วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 245 Dangerous people to approach

Miracle Throne Chapter 245 Dangerous people to approach

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 245 ล้วงคองูเห่า


บทที่ 245 ล้วงคองูเห่า



หุบเขาในตอนนี้มีหมอกที่หนาแน่น,เป็นกลิ่นอายที่โถมกระหน่ำมายังพวกเขา,คิ้วของเฉินปิงยวีที่ขมวดไปมา,ดวงตาของนางส่องประกาย,ทันใดนั้นก็สามารถมองผ่านเข้าไปในหมอกหนา,อย่างไรก็ตามสัตว์อสูรเหล่านั้น,มองไม่เห็นได้ทั้งหมด.


อสูรแต่ละตนนั้นมีขนาดสามถึงสี่เมตรทีเดียว,จากขนาดแล้วน่าจะมีน้ำหนัก 300 จิน ถึง 500 จิน ,ร่างของมันที่ดำเงามีเกล็ดที่แข็งแกร่ง,ร่างกายท่อนล่างเป็นอสรพิษร้ายที่มีลำตัวยาวและปราดเปรียว,ส่วนหัวที่คล้ายกับอสูรพิษ,เลื้อยมาตามพื้นดินด้วยความเร็วสูง,ร่างกายท่อนบนของมันกับสามารถยกขึ้นสูงตั้งตรงได้,มีแขนทั้งหกข้าง,และมีกล้ามที่แหลมคมเหมือนกับขาคู่หน้าของแมงป่อง!

ยากที่จะบอกจำนวนที่แน่นอนได้.

อย่างน้อยที่สุดคงจะมี 2000! ตัว

พื้นที่ของหุบเขามังกรทมิฬนั้นไม่ได้ใหญ่โตนัก,มีเหล่าอสูรมากมายที่มารวมตัวกัน,นี่เป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างหนึ่งที่น่าพรั่นพรึง,เสียงคู่คำราม ฟู ฟู,ดวงตาที่แดงเถือกมากมายนับไม่ถ้วน,ส่องประกายแสงที่เย็นยะเยือบออกมา.

"อสูรแมงป่องอสรพิษ!"ใบหน้าของฉู่เทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย"นี่คือฝูงของสัตว์อสูรระดับ 1 ที่อันตรายไม่น้อย!"

ยังกล่าวไม่จบด้วยซ้ำ.

ทันใดนั้นพื้นดินรอบๆแยกออกเป็นสองส่วน,อสูรหลายตัวถูกสังหารไปในทันที,หางของมันที่ชูสูงขึ้น,พร้อมกับตวัดเข็มพิษออกมา,ปล่อยหมอกพิษกระจ่ายออกไปทั่วอากาศ.

ชิ!
 เฉินปิงยวีที่ถอนฝ่ามือออกมาพร้อมกับเหินขึ้นมาหลายฟุต,พลังน้ำแข็งที่ฟาดไปบนพื้นก่อนหน้าระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ,สัตว์อสูรระดับ 1 ระเบิดออกด้วยฝีมือของนาง!

ใครจะรู้ล่ะว่ามีอสูรแมงป่องอสรพิษหลายตนที่สามารถดำดินได้,และยังสามารถปล่อยหมอกพิษขึ้นมาจากพื้นดินอีกด้วย.

"ระวังตัวด้วย!"ฉู่เทียนที่ตระหนักได้ถึงอันตราย,"หลบหมอกนั่นให้พ้น."

สายเกินไป,เฉินปิงยวีถูกหมอกกระแทกเข้ามาระหว่างหน้าอกของนาง,ทำให้ร่างกายของนางถึงกับชาไปทั่วร่าง.

ไม่ดีแน่...หมอกดังกล่าวมีพิษ!

เฉินปิงยวีที่โกรธเกรี้ยวซัดฝ่ามือกระแทกไปยังแมงป่องอสรพิษสามตน,ตอนนี้นางที่รู้สึกมึนงง,ทั่วทั้งร่างรู้สึกอ่อนแอ,เห็นได้ชัดเจนว่าหมอกเหล่านั้นมีพิษ,กำลังแผ่เข้าสู่ร่างกายของนางแล้ว.

เป็นเพียงแค่สัตว์อสูรระดับ 1 เท่านั้นคาดไม่ถึงเลยว่าพิษของมันจะร้ายแรงขนาดนี้,แม้แต่เฉินปิงยวียังได้รับพิษ,หากไม่เพราะนางมีพลังฝึกตนที่สูงแล้วล่ะก็,เกรงว่าแม้แต่ยืนคงจะไม่ไหวเป็นแน่,เมื่อเฉินปิงยวีได้ยินเสียงฉู่เทียนที่ร้องเตือนออกมา,นางที่ต้องการที่จะหลีกหนีออกมาโดยไม่ลังเล,ใครจะรู้ในในเวลานั้น.

คลืนนนน!

ผืนแผ่นดินที่แตกออกมา.

หางของเหล่าสัตว์อสูรที่ตวัดยิงเหล็กไนพิษมาจากทุกทิศทุกทาง,ไม่เพียงแต่รวดเร็วและรุนแรงเท่านั้น,ซ้ำยังมีตัวที่มีหางสีทองเข้ม,ปล่อยเหล็กไนโจมตีมาด้านหลังของเฉินปิงยวีด้วยความเร็วเป็นอย่างมาก.

การลอบโจมตีของสัตว์อสูรแมงป่องอสรพิษอย่างไม่คาดคิด,ด้วยเฉินปิงยวีที่ใช้พลังวิญญาณในการป้องกันพิษเอาไว้อยู่แล้ว,ทำให้ร่างกายของนางนั้นมีพลังป้องกันที่ไม่สูงนัก,ทำให้ถูกเหล็กไนของมันทะลวงเข้าที่ด้านหลัง,กลายเป็นภาวะวิกฤติไปแล้ว

มาได้เท่านี้เองรึ?

"เจ้าไม่ต้องสนใจข้า"ด้วยหมอกพิษที่คลุมไปทุกทิศทุกทาง,เฉินปิงยวีพบว่าน่างคงไม่สามารถหนีไปได้แน่,"เจ้าหนีไปก่อน!"

"จิ้งจอกน้อย,ปกป้องข้า!"

จิ้งน้อยที่สามารถต้านพิษได้มากมาย,แม้แต่พิษของศพอสูรทมิฬยังไม่อยู่ในสายตาของมันเลย,แม้ว่าพิษของอสูรแมงป่องอสรพิษจะร้ายกาจ ทว่าเทียบกับอสูรศพทมิฬแล้วยังอ่อนด้อยกว่ามา,ดังนั้นจิ้งจอกน้อยที่ดูดหมอกเหล่านั้นเข้ามาในท้องทันที,เหล่าหมอกพิษที่คลุมร่างของเฉินปิงยวีถูกเจ้าตัวเล็กดูดไปจนหมด.

แมงป่องอสรพิษหางทองคำที่ลอบโจมตีเฉินปิงยวีนั้น,จะต้องเป็นราชาอสูรแมงป่องอสรพิษอย่างแน่นอน.

ราชาอสูรแมงป่องอสรพิษนั้นเป็นสัตว์อสูรระดับ 2 ,แน่นอนว่าพิษของมันนั้นไม่สามารถเอาสัตว์อสูรแมงป่องอสรพิษธรรมดาไปเทียบกับมันได้,ถึงจะเป็นเฉินปิงยวีที่มีพลังฝึกตนลึกล้ำ,ก็พลาดท่ามันได้ง่ายๆ,ด้วยพิษที่รุนแรงของพวกมัน,ทำให้นางพลาดท่านั่นเอง.

ตอนนี้คงต้องถอยไปตั้งหลักซะก่อน!

เพราะว่าหุบเขามังกรทมิฬนั้นมีอุโมงที่ถูกขุดเกิดขึ้นมากมาย,ทำให้สัตว์อสูรแมงป่องอสรพิษปรากฏตัวขึ้นมา,และยังเป็นสัตว์อสูรที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก,ด้วยความสามารถในการดำดินและปล่อยหมอกพิษออกมา,ซ้ำภูมิประเทศที่แคบๆไม่มีที่ระบาย,ทำให้เกิดเป็นหมอกพิษกระจายเต็มไปหมด.


ในเวลาเดียวกันนี้ก็มีเสียงโหยหวนดังผ่านออกมาเป็นระยะๆ.

"อ๊าก!"

"ช่วยข้าด้วย!"

เหล่าผู้คุ้มกันหลายคนที่นำฉู่เทียนมาก่อนหน้านี้หนีไม่พ้นพิษของแมงป่องอสรพิษที่กระจายไปทั่วหุบเขาอย่างรวดเร็ว,ถูกพิษที่แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วและซึมเข้าทางรูขุมขน,ทำให้กลายเป็นอมพาตขยับตัวไม่ได้ก่อนที่จะเหล่าสัตว์อสูรเขานั้นจะเข้าไปจัดการเหยื่อ.

พวกมันมีขาและก้าวที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กไหล,สามารถที่จะฉีกกระชากร่างมนุษย์ได้อย่างง่ายดาย,เพียงแค่เวลาไม่ถึงนาทีด้วยซ้ำ,ก่อนที่จะกินเหยื่อเข้าไป,อย่างโหดเหี้ยมทารุณ!

สุดท้ายแล้วเขาก็ได้เข้าใจว่าทำไมหุบเขามังกรทมิฬตอนนี้ถึงได้หยุดการผลิตไปอย่างลึกลับ.

กลุ่มสัตว์อสูรเหล่านี้มีจำนวนมากนัก,เป็นจำนวนที่ร้ายกาจยากที่จะต่อกร,เป็นภัยคุกคามที่ร้ายแรงเป็นอย่างมาก!

โชคดีที่พลังฝึกตนของฉู่เทียนไม่ได้อ่อนด้อย,ดังนั้นความเร็วในการหนีจึงได้รวดเร็วเป็นอย่างมาก,และด้วยทักษะกายานิรันดรทำให้หมอกพิษเหล่านั้นไม่สามารถที่จะซึมซับเข้ามาในรูขุมขนของเขาได้,และด้วยการจุดเนตรเพลิง,ทำให้สามารถมองเห็นภูมิประเทศที่มืดคลึ้มภายในได้อย่างละเอียดแม่นยำ,เขาสามารถที่จะหลีกหนีและซ่อนตัวจากเหล่าแมงป่องอสรพิษที่แอบซุ่มโจมตีได้,และยังมีจิ้งจอกน้อยช่วยเหลืออีกแรง,ทำให้การหนีของเขาออกมาจากหบุเขามังกรทมิฬราบรื่นทีเดียว.

เมื่อเขาจ้องมองกลับไปยังด้านหลังอีกครั้ง,ก็พบว่าทั่วทั้งหุบเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยหมอกสีดำไปเรียบร้อยแล้ว,และยังมีเสียงโหยหวนเจ็บปวดทรมานดังผ่านออกมาเป็นระยะ,คนเหล่านั้นคงไม่สามารถหนีออกมาได้ทัน,บางทีคงจะกลายเป็นอาหารอันโอชะของเจ้าแมงป่องอสรพิษเหล่านั้นกันหมดแล้ว.

น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก!

เกือบถูกสังหารไปแล้วซะอีก!

เจ้าอ้วนเดนตายนั่น,คิดที่จะสังหารบิดาผู้นี้อย่างงั้นรึ!

ฉู่เทียนนำเฉินปิงยวีที่หมดสติวางบนพื้นช้าๆ,ก่อนอื่นจะต้องตรวจสอบบาดแผลของนางก่อน.

ราชาแมงป่องอสรพิษลอบโจมตีนางด้านหลัง,ทว่าด้วยพลังวิญญาณของนางที่ลึกล้ำ,ดังนั้นบาดแผลจึงไม่ได้ลึกนัก,แต่ก็เกิดบาดแผลขึ้นเช่นกัน,ทว่าด้วยพิษของมันกับรุนแรง,นั่นก็หมายความว่าสิ่งสำคัญตอนนี้จะต้องถอนพิษก่อน

เพียงแค่พิษของแมงป่องอสรพิษทั่วไปก็รุนแรงมากพอแล้ว,ซ้ำเมื่อเป็นราชาแม่งป่องอสรพิษก็ยิ่งรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า,หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตทั่วไป,คงจะถูกสังหารไปในทันที,เฉินปิงยวีที่ใช้พลังวิญญาณของตัวเองนั้นต้านพิษเอาไว้ซึ่งสามารถต้านได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น หากว่าปล่อยไปแล้วล่ะก็,พิษจะต้องแพร่ไปทั่วร่างเป็นแน่,หากเป็นเช่นนั้นแล้วถึงจะเป็นฉู่เทียนที่มีความรู้มากมายก็จะไม่สามารถช่วยเหลือได้.

ตอนนี้ไม่สามารถที่จะช้าได้แม้แต่วินาทีเดียว!

เฉินปิงยวีที่ยังสลบไสลไม่ได้สติ,ชุดสีดำเข้ารูปรัดตรึงทรวดทรงที่ยั่วยวนนั่น,ยิ่งขุนเขาทั้งสองที่ตั้งตระหง่านชี้เด่ออกมา,ผิวที่ขาวเนียนราวกับหิมะ,เป็นหญิงสาวที่มากเสน่ห์ยิ่งนัก,หากใครคนอื่นที่เห็นนางหมดสติอยู่ตรงหน้าแล้วล่ะก็,คงจะทำให้คนอื่นๆมีความรู้สึกที่บ้าคลั่งไปแล้ว.

"ท่านจะตำหนิข้าไม่ได้นะ,ข้าต้องการที่จะช่วยท่าน!"

ฉู่เทียนที่ค่อยๆฉีกเสื้อตรงบริเวณอกของเฉินปิงยวีให้กว้างขึ้น,เผยให้เห็นผิวขาวสวยใสราวกับครีมไข่มุก,ฉู่เทียนถึงกับจ้องตาไม่กระพริบ,เฉินปิงหยีไม่ได้สวมชุดชั้นในที่เหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆ,ทว่ากับเป็นผ้ารัดที่พันหน้าอกของนางปกปิดความสมบูรณ์เอาไว้.

ความสูงชันที่ดีดเด้งออกมา,อดไม่ได้เลยที่จะรู้สึกผิดบาปเป็นอย่างมาก,กับเสน่ห์ยั่วยวนอย่างรุนแรงเช่นนี้.

ฉู่เทียนเองยังอดไม่ได้เลยที่จะเพ่งพิศร่างกายของนาง.

ผ้าพันอกของนางที่ปิดบังทรวดทรงที่แท้จริงของนาง,ทุกๆวันนางที่พันผ้าที่หน้าอกของตัวเองแน่น,ไม่กลัวเลยเหรอว่าจะหายใจไม่ออก?ผ้าพันหน้าอกที่รัดแน่น,ไม่คิดที่จะปล่อยให้มันอยู่สบายด้วยรึ?จริงๆแล้ว,นางไม่คิดที่จะสวมชุดชั้นในเหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆบางเลยเหรอ!

ฉู่เทียนที่ระงับตัวเองเอาไว้,มือของเขาที่ขยับไปมาอย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จะพบเหล็กไนสีเงินหลายอัน,ที่ทะลวงเข้ามาในร่างของนาง,ก่อนอื่นเขาจะต้องผนึกเส้นโลหิตของนางก่อนเพื่อป้องกันพิษกระจายทั่วร่าง,ก่อนที่จะใช้ ดัชนีเพชรตัดชีพจร!,ใช้พลังวิญญาณฉีดเข้าไปในร่างของนางเพื่อที่จะขับพิษออกมาจากเส้นโลหิต.

เฉินปิงยวีที่ฝึกฝนวิชาบำเพ็ญอย่างบ้าคลั่ง.

ทำให้ร่างกายของนางแข็งแกร่งและยืดหยุ่น,และก็....

พรึบ!

หลังจากที่ขับโลหิตพิษออกมาจากร่างกายของเฉินปิงยวี,คาดไม่ถึงเลยว่านางก็ฟื้นคืนสติลืมตาขึ้นมาในทันที,หน้าอกของนางที่เผยดีดออกมาตั้งตระหง่าน,ฝ่ามือของนางที่รวบรวมพลังวิญญาณโจมตีออกไปด้านหน้าทันที,เป็นปฏิกิริยาที่ตอบสนองไปด้วยร่างกายของนางเอง,ฝ่ามือที่ทรงพลังก็โจมตีไปข้างหน้าอย่างรุนแรง.

...บัดซบ!

ฉู่เทียนเร่งรีบใช้ทักษะกายานิรันดร์โอบแสงดารา,ก่อนที่จะถูกฝ่ามือของนางฟาดออกมา,ถูกกระแทกอย่างแรงไปจนถูกดีดไปกระแทกก้อนหินขนาดมหึมาด้านหลัง,ก่อนที่จะก้อนหินก้อนดังกล่าวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ.

เฉินปิงยวีที่ลุกขึ้นมาอย่างรวดเร็ว,ก่อนที่จะโซซัดโซเซไปมา,พร้อมกับเร่งรีบปิดหน้าอกของนางเอาไว้,ก่อนที่จะพบว่าเหล็กไนหลายแท่งด้านหน้า,เฉินปิงยวีที่เพ่งพิศอยู่ชั่วขณะ,ก่อนที่จะรู้สึกใจหายจ้องมองไปยังจิ้งจอกน้อย,และฉู่เทียนที่จมอยู่ในก้อนหิน.

เป็นฉู่เทียนเองรึ?

เขากำลังช่วยชีวิตข้า?

นางเพิ่งนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนหน้านางได้หมดสติไป,หลังจากที่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น,ใบหน้าของนางถึงกับร้อนผ่าว,ฉู่เทียนที่ถูกฝ่ามือของนางตอนนี้ยังไม่ขยับ,ฝ่ามือของนางที่ซัดไปที่เขา....

เฉินปิงยวีที่เห็นฉู่เทียนไม่ขยับ,คิ้วของนางที่ขยับไปมา,ใจหายเร่งรีบกล่าวออกไป"เจ้าเป็นอะไรหรือไม่!"

ไม่ใช่ว่านางได้สังหารเขาไปแล้วรึ!

ร่างที่อ่อนแรงของเฉินปิงยวีที่พยุงตัวเองเดินข้ามาหาฉู่เทียนทีนอนกองอยู่บนพื้น,ดวงตาทั้งสองข้างค่อยๆลืมขึ้นมา,ใบหน้าที่บวมปูด,จ้องมองไปยังเฉินปิงยวี,กำลังโอดโอย"คาดไม่ถึงเลยว่าจะทำร้ายข้า,ซ้ำยังโจมตีมาที่ใบหน้า,มันคือชีวิตของข้าเลยนะ!"

ยังไม่ตาย?นางที่รู้สึกเบาใจ!

เฉินปิงยวีที่กัดฟันแน่น,ไม่ต้องการเผยท่าทีอ่อนแอออกไป"เจ้ากล้าเอาเปรียบข้า!"

"ข้าเพียงต้องการถอนพิษให้ท่านเท่านั้น!"

"แต่ว่าเจ้าก็ยังแตะต้องร่างของข้า!"

"ขออภัย,ต้าเจี่ย,ข้าต้องการที่จะช่วยท่าน,ท่านเองก็หมดสติอยู่,กำลังอยู่ในภาวะวิกฤติ,ข้าไม่ได้คิดที่จะเอาเปรียบท่านซักหน่อย."

"ก็เจ้าเอาเปรียบข้า!"

ฉู่เทียนที่เป่าลมออกมาทีเดียว,เขาหาได้เอาเปรียบนางที่ใหนกัน!ผู้หญิงช่างเป็นตัวตนที่ไร้เหตุผลซะจริง.

"เอาล่ะ!"ฉู่เทียนที่ยกมือแสดงท่าทางยอมแพ้"ข้าล่วงเกินท่าน,ท่านคิดว่าข้าควรจะทำอย่างไรล่ะ?"

เฉินปิงยวีแค่นเสียงเบาๆ,"ไม่เคยมีชายใดที่กล้าแตะต้องข้าตั้งแต่เด็กจนโต,ถึงมันจะเป็นแค่อุบัติเหต,จะต้องถูกสังหารโดยไม่มียกเว้น!"

"เพ่ย,เจ้าต้องการที่จะสังหารฆ่าปิดปากรึอย่างไร?"

"ข้าไม่สังหารเจ้า."

"ทำไม?"ฉู่เทียนขบฟันเบาๆ"งั้นข้าต้องของคุณที่ท่านไม่สังหารด้วยหรือไม่?"

"ไม่จำเป็น,ข้าอภัยให้เจ้า!"

อภัยให้ข้ารึ?มารดาเจ้าเถอะมาอภัยให้ข้าอย่างงั้นรึ?

ฉู่เทียนกัดฟันเบาๆ"เป็นเกียรติต่อข้าจริงๆ!"

เฉินปิงยวีที่ตอบรับเบาๆ,นางที่ได้แต่เงียบและได้กล่าวว่าวาจาที่ไม่ดีต่อฉู่เทียนนัก,หากว่ามีใครรู้เรื่องนี้ล่ะก็,นางจะสามารถทนได้อย่างงั้นรึ!

ทุกคนต่างก็รู้ดี,เนื้อตัวของสตรีนั้นไม่สามารถให้แตะต้องได้.

อย่างไรก็ตาม,ร่างกายของนางจะให้บรุษมาแตะต้องได้อย่างไรล่ะ,เช่นนั้นการที่เขาถูกฟาดไปนั้นก็สมควรแล้ว.

แต่เขาสมควรที่จะถูกตบแล้วอย่างงั้นรึ?

เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจ!

เขาไม่ควรถูกฟาด,แต่จะให้เขาเอาเปรียบนางได้อย่างงั้นรึ?

"เอาล่ะ!ข้าได้ช่วยชีวิตเจ้าไว้,เจ้าก็ตอบแทนข้าด้วยหนึ่งฝ่ามือ,ถือว่าหายกันก็แล้วกัน!"

เฉินปิงยวีที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดเหน็บแนมอยู่,ได้แต่พยักหน้าไปมา.

ฉู่เทียนที่ถูหน้าของตัวเองไปมา,เกือบเสียโฉมไปซะแล้ว!

เพียงแค่ฝ่ามือเดียวถึงกับทำลายกายานิรันดร์ของข้าไปเลย!

ฝ่าเดียวนี้ทำให้บิดาแทบหมดสติ.

ความแข็งแกร่งของหญิงสาวคนนี้เกินกว่าที่จินตนาการถึงจริงๆ,ต้องไม่ลืมด้วยว่านางเองยังอยู่ในสภาวะที่อ่อนแออยู่,หากว่าฝ่ามือดังกล่าวนั้นอยู่ในสภาวะปกติล่ะก็,ฉู่เทียนคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!

เฉินปิงยวีชำเลืองมองมาที่เขา"เจ้าเป็นอย่างไรบ้างล่ะ."

"ย่ำแย่,ข้ารู้สึกว่ากระดูกทั่วร่างของข้ากำลังแตกออกเป็นเสียงๆไปแล้ว"ฉู่เทียนที่ยืนมือออกไป,"ดึงข้าขึ้นเร็วเข้า."

เฉินปิงยวียังคงเงียบมีเสียงงืมงำอยู่ในลำคอขณะที่จ้องมองไปยังฉู่เทียน,ก่อนที่จะได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง"เหมือนว่าเสียงของม้าที่กำลังวิ่งมา!"จากนั้น,นางก็หันหลังเดินออกไป,ฉู่เทียนที่ยืนมือออกมาเก้อ,และนอนลงหูแนบไปบนพื้นด้วยท่าทางอักอ่วนใจ.

จิ้งจอกน้อยเผยยิ้มออกมาอย่างพอใจกับความโชคร้ายของเจ้านาย.

"เจ้ายิ้มอันใดกัน?"ฉู่เทียนจ้องเขม็งไปยังจิ้งจอกน้อย,"เชื่อไหมว่าข้าจะทุบเจ้า!"


 ฉู่เทียนที่รับรู้ได้ถึงพื้นที่สั่นสะเทือน,เป็นเสียงของกองกำลังกลุ่มหนึ่งกำลังเดินทางมา....กองกำลังทหารของรัฐชิงอย่างงั้นเหรอ!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น: