วันเสาร์ที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 189 The tenth eye

Miracle Throne Chapter 189 The tenth eye

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 189 เนตรที่สิบ


บทที่ 189 เนตรที่สิบ



"ข้าไม่สามารถอธิบายสิ่งต่างๆที่เจ้าสงสัยได้."เสียงของตำหนักสัมฤทธิ์โบราณที่กล่าวออกมาอย่างสุขุม,ราวกับว่ามันสามารถอ่านความคิดของฉู่เทียนได้"เพราะว่าข้านั้นได้ตายไปนานแล้ว,เป็นเพียงเศษเสี้ยวเล็กน้อยที่ถูกผนึกเอาไว้,ดังนั้นความทรงจำที่ข้าเคยมีมันจึงได้หายไปกับอากาศหมดแล้ว."

อ่านใจได้อย่างงั้นรึ?


สิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนว่ามันแสงทุกอย่างไปตามตรรกะที่ได้บันทึกไว้,และไม่สามารถคิดเองได้ ดังนั้นมันจึงได้กล่าวมันเป็นเพียงแค่สิ่งของที่เหลืออยู่?หากว่าความทรงจำของเทพเจ้าคงอยู่ล่ะก็มันย่อมทรงพลังยิ่งกว่านี้,แม้จะเป็นเพียงแค่จิตสำนึกที่เหลืออยู่,ยังน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก!

"ทว่าไม่จำเป็นที่ต้องเสียใจ."

เสียงของตำหนักสัมฤทธิ์โบราดังก้องขึ้นอีกครั้ง,ก่อนที่ผลึกสีเทาหม่นจะลอยออกมากลางอากาศ,ลอยอยู่ต่อหน้าของฉู่เทียน.

"รับมันไป,นี่คือผนึกความทรงจำหลายปีที่ข้าได้ผจญภัยมา,หากว่าเจ้าสามารถรอดชีวิตรับมรดกของข้าไปได้,บางทีคำตอบที่เจ้าค้นหาอยู่,อาจจะมีอยู่บ้างก็ได้."

ผลึกความทรงจำของเทพบรรพกาล?

เป็นสมบัติล้ำค่าประเมินค่าไม่ได้เลย!

ฉู่เทียนเผยสีหน้าที่มีความสุขเป็นอย่างมาก,ค่อยๆประคองมันอย่างระมัดระวัง.

ยุคเทพบรรพกาลนั้นได้ล่มสลายไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งนั่นจึงทำให้ไม่มีผู้สืบทอดใดๆเลย,ถึงแม้ว่าผลึกความทรงจำนี้อาจจะเสียหายเป็นอย่างมาก,บันทึกดังกล่าวนี้ ก็ยังคงต้องใช้เวลาอีกนานเหมือนกันในการศึกษาและอธิบายทุกอย่างข้างในนั้น.

ตำหนักสัมฤทธิ์โบราณยังคงกล่าวต่อ"ข้าสามารถสัมผัสได้ว่า จากความแข็งแกร่งและภูมิปัญญาเดิมของเจ้าแล้ว,เศษเสี้ยวภูมิปัญญานั่นจะสามารถช่วยเจ้าได้,ทว่ามันก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือ,ความฝัน,ความทะเยอทะยาน,สิ่งที่เจ้าไล่ตามอยู่,มันยังคงไม่เพียงพอ."

การอ่านความคิดของเศษเสี้ยวเทพบรรพกาลสามารถที่จะรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาได้!

ฉู่เทียนรู้สึกคาดไม่ถึงเล็กน้อย,ทว่าเขาเองก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก.

"ที่ข้าต้องการที่จะหนีให้พ้นจากโชคชะตาที่ถูกตรึงเอาไว้นั้น?เขตเขตจำกัดของมนุษย์นั่นไม่สามารถทำให้สำเร็จได้อย่างงั้นรึ!"

"มนุษย์ตัวน้อย,เจ้าตอนนี้ยังเด็กจนเกินไป."ตำหนักสัมฤทธิ์โบราณได้แต่ทอดถอนใจ,พร้อมกับรู้สึกหดหู่อยู่ไม่น้อย"โชคชะตาที่ต้องดับสูญนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้,แม้แต่เทพอสูรยังไม่สามารถหลีกพ้น,เหมือนดั่งยุคบรรพกาลที่ต้องล่มสลายนั่นล่ะ."

"ข้าไม่เชื่อ!"ฉู่เทียนที่ขมวดคิ้วแน่น"ในโลกนี้ไม่มีเรื่องที่เป็นไปไม่ได้!"

ตำหนักสัมฤทธิ์โบราณได้ปลดปล่อยคลื่นพลังออกมา.

ฉู่เทียนได้ถูกส่งเข้าไปสู่แม่น้ำที่กว้างใหญ่,สายน้ำดังกล่าวนั้นกำลังไหลผ่านร่างของเขา,ดูงดงาม,ยิ่งใหญ่และไร้ที่สิ้นสุด,มีปลาตัวเล็กๆหลายล้านล้านตัวที่กำลังแหวกว่ายอยู่ภายในสายน้ำดังกล่าว,พวกมันถูกผลักด้วยความแข็งแกร่งของสายธาราให้ต้องไหลไปทางเดียว.

นี่คืออะไร?

ฉู่เทียนได้กลายเป็นปลาน้อยสีเงิน,ทว่าในหมู่ของปลาเล็กหลายล้านล้านนั้น,เขาไม่ธรรมดา,ไม่เหมือนกับเหล่าปลาน้อยตัวอื่นๆเลย,ฉู่เทียนที่กำลังพยายามอย่างเต็มที่กระเสือกกระสนว่ายทวนน้ำ,ทว่าไม่ว่าเขาจะพยายามมากมายเท่าไหร่,ด้วยพลังของเขานั้นก็ยากที่จะสามารถตรงไปด้านหน้าได้.

ฉู่เทียนนั้นราวกับว่าสามารถเข้าใจได้ถึงบางสิ่ง.

โชคชะตาก็เหมือนกับสายน้ำ,เทพวิญญาณเองก็เปรียบเหมือนกับมด,ถึงจะมีความแข็งแกร่งสุดยอด,แต่พลังของพวกเขาก็ไม่ได้มากไปกว่าปลาที่ตัวใหญ่ขึ้นมาหน่อยในกระแสน้ำ,ทุกสิ่งมีชีวิตล้วนแล้วแต่ถูกลิขิตให้ถูกนำไปยังจุดสิ้นสุดของชะตากรรม,ที่ปลายของแม่น้ำกันทั้งหมด?

ฉู่เทียนเริ่มรู้สึกโกรธเกรี้ยวขึ้นมา!

จะมาว่ากล่าวไร้สาระอะไรเช่นนี้!

บิดาไม่เชื่อเรื่องเช่นนี้!

ฉู่เทียนที่ตะเบ็งเสียงดัง,ปลาเล็กสีเงินที่มีกลิ่นอายที่น่าเกรงขาม,ดวงตาตอนนี้ส่องประกายแสงจ้า,ร่างกายถูกปกคลุมไปด้วยพลังกลิ่นอายที่ลึกลับและเก่าแก่,พร้อมกับต้านทานการไหลของสายน้ำเอาไว้.

ปลาเล็กสีเงินที่ว่ายตรงไปด้านข้างและชนเข้ากับน้ำวนที่อยู่ใจกลางของแม่น้ำ.

ภาพลวงตาที่ทรงพลังทั้งหมดก็หายไปในทันที,ฉู่เทียนได้กลับมาอยู่ภายในตำหนักสัมฤทธิ์บรรพกาลเรียบร้อยแล้ว.

"สิ่งมีชีวิตทั้งหมดก็เปรียบได้เหมือนปลาที่ว่ายอยู่ในสายน้ำแห่งชะตากรรม"เสียงของตำหนักโบราณดังราวกับระฆังขนาดใหญ่ที่ก้องกังวานสั่นสะท้านไปทั้งตำหนัก,เต็มไปด้วยภูมิปัญญาที่ลึกล้ำฟังดูรื่นหู"บางทีอาจจะมีสักคนที่มีพลังที่ยิ่งใหญ่และจิตใจที่มั่นคงเช่นเจ้า,อาจสามารถเปลี่ยนพวกมันได้สักตัว,ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงปลาตัวเดียวในฝูง.แต่ถึงกระนั้น,จงจำไว้เสมอ,ไม่ว่าจะเป็นปลาตัวใหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางของสายน้ำ,และไม่สามารถที่จะออกจากแม่น้ำแห่งโชคชะตาได้."

เปรียบได้ดั่งชายชราที่กำลังสั่งสอนบุตรอย่างจริงจัง.

"ชีวิตและความตาย,ความรุ่งเรื่องและแตกดับ,เมื่อมีการสร้างก็ต้องมีการทำลายและเมื่อมีชีวิตก็จะต้องมีจุบจุดของชีวิต,โชคชะตาเป็นเหมือนวงเวียนที่ต้องเวียนว่ายในสังสารวัฎ,ในโลกใบนี้ไม่มีคำว่าเป็นอมตะที่แท้จริง,ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าตลอดกาล,ข้าสามารถสัมผัสได้ถึงความปรารถนาของเจ้า,ทว่าไม่ว่าเจ้าจะมีพลังมากมายสักเพียงใด,ก็ไม่สามารถที่จะท้าทายโชคชะตาได้,หากว่าเจ้ายังดื้อรั้น,เจ้าจะถูกดูดลงไปในกระแสน้ำวนแห่งโชคชะตาและถูกฉีกให้แหลกสลายกลายเป็นชิ้นๆ!"

นี่คือบันทึกที่เหลืออยู่ภายในเศษเสี้ยวของเทพบรรพกาล.

ฉู่เทียนอดไมได้เลยที่จะชื่นชมเทพบรรพกาลตนนี้.

ตลอดเวลาที่ผ่านมานี้เขาได้พบกับสิ่งต่างๆมากมาย,นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เขารู้สึกว่าภูมิปัญญาของมนุษย์นั้นมันช่างมีจำกัด!

ฉู่เทียนที่จ้องมองออกไปอย่างหม่นหมองพร้อมกับกล่าวว่า"สิ่งตกทอดที่ท่านเอ่ยถึงคือสิ่งใด?มันจะช่วยอะไรข้าได้บ้าง."

"พลังอย่างหนึ่ง"ตำหนักสัมฤทธิ์โบราณกล่าวออกมาอย่างเคร่งขรึม"นี่คือพลังอย่างหนึ่งที่ได้มาจากสายน้ำแห่งชะตากรรมและเป็นพลังอย่างหนึ่งที่สังหารข้า!ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถรับมันไปได้และสามารถเข้าใจได้ถึงกฎเกณฑ์บนสายธารแห่งโชคชะตา."

"พลังที่สามารถสังหารเทพได้อย่างงั้นรึ?"

"ใช่แล้ว,ข้าได้ล่วงหล่นลงมาจากยุคของเทพบรรพกาลและต้องตายด้วยพลังนี้!"

ตามทฤษฎีแล้วตัวตนเช่นเทพอสูรนั้นไม่สามารถที่จะถูกสังหารได้!

เมื่อมาถึงยุคแห่งการล่มสลายของยุคบรรพกาลนั้น,ได้เกิดความขัดแย้งและการต่อสู้,ถึงแม้ว่าเหล่าเทพอสูรจะล่วงหล่นลงมา อยู่บนผืนปฐพีพวกเขาก็ยังมีชีวิต,เหล่าเทพอสูรยังไม่ได้ตกตายไปแต่อย่างใด,ดังนั้นถึงดินแดนบนผืนนภาจะสิ้น ก็เป็นเหตุให้พวกเขาล่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าเท่านั้น.

เป็นไปได้ด้วยรึที่เหล่าเทพและอสูรจะถูกสังหารไปด้วยพลังอื่น?

"ตัวข้านั้น,แม้ว่าจะถูกสังหารไปแล้ว,หากแต่ด้วยพลังของข้า ได้ผนึกพลังสังหารนั้นเอาไว้ในศีรษะ,ผ่านมาแล้วหลายล้านปีข้าก็สามารถสร้างเมล็ดพันธ์แห่งพลังดังกล่าวขึ้นมาได้อย่างช้าๆ,ตอนนี้มันได้กลายมาเป็นเมล็ดพลังเรียบร้อยแล้ว,ข้าหวังว่าสักวันหนึ่งเมล็ดพันธ์ดังกล่าวนี้จะสามารถนำมาปลูกในโลกใบนี้ได้,และการสร้างหอคอยฝึกฝนแห่งนี้ก็เพื่อเป้าหมายนั่น,เพื่อจะสามารถหาผู้สืบทอดมรดกเช่นเจ้านั่นเอง."

เดิมทีพลังนี้คือพลังสังหารเทพ,ฉู่เทียนจะสามารถทนมันได้รึ?

เห็นได้อย่างชัดเจนว่ามรดกชิ้นนี้มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก.

จิ้งจอกน้อยตอนนี้เผยสีหน้ากะวนกระวายเป็นอย่างมาก.

มันได้ข่วนฉู่เทียนไปมา,เพื่อไม่ใช้เจ้านายของมันรับสิ่งนี้มา.

ฉู่เทียนไม่ใส่ใจ,เขายังคงต้านทานแรงกดดันของศีรษะเทพอสูร,ก่อนที่จะเดินตรงไปข้างหน้าช้าๆ,เขารู้สึกราวกับขุนเขาที่ยิ่งใหญ่กำลังกดทับลงมาบนร่างของเขาทุกๆครั้งที่ก้าวออกไป,ราวกับว่าได้สร้างรอยบุ๋มลึกลงไปบนพื้น.

"น่าสนใจ!"ฉู่เทียนที่ก้าวลงไปในสระวารีแห่งบรรพกาล,ก่อนที่จะอยู่ต่อหน้าแท่งผลึกที่สูงใหญ่ทรงพลัง,พร้อมกับยื่นมือทั้งสองออกไปช้าๆ,"ให้ข้าได้เห็น!"

"ตามที่เจ้าปรารถนา!"

ตูมมมมมม!

พลังมหาศาลระเบิดออกมาพวยพุ่งกระจายออกไปทั่ว.

จิ้งจอกน้อยถูกพัดออกไปราวกับลูกบอล.

ฉู่เทียนเข้าไปข้างในแท่งผลึกในทันที,ทว่าไม่ใช่ด้วยร่างกายของเขา,แต่เข้าไปด้วยภูติวิญญาณหลักเทพอสูรของเขา,ศีรษะยักษ์ถึงกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆราวกับว่ามันได้ถูกทำลายไปด้วยพลังที่มองไม่เห็นและจากนั้นก็ได้ร่วมร่างเข้ากับภูติวิญญาณหลักของฉู่เทียน.

เป็นพลังที่แข็งแกร่งทรงพลังเป็นอย่างมาก!

"หนึ่งเนตรแห่งพลังที่สมบูรณ์แบบ,เก้าเนตรเทพอสูรที่แข็งแกร่ง!"ตำหนักสัมฤทธิ์โบราณถึงกับพึมพำด้วยท่าทางประหลาดใจ"เจ้ามีพลังแฝงเร้นเทพอสูรที่ยิ่งใหญ่!ยอดเยี่ยม!ยอดเยี่ยม!เจ้าคือผู้สืบทอดที่ดีเยี่ยม!"

เขารู้สึกได้ถึงดวงวิญญาณเหมือนจะฉีกออกเป็นชิ้นๆในทันที!

ความรู้สึกเช่นนี้,เขาสัมผัสได้เหมือนดังตอนที่ภูติวิญญาณของเขาได้ก่อกำเนิดขึ้นมาเลย,เขากำลังได้รับพลังที่เทียบเท่ากับภูติวิญญาณของเขาอย่างงั้นรึ?

"พูดจาซะน่ากลัว,ที่จริงแล้วมันหาได้ยากเย็นอะไรนัก!"

"ไม่ว่าจะเป็นพลังแบบใด,ท่านลุงฉู่เทียนจะรับมันมาให้หมด!"

ฉู่เทียนที่ตะเบ็งเสียงดังลั่น!

แท่งผลึกกำลังสั่นสะเทือนพร้อมทั้งระเบิดออกมา.

ที่หน้าผากของภูติวิญญาณหลักอันทรงพลังได้ปรากฏรอยตะเข็บขึ้นมาอย่างไม่คาดคิด,ตอนนี้มีเนตรอีกหนึ่งดวงได้ปรากฏขึ้นมา,ทว่าตอนนี้มันยังคงปิดสนิทอยู่!

"ดวงเนตรทั้งเก้า,ช่างทรงพลังยิ่งนัก!เจ้ามีพลังแฝงที่น่าเกรงขามไร้ที่สิ้นสุด,ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงได้รองรับพลังดังกล่าวได้ง่ายดาย!"เสียงของตำหนักสัมฤทธิ์โบราณได้เอ่ยออกมาช้าๆ"ดวงเนตรทั้งเก้า,เพิ่มขึ้นมีอีกหนึ่งดวง,จะกลายเป็นพลังปานใดกัน?ช่างน่าเศร้าจริงๆที่คนก่อนเก่าเช่นข้าไม่สามารถเห็นมันได้!"

ฉู่เทียนที่รู้สึกหมดแรงและหดหู่เล็กน้อย.

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ทำไม ไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย!

เศษเสี้ยวเทพบรรพกาลสามารรับรู้ได้ถึงสิ่งที่ฉู่เทียนกำลังคิดอยู่,จึงได้เอ่ยออกไปช้าๆ"ข้าแค่เพียงมอบเมล็ดแห่งพลังนั่นไป,ส่วนจะเติบโต,หรือสามารถเติบโตได้ใหม,ทุกอย่างล้วนแล้วแต่ขึ้นกับโชคชะตาและวาสนาของเจ้า!"

"แล้วจะเกิดอะไรขึ้นหากชั่วชีวิตนี้มันไม่สามารถเติบโตได้ล่ะ?"

"นั่นก็เป็นผลของโชคชะตาของเจ้า!เจ้าไม่มีคุณสมบัติพอที่จะใช้พลังนี่ก็เท่านั้น!"

จะไม่รับผิดชอบอะไรเลยเรอะ!

ภูติวิญญาณหลักของเขาหากว่าได้ความแข็งแกร่งใหม่เพิ่มมา,ความจริงแล้วมันจะต้องมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างสิ!

อย่างไรก็ตามฉู่เทียนก็ไม่สามารถบอกได้ว่ามีสิ่งใดเปลี่ยนไปหรือไม่,ทว่าเขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความหิวกระหายปรากฏขึ้นมารอบๆร่างของเขา,ราวกับว่ามีหลุมขนาดมหึมาที่ต้องการพลังจำนวนมากมาเติมเต็ม!

ฉู่เทียนนั่งอยู่กลางสระ,พร้อมกับดื่มด่ำกับพลังของวารีแห่งบรรพกาล.

ของเหลวที่ใสกระจ่างกำลังส่องแสงระยิบระยับ,มีพลังของเศษเสี้ยวเทพบรรพกาลที่ปนอยู่ด้วย,มันคือพลังที่แข็งแกร่งของเทพอสูร,ตอนนี้กำลังฟื้นฟูร่างกายของฉู่เทียน.

ฉู่เทียนนำศิลาดวงดาราออกมา.

ทันใดนั้น!

น้ำในสระตอนนี้กำลังหมุนวนรอบร่างกายของเขาอย่างช้าๆ.

ศิลาดวงดารากำลังส่องประกายปล่อยแสงดาราเจิดจ้าออกมา,ปกคลุมไปทั่วร่างกายของฉู่เทียน,ทำให้เขาในตอนนี้ดูราวกับเทพบุตรที่กำลังเสด็จมาเยือนผืนปฐพี.

หลังจากได้รับพลังใหม่มา,ฉู่เทียนก็สามารถก้าวไปยังเขตแดนใหม่ได้,ด้วยพลังของวาราแห่งบรรพกาลและศิลาดวงดาราที่อยู่ในมือของเขา,ก็เพียงพอที่จะยกระดับของเขาได้!

ฉู่เทียนยังคงนั่งบำเพ็ญพลังอย่างสงบ.

ผ่านไปแล้วหนึ่งวันหนึ่งคืน!

เขาที่เป็นเหมือนกับฟองน้ำ,ที่ได้ดูดซับวารีบรรพกาลหายไปถึงครึ่งหนึ่ง.

คลืนนน!

ฉู่เทียนที่กระโดดขึ้นมาบนอากาศ,ร่างกายของเขาในตอนนี้ดูโปร่งแสง,ผิวหนังที่ดูเหมือนผลึกเพชร,พร้อมกับส่องแสงระยิบระยับราวกับดวงดาราบนท้องฟ้า!

สำเร็จแล้ว!

กายานิรันดร์ของเข้าได้ก้าวไปอีกระดับ,ไปถึงขั้นกายเพชรได้อย่างราบรื่น!

พลังฝึกตนของเขาในตอนนี้สามารถเพิ่มไปยังระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 3 เรียบร้อยแล้วด้วย!

วิชาบำเพ็ญสามารถเลื่อนระดับ,พลังฝึกตนเองก็เลื่อนระดับขึ้นมาด้วยเช่นกัน!

"โปรดจำไว้,หากว่าไม่เกิดเรื่องวิกฤติจริงๆ,อย่าได้ฝืนเปิดดวงเนตรที่สิบโดยเด็ดขาด,เจ้ายังไม่สามารถควบคุมพลังดังกล่าวได้."เสียงของตำหนักสัมฤทธิ์โบราณได้กล่าวออกมาเบาลงเรื่อยๆ,"บางทีเมื่อถึงวันนั้น,เมื่อเมล็ดพันธ์ดังกล่าวได้เติบโต,เมื่อถึงวันนั้นแม้แต่เทพสวรรค์ยังต้องหวาดกลัวในพลังของเจ้า!"

"ท่านต้องการจะบอกว่าในโลกนี้ยังมีตัวตนของเทพและมารอยู่รึ?"

"มันยังไกลเกินไปที่จะบอกกับเจ้า!"

ฉู่เทียนรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!แม้ว่าจะไม่ได้รับคำตอบ,เขาก็ไม่ได้ยืนยันว่าเหล่าเทพและมารนั้นได้ตายไปจนหมดแล้ว,บางทีอาจจะยังคงอยู่ในสถานที่ใดที่หนึ่งบนโลกใบนี้.

"ภารกิจของข้าได้จบลงแล้ว!"

"ช้าก่อน!"ฉู่เทียนรู้สึกว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังจะจากไปแล้ว,ทันใดนั้นเขาก็คว้าจิ้งจอกน้อยมา"ท่านช่วยบอกข้าหน่อย,ว่าเจ้าตัวนี้คืออะไร?"

"ข้าไม่ไม่รู้เช่นกัน,สายโลหิตของมันนั้นทรงพลังมาก,ดังนั้นบรรพบุรุษของมันเองคงไม่ใช่ธรรมดา,บางทีอาจจะเป็นสายเลือดหนึ่งของเทพอสูร,ความทรงจำของข้านั้นไม่เหลืออยู่แล้ว,ดังนั้นจึงไม่อาจจะให้คำตอบที่ถูกต้องกับเจ้าได้!"

นี่ไม่ใช่เรื่องไร้สาระใช่ใหม?

ข้ารู้อยู่แล้วว่าบรรพบุรุษมันไม่ใช่ธรรมดา!

ข้าเองก็รู้อยู่แล้วเช่นกันว่ามันมีสายโลหิตที่ไม่ปรกตินะ!

ความจริงของเจ้าตัวจ้อยนี้คืออะไร?แล้วทักษะที่มันมีล่ะคืออะไร?

จิ้งจอกน้อยกระหยิ่ม ยกริมฝีปากของมันขึ้นอย่างอหังการ,ราวกับต้องการบอกกับฉู่เทียนประมาณว่า"รุ้แล้วใช่ใหมว่าจิ้งจอกน้อยร้ายกาจ?ตอนนี้ก็รีบหาอาหารอร่อยมาให้กับจิ้งจอกน้อยที่วันหน้าจะกลายเป็นเทพอสูรที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว,แล้วตัวมันจะคุ้มครองท่านเอง!"

"เพ่ย!ถึงบรรพชนของเจ้าจะยิ่งใหญ่แล้วมันอย่างไร?!"ฉู่เทียนที่เขกกะโหลกของมันเบาๆ"ส่วนเจ้านะมันตัวขี้เกียจเทพจิ้งจอกแห่งความตะกละต่างหาก!"

"คูๆๆๆ"จิ้งจอกน้อยที่ตะโกนออกไปอย่างขุ่นเคือง!

"เวลาของหอคอยฝึกฝนแห่งนี้ใกล้จะหมดแล้ว."ตำหนักสัมฤทธิ์โบราณไม่ต้องการที่จะกล่าวอะไรมากกว่านี้แล้ว "สิ่งที่ข้ากังวลที่สุดได้ถูกคลายแล้ว,มันถึงเวลาที่ข้าจะหลับไปตลอดกาลจากโลกที่วุ่นวายนี้แล้ว,และสุดท้ายนี้ข้าจะมอบของขวัญเล็กๆให้กับเจ้า...ลาก่อน,ผู้สืบทอดของข้า!"

ฉู่เทียนเร่งรีบกล่าวออกมา"ท่านมีนามว่ากระไร!ช่วยบอกข้าด้วย!"

ไม่ว่าพลังดังกล่าวสุดท้ายแล้วจะใช้ประโยชน์ได้หรือไม่,หากแต่การได้รับมรดกมาจากเขาแล้ว,ก็ควรที่จะรับรู้ถึงนามของฝ่ายตรงข้าม,อย่างไรก็ตามตำหนักสัมฤทธิ์โบราณก็ไม่ตอบใดๆเขาแล้ว,นามนั้นคงไม่สำคัญเท่ากับตัวตนของเขาล่ะมั้ง.

ลำแสงด้านหน้าแตกกระจายกลายเป็นชิ้นๆ.

ชิ้นส่วนขนาดเล็กของผลึกล่วงหล่นออกมาจากกะโหลกศีรษะของเทพบรรพกาล.

ฉู่เทียนหายใจยาว,ก่อนที่จะหยิบผลึกที่หล่นลงมาตรวจสอบ,หัวใจของเขาถึงกับสั่นสะท้านไปในทันที....โลหิต?

นี่คือโลหิตของเทพบรรพกาลอย่างแน่นอนและมันเป็นสิ่งของที่ล้ำค่ามากมายยิ่งนัก!โลหิตของเทพบรรพกาลชิ้นนี้ถูกผลึกเอาไว้ด้วยวงเวทย์ที่ทรงพลัง,ถึงแม้ว่าเขาจะนำออกไปจากหอคอยฝึกฝน,ก็ไม่มีใครสามารถสัมผัสได้ว่านี่คือชิ้นส่วนโลหิตของเทพบรรพกาลแต่อย่างใด.

ส่วนสิ่งของอื่นๆเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของหอคอยฝึกฝนโบราณแห่งนี้,สิ่งของอื่นๆที่สามารถรับได้,จำเป็นต้องใช้แต้มในการแลกเปลี่ยน.

อย่างไรก็ตามหากว่าเป็นกะโหลกศีรษะของเทพบรรพกาลที่เหลืออยู่ล่ะต้องใช้แต้มเท่าไหร่กันถึงจะสามารถแลกได้?เขาไม่กล้าที่จะจินตนาการถึงเลย!

แต่ด้วยโลหิตเทพบรรพกาลนี้ก็คงเพียงพอแล้ว!

ฉู่เทียนเก็บผลึกโลหิตเทพบรรพกาล,ก่อนที่จะเตรียมตัวจากไป.

จิ้งจอกน้อยที่ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง,ก่อนที่จะกระโดดไปมาบนกะโหลกที่เหลืออยุ่ของเทพบรรพกาลด้วยความตื่นเต้น,ราวกับว่ามันจ้องมองเห็นบางสิ่งบางอย่างอยู่.

ฉู่เทียนที่ขมวดคิ้วไปมา"เจ้าต้องการทำอะไร?สิ่งนี้พวกเราไม่สามารถนำกลับไปได้!"

จิ้งจอกน้อยได้อุ้มหยกขนาดมหึมาเท่ากับลูกบอลพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมา,ราวกับลิงน้อยเก็บผลไม้ได้,สิ่งดังกล่าวนั้นมีขนาดใหญ่กว่าจิ้งจอกน้อยหลายเท่า,เป็นไปได้ว่ามันคือดวงตาของเทพบรรพกาล.

หลังจากนั้นจิ้งจอกน้อยที่ขยับห่างออกมาจากฉู่เทียน,พร้อมกับนำลูกตาขนาดใหญ่นั้นใส่เข้าไปในปากของมัน,ดวงตาขนาดใหญ่นั้นมีพลังที่ซ่อนเอาไว้อยู่มากมายมันค่อยๆลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว ท้ายที่ก็ถูกจิ้งจอกน้อยกลืนลงไปในท้อง.

ฉู่เทียนถึงกับตื่นตกใจเป็นอย่างมาก"เจ้าเป็นบ้ารึอย่างไร!คายมันทิ้งเร็วเข้า!"

นั่นคือส่วนส่วนของศพเทพบรรพกาล!หากว่ามันกินเข้าไปล่ะก็?ถึงจะเป็นจิ้งจอกน้อยเอง,บางทีคงไม่สามารถทนพลังที่ยิ่งใหญ่นั่นได้แน่!

สายตาของจิ้งจอกน้อยที่แสดงท่าทางขุ่นเคืองที่ฉู่เทียนดูหมิ่นมัน,นี่แทบจะไม่ต่างจากผลไม้ลูกเล็กๆ,ถึงจะเป็นดวงตาของเทพบรรพกาลแล้วอย่างไร,มีสิ่งใดกันที่มันจะทนไม่ได้...

ฉู่เทียนที่ต้องการจะห้ามมันแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว,ทำได้แค่เพียงปาดเหงื่อ"จบแล้ว!"

ทันใดนั้นจิ้งจอกน้อยตอนนี้กุมไปที่ลำของของมันพร้อมกับหวีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดล้มลงนอนเกลือกกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวด,ร่างกายของมันกลายเป็นสีแดง,พร้อมกับเริ่มขยายร่างออกมาในทันที,ขยายขนาดมากมายกว่าเดิมหลายสิบเท่า,ตอนนี้แทบจะกลายเป็นเนินเขาขนาดเล็กได้แล้ว.




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

4 ความคิดเห็น:

  1. จิ้งจอกน้อยวิวัฒนาการล่ะมั๊ง

    ตอบลบ
  2. ข้อความจากระบบ : ฉู่เทียนได้รับพระยาจิ้กจอกน้อยขี้ดื้อจากการวิวัฒนาการ 1 หน่วย

    ตอบลบ
  3. พี่ฉู่จะจนจริงๆก็จากนี้ล่ะ!

    ตอบลบ