วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 38 Blood Puti

Immortality Chapter 38    Blood Puti

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 38 ผลโลหิตนิพพาน


บทที่ 38 ผลโลหิตนิพพาน


ท้ายที่สุด,เทียนหลิงเอ๋อก็สามารถหลับตาลงได้ในที่สุดเนื่องจากความเหนื่อยล้าของนาง,นางค่อยๆเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันแทน.

จงซานที่ลืมตาขึ้นมาชั่วขณะจ้องมองไปยังนาง,พร้อมกับส่ายหน้าไปมาพร้อมเผยยิ้ม.


หลังจากที่จับจ้องมองไปที่นางด้วยความอ่อนโยน,จงซานก็เริ่มบำเพ็ญกายโคจรพลังเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บต่อ.

อัตราการรักษาตัวของจงซานน่าตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก,เช้าวันถัดมา,เมื่อความเหนื่อยล้าจากวิชากายาเทพอสูรได้หายไป,บาดแผลต่างๆของเขาก็แทบจะหายไปด้วยเช่นกัน.

เมื่อดวงตะวันขึ้นตอนเช้า,จงซานก็ออกไปขยับร่างกายฝึกฝนท่วงท่าเพลงดาบเช่นเดิม.

หลังจากนั้นไม่นาน,ด้วยเสียงที่ดังก้องในหุบเขาทำให้เทียนหลิงเอ๋อค่อยๆตื่นจากหลับใหล

เทียนหลิงเอ๋อที่ตื่นขึ้นมาแล้ว,ขยี้ตาไปมา,จ้องมองไปยังเสียงที่ดังผ่านเข้ามา,นางที่รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ,ก่อนที่นางจะรู้สึกเขินอายขึ้นมาอีกครั้งหลังจากที่นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน.

จงซานที่รับรู้ว่าเทียนหลิงเอ๋อนั้นตื่นแล้ว,เขาจึงได้หยุดฝึกและเข้ามาหา.

"เจ้าตื่นแล้วรึ?หิวรึยัง?"จงซานที่สอบถามออกไป.

จงซานที่ยังคงมีท่าทางเป็นปกติ,เทียนหลิงเอ๋อที่เบิกตากว้างจ้องมองไปยังเขาอยู่ชั่วขณะ.

"มีอะไรอย่างงั้นรึ?มีอะไรบนใบหน้าของข้ารึอย่างไร?"จงซานที่แสดงท่าทางงงวยและเช็ดไปที่ใบหน้าของเขา.

"เอ่อ,ไม่,ไม่มีอะไร."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาทันที.

นางที่เปลี่ยนเป็นมั่นใจว่าจงซานไม่รู้อะไรเมื่อคืน,ทำให้เทียนหลิงเอ๋อรู้สึกวางใจขึ้นมาในทันที.

"เช่นนั้นกินอะไรหน่อย,ข้าจะไปสำรวจและดูว่ามีเส้นทางออกจากหุบเขาแห่งนี้หรือไม่."จงซานกล่าว.

"เจ้า,เจ้าจะไปแล้วรึ?"สายตาของเทียนหลิงเอ๋อที่จับจ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางน่าสงสาร.

จงซานอดไม่ได้เลยที่จะยิ้มออกมาเมื่อจ้องมองไปยังท่าทางของเทียนหลิงเอ๋อ,"อืม,แน่นอน,ไม่เช่นนั้นพวกเราไม่ต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปหรอกรึ?"

"ข้าไม่ต้องการอยู่ที่นี่เช่นกัน,ทว่าแม้บาดแผลภายในจะหายดีแล้ว,ทว่าบาดแผลที่ขาของข้านั้นยังไม่หายเลยทำให้ข้าเดินไปไม่ได้,เจ้าช่วยพาข้าไปกับเจ้าด้วยได้ใหม."เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยท่าทางวิงวอน.

จงซานเผยยิ้มออกมา.

"เช่นนั้น,ขึ้นมาสิ."จงซานที่กล่าวออกมา.

"อืมๆ."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าอย่างเร็วไว.

จงซานที่เก็บดาบฝันร้ายเข้าไปในกำไลเก็บของและให้เทียนหลิงเอ๋อขึ้นหลังมาแทน.

จงซานที่โน้มตัวลง,เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกประหลาดใจเช่นกันที่เขาดึงนางขึ้นมาบนหลังเขา.

"อ๋า!"

ท่ามกลางเสียงของของเทียนหลิงเอ๋อ,นางที่รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างกำลังถูกยกขึ้นบนพื้น,นี่นับเป็นครั้งแรกที่มีคนแบกนางขึ้นหลัง,จะให้นางรู้สึกคุ้นเคยกับเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไร?

"จงซาน,วางข้าลงก่อน,วางข้าลง...."เทียนหลิงเอ๋อที่ครวญครางร้องออกมาใบหน้าที่กลายเป็นแดงซาน.

"ป๊าป"

"อย่าขยับ!"

เทียนหลิงเอ๋อสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าเสียงดังกล่าวนั้นเกิดจากฝามือของจงซานที่ตะปบไปที่บั้นท้ายของนางอย่างชัดเจน,ทว่าแม้ว่าจะไม่ได้รู้สึกเจ็บแต่อย่างใด,นางกับรู้สึกว่าเหมือนกับกระแสไฟฟ้าที่แล่นออกมาจากฝ่ามือของเขา,ผ่านเข้าไปในร่างกายของนาง,จนทำให้เทียนหลิงเอ๋อนิ่งงันไม่ขยับทันที.

นางที่สมองโล่ง,ไม่รับรู้อะไร,นางที่กอดคอของจงซานเอาไว้,เต็มไปด้วยความตื่นตะลึงว่าความรู้สึกเมื่อกี้นี้มันคืออะไรกัน.

เกิดอะไรขึ้น?

เทียนหลิงเอ๋อที่พบว่านางไม่สามารถต้านทานจงซานได้เลย,นางต้องเกาะอยู่บนหลังของเขา,พร้อมกับอ้อมแขนที่กอดคอของจงซานเอาไว้.

เทียนหลิงเอ๋อที่ไม่กล้าขยับ,นางที่สัมผัสได้ถึงฝ่ามือขงจงซานที่บั้นท้ายของนาง,ขาของนางที่โอบไปที่เอวของจงซาน,มือทั้งสองข้างของเขาที่ราวกับเหล็กร้อนจับขาของนางเอาไว้แน่น,ความร้อนที่ราวกับว่าจะแพร่ผ่านกางเกงของนาง,เทียนหลิงเอ๋อรู้สึกร้อนรุ่มไปด้วยฝ่ามือขงจงซาน,ใบหน้าของนางที่กลายเป็นสีแดงราวกับว่ามันจะคายไอน้ำออกมา.

เทียนหลิงเอ๋อที่อยู่ด้านหลังจงซาน,เขาที่พานางก้าวไปข้างหน้า,เทียนหลิงเอ๋อไม่กล้าที่จะกล่าวอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว,นางไม่กล้าพูดเลย,นางไม่เคยมีประสบการณ์เช่นนี้มาก่อน,เกิดอะไรขึ้น?ทำไมนางถึงรู้สึกเช่นนี้?นี่นางยังเป็นตัวนางอยู่หรือไม่?

อย่างไรก็ตาม,กลิ่นกายของจงซานเองก็ดีเหมือนกัน,เทียนหลิงเอ๋อคิดในใจ.

ใบหน้าของนางที่แดงไปหมด,ขณะที่นางคิดเรื่องต่างๆนาๆ,ทว่านางคงไม่รู้ว่าบนใบหน้าของนางนั้นกำลังเผยยิ้มออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ,บางทีนี่อาจจะเป็นเรื่องที่ดีก็ได้.

จงซานเองก็รู้สึกตกใจที่เขาตบไปที่ก้นของนางเบาๆ,อย่างไรก็ตาม,โชคดีที่นางไม่ได้เอะอะโวยวายอะไรออกมา,ในเมื่อนางไม่บ่นอะไรก็ดีแล้ว.

อย่างไรก็ตาม,ทำไมเทียนหลิงเอ๋อถึงได้หยุดจ้อไปล่ะ?หากไม่เพราะว่านางยังหายใจรดต้นคอเขาอยู่,จงซานคงจะหยุดเพื่อตรวจสอบแล้วว่านางเป็นอะไรหรือไม่?.

"หลิงเอ๋อ."หลังจากเดินไปได้ระยะหนึ่ง,จงซานคิดว่าผ่านมาระยะหนึ่งแล้วเขาจึงได้เอ่ยปากคุยกับนางก่อน.

"อืม,หืม?"เทียนหลิงเอ๋อที่จิตใจเหม่อลอย,นางที่นิ่งงันไปชั่วครู่,ถึงจะตระหนักได้ว่าจงซานกำลังเรียกนางอยู่,ก่อนที่จะตอบกลับไป.

จงซานที่หายใจลึก,"ข้าสัญญากับเจ้าเมื่อครั้งอยู่บนยอดเขาหากพวกเรารอดชีวิตในครั้งนั้น,ข้าจะพาเจ้าไปพบกับศิษย์พี่ใหญ่."

จงซานยังคงรักษาคำพูดของเขาที่เกี่ยวกับศิษย์พี่ใหญ่ของเทียนหลิงเอ๋อ,อย่างไม่ก็ตาม,ไม่รู้ว่าทำไม,นางไม่ค่อยตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อน,เทียนหลิงเอ๋อเองก็ไม่สามารถอธิบายได้เช่นกัน,หากว่าเป็นในอดีตนั้น,นางจะต้องดีใจกระโดดโลดเต้นไปแล้ว,ตอนนี้นางเพียงเพียงแค่รู้สึกดีใจเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้นอย่างงั้นรึ?

เทียนหลิงเอ๋อที่ขมวดคิ้วไปมา,จ้องมองแผ่นหลังของจงซาน,นางที่สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น,นางที่เงียบไปชั่วขณะ,ท้ายที่สุดก็พยักหน้าและกล่าวว่า."ขอบคุณเจ้า,จงซาน."

"เฮ้เฮ้,มีอะไรต้องของคุณข้ากัน?หากว่าไม่ได้ผ้าไหมแดงของเจ้า,ข้าคงจะตกลงมาตายเหมือนกับจงตี้แล้ว."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับหัวเราะ.

"ไม่,เจ้าคงไม่เป็นไร,แม้ว่าจะไม่มีข้า,เจ้าเอาตัวรอดได้แน่."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมา,ในสายตาของนางนั้น,จงซานราวกับว่าสามารถทำได้ทุกอย่าง.

"บางทีนะ."จงซานที่ส่ายหน้าไปมาพร้อมกับเผยยิ้ม,การที่สามารถรอดมาได้นั้นนับว่าเป็นเรื่องปาฏิหาริย์มากๆ,เป็นเรื่องที่เสี่ยงๆมากแต่ก็นับว่ามีโชคเป็นอย่างมากเช่นกัน,หากว่าไม่มีผ้าแพรไหม,หรือไม่มีศิลาก้อนใหญ่ที่ตกลงมาพร้อมกันล่ะ? แต่ถึงกระนั้นหากจงซานไม่กระทำอะไรเลยก็คงไม่รอด,บางทีนางอาจจะกล่าวถูกก็ได้.

จงซานที่เดินไปอย่างช้าๆมุ่งตรงไปยังอีกจุดสิ้นสุดของหุบเขาพร้อมกับแบกเทียนหลิงเอ๋อบนหลัง,เขาที่ค่อยๆก้าวไปไม่ได้เร่งรีบอย่างไร,อย่างไรก็ตามเขาจำเป็นต้องตรวจสอบสภาพแวดล้อมรอบๆนี้อย่างระมัดระวัง.

พวกเขาที่ถูกห้อมล้อมด้วยหน้าผาที่สูงชัน,และยังบีบลาดชันไปจนถึงยอด,จะต้องปีนขึ้นไปอย่างงั้นรึ?หน้าผาแห่งนี้ดูเรียบเนียนไม่มีที่ให้เกาะเลย,นับว่าปีนขึ้นได้อยากลำบากมากๆ.

จงซานจำเป็นต้องคนหาเส้นทางเพื่อที่จะนำออกไปสู่ทางออกให้ได้.

หุบเขาแห่งนี้นับว่ามีขนาดกว้าง,ทว่าจงซานก็เดินไปเกือบทุกทางตราบเท่าที่มีเส้นทาง,ทว่าก็ยังไม่สามารถมองเห็นเส้นทางออกไป,ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางเส้นใหนก็มีหน้าผาสูงชันปิดกั้นเอาไว้.

อย่างไรก็ตาม,สุดเส้นทางเส้นหนึ่ง,มีถ้ำขนาดความสูงสองเมตร.

มีถ้ำอย่างงั้นรึ?

มีประกายแสงสีแดงจางๆแผ่ออกมาจากปากถ้ำและยังมีกลุ่มไอน้ำที่แผ่พุ่งออกมาด้วย,ดูเหมือนว่าจะเป็นคลื่นความร้อน.

ประกายแสงเรื่อๆนั้นมีสิบสามลำแสงที่แผ่พุ่งส่องออกมาจากปากถ้ำ,เป็นจุดเล็กๆขนาดเท่ากับผลเฉ่าเหมย,พวกมันเรืองแสงแผ่ออกมา,เป็นแสงสว่างทำให้พื้นที่รอบๆสว่างขึ้นมา.
草莓Cǎoméi สตรอเบอร์รี่

"จงซาน,สิ่งนั่นมันคืออะไรกัน?"เทียนหลิงเอ๋อที่รู้สึกตื่นเต้นมากจ้องมองกวาดเข้าไปในถ้ำ.

"เงียบก่อน."จงซานที่ขมวดคิ้วไป.

"อืม."เทียนหลิงเอ๋อที่เงียบในทันที.

จงซานเพ่งพิศฟังเสียงต่างๆภายในถ้ำดังกล่าวอย่างระมัดระวัง,ทว่ากลับไม่ได้ยินเสียงที่ผิดปรกติอะไรจากด้านในเลย,ได้เยินเพียงแค่เสียงหัวใจเต้นของเทียนหลิงเอ๋อเท่านั้น.

จงซานที่หยิบหินขึ้นมาจากนั้นก็ขว้างเข้าไปด้านในถ้ำ.

"ฟิ้ว."หินดังกล่าวพุ่งตรงเข้าไปด้านใน,จงซานที่รอคอยฟังเสียง.

เทียนหลิงเอ๋อที่เฝ้ามองด้วยความอยากรู้เป็นอย่างมาก,ในคราแรกนั้น,นางสนใจว่ามีสิ่งใดในถ้ำ,ทว่าตอนนี้นางกลับสนใจกับการกระทำของจงซาน,นางที่จ้องมองไปยังจงซานด้วยความอยากรู้.

"ไม่มีเสียงอะไรเลย."นางที่กระซิบข้างหูเขา.

จงซานที่ส่ายหน้าไปมาหลังจากได้ยินเสียงของเทียนหลิงเอ๋อ,เขาก็ตระหนักได้ว่าเทียนหลิงเอ๋อนั้นอยู่ในระดับเก้าเซียนเทียน,ย่อมมีการรับรู้ด้านเสียงได้มากยิ่งกว่าเขาแน่นอน.

"ข้าคงกังวลมากไปหน่อย!"จงซานที่หัวเราะและพาเทียนหลิงเอ๋อเดินเข้าไปในถ้ำดังกล่าว.

เมื่อพวกเขาเข้ามาในปากถ้ำที่น่าจะมืด,พวกเขากับพบว่ามีแสงสีแดงสว่างจ้า,แสงดังกล่าวนั้นยังสามารถส่องผ่านเข้าไปถึงด้านใน,ในเวลาเดียวกันก็สัมผัสได้ถึงคลื่นความร้อนที่แผ่ออกมาเป็นระยะ,จงซานที่คิดได้ในทันที,อาจเป็นไปได้ว่า,ถ้ำแห่งนี้จะเป็นเส้นทางที่เชื่อมเข้าไปในช่องว่างภูเขาไฟ?

จากนั้น,จงซานก็หันหน้าจ้องมองต้นตอของลำแสงสีแดงสิบสามเส้นที่ส่องประกายออกมา.


"นี่มันโลหิตนิพานอย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นเทียนหลิงเอ๋อที่อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 วันต่อตอน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น