วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

Immortality Chapter 6 Red Luan Heavenly Scripture

Immortality Chapter 6 Red Luan Heavenly Scripture

นิยาย เรื่อง อมตะ ตอนที่ 6 เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน.


บทที่ 6 เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน.





ตะวันสาดแสงในวันถัดมา.

เหล่าเยว่จื่อจงที่กำลังนอนหลับอยู่บนกองใบไม้หนาในป่าแห่งหนึ่ง,กระบี่ยาวที่กำลังสั่นชี้ไปยังคอของเขา,เจ้าของกระบี่ก็คือเทพธิดาจื่อซวินนั่นเอง.

ในตอนเช้า,เทพธิดาจื่อซวินที่ตื่นขึ้นมาก่อน,นางพบว่านางอยู่ในอ้อมกอดของชายชรา,พร้อมกับรู้สึกเจ็บปวดที่ส่วนล่างของร่างกาย,นางที่เร่งรีบแต่งตัวอย่างรวดเร็ว,พร้อมกับยกกระบี่ขึ้นมาชี้ไปที่ลำของของชายแปลกหน้าด้านหน้า.


จวบจนถึงตอนนี้,เทพธิดาจื่อซวินยังไม่รู้ชื่อของชายผู้นี้เลย.น้ำตาที่หลั่งไหลออกมาจากตาของนาง,ขณะที่นางกัดริมฝีปากแน่น,ความตื่นตกใจในตอนแรกได้หายไปหมดแล้วและนางที่ลังเล,นางควรที่จะแทงกระบี่ไปยังร่างชายชราคนนี้ใหม?

จ้องมองโลหิตของนางที่ชโลมไปทั่วร่างกายของชายชรา,เทพธิดาจื่อซวินก็ไม่มีกระจิตกระใจที่จะปลิดชีวิตเขา,นางที่เพ่งพิศไปยังชายคนดังกล่าว,คนผู้นี้มีพื้นฐานพลังที่อ่อนแอ,และไม่มีทางที่จะประสบความสำเร็จในอนาคตได้,บางที,อีกไม่นานเขาก็จะต้องตาย,ควรที่จะปล่อยให้เขาตายไปเองดีกว่า,ชีวิตของปุถุชนนั้นช่างแสนสั้น,มีชีวิตไม่นานก็ตายแล้ว,ไม่ว่าอย่างไร,เขาก็ได้ช่วยเหลือนาง.

เทพธิดาจื่อซวินถอนหายใจพร้อมกับกวาดตามองชายชราอีกครั้ง,ก่อนที่จะกระทืบเท้าบนพื้น,สร้างเมฆสีม่วงก่อนที่จะพานางเหินขึ้นฟ้าจากไป.

ทว่าจู่ๆนางก็ชะโงกหันหลังกลับมามอง,พร้อมกับโบกมือ,เสื้อผ้าของเหล่าเยว่จื่อจงลอยขึ้นไปคลุมร่างกายเขาไว้ในทันที,เหล่าก้อนกรวดมากมายถูกเคลื่อนที่ลอยประจำตำแหน่งรอบๆร่างกายของเขา,พร้อมกับกลายเป็นค่ายกลป้องกันเหล่าแมลงพิษและยุงพิษทันที,เทพธิดาจื่อซวินไม่เข้าใจทำไมถึงต้องทำเช่นนั้นด้วย,ภายในความทรงจำนั้นนางไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน,นางกลับกลายเป็นว่าไม่ต้องการให้เขาต้องตายไปด้วยแมลงหรือสัตว์มีพิษอย่างงั้นรึ? ทำไม? นางถึงต้องช่วยเขาด้วยล่ะ?

ความรู้สึกมากมายผสมปนเป,พริบตาเดียวเทพธิเดาจื่อซวินก็หายไปกับหมู่มวลเมฆา.

เหล่าเยว่จื่อจงที่ไม่ได้ตื่นขึ้นมาอีกเลยจนกระทั่งถึงตอนบ่าย,ขณะที่เขาตื่นขึ้นมา,เขาก็พบว่าร่างกายที่เปลือยเปล่าถึงกับตะลึงงัน,เร่งรีบสวมชุดในทันที,เขาขมวดคิ้วกวาดตามองโลหิตที่โชลมไปทั่วร่างและทันใดนั้นก็นึกขึ้นมาได้ในทันที.

เทพธิดาจื่อซวิน?

นางได้จากไปนานแล้ว,เหล่าเยว่จื่อจงที่เต็มไปด้วยความคิดมากมาย,ภายในใจของเขา,เต็มไปด้วยความอยากรู้ในตัวของเทพธิดาจื่อซวิน,สำนักไคหยาง,ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้กัน?

หลังจากที่แต่งตัวเสร็จ,เขาที่หยิบไม้เท้ามังกรซึ่งโชคดีที่ยังอยู่,ซึ่งที่ด้านบนของไม้เท้ามังกรนั้น,มีสมบัติวิเศษของเขาอยู่,เป็นมุกสีแดงบนไม้เท้ามังกรนั่นเอง.

หลังจากที่เก็บมันเสร็จแล้ว,เหล่าเยว่จื่อจงที่มองไปรอบๆ,ที่ห่างออกไปนั้นปรากฏเศษชิ้นส่วนที่แตกหักของดาบสั้นวิเศษเล่มหนึ่งไม่ไกลออกไป.

เศษดาบวิเศษอย่างงั้นรึ?เหล่าเยว่จื่อจงที่เดินตรงไป,ดูเหมือนว่าเทพธิดาจื่อซวินนั้นจะไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยเพราะว่ามันเป็นเพียงอาวุธที่แตกหักรึอย่างไร.

เพลิงเทียนเหล่ยที่สามารถเผาไหม้มารเฒ่าหงหลวนจนกลายเป็นเถ้าถ่าน,ทว่ากลับไม่สามารถเผ่ามีดอาคมนี้ได้อย่างงั้นรึ?

เหล่าเยว่จื่อจงเริ่มพิจารณาสิ่งของดังกล่าว,เข้าไม่เชื่อว่ามีดอาคมนี่,เป็นของตกทอดมาหลายรุ่น,จะเป็นเพียงแค่สัญลักษณ์ดูต่างหน้าเท่านั้น.

เป็นความจริงที่มันสามารถทนเพลิงเทียนเหล่ยได้,แสดงว่าต้องสร้างมาจากวัตถุดิบที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,ดังนั้น,อาจจะเป็นอาวุธวิเศษ,ทว่าเหล่าเยว่จื่อจงไม่รู้ว่าการที่มันสามารถทนเพลิงเทียนเหล่ยได้นั้นเป็นเพราะว่ามัน,มีอะไรผสมอยู่ด้านในหรือไม่,ทว่ามีดเล่มนี้อาจจะมีวิธีใช้งานอยู่.

ก่อนที่จะทำการตรวจสอบมีดดังกล่าวทุกตางรางนิ้ว,ขณะที่ทำการตรวจสอบนั้น,ที่ด้ามที่หุ้มด้วยหนังสัตว์นั้น,บนหนังสัตว์มีอักษรที่สลักเอาไว้อย่างสวยงามว่า"หงหลวน"
  
เหล่าเยว่จื่อจงที่เริ่มแกะเลาะที่หุ้มของมันออกมาอย่างระมัดระวัง,ด้วยมีดเล็กในกระเป๋า,สำนักหงหลวน,ที่เห็นมันเป็นของสืบทอดจากบรรพชน,จะเป็นใครคงจะไม่กล้าที่จะทำลายมันเช่นนี้เหมือนกับที่เหล่าเยว่จื่อจงทำ?

จากนั้นไม่นานนัก,สายตาของเหล่าเยว่จื่อจงต้องเผยความประหลาดใจออกมา,มีดดังกล่าวนี้ไม่ใช่มีดธรรมดาเลย,นี่คือสมบัติล้ำค่า,ทว่าเพียงแต่ไม่มีคนคิดที่จะตัดที่หุ้มของมันออกมาเลยอย่างงั้นรึ?

เหล่าเย่วจื่อจงที่ค่อยๆแกะทุกสิ่งทุกอย่างออกไป,หลังจากผ่านไปสี่ชั่วโมง,ท้ายที่สุดก็สามารถตัดหนังสัตว์ออกมาได้.

ที่ด้านในนั้น,ถูกหุ้มด้วยผ้าไหมผืนเล็กๆ.

ผ้าเช็ดหน้า?เหล่าเยว่จื่อจงที่รู้สึกดีใจขึ้นมาในทันที,เขาได้พบเข้ากับสมบัติล้ำค่าแล้ว.

เขาที่แกะผ้าเช็ดหน้านั้นออกมาในทันที,ที่ด้านในนั้นมีตัวอักษรขนาดเล็กมากมายบรรจุอยู่.

จวบจนถึงวันนี้,เหล่าเยว่จื่อเองก็ศึกษาเรียนรู้ทั้งภาษาอ่านเขียนต่างๆมากมาย,แน่นอนว่าเขาจะต้องสามารถอ่านพวกมันได้.

เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน.

เคล็ดวิชาหงหลวนเทียน?

เพียงแค่อ่านอักษรสี่ตัวแรกเท่านั้นก็ทำให้เขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น,ซึ่งยังมีอักษรต่างๆอีกกว่าแปดหมื่นตัว.
เห็นเช่นนี้แล้ว,ทำให้ภายในใจของเหล่าเยว่จื่อจงเต้นระส่ำ,เคล็ดวิชาลับ,นี่คือเคล็ดวิชาลับ,ในอดีตเขาพยายามที่จะหาซื้อมันมาให้ได้สักอย่างหนึ่ง,คาดไม่ถึงเลยว่าตอนนี้กลับพบเข้าโดยบังเอิญ.

ในเวลานี้เขาก้าวไปถึงระดับเซียนเทียน,ทำให้ความจำเขายอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก,เขาที่พบหุบเขาที่เหมาะแห่งหนึ่งใช้เวลาสามวันในการจดจำตัวอักษรทั้งแปดหมื่นอักษรจนขึ้นใจ,จากนั้นก็ใช้เวลาอีกสามวันท่องอักษรทั้งหมดอีกครั้งและอีกครั้ง,เกรงว่าเขาจะลืมมันไป,เหล่าเยว่จื่ยังใช้เวลาทบทวนอีกห้าวันเพื่อที่จะท่องย้อนกลับ,อีกสามวันท่องทบทวน,ทั้งท่องไปด้านหน้าและกลับหลัง,จวบจนมันสามารถสลักเอาไว้ในความทรงจำของเขาแล้ว,หลังจากนั้น,เหล่าเยว่จื่อจงก็ได้เผาผ้าเช็ดหน้านั้นทิ้งไป.

เคล็ดวิชาหงหลวนเทียนนั้น,เป็นเคล็ดวิชาที่ลึกล้ำ,มันไม่ใช่วิชาในการต่อสู้,ทว่าเป็นวิชาลับสุดยอด,ที่เหนือธรรมชาติ,พลังจิต?
念力 Niànlì  พลังจิต,พลังแห่งความมุ่งมั่น


เหล่าเยว่จื่อจง,ไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสำคัญของพลังจิตนัก,นี่คงจะเป็นวิชาดั้งเดิมของพวกเขา,ทว่าสำนักของพวกเขาคงจะไม่ได้ฝึกวิชานี้กัน,เคล็ดวิชาหงหลวนเทียนนั้นทรงพลังลึกลับเป็นอย่างมาก,เกี่ยวกับวิชานี้,เหล่าเยว่จื่อจงไม่รู้เหมือนกันว่าเหล่านำพรตของสำนักหงหลวนตอนนี้ได้ฝึกวิชาเหล่านี้ถึงครึ่งรึเปล่าก็ไม่รู้.

เขาจ้องมองไปยังเศษผ้าเช็ดหน้าที่ถูกเผา,ตลอดจนเหล่าเยว่จื่อจงได้หาสถานที่ฝังดาบที่แตกหักนี้อย่างระมัดระวัง.

หลังจากนั้น,เหล่าเยว่จื่อจง,ได้ถือไม้เท้ามังกร,พร้อมกับเร่งรีบกลับหมู่บ้าน.

หลังจากที่จัดแจงเกี่ยวกับธุรกิจต่างให้กับพ่อบ้านแล้ว,เขาก็เดินทางลงไปยังใต้ดินเพื่อขึ้นรถไฟกลับไปยังอาณาจักรต้าคุน.

ภายในบ้านพักตระกูลจงนั้น,ทุกคนต่างก็รู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นเหล่าเยว่จื่อจงปรากฏขึ้นในรูปลักษณ์สี่สิบปี,ซึ่งนั่นก็หมายความว่าเขามีพลังยุทธ์ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนแล้ว,นี่คือพลังยุทธ์ในตำนาน,เหล่าคนใช้และเหล่าลูกเลี้ยงทุกคนต่างก็หัวใจเต้นโครมคราม,เหล่าเยว่จื่อจงได้ก้าวไปถึงระดับเซียนเทียนแล้วรึ?

ทว่าบุตรบุญธรรมทั้งแปดกลับหายตัวไป,แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยปากถามซักคน.
...

ที่ด้านหลังของที่พัก,เหล่าเยว่จื่อจงที่นั่งขัดสมาธิอยู่ด้านในพร้อมกับบำเพ็ญเพียร.

เคล็ดวิชาหงหลวนเทียนนั้นมีด้วยกันทั้งหมด 12 ขั้น,เหล่าเยว่จื่อจงเวลานี้ได้ฝึกฝนขั้นแรก,ฉีซา
起煞 Qǐ shā  Evil Rising.

ด้วยฝึกฝนตามตำรา,เหล่าเยว่จื่อจงได้ทำการฝึกฝนอยู่ในที่พักตลอดสองเดือน,ท้ายที่สุดก็สามารถสำเร็จขั้นฉีซา,ในขั้นแรกนี้,เหล่าเยว่จื่อจงที่นั่งขัดสมาธินั้น,ที่ฝ่ามือของเขานั้นมีหมอกจางๆปรากฏขึ้น,ก่อนที่จะจางหายไป.

ผงกำหนัดหงหลวน,เป็นหนึ่งในยาปลุกกำหนัดที่รุนแรงที่สุดในโลก? เหล่าเยว่จื่อจงชำเลืองมองออกไปด้วยท่าทางอักอ่วน.

เพียงแค่สะบัดมือหนึ่งครั้ง,ผงกำหนัดหงหลวนก็ได้หายไป,ทว่าระหว่างคิ้วของเขานั้นดูเต่งตรึงอวบอิ่มขึ้นมา,ตามเคล็ดวิชาที่ได้อธิบายไว้ว่า,จะเกิดเป็นช่องว่างเล็กๆขึ้นที่ระหว่างคิ้วของเขา.

ภายในช่องว่างเล็กๆนั้นมีพลังงานที่โปร่งแสงสีชมพูเรื่อๆหมุนวนอยู่ภายใน,พลังงานนี้ไม่สามารถมองเห็นได้,โปร่งใส่,แปลกประหลาด,สามารถควบคุมได้,เหล่าเยว่จื่อจงที่พยายามควบคุมมันดู,เขาได้ลองใช้พลังที่โปร่งใสนี้ตรวจสอบร่างกายของเขาและทำให้เขารู้สึกว่ามันสามารถที่จะทะลวงผ่านวัตถุได้,สามารถตรวจสอบลึกเข้าไปในร่างกาย,สามารถที่จะมองเห็นเส้นปราณของตัวเองได้อีกด้วย.

สัมผัสเทวะอย่างงั้นรึ? เหล่าเยว่จื่อจงที่พยายามจดจำความรู้สึกนี้กับความทรงจำที่เลือนลาง,ไม่,นี่ไม่ใช่สัมผัสเทวะ,นี่คือพลังจิต,ทว่าพลังทั้งสองนี้มันแตกต่างกันอย่างไร?

เหล่าเยว่จื่อจงไม่สามารถอธิบายเรื่องดังกล่าวนี้ได้เลย,คงต้องรอหาคำตอบที่หลัง,ที่เขารู้ก็คือหากว่าลองใช้ปราณแท้ผสมรวมกับพลังจิตสีชมพูนี้,หลังจากวิเคราะห์แล้ว,จะทำให้สามารถสร้างผลกำหนัดหงหลวนขึ้นมาได้.

พลังจิตนี้ช่างลึกลับแปลกประหลาดนัก.

เขาที่กำลังอดกลั้นความตื่นเต้นเอาไว้,เหล่าเยว่จื่อจงที่ลุกขึ้นช้าๆ,เคล็ดวิชาหงหลวนระดับแรกนั้นค่อนข้างง่ายที่จะฝึกฝน,เพียงแค่พยายามอย่างหนักให้มากขึ้นเรื่อยๆ,เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่สามารถพัฒนาได้,ส่วนในเวลานี้,พลังจิตเองอาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุด,อย่างน้อยควรที่จะฝึกฝนวิชาอื่นๆในระดับเซียนเทียนด้วย.

เหล่าเยว่จื่อจงที่ค่อยขยับหมอนอิงออกไป,ก่อนที่จะเริ่มขยับแผ่นเหล็กที่อยู่ด้านล่างหมอนอิงออก,ซึ่งปรากฏช่องลับซ่อนอยู่ด้านใน.

ภายในช่องลับนั้น,มีกล่องไม้สีม่วงขนาดเล็กอยู่.

เขาที่หยิบกล่องนั่นออกมาอย่างระมัดระวัง,พร้อมกับใช้ชายเสื้อเช็ดฝุ่นออก,ก่อนที่จะเปิดมันออกมาช้าๆ,ที่ด้านในนั้นมีชิ้นหยกขนาดเล็กด้านใน,ซึ่งมีประกายแสงหลากหลายสีส่องประกายเคลือบเอาไว้,เห็นได้ว่ามันมีอาคมบางอย่างสะกดอยู่,หากว่าไม่ใช่อาคมพิเศษในการแก้ล่ะก็จะไม่สามารถเปิดได้,หรือหากใช้แรงบังคับแล้วล่ะก็,จะทำให้มันแตกหักพังทลายไปในทันที.

ข้างๆนั้นยังมีแผ่นผ้าสีขาว,มีภาพวาดของภูเขาและแม่น้ำ,เป็นเหมือนแผนที,ซึ่งแผนที่ดังกล่าวนี้มันยังฝังแน่นอยู่ในความทรงจำของเหล่าเยว่จื่อจง,ทว่าเขายังคงเก็บภาพคัดลอกมันเอาไว้ด้วยเช่นกัน.

เหล่าเยว่จื่อจงนั้นยังคงจำได้ว่าแผ่นหยกนั้นมีใครบางคนให้มา,เป็นชายชราชุดสีเทา,ที่มีผมพะรุงพะรัง

"มีคนจำนวนมากกำลังไล่ตามข้า,ข้าไม่สามารถหนีได้แล้ว,โปรดมอบหยกชิ้นนี้ให้กับประมุขสำนักไคหยางด้วย,เขาจะรับเจ้าไว้อย่างไม่มีเงื่อนไข."ชายในชุดสีเทากล่าวอย่างกระวนกระวาย.

"เขาจะให้ข้าเข้าสำนักไคหยางอย่างงั้นรึ?"จงซานที่สอบถามออกมาด้วยความตกใจ.

ชายชราชุดสีเท่าที่จ้องมองไปยังจงซานกล่าวออกมาด้วยท่าทางเคร่งขรึม,"ตราบเท่าที่เจ้าไปถึงระดับเซียนเทียน,พวกเขาจะรับเจ้าแน่นอน."

"ที่อยู่ล่ะ."จงซานที่สอบถามออกไปอย่างรีบเร่ง.

ชายชุดเทาที่กระแทกเท้าลงพื้นดินหนึ่งครั้งก่อนที่จะปรากฏเป็นเส้นทางไปยังสำนักไคหยาง,ซึ่งมีการทำเครื่องหายเอาไว้,เหล่าเยว่จื่อจงที่ได้คัดลอกมันเอาไว้บนผ้าสีขาว.

หลังจากนั้น,ชายชราชุดเทาก็เหินขึ้นไปบนฟ้า,หายลับตาไปจากจงซาน,ในเวลานั้นเองก็มีริ้วแสงอีกหลายสิบสายพุ่งตามจงซานไปด้วยเช่นกัน.


จ้องมองไปยังหยกชิ้นเล็กๆในมือของเขาแล้ว,ปรากฏความตื่นเต้นในสายตาของจงซาน,เซียนเทียน,ระดับเซียนเทียน,ตอนนี้พวกเขาจะต้องรับข้า,จงซานเข้าสำนักไคหยางอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/immortality

#นิยาย เรื่องอมตะ #Immortality#นิยายแปลไทย
Author(s)


 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น