้าเจ็บปวด"ท่านประมุขทั้งสองถูกสังหาร...เซี่ยวเหรินเพียงแค่โชคดีหนีมาได้จริงๆ,หากท่านประมุขไม่เชื่อเซี่ยวเหรินก็ไม่มีอะไรจะกล่าวเช่นกัน."

小人 - こびと Xiǎo rén ความหมายคือ คนแคระ,เด็ก,คนตัวเล็ก


ตระกูลเหลิงแห่งรัฐกลาง?

คงจะมีความจริงอยู่นิดหน่อย.

หญิงชราที่เพ่งพิศจ้องมองไปยังชายหนุ่มอย่างระเอียด,ด้วยใบหน้าที่แสดงท่าทางตื่นตระกูลหนก,ร่างกายสั่นสะท้าน,อัตราการเต้นของหัวใจ,แม้แต่สายตา,ท่าทางไม่เหมือนกับว่ากำลังแสร้งทำแต่อย่างใด.

หญิงชราที่กล่าวต่อชายอีกคนด้านข้าง"เจ้าออกไปดูลาดเลาด้านนอก."

ชายคนดังกล่าวที่พุ่งออกไปคลังสินค้าราวกับสายๆ.

"ค้นตัวมัน."

ชายร่างกำยำได้ตรวจสอบสิ่งของทั่วร่างเด็กหนุ่ม,พบกระบี่วิเศษเล่มหนึ่ง,ตำราหนึ่งเล่ม,บันทึก,หลังจากนั้นก็นำสิ่งของมอบให้กับหญิงชราคนดังกล่าว,หลังจากที่หญิงชราทำการตรวจสอบ,กระบี่วิเศษที่มีกลิ่นอายกระหายโลหิต,นับเป็นศาสตราวิญญาณระดับเยี่ยมที่หายากทีเดียว,นอกจากนี้ยังมีธาตุโลหิตที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก,เหมาะสำหรับผู้ฝึกตนวิชาโลหิตสีชาด.

เหล่าผู้ฝึกตนทั่วไปไม่สามารถที่จะใช้อาวุธเช่นนี้ได้,เพราะว่าเป็นอาวุธที่มีแต่ผู้เชี่ยวชาญธาตุความมืดเท่านั้นถึงจะใช้ได้,และเป็นสิ่งเหมาะกับผู้ฝึกตนของลัทธิปิศาจสวรรค์เป็นอย่างมาก,ส่วนตำราดังกล่าวนั้นก็เป็นสิ่งของลัทธิปิศาจสวรรค์,มีรายระเอียดเกี่ยวกับวิชาต่างๆและยังมีบันทึกเกี่ยวกับผู้สืบทอดและวิธีฝึกฝนวิชาอีกด้วย.

ชายหน้าเหมือนโจรกลับมารายงาน"เรียนถังจู่,ไม่พบสิ่งใดน่าสงสัยเลย."

หญิงชราที่ค่อยๆลดแรงกดดันวิญญาณช้าๆ"ดูเหมือนว่าเจ้าจะเป็นผู้ศรัทธาคำสอนของท่านเซี่ยนอย่างแท้จริง,เจ้าสามารถหนีรอดมาได้,แสดงว่าเจ้าพอจะมีความสามารถอยู่บ้าง."

ชายหนุ่มที่เร่งรีบกล่าวอย่างเจียมเนื้อเจียมตัว"ผู้น้อยชื่นชมคำสอนของท่านเซียนมาตั้งแต่เด็กแล้ว,ช่างน่าสงสารที่ข้าได้ศึกษาเพียงแค่ตำราที่หลงเหลือมาเท่านั้น,หวังว่าถังจู่จะยอมรับผู้น้อย,ให้ผู้น้อยได้เข้าร่วมเป็นศิษย์ของนิกายอย่างเป็นทางการ!"

"รับเหรียญตราไป."หญิงชราที่ไม่ได้ใส่ใจชายหนุ่มคนดังกล่าว,ก่อนที่จะเตะเหรียญตรา,เป็นตราประดับคำสั่งสีชาดไปให้ชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้า,ก่อนที่จะกล่าวเสียงที่ดังก้องกังวานออกมา"ด้วยสิ่งดังกล่าว,จะทำให้เจ้าสามารถเข้าไปในวิหารเคารพท่านเซียนได้,มีเพียงหนึ่งคนที่จะได้รับเลือก."

และแล้ว.

ประกายแสงของหญิงชรานั้นส่องประกายด้วยความดุร้ายและกดข่ม.

ทันที่ที่ชายหนุ่มได้ยิน,จิตสังหารที่รุ่นแรงก็แผ่ออกมา,ดาบยาวที่คาวโลหิตปรากฏรูปมังกรวารี,ที่หน้าอกของชายคนหนึ่งปรากฏหมอกหนา,ดาบยาวที่ชักออกจากฝักส่งคลื่นโลหิตอย่างหนักหน่วงออกมา,พร้อมกับสับไปยังสหายที่อยู่ด้านข้าง.

"เจ้า...."

สาวกของลัทธิปิศาจสวรรค์นั้นมีน้อยคนมากที่จะเป็นคนธรรมดา,ชายคนดังกล่าวได้ลอบโจมตีสังหารคนผู้หนึ่ง,ต้องการที่จะหารคนผู้นี้ในพริบตาเดียวนั้น,ทว่าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย.

"กำแพงโลหิต!"

ร่างของบุคคลดังกล่าวนั้นพลังวิญญาณที่พวยพุ่งออกมารวมตัวสร้างเป็นกำแพงขนาดใหญ่,เป็นคลื่นพลังโลหิตป้องกันประกายดาบที่ฟันลงมา,ก่อนที่มันจะถูกสับออกไปเป็นสองท่อน.

ร่างของคนผู้นี้ถึงกับสั่นไหวก้าวถอยออกมาหนึ่งก้าว,พลังวิญญาณสีแดงเข้มที่ลุกโชน,พวยพุ่งออกมาพร้อมกับสายสายโลหิต.

โลหิตที่พุ่งออกมาจากบาดแผลได้พวยพุ่งออกมา,ผสมเข้ากับพลังวิญญาณ,โลหิตที่พุ่งออกมานั้นกำลังรวมตัวกัน,กลายเป็นอาวุธที่ซ่อนอยู่,เป็นอาวุธที่เกิดจากโลหิตผสมกับพลังวิญญาณ,ในเวลาเพียงพริบตาเดียว,แต่กลับมีพลังที่แข็งแกร่ง,พุ่งตรงไปยังชายอีกคน.

"อาคมกระบี่โลหิต!"

คนผู้นี้ได้ใช้อาคมโลหิตออกมาอย่างรวดเร็ว,โลหิตที่พุ่งออกมาทุกหยดอยู่บนอากาศ,รวมตัวเข้ากับพลังวิญญาณ,เปลี่ยนรูปเป็นกระบี่ขนาดเล็ก,ทุกเล่มถูกคลุมไปด้วยโลหิต.

"เปล่าประโยชน์!"

กระบี่โลหิตที่พุ่งออกไปเป็นริ้วแสง,ราวกับอสรพิษร้าย,กำลังพุ่งเข้าโจมตีหน้าอกของฝ่ายตรงข้าม.

ใบหน้าของชายฝั่งตรงข้ามที่ร้องออกมาเสียงดังในทันที,ทั่วร่างปรากฏภูติปิศาจหมุนวนร่างกาย,ทั่วทั้งร่างกายเป็นสีดำ,อักษรรูนมากมายที่รวมตัวกันทั่วร่างของเขา,พร้อมกับเพิ่มพลังวิญญาณเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า.

ใบหน้าของชายอีกคนถึงกับเปลี่ยนสี"ศาสตร์ปิศาจสวรรค์?!"

ด้วยวิชาศาสตร์ปิศาจสวรรค์นั้นจะทำให้เพิ่มพลังฝึกตนขึ้นมาอีกมากมายมหาศาล,ในเวลาอันสั้นนั้นจะเผยพลังต่อสู้ที่เกินขีดจำกัด,.ซึ่งทำให้เผาพลาญพลังวิญญาณมากมายมหาศาล,หากไม่เข้าสู่เวลาวิกฤติปกติจะไม่มีใครใช้ออกมา.

เมื่อชายหนุ่มที่ใช้ศาสตร์ปิศาจสวรรค์ทำให้พลังฝึกตนเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าได้ปัดอาคมกระบี่โลหิตให้พังทะลายสลายไป.

กระบี่สีแดงเข้มที่ลุกโชนไปด้วยพลังมีพลังเป็นอย่างมากพร้อมกับฟาดฟันออกไปยังฝ่ายตรงข้ามในทันที.

"ช้าก่อน..,ตราประทับโลหิตสีชาด,ข้าไม่ต้องการแล้ว!"

ราวกับว่าชายหนุ่มไม่ได้ยินเสียงของฝ่ายตรงข้ามเลย,ยังคงฟาดฟันกระบี่ออกไป,สับไปยังฝ่ายตรงกันราวกับสับเนื้อ.

".."หญิงชราที่เผยยิ้มออกมากับการห้ำหั่นกันพลางเผยยิ้มที่แปลกประหลาด เผยรังสีฆ่าฟันออกมา,ไม่เพียงแต่ไม่โกรธ,ยังกล่าวชื่นชม"ร้ายกาจๆ,นับว่าเป็นเด็กที่มีพรสวรรค์."

"ขอบคุณถังจูที่ขื่นชม!"ทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มมีปราณอสุรที่มากมายหมุนวนอยู่,ราวกับเป็นพลังวิญญาณของเทพอสูร,เมื่อได้ยินคำชมจากถังจู่,ก็ปรากฏท่าทางดีใจ,หลังจากนั้นก็หันหน้าจ้องมองมายังชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง,เผยยิ้มออกมาอย่างโหดเหี้ยม,"ตราประทับโลหิตสีชาดเป็นของข้า,โชคลาภทั้งหมดนั้นมันเป็นของข้า,โปรดวางใจ,ข้าจะลงมืออย่างรวดเร็ว,เจ้าจะได้ไม่เจ็บปวด."

"นี่คือโอกาสที่สำคัญมาก."ใครจะรู้ล่ะว่ามีชายหนุ่มที่อ่อนแอคนหนึ่งที่ยืนขึ้นมาช้าๆ,พร้อมกับหยิบกระบี่วิเศษที่อยู่บนพื้นขึ้นมา,พร้อมกับระเบิดพลังวิญญาณที่หนักแน่นออกไป"ข้าไม่ยอมมอบมันให้เจ้าแน่!"

"ฮ่า ฮ่า? ไม่มอบให้ข้าอย่างงั้นรึ?"ชายหนุ่มรูปร่างล่ำสันหัวเราะออกมาอย่างอหังหาร"เจ้าควรจะสนใจชีวิตถูกๆของเจ้าซะยังจะดีกว่า!"

ชายหนุ่มผู้เคร่งขรึมกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล"เจ้าคิดว่าสามารถชนะข้าได้อย่างแน่นอนแล้วรึ?"

ชายหนุ่มรูปร่างล่ำสันชำเลืองมองออกไปเล็กน้อย,หญิงชราเผยประกายแสงสนใจ.

ชายหนุ่มคนดังกล่าวนี้มีพลังฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 5 ทว่าชายหนุ่มล่ำสันนั้นมีพลังปลุกดวงจิตระดับ 6 ,ลำพังฝึกฝนวิชาศาสตร์ปิศาจสวรรค์ยิ่งทำให้พลังฝึกตนของเขาเพิ่มขึ้นมามากกว่าเดิม,ดังนั้นทักษะการต่อสู้ของเขาจึงร้ายกายเป็นอย่างมาก,ถึงแม้ว่าจะมีผู้ฝึกตรงสายมารที่มีพลังฝึกตนเท่านั้น,ก็ยังไม่สามารถชนะได้เลย,นับว่านี่ไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน.

ผู้ฝึกตนสายมารและผู้ฝึกตนธรรมดานั้นแตกต่างกัน.

ผู้ฝึกตนสารมารและผู้ฝึกตนธรรมดานั้นมีความแตกต่างกันมากไม่สามารถที่จะเอามาเทียบกันได้เลย,ผู้ฝึกตนสายมารจะแข็งแกร่งกว่าผู้ฝึกตนธรรมดาในระดับเดียวกันเป็นอย่างมาก,ซ้ำผู้ฝึกตนธรรมดาปลุกดวงจิตระดับ 5 ที่เต็มไปด้วยแผลและบาดเจ็บผู้นี้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกล้าท้าท้ายผู้ฝึกตนสายมารระดับปลุกดวงจิตระดับ 6 เลยรึ?

"ข้าเปลี่ยนใจแล้ว"ชายร่างกำยำยืนอยู่อย่างสงบกล่าวออกไปอย่างสุขุมก้าวออกไปด้านหน้า"ข้าตัดสินใจแล้วจะต้องสั่งสอนเจ้าซะหน่อย,ให้รู้จักความโง่งมของตัวเอง."

ชายหนุ่มไม่พูดพร่ำทำเพลง,ยกกระบี่วิเศษขึ้นช้าๆ,กระชับกระบี่แน่น,คมกระบี่สีแดงชายที่แผ่รังสีมีกลิ่นอายของปิศาจที่หนุ่มวนไปมากระจายไปทุกทิศทุกทาง.

"ตายไปซะ!"

ชายหนุ่มรูปร่างกำยำฟันออกมาเป็นริ้วแสงสีแดง,ตรงมายังใบหน้าของชายหนุ่มที่มีแผลเป็นมากมาย.

"กระบี่!"ชายหนุ่มที่ตะโกนออกมาเสียงดัง,พลังวิญญาณมากมายมหาศาลที่พวยพุ่งออกมาบ้าคลั่งปลดปล่อยภูติวิญญาณกระบี่ออกมา,ทันทีที่ภูติวิญญาณกระบี่โผล่ออกมา,กลิ่นอายที่มากมายมหาศาล,ราวกับเทพวิญญาณที่ปรากฏขึ้นมาเต็มไปด้วยพลังอำนาจมากมาย.

ภูติวิญญาณระดับเทพเจ้า?

นี่คือภูติวิญญาณระดับเทพเจ้า!

ไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มล่ำสันหรือหญิงชรา,ต่างก็รู้สึกประหลาดใจ!

มีภูติวิญญาณเช่นนี้เป็นเจ้าของ,นับว่ามีพรสวรรค์ที่ล้ำเลิศ,สามารถที่จะต่อกรคนที่เหนือกว่าอย่างง่ายดาย,แม้แต่คนที่มีระดับเหนือกว่าหลายขั้นก็ตาม,ในอนาคตข้างหน้านั้นจะมีอนาคตที่ไร้ขีดจำกัด,ไม่คิดเลยว่าชายที่ดูธรรมดาเช่นนี้,คาดไม่ถึงจะมีภูติวิญญาณระดับพระเจ้า,ไม่แปลกใจเลยว่าสามารถหนีรอดชีวิตมาได้.

กระบี่วิเศษสีแดงชาดถูกชักออกจากฝัก.

ทั่วทั้งร่างของชายหนุ่มถูกปกคลุมไปด้วยหมอกโลหิต,คมกระบี่ที่เปล่งแสงสีแดง,ส่องประกายระยิบระยับสะท้อนออกไปรอบๆ.

กระบี่สองเล่มที่เข้าปะทะกัน!

เคล้ง!

เสียงปะทะกันดังก้องกังวาน.

กระบี่วิเศษที่ผลักดันกันไปมา.

ชายหนุ่มล้ำสันที่ล้มลงไปบนพื้น,ราวกับว่าถูกกระแทกไปด้วยแรงมหาศาล,นอนกองไปบนพื้นลื่นไถลไปบนพื้นครั้งสินค้า,ดวงตาทั้งสองข้างที่เบิกกว้างแสดงท่าทางไม่อยากเชื่อ.

นี่คือความแข็งแกร่งของภูติวิญญาณระดับพระเจ้าอย่างงั้นรึ?

แข็งแกร่งมาก!

ชายหนุ่มที่ชักกระบี่กลับ,ก่อนที่จะหันหน้ากลับมาพร้อมกับคารวะไปยังหญิงชรา"ถังจู,ข้า...."

บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนเป็นเงียบกริบ.

"หากเจ้าแพ้ก็จะเป็นเช่นนั้น!"หญิงชราที่เผยพลังวิญญาณที่รุนแรงออกมาทันที,จิตสังหารที่ทะยานขึ้นไปถึงบนฟากฟ้า"แต่อย่าได้แม้แต่จะหลอกข้า!อย่างไรก็ตาม,เจ้าทำให้ข้ามองผิดไปได้สำเร็จ,ไม่ว่าอย่างไรเจ้าคิดว่าคนของลัทธิปิศาจสวรรค์ยากที่จะแยกแยะความแตกต่างได้อย่างงั้นรึ?!"




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP (สถานปัจจุบัน แปลจบ 658 แล้ว)==>  Click


-เว็ปฟรี วันละหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip ลงครบทุกลุ่มแล้ว

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น