วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 30 Words paper inkstone

Immortality Chapter 30 Words paper inkstone

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 30 พู่กันและผงหมึก


บทที่ 30 พู่กันและผงหมึก


พู่กันและผงหมึก.


"พวกเราไม่ได้เอาไปซักหน่อย,ข้าพูดตามที่ข้าคิด,ไม่ได้แปลว่าต้องเป็นขโมยสักหน่อย."เทียนหลิงเอ๋อที่โกรธเกรี้ยวกล่าวออกมาเสียงดัง.

"เจ้าไม่ได้ทำ?เช่นนั้นแล้วหมาป่าอสูรอยู่ที่ใหน,เป็นเจ้าแน่นอน,เจ้าสังหารมันและใส่เก็บเอาไว้ในกำไลเก็บของ."ถังเสี่ยวโหยวที่ชี้ไปยังเทียนหลิงเอ๋อและตะโกนเสียงดัง.


จงซานที่ขมวดคิ้วไปมาเมื่อได้ยินคำพูดจากถังเสี่ยวโหยว,ทันใดนั้นเขาก็รับรู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น,ถังเสี่ยวโหยวเพียงต้องการที่จะกล่าวหาเทียนหลิงเอ๋อเกี่ยวกับการหายไปของหมาป่า,ดูเหมือนว่าการหายไปของหมาป่านั้นจะเกี่ยวข้องกับถังเสี่ยวโหยว,ไม่ได้ถูกคนนอกเอาไปอย่างแน่นอน.

"ข้าไม่ได้,ข้าไม่ได้ขโมย."เทียนหลิงเอ๋อที่ดูกระวนกระวาย,นางที่นำผ้าแพรไหมแดงออกมา,ราวกับว่าต้องการจะโจมตีถังเสี่ยวโหยวที่ต้องการมาบังคับนาง.

"เอาออกมา,เอากำลังเก็บของของเจ้าออกมา,ดูว่ามันมีอะไรอยู่ในนั้น?"ถังเสี่ยวที่ตะโกนลั่น.

ในตอนแรกนั้น,เจ้าโส่วเซี่ยงไมได้สงสัยในตัวของเทียนหลิงเอ๋ออยู่แล้ว,อีกอย่างเขาค่อนข้างมันใจว่าคนทั้งสี่จากหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์นั้นคือคนที่สงสัย,ต้องไม่ลืมว่า,หลังจากทีเขาได้พบปะกับจงซาน,เขาสามารถบอกได้เลยว่าจงซานนั้นไม่ใช่ขโมยอย่างแน่นอน,ทว่าเมื่อเทียนหลิงเอ๋อนำผ้าแพรไหมออกมาพร้อมจะสู้,เขาก็ไม่ค่อยมั่นใจนัก,หากว่าไม่ใช่นาง,ทำไมนางต้องกระวนกระวายใจขนาดนั้นด้วย?

"เอามันออกมา,เอาร่างของหมาป่าออกมาและเอามุกของหลิงของข้ามาด้วย,เจ้า,พวกเจ้าทั้งสองคนวางแผนโกงข้า."ถังเสี่ยวโหยวโกรธเกรี้ยวชี้หน้าไปยังเทียนหลิงเอ๋อและจงซาน.

"ข้าไม่ได้ทำซะหน่อย,พวกเราไม่ได้ขโมย,จงซาน,บอกพวกเขาสิ!"เทียนหลิงเอ๋อที่หันหน้ามาพูดกับจงซาน,นางที่นำผ้าแพรไหมออกมานั้นเพื่อป้องกันตัว,แต่ไม่ได้ต้องการที่จะทำร้ายคนอื่นซะหน่อย.

"ข้ารู้ว่าใครขโมย."จงซานที่กล่าวมาในทันที.

ทุกๆคนถึงกับตะลึงงันจ้องมองไปยังจงซาน,เจ้าโส่วเซี่ยงเองก็ประหลาดใจและเทียนหลิงเอ๋อเองก็ไม่อยากจะเชื่อเช่นกัน.

คนทั้งสี่จากหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์,ยกเว้นจงตี้,ไม่มีใครเชื่อจงซาน,มีเพียงจงตี้ที่กลืนน้ำลายคำใหญ่ลงคอ,แววตาหวั่นเกรงได้แสดงเผยออกมาให้เห็น.

หากว่าจงซานบอกว่าเขารู้ล่ะก็,เช่นนั้นแปลว่าเขามั่นใจแน่นอน,โดยปรกติแล้วจงตี้เองก็เชื่อคำพูดขงจางซานเสมอ,แน่นอนไม่ใช่ประหลาดอันใด,ปรกติแล้วทุกคำพูดของจงซานนั้นล้วนแล้วแต่เป็นจริงเสมอ.

"เจ้ารู้อย่างงั้นรึ? หากไม่ใช่เจ้าแล้วมันจะเป็นใครกัน?ข้ามั่นใจว่าพวกเจ้าทั้งสองคนนั้นละเป็นขโมย."ถังเสี่ยวโหยวแค่นเสียง.

"จงซาน,เจ้ารู้จริงๆรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยงสอบถาม.

"แน่นอน,เจ้าก็จะเห็นมันในไม่ช้า."จงซานที่กล่าวอย่างสงบ.

ทุกคนที่ขมวดคิ้วขณะที่เห็นจงซานแสดงความมั่นใจเป็นอย่างมาก.

"นำพู่กัน,กระดาษและก้อนหมึกมา,ที่ฝนหมึกมา ข้าจะบอกพวกเจ้าในทันที,ว่าใครเป็นคนขโมยหมาป่าอสูรไป."จงซานกล่าวอย่างขึงขัง.

"เพียงแค่ผงหมึกจะไปหาตัวขโมยได้รึอย่างไง?ไร้สาระ!"ถังเสี่ยวโหยวแค่นเสียงเย็นชา.

"ไปนำของทั้งหมดมา."เจ้าโส่วเซี่ยงที่สั่งการต่อบ่าวรับใช้.

"ครับ,นายท่าน."คนของเจ้าโส่วเซี่ยงที่ออกไปจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆในทันที.

ไม่นานหลังจากนั้น,ที่บนโต๊ะมีอุปกรณ์ทุกอย่างที่จงซานต้องการ.

เทียนหลิงเอ๋อที่ดวงตาเป็นประกายจ้องมอง,ในสำนักไคอย่างนั้น,ในห้องของบิดานางนั้น,ก้อนหมึกนั้นมีการใช้ประโยชน์ได้ไม่มากนัก,นางที่รู้ว่ามันใช้ในการเขียนหนังสือ,ทว่าสิ่งดังกล่าวนี้,จะสามารถนำมาหาตัวคนร้ายได้อย่างงั้นรึ?

เทียนหลิงเอ๋อนั้นไม่อยากเชื่อเลย,ซึ่งคนอื่นๆเองก็ไม่เชื่อเช่นกัน,ว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะหาขโมยได้,พวกเขาคิดว่าเป็นเพียงการตบตาและถ่วงเวลาเท่านั้น.

มีเพียงจงตี้เท่านั้นที่รู้สึกปั่นป่วน,จิตใจเต้นไปมาขณะที่เขาเห็นจงซานเตรียมทุกอย่าง,จงตี้นั้นเคยเห็นความอัศจรรย์ของจงซานมากมาย,เขาสามารถทำเรื่องเหลือเชื่อให้เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา.

ในสายตาของจงตี้แล้ว,ยกเว้นการสามารถเข้าสำนักเซียน,เรื่องทุกอย่างนั้นไม่มีสิ่งใหนที่จงซานทำไม่สำเร็จ.

"ข้ายังไม่เห็นวี่แววเลยว่ามันจะสามารถหาขโมยได้อย่างไร."ถังเสี่ยวโหยวที่แค่นเสียงอีกครั้ง.

ทุกๆคนต่างก็เฝ้ามองจงซานอย่างตั้งใจ,ไม่มีใครสนใจความโอหังของถังเสี่ยวโหยว,ตอนนี้,เขากำลังขูดผงหมึกลงไปบนแผนกระดาษ.

ทว่า,เขาไม่ได้เติมน้ำ,เพียงแต่สร้างผงหมึกขึ้นมาเท่านั้น?

จงซานนั้นไม่ได้สนใจสายตาที่จ้องมอง,เขายังสร้างผงหมึกขึ้นมาเป็นจำนวนมาก,ก่อนที่จะใช้ที่ฝนหมึกทำให้มันเป็นผงขาดเล็ก,เป็นผงขนาดเล็กเนื้อละเอียด,จงซานที่นำผงเหล่านั้นวางไว้บนกระดาษสีขาว,ก่อนที่จะนำพู่กันแบ่งมันออกมาเป็นส่องส่วน.

ด้วยการกระทำอย่างระมัดระวัง,ผงหมึกก็ถูกแบ่งออกเป็นสองกอง.

จากนั้นเขาก็ใช้พู่กันที่ชโลมไปด้วยผลหมึกนั้น,นำมันไปวาดบนกรงขังที่เป็นกระจก.

ทุกๆคนที่จ้องมองจงซานด้วยความสงสัย,มีเพียงถังเสี่ยวโหยวที่กำลังเบ้ปากยิ้มเยาะเย้ยการกระทำที่ไร้สาระนั่น.

จงซานที่ยังคงใช้พู่กันชโลมผงหมึก,จากนั้นก็ระบายไปทั่วกรงขังกระจกอย่างประณีตทุกซอกทุกมุม.

ทุกคนที่จ้องมองไปด้วยความประหลาดใจ,จงซานที่ระบายพู่กันด้วยผงหมึกไปทั่วกรงกระจกไปทั้งหมดไม่ปล่อยให้มีช่องว่างเลย.

นับตั้งแต่ต้นจนจบ,ทุกคนที่รู้สึกสงสัยเท่านั้น,อย่างไรก็ตาม,เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองอย่างตั้งใจก็ปรากฏเห็นรอยสีดำบางอย่างเกิดขึ้น.

กระจกใส่ที่ดูสะอาดนั้นปรากฏรอยสีดำเป็นจ้ำๆขึ้นอย่างงั้นรึ?

"นี่มันคืออะไร?เป็นรอยวงกลมเล็กๆเป็นจุดๆปรากฏขึ้นมา."เทียนหลิงเอ๋อที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์ใจที่เห็นรอยวงกลมเหล่านั้นปรากฏขึ้นมา.

"นี่มัน,รอยนิ้วมือ."เจ้าโส่วเซี่ยงตระหนักได้ในทันทีขณะที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

รอยนิ้วมือ,เป็นรอยนิ้วมือจริงๆ,บนกรงกระจกนั้น,มีรอยนิ้วมือเหลืออยู่.

จงซานที่ใช้ผงหมึกทำให้รอยนิ้วมือที่มองไม่เห็น,ปรากฏขึ้นมาด้วยหมึกดำนั่นเอง.

"หากคนที่มีรอยนิ้วมือเหมือนกับที่ปรากฏขึ้นที่กรงแก้วนี้ล่ะก็คนนั้นก็คือขโมย,ให้ทุกคนใช้ผงหมึกกดลงไปที่กระดาษเพื่อนำมาเปรียบเทียบ."จงซานที่กล่าวต่อหน้าของทุกคน.

"เป็นไปได้อย่างไร? เกิดขึ้นได้อย่างไร?ทำไมถึงได้มีรอยนิ้วมือเกิดขึ้น?เจ้า,เจ้าต้องเป็นคนวาดมันขึ้นมาแน่นอน."ถังเสี่ยวโหยวที่กล่าวออกมาเสียงดัง.


"วาดขึ้นมารึ?ฮ่า ฮ่า,เจ้าลองวาดมันดูหน่อยสิ,ตราบเท่าที่มือของเจ้าไม่สะอาดพอ,เมื่อเจ้าสัมผัสมันล่ะก็ย่อมทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้,เพียงแต่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเท่านั้น,ผงดำนั่นใช้เพื่อทำให้รอยนิ้วมือที่มองไม่เห็นปรากฏขึ้นมา,ฝนตกเมื่อคืนนี้ได้ทำการลบรอยนิ้วมือทั้งหมดไปก่อนแล้ว,ดังนั้นหลังจากฝนตก,ใครก็ตามที่มาสัมผัสกรงล่ะก็,จะเหลือรอยนิ้วมือคนที่ขโมยไปเอาไว้เท่านั้น,ยกเว้นถังซือคนเดียวที่มาให้อาหารกับหมาป่า,รอยนิ้วมืออื่นๆที่ปรากฏขึ้นมานั้นจะต้องเป็นโจร,หากไม่ต้องการเป็นผู้สงสัย,ก็มาประทับรอยนิ้วมือบนกระดาษซะแล้วค่อยมาเปรียบเทียนกัน."จงซานกล่าว.

"จงซาน,เจ้าฉลาดมากเลย."เทียนหลิงเอ๋อที่กุมแขนของจงซานแน่นด้วยความตื่นเต้นดีใจ.

นางไม่เคยสัมผัสกรงกระจกนั่นเลย,ดังนั้นย่อมไม่มีรอยนิ้วมือของนางอย่างแน่นอน.

จงซานที่เริ่มสาธิตว่าต้องทำอย่างไร,เขาได้ใช้นิ้วมือกดไปยังผงสีดำทั้งสิบนิ้ว,จากนั้นก็นำมาประทับลงบนกระดาษอีกครั้งหนึ่ง.

เทียนหลิงเอ๋อที่กระทำตามในทันที,จากนั้นก็เป็นเจ้าโส่วเซี่ยง.

ถังเสี่ยวโหยวที่เห็นชัดเจนว่าเขาไม่เชื่อ,เขาไม่เชื่อเลย กับวิธีการดังกล่าว,เขาคิดว่าจงซานนั้นกำลังใช้เล่ห์กลบางอย่างเพียงเพื่อให้เขาต้องสารภาพผิด,เมื่อคืนนี้ถังเสี่ยวโหย่วหลังจากที่ชำระร่างกายเสร็จแล้ว,และเขายังทำความสะอาดมือของเขาอย่างดี,เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีรอยเหลืออยู่.

ทุกๆคนที่ทำการพิมพ์รอยนิ้วมือบนกระดาษแต่ละแผ่น.

เทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองไปยังรอยกระดาษแผ่นหนึ่ง.

"ข้าเจอแล้ว,ข้าเจอแล้ว,เป็นถังเสี่ยวโหยว,ถังเสี่ยวโหยวเป็นคนทำ."เทียนหลิงเอ๋อที่ตะโกนออกมาเสียงดัง,นางที่มีความสุขเป็นอย่างมากราวกับว่านางเป็นคนแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตัวเอง.

"เป็นไปไม่ได้,เป็นไปไม่ได้."ถังเสี่ยวโหยวที่ไม่เชื่อ.

จากนั้น,ถังเสี่ยวโหยวที่วิ่งมายังกรงกระจก,เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าเขาจะทิ้งรอยนิ้วมือเอาไว้.

"เป็นไปไม่ได้,เจ้านั่นละที่วาดมันขึ้นมา,จะต้องเป็นเจ้า,"ถังเสี่ยวโหยวที่ตะโกนสุดเสียงชี้ไปยังจงซานและเริ่มกล่าวหาเขาอีกครั้ง.

"หึ,นั่นมันรอยนิ้วมือของเจ้า,คิดว่าใครจะวาดขึ้นมาได้?ไป,ค้นให้ทั่วทุกห้อง."เจ้าโส่วเซี่ยงที่ชี้ออกไป,คำรามออกมาด้วยความโกรธ.

"เป็นไปไม่ได้,เป็นไปไม่ได้,ข้าทำความสะอาดมือเรียบร้อยแล้ว,มือของข้าสะอาด."ถังเสี่ยวโหยวที่ยังคงตะโกนเสียงดัง.

จงซานที่เผยยิ้มเยาะเย้ยที่เห็นท่าทางของถังเสี่ยวโหยวที่ไม่ยอมรับ,ทำความสะอาอย่างงั้นรึ? แค่ทำความสะอาดคิดว่าจะไม่มีรอยนิ้วมือเกิดขึ้นรึอย่างไร.

"หยุด."หลิวหมิงที่ตะโกนเสียงดัง.

"ค้น."เจ้าโส่วเซี่ยงที่ตะโกนตามหลัง.

ต้องไม่ลืมว่าเหล่าผู้คุ้มกันนั้นมาจากตระกูลเจ้า,พวกเขาย่อมรับฟังคำของเจ้าโส่วเซี่ยง,พร้อมกับเร่งรีบค้นไปยังทุกห้อง.

"บัดซบ."หลิวหมิงที่โกรธเกรี้ยวและพยายามที่จะหยุดเหล่าผู้คุมกัน.

"หืม."เจ้าโส่วเซี่ยงที่ใช้ทวนยาวเข้าห้ามหลิวหมิงเอาไว้.

"สหายหลิว,ไม่ใช่ว่าเป็นคนของท่านได้ขโมยหมาป่าไปหรอกนะ?"เจ้าโส่วเซี่ยงแค่นเสียง.

"ข้าเจอแล้ว,ข้าเจอมันแล้ว."ผู้คุ้มกันคนหนึ่งที่วิ่งออกมาจากห้องพร้อมกับหมาป่าอสูรในมือ.

"หลิวหมิง,ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าจะเป็นเจ้า,เจ้าละเมิดข้อตกลง,เจ้าไม่คิดที่จะแบ่งปันหมาป่าให้กับข้า."เจ้าโส่วเซี่ยงที่หรี่ตามอง,พร้อมกับมีประกายแสงสมเพชในตา.

"ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้า,ออกมา,มือธนู,สังหารพวกมัน,สังหารพวกมันให้หมด."ถังเสี่ยวโหยวที่ตะโกนเสียงดัง.

เหล่าผู้คุมกันของตระกูลถังมากมายที่ออกมาจากที่ซ่อนตัวหลังจากได้ยินคำสั่งของถังเสี่ยวโหยว.

จงซานที่ไม่ต้องการที่จะโต้เถียงกับคนเหล่านี้อีกต่อไป,เขาที่ชักดาบยักษ์,ฝันร้ายออกมา.

ทลายภูเขาสวรรค์!

ดาบยักทีฟันลงมากอย่างรุนแรง,คิดที่จะกล่าวโทษข้าอย่างงั้นรึ?นี่ไม่ต่างกับการสร้างศัตรูขึ้นแล้ว,ไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่าการฝึกฝนเพื่อแสวงหาความอมตะ,ก็คือการหาวิธีในการเพิ่มอายุ,เช่นนั้นการกระทำเช่นนี้ย่อมสร้างความแค้น,หากใครก็ตามที่ขัดขวางการมีชีวิตของคนอื่นก็ต้องกำจัดมันให้หายไป,แน่นอนว่าการฝึกตนเพื่อเป็นอมตะนั้นย่อมต้องมีการผูกกรรมกับคนอื่น,เพื่อที่จะสลายกรรมที่ก่อขึ้นมาเนิ่นๆ,หากไม่ต้องให้มันพัฒนากลายเป็นเส้นกรรมที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต?ก็ต้องกำจัดไปเท่านั้น.

"ตูมมมมมม."

ถังเสี่ยวโหยวที่ตอบสนองในทันที,กระบี่ของเขาที่ถูกชักออกมาป้องกันการโจมตีของจงซาน,จงซานที่โจมตีออกมาด้วยดาบยักษ์ของเขา,ทำให้ถังเสี่ยวโหยวถอยออกมาถึงสองเมตร,เท้าเขาที่ใช้ยั้งพื้นบดขยี้ทำลายกระเบี้ยงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ.

"ระดับสามเซียนเทียน?ฮ่า ฮ่า ฮ่า."ถังเสี่ยวโหยวที่แค่นเสียงให้กับการโจมตีของจงซาน.

หลิวหมิงและหวังกุยเองก็เตรียมเข้าต่อสู้ด้วยเช่นกัน.

เทียนหลิงเอ๋อที่เห็นจงซานลงมือนางก็ใช้ผ้าแพรไหมสีแดงของนางโจมตีไปยังหวังกุยเช่นกัน.

"ตูมมมมมมมมม"

ผ้าแพรไหมสีแดงที่โจมตีออกมาอย่างรุนแรง,หวังกุยไม่คิดเลยว่าพลังของเทียนหลิงเอ๋อนั้นจะรุนแรงขนาดนี้,ผ้าไหมสีแดงที่กระแทกไปยังกระบี่ของเขา,เขาตระหนักได้ในทันที,ความแข็งแกร่งของหญิงสาวคนนี้ไม่ได้ด้อยกว่าเขาแน่นอน,พลังดังกล่าวนั้นแทบจะทำให้กระบี่ของเขาลอยออกไปได้.

"หลิวหมิง,ยอมแพ้ซะ."เจ้าโส่วเซี่ยงที่ชี้หอกคำรามออกไปด้วยความโกรธไปยังหลิวหมิง.


"ตูมม,ตูมม,ตูม....."จงซานที่เข้าปะทะกับถังเสี่ยวโหยว,ทั้งคู่ที่ต่อสู้โต้กันไปมา,ถังเสี่ยวโหยวนั้นอยู่ในระดับสี่เซียนเทียน,ขณะที่จงซานนั้นอยู่เพียงแค่ระดับสามเซียนเทียนเท่านั้น,อย่างไรก็ตามเพลงดาบของจงซานนั้นรายกาจมาก,แม้ว่าจะมีระดับสามเซียนเทียน,ทว่าก็ไม่ได้เสียเปรียบระดับสี่เลย,หนำซ้ำตอนนี้เขายังไม่ได้ใช้วิชากายาเทพอสูรอีกด้วย.

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 วันต่อตอน.

 

1 ความคิดเห็น: