วันศุกร์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 223 Devil goon

Miracle Throne Chapter 223 Devil goon

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 223 โหยวหมิง 


บทที่ 223 โหยวหมิง 


 

พลังจิตวิญญาณมหาศาลที่หลั่งไหลเข้ามาภายในร่างกายของเขา,ฉู่เทียนสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงการทะลวงผ่านคอขวดของเขาหากแต่ประตูที่เขาเปิดออกมานั้นดูจะแตกต่างจากที่ควรจะเป็น.

อย่างไรก็ตามสถานที่แห่งนี้ดูรกร้างไร้ซึ่งพลังจิตวิญญาณ,เป็นสถานที่ที่ไม่เหมาะจะทะลวงพลังฝึกตนเลยแม้แต่น้อย,ฉู่เทียนที่รับเอาพลังจิตวิญญาณที่ลึกลับเข้ามาในร่างกายเป็นจำนวนมาก,ด้วยพลังดังกล่าวนั้นจึงไม่สามารถหลีกเลียงที่จะเลื่อนระดับได้,ดังนั้นจึงมีบางสิ่งที่ทำเขานั้นกระอักกระอ่วนอยู่ชั่วขณะอย่างงั้นรึ?


ด้วยการวาดกระบี่ออกไป,ทำให้เมล็ดแห่งเปลวเพลิงแตกออกมา,จนทำให้กลายเป็นเศษของชิ้นศิลาที่ถูกบดขยี้ไปแล้วอย่างสมบูรณ์.

กระบี่อเวจีที่มีพลังน้ำแข็งเหมหันต์,คมกระบี่ที่ปกติจะสะท้อนพลังผิวน้ำแข็งเหมหันต์ที่เย็นยะเยือบออกมา,ทว่าตอนนี้มีประกายแสงปราณแสงทมิฬคลุมอยู่,แผ่ซานพลังออกมาจนทำให้อากาศรอบๆบิดเบี้ยว....นี่มันกลิ่นอายของเพลิงโลกันตร์!

หลังจากที่กระบี่ดูดซับเมล็ดเปลวเพลิงโลกันตร์เข้าไปแล้ว,ไม่เพียงสามารถช่วยเพิ่มพลังแต่ยังช่วยฟื้นฟูพลังความแข็งแกร่งของกระบี่อเวจี,ดูราวกับว่ามันได้เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก.

เมื่อฉู่เทียนกระตุ้นเพลิงกระบี่ลับ,เปลวเพลิงที่รุนแรงพลุ่งพล่านแผ่ออกมาคลุมคมกระบี่ในทันที,เปลวเพลิงดังกล่าวยังคงมีสีน้ำเงิน,ทว่าเปลวเพลิงนั้นกลับสว่างจ้ามากยิ่งกว่าเดิม,ราวกับเป็นสีน้ำเงินของหินมณีศิลาคุณภาพสูง.


เปลวเพลิงสีน้ำเงินยังคงเผาไหม้ลุกโชนขึ้นมาไม่หยุดหย่อน.

ตูมมมมม!

ศิลามหึมาด้านหน้าถูกฟันออกเป็นสองส่วน.

ศิลาขนาดมหึมาถูกฟันออกเป็นสองท่อนเปลวเพลิงสีน้ำเงินยังคงลุกโชนหลงเหลืออยู่ที่ชิ้นส่วนของศิลาดังกล่าวอยู่,พลังเพลิงที่ระเบิดออกมาพร้อมกับลุกขึ้นมาเรื่อยๆ,ศิลาทั้งสองก้อนนั้นถูกกลืนกินไปด้วยเปลวเพลิง,คาดไม่ถึงเลยพลังเผาไหม้นั่นทำให้ศิลาดังกล่าวเน่าเปื่อยจนกลายเป็นขี้เถ้าไป,จนท้ายที่สุดศิลาทั้งสองก้อนก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย.

ร้ายกาจมาก!

แม้ว่าเพลิงอเวจีนั้นจะมีคุณสมบัติของเปลวเพลิงปิศาจที่ได้มาจากราชันย์ภูติที่กลั่นขึ้นมาหลายต่อหลายปี,ดังนั้นมันจะมีคุณสมบัติกัดกร่อน,ทว่ามันกลับไม่มีความสามารถในการเผาไหม้ทางกายภาพเลยแม้แต่น้อย.

หากแต่ตอนนี้มันได้ถูกเปลี่ยนไปแล้ว.

เปลวเพลิงยังคงเย็นยะเยือบ,แทบจะไม่มีอุณหภูมิเลย,หากแต่สามารถทำให้วัตถุเน่าเปื่อยได้,เช่นนั้นแล้วมันย่อมแข็งแกร่งกว่าการเผาไหม้ทางกายภาพอย่างแน่นอน.

หากเป็นกระบี่อเวจีก่อนหน้านี้,มีเพียงแค่พลังป้องกันที่ไว้ใจได้,หากแต่กระบี่อเวจีในครานี้,ไม่เพียงแต่สามารถที่จะเผาไหม้พลังวิญญาณได้,มันยังสามารถทำให้วัตถุเน่าเปื่อย,และยังทำให้ได้รับบาดเจ็บลุกลามแบบไม่หยุดอีกด้วย,นับว่าเป็นพลังทำลายที่สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามลำบากได้เลย!

ไร้ซึ่งข้อกังขา!

กระบี่อเวจีของฉู่เทียนนับว่าน่าพรั่นพรึงยิ่งนัก!

พลังเน่าสลายของเปลวเพลิงโลกันตร์สีเขียวนั้นมีผลละลายวัตถุ,ส่วนเปลวเพลิงปิศาจอเวจีเองก็มีผลเผาไหม้พลังงาน,นับว่าเป็นเพลิงอเวจีโลกันตร์ที่ครบเครื่องเป็นอย่างมาก,ถึงแม้ว่าจะเป็นพลังกายานิรันดร์ของหนานกงหยุนตอนนี้ยังยากที่จะรับกระบี่อเวจีของเขาได้.

แน่นอนว่ามันยกระดับขึ้นเป็นอย่างมาก,

ซ้ำภูติวิญญาณของกระบี่อเวจีเองก็ฟื้นฟูจนถูกปลุกขึ้นมาเรียบร้อย.

การตื่นขึ้นของภูติวิญญาณนั้น,ทำให้เขามีทักษะสกัดกลั่นดวงจิตวิญญาณอสูรได้,ด้วยการใช้ภูติวิญญาณในการเพิ่มพลังของศาสตราวุธ,ตลอดจนยังมีทักษะในการรักษาสภาพของตัวมันเองได้อีกด้วย.

ภูติวิญาณกระบี่อเวจีนั้นเป็นหนึ่งในธาตุเปลวเพลิงแห่งสวรรค์,ในอีกแง่หนึ่งก็เป็นเหมือนธาตุแห่งชีวิต,แต่มันไม่มีดวงวิญญาณที่แยกออกมาได้,แต่ในเมื่อเป็นเหมือนสิ่งมีชีวิตรูปแบบหนึ่ง,แน่นอนว่ามันย่อมสามารถแยกออกมาจากอาวุธได้!

ฉู่เทียนเคยคิดเอาไว้ก่อนเช่นกัน,ว่าต้องการที่จะลองใช้วิชาลับในการอัญเชิญ...ตอนนี้สามารถที่จะทดสอบได้แล้ว!

เขาได้ถ่ายพลังวิญญาณลงไปในกระบี่อย่างต่อเนื่อง,พลังสีน้ำเงินที่หมุนโคจรอย่างรวดเร็วราวกับสายน้ำ,เปลวเพลิงขนาดมหึมาเองก็กำลังรวมตัวกันด้วยเช่นกัน,คาดไม่ถึงเลยว่ามันจะมีรูปร่างกลายเป็นเหมือนกับร่างมนุษย์อย่างช้าๆ.

"อสุรกายเพลิง!"

หนายกงหยุนและคนอื่นๆรู้สึกประหลาดใจจนต้องอุทานออกมา.

เปลวเพลิงสีน้ำเงินด้านหน้ากำลังรวมตัวกันกลายเป็นรูปร่าง,รูปร่างของมันนั้นเหมือนกับอสุกายเพลิงที่อสุรกายอัคคีโลกันตร์อัญเชิญมาได้ก่อนหน้านี้,ทว่าเปลวเพลิงของอสุรกายเพลิงตนนี้ไม่ได้มีสีเขียวเหมือนกับของอสุรกายอัคคีโลกันตร์.

จิ้งจอกน้อยถึงกับเหวอไปเลยทีเดียว,นี่คิดจะลอกเลียนจิ้งจอกน้อยอย่างงั้นรึ?

จิ้งจอกน้อยเพิ่งจะกระหยิ่มยิ้มย่องถึงความเหนือของตนเองก่อนหน้านี้,ไม่คิดเลยว่าเจ้านายของมันก็สามารถอัญเชิญอสูรได้?เจ้านายมันเองไม่ธรรมดาจริงๆ,ทำให้มันตื่นเต้นไปด้วยเช่นกัน!

หนานกงหยุนสอบถามออกไปด้วยความประหลาดใจ"เจ้าสามารถอัญเชิญอสูรได้ด้วยอย่างงั้นรึ?"

"นี่เป็นเพียงเปลวเพลิงที่เข็มข้นเท่านั้นไม่ใช่การอัญเชิญ."

การอัญเชิญของจิ้งจอกน้อยนั้น,จำเป็นต้องมีสื่อวิญญาณ,ซึ่งจำเป็นต้องมีร่างภาชนะในการอัญเชิญ,นับเป็นทักษะที่หายากเป็นอย่างมาก,เป็นวิชาที่ยิ่งใหญ่ของเผ่าอสูรจากยุคบรรพกาล.

หากแต่สิ่งที่ฉู่เทียนกระทำตอนนี้แตกต่างออกไป,เป็นเพียงทักษะอย่างหนึ่งเท่านั้น,เพลิงอเวจีโลกันตร์นั้นไม่มีความรู้สึกและยังไม่มีรูปร่างที่แน่นอน,เป็นเพียงแค่ธาตุแห่งชีวิตที่ใช้วิชาลับในการเปลี่ยนร่างของมันออกมาเท่านั้น,ดังนั้นแล้วจึงทำให้เขาสามารถเรียกอสุรกายเพลิงโลกันตร์ออกมาได้.

ร่างของอสุรกายเพลิงโลกันตร์นั้นไม่ค่อยเสถียรเท่าใดนัก,มันดูเหมือนกับร่างของชายที่ล่ำสัน,ทั่วทั้งร่างถูกเผาไหม้ไปด้วยเพลิงสีน้ำเงิน,และที่บนศีรษะเองก็มีเขาอันหนึ่งยื่นออกมา,ทั่วทั้งร่างถูกปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายปิศาจ,เหมือนกับอสุรกายโลกันตร์จากพิภพโลกันตร์ก็ไม่ปาน.

เมื่ออสุรกายโลกันตร์ปรากฏตัว,มันกับจ้องมองออกมาด้วยท่าทางสับสน,หลังจากที่จ้องมองไปยังฉู่เทียน,ราวกับว่ามั่นได้ปล่อยกระแสจิตออกมา"นายท่าน,เรียกข้าอย่างงั้นรึ!"


"มันพูดได้!"

"มันพูดได้ด้วย!"

"มันพูดได้อย่างไร?"

ทุกคนถึงกับขวัญหนีดีฝ่อไม่เว้นแม้แต่จิ้งจอกน้อย.

อสุรกายเพลิงโลกันตร์ที่เรียกออกมา,ที่จริงแล้วสามารถที่จะสื่อสารกับคนได้อย่างงั้นรึ?แน่นอนว่า,ธาตุแห่งชีวิตนั้นไม่มีอวัยวะ,การพูดของมันนั้นไม่สามารถที่จะกล่าวออกมาด้วยปาก,ทว่ามันได้ส่งผ่านออกมาด้วยพลังจิต.

"ยอดเยี่ยมเลย!"ฉู่เทียนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ"นับตั้งแต่วันนี้,เจ้ามีนามว่า โหยวหมิง!"
幽冥Yōumíng โหยวหมิง :(you1ming2) นรก (ฮาเดส)

อสุรกายเพลิงโลกันตร์กล่าวตอบรับ"ขอรับ,นายท่าน!"

ฉู่เทียนกล่าวต่อกระบี่"กลับมาก!"

อสุรกายเพลิงสีน้ำเงินก็ค่อยค่อยสลายไป,ก่อนที่จะกลับคืนสู่กระบี่อเวจีในทันที,พลังของโหยวหมิงนั้นมีระดับปลุกดวงจิตระดับ 5 ,มีพลังที่แข็งแกร่งกว่าเขาที่เป็นเจ้าของซะอีก,ทว่ามันมีความสัมพันธ์กับฉู่เทียนโดยตรง,โหยวหมิงนั้นปรากฏตัวเป็นรูปลักษณ์ของอสุรกายโลกันตร์,ซึ่งเป็นวิชาลับจากกระบี่อเวจีของฉู่เทียนนั่นเอง!

อันตรายทั้งหมดนั้นได้จบสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว.

เพลงกระบี่อเวจีที่สำเร็จดินแดนขนาดใหญ่ประสบผลเป็นเอกลักษณ์,พลังฝึกตนของเขาเองก็เพิ่มขึ้นมามากมาย,และยังได้อสูรรับใช้ที่ทรงพลังเป็นอย่างมากอีกด้วย.

โหยวหมิงมีเชาว์ปัญญาที่ไม่ค่อยสูงนัก,ดังนั้นมันจึงไม่สามารถพูดได้มากมายนัก,ทว่าถึงจะมีสติปัญญาไม่สูงทว่าก็ไม่ได้แปลว่าไร้ประโยชน์,ซึ่งหากว่าอสูรรับใช้ตนนี้เป็นเหมือนกับจิ้งจอกน้อยล่ะก็,คงจะต้องทำให้ฉู่เทียนต้องร้องไห้โฮน้ำตาตกในอย่างแน่นอน.


โหยวหมิงเองก็ยังมีเวลาให้เติบโตขึ้นได้อีกมาก,เมื่อเขาทำการวิจัยข้อมูลต่างๆได้มากขึ้นแล้ว,ในอนาคตข้างหน้าเขาย่อมสามารถแยกมันออกมาจากกระบี่อเวจีได้อย่างแน่นอน,ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นแล้วล่ะก็,มันก็จะกลายเป็นอีกสิ่งมีชีวิตที่แยกออกมาเป็นอิสระได้.

"เอาล่ะ,นับว่าเก็บเกี่ยวได้อย่างมากมายเลย!"

"แน่นอนว่าเจ้าสามารถเก็บเกี่ยวได้อย่างมากมาย,ทว่าพวกเราเองควรที่จะได้อะไรตอบแทนที่เหมาะสมด้วย!"หนานกงหยุนที่สบโอกาสรีบกล่าวต่อรอง"เจ้าจะตอบแทน อย่างไรให้พวกเราพอใจ?"

"พอใจ!แน่นอนว่าจะต้องให้พอใจแน่!นอกจากนี้ข้ายังจะต้องได้ค่าตอบแทนก้อนงามแน่นอน!"ฉู่เทียนที่รู้สึกอารมณ์ดีเป็นอย่างมาก"พวกเจ้าต้องการสิ่งใดล่ะ,ขอเพียงแค่เอ่ยปาก,ข้าย่อมสามารถทำให้พวกเจ้าพึงพอใจอย่างสุดความสามารถแน่นอน!"

หนานกงหยุนที่เกาศีรษะไปมา"พี่หยุนเหยา,ไฉ่เตี๋ย,ท่านป้าเฉิน,พวกท่านต้องการสิ่งใดรึ?"

คนทั้งสามเองไม่ได้คิดว่าต้องการอะไรตอบแทน,ดังนั้นพวกนางจึงได้ส่ายหน้าไปมา.

เฟิงไฉ่เตี๋ยกล่าว"การกำจัดอสุรกายร้ายเป็นหน้าที่,กลับไปย่อมได้รับรางวัลจากจักรพรรดิอู๋อาน,แล้วพวกเรายังจะขออะไรจากวีระบุรุษพี่ฉู่ได้อย่างไรล่ะ?"

ทุกคนต่างจ้องมองกันและกัน.

ยังมีคุณสมบัติใดที่จะขอกันล่ะ!

ท่านหญิงเฟิงนั้นเป็นหญิงสาวที่งดงามเปี่ยมไปด้วยมารยาทและวุฒิภาวะ,ไม่ได้เหมือนกับหนานกงหยุนที่เป็นหญิงสาวร้อนเร่าดังไฟเผาอยู่ตลอดเวลาเป็นแน่!

อย่างไรก็ตามฉู่เทียนก็เป็นคนที่ยุติธรรมต่อทุกคนอย่างแน่นอน,ไม่มีทางที่จะให้คนของเขาต้องขาดทุน,ดังนั้นเขาจึงได้กล่าวออกมาอย่างจริงจัง"พวกเจ้าทั้งสามเองก็นับว่าเป็นพวกเดียวกันอยู่แล้ว,แน่นอนว่าควรที่จะสามารถฝึกฝนวิชาเฉพาะ<กายานิรันดร์โอบแสงดารา>,นี่คงจะทำให้พวกเจ้าพึงพอใจได้หรือไม่?"

กายานิรันดร์โอบแสงดารา!

หยุนเหยาและเฟิงไฉ่เตี๋ยรู้สึกตื่นตะลึง.

เฉินปิงยวีเองถึงกับเบิกตากว้าง,หากไม่ต้องรักษาภาพพจน์นางคงจะกระโดดโลดเต้นออกมาด้วยความดีใจไปแล้ว,ทันใดนั้นนางก็จับไปที่ชายเสื้อของฉู่เทียน"ข้า,ข้าจะฝึก!"

แน่นอนว่าเฉินปิงยวีนั้นเป็นคนคลั่งวิชาอยู่แล้ว.

แม้ว่าจะสนใจในวิชา<กายานิรันดร์โอบแสงดารา>มาเป็นเวลานานแล้ว,หากแต่มันก็อักอ่วนใจเกินที่จะกล่าวออกมาได้!

ฉู่เทียนที่สบโอกาสลูบไปที่แขนอันเรียวงามและปราณีตที่เย็นเยือบของเฉินปิงยวี"แม่นางเฉินผู้งดงาม,ท่านไม่ควรตื่นเต้นมากเกินไป,เดียวคนอื่นๆจะมองพวกเราไม่ดี?คนอื่นๆที่ไม่รู้จัก จะคิดว่ากลางวันแสกๆ,หญิงงามกำลังจับมือถือแขนกับผู้ชายนอกบ้าน!"

เฉินปิงยวีถึงกับเปลี่ยนเป็นหน้าแดงซาน,เร่งรีบปล่อยมือไปในทันที"ขออภัยด้วย."

"โปรดวางใจ,เมื่อกลับไปแล้วข้าจะคัดลอกให้กับพวกท่าน!"

หยุนเหยาและเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก,ด้วยวิชา<กายานิรันดรโอบแสงดารา>ได้กลายเป็นวิชาที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัฐกลางและอาจจะยอดเยี่ยมที่สุดที่เด่นในการป้องกันในอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้เลยก็ว่าได้!

หนานกงหยุนชำเลืองมองตาละห้อย"แล้วข้าล่ะ?"

"ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าต้องการสิ่งใด?"ฉู่เทียนที่รู้สึกอักอ่วน,ไร้ซึ่งคำพูดให้กล่าว"มันจะไม่ดีกว่ารึอย่างไรหากเจ้าจะคิดด้วยตัวเอง,เอาอย่างนี้แล้วกัน,ให้ร่างกายที่หล่อเหล่าของข้าไปก็แล้วกัน!"

ใบหน้าของหนานกงหยุนถึงกับเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเช่นกัน"เพ่ย,หน้าไม่อาย!"

ฉู่เทียนเอ่ย"เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้ายกระดับวิชา<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>เป็นอย่างไร?"

"ตกลง!"

หนานกงหยุนเร่งรีบยอมรับข้อเสนอของฉู่เทียนทันที.

ช่างเป็นหญิงสาวที่บ้าคลั่งจริงๆ!

ฉู่เทียนที่เสร็จสิ้นทุกอย่างเตรียบตัวที่จะกลับ,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงจอแจของเหล่าทหารเคลื่อนที่เร็วดังมาจากเนินเขามีทหารวายุราวๆ200-300 คนกำลังมุ่งตรงมายังสถานที่แห่งนี้,นำทางมาโดยซ่างกวนเฟยเฉิน.

"กล้าดีอย่างไร,ฉู่เทียน!"

"คาดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกล้าหนีทหาร!"

ซ่างกวนเฟยเฉินที่ยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ,แต่เสียงด่าว่าก็ดังลอดผ่านมาก่อนแล้ว.

หยุนเหยาที่หัวเราะออกมาอย่างเหยียดหยัน"น่าขัน!เจ้ามองไม่เห็นรึอย่างไร?ฉู่เทียนเป็นคนจัดการอสุรกายร้ายไป!"

ภายในหุบเขาขนาดเล็กตอนนี้ยังคงมีเปลวเพลิงสีเขียวคุกรุ่นอยู่,ทว่ากับไม่มีร่องรอยการต่อสุ้ที่รุนแรงเหลืออยู่,มีเพียงแค่ศิลาของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ซึ่งฉู่เทียนเองก็ได้เก็บไปแล้ว,ลำพังแค่คำพูดไม่กี่คำ,มีรึที่ซ่างกวนเฟยเฉินจะเชื่อ?

ฉู่เทียนโค่นปิศาจร้ายได้อย่างงั้นรึ?

เป็นเรื่องโกหกทั้งเพ!

ซ่างกวนเฟิยเฉินแค่นเสียงอย่างเหยียดหยัน"เจ้าไม่เพียงแต่หนีทหาร,ยังกล้าโต้เถียงด้วยคำพูดไร้สาระอีก,ไม่สามารถที่จะให้อภัยได้แล้ว!"

หนานกงหยุนที่ตะโกนออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว"ตาเน่าๆของเจ้าเอาไปไว้ที่ตูดรึไง?ฉู่เทียนสังหารอสุรกายโลกันตร์ช่วยชีวิตบิดาของเจ้า,เจ้ายังกล้ามาเห่าเช่นนี้อีกเหรอ!"

"พวกเจ้าได้ยินกันใหม?"ซ่างกวนเฟยเฉินไม่เชื่อว่าคนเหล่านี้จะจัดการสัตว์ประหลาดเช่นนั้นได้,เขาหันหน้าตะโกนพูดกลับไปยังเหล่าทหารมากมาย"คนเหล่านี้หนีทหารแล้วยังแก้ตัวได้อย่างเหลวไหลที่สุด,ไม่สามารถอภัยพวกมันได้เด็ดขาด!หนีทหารและไม่ฟังคำสั่งของผู้บัญชาการ,ข้าขอลงโทษฉู่เทียนตามกฏของทหาร!"

จะมีคนมากมายเท่าไหร่ก็ตามที่หนีไปจากสนามรบก่อนหน้า?

ทว่า,ซ่างกวนเฟิยเฉินไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย!

นี่คือโอกาสดีแล้ว!

หนานกงหยุนเป็นคนของตระกูลหนานกง,แม้ว่าจะเป็นเพียงตระกูลสาขา,ทว่าเขาก็ยังต้องไว้หน้า,เฟิงไฉ่เตี๋ยเป็นธิดาของโหวเยว์วายุเทพ,ดังนั้นเขาไม่สามารถแตะต้องได้,หยุนเหยาเองก็เป็นตระกูลใหญ่ของรัฐกลาง,ซ้ำสำนักเมฆาเองก็มีชื่อเสียงไปทั่วอาณาจักรหนานเซีย,เขาไม่สามารถแตะต้องได้เช่นกัน.

มีเพียงแค่ฉู่เทียนที่ต้องตาย!

ชายผู้นี้กล้าทำร้ายคนของเขาที่เป็นเหมือนมือขวาและมือซ้ายไป,ซ้ำยังทำให้ตระกูลซ่างกวนต้องขายหน้าเป็นอย่างมาก!

ส่วนหญิงชุดดำนั่น..แปลก,ทำไมเขาไม่เคยเห็นมาก่อน?ไม่ว่าอย่างไร,จะสังหารเพิ่มไปอีกคนจะมีปัญหาอะไร!

ขณะที่ซ่างกวนเฟยเฉินกำลังจะสั่งให้เหล่าทหารพุ่งเข้าจับกุม.

ตูมมมม!

บุปผาเหมันตร์ก็กระแทกไปยังม้าศึกของซ่างกวนเฟยเฉิน,น้ำแข็งที่กัดกินแปรเปลี่ยนให้มันกลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็งม้าศึกในทันที,ก่อนที่จะระเบิดออกมาอย่างรุนแรง,เลือดเนื้อและโลหิตแตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ,ซ่างหวนเฟยเฉินที่กระเด็นกระแทกลงไปบนพื้นในทันที.

"เจ้า...."

ซ่างกวนเฟยเฉินไม่คาดคิดเลยว่าหญิงสาวชุดดำคนนี้แข็งแกร่งถึงขนาดนี้.

ฝ่ามือของเฉินปิงยวีที่สะท้อนแสงระยิบระยับ,มีบุปผาเหมันตร์มากมายที่ล่วงหล่นลงมาอย่างนุ่มนวล,จิตสังหารที่รุนแรงกำลังแผ่ออกไปจนทั่ว...ราวกับว่านางกำลังจะสังหารทุกๆคนให้ตกตายไป!

ด้วยความแข็งแกร่งของเฉินปิงยวีนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงอย่างแน่นอน.

หากว่ากลุ่มทหารวายุเหล่านี้ก้าวออกมาด้านหน้าล่ะก็,บางทีคงจะถูกสังหารไปในทันที,ตอนนี้ไม่มีทางที่พวกเขาจะสามารถจัดการนางได้,แม้แต่เอ่ยชื่อของพวกนางออกมาพวกเขาทั้งหมดคงจะถูกสังหารให้ตกตายไปในทันที.

ซ่างกวนเฟิยเฉินที่กล่าวออกมาอย่างตื่นตะลึง"ฉู่เทียน!เจ้ากล้า,เจ้ากล้าส่งคนมาขัดขวางกองทัพของอาณาจักร,การกระทำของเจ้ามันไม่ต่างกับกบฎเลย?"

หนีทหาร.

กบฏ


ทักษะใส่ร้ายคนอื่นของคนผู้นี้มันเกินจะรับได้จริงๆ.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น