วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 230 Final fighting

Miracle Throne Chapter 230 Final fighting

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 230 ผลการต่อสู้

บทที่ 230 ผลการต่อสู้




ทั่วทั้งรัฐกลางตอนนี้สั่นสะเทือนอีกครั้งฉู่เทียนที่รับคำท้าของฉู่ซิงเหอ,ได้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว,เพียงแค่คืนเดียวกลายเป็นพายุที่โหมกระหน่ำที่สาดซัดไปทั่วเมืองหลวงของรัฐกลาง.

ฉู่เทียนได้ทำการปิดตัวฝึกฝนอยู่.

ด้วยพลังปลุกดวงจิตระดับ 3 ขั้นปลาย,หากเข้าประลองล่ะก็เขาจะต้องตายไปอย่างไม่ต้องสงสัย.


จุดดังกล่าวนี้ตระกูลฉู่รู้ดี,ดังนั้นพวกเขาจึงได้ท้าทายอย่างน่าละอาย,ทว่าฉู่เทียนเข้าใจจุดนี้ได้,ดังนั้นเขาย่อมไม่วิ่งเข้าไปหาความตายอย่างหูหนวกตาบอดแน่,อย่างน้อยที่สุดเขาจะต้องยกระดับตัวเองไปให้ถึงเขตแดนดวงจิตปรากฏซะก่อน!

สามตระกูลใหญ่คงคิดว่าได้ทำการขวางไม่ให้ฉู่เทียนทะลวงผ่านระดับได้อย่างสมบูรณ์แล้ว,พวกเขานี่ช่างไร้เดียงสาจริงๆ,มีสิ่งที่พวกเขาไม่คิดว่าฉู่เทียนได้พบเข้ากับโชคลาภที่รัฐสายฟ้าเข้าโดยบังเอิญ.

เมื่อฉู่เทียนยุติการปิดกั้นการยกระดับเขาก็ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณมากมายมหาศาลออกมาในทันที.

เมื่อไม่ได้ทำการปิดกั้นพลังวิญญาณที่ได้มาจากเมล็ดโลกันตร์ของอสุรกายอัคคีโลกันตร์,พลังวิญญาณมากมายมหาศาลก็ทำให้เขาทะลวงไปยังปลุกดวงจิตระดับ 4 ในทันที!

ฉู่เทียนรับรู้ได้พลังวิญญาณของเขาในตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า,ความเร็วในการปลดปล่อยพลังเองก็เพิ่มขึ้นอีกหลายระดับเช่นกัน.

เขาได้เลื่อนระดับจากปลุกดวงจิตระดับต้นก้าวไปยังเขตแดนปลุกดวงจิตระดับกลางแล้ว,ฉู่เทียนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตปรากฏไปแล้วนั่นเอง!

ซึ่งฉู่เทียนตอนนี้ยังไม่พึงพอใจเท่าใดนั้น,เพราะว่าการที่ตระกูลฉู่ต้องการประกาศการประลองเองในครั้งนี้,แน่นอนว่าพวกเขาต้องเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว,อาการของฉู่ซิงเหอนั้นหายดีเกินกว่าที่ฉู่เทียนคาดการไว้,ดังนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าตระกูลฉู่จะต้องได้ยาทิพย์มหัศจรรย์ที่หายากมาแล้วเป็นแน่.

เกรงว่าฉู่ซิงเหอในตอนนี้ได้ก้าวไปยังระดับปลุกดวงจิตระดับ 5 อย่างไม่ต้องสงสัย.

หากเป็นผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 5 ทั่วไปนั้นไม่ได้ทำให้ฉู่เทียนสนใจเลย,แม้แต่ซ่างกวนเฟยเฉินที่เป็นถึงทายาทของโหวเยว์ซือฟางยังไม่อยู่ในสายตาของฉู่เทียนเลย,ทว่าเขาไม่สามารถวางใจได้ว่าจะสามารถล้มฉู่ซิงเหอได้อย่างง่ายดาย!

ฉู่ซิงเหอที่เป็นหัวหน้าของสี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,เขาได้ทิ้งห่างอีกสามลำดับแบบไม่เห็นฝุ่น,พรสวรรค์และความสามารถของเขานั้นเหนือล้ำเป็นอย่างมาก,กระบี่ของเขาที่มีชีวิตได้ปะทับอยู่ใจของฉู่เทียน,ถึงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 6 ก็คงยากที่จะต้านทานเขาได้.

ฉู่ซิงเหอที่ไปถึงระดับปลุกดวงจิตระดับ 5 ถึงเขาจะสามารถเลื่อนระดับเป็นผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 4 ก็ตาม,โอกาสชนะของเขาก็มีน้อยกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ด้วยซ้ำ,เพื่อไม่ให้ผิดพลาด,หากต้องต่อสู้กันเพื่อตัดสินจริงๆแล้ว,เขาจะต้องเพิ่มโอกาสชนะให้ได้กว่า 50 เปอร์เซ็นต์ซะก่อน.

เขาจะสามารถเพิ่มพลังความแข็งแกร่งของเขาได้สำเร็จหรือไม่?

ฉู่เทียนไม่ใช่คนที่ทำอะไรลวกๆ,ในเมื่อเขากล้ายอมรับการท้าประลองเขาจะต้องมั่นใจอยู่ด้วย,แน่นอนว่าในมือของเขานั้นมีไพ่ตายอยู่สองใบ.

ไพ่ใบแรกคือภูติวิญญาณหลักของเขาเอง.

หากแต่ฉู่เทียนไม่สามารถใช้ภูติวิญญาณหลักของเขาได้อย่างต่อเนื่องในตอนนี้,กล่าวอีกอย่างหนึ่งเขามีพลังวิญญาณจำกัด,จึงเป็นการยากมากที่จะสามารถควบคุมมันได้,ทว่าสิ่งสำคัญมากที่สุดที่เขาไม่ต้องการใช้คือยังไม่ต้องการเปิดเผยซึ่งมันจะส่งผลอย่างรุนแรง,หากว่ามียอดฝีมือในทวีปแห่งนี้จับจ้องมองมาแล้วล่ะก็ มันคงจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้นมาทันที.

ดังนั้น,ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้เสี่ยงจนเกินไปที่จะนำมันออกมาใช้,ก่อนที่เขาจะแข็งแกร่งเพียงพอ,ฉู่เทียนย่อมไม่ต้องการที่จะแบกรับความเสี่ยงง่ายๆอย่างแน่นอน.

ไพ่ใบที่สองคือวิธีการมากมายที่เขามี

แท้จริงแล้วฉู่ซิงเหอมีพรสวรรค์ที่หายากอย่างแน่นอน.

ทว่า,ฉู่เทียนกลับเหนือไกลเกินกว่าเหล่าพรสวรรค์จะก้าวตามได้.

ฉู่เทียนก่อนที่เขาจะกลับมาเกิดใหม่นั้น,เขาได้ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของผู้เชี่ยวชาญมาก่อนแล้ว,ประสบการณ์ของเขา,ความรู้ของเขา,เชาว์ปัญญาของเขา,ไม่ใช่สิ่งที่คนในยุคสมัยแห่งนี้จะเอาไปเทียบได้เลย.

กองชิ้นส่วนของวัตถุดิบมากมายที่ส่องแสงวับวาวระยิบระยับ,ถูกนำออกมาจากน้ำเต้าอู๋จี้.

แต่ละชิ้นส่วนนั้นส่งพลังกลิ่นอายที่เข้มข้นของอสุรกายโลกันตร์ออกมา,และยังมีเศษชิ้นส่วนของหัวใจอสุรกายของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่เหลือไว้อีกด้วย,ฉู่เทียนเริ่มจับจ้องมองไปยังชิ้นส่วนที่เหลืออยู่เหล่านั้น,เขาปิดตาช้าๆ,ภายในจิตสำนึกของเขานั้นมีวิชาที่ลึกล้ำน่าพรั่นพรึงปรากฏขึ้นมา <เทพมารเปลี่ยนร่าง>>!

นี่คือวิชาหลักที่เขาได้ฝึกฝนมาในชาติที่แล้ว,เพราะว่ามันยังไม่ถึงเวลาอันควร,ทำให้เขาไม่สามารถที่จะฝึกฝนได้,ที่จริงแล้วมันก็ยังขาดวัตถุดิบสำคัญในการฝึกฝนด้วย,หัวใจอสูรนั้นคือวัตถุดิบที่จำเป็นในการฝึกฝนดังกล่าวซึ่งเขาเพิ่งจะได้รับมาหลังจากที่เดินทางไปยังรัฐสายฟ้านั่นเอง.
............

เมื่อฉู่เทียนปิดตัวฝึกฝนอยู่นั้น,เมิ่งชิงอู๋เองก็เริ่มต้นค้นหาข่าวอย่างไม่ละเลยแม้แต่น้อย,สัญญาณบ่งบอกมากขึ้นและมากขึ้นว่าสามตระกูลใหญ่เตรียมที่จะเข้าจู่โจมหอการค้าปาฏิหาริย์.

การประลองเป็นการเปิดโอกาสให้กับตระกูลฉู่,ลวอและเย่,เป็นการรับประกันความผิดพลาดของพวกเขา.

แม้ว่าการสังหารฉู่เทียนจากการประลองคือทางเลือกที่ดีที่สุด,เพราะว่าในอาณาจักรหนานเซียนั้นมีประเพณีที่เคร่งครัดกับการประลองการต่อสู้อยู่แล้ว,การเสี่ยงชีวิตในการประลองจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้,ถึงแม้ว่าจะจะมีการสังหารกันเกิดขึ้น,ถึงจะเป็นโหวเยว์วายุเทพ,จักรพรรดิอู๋อาน,ก็ไม่สามารถที่จะหาเหตุผลลงโทษตระกูลฉู่ได้.

อย่างไรก็ตามเมิ่งชิงอู๋ก็สามารถที่จะคาดเดาความคิดของตระกูลทั้งสามได้,พวกเขาย่อมไม่ต้องการเดิมพันกับเรื่องที่จะเกิดขึ้นเป็นแน่.

สนามการต่อสู้นั้นอยู่ห่างออกไป,จะต้องมีการต่อสู้ขึ้นหลายจุด.

เมิ่งชิงอู๋ตัดสินใจอย่างเฉียบพลัน"หยุนเหยา,เจ้ากลับไปตระกูลหยุนและให้ท่านหยุนกลับไปยังตระกูล,ให้เตรียมเหล่านักรบให้พร้อมรบได้ตลอดเวลา,ย้ายทรัพย์สินมีค่าไปยังที่ปลอดภัย,เคลื่อนย้ายกองกำลังที่มีทั้งหมดให้มาประจำการ."

当机立断 ความหมายคือ (dāng jī lì duàn)ฉวยโอกาสตัดสินใจดำเนินการอย่างฉับพลัน ฉกฉวยจังหวะตัดสินใจดำเนินการอย่างฉับพลัน


"แต่ว่าพรุ่งนี้มีงานประลองของฉู่เทียน...."

"พรุ่งนี้เป็นเพียงละครฉากหนึ่งเท่านั้น."

หยุนเหยาที่ขมวดคิ้วแน่น"ถ้าเป็นเช่นนี้?"

"หากสามตระกูลใหญ่เคลื่อนไหวล่ะก็,ตระกูลหยุนจะต้องแหลกสลายแน่"เมิ่งชิงอู๋ที่กล่าวอย่างหนักแน่น"จำเอาไว้,เจ้าจะต้องเตรียมกำลังให้พร้อม,ปกป้องตระกูลตัวเองให้ปลอดภัย."

หยุนเหยานั้นนับถือเมิ่งชิงอู๋เป็นอย่างมาก.

นางที่มีสถานะเป็นคนสนิทของฉู่เทียน,ทว่าหอการค้าปาฏิหาริย์,การทำงานของนางก็ไม่มีช่องโหว่เลยแม้แต่น้อย,นับเป็นความสามารถที่น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก.

滴水不漏 ความหมายคือ (dī shuì bù lòu)น้ำไม่รั่วแม้สักหยดเดียว อุปมาว่า มิดชิด ไม่มีช่องโหว่

เมิ่งชิงอุ๋กล่าวออกมา"นำจดหมายสองฉบับ,ฉบับแรกมอบให้กับท่านหญิงเฟิง,ให้นางอยู่แต่ภายในหุบเขาอู๋โหยวไม่ให้ออกไปใหนเด็ดขาด,อีกฉบับนั้นให้มอบกับแม่ทัพซ่งอู๋จี้,ให้เขาจัดเตรียมกองกำลังส่วนตัวเอาไว้,ให้สามารถเข้าต่อสู้ในเวลาฉุกเฉินได้,ให้หลินมู่,ฟางหานและกลุ่มทหารใต้พิภพเดินทางกลับมาสำนักงานใหญ่,ให้อาวุโสเฉินปิงยวี,จัดทัพป้องกันสำนักงานใหญ่เอาไว้."

พี่สาวของนางไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อนเลย.

前所未有 ความหมายคือ (qián suǒ wèi yǒu)ไม่เคยมีมาก่อน,เป็นประวัติการณ์


เมิ่งหยิงหยิงที่ตระหนักได้ว่ากำลังเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น"ให้ข้าช่วยรึไม่?"

"หยิงหยิง,เจ้าเข้าไปหลบในหลุมหลบภัยนับตั้งแต่คืนนี้,ห้ามออกมาจนกว่าจะได้รับคำสั่ง,ได้ยินใหม?"

"นั่นมัน....

"ไม่ต้องกล่าวอะไรอีกแล้ว!"เมิ่งชิงอู๋จ้องมองไปยังหนานกงหยุนที่ต้องการจะเข้าร่วม"หนานกง,ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้อ่อนแอแน่นอน,ดังนั้นความปลอดภัยของหยิงหยิงอยู่กับเจ้าก็แล้วกัน."

跃跃欲试 ความหมายคือ (yuè yuè yù shì)อยากจะลองดู


ด้วยนิสัยของหนานกง,หากให้นางไปยังที่หลบภัยแล้ว,นางคงจะยอมอย่างงั้นรึ?

เมิ่งชิงอู๋ที่มอบหน้าที่ปกป้องหยิงหยิงให้นาง,เพื่อให้นางอยู่กับที่ไม่วิ่งไปรอบๆ.

หนานกงหยุนจ้องมองอย่างหดหู่,ด้วยคำพูดของเมิ่งชิงอู๋นั้น,ทำให้นางไม่กล้าขัดขืนเลยทำให้แต่กล้ำกลืนยอมรับ,เมิ่งชิงอู๋นั้นเป็นคนที่วางแผนได้ยอดเยี่ยมที่สุด,ยกตัวอย่างนางได้ทำการเตือนเหล่าตระกูลอื่นๆอีกมากมาย,ให้พวกเขาระวังตัว,หากเป็นไปได้ไม่ให้ออกมาสังเกตการณ์.

ตอนนี้สถานะการที่ย่ำแย่ที่สุดในรัฐกลางกำลังจะเกิดขึ้น,อย่างน้อยที่สุดก็สามารถเตรียมการบางอย่างได้บ้าง.
............

เช้าวันถัดมา.

ประชาชนที่ไม่สามารถตระหนักได้ถึงพายุใหญ่ที่กำลังจะพัดมา,พวกเขารู้แต่เพียงว่าที่รัฐกลางกำลังจะมีการประลองใหญ่ที่พลาดไม่ได้เท่านั้น!

บุคคลสองคนที่เป็นสุดยอดพรสวรรค์ที่หายากในรอบร้อยปีของรัฐกลาง,กำลังจะชิงชัยความเป็นหนึ่ง,ด้วยเหตุดังกล่าว,ถึงไม่ว่างก็ต้องไปให้ได้?

การต่อสู้ในครั้งนี้,พวกเขาจะพลาดชมได้อย่างงั้นรึ?

รอบสนามการต่อสู้เต็มไปด้วยผู้ชมที่เดินทางมาเข้าร่วมชมการต่อสู้อีกครั้ง!

ผู้ชมในวันนี้ดูเหมือนว่าจะมากยิ่งกว่าการประลองกันก่อนหน้าของฉู่ทียนและลวอเซียงหลง,เย่เทียนหลางซะอีก.

ในวันนี้ผู้คนต่างก็รู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก,เครื่องกระจายเสียงที่ยอดเยี่ยมของหอการค้าปาฏิหาริย์ไปไหนแล้วล่ะ? กับการแข่งขันที่น่าสนใจและน่าตื่นเต้นขนาดนี้,ทำไมถึงไม่มีในการแข่งขันครั้งนี้ล่ะ?

เมิ่งชิงอู๋ที่ยืนอยู่ด้านล่างเวที,สายตาของนางที่กวาดตามองไปยังผู้ชม,ทำให้นางต้องขมวดไปมาเล็กน้อย.

นางได้ทำการเตือนไปยังเหล่าตระกูลหอการค้าอื่นๆแล้ว,สุดท้ายพวกเขากลับดูไม่จริงจัง,และยังเข้ามาชมการแข่งขันครั้งนี้อย่างไม่คาดคิด!

"รองประธานโปรดวางใจด้วยความสามารถพวกเรานั้นท่านประธานจะปลอดภัยอย่างแน่นอน."

เมิ่งชิงอู๋ที่ชำเลืองมองออกไป,ก่อนจะมีเสียงที่แหบพล่าดังผ่านออกมา.

หยีเหล่าต้าที่สวมหน้ากากโลหะ,เป็นหน้ากากโบราณที่ดูชำรุดเสียหาย,มือของเขาที่กุมไม้เท้าก้างปลา,พร้อมกับผมด้านหลังที่ขึ้นหรอมแหรม,เสื้อผ้าที่คลุมถึงเท้า,ปกคลุมร่างกายเอาไว้จนไม่สามารถมองเห็นรูปร่างที่ชัดเจน.

"พี่น้องของท่านอีกสี่คนกำลังปกป้องฉู่เทียนอย่างงั้นรึ?"เมิ่งชิงอู๋ที่รู้สึกว่าสี่พี่น้องเองก็แข็งแกร่งอยู่หากแต่คนที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นก็คือหยีเหล่าต้าผู้นี้"ข้ามีศพทมิฬโลหิตเทวะ 18 ตนแล้ว,นับว่ามีพลังปกป้องข้าได้,เจ้าเองไม่ต้องห่วงความปลอดภัยของเข้า,ไปปกป้องฉู่เทียนอีกคนจะเป็นการดีกว่า."

หยีเหล่าต้ากล่าวออกมาด้วยเสียงหอบๆ"ไม่เป็นการดี,ท่านประธานได้สั่งเอาไว้,ข้าจะต้องรับประกันความปลอดภัยของท่านเป็นการส่วนตัว."

เมิ่งชิงอู๋ถอนหายใจเล็กน้อย,ก่อนที่จะพยักหน้า.

เมิ่งชิงอู๋ไม่ได้แสดงท่าทางอะไรออกมา,ยังคงแสร้างทำเป็นสงบนิ่ง,ดวงตาของนางจับจ้องมองไปยังด้านบนเวทีการแข่งขัน,เพระว่าการต่อสู้กำลังจะเกิดขึ้นแล้ว.

เค้ง เคล้ง!

เสียงระฆังทองแดงที่สั่นสะท้านเสียงก้องกังวานบนเวทีการแข่งขัน.

ที่ด้านล่างนั้นมีคนต่างส่งเสียงดังสนั่นหวั่นไหว.

ศึกชิงความเป็นหนึ่งที่ยิ่งใหญ่,ศัตรูคู่แค้นที่กำลังตัดสินเป็นตาย,กำลังจะเริ่มแล้วตอนนี้!

กระบี่วิเศษสีทองในมือ,ราวกับดาวหางที่เหินขึ้นไปบนเวที,ก่อนที่จะลงไปยังพื้นเวทีอย่างนุ่มนวล,ประกายแสงของกระบี่ที่ส่องประกายเคลื่อนไหวตามเป็นกระบวนท่าอย่างงดงามไปตามการกวาดมือของเขา,เขายืนอยู่บนเวทีอย่างสุขุมกวาดตามองไปยังด้านหน้า.

ชายหนุ่มผู้เยาว์อายุ 24 หรือ 25 ปี,สวมมงกุฏหยกสีขาว,สวมเสื้อคลุมไพลิน,ยืนอยู่อย่างเด็ดเดี่ยว,สง่างาม,เสื้อคลุมที่โบกสะบัดไปตามแรงลมพร้อมกับแผ่รัศมีกระบี่ออกมาจนฝุ่นละอองไม่สามารถเข้าใกล้ได้ ราวกับอยู่กันละโลก.

"ฉู่ซิงเหอ!"

"ฉู่ซิงเหอ!"

"ฉู่ซิงเหอ!"


ก่อนที่จะมีเสียงดังตะโกน"จงเจริญ"เสียงดังสนั่นจากทุกทิศทุกทาง,แม้ว่าฉู่ซิงเหอจะได้รับบาดเจ็บกลับมาจากหอคอยฝึกฝน,ทว่าชื่อเสียงของเขาก็ยังมีอยู่เป็นอย่างมากในรัฐกลางแห่งนี้,ถึงจะเป็นฉู่เทียนก็ยังอยู่ด้านหลังเขาเหมือนกัน.

ฉู่ซิงเหอนั้นมีชื่อเสียงมาหลายปีแล้ว.

ส่วนฉู่เทียนนั้นเพิ่งปรากฏขึ้นมาเพียง 12 เดือนเท่านั้น.

แม้ว่าฉู่เทียนนั้นจะมีคนสนับสนุนและเทิดทูนเขาอยู่ไม่น้อย,ทว่าก็ยังไม่หนาแน่นพอที่จะเทียบกับฉู่ซิงเหอได้,ชื่อเสียงของฉู่ซิงเหอไม่ได้ลดลงแม้แต่น้อย,เขายังเป็นสุดยอดพรสวรรค์อันดับหนึ่งเหมือนดังเช่นเคย,เป็นผู้ถูกเลือกที่มีพรสวรรค์ที่หายากที่สุด.

ฉู่เทียนที่มีพลังฝึกตนน้อยกว่าฉู่ซิงเหอ,จะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นมาได้อีกครั้งหรือไม่?

ชายหนุ่มผู้หนึ่งที่ก้าวขึ้นมาบนเวทีการแข่งขันช้าๆ,ชายหนุ่มที่สวมชุดคลุมสีน้ำเงินที่แสนจะธรรมดา,หากแต่เป็นชุดที่ดูสะอาดสะอ้านเป็นพิเศษตั้งแต่หัวจรดเท้า,หน้าตาที่กระจ่างใส,ดวงตาที่งดงามประณีต,ส่องประกายแสงสีแดงวับวาว,มีพลังที่แผ่ออกมาไม่หยุด,ไม่มีเศษฝุ่นผงแผ้วพาน,ไม่ได้ต่างจากฉู่ซิงเหอเลย.

หากฉู่ซิงเหอเป็นกระบี่ทองที่คมกริบ,เช่นนั้นฉู่เทียนก็เป็นเหมือนกับเมฆสีขาวที่อิสรเสรี

ที่ด้านหลังของฉู่เทียนนั้นมีน้ำเต้าขนาดใหญ่และกระบี่วิเศษเล่มหนึ่ง,พร้อมกับมีจิ้งจอกน้อยสีขาวที่นอนอยู่บนไหล่เขาไม่ไปใหน,แม้ว่ากำลังจะเกิดการต่อสู้ที่รุนแรงขึ้น,ก็ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใส่ใจอะไรเลยแม้แต่น้อย.

"ฉู่เทียน!"

"ฉู่เทียน!"

"ฉู่เทียน!"

ทุกคนต่างก็ตะโกนกันบ้าคลั่งเสียงดังสนั่น.

เหล่าผู้สนับสนุนส่งเสียงเชียร์เขานั้นต่างก็เป็นกลุ่มหนุ่มสาวกันทั้งนั้น,ด้วยสายตาของพวกเขานั้นฉู่เทียนก็เปรียบเหมือนกับวีรบุรุษที่สามารถเข้าถึงได้,ทำให้เขานั้นเป็นขวัญใจแก่เหล่าผู้เยาว์มากมายนับไม่ถ้วน.

เกร้ง!

เสียงระฆังดังลั่นดังก้องเป็นเสียงพิเศษที่บ่งบอกถึงการต่อสู้ได้เริ่มขึ้นแล้ว.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

3 ความคิดเห็น:

  1. มาทั้งรัฐกลางจะสู้ตุ๊กตาของจิ้งจอกน้อยตัวเดียวได้ป่าวยังไม่รู้เลย

    ตอบลบ
  2. นิยายเรื่องนี้ ยิ่งแต่งยิ่งมั่วไปใหม่ โดน ทำลายเส้นปราณทุกเส้น ไม่พิการ แต่ รักษาได้ พลัง จะ ถดถอย ถดถอย บ้านพ่อ มึงสิ เลื้อนขั้น เป้น จิต ขั้น 5 อีก แต่งนิยายหัวควย พระเอก ได้ของดีนั้นนี้ สืบถอดพลังเทพบรรกาล บอกพลัง แต่งล่ะขั้นขึ้นชา ต้องใช้ ของช่วยในการ บรรลุขั้น หลายอย่าง กับไอ้คนที่ถูกทำลายเส้นปราณไม่ต่างจากคนพิการ เสือก เลื่อนขั้น เป้น ขั้นจืต ขั้น 5 อีก อีก อย่าง เรื่องพลัง เนตร มีแต่พระเอกที่มี พระอ่านตำรา มา แล้ว ไอ้คุณชาย กระ บี่ฟ้ามัน ไป ฝึกมาจากไหน ถึง ได้ มี ถึง 2เนรต มึงนี้ ยิ่งแต่งนิยายยิ่ง มั่ว ขึ้น ทุก ที โดนทำลายเส้นปราร ถึงรักษาได้ก้พลังถอดถอย ถดถอยบ้านพ่อมึงสิ พลังเลื่อนขั้นอีก อย่าบอกน่ะ ไปเจอของดี เลยรักษาแล้วพลังเลื่อนระดับ แล้ว พระเอกล่ะ ไม่เจอไง สืบทอดพลังจากเทพบรรพกาล อีก มีอะไร ยิ่งใหญ่กว่าอีกไหม หรือ มันได้ สืบทอด เทพจักวาล มา ควย

    ตอบลบ