วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 16 Xiantian Second Layer

Immortality Chapter 16 Xiantian Second Layer

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 16 ระดับสองเซียนเทียน


บทที่ 16 ระดับสองเซียนเทียน



จงซานทำความสะอาดเสื้อผ้าในน้ำพุร้อน,และชำระร่างกายของเขา,เขาพบว่าหินรอบๆนี้เหมาะที่จะตากเสื้อผ้าของเขาซึ่งทำให้มันแห้งเร็วกว่าปกติ.


หินรอบๆพื้นที่รอบๆนี้แผ่ความร้อนออกมา,อีกอย่างอากาศรอบๆนี้ยังเป็นอากาศแห้ง,ไม่มีความชื้นเลยแม้แต่น้อย.

ขณะที่เขาอยู่ในน้ำร้อนนั้น,จงซานสามารถสัมผัสได้ถึงแหล่งพลังความร้อนที่ไม่สิ้นสุดแผ่ซึมเข้ามาภายในร่างกายของเขา,ทันใดนั้นก็ได้กระตุ้นเขาให้อยากรู้ทำให้เขาดำลงไปยังด้านล่างของน้ำพุร้อนว่าจะมีอุณหภูมิสูงขนาดใหน.

สำหรับคนที่ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนได้นั้น,สามารถใช้พลังภายในทดแทนการหายใจได้,เช่นนั้นทำให้หายใจอยู่ในน้ำได้,นอกจากนี้,จงซานยังมีเคล็ดวิชาหายใจเต่า,ทำให้เขาง่ายที่จะอาศัยอยู่ในน้ำได้สะดวกมากกว่าคนอื่นๆอีก.

เขาที่ว่ายน้ำช้าๆดำลงไปในน้ำพุร้อนและเคลื่อนที่ตรงไปยังด้านล่าง,ดำลึกลงไปเรื่อยๆ,จงซานก็พบเข้ากับพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง,เขาพบเจอกับฟองน้ำเล็กๆมากมายที่ผุดขึ้นจากด้านล่างนั้น.

จงซานยังคงดำลึกลงไปเรื่อยๆ,จนกระทั้งเข้าสัมผัสได้ว่าพื้นที่ตรงนี้เทียบได้กับน้ำเดือน 100 องศาเซลเซียสเลย.

อย่างไรก็ตามจงซานที่ก้าวถึงระดับเซียนเทียน,อีกอย่างหนึ่งยังคุ้นเคยในการฝึกฝนอยู่ในเตาอบ,แน่นอนว่าย่อมไม่เป็นปัญหาต่อเขา,ตอนนี้ยังคงดำลงไปอีก,เขาที่สัมผัสได้ว่าอุณหภูมิของมันเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆเช่นกัน.

ด้วยพลังปราณพลังความร้อน,ที่กำลังแทรกซึมเข้ามาในร่างกาย,สามารถที่จะเผาไหม้สิ่งของทั่วไปได้เลย,แม้ว่าผิวบางส่วนของเขาจะถูกไหม้ไปเหมือนกัน,ทว่าจงซานก็ตัดสินใจที่จะดำลึกลงไปอีก.

ร่างกายของจงซานตอนนี้เริ่มรู้สึกเริงร่า,เขาพบว่าตอนนี้อุณหภูมิดังกล่าวนั้นสูงยิ่งกว่าในเตาอบของเขาซะอีก,ตอนนี้เขาสามารถที่จะทะลวงเพลงดาบสวรรค์กายสุริยันไปยังระดับที่สองได้แล้ว.

ขณะที่เขาดำลึกลงไปในสระด้านล่าง,พลังงานจิตวิญญาณธาตุเปลวเพลิงที่ถูกดูดซับเข้าผ่านเข้ามาทางผิวหนัง,ทุกรูขุมขนของเขาในเวลานี้เปิดเต็มที,ดูซับพลังดังกล่าวไม่หยุดหย่อน,หากว่าเป็นเช่นนี้อีกไม่นานจะต้องเลื่อนระดับอย่างแน่นอน.

จงซานที่คิดกับตัวเอง,คงจะดีหากว่าเจอห้องสักห้องที่นี่,เขาคงไม่สะดวกนักหากว่าฝึกฝนในสภาพเช่นนี้.

ขณะที่กำลังทอดถอนใจอยู่นั้น,ทันใดนั้นก็สังเกตเห็นว่าลึกลงไปข่างล่างนั้นมีถ้ำแห่งหนึ่งอยู่,อีกอย่างเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ส่องประกายแสงสีแดงส่องประกายวับวาวออกมาจากถ้ำ.

จงซานเร่งรีบดำลึกลงไปในทันที,ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่,จงซ่านยิ่งเห็นแสงสีแดงมาขึ้นเท่านั้น.

จงซานที่จับจ้องมองไปยังแสงสีแดง,พร้อมกับเคลื่อนที่เข้าไปใกล้.ถ้ำแห่งนี้เป็นไปได้ว่าอาจจะมีใครได้ทำการสร้างมันขึ้นมาก็ได้.

จงซานที่ดำลงไปยังถ้ำดังกล่าวอย่างระมัดระวัง,ยิ่งเข้าไปใกล้เท่าไหร่พลังงานความร้อนก็ยิ่งมากยิ่งขึ้นเท่านั้น,จงซานมีความสุขกับพลังงานความร้อนเป็นอย่างมาก.

จงซานที่รู้สึกตื่นเต้นกับสภาพพื้นที่ดังกล่าว,ไม่ต่างจากสวรรค์เลย,ถ้ำแห่งนี้เป็นดินแดนที่สมบูรณ์แบบเลยไม่ใช่รึ?

เขาที่ดำน้ำตรงลงไปเข้าไปในถ้ำดังกล่าว,ตามประกายแสงสีแดงไป,มีทางเดินเข้าไปข้างใน,ภายในถ้ำแห่งนี้มีประกายแสงสีแดงที่อาบไปทั่วห้อง,และยังมีทางเดินขึ้นไปด้านบน,มีสิ่งใดอยู่นั่นกัน?

จงซานที่ว่ายนำตรงไปยังทิศทางดังกล่าว,หลังจากผ่านไปชั่วขณะก็มาปรากฏขึ้นพื้นที่แห่งหนึ่งบนผิวน้ำ.

"เอ๊ะ!"

จงซานที่โผล่หัวขึ้นไปบนผิวน้ำ.

เป็นถ้ำใต้น้ำพื้นที่รอบๆนี้ถูกปกคลุมไปด้วยประกายแสงสีแดง,โดยสามารถมองเห็นตั้งแต่ทางเข้า,จนเขาเข้ามาถึงตอนนี้,ในอีกฟากหนึ่งของถ้ำ,เป็นพื้นที่ที่ต่างออกไป,จงซานที่ค่อยปีนขึ้นไปบนถ้ำใต้น้ำ.

มีพืชเกิดขึ้นอยู่ด้านบน,เป็นเห็นแง่งสีดำทมิฬ,ใบสีม่วง,และยังมีผลไม้สีแดงเท่ากับกำปั้น.

แน่นอนว่ากิ่งกานของมันเป็นสีดำ,ใบคู่สีม่วง,และออกผลสีแดงแล้วเท่ากับกำปั้น.

ผลไม้สีแดงนั่นเป็นแหล่งพลังงานแสง,มันส่องประกายแสงสีแดงส่องออกไปถึงข้างนอก,และยังแผ่ความร้อนออกมาด้วย,จงซานรับรู้ได้ทันทีว่ามันสามารถแผ่พลังงานความร้อนเป็นอย่างมากออกมา,ไม่สงสัยเลยว่าพื้นที่รอบๆนี้จะมีพลังงานความร้อนมากมายขนาดนี้.

จงซานที่พยายามกลืนน้ำลายลงคอ,เขารู้ว่าเขาได้พบเข้ากับสมบัติล้ำค่าแล้ว,แต่เขาไม่รู้ว่ามันคือผลอะไร,ได้แต่แค่มอง,ก็บอกได้แล้วว่ามันเป็นสิ่งของหายาก.

เก็บผลไม้ดังกล่าวมา?จงซานย่อมไม่กล้าที่จะทำเช่นนั้นแน่.นำมันมากิน?เขายิ่งไม่มีกล้าไปใหญ่.

มันได้แผ่พลังงานความร้อนมหาศาลออกมารอบๆถ้ำ,เป็นพลังธาตุหยางที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก.

จงซานนั่งสมาธิบนพื้นแห่งหนึ่งพร้อมกับเริ่มฝึกฝนวิชาดาบสวรรค์กายสุริยันทันที,หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง,เขาพบว่าความก้าวหน้าของเขานั้นมากกว่าเดิมสิบเท่ากับการที่เขาฝึกฝนในเตาอบ,ที่แห่งนี้นับว่าเป็นพื้นที่ที่ยอดเยี่ยมมาก,เขาตัดสินใจที่จะฝึกฝนในถ้ำแห่งนี้ในทันที.

จงซานที่กระโดดลงน้ำต่อ,ดำน้ำออกไปจากทางเดิมไปโผล่ที่สระน้ำพุร้อน.

พร้อมกันนี้ก็เก็บของทั้งหมดเสื้อผ้า,รองเท้าขับวายุ,ดาบ,และอาหารที่มี,ก่อนที่จะดำน้ำกลับไปยังถ้ำใต้ใน,สถานที่ฝึกฝนชั้นเยี่ยมที่เขาเจอ.

จงซานที่ตั้งชื่อให้มันเองว่า,"ถ้ำผลไม้เพลิงสวรรค์."เขาได้ขยับหินขนาดใหญ่ยักษ์เพื่อปิดปากถ้ำเอาไว้เพื่อป้องกันไม่ให้แสงของมันส่องประกายออกไปด้วยนอก.

จากนั้น,เก็บตัวฝึกฝนอยู่ด้านใน,เมื่อหิวก็กินอาหารแห้งที่เตรียมมาก,และหยุดดื่มน้ำบ้างเป็นระยะ.

ประกายแสงสีแดงที่ส่องประกายออกมาจากผลไม้นั่น,เป็นพลังธาตุไฟที่บริสุทธ์ไม่มีแสงอื่นๆผสม,จงซานไม่คาดคิดเลยว่ากลิ่นอายที่มันส่องออกมานั้นจะหนาแน่นเช่นนี้,เขารู้สึกซาบซึ้งขอบคุณสถานที่แห่งนี้เป็นอย่างมาก.

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น.

"อ๊ากกๆๆ"

จงซานที่คำรามออกมา,พร้อมกับต่อยออกไปด้านหน้า,แต่ละหมัดนั้นปกคลุมไปด้วยประกายแสงสีแดง,เป็นพลังที่ส่องประกายแสงสว่างจ้า.

ระดับ 2 เซียนเทียน.

ท้ายที่สุด,หลังจากผ่านสองเดือน,เขาก็สามารถก้าวไปถึงระดับสองได้แล้ว.

จงซานรู้สึกพึงพอใจกับความก้าวหน้าของตัวเองเป็นอย่างมาก,ทว่า,เมื่อไหร่ที่เขาคิดถึงเรื่องของไท่จู่เหล่ยเทียน,เขาก็ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที,ไท่จู่เหล่ยเทียนนั้นน่าจะก้าวไปถึงระดับก่อตั้งวิญญาณไปนานแล้ว? เขาตอนนี้จะต้องฝึกฝนให้มากยิ่งกว่าเดิมอีกหลายเท่าเพื่อที่จะไล่ตามเขา.

ตอนนี้อาหารที่เขาเตรียมมาได้หมดลงแล้ว,ถึงเวลาที่ต้องไปหามาเพิ่มแล้ว.

จงซานมาออกจากถ้ำใต้น้ำ,ก่อนที่จะเคลื่อนหินยักษ์ออกมา,พร้อมกับว่ายน้ำตรงขึ้นไปบนผิวน้ำ.

เมื่อขึ้นจากบ่อน้ำร้อน,เขาใช้ปราณแท้ทำให้ชุดของเขาแห้ง,ดาบสะพายหลัง,ก่อนที่จะเดินตรงกลับไปยังเส้นทางที่เขาจากมาเมื่อเดือนที่แล้ว.

ระหว่างทางกลับนั้น,เขาที่พบเข้ากับสัตว์อสูรอยู่เหมือนกัน,ทว่าเขาจะหลีกเลี่ยงเหล่าสัตว์อสูรที่แข็งแกร่ง,โดยตอนนี้ได้เล็งไปยังแมวภูเขา,ที่เขาสามารถกำราบได้ไม่อยากเย็น,โดยครั้งนี้เขาจะไม่ใช้วิชาหงหลวนและวิชากายาเทพอสูรในการล้มแมวภูเขา,ซึ่งก็เป็นไปอย่างราบรื่น,เห็นได้ชัดเจนว่าเขาแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก.

สี่เดือน,ด้วยเวลาสี่เดือน,ท้ายที่สุดจงซานก็สามารถก้าวไปยังระดับ 2 เซียนเทียน.

ในเย็นวันนั้น,เขาได้นำร่างของแมวภูเขากลับมายังลานบ้านของเขา.
 บนลานบ้านของเขานั้นได้ทำการแขวนยาเม็ดขนาดเล็ก,ติ่งสุ่ยเซี่ยเอาไว้.

หลังจากที่เขาวางร่างของแมวภูเขาลง,เขาก็ทำการตรวจสอบแปลงข้าวและผักของเขา,ซึ่งตอนนี้มันสามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว.

จงซานที่ใช้เวลาทั้งวันในการเก็บเกี่ยวข้าวและผักเพื่อนำมาใช้เป็นอาหารสำรองในการฝึก.

ห้าวันหลังจากนั้น,เขาก็ทำการหว่านเมล็ดข้าวและผักอีกครั้ง,ตอนนี้เขาพร้อมที่จะกลับไปยังถ้ำผลไม้เพลิงสวรรค์นั้น,หลังจากทำการจัดเตรียมเสบียงอาหารเสร็จ.

"จงซาน,เจ้ากลับมาแล้วรึ?พวกเราไม่สามารถหาเจ้าเจอมาหลายวันแล้ว?"มีเสียงที่เจื้อยแจ้วของเทียนหลิงเอ๋อดังเข้ามา.

"เจ้าเก็บผักไปหมดแล้วรึ?ข้าว่าจะมาเก็บไปกินสักหน่อย."เสียงของหนานป่าเทียนกล่าวออกมาด้วยเช่นกัน.

จงซาน,ขมวดคิ้ว,เขาที่ได้ทำเป็นอาหารแห้งทั้งหมด,และเตรียมออกจากบ้านแล้ว.

"หลิงเอ๋อ,ป่าเทียน."จงซานที่ออกมาทักทายพวกเขา.

"หลายวันมานี้เจ้าไปใหนมากัน?"เทียนหลิงเอ๋อที่สอบถาม.

"ข้าไปต่อสู้ฝึกฝนกับสัตว์อสูรบนภูเขาเพื่อฝึกวิชามานะ,"จงซานที่กล่าวตอบ.

"ไม่แปลกใจเลยว่าไม่สามารถเห็นเจ้าทุกครั้งที่พวกเรามาหา,ข้าตอนนี้อยู่ในระดับเก้าเซียนเทียนแล้วนะ,เป็นศิษลำดับสามของรุ่นที่สามแล้ว."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาด้วยรอยยิ้ม.

"เฮ้,หนึ่งเดือนมานี้เจ้าเลื่อนระดับแล้วเหรอ?"หนานป่าเทียนที่จ้องมองไปยังจงซาน.

"ตอนนี้ข้าอยู่ระดับสองแล้ว."จงซานที่กล่าวออกมาโดยตรง.

"ยอดเยี่ยมเลย,ไว้ข้ารอเจ้าก้าวไปถึงระดับหก,พวกเรามาสู้กันอีกครั้งแล้วกัน,คราวนี้ข้าจะได้ไม่ออมมือให้เจ้าแล้ว."หนานป่าเทียนที่หัวเราะออกมา.

"ขอบคุณ."จงซานกล่าวออกมาอย่างจริงใจ.

"อย่างไรก็ตาม,จงซาน,ถึงเจ้าจะฝึกฝนอย่างหนักก็ตาม,ข้าได้ยินเตี่ยกล่าวว่าในรุ่นเจ้ามีคนก้าวไปถึงระดับสามแล้วนะ."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมา.

"ระดับสามอย่างงั้นรึ?"จงซานขมวดคิ้ว,ใครกันถึงได้ร้ายกาจและรวดเร็วขนาดนั้น.

"อืม,ไม่ธรรมดาเลย,ทว่าระดับหนึ่งถึงห้าเซียนนั้นนั้นง่ายที่จะก้าวผ่าน,ที่จริงข้าก็มีความสามารถกว่าอีกข้านะสามารพก้าวไปถึงระดับสามได้เพียงแค่สองเดือน,เทียบได้กับศิษย์พี่ใหญ่เลย."เทียนหลิงเอ๋อกล่าวออกมาอย่างภาคภูมิ.

"ศิษย์พี่ใหญ่?"จงซานขมวดคิ้วจ้องมองไปยังเทียนหลิงเอ๋อ.

"ใช่แล้ว,ศิษย์พี่ใหญ่,เขามีความฉลาดมาก,สามารถก้าวไปถึงระดับหกเซียนเทียนเพียงแค่ปีแรกหลังจากที่เขาเข้ามาในสำนักไคหยาง,นับว่าเป็นอัจฉริยะเลยก็ว่าได้,เขาใช้เวลาเพียงสามปีก็สามารถก้าวไปถึงระดับสิบ,และอีกสองปีก็สามารถทะลวงไปยังระดับแกนทอง,เตี่ยของข้านั้นให้เขาเป็นศิษย์เอก,ตอนนี้เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในระดับแกนทอง."เทียนหลิงเอ๋อที่กล่าวออกมาอย่างภูมิใจเล่ารายระเอียดเกี่ยวกับศิษย์พี่ใหญ่ของนางจนเกือบหมด.

"ไม่ๆ,ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว.เป่ยชิงซือของภูเขาเสี๋ยจู๋ ต่างหากที่มีความเร็วที่สุด,แม้ว่านางจะเข้ามาในสำนักไคหยางน้อยกับศิษพี่ใหญ่ห้าสิบปี,ความเร็วของนางนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าศิษย์พี่ใหญ่เลย,บางทีนางอาจจะสามารถก้าวไปถึงระดับวิญญาณก่อตั้งก่อนศิษย์พี่ใหญ่ก็ได้."หนานป่าเทียนกล่าว.

เทียนหลิงเอ๋อที่โต้แย้ง."ศิษย์พี่ชิงซือนั้นนับว่าแข็งแกร่ง,ทว่าศิษย์พี่ใหญ่ต้องแข็งแกร่งกว่านางแน่นอน."

"บางทีนะ."หนานป่าเทียนที่ไม่อยากจะโต้แย้ง.

"พวกเจ้ารอที่นี่ก่อน,ข้าไปเจอชาชั้นดีที่ในภูเขา,รสชาติดีมาก,ข้าจะชงมาให้พวกเจ้า."จงซานกล่าว.

ฟังทั้งคู่โต้เถียงกันด้วยเรื่องไร้สาระ,ทำให้จงซานหัวเราะออกมาได้เช่นกัน,บางทีอาจจะเพราะเขาเป็นคนที่มีอายุมากแล้วก็ได้.

จงซานที่ยกน้ำชาออกมายังหน้าบ้าน,ซึ่งมีโต๊ะศิลาตั้งอยู่,ไม่ว่าอย่างไร,คนทั้งคู่ก็มีบุญคุณกับเขา,จงซานตัดสินใจที่จะหยุดพูดคุยกับพวกเขาทั้งคู่.

จากการพูดคุยของทั้งสองคน,จงซานรับรู้ว่าเป่ยชิงซือนั้นเป็นศิษย์หลักของผู้นำขุนเขาเสี๋ยจู๋,กู่ซ่างสื่อ,นางที่เป็นศิษย์ลำดับสามของรุ่นที่สอง,นางนับว่าเป็นอัจฉริยะอีกหนึ่งคนที่ได้ก้าวไปถึงระดับแกนทองอย่างรวดเร็ว.


ศิษย์พี่ใหญ่,ซึ่งมีนามว่า,เจอเทียนซา,เป็นศิษย์ลำดับหนึ่งของรุ่นที่สองที่ไปถึงระดับแกนทอง,เทียนหลิงเอ๋อนั้นชื่นชมศิษย์พี่ใหญ่คนนี้มาก,ดูเหมือนว่าจะยกย่องจนออกนอกหน้า,นางที่ชื่นชมเขา,ทว่าศิษย์พี่ใหญ่กับเห็นว่านางนั้นเป็นเหมือนเด็กหญิงตัวน้อย.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น