วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 28 Again with clock place

Immortality Chapter 28 Again with clock place

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 28 พบจงตี้อีกครั้ง


บทที่ 28 พบจงตี้อีกครั้ง



"เอ๊ะ,เจ้ากล่าวว่าได้จับหมาป่าอสูรมาอย่างงั้นรึ?"จงซานที่พูดคุยกับเจ้าโส่วเซี่ยงเกี่ยวกับหัวข้อที่พวกเขาเอ่ยถึงมาก่อนหน้านี้.

"ใช่แล้ว,มันเป็นลูกหมาป่านะมีขนที่ดูบริสุทธิเป็นอย่างมาก,โดยเฉพาะเวลากลางคืนนั้นส่องประกายแสงสีเงินบางๆออกมาเลย."เจ้าโส่ยเซี่ยงกล่าวอย่างตรงไปตรงมา.


"อย่างงั้นเลยรึ?"จงซานขมวดคิ้ว.

"หมาป่าอสูรส่องแสงหรือ?"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาทันทีเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น.

"ใช่แล้วนี่เป็นหมาป่าที่เป็นสายพันธ์พิเศษและเป็นหมาป่าที่มีเชาว์ปัญญาสูง,แน่นอนว่ายิ่งเป็นอสูรระดับสูงเท่าไหร่โลหิตและแกนอสูรของมันก็จะยิ่งพิเศษยิ่งกว่าสิ่งใด,"เจาโส่วเซียงที่ตอบกลับมา.

"ใช่แล้ว,ข้าจำได้ว่า,ศิษย์พี่ชิงซือนั้นได้จับหมาป่าอัคคีมา,นางใช้โลหิตของมันนำมาสร้างเม็ดยาระดับสามได้ด้วย,"เทียนหลิงเอ๋อที่อธิบายกับจงซาน.

"เช่นนั้น,ยินดีกับท่านด้วย."จงซานที่กล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมา.

"เฮ้ๆ,มันไม่ใช่อย่างงั้นนะซิข้าไม่ได้พบมันคนเดียว,ยังมีคนอื่นๆอีกสี่คนที่พบมันพร้อมๆกัน,ซึ่งมีถังเสี่ยวโหยวก่อนหน้าที่ก็เป็นหนึ่งในนั้น,ดังนั้นข้าเองเลยไม่รู้เลยว่าเรื่องหมาป่าอสูรตนนี้จะจบอย่างไร."เจ้าโส่วเซียงที่ส่ายหน้าไปมา.

"อืม? มีคนอื่นด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้ว.

"อืม,ใช่แล้ว,วันนั้นพวกเราอยู่ในหุบเขาแห่งหนึ่ง,ซึ่งพบมันอยู่ใกล้กับทะเลสาบแห่งหนึ่ง,แน่นอนว่าพวกเราทั้งห้าพบมันด้วยกัน,อีกอย่างพวกเราวางแผนที่จะแบ่งกัน,พวกเรารอคอยผู้อาวุโสของทั้งสองสำนักมาประเมินว่าหมาป่าอสูรตนนี้มีมูลค่าเท่าไหร่,จากนั้นก็จะทำการนำไปแลกอาวุธวิเศษหรืออะไรที่มีค่าเท่ากันมาแบ่งปันกัน,"เจ้าโส่วเซียงตอบ.

ได้ยินคำพูดของเจ้าโส่วเซียงแล้ว,จงซานสามารถบอกได้เลยว่าหมาป่าอสูรตนนี้มีค่าขนาดใหน,ตามที่ได้พูดคุยกัน,หมาป่าอสูรนี่น่าจะเทียบได้กับเม็ดยาระดับสามหรือสูงกว่า,อาจจะเป็นระดับสี่? อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ไม่กล้าที่จะเร่งรีบตัดสินเกี่ยวกับมูลค่าของหมาป่าตนนี้.

"แล้วหมาป่าอสูรอยู่ที่ใหนอย่างงั้นรึ?"จงซานกล่าว.

"มันถูกเก็บไว้ในส่วนพื้นที่ของตระกูลถัง,ทว่าตอนนี้ก็เป็นที่อาศัยของข้าด้วยเช่นกัน."เจ้าโส่วเซี่ยงกล่าว.

"ตระกูลถัง? พวกเขาเป็นหนึ่งในตระกูลเก่าแก่หลายพันปีที่ใหญ่ที่สุดในรัฐต้าซ่ง,และที่แห่งนี้เคยเป็นเขตแดนของถังเสี่ยวโหยวมากก่อนอย่างงั้นรึ?"จงซานขมวดคิ้ว.

"ใช่แล้ว,ตระกูลถังนั้นมีอิทธิพลที่สุดที่นี่,ทว่าตระกูลเจ้าถึงไม่ใช่ตระกุลใหญ่ที่มีประวัติหลายพันปี,ทว่าในโลกปุถุชนนั้นก็ไม่ได้อ่อนแอ,สถานที่แห่งนี้ถูกจัดเอาไว้ให้กับตระกูลถัง,ทว่าทั้งตระกูลเจ้าและตระกูลถังเองต่างก็ส่งคนมาคุ้มกัน,ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง."เจ้าโส่วเซียงอธิบาย.

"ไม่ใช่ว่า,คนทั้งสี่เห็นทั้งหมดด้วยกันหรอกนะ?ถังเสี่ยวโหยวเป็นหนึ่งในนั้น,แล้วอีกสามคนมาจากสำนักทวนเหล็กของเจ้ารึเปล่า?"จงซานถาม.

"ไม่,อีกสามคนที่เหลือเป็นศิษย์น้องและศิษย์พี่ของหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์."เจ้าโส่วเซียงกล่าว.

"โอ้ว?"จงซานที่หรี่ตาลงขณะพูด,ดูเหมือนว่าเจ้าโส่วเซี่ยงนั้นจะอยู่ในสถานะที่เสียเปรียบเป็นอย่างมาก.

เจ้าโส่วเซียงที่เข้าใจที่จงซานสื่อความหมายก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"คนทั้งสี่เป็นคนหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์,มีคนสองคนที่เข้าสำนักเซียนพร้อมข้า,51 ปีที่แล้ว,ถังเสี่ยวโหยวและอีกคนเข้าสำนักเซียนเมื่อปีที่แล้ว,พวกเขาไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล."

"อืม."จงซานที่พยักหน้า.

พวกเขาที่เดินทางมาถึงเรือนขนาดใหญ่ไม่นานหลังจากนั้น,ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่แยกออกมาที่เจ้าโส่วเซียงเอ่ยถึง.

มียามเฝ้าประตูอยู่ไม่น้อย,หลังจากที่เจ้าโส่วเซียง,พาเขาเข้ามาจงซานพบว่ามีมือธนูที่ซ่อนอยู่ในที่ต่างๆ,ไม่สงสัยเลยว่านี้คือตระกูลใหญ่,พวกเขามีการเฝ้าป้องกันอย่างหนาแน่นทีเดียว.

คนทั้งสามที่เดินผ่านทางเดินมุ่งไปยังลานบ้านตรงกลางที่พักส่วนตัว.

ที่ใจกลางของลานนั้น,มีโต๊ะขนาดใหญ่,และยังมีกล่องแก้วขนาดใหญ่อยู่ด้วย,ภายในกล่องนั้น,มีสัตว์อสูรตัวเล็ก,เป็นหมาป่าเงินสีขาวขนาดยาวหนึ่งฟุต.

หมาป่าตัวเล็กมีขนสีขาวทั่วร่างเป็นสีขาวเงินที่ดูบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก,อย่างไรก็ตาม,เวลานี้มันนอนอยู่ในกล่องไร้ซึ่งเรี่ยวแรง,สายตาของมันเต็มไปด้วยความกลัว,ร่างกายของมันที่สั่นไปมาเล็กน้อย,ดูเหมือนว่ามันจะรับรู้ชะตากรรมของมันที่เลวร้ายกำลังรอมันอยู่.

"นี่คือหมาป่าอสูรที่มีระดับสูง,ไม่จำเป็นต้องฝึกฝนแต่อย่างไร,มันมีสายโลหิตที่สูงส่งเหนือกว่าหมาป่าอสูรธรรมดามาก,หากว่ามันเติบโต,จะทรงพลังเป็นอย่างมาก,พวกเราได้ใช้ผงระรวยกระดูก,ดังนั้นจึงทำให้มันไม่สามารถหนีไปใหนได้.

เทียนหลิงเอ๋อที่ก้าวเข้าไปดูใกล้ๆด้วยความตื่นเต้น.

"ทำไมถึงให้มันมาอยู่ที่นี่ล่ะ?"จงซานที่จ้องมองไปยังหมาป่าตัวเล็กในกล่อง,ขมวดคิ้วไปมา,พลางสอบถาม.

"ที่แห่งนี้มียามรักษาการณ์ของทั้งสองตระกูลล้อมรอบ,มันจึงง่ายในการจับตามอง."เจ้าโส่วเซี่ยงตอบกลับ.

จงซานที่เข้าใจได้ในทันทีหลังจากที่เจ้าโส่วเซี่ยงกล่าวออกมา,ที่ต้องนำมาไว้ที่นี่ไม่ได้ป้องกันขโมย,ทว่าเพื่อให้มันอยู่ในสายตาของคนทั้งสี่จากสำนักหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์ต่างๆหาก.

"ช่างน่าสงสารนัก,หมาป่าตัวนี้ยังเล็กอยู่เลย,หากว่าข้าเจอมันเป็นคนแรก,ข้าคงไม่กล้านำมันมาทำเป็นยาแน่นอน."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความสงสาร.

"โอ้ว?เช่นนั้นหากเจ้าเป็นคนเจอจะทำอย่างไรล่ะ?"จงซานที่กล่าวออกไปพร้อมกับเผยยิ้มออกมา.

"แน่นอนว่าต้องปล่อยมันไปนะสิ,ก็มันยังเล็กอยู่!"เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

หลังจากที่นางกล่าวจง,ทันใดนั้นก็มีเสียงๆหนึ่งที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยันดังออกมา.

"ปล่อยไปอย่างงั้นรึ?นั่นมันยาระดับสี่นะ,จะปล่อยไปได้อย่างไร?"

ทุกคนที่จ้องมองไปตามเสียง,ซึ่งมีชายสองคนที่กำลังเดินออกมาจากภายในห้องช้าๆ.

คนทั้งคู่ที่มีกระบี่สะพายหลังเหมือนกับถังเสี่ยวโหยว,เดินตรงมาทางจงซาน.

"สหายหวัง."เจ้าโส่วเซี่ยงที่กล่าวกับชายที่เดินนำ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าคนผู้นี้คือคนที่เข้าสำนักเซียนพร้อมกับเขาเมื่อ 51 ปีที่แล้ว,ความแข็งแกร่งของทั้งคู่นั้นเท่ากัน.

ส่วนอีกคนนั้น,เจ้าโส่วเซี่ยงไม่ได้ให้ความสนใจแต่อย่างใด,ทว่ากลับเป็นจงซานที่จ้องมองไปยังอีกคนไม่วางตา.

ขณะที่จงซานเห็นคนดังกล่าวนั้น,ก็มีประกายแสงความโกรธเกรี้ยวแฝงอยู่ในสายตา,เขาที่หายใจลึกเพื่อยับยั้งความโกรธ,อย่างน้อยที่สุด,ก็ไม่ได้แสดงมันออกมาทางสีหน้า.

จงตี้,บุตรอกตัญญู,เป็นหนึ่งในบุตรบุญธรรมของเขา,จงซานที่เคยนำเขาเข้าร่วมการชุมนุมประตูมังกรเพื่อที่จะให้มีโอกาสได้เข้าร่วมสำนักเซียน,แต่ถึงกระนั้น,ท้ายที่สุด,เขากับได้ละทิ้งจงซาน,และสิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดเมื่อบุตรบุญธรรมคนโตจงเทียนได้ตำหนิเขา,จงตี้ถึงกับบอกกับอาจารย์ของเขาให้ทำการตักเตือนจงเทียนในครั้งนั้น.

สำนัก,หมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์,ที่เป็นคนรับจงตี้เข้าสำนักในเวลานั้น.

สายตาของจงซานที่จ้องมองไปยังจงตี้,จงซานที่ระงับความโกรธเกรี้ยวที่รุนแรงเอาไว้,ทำได้แค่แค่นเสียงออกมาเบาๆ.

เมื่อจงตี้เดินเข้ามาและเห็นจงซาน,เขาที่นิ่งงันตื่นตะลึงขึ้นมาในทันที,จงซานในเวลานี้รูปร่างเหมือนกับชายอายุเพียงแค่สามสิบปี,จงตี้จำได้ว่าครั้งแรกที่จงซานรับเขาเป็นบุตรบุญธรรมเขาก็มีหน้าตาเช่นนี้,ทำให้เขาจดจำจงซานได้ในทันที,อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากเชื่อเลยแม้แต่น้อยว่าชายคนนี้คืออี้ฟู,จงซาน.

"จงตี้?"จงซานที่เผยยิ้มและสายตาที่เย็นชาไปยังเขา.

เมื่อจงตี้ได้ยินคำพูดของจงซาน,ทำให้เขารู้สึกราวกับว่ามีถังน้ำเย็นที่กำลังสาดเข้าหน้าของเขาอย่างแรง,เป็นเขา,อี้ฟู่,เป็นไปได้อย่างไร,เขากลับมาหนุ่มขนาดนี้ได้อย่างไร,เขาสามารถเข้าสำนักเซียนได้อย่างงั้นรึ? แล้วเขาเข้าสำนักเซียนได้อย่างไร?

เหงื่ออันเย็นเยือบที่หลั่งออกมาจากหน้าผากของจงตึ้,อย่างไรก็ตาม,เขายังก็ยังเอ่ยออกมาว่า"อี้,ฟ,ฟ,จงซาน."

ท้ายที่สุด,คำว่า"อี้ฟู "เขาก็ได้ปฏิเสธมันไป,เขาที่เรียกชื่อจงซานออกมาตรงๆ,หลังจกที่เขาได้กล่าวออกไปแล้ว,จงตี้ที่พยายามสงบใจกลับคืนมา,ใช่แล้ว,มีสิ่งใดที่เขาต้องกลัวกัน.

เขาตอนนี้ได้เข้าสำนักเซียนแล้ว,อีกอย่างเขายังมีพรสวรรค์มากกว่าอีกด้วย.

"เขามีสกุลจงเหมือนกัน,พวกเจ้ารู้จักกันอย่างงั้นรึ?หรือว่าเป็นสหายกัน?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นในทันที.

เจ้าโส่วเซี่ยงและคนอื่นๆเองก็รู้สึกไม่ชอบมาพากลกับความสัมพันธ์ของจงซานและจงตี้,พวกเขาที่จ้องมองกันและกันด้วยท่าทางน่าสงสัย.

"พวกเราทั้งคู่รู้จักกัน,ทว่าไม่ใช่สหาย."จงซานกล่าวต่อเทียนหลิงเอ๋อ.

"โอ้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าในทันทีโดยที่ไม่ถามอะไรต่อไป,ในเมื่อไม่ใช่สหายกัน,เช่นนั้นพวกเขาเป็นศัตรูกันอย่างงั้นรึ?เทียนหลิงเอ๋อนั้นแม้ว่าจะเป็นคนโผงผาง,ทว่านางก็ตระหนักได้ว่าอะไรควรพูดและไม่ควรพูด.

"สหายหวัง,เจ้ากำลังจะออกไปข้างนอกอย่างงั้นรึ?"เจ้าโส่วเซี่ยวสอบถาม.

"ใช่แล้ว."ชายคนดังกล่าวพยักหน้า.

"แต่ว่านะดูเหมือนว่าจะมีเมฆคลึ้ม,เป็นไปได้ว่าฝนจะตกหนักในไม่ช้านี้."เจ้าโส่วเซี่ยงขมวดคิ้วและกล่าวออกมา.

"คลืนๆๆๆๆ"

ราวกับว่าฟ้าจะตอบสนองกับคำพูดของเจ้าโส่วเซี่ยว,เสียงคำรามของท้องฟ้าดังสนั่นขึ้นมาในทันที,ประกายแสงสายฟ้าที่ส่องประกายจากเมฆสีดำทมิฬ.

พวกเขาที่ยังคงเดินต่อไป,และกล่าวออกมาว่า,"ขอบคุณสหายเจ้าที่เป็นห่วง,พวกเรามีงานสำคัญที่ต้องทำ,ทว่าศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเราก็ยังอยู่ที่นี่."

"จงตี้,ไปได้แล้ว."หลังจากที่พวกเขากล่าวเสร็จ,ก็เร่งรีบออกไปอย่างรวดเร็ว.

เห็นทั้งคู่จากไปแล้ว,จงซานที่ถอนหายใจเข้าลึกๆ,พยายามที่จะปล่อยวางสกัดกลั้นความโกรธที่มีต่อจงตี้.

"ชายผู้นั้นคือศิษย์ลำดังสองขั้นสามของหมู่บ้านกระบี่พิสุทธิ์,หวังกุย,ไปกันเถอะ,อย่าไปสนใจพวกเขาเลย,ข้าจะพาเจ้าไปหาที่พัก."เจ้าโส่วเซี่ยงกล่าว.

"อืม."จงซานพยักหน้าถอนสายตาจากทิศทางของคนทั้งสองที่หายไปลับตา.

เจ้าโส่วเซี่ยงที่นำทั้งคุ่มายังเรือนที่พักส่วนตัวแห่งหนึ่ง.

จงซานที่จะพักที่แห่งนี้ชั่วคราว,หลังจากช่วงบ่ายพวกเขาที่ไม่มีอะไรทำ,ดั้งนั้นจงซานจึงได้มานั่งเล่นหมากล้อมกับเจ้าโส่วเซี่ยงและพูดคุยกันเรื่องทั่วไป,ส่วนเทียนหลิงเอ๋อที่จ้องมองดูทั้งคู่เล่นหมากล้อมและนำลูกเต๋าที่นางนำกลับมามาทอยเล่นไปมา.

จวบจนถึงตอนเย็น,หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จแล้ว,เจ้าโส่วเซี่ยงก็จากไป.

เจ้าโส่วเซี่ยงนั้นอาศัยอยู่เรือนที่พักที่มีการป้องกันหมาป่าอสูรนั่นเอง.

หมาป่าน้อยสีขาวที่กำลังสั่นเทิ้มในกรงกระจกในลานแห่งหนึ่ง,นับตั้งแต่มันถูกจับตัวมาก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว.

ทุกๆวัน,เหล่ามนุษย์จะนำอาหารเป็นข้าวเปล่าผสมผงสีขาวมาให้มันกินเพื่อประทังชีวิตและทำให้มันไม่มีแรง,คนเหล่านี้จะต้องเป็นคนเลวอย่างที่เหยี่ยเยี่ยบอกอย่างงั้นรึ?

爷爷, yěyě, เหยี่ยเยี่ย, ปู่.

เป็นคนชั่ว,เป็นคนเลวอย่างงั้นรึ?


หมาป่าอสูรตัวเล็กสีขาวที่กลิ้งไปมาในกรงกระจกและจ้องมองสายฝนที่กำลัง พัดกระหน่ำกระแทกกระจกในความมืดมิด,สายตาของมันที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวตัวสั่นไม่หยุด,ข้ากำลังตายแล้ว?เหยเหย่,ท่านอยู่ใหน,เหยเหย่? ข้าจะไม่แอบหนีเล่นซนอีกแล้ว,มาช่วยเซียนเซียนเร็ว,เซียนเซียนกำลังจะตายแล้ว!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


สนใจสนับสนุนพวกเรา,เข้าร่วมกลุ่ม VIP ====> Click

***เว็ปฟรีอัพ สองวันหนึ่งตอน
***กลุ่มลับ อัพ 2-3 วันต่อตอน.

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น