วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 222 Swallows the abyss fire!

Miracle Throne Chapter 222 Swallows the abyss fire!

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 222 กลืนกินอสุรากายอัคคีโลกันตร์


บทที่ 222 กลืนกินอสุรากายอัคคีโลกันตร์




"หุ่นเชิดวิญญาณ?"

ฉู่เทียนรู้จักสิ่งของที่จิ้งจอกน้อยกำลังใช้อยู่,มันเป็นสมบัติวิเศษที่ล้ำค่าและพิเศษเป็นอย่างมาก,มันสามารถใช้แทนร่างกาย,ใช้เป็นพาหานะบรรจุดวงวิญญาณได้,เมื่อจิ้งจอกน้อยนำดวงวิญญาณของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ใส่ลงไปในหุ่นเชิดดังกล่าวแล้ว,มันก็จะกลายเป็นหุ่นเชิดวิญญาณ? เห็นได้ชัดว่าจิ้งจอกน้อยกำลังดูดดวงวิญญาณของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ลงไปในหุ่นเชิด.

จิ้งจอกน้อยบังคับให้หุ่นเชิดลอยขึ้นไปบนอากาศอย่างรวดเร็ว.


ดวงวิญญาณของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ถูกดูดออกมา,ก่อนที่จะกลายเป็นลำแสงถูกผนึกลงไปด้านใน,ตอนนี้มันกำลังเปลี่ยนรูปร่าง,อสุรกายอัคคีโลกันตร์ขนาดเล็กกว่าเดิมปรากฏขึ้นต่อสายตาของทุกคน.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่ถูกอัญเชิญมานี้,ไม่ได้มีจิตสังหารเหมือนต้นแบบ,หากแต่กลิ่นอายที่มันปลดปล่อยออกมานั้น,น่าพรั่นพรึงอย่างแน่นอน,เป็นระดับที่โหวเยว์ทั้งแปดของหนานเซี่ยยังไม่กล้าที่จะต่อกรด้วย.

สิ่งสำคัญที่สุดนั้น.

หุ่นเชิดอสุรกายอัคคีโลกันตร์ตัวนี้ไม่มีเชาว์ปัญญา.

มันเป็นเพียงหุ่นเชิดที่ถูกควบคุมโดยจิ้งจอกน้อยเท่านั้น.

เฟิงไฉ่เตี๋ยและหนานกงหยุนที่ตื่นตะลึงอย่างรุนแรง,นี่เป็นเป็นอาคมแบบใดกัน,สามารถที่จะกักดวงวิญญาณของอสุรกายอัคคีโลกันตร์,และยังสามารถอัญเชิญมันกลับมาได้ด้วย!

จิ้งจอกน้อยที่เต้นไปมาอย่างมีความสุข,ร้อง"คู คู"ออกมาหลายครั้ง.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ถูกปลดอาคมกลายเป็นหุ่นเชิดในทันที,พร้อมกับถูกเก็บ,มันเร่งรีบเก็บไว้ในท้องของมันอย่างรวดเร็ว.

ฉู่เทียนสีคางไปมา.

เป็นวิชาอสูรหนึ่งในคาถาโบราณของเผ่าสัตว์อสูรยุคบรรพกาล.

จิ้งจอกน้อยที่อยู่กับฉู่เทียนมาเป็นเวลานาน,ทักษะต่างๆของมันก็ค่อยๆตื่นขึ้นมาอย่างงั้นรึ?

ฉู่เทียนได้สอบถามออกไป"เจ้าพยายามซ่อนคะแนนการเข้าทดสอบหอคอยโบราณ,เพื่อที่จะแลกกับหุ่นเชิดนี้นะรึ?"

จิ้งจอกน้อยพยักหน้าอย่างมีความสุข,ท่าทางจริงจังเป็นอย่างมาก.

"แล้วทำไมเจ้าไม่บอกข้าตั้งแต่แรกกัน!"ฉู่เทียนที่เขกกะโหลกของมันหนึ่งที"เจ้าคิดว่าข้าจะไม่ยอมให้เจ้าแลกมันรึอย่างไร?"

จิ้งจอกน้อยที่เผยท่าทางว่า ใครจะเชื่อท่านกัน!

ฉู่เทียนที่กล่าวต่อ"นี่คืออาคมอัญเชิญดวงวิญญาณ,ดูเหมือนว่าจะเป็นวิชาของอสูรโบราณ,ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าตัวเล็กนี้จะสามารถใช้วิชาดังกล่าวได้,หากเป็นเช่นนั้น,ทำไมเจ้าถึงได้รีบเก็บอสุรกายอัคคีโลกันตร์ซะล่ะ?"

จิ้งจอกน้อยที่แสดงภาษามือบุ้ยใบ้ไปมาหลายครั้ง.

อาคมอสูรที่จิ้งจอกน้อยใช้นั้นมีข้อจำกัดอยู่.

หุ่นเชิดวิญญาณนั้นเป็นเพียงศาสตราวิญญาณระดับดีเยี่ยมเท่านั้นเป็นอุปกรณ์ในการกักเก็บดวงวิญญาณ,เพราะว่าอสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่เพิ่งจะตายไปใหม่ๆ,ดวงวิญญาณยังไม่ออกจากร่าง,ยังมีพลังงานที่สดใหม่,และจะทำให้สามารถใช้ไปได้อีกนาน.

เมื่ออสุรกายอัคคีโลกันตร์ถูกสังหาร,ดวงวิญญาณยังไม่ออกจากร่างไป,ทำให้จิ้งจอกน้อยสามารถที่จะดึงมันออกมาได้ในทันที,แต่ถึงกระนั้นก็สามารถเก็บรักษาได้แค่เพียงสองเดือนเท่านั้น.

เมื่อดวงวิญญาณเหือดแห้งไปแล้ว,ดวงวิญญาณดวงนี้ก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้.

ส่วนเจ้าอสุรกายอัคคีโลกันตร์นี้จิ้งจอกน้อยสามารถเรียกออกมาได้แค่ 3-4 ครั้งเท่านั้น,แค่นำออกมาทดสอบก็ใช้ไปแล้วหนึ่งครั้ง,ตอนนี้จึงสามารถเรียกออกมาได้แค่สามครั้งเท่านั้น,เพราะยิ่งใช้พลังวิญญาณของมันก็ยิ่งลดลง,ดังนั้นจิ้งจอกน้อยจึงไม่ต้องการที่จะใช้!

มูลค่าของหุ่นเชิดวิญญาณไม่ใช่ถูกๆอย่างแน่นอน.

แต่ถึงกระนั้น,พลังของหุ่นเชิดวิญญาณตนนี้,การที่จิ้งจอกน้อยแลกเปลี่ยนมันมา ก็ดูคุ้มค่าเลยทีเดียว.

อย่างน้อยที่สุด,หุ่นเชิดวิญญาณที่จิ้งจอกน้อยมีนั้น,ก็เป็นดวงวิญญาณของอสุรกายอัคคีโลกันตร์,มันมีพลังของผู้เชี่ยวชาญระดับปลุกดวงจิตระดับ 9 ขั้นสุดเลยทีเดียว!

"เอาล่ะข้าจะไม่เอาเรื่องกับเจ้าคราวก่อนก็ได้."ฉู่เทียนที่ว่ากล่าวต่อจิ้งจอกน้อยตัวร้าย"แต่อย่าทำเช่นนั้นอีกเด็กขาด!"

จิ้งจอกน้อยที่พยักหน้าอย่างเจ้ามีเชาว์,ส่วนในใจของมันนั้น,ใครจะรู้ล่ะ!

หนานกงหยุนที่สำรวจกองศิลาขนาดมหึมา"แล้วพวกเราจะทำอะไรกับเจ้าปิศาจร้ายนี้ล่ะ?"

"นี่คือวัตถุดิบจากพิภพโลกันตร์,มีพลังเพลิงโลกันตร์ที่มีอายุหลายพันปี,เป็นวัตถุดิบที่ยอดเยี่ยม,ต้องนำกลับไปอย่างแน่นอน."

ทุกๆคนต่างก็เห็นด้วย.

พลังของเฉินปิงยวีนั้นน่าพรั่นพรึงเพียงใด?

ด้วยฝ่ามือเต็มกำลังของนางก่อนหน้านี้,ยังไม่ระคายผิวหนังมันเลยแม้แต่น้อย.

สามารถเห็นได้ด้วยตา,ว่าผิวหนังด้านนอกของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ตนนี้แข็งแกร่งเพียงใด,ศิลาดังกล่าวนั้นมีพลังป้องกันที่เหนือล้ำ,ไม่ฉีกขาดง่ายๆ,สามารถที่จะทนการเผาไหม้ของเปลวเพลิงสีเขียวได้ปีแล้วปีเล่า,โดยที่ไม่ถูกหลอมละลาย,ด้วยคุณสมบัติทนความร้อนและยังมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษอีกด้วย.

"ศิลาเหล่านี้คือของตอบแทนที่ยอดเยี่ยม."ฉู่เทียนกล่าวออกมาอย่างลึกล้ำ"ข้าไม่ลังเลยที่ต้องเสี่ยงเดินทางมายังรัฐสายฟ้าแห่งนี้,ที่จริงแล้วเป็นเพราะเจ้าอสุรกายอัคคีโลกันตร์ตนนี้ล่ะ."

อสุรกายอัคคีโลกันตร์จากพิภพโลกันตร์นั้นไม่ใช่อสุรกายทั่วไปอย่างแน่นอน.

พิภพโลกันตร์นั้นต่างก็เต็มไปด้วยอสุรกายที่น่าพรั่นพรึงมากมายนับไม่ถ้วน,นับเป็นสิ่งมีชีวิตจากมิติอื่น,เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ไม่สามารถที่จะไปสำรวจได้,ดังนั้นการที่มีสิ่งมีชิวิตจากพิภพโลกันตร์โผล่มาอาจจะเป็นเพียงแค่เรื่องที่แสนจะบังเอิญเท่านั้น,เป็นเรื่องที่หายากเป็นอย่างมาก.

มูลค่าของอสุรกายอัคคีโลกันตร์จึงนับว่าเป็นวัตถุดิบที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์นับเป็นวัตถุดิบจากพิภพโลกันตร์ที่ฉู่เทียนสนใจเป็นอย่างมาก,และด้วยคุณสมบัติเพลิงธาตุความมืดของหัวใจอสูรนั้นก็ยิ่งมีคุณภาพสูงมาก.

ดินแดนพิภพโลกันตร์นั้นมีสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายยิ่งนัก

พิภพโลกันตร์เป็นโลกที่วุ่นวายเป็นอย่างมาก,เป็นดินแดนที่กว้างใหญ่ไพศาลที่ยังคงเหลือสภาพตั้งแต่ยุคบรรพกาล.

ทำให้ดินแดนพิภพโลกันตร์นั้น,มีสมบัติที่เกิดขึ้นเองในธรรมชาติมากมาย,แม้แต่ร่างแห่งชีวิตที่สามารถดูดซับพลังชีวิต,และยังมีวัตถุที่สามารถเกิดเป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นเองได้,อสุรกายอัคคีโลกันตร์เองก็เป็นปิศาจที่เกิดจากวัตถุธาตุเปลวเพลิง.

หากแต่สิ่งมีชีวิตตนนี้ไม่เหมือนกับเผ่าธาตุแห่งชีวิตมันไม่สามารถแบ่งร่างกายเพื่อสืบพันธ์ได้,มันเป็นเพียงแค่แก่นของธาตุที่สะสมกลิ่นอายที่รุนแรงของพิภพโลกันตร์ทำให้มีชีวิตขึ้นมา,เป็นเหมือนกับเมล็ดธาตุของเปลวเพลิงที่ได้รับสารอาหารแล้วเจริญเติบโตจนกลายเป็นสิ่งมีชีวิต.

ดังนั้นเมื่อเมล็ดธาตุเปลวเพลิงสะสมกลิ่นอายของพิภพโลกันตร์เป็นจำนวนมากจนเพียงพอแล้ว,มันก็จะเริ่มมีจิตสำนึกขึ้นมาอย่างช้าๆ,จนเติบโตขึ้นมาเรื่อยๆ,วิวัฒนาการตลอดจะสามารถดูดซับพลังงานไปทั่วดินแดนและยังสามารถสร้างอุกกาบาติเพลิงได้อีกด้วย.

หลังจากที่อสุรกายอัคคีโลกันตร์ถูกสังหารไปแล้ว,มีเพียงแค่สติและพลังของมันที่หายไป,ทว่าเมล็ดแห่งเปลวเพลิงนั้นยังอยู่ไม่หายไปใหน,ซึ่งด้วยการถูกหล่อเลี้ยงชีวิตจากอสุรกายอัคคีโลกันตร์มาปีแล้วปีเล่าจึงทำให้มันแข็งแกร่งมาก.

ส่วนหัวใจอสูรนั้น,คือประตูแห่งชีวิตของอสุรกายที่ทำการเชื่อมชีวิตกับเมล็ดแห่งเปลวเพลิง.

สิ่งแวดล้อมภายในพิภพโลกันตร์นั้นเลวร้ายเป็นอย่างมาก,ทุกสิ่งมีชีวิตมีเพียงอย่างเดียวคือต้องขวนขวานเอาชีวิตรอด,พวกมันจะทำทุกวิถีทางเพื่อทำให้ฝ่ายตรงข้ามอ่อนแอลง,เพราะการจะสังหารกันนั้นเป็นงานที่ยากลำบากมาก,พวกมันจะลอบโจมตีกันและกัน,ตอดเล็กตอดน้อยจนสามารถที่จะสังหารฝ่ายตรงข้ามได้,กว่าที่มันจะสังหารฝ่ายตรงข้ามเพื่อที่จะสามารถกลืนกินฝ่ายตรงข้ามให้ได้นั้นนับว่าลำบากเป็นอย่างมาก.

เหตุผลดังกล่าวนั้น.

เป็นเพราะอสุรกายทุกตนล้วนแล้วแต่มีความสามารถพิเศษ,พวกมันสามารถที่จะรวบรวมพลังมาได้จากแก่นชีวิต,พลังชีวิต,ดวงจิตและดวงวิญญาณ,ทุกอย่างอยู่ในแก่นกลาง,ตราบเท่าที่แก่นกลางไม่ถูกทำลายไป,ถึงแขนจะขาดก็ยังมีชีวิต,ถึงขาขาดก็ไม่มีผล,หรือแม้แต่หัวขาดมันก็ยังมีชีวิตอยู่.

และแก่นของมันก็คือหัวใจอสูรนั่นเอง.

เมื่อฉู่เทียนนำศิลาทั้งหมดใส่ลงไปในน้ำเต้าอู๋จี้,เขาก็สามารถพบชิ้นส่วนหัวใจอสูร 4-5 ชิ้น,ฉู่เทียนเผยท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก,อสูรตนนี้ไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด,ทว่าด้วยฉู่เทียนในตอนนี้,นับว่าเกินพอแล้ว.

นอกจากนี้เขายังพบเข้ากับศิลาผลึกสีเขียวอัมพัน.

นี่ไม่ใช่ศิลาผลึกทั่วไปแต่เป็นผลึกเปลวเพลิงที่มีคุณภาพสูง,นี่คือเม็ดเปลวเพลิงแหล่งพลังของอสุรกายอัคคีโลกันตร์นั่นเอง.

เมล็ดของอสุรกายอัคคีโลกันตร์มีพลังที่น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก,มีพลังแห่งความมืดที่อัดแน่นอยู่,และสิ่งที่สำคัญที่สุดพลังของอสุรกายอัคคีโลกันตร์,เหมาะสมเป็นอย่างมากที่จะเป็นวัตถุดิบที่จะนำมาใช้ฝึกฝนวิชา <<กระบี่เพลิงอเวจี>>ของฉู่เทียน!

ด้วยการกลืนกินพลังดังกล่าวนี้,จะทำให้เพลิงกระบี่อเวจีสำเร็จถึงขั้นประสบผลที่ยิ่งใหญ่เป็นเอกลักษณ์(3)ได้!
 ที่จริงแล้วโหวเยว์วายุเทพได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ของรัฐสายฟ้าในระดับหนึ่งมา,ทำให้ฉู่เทียนสามารถบอกได้ถึงถึงตัวตนของอสุรกายโลกันตร์,เมล็ดเปลวเพลิงคือสิ่งที่เขาต้องการจึงทำให้เขาไม่ลังเลเลยที่จะเข้าร่วมภารกิจในครั้งนี้,แทบจะเป็นเหตุผลหลักเลยทีเดียว!

<<กระบี่เพลิงอเวจี>>เป็นกระบี่ที่ถูกเก็บมาจากสุสานศพทมิฬหมื่นปี,และยังมีวิชาลับที่ตกทอดปรากฏขึ้นมาด้วย,เป็นเพลงกระบี่ที่ร้ายกาจเป็นอย่างมาก,ด้วยการฝึกฝนของฉู่เทียน,และพยายามปรับแต่งเรื่อยมา,ตอนนี้มันได้กลายเป็นเพลงกระบี่ที่เหนือล้ำกว่าเมื่อก่อนหลายเท่าแล้ว.

ทรัพยากรในการฝึก<<กระบี่เพลิงอเวจี>>นั้นเหนือล้ำกว่า<วิชากายานิรันดร์โอบแสงดารา>เป็นอย่างมาก,นอกจากนี้การฝึกฝนยังยากกว่ากันอีกด้วย,การที่ฉู่เทียนมีโอกาสที่จะพัฒนาครั้งใหญ่เช่นนี้,มีเหรอที่เขาจะยอมถอดใจ?

ยิ่งเสียงก็ยิ่งคุ่มค่า!

"พวกเจ้าช่วยคุ้มกันข้าด้วย."ฉู่เทียนที่ชักกระบี่ออกมา"ข้าต้องการที่จะดูดซับแก่นเปลวเพลิงตอนนี้!"

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่ตายไป,เมล็ดเปลวเพลิงก็จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ,หากว่าเขานำกลับไปค่อยหลอมรวมล่ะก็คงจะไม่เหลือพลังแล้ว,ดังนั้นเขาจึงต้องหลอมรวมมันเลยในตอนนี้!

ฉู่เทียนที่วางเมล็ดเปลวเพลิงลงไปบนพื้น,ก่อนที่จะปลดปล่อยเปลวเพลิงสีน้ำเงินเข้มลุกโชนคลุมคมกระบี่,"เปลวเพลิงของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ไม่ได้ด้อยไปกว่าเปลวเพลิงปิศาจอเวจีเลยแม้แต่น้อย,ซ้ำคุณภาพยังเหนือกว่าด้วยซ้ำ,ในเวลานี้ข้าคงจะสามารถทนพลังดังกล่าวนี้ได้แล้ว."

ทันทีที่กล่าวจบ.

ฉู่เทียนทิ่มกระบี่ลงไปในเมล็ดแห่งเปลวเพลิงในทันที!

เสียงโหยหวนของเมล็ดเปลวเพลิงที่แผ่กระจายออกไป,ความหวังของอสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่จะฟื้นชีพกลับมา ถูกบดขยี้ไปในที่สุด,พลังที่มากมายมหาศาลกำลังแผ่ปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง,ก่อนที่จะกวาดไปทุกทิศทุกทาง!

เปลวเพลิงสีเขียวที่อยู่ภายในเมล็ดแห่งเปลวเพลิง,กำลังไหลเข้ามาสู่กระบี่อย่างช้าๆ.

ฉู่เทียนสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความตื่นเต้นยินดีของกระบี่อเวจี,เหตุผลที่มันตื่นเต้นนั้นเพราะมันได้สวาปามพลังที่แข็งแกร่ง,หากว่ามันสามารถกลืนกินพลังดังกล่าวนี้ล่ะก็,กระบี่อเวจีก็จะสามารถฟื้นฟูพลัง,จนกลายเป็นศาสตราวิญญาณสื่อสารดวงจิตได้,เหตุผลที่มันยินดี,เป็นพระว่าพลังดังกล่าวนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าพลังดั้งเดิมของมันเลย,เมื่อกลืนกินพลังดังกล่าวไปได้ทั้งหมดก็จะสามารถจุดเพลิงโลกันตร์ขึ้นมาได้,บวกกับเพลิงปิศาจอเวจี,ซึ่งก็จะทำให้พลังสองสายที่พันเกลียวกัน,ร่วมพลังกัน,ทำให้พลังทำลายรุนแรงเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม.

ด้วยคุณภาพแล้ว,เพลิงโลกันตร์สีเขียวไม่ได้ด้อยไปกว่าเพลิงปิศาจอเวจีสีขาวน้ำเงินเลย.

เพลิงปิศาจอเวจีได้ตื่นขึ้นมาแล้วดังนั้นตอนนี้มันได้กลายเป็นภูติของกระบี่อเวจีเรียบร้อยแล้ว.

ส่วนเปลวเพลิงโลกันตร์สีเขียวก็ตื่นขึ้นมาด้วยเช่นกัน,ตอนนี้มันก็ได้พัฒนาการเป็นภูติปิศาจโลกันตร์ที่น่าพรั่นพรึงเช่นกัน.

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทั้งภูติปิศาจเพลิงโลกันตร์ก็ดี,มันสามารถที่จะฝึกฝนและพัฒนาขึ้นมาได้อีก,จากประสิทธิ์ภาพของมันแล้วดูเหมือนว่าจะแข็งกว่าภูติปิศาจเพลิงอเวจีซะอีก!

อย่างไรก็ตามภูติเพลิงโลกันตร์นั้นยังอยู่ในสภาวะอ่อนแอซึ่งมีกระบี่อเวจีตอนนี้ก็เป็นเหมือนกับที่สิ่งสถิตของภูติทั้งสองตน,ดังนั้นเปลวเพลิงดังกล่าวจึงได้เข้ามายืดครองอีกซีกหนึ่งของกระบี่.

กระบี่อเวจีตอนนี้สามารถที่จะดูดซับเปลวเพลิงอเวจีเข้ามาได้แค่ครึ่งเดียวเท่านั้นเอง.

อย่างไรก็ตามเปลวเพลิงอเวจีที่มีมากมายจนเกินไปที่ไม่สามารถผนึกไว้ในกระบี่อเวจี,มีพลังที่ล้นออกมาเป็นจำนวนมาก,กระบี่อเวจีที่ไม่สามารถดูดซับมันได้อีกต่อไปแล้ว,กลิ่นอายที่มากมายส่วนที่เหลือตอนนี้มันกำลังถูกเปลี่ยนให้เป็นพลังอย่างอื่นอย่างช้าๆ.

กระบี่อเวจีที่กำลังสั่นสะท้านไม่หยุด!

หลังจากปรับเปลี่ยนให้เป็นพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์แล้วก็ถูกส่งมายังร่างของฉู่เทียน.

พลังส่วนที่เหลือของเพลิงโลกันตร์ได้ถูกปรับเปลี่ยนโดยกระบี่อเวจี,ให้กลายเป็นพลังจิตวิญญาณ,และส่งมายังร่างกายของฉู่เทียน,ทำให้พลังวิญญาณของฉู่เทียนกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างมหาศาล,มันมีมากมายเพียงพอที่จะทะลวงคอขวดของฉู่เทียนได้เลยทีเดียว.

ฉู่เทียนเผยท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก.

พลังจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์เป็นอย่างมาก,ทำให้เขาสามารถที่จะทะลวงไปยังระดับปลุกดวงจิตได้เลย!

เป็นเรื่องธรรมดาเป็นอย่างมาก,ด้วยพลังที่แข็งแกร่งของอสุรกายอัคคีโลกันตร์,หลังจากที่ฉู่เทียนดูดซับพลังดังกล่าวแล้ว,ทำให้คอขวดในตอนนี้ได้ถูกทะลวงไปอย่างรวดเร็ว!



ปล.*** Soul Communication Tool  คือศาสตราวิญญาณ ที่ปลุกดวงจิตวิญญาณขึ้นมาแล้ว,เหมือนกับผู้เชี่ยวชาญระดับปรุงร่างที่สามารถปลุกดวงจิตขึ้นมา สรุป ศาสตร์วิญญาณที่มีภูติวิญญาณสิงสู่และสื่อสารกับผู้เป็นนายได้.


ภูติวิญญาณของฉู่เทียนตอนนี้มี 4 ตนแล้วของตัวเอง 2 ตน และของกระบี่อเวจี 2 ตน
ภูติวิญญาณหลัก,เทพบรรพกาลสิบตา.
ภูติวิญญาณรอง,กระบี่เทพมาร.

ภูติวิญญาณของกระบี่อเวจี,ภูติปิศาจอเวจี,ภูติเพลิงโลกันตร์.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น: