วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 192 Meeting

Miracle Throne Chapter 192 Meeting

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 192 เตรียมรบ


บทที่ 192 เตรียมรบ



ก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่านายน้อยหมาป่าสวรรค์และนานน้อยพยัคฆ์มังกร,ได้กล่าวอ้างว่าฉู่เทียนลอบโจมตีพวกเขาหรอกรึ? ไม่ใช่ว่าตอนนี้ต้องการสังหารฉู่เทียนให้เร็วที่สุดหรอกรึ?ไม่ใช่ว่าฉู่เทียนเล่นแต่วิธีสกปรกอย่างงั้นหรอกรึ?

ใช่แล้ว!


นี่เป็นโอกาสที่ฉู่เทียนมอบให้กับพวกเขาแล้ว!

เขาถึงกับกล่าวว่าต้องการที่จะประลองกับสองอัจฉริยะทั้งสองในคราเดียวกันเลยรึ!

ด้วยคำพูดที่เกิดขึ้นนั้นทำให้ทุกคนตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก,เหมือนกับฟ้าได้ผ่าลงมาลงกลางวง,เกิดแสงสว่างจ้า,จำทำให้คนที่อยู่รอบๆถึงกับตาพล่ามัว,สติล่องลอย!

ชายหนุ่มคนนี้แต่งตัวที่แสนจะธรรมดา,มีเพียงดวงตาที่สดใสดั่งดวงดาราบนฟากฟ้า,ดวงตาที่หนักแน่นราวกับจะเผาไหม้ทุกคนที่จ้องมอง,ก่อนที่เขาจะเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย "กล้าท้าทาย,ก็ต้องกล้าสู้ใช่ใหม!"

ใบหน้าของคนทั้งสองตระกูลใหญ่ตอนนี้ถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด!

หากว่าเป็นฉู่เทียนก่อนหน้านี้ล่ะก็,คำพูดดังกล่าวนี้คงแทบไม่ต่างจากแส่หาความตาย!

ตอนนี้แตกต่างกันออกไป,พวกเขาสามตระกูลใหญ่ที่มีอำนาจอิทธิพล,ท่าทางยโสโอหังในตอนนี้ดูหวั่นไหวอยู่เล็กน้อย,แม้ว่าจะรู้ดีว่าพลังฝึกตนของฉู่เทียนนั้นเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเทียบได้กับเย่เทียนหลางและลวอเซียงหลง.

แต่....ไม่รู้ทำไม ถึงได้รู้สึกขาดความมั่นใจอยู่ไม่น้อยเลย?!

ชายหนุ่มคนนี้มีไม่สามารถวัดได้ด้วยสามัญสำนึกทั่วไปได้,ราวกับว่าเขามีไพ่ตายในมือที่ทุกคนต่างคาดไม่ถึงอยู่เป็นประจำ,จนทำให้พวกเขานั้นรู้สึกหวั่นเกรงไปด้วย!

เหล่าผู้เยาว์ที่มีชื่อเสียงที่สุดของสามตระกูลหากว่าเกิดเหตุการณ์บังเอิญเกิดขึ้นอีกครั้งล่ะก็,ชื่อเสียงที่พวกเขาเคยมีมาต้องพังทลายหายไปหมดแล้ว,จะกลายเป็นว่าสี่ตระกูลใหญ่ที่ทรงเกียรติจะกลายเป็นเพียงตัวตลกให้คนทั้งรัฐกลางหัวเราะเอาได้!

สามตระกูลใหญ่ตอนนี้รู้สึกถูกคุกครามอย่างรุนแรง.

ความรู้สึกไม่มั่นใจจนเท่าให้พวกเขาทำอะไรไม่ถูก!

ฉู่เทียนหัวเราะ,พร้อมกับกล่าวออกไปเสียงดัง"ไม่กล้าอย่างงั้นรึ?,สี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,มีแต่ชื่อรึอย่างไร?"

"อยากสู้ก็มา!"เย่เทียนหลางที่ตะโกนออกไปอย่างโกรธเกรี้ยว"ข้าจะสับเจ้าออกเป็นหมื่นๆชิ้นเอง!"

ความเกลียดชังของเย่เทียนหลางมันมากมายจนทำให้เขาตัดสินใจในทันที!

เพราะเช่นนั้นเขาจึงไม่คิดเรื่องอื่นๆเลยแม้แต่ข้อเดียว!

เสียงในหัวของเขานั้นเต็มไปด้วยความเกลียดชัง,บอกกับเขาไม่หยุด,ว่าต้องแก้แค้น,ต้องแก้แค้น,แก้แค้นให้จงได้!

การกระทำของเขานั้นไม่ได้คิดถึงผลว่าเขาจะเป็นเช่นไรหากว่าถูกฉู่เทียนฉีกหน้าอีกครั้ง!ก่อนหน้านี้เขาเดินทางไปยังเมืองเทียนหนาน,ก็เป็นฉู่เทียนที่สร้างความอับอายให้กับเขา,ทำให้ภายในใจของเย่เทียนหลางนั้นมีบาดแผลที่รักษาไม่หาย,หากว่าเขาไม่ได้รับการชำระแค้น,ชั่วชีวิตนี้เขาคงไม่สามารถก้าวไปต่อข้างหน้าได้!

"เจ้าขยะผู้นี้ข้าจะฉีกมันออกเป็นชิ้นๆเอง!"เย่เทียนหลางที่จ้องมองไปยังคนตระกูลลวอที่ดูลังเลก่อนที่จะยืนอย่างสงบกล่าวออกไปอย่างสุขุม"ตระกูลลวอไม่จำเป็นต้องยื่นมือเข้ามาในการต่อสู้ก็ได้,ในครั้งนี้ยืนดูเฉยๆก็พอแล้ว!"

"ใครบอกว่าข้าไม่กล้าประลอง!"ด้วยนิสัยของลวอเซียงหลงแล้วจึงกล่าวออกมาเสียงดังทันที,และเขาเองก็ไม่เชื่อว่าพลังที่เล็กน้อยของฉู่เทียนนั้นจะมีคุณสมบัติพอที่จะต่อกรกับเขา?

ถึงแม้ว่าฉู่เทียนจะได้รับสมบัติที่ร้ายกาจมา.

พลังของเขาในตอนนี้ก็อยู่เพียงแค่เขตแดนดวงจิตเสมือนเท่านั้น!

ผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับต้น,มีความสามารถพอที่จะต้านทานผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับกลางได้อย่างงั้นรึ?

ฉู่เทียนที่ล้มนายน้อยทั้งสามข้างในหอคอยโบราณก็สร้างเสียงอื้ออึ้งมากมายพอแล้ว,หากแต่ตอนนั้น เขาได้ใช้หุ่นกลยักษาและค่ายกระจกช่วยในการต่อสู้,แน่นอนว่าหากไม่มีสิ่งของเหล่านั้นล่ะก็ฉู่เทียนจะเอาอะไรมาสู้!

ประมุขตระกูลลวอ,ลวอเหลียนเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อยสอบถามออกไปด้วยเสียงที่แผ่วเบา"เจ้ามั่นใจใช่ใหม!"

"ความแข็งแกร่งของมันก็แค่ทั่วไป ไม่มีสิ่งใดต้องกลัว!"ลวอเซียงหลงเผยประกายแสงที่เย็นชาออกมา"วันนี้ข้าจะจัดการมันต่อหน้าคนของตระกูลทั้งหมดที่นี่เลยและไม่เพียงเท่านั้นมันยังกล้าท้าทายเย่เทียนหลางให้เข้ามาพร้อมกัน,นั่นไม่ใช่ว่ามันกำลังรนหาทีเองรึ?ในเมื่อมันกล้าที่จะเอ่ยท้าทายเอง,โหวเย่ว์วายุเทพเองก็ไม่กล้าว่ากล่าวพวกเราอย่างแน่นอน!"

ลวอเหลียนเฉิงที่เงียบไปสักครู่,"ตระกูลลวอขอรับการประลอง!"

ฉู่เทียนที่กำลังหักนิ้วเล่นเสียงดังกร๊อบๆ"ก็ดี,ในเมื่อเป็นเช่นนั้น,มาเริ่มกันเลย!"

"ในเมื่อมันเป็นการแข่งขันที่ตรงไปตรงมา,เช่นนั้นทุกคนในรัฐกลางควรจะได้เป็นพยาน!"ลวอเหลียนเฉิงที่ยังคงสุขุม,เขาควรที่จะกันเอาไว้ก่อน,เขาจะต้องสืบสวนฉู่เทียนให้มากกว่านี้ซะก่อน,เพื่อที่จะสามารถรับประกันได้ว่าจะสามารถสังหารฉู่เทียนได้อย่างสมบูรณ์แบบ"หลังจากนี้ สามวัน,ที่สนามการแข่งขันใหญ่แห่งรัฐกลาง,จะเป็นการต่อสู้โดยการเอาชีวิตเป็นเดิมพัน!"

ฉู่เทียนยักไหล่,"ก็ดี,ข้าไม่ขัดข้อง!"

เย่เทียนหลางที่แทบจะทนไม่ไหว,ที่ตระกูลลวอได้ผัดผ่อนยืดเวลาต่อสู้ไปอีก,เขารู้สึกหดหู่เป็นอย่างมาก,เตรียมเอ่ยปากออกมาเพื่อโต้แย้ง,ทว่า..

"ความอับอายนี้มันจะได้ฝังลึกจนไม่สามารถล้างออกได้"เย่อู๋เต๋ากล่าวเสริม"เพียงแค่สามวัน,ตระกูลเย่จะคิดบัญชีทั้งต้นทั้งดอก!"

ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตรงลงเรียบร้อยแล้ว!

การประจันหน้ากันได้จบลงแล้ว.

ขณะเดินทางกลับคนอื่นๆต่างก็เขามาสอบถามเขาด้วยท่าทางกระวนกระวายใจ"สมบัติวิเศษยุคโบราณเจ้าได้รับสิ่งใดมาอย่างงั้นรึ?"

"ก็ไม่นิ!"

"เจ้าได้รับมรดกตกทอดบางอย่างที่สามารถเพิ่มพลังของเจ้าได้รึ?"

"ก็เปล่า!"

"สิ่งที่เจ้าได้รับมา?สามารถช่วยให้ทักษะต่อสู้ของเจ้าเพิ่มขึ้นอย่างงั้นรึ?"

"แม้ว่าข้าจะได้บางสิ่งบางอย่างมาก,ทว่าข้าก็ไม่สามารถใช้มันได้ในตอนนี้,หลังจากนี้ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้ได้หรือไม่,ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับโชควาสนา."

"เจ้าเป็นบ้าไปแล้วรึอย่างไร?"หนานกงหยุนที่ตื่นตกใจ,"เจ้าที่ขาดสติไปท้าทายพวกเขาเช่นนี้,เจ้ามั่นใจอย่างงั้นรึ?"

"ก็ไม่รู้!"ฉู่เทียนที่เผยยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย,หากต้องประลองกันหนึ่งต่อหนึ่งล่ะก็,แน่นอนว่าเขานั้นมั่นใจทีเดียว,หากพวกเขาทั้งสองร่วมมือกัน,เขาเองก็ไม่สามารถรับประกันได้เต็มร้อย"ก้ต้องลองดู!"

ทุกคนที่ได้ยินรู้สึกโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก!

เจ้าอันธพาลนี่ทำให้พวกเขาทุกคนเป็นกังวลได้ตลอดเลย!

แล้วเขาไปยอมรับการกระทำที่ไร้เหตุผลนี้ได้อย่างไร!
 
"เจ้าจะอยู่เฉยไม่ได้แล้วนะ!"หยุนเทียนเหอที่กล่าวออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง"ตระกูลลวอและตระกูลเย่นั้นเป็นตระกูลที่มีอายุหลายร้อยปี,การต่อสู้ในครั้งนี้พวกเขาพ่ายแพ้ไม่ได้,พวกเขาต้องทำทุกอย่าง,แม้แต่ไม่ลังเลเลยที่จะนำอาวุธลับของตระกูลออกมาใช้,เพื่อรับรองผลชนะ100%.ลวอเหลียนเฉิงที่เลื่อนเวลาไปสามวันนั้น,เขามีเป้าหมาอย่างแน่นอน."

มีเหรอที่ฉู่เทียนจะไม่รู้?

ทว่าปัญหาจะมาไม่หยุดอย่างแน่นอน,และจะมากขึ้นและมากขึ้น,แน่นอนว่านี้คือโอกาสที่เขานั้นจะยับยั้งความยโสของคนเหล่านั้นเอาไว้.

ตระกูลเย่และลวอ ยังเตรียมตัวได้.

แล้วฉู่เทียนล่ะจะเตรียมตัวไม่ได้รึ?
............

สำนักงานใหญ่ ตระกูลเย่

เย่อู่เต๋าได้สอบถามเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นโดยระเอียดในหอคอยฝึกฝน.

เย่เทียนหลางเข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้นดี,เขาจึงได้บอกกล่าวทุกอย่างที่เขาเห็นโดยไม่ปิดบัง.

"ฉุ่เทียนนับว่าเป็นสัตว์ประหลาดอัจริยะอย่างแท้จริง."ใบหน้าของเย่อู๋เต๋านั้นเปลี่ยนเป็นดำมืดและน่าเกลียดน่ากลัว"เขาสามารถล้มพวกเจ้าทั้งสามได้ด้วยการใช้ค่ายกล,แม้ว่าจะไม่ใช่พลังของเขาก็ตามที,ทว่าด้วยการทำเช่นนี้ได้,ก็เพียงพอจะบอกได้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา!อายุยังไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ,เขาไปเอาภูมิปัญญาเหล่านั้นมาจากใหนกัน?"

"แล้วมันอย่างไรล่ะ?"เย่เทียนหลางกล่าว"เขาได้ยืมพลังจากหอฝึกฝนทำให้ชนะ,ข้าไม่เชื่อว่าสนามแข่งขันแห่งรัฐกลาง,เขาจะสามารถใช้ค่ายกลโบราณได้!"

"อย่าประมาทคู่ต่อสู้!ไม่ใช่แค่ชนะ,เจ้าจะต้องชนะอย่างราบคาบ!"ใบหน้าของเย่อู๋เตาที่เคร่งขรึม,ทว่าทั่วทั้งห้องนั้นก็เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรง,ราวกับว่ามันจะทะลุหลังคาขึ้นไป,จนกระแทกเหล่าเมฆให้สลายไปด้วย,"แน่นอน,ชัยชนะนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องรอง,เรื่องที่สำคัญที่สุดนั้น...เจ้าจะต้องสังหารคนๆนี้ไปซะ!ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้ตระกูลของเราพบกับปัญหา!"

ชัยชนะนั้น,มันแน่นอนอยู่แล้ว!

ส่วนเรื่องสำคัญที่สุดนั้นคือจะต้องสังหารฉู่เทียนให้ได้ต่างหาก!

เย่เทียนหลางที่เห็นท่าทางของบิดาแล้ว,ภายในใจของเขาถึงกับเย็นเยือบ,"ข้าต้องทำภารกิจครั้งนี้สำเร็จแน่นอน!"

"เจ้าตามข้ามา!"

เย่อู๋เต๋าได้นำเย่เทียนหลงเขาไปในห้องลับของตระกูลเย่,นี่คือห้องลับที่แม้แต่เย่เทียนหลางยังเคยมาครั้งแรก,ที่ใจกลางของห้องลับนั้น,มีแท่นบูชา,ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายจากโบราณกาล.

"นี่คือสิ่งหนึ่งที่ประมุขคนก่อนได้ส่งต่อกันมาในตระกูลและตอนนี้มันก็มาถึงรุ่นเจ้าแล้ว."

"นี่คือสิ่งที่ท่านปู่ได้ส่งต่อมาอย่างงั้นรึ!"

ภายในใจของเย่เทียนหลางถึงกับสั่นสะท้าน,ด้วยของตกทอดจากประมุขคนก่อนของตระกูลเย่จะส่งต่อกันเฉพาะประมุขตระกูลเท่านั้น,ในเมื่อเย่อู๋เต๋าที่เป็นคนดูแลตระกูลตอนนี้,เรื่องทุกอย่างจึงเป็นเขาที่จัดการ,ประมุขคนก่อนของตระกูลเย่ได้เตรียมสิ่งนี้ไว้เพื่อยกระดับพลังของลูกหลานนั่นเอง,ตระกูลฉู่,ลวอ,เย่,เหล่าประมุขรุ่นก่อนของพวกเขาต่างก็ออกแสวงหาสิ่งต่างๆที่อยู่ในโลกภายน้อยเพื่อที่จะสามารถหาสิ่งที่จะเป็นประโยชน์ต่อตระกูลของพวกเขาอยู่ตลอดเวลา.

ท่านประมุขคนก่อนของตระกูลได้เตรียมสิ่งนี้เอาไว้!

"สิ่งนี้จะสามารถช่วยเพิ่มพลังให้กับเจ้า."เย่อู๋เต๋ากล่าวออกมาอย่างจริงจัง"ทว่า,ในเมื่อมันเป็นเรื่องฉุกเฉิน,พวกเราจำเป็นต้องใช้มันในตอนนี้!"

เย่เทียนหลางสอบถามออกไป"แท่นบูชานี้คือสิ่งใด?"

"ก่อนที่ร่างของบรรพชนจะตายไปนั้น,พวกเขาจะใช้ภูติวิญญาณดึงพลังวิญญาณของตัวเองออกมา,พร้อมกับผนึกมันเอาไว้ด้วยเครื่องมือบางอย่างผนึกลงบนแท่นบูชา,นอกจากนี้มีเพียงแค่คนที่เป็นประมุขสืบทอดเท่านั้นถึงจะมีสิทธิเปิดมันออกมาได้,เจ้าในตอนนี้วิชาบำเพ็ญ<อสูรหมาป่ากลายร่างนั้น>เจ้าสามารถฝึกฝนไปถึงระดับ 3 ประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์ขั้นปลายแล้ว,หากว่าเจ้าได้รับพลังนี้ไปอีกล่ะก็,จะทำให้เจ้าสามารถเลื่อนระดับวิชาบำเพ็ญเข้าสู่ขั้น 4 ขั้นสมบูรณ์แบบขั้นสุดได้,และจากนี้เจ้าก็จะเป็นผู้เชี่ยวชาญในวิชาลับนี้ได้!"

สีหน้าของเย่เทียนหลางที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นและดีใจ!

คาดไม่ถึงจริงๆว่าตระกูลเย่นั้นจะมีสิ่งที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้อยู่?

หากว่าเย่เทียนหลางได้พลังนี้มาล่ะก็,บางทีเขาอาจจะเทียบกับฉู่ซิงเหอได้เลย,นี่ก็นับว่าเป็นวิชาโบราณที่สืบทอดกันมาเช่นกัน!

เย่อู๋เต๋ากล่าวต่อ"ตอนนี้ข้าจะเปิดแท่นบูชาแล้ว!เจ้าต้องจำไว้ให้ดี,อย่าทำให้การกระทำครั้งนี้สูญเปล่า,ห้ามทำให้ตระกูลเย่ของพวกเราได้รับความอับอายโดยเด็ดขาด,หากว่าเจ้าไม่สามารถทำเรื่องนี้สำเร็จได้ล่ะก็,ตระกูลเย่จะไม่อยู่ข้างเจ้าอีกต่อไป!"

เย่เทียนหลางที่สัมผัสได้ถึงความหนาวเย็นได้"แน่นอน!"

"เริ่มได้!"

เย่เทียนหลางเดินตรงมาอยู่ด้านหน้าแท่นบูรชา,หัวใจของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยความกระวนกระวาย,แขนทั้งสองข้างของเขาค่อยๆวางไปบนแท่นบูชา,พลังจากโบราณกาลกำลังแผ่ออกมาจากแท่นบูชาในทันที.

ในเวลานี้เย่เทียนหลางสามารถสัมผัสได้ว่ามีพลังที่มองไม่เห็นกำลังชอนไชเข้ามาในร่างของเขา.

เย่เทียนหลางในตอนนี้ราวกับว่าได้เข้ามาอยูในโลกลวงตา,เขาสามารถที่จะมองเห็นเงาคนหลายๆคน,ที่กำลังฝึกฝนวิชา<กลายร่างเป็นอสูรหมาป่าอยู่>แม้ว่าเขาจะไม่สามารถที่จะมองเห็นฝ่ายตรงข้ามได้อย่างชัดเจน,ทว่าเย่เทียนหลางก็สามารถสัมผัสกลิ่นอายดังกล่าวนี้ได้จากสายโลหิตของเขา.

ใช่แล้ว!

นี่คือบรรพบุรุษของตระกูลเย่อย่างแน่นอน!

ภายในมิติลึกลับก็ปรากฏทักษะการต่อสู้ขึ้นภายในจิตสำนึกของเย่เทียนหลาง,ทำให้เขาตอนนี้รู้สึกราวกับว่าศีรษะของเขานั้นกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ,จนแทบจะไม่สามารถทนได้,ทว่าเมื่อคิดถึงความอัปยศที่ฉู่เทียนมอบให้,เขาก็ระเบิดแรงใจที่น่าสะพรึงกลัวออกมา,กัดฟันอดทนด้วยใจที่หนักแน่น,เพื่อให้เขาทนความเจ็บปวดนี้ไปให้ได้.

เย่อู๋เต๋าที่พยักหน้าอยู่ข้างๆ.

ความเกลียดชังทำให้คนเติบโตเช่นกัน!

หลังจากนี้,แน่นอนว่าเย่เทียนหลางย่อมต้องแข็งแกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน,รุ่นที่สามของตระกูลเย่จะต้องการเป็นคนที่ส่องประกายต่อหน้าทุกคนอย่างแน่นอน!
............

ตระกูลลวอ.

ลวอเหลียนเฉิงนั่งอยู่บนบัลลังก์สูง,พร้อมกับมีเหล่าอาวุโสของตระกูลกว่าสิบคนยืนอยู่ข้างๆ,ลวอเซียงหลงเองก็ยืนอยู่ด้านหน้าพร้อมกับยกมือคารวะอยู่ที่ห้องโถงใหญ่,บรรยากาศตอนนี้ดูอึมครึมเป็นอย่างมาก,ราวกับว่ามันกำลังอยู่ในพิธีกรรมอะไรสักอย่าง.

ลวอเหลียนเฉินที่นั่งเป็นรูปปั้น,เขานั่งนิ่งแทบไม่ขยับเลยแม้แต่น้อย"เซี่ยงหลง,มีภารกิจในการต่อสู้ในครั้งนี้,เจ้าควรจะรู้ดีนะ?"

"ข้าสาบานว่าจะสังหารฉู่เทียน!เพื่อลบความอัปยศทั้งหมดให้กับตระกูลลวอ!"

"เจ้าเข้าใจก็ดีแล้ว!"ลวอเหลียนเฉินยืนอย่างสงบกล่าวออกไปอย่างสุขุม"การปรากฏตัวของฉู่เทียนนั้นสร้างความวุ่นวายและทำให้สมดุลอำนาจของรัฐกลางกำลังสั่นคลอน,ตอนนี้ตระกูลหยุนเองก็ออกหน้าออกตาเข้าร่วมกับมัน,ซ้ำโหวเย่ว์วายุเทพยังลำเอียงปกป้องมันอีก,ทำให้ตระกูลอื่นๆๆตอนนี้กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก,ด้วยการแข่งขันในครั้งนี้มีความสำคัญมาก,เจ้าต้องกำจัดมันไห้ได้,ก่อนที่รัฐกลางแห่งนี้จะเกิดความวุ่นวาย!"

ลวอเซียงหลงกล่าวออกมาอย่างมั่นใจ"ขอให้ท่านพ่อจงวางใจ,ทักษะของฉู่เทียนนั้นธรรมดาทั่วไป,ไมมีอะไรที่จะต้องเป็นห่วง!"

"เจ้ามั่นใจเช่นนั้นก็ดีแล้ว!อย่างไรก็ตามอย่าได้ประมาทคู่ต่อสู้โดยเด็ดขาด,เย่เทียนหลางเองเคยประมาทคู่ต่อสู้,สุดท้ายแล้วเกือบเอาชีวิตไม่รอดจากเมืองเทียนหนาน,ดังนั้นเพื่อให้ไม่ให้ผลต่อสู้มันคลาดเคลื่อน!"ลวอเหลียนเฉินโบมือเบาๆ"รับนี่ไป!"

อาวุโสคนหนึ่งได้นำกล่องสมบัติออกมา,ใบหน้าของเขานั้นดูขึงขังเดินตรงมายังใจกลางห้อง"พวกเราหวังว่ามันจะสามารถช่วยเหลือนายน้อยได้!"

"นี่มัน..."

ลวอเหลียงเฉินที่เปิดกล่องสมบัติออกมา.

ภายในห้องโถงตอนนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่บ้าคลั่งในทันที,ราวกับว่าพยัคฆ์มังกรได้คำรามออกมา,ทำให้หัวใจของทุกคนถึงกับเต้นรัว.เห็นได้อย่างชัดเจนว่ากลิ่นอายที่น่าเกรงขาวนี้ต้องเป็นสมบัติศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแน่นอน.

สนับมือสีทองคู่หนึ่งที่วางอยู่ในกล่องสมบัติ,มันได้ปลดปล่อยกลิ่นอายคุกคามและส่องประกายเจิดจ้าเป็นอย่างมาก.

ลวอเซียงหลังถึงกับอุทานออกมาเบาๆ"สนับมือเก้าราชสีห์เก้าพยัคฆ์!"

ลวอเซียงหลงไม่ได้ประหลาดใจเท่าใดนัก,นี่คือสมบัติล้ำค่าที่สุดในตระกูลลวอ,ด้วย<วิชาหมัดคู่พยัคฆ์ราชสีห์> ที่เป็นวิชาประจำตระกูล,สามารถบอกได้ว่า สนับมือเก้าราชสีห์เก้าพยัคฆ์เพิ่มพลังโจมตีให้เขาเป็นอย่างมาก,มีพลังทำลายเป็นเลิศและยังมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งอีกด้วย!

นี่คืออาวุธล้ำค่าที่ตกทอดมาจากประมุขรุ่นก่อน!

อย่างไรก็ตามหลังจากที่ประมุขคนก่อนได้จากตระกูลลวอไป,ก็ได้ทิ้งสมบัติล้ำค่านี้ไว้.

"สนับมือเก้าราชสีห์เก้าพยัคฆ์นี่เป็นศาสตราวิญญาณระดับดีเยี่ยม!มันไม่ได้ด้อยไปกว่ากระบี่เทพวายุของโหวเย่ววายุเทพเลย!"ใบหน้าที่จริงจังของลวอเหลียนเฉิง"หากว่าข้าเดาไม่ผิดล่ะก็,กระบี่วิเศษที่อยู่ในมือฉู่เทียนนั้น,คือกระบี่อเวจีมันมีอยู่ในบันทึกโบราณ,ศาสตราวิญญาณสื่อสารดวงจิตได้.อย่างไรก็ตาม เพราะว่ามันถูกเก็บไว้นานจนเกินไป,พลังภูติในกระบี่จึงยังฟื้นตัวไม่เต็มที,กระบี่อเวจีนั้นจึงมีพลังไม่มาก,ไม่ใช่คู่มือของสนับมือนี้แน่นอน!"

ลวอเซียงหลงเผยสีหน้าที่ดีใจ,ทว่าก็มีร่องรอยความเศร้าใจอยู่ด้วยเช่นกัน"สังหารไก่น้อยจำเป็นต้องใช้มีดฆ่าวัวด้วยรึ?"

"อย่าได้มากความ,ข้าให้เจ้าใช้เจ้าก็ต้องใช้!การต่อสู้ครั้งนี้เจ้าจะต้องชนะ,เข้าใจใช่ใหม?"

"ทราบแล้ว!"

ลวอเซียงหลงได้ยกมือรับหีบสมบัติ.

"เรียนท่านประมุข"ในเวลาเดียวกันมีอาวุโสคนหนึ่งได้เข้ามาในห้องโถง"ท่านเจ้าเมืองเดินทางมาขอรับ!"


"พวกเจ้าออกไปได้แล้ว!"ดวงตาของลวอเหลียนเฉิงส่องประกาย,เขาได้จ้องมองไปยังลวอเซียงหลง,ให้ออกไปก่อน,ลวอเหลียนเฉิงยืนขึ้น"เชิญๆท่านเจ้าเมือง!"


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น