วันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 220 Tempts the enemy

Miracle Throne Chapter 220 Tempts the enemy

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 220 ล่อศัตรู


บทที่ 220 ล่อศัตรู



ขณะที่โหวเยว์ทั้งสามพยายามโจมตีอสุรกายโลกันตร์อย่างยากลำบาก,ฉู่เทียนที่อยู่ห่างจากเมืองหยกขาวออกมาหลายสิบกิโลเมตร,แต่ถึงกระนั้นก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่รุนแรงหนักหน่วงจากทิศทางของเมืองหยกขาวได้ดี,ราวกับว่าถูกพลังวิญญาณมหาศาลบีบอัดออกมาจนถึงบริเวณนี้เลยทีเดียว.

"หอบ หอบ!"


ทหารวายุจำนวนมากตอนนี้สูญเสียการควบคุมอาชาศึก,พวกมันกำลังบ้าคลั่งด้วยความหวาดกลัว,คนหลายคนถูกสะบัดลงจากหลังม้าไม่สามารถควบคุมพวกมันได้แล้ว.

ในเวลานี้ทั่วทั้งเมืองถูกปกคลุมไปด้วยเปลวเพลิงสีเขียวที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า,แสงสีเขียวที่ส่องประกายจ้าทั่วทั้งท้องฟ้า.

มีอุกกาบาตขนาดเล็กมากมายที่หล่นลงมาไม่หยุดราวกับห่าฝน,ถึงแม้ว่าจะอยู่ไกลออกไป ยังสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่กระจายออกมา.

"พระเจ้า,นั่นคืออะไรกัน!"

เมื่อหนานกงหยุนจ้องมองออกไป,อสุรกายยักษ์ที่ยิงเปลวเพลิงขึ้นบนท้องฟ้า,ก่อให้เกิดอุกกาบาตมากมายหล่นลงมาทุกทิศทุกทางไม่หยุดหย่อน.

คลืนนนน!"

ผืนปฐพีสั่นสะเทือนไม่หยุด!

พลังของเจ้าอสุรกายนั่นปะทุขึ้นมาไม่เป็นระลอกๆ,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าโหวเยว์ทั้งสามนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันเลย.

"ไม่ได้ต่างจากที่คาดการณ์ไว้เลย."ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังอสูรศิลาที่กำลังเคลื่อนที่พร้อมกับปล่อยพิรุณหลอมเหลวออกมาอยู่ตลอดเวลา,ดวงตาที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,ท้ายที่สุดเขาก็สามารถที่จะยืนยันตัวตนของมันได้"มันคือ อสุรกายอัคคีโลกันตร์,เป็นอสุรกายโลกันตร์ธาตุเปลวเพลิง,ในพิภพโลกันตร์นั้นเป็นอสุรกายที่อ่อนแอที่สุด."

"อสุรกายที่อ่อนแอที่สุดอย่างงั้นรึ?"หยุนเหยายากที่จะจินตนาการได้เลย"อสุรกายที่อ่อนแอที่สุดแข็งแกร่งถึงขนาดนี้เลย!"

"สิ่งมีชีวิตในพิภพโลกันตร์,ไม่ใช่เรื่องที่อาณาจักรเล็กๆแห่งนี้จะสามารถจินตนาการถึงได้."ฉู่เทียนกล่าวออกมาก่อนที่จะหยุด"สิ่งมีชีวิตอย่างอสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่แข็งแกร่งที่สุดนั้น,จะต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นๆเพื่อเติบโตตลอดเวลา,หากว่าอสุรกายอัคคีโลกันตร์ตัวใดมีอายุอยู่ได้ถึงหนึ่งหมื่นปีล่ะก็,พลังของมันนั้นสามารถที่จะทำลายอาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้เพียงแค่สะบัดมือเพียงครั้งเดียว."

หยุนเหยาสอบถาม"มันมีพลังที่แข็งแกร่งขนาดนั้นได้อย่างไร?"

ฉู่เทียนจ้องมองไปในทิศทางของเมืองหยกขาว"จากที่ข้าเห็นอสุรกายตนนี้น่าจะมีอายุต่ำกว่าพันปีด้วยซ้ำ,ด้วยความแข็งแกร่งของพวกมันไม่สามารถที่จะทำลายมิตินี้ได้,มันคงจะบาดเจ็บมาก่อนอยู่แล้วและพบการฉีกขาดของมิติโดยบังเอิญดังนั้นจึงได้หลบหนีเข้ามา."

ภายในใจของไฉ่เตี๋ยที่สั่นสะท้าน,เป็นกังวลบิดาของนาง"พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี?"

"โหวเยว์ทั้งสามที่ต่อกรกับเจ้าอสุรกายอัคคีโลกันตร์,ทว่าคงจะต้านได้ในเวลาไม่นาน,พวกเราจะต้องใช้เวลาตอนนี้ให้ดีที่สุด."หลังจากกล่าวจบฉู่เทียนก็เร่งรีบพุ่งตรงไปยังทิศตะวันออกอย่างรวดเร็วพร้อมกับกล่าวออกมาว่า"พวกเจ้าตามข้ามาเร็วเข้า!"

หลังจากที่เดินทางมาไม่กี่นาที.

พวกเขาก็พบเข้ากับแอ่งน้ำด้านหน้า.

หญิงสาวที่งามสะพรั่งในชุดสีดำที่ยืนรอพวกเขาอยู่แล้ว,ภายในมือของนางนั้นธวัธเสายาวหลายอัน,แต่ล่ะอันนั้นมีประกายแสงสีแดงส่องประกายออกมาพร้อมกับอักระเวทย์มากมายสลักเอาไว้.

"เอ๊ะ?ไม่ใช่ท่านป้าเฉินหรอกรึ?"หนานกงหยุนที่รู้สึกประหลาดใจ"นางมาอยู่ที่นี่เองเหรอ!"

ฉู่เทียนสอบถามออกไป"ท่านได้ปักธวัชทั้งหมดแล้วรึ?"

เฉินปิงยวีพยักหน้า"ทั้กหมดที่เจ้าต้องการได้ถูกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว!"

ธวัช,เป็นเหมือนดังชื่อของมัน,เป็นอุปกรณ์ในการเสริมพลังค่ายกล,เป็นอุปกรณ์ที่จะมีในอีกหลายพันปีต่อจากนี้.

ธวัธแต่ตะอันนั้นมีวงเวทย์อักขระค่ายกลผนึกสลักเอาไว้,ในการใช้งาน,เพียงแค่ปักมันลงบนผืนปฐพี,พร้อมกับแผ่พลังลงไปในค่ายกลผนึก,พลังของค่ายกลก็จะแผ่กระจายออกมาในทันที.

การปักธวัธนั้นก็เพื่อเอื้ออำนวยพลังค่ายกล,ให้สามารถกระจายรัศมีออกไปได้ไกล,ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับภูมิประเทศหรือสภาพอากาศรอบๆจะเป็นเช่นไร,ธวัธค่ายกลนั้นก็เหมือนกับยันต์เวทย์ทั่วๆไปที่ใช้ได้แค่ครั้งเดียว.

ฉู่เทียนได้ปักธวัธค่ายกลย่อยเป็นจำนวน 14 แห่ง,และมีค่ายกลหลักขนาดใหญ่ที่ปักเชื่อมกันระหว่างหุบเขาทั้งสี่ทิศ,และยังมีธวัธขนาดเล็กที่อยู่กับเฉินปิงยวีอีกสิบอัน.

ฉู่เทียนพยักหน้า"ยอดเยี่ยมมาก,ทุกคนเตรียมพร้อม,พวกเราจะใช้วงเวทย์อักขระจัดการมัน,หวังว่าค่ายกลจะสามารถทำงานได้ดีนะ!"

หยุนเหยาที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเต็มไปด้วยความสงสัย"อสุรกายโลกันตร์น่าพรั่นพรึงเป็นอย่างมาก,เพียงแค่พลังของค่ายกลจะสามารถกักมันเอาไว้ได้อย่างงั้นรึ?"

"ค่ายกลเหล่านี้ถูกสร้างขึ้นมาจากโลหิตเทวะ,สามารถทำให้อสุรกาจทุกตนมีพลังอ่อนแอลงได้.ข้าคิดว่ามันน่าจะเพียงพอ"ฉู่เทียนจ้องมองไปยังสายฟ้าคำรามภายในเมือง"หลังจากที่เจ้าอสุรกายอัคคีโลกันตร์ได้ต่อสู้ไปกับโหวเยว์ด้วยแล้ว,มันก็ใช้พลังไปไม่น้อยเลยทีเดียว,ซึ่งนั่นก็จะยิ่งทำให้แผนของพวกเราประสบผลยิ่งขึ้น!"

เฟิงไฉ่เตี๋ยสอบถามออกไป"สถานที่แห่งนี้อยู่ไกลจากเมืองหยกขาว,พวกเราจะให้เจ้าอสุรกายนั่นเดินทางมายังที่แห่งนี้อย่างไร?"

"พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องกังวล,ข้าได้ส่งเหยื่อล่อไปแล้ว."

"เหยื่อล่อ?"

ทันใดนั้นคนทั้งสามก็พบว่าที่ไหล่ของฉู่เทียนนั้น,ที่มีจิ้งจอกน้อยนอนอยู่ตลอดเวลา,ตอนนี้ไม่รู้ว่าหายไปใหนแล้ว!
............

คลืนนนน!

คลืนนนน!


พลังของอสุรกายอัคคีโลกันตร์นั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก,ทุกครั้งที่มันโจมตีจะทำให้เกิดหลุมขนาดมหึมาขึ้นทุกครั้ง.

ถึงจะร่วมมือกันต่อสู้ทั้งสามคนก็ยังยากที่จะหาทางชนะได้,เหล่าทหารวายุที่เสียขบวนในตอนนี้ถูกเหล่าทหารอสูรโลกันตร์และอสุรกายเปลวเพลิงสังหารกันหมดแล้ว,คงมีเพียงแค่ส่วนน้อยเท่านั้น ที่สามารถหลบหนีออกนอกเมืองได้.

"ตราประทับสีดำ!"

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่ไล่ล่าเหล่าโหวเยว์ทั้งสาม,มันไม่ได้สนใจผนึกสีดำเลยแม้แต่น้อย,และพลังที่เล็กน้อยนั้นก็ทำให้มันไม่รู้สึกเจ็บคันเลยแม้แต่นิดเดียว,อักษรรูนตัวเล็กระจิดริดเพียงแค่สัมผัสร่างของมันนั้น,พลังผนึกก็ราวจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆไปได้ในทุกเมื่อ.

"ศรเหมันตร์!"

ศัลย์สีทองที่ได้โอกาสก็ยิงลูกศรคลิสตัลสีฟ้าออกไป,ก่อเกิดเป็นลำแสงมากมายกระแทกไปยังร่างกายที่ใหญ่โตของอสุรกายอัคคีโลกันตร์,คลื่นพลังแช่แข็งที่แผ่ออกไปยังผิวร่างของมันในทันที.

โฮกกกก!

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ระเบิดเสียงคำรามออกมา!

ทั่วทั้งร่างปรากฏเปลวเพลิงสีเขียวที่พลุ้งพ่าน,ชั้นน้ำแข็งหนาแตกออกมาในทันที,ผนึกสีดำเองก็ไร้ซึ่งพลังไม่เหลือผลกระทบใดๆ,แขนขวาของมันที่กำลังสร้างบอลเพลิงขนาดใหญ่ขึ้นมาพร้อมกับขว้างไปยังคนทั้งสาม.

"คลื่นพายุเฮอริเคน!"

โหวเยว์วายุเทพที่ยกมือทั้งสองข้างขึ้น,พายุเฮอริเคนที่รุนแรงก็ปะทุขึ้นมาในทันที,บอลเพลิงที่ถูกยิงออกมากระแทกเข้ากับพายุเฮอริเคน,เพียงพริบตาเดียวเปลวเพลิงดังกล่าวกลืนพายุไปทั้งหมดไป,พร้อมกับระเบิดออกมาเสียงดัง,คลื่นพลังความร้อนที่รุนแรงกระแทกมายังโหวเยว์ทั้งสาม,ทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส,นอกจากนี้พลังวิญญาณที่เหลือก็มีอยู่ไม่มากแล้ว.

ถึงแม้ว่าอสุรกายโลกันตร์จะอยู่ในช่วงอ่อนแอก็ตามที,หากแต่พลังของมันก็เหนืออาณาจักรปลุกดวงจิตไปแล้ว,แม้ว่าโหวเยว์ทั้งสามจะร่วมมือกัน,แต่ก็ไม่สามารถที่จะต้านทานมันได้เลยแม้แต่น้อย!

"พยายามอีกครั้ง!"

โหวเยว์วายุเทพที่กระอักโลหิตออกมา,มือทั้งสองอาบไปด้วยโลหิต,เผ้าผมกระเซอะกระเซิง,แม้แต่กล่าวยังลำบากเลย,ทว่าเขายังไม่ยอมแพ้.

หากเวลานี้ไม่สามารถจัดการเจ้าอสุรกายตนนี้ลงล่ะก็.

เมื่อรัฐสายฟ้าแห่งอาณาจักรหนานเซี่ยหายไปมันจะลุกลามไปทั่วทั้งอานาจักรแน่นอน,ดูเหมือนว่าเจ้าอสุรกายตนนี้จะมีเชาว์ปัญญาอีกด้วย,ซ้ำยังมีนิสัยที่เต็มไปด้วยความดุร้ายโหดเหี้ยมโดยธรรมชาติ,มันเกิดมาเพื่อไล่ล่าสังหาร,เป็นไปได้ว่าทุกหนทุกแห่งจะเต็มไปด้วยอันตรายไม่มีที่สิ้นสุด!

โหวเยว์ซือฟางและโหวเยว์ศัลย์ทองไม่เห็นด้วย.

"เฟิงหยุนเทียน,จริงๆแล้วเจ้าต้องการทำอะไร!"ซ่างกวนหงที่โวยวายเสียงดัง"ความแข็งแกร่งของเจ้าอสุรกายตนนี้แข็งแกร่งเกินไป,มีเพียงจักรพรรดิทั้งสามรวมพลังกันเท่านั้นถึงจะพอมีโอกาสสังหารมันได้สำเร็จ!"

โหวเยว์ศัลย์ทองที่ต้องการล่าถอยด้วยเช่นกัน"พวกเราไม่สามารถเสียสละโดยไร้ซึ่งความหมายได้!"

โหวเยว์วายุเทพกล่าวออกมาอย่างไร้ซึ่งความลังเล"หากพวกเจ้าต้องการจะไป ก็ถอยไปก่อน,ข้ายังต่อสู้ได้อยู่!"

เมื่อกล่าวจบ.

โหวเยว์วายุเทพก็คำรามลั่น,พร้อมกับปล่อยคมมีดสายลมฟันไปยังอสุรกายอัคคีโลกันตร์,ซึ่งมันกำลังคำรามออกมาด้วยความโกรธ,เป็นเพียงมดแมลงที่อ่อนแอที่บัดซบของมิติอื่น,ไม่เพียงขัดขวางการรักษาของมัน,ยังกล้ายุแหย่มันไม่หยุด!

สิ่งมีชีวิตของมิติอื่นโง่เง่าขนาดนั้นเลยรึ?

ทั้งที่รู้ดีอยู่แก่ใจว่าโจมตีเข้ามาก็ไม่สามารถทะลวงพลังป้องกันของมันได้ ไม่ว่าจะไม่ได้ผลอย่างไรก็ยังไม่หยุด,การก่อกวนที่ไม่หยุดเช่นนี้....มีแต่จะนำพาไปสู่ความตายเท่านั้น!

ในเมื่อพวกเจ้าต้องการจะตายนัก!

เช่นนั้นข้าจะช่วยเจ้าเอง!

ขอแค่ให้ข้าได้ดูดกลืนพลังสักหน่อย,ข้าก็จะยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นและก็มากขึ้น.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่ปลดปล่อยพลังออกมา,สายลมที่แข็งแกร่งพัดเปล่าอุกกาบาตมากมายให้ล่วงหล่นลงมา!

"ป้องกันไม่ได้แน่!"

"ถอยเร็วเข้า!"

โหวเยว์ซือฟางและโหวเยว์ศัลย์ทองตัดสินใจหลบหนีไปในทันที.

โหวเย่ว์วายุเทพยังคงยืนหยัดอยู่ต่อ,ตอนนี้ได้หลุดออกมานอกเมืองหยกขาวแล้ว,อสุรกายอัคคีโลกันตร์ยังคงไล่ตาม,ทว่าร่างกายที่ใหญ่โตของมันได้กระแทกไปที่กำแพงเมืองหยกขาว,ทำให้กำแพงเมืองที่แข็งแกร่งพังทลายลงมา,พร้อมกับทับไปยังเจ้าอสุรกายอัคคีโลกันตร์เสียงดังสนั่น.ทำให้เขามีโอกาสได้หายใจบ้างเล็กน้อย.

พลังวิญญาณของเขาเริ่มจะหมดแล้ว!

โหวเยว์วายุเทพเองดูเหมือนว่าจะไปถึงขีดจำกัดแล้ว.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ที่หลุดออกมาจากซากปรักหักพังแล้ว.

ไม่ได้การแล้ว!

ในเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อ,ทันใดนั้นก็ปรากฏกลุ่มควันสีเทาขึ้นมา,ก่อนจะกลายร่างเป็นจิ้งจอกน้อยขนาดน่ารักน่าชังขึ้นมาในทันที.

จิ้งจ้องน้อยกระโดดเข้าไปเผชิญหน้ากับ อสุรกายอัคคีโลกันตร์,พร้อมกับดูดเปลวเพลิงทั่วร่างของมันในทันที.

เปลวเพลิงที่ลุกโชนทั่วร่างอสุรกายอัคคีโลกันตร์,ถูกจิ้งจอกน้อยดูดไปเป็นจำนวนมาก.

"จิ้งจอกนอกของฉู่เทียน!

โหวเยว์วายุเทพไม่คิดเลยว่าจะได้จิ้งจอกน้อยที่ดูธรรมดาๆตัวนี้ช่วยชีวิตเอาไว้.

ด้วยท่าทางของจิ้งจอกน้อยที่ดูทะเล้น,พร้อมกับกระโดดไปมาดูดพลังของมันไม่หยุดหย่อน,จะไม่ให้อสุรกายอัคคีโลกันตร์เช่นมันโกรธเกรี้ยวได้อย่างไร?

ตูมมมมม!

อสุรกายอัคคีโลกันตร์พ่นเพลิงโลกันตร์ออกมาจากปากอย่างรุนแรง.

แต่แค่พริบตาเดียวจิ้งจอกน้อยก็หลบได้อย่างสบายๆ,ก่อนจะไปปรากฏตัวอยู่ด้านหลัง,พร้อมกับดูดพลังของอสุรกายอัคคีโลกันตร์อีกครั้ง,พลังเปลวเพลิงสีเขียวของมันถูกดูดไปไม่น้อยเลย.

"โฮกก  โฮกก!

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ยิ่งโกรธเกรี้ยวมากขึ้นกว่าเดิม.

มันไม่ได้ไล่ตามโหวเยว์วายุเทพอีกต่อไปแล้ว,ร่างกายของมันตาลีตาเหลือกไล่ตามจิ้งจอกน้อยอย่างเอาเป็นเอาตาย.

ได้โอกาสโหวเยว์วายุเทพได้สร้างสายลมคลุมร่างก่อนที่จะถอยออกมา,เขาได้แต่ถอนหายใจ"ข้าไปถึงขีดจำกัดแล้ว,เช่นนั้นปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าก็แล้วกัน!"

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ทั่วทั้งร่างของมันปะทุพลังขึ้นมาอีกมากมายหลายเท่า,เปลวเพลิงทั่วร่างที่ลุกไหม้อย่างรุนแรง.

จิ้งจอกน้อยยังคงตอดเล็กตอดน้อย,พร้อมกับชักนำมันมาอีกเส้นทางหนึ่ง.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์พยายามที่จะกดข่มความโกรธของมันเอาไว้,มันสามารถสัมผัสได้ว่า จิ้งจอกน้อยตัวนี้กำลังล่อลวงมันอยู่,และเรื่องเร่งด่วนของมันนั้นคือฟื้นฟูพลังของตัวเองเอง,ไม่ควรที่จะให้พวกมดแมลงมารบกวนเวลาของมัน,ขณะที่มันกำลังจะกลับเข้าไปในเมืองหยกขาวเพื่อฟื้นฟูต่อ.

จิ้งจอกน้อยก็ดูดพลังของมันออกมาอีก 2-3 เฮือก.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ตอนนี้โกรธเกรี้ยวราวกับสายฟ้าฟาด.

เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ,กลับมีพลังในการดูดพลังงาน,ทำให้มันโกรธเกรี้ยวขึ้นมาอย่างรุนแรง,เจ้ามดแมลงตัวนี้กำลังดูดพลังที่เหลือน้อยนิดของมันอยู่,ถึงจะไม่สามารถสังหารมันได้ก็ตามที,หากแต่มันกับรู้สึกเครียดแค้นอย่างรุนแรง,ช่างเป็นแมลงที่น่ารังเกียจเสียยิ่งกระไร!


ก็ได้!

ขอบดขยี้แมลงตัวนี้ก่อนค่อยทำอย่างอื่นแล้วกัน!

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ไม่ได้สนใจโหวเยว์ทั้งสามต่อไปแล้ว,มันไล่ทุบจิ้งจอกน้อยอย่างไม่หยุด.

จิ้งจอกน้อยที่ล่ออสุรกายอัคคีโลกันตร์,ข้ามเนินเขาสองแห่ง,จนในที่สุดก็มาถึงหุบเขาขนาดเล็กแห่งหนึ่งก่อนที่จะหยุดลง.

ที่จริงแล้วจิ้งจอกน้อยที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วติดต่อกันอย่างไม่หยุดหย่อน,จนถึงตอนนี้,ทำให้มันใช้พลังไปไม่น้อยเลย.

อสุรกายอัคคีโลกันตร์รู้สึกว่าจิ้งจอกน้อยคงจะหมดแรงไปเรียบร้อยแล้ว.

เจ้าปีนเกลียวน้อย!

ตายไปได้แล้ว!

อสุรกายอัคคีโลกันตร์ก้าวไปข้างหน้า,พร้อมที่จะทุบเจ้าจิ้งจอกน้อย.

ที่ยอดเขาขนาดเล็กทั้งสี่,ปลดปล่อยแสงสีแดงออกมาในทันที,พลังงานสีแดงทั้งสี่ทิศสว่างจ้าพร้อมกับพลังมากมายที่ซ้อนทับกันไปมากดทับมายังอสุรกายอัคคีโลกันตร์.
 พลังค่ายกลจากธวัธมากมายถูกปลดปล่อยออกมาในทันที,เป็นพลังที่ผสานกันไปมาซ้อนทับกัน,จนกลายเป็นเหมือนกับใยแมงมุมปิดล้อมร่างของอสุรกายอัคคีโลกันตร์,โลหิตสีแดงกลายเป็นโซ่ตรวนพุ่งตรงมายังอสุรกายอัคคีโลกันตร์,พันล้อมรอบร่างของมันอย่างรวดเร็ว.

นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

อสุรกายอัคคีโลกันตร์รู้สึกประหลาดใจสุดๆ!


พลังที่ไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่นัก...คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถยับยั้งมันเอาไว้ได้!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น