วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 20 Nightmare

Immortality Chapter 20 Nightmare

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 20 ฝันร้าย


บทที่ 20 ฝันร้าย


จงซานรับรู้วิธีใช้แล้วว่าจะใช้มุกคงหลิงในมือของเขาเช่นไร.

เขาต้องการยกระดับดาบของเขา,เขามั่นใจว่าจะทำให้ดาบของเขานั้นคมยิ่งกว่าเดิม,ตอนนี้เขาที่กุมมุกคงหลิงในมือ,พร้อมกับทำตามวิธีที่หลิงเอ๋อได้แนะนำมา,เขาที่ใช้ดาบในมือเฉือนไปยังแขนของเขาเพื่อใช้โลหิตใส่ลงไปในมุกคงหลิง.


เมื่อโลหิตของเขาอาบไปทั่วมุกคงหลิง,รูปร่างของมันก็เปลี่ยนไป,ตอนนี้ราวกับว่ามันกำลังเชื่อมต่อกับจิตสำนึกของจงซาน,มุกคงหลิงที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนรูปร่างไปตามความตั้งใจของจงซาน,ตอนนี้มันกำลังยืดยาวออกมาช้าๆและท้ายที่สุดก็กลายเป็นดาบขนาดใหญ่.

จงซานที่มีความสูงราวๆ 180 ซม,ดาบใหญ่ของเขานี้มีความยาวถึง 160 ซม. ดูเป็นดาบที่น่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,มีร่องระหว่างใบดาบ,ใบดาบสีดำทมิฬ,มีเดือยขนาดใหญ่ยักษ์หกแท่งด้านหลัง,ดาบนี้ดูเหมือนกับนิสัยของจงซานเป็นอย่างมาก,ดูดุร้ายป่าเถื่อนไม่น้อย.

อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้มันยังเป็นตัวอ่อนอยู่เท่านั้น.

ขั้นตอนต่อไปเป็นการนำโลหะใส่เข้าไปด้านใน.

จงซานที่ไม่ลังเลแม้แต่น้อย,เขาที่นำมันผสานเข้ากับดาบเดิมของเขา,ซึ่งตอนนี้มันกำลังผสานหลอมรวมเข้ากันช้าๆ.

ดูเหมือนว่าเนื้อโลหะจะยังไม่พอ,จงซานที่ออกมายังสวนพร้อมกับนำกระบี่ที่อยู่ในสวนติงสุ่ยเซียนเขามาเพิ่ง,พร้อมกันนี้ยังมีขวานใส่ลงไปอีก,ท้ายที่สุดก็เพียงพอสำหรับเนื้อโลหะของดาบยักษ์ใหญ่เล่มใหม่ของเขา.

ตอนนี้มันยังอยู่ในระดับต่ำสุด,เป็นเพียงอาวุธวิเศษระดับหนึ่งเท่านั้น,นับจากตอนนี้จำเป็นต้องใช้ปราณแท้ในการหล่อเลี้ยงตลอดจนการใช้จิตสำนึกพลังจิตในการพัฒนาพลังของมันให้ยกระดับขึ้นมา.

เห็นอาวุธวิเศษที่เขาสร้างขึ้นมาเป็นครั้งแรก,สายตาที่เปล่งประกายฝังแน่นไปด้วยความเศร้าที่แผ่ออกมา.

"ไท่จื่อเหล่ยเทียน,ดาบนี้จะเป็นฝันร้ายสำหรับเจ้าในวันข้างหน้า,ข้าจะสร้างฝันร้ายให้กับเจ้านับตั้งแต่วันนี้."จงซานที่กล่าวกับดาบยักษ์ของเขา.

"จงซาน,เจ้ากลับมาแล้วรึ?"ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงกังวานดังออกมาจากด้านนอก.

จงซานที่เปิดประตูออกมา,เห็นหนานป่าเทียนและเทียนหลิงเอ๋อที่มาด้วยกัน.

"เฮ้,เจ้าสร้างเสร็จแล้วอย่างงั้นรึ? ดาบยักษ์เจ้าดูน่าเกรงขามจริงๆ."หนานป่าเทียนที่เห็นดาบบนมือของจงซานและกล่าวออกมาด้วยความประหลาดใจ.

"ดาบเจ้าดูร้ายกาจจริงๆ,เจ้าเองก็ร้ายกาจ,รูปร่างของดาบนี้จึงดูร้ายกาจไงล่ะ."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวเสริม.

"เชิญนั่งๆ,ข้าจะไปชงชาให้กับพวกเจ้า."จงซานกล่าว.

คนทั้งสามคนที่นั่งอยุ่บนโต๊ะศิลาที่ลานบ้าน,ถัดจากสระน้ำ.

"จงซานวันนี้เจ้าสุดยอดจริงๆเลย,ระดับสามเซียนเทียนล้มระดับสี่เซียนเทียนได้,ชายคนั้นถึงกับเป็นบ้าไปเลยหลังจากที่กลับไป."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าว.

"ใช่,ข้าได้ยินมาว่าชายคนนั้นเป็นอันดับสองของคนที่ดีที่สุดในระดับเซียนเทียนเลย,ไม่มีใครคิดเลยว่าเขาจะพ่ายแพ้เจ้า,เรื่องนี้นับว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในหลายปีนี้เลย."หนานป่าเทียนกล่าว.

"ใครบอกเจ้า,ศิษย์พี่ใหญ่เคยประลองกับคนที่มีระดับสูงกว่าเมื่อไม่นานมานี้,ในเวลานั้นข้าได้ยินมาว่าเขาสังหารคนที่มีระดับสูงกว่าด้วยไม่ใช่รึ?"เทียนหลิงเอ๋อกล่าว.

"เจ้าไม่ได้เห็นกลับตาสักหน่อย."หนานป่าเทียนที่แสดงท่าทางราวกับว่าเขาไม่อยากเชื่อนัก.

"ข้าเชื่อว่ามันต้องเป็นจริงแน่นอน,พี่ใหญ่ไม่เคยหลอกข้า."เทียนหลิงเอ๋อที่โต้เถียง.

เฝ้าดูการโต้เถียงของทั้งคู่,จงซานที่ไม่ได้สนใจจะห้ามนัก,ความจริงการจะล้มใครที่มีระดับสูงกว่าใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้,กลับคนหนึ่งที่ตะเกียกกายเพื่อเอาชีวิตจากความเป็นความตายนั้น,สามารถที่จะทำได้ทุกอย่างเพื่อล่อหลอกให้ตัวเองเอาชีวิตรอดหรือสังหารศัตรูได้,อย่างไรก็ตาม,จงซานรู้สึกดีใจที่ได้ทั้งสองคนเป็นสหายที่วางใจ,ทั้งคู่นั้นมีระดับสูงกว่าจงซานมากทว่ากลับยังมีอายุเป็นเพียงผู้เยาว์,ในสายตาของจงซานนั้น,ทั้งคู่ยังไร้เดียวสาเป็นเหมือนกับน้องชายและน้องสาวของเขาเท่านั้น.

"ท่านประมุขบอกว่าอีกสิบห้าวันให้ข้าไปพบ,มีภารกิจอะไรอย่างงั้นรึ?"ทันใดนั้นเขาก็นึกถึงคำพูดของเทียนซวินจื่อที่กล่าวต่อเขาที่ลานฝีกได้.

"เอ๋,เจ้ายังไม่รู้อย่างงั้นรึ?พวกเราจะออกไปด้านนอก,ออกไปหาประสบการณ์ในโลกด้านนอกไงล่ะ."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยความตื่นเต้น.

"หาประสบการณ์อย่างงั้นรึ?"จงซานที่ขมวดคิ้วไปมา.

"ใช่แล้ว,พวกเราจะออกไปหาประสบการณ์กัน,ก่อนหน้านี้เตี่ยเป็นคนพาข้าไป,เขาไม่ยอมปล่อยให้ข้าออกห่างเลยและก็กลับมาในที่สุด,ครั้งนี้,ข้าจะออกไปด้วยตัวข้าเองและไม่ต้องฟังคำสั่งเตี่ยแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางน่ารัก.

"มีใครต้องไปบ้าง?ข้าต้องไปด้วยอย่างงั้นรึ?"จงซานยังคงขมวดคิ้ว.

จงซานไม่ต้องการที่จะออกไปด้านนอกเลย,เขารู้ดีว่าด้านนอกนั้นมีพลังวิญญาณเบาบางไม่สามารถเทียบกับภายในสำนักไคหยางได้เลย,นอกจากนี้,เขายังพบถ้ำผลไม้สวรรค์,ทำให้พัฒนาการของเขารวดเร็วกว่าอยู่โลกภายนอกอีกมากมายนัก.

"เจ้าไม่ต้องไปก็ได้,ขึ้นอยู่กับความสมัครใจ,ทว่า,ก็มีคนไม่น้อยเลยที่ต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลานานหลายปีต้องการไป,เช่นข้าไง,ข้าอยากจะออกไปท่องเที่ยวบ้างสักระยะหนึ่ง,นอกจากนี้ยังมีอีกหลายคนเหมือนกันที่ต้องการกลับไปเยี่ยมเยือนครอบครับพวกเขาเช่นกัน."เทียนหลิงเอ๋ออธิบาย.

"อืม."จงซานพยักหน้า.

ไม่ว่าอย่างไร,จงซานก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ออกไป.

"หลิงเอ๋อ,ป่าเทียน,พวกเจ้าอยู่ที่นี่เองเหรอ?"เสียงๆหนึ่งที่คุ้นเคยดังออกมาจากด้านนอก.

เสียงของท่านประมุข,เทียนซวินจื่อนั่นเอง.

"เตี่ย?ทำไมท่านมาอยู่ที่นี่ล่ะ?"ทันใดนั้นเทียนหลิงเอ๋อที่หันจ้องมองออกไปยังต้นเสียง.

เทียนซวินจื่อที่เหินลงมาจากฟ้าและมาอยู่ด้านหน้าจงซานที่นั่งอยู่บนโต๊ะศิลา.

จงซานลุกขึ้นอย่างรวดเร็วและยกมือคารวะเทียนซวินจื่อ."คารวะท่านประมุข."

"เทียนโป๋ว."หนานป่าเทียนเองก็ลุกขึ้นทักทาย.
[, bó] older brother; father's elder brother; sir, sire, count ท่านลุง.

"อืม."เทียนซวินจื่อพยักหน้าก่อนที่จะนั่งลงบนโต๊ะศิลา.

เทียนซวินจื่อที่จ้องมองไปยังจงซาน,"จงซาน,ตามสบาย,ข้าไม่คิดเลยว่าด้วยพรสวรรค์ที่อ่อนด้อยของเจ้า,จะสามารถพัฒนาได้มากมายขนาดนี้เพียงแค่ปีเดียว,เจ้าคงจะฝึกฝนอย่างหนัก."

"ใช่แล้ว,เตี่ย,ท่านไม่รู้,จงซานนะฝึกฝนโดยเข้าไปฝึกในเตาอบเลย,จากนั้นเขาก็ยังเดินทางเข้าไปในป่าต่อสู้กับสัตว์อสูรไม่หยุด,ทำให้พัฒนาการของเขารวดเร็วขนาดนี้."เทียนหลิงเอ๋อที่ชิงตอบแทนในทันที.

เห็นเตาอบที่ด้านหลังของเทียนหลิงเอ๋อและหนานป่าเทียน,เทียนซวินจื่อก็ยิ้มออกมาเล็กน้อย.

"เจ้าและป่าเทียนไปอยู่ตรงโน้นก่อน,ข้ามีเรื่องที่จะพูดกับจงซาน."เทียนซวินจื่อกล่าว.

"ทำไมล่ะ,ข้าฟังด้วยไม่ได้เหรอ?"เทียนหลิงเอ๋อที่เบ้ปากและโต้แย้ง.

"มันเป็นเรื่องสำคัญมาก."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

"ก็ได้."เทียนหลิงเอ๋อที่พยักหน้าหยุดโต้เถียง,นางที่เดินไปข้างๆหนานป่าเทียน.

เทียนซวินจื่อที่เรียกเมฆออกมา,เพียงแค่สะบัดมือออกไปอย่างนุ่มนวลพร้อมกับปกคลุมล้อมรอบทั้งคู่ที่อยู่ห่างออกไปราวๆห้าเมตร,แยกพวกเขาไม่ให้สามารถได้ยินเสียงได้.

จงซานไม่มั่นใจว่าเทียนซวินจื่อมาหาเขานั้นมีวัตถุประสงอะไรเช่นกัน.

"จงซาน."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจับจ้องมองไปยังจงซาน.

"ศิษย์อยู่นี่แล้ว."จงซานที่พยักหน้ารับคำ.

"เฮ้เฮ้,เจ้าไม่ต้องกังวลไป,ข้ารู้สึกประหลาดใจจริงๆ,ด้วยความสามารถของเจ้า,เจ้านับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากภายในปีเดียว,ข้ารู้ดีว่าเจ้าเป็นคนมีน้ำใจและไม่เคยกลัวความลำบาก,เจ้าที่ใช้เม็ดยาโพวจวินเพื่อเลื่อนระดับเมื่อตอนอายุแปดสิบปี,ไม่ว่าอย่างไรกับสิ่งที่เจ้ามีอยู่,ข้าเชื่อ ว่ามันลึกล้ำไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนกับเทียนหลิงเอ๋อและคนอื่นๆ,เจ้ามีปัญญาและยังรู้จักวิธีฝึกฝนหนัก."เทียนซวินจื่อกล่าว.

จงซานไม่ได้กล่าวอะไร,เขายังคงพยายามคาดเดาเจตนาที่ซ่อนอยู่ของเทียนซวินจื่ออยู่,รอคอยให้เขากล่าวสรุปออกมา.

"ดังนั้น,ครั้งนี้,ข้าต้องการขอให้เจ้าช่วยข้าบ้างเรื่อง"หลังจากเทียนซวินจื่อกล่าวจบ,เขาก็จ้องมองไปยังจงซาน.

จงซนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำพูดของเทียนซวินจื่อ,ทว่าเขาไม่สามารถคาดเดาได้จริงๆ,ก่อนที่จะหันหน้าไปยังเทียนซวินจื่อ,"ขอให้อาจารย์กล่าวมาได้เลย."

เทียนซวินจื่อเผยยิ้มออกมา,พึงพอใจกับท่าทางของจงซานอยู่เหมือนกัน.

"พวกเขาคงจะบอกกับเจ้าแล้วว่าอีกไม่กี่วัน,หลิงเอ๋อและป่าเทียนนั้นจะออกไปด้านนอก.พวกเราไม่เป็นกังวลกับป่าเทียนนัก,เขาเป็นผู้ชายและยังมีอาวุธพิเศษจากพวกเราเพื่อช่วยชีวิตตัวเองในเวลาวิกฤติ,เขาย่อมเอาตัวรอดภายในโลกปุถุชนได้.ส่วนหลิงเอ๋อนั้น,ข้าเป็นกังวลเป็นอย่างมาก,ดังนั้น,ข้าหวังว่าเจ้าจะไปกับนาง,เพื่อที่จะดูแลหลังให้กับนางหลังจากนี้สักหนึ่งปี."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม.

"ไปกับนางอย่างงั้นรึ?"จงซานขมวดคิ้ว.

"ป่าเทียนเองก็นั้นก็จะเดินทางไปยังเส้นทางของตัวเอง,ส่วนหลิงเอ๋อนั้นนางไร้เดียงสาเป็นอย่างมาก,นางและเจ้าเป็นสหายกัน,หากว่านางเดินทางไปกับเจ้า,เช่นนั้นข้ามั่นใจว่านางจะต้องปลอดภัย,ตราบเท่าที่เจ้าสามารถนำนางกลับมาอย่างปลอดภัยหลังจากนี้หนึ่งปี,ข้าจะเป็นคนชี้แนะการฝึกฝนให้กับเจ้าด้วยตัวเอง."เทียนซวินจื่อที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง.

ดวงตาของจงซานถึงกับเป็นประกายหลังจากได้ยินว่าเทียนซวินจื่อจะชี้แนะการฝึกให้กับเขาด้วยตัวเอง? แน่นอนว่ามั่นย่อมยอดเยี่ยมกว่าเขาฝึกฝนด้วยตัวเองอย่างแน่นอน.

"ด้วยการชี้แนะของข้า,เจ้าย่อมมีพัฒนาการที่รวดเร็วยิ่งกว่านี้แน่นอน,ตราบเท่าที่เจ้าก้าวไปถึงระดับแกนทอง,ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์หลัก,เป็นอย่างไร?"เทียนซวินจื่อที่เผยยิ้มออกมาเล็กน้อย.

การสัญญาเช่นนี้ไม่มีอะไรเสียสำหรับเทียนซวินจื่อ,หากว่าจงซานสามารถทะลวงไปยังขั้นแกนทองด้วยพรสวรรค์เช่นนี้,เช่นนั้นก็ไม่มีเหตุผลใดที่จะไม่รับเขาเป็นศิษย์หลัก,อีกอย่างหากเขาไม่สามารถก้าวไปถึงขั้นแกนทองได้,เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องรักษาสัญญา,เขาจำเป็นเพียงแค่ชี้แนะการฝึกของจงซานสักครั้งสองครั้งชั่วคราวเท่านั้นก็พอ.

อย่างไรก็ตาม,คำสัญญาเช่นนี้กลับยั่วยวนความต้องการของจงซานเป็นอย่างมาก.

หากว่าเขามีอาจารย์หลักคอยชี้แนะ,เขาย่อมประสบความสำเร็จเร็วกว่าปรกติ,และสามารถหลีกเลี่ยงความผิดพลาดต่างๆได้มากด้วย.

หนึ่งปี,แค่เพียงหนึ่งปีเท่านั้น,มันคุ้มค่าอย่างแน่นอน.

"ตกลง,ศิษย์ยินดี."จงซานที่ตอบรับในทันที.

"เช่นนั้น,ข้าก็เบาใจ,ข้าเชื่อใจเจ้า."เทียนซวินจื่อยืนขึ้น,พร้อมกับตบไปที่ไหล่ของจงซานและหัวเราะออกมา.

เขาที่โบกมือเบาๆทำให้เมฆสีขาวหายไปทั้งหมด.

"เอาล่ะ,พวกเจ้าพูดคุยกันต่อไปเถอะ,ข้าไม่รบกวนแล้ว."เทียนซวินจื่อที่เผยยิ้มให้กับพวกเขาทั้งสองก่อนที่จะกระโดดขึ้นเมฆและลอยหายไป.

"จงซาน,เตี่ยข้าพูดอะไรกับเจ้าอย่างงั้นรึ?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถามออกมาทันที.


"เขาต้องการให้ข้าเดินทางไปกับเจ้า."จงซานที่สายหน้าไปมาและกล่าวสรุป.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น