วันเสาร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 172 Hides the map

Miracle Throne Chapter 172 Hides the map

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 172 พื้นที่ลับ


บทที่ 172 พื้นที่ลับ



 

เหล่าอสูรภายในด่านฝึกฝนกลายเป็นแข็งแกร่งขึ้นมาในทันที,ทั้งที่ควรจะเพิ่มขึ้นมาอย่างค่อยเป็นค่อยไป,เหล่ายักษ์แรงงานเหล่านี้ราวกับได้กินยาโป้วเข้าไป,กลายเป็นมีพลังแบบก้าวกระโดด,เรื่องเช่นนี้ใครจะทนได้!

นี่เป็นราคาที่ต้องจ่ายที่พวกเขาได้ขโมยศิลาดวงดาราอย่างงั้นรึ?


ศิลาดวงดารานั้นเป็นวัตถุดิบล้ำค่า,การคว้าสิ่งดังกล่าวมานั้นจำเป็นต้องจ่ายไปด้วยราคาที่แพงลิบลิ่ว,ดังนั้นด่านการทดสอบแห่งนี้จึงถูกเพิ่มระดับขึ้นมาโดยทันที,เมื่อศิลาดวงดาราถูกชิงไป,เหล่าแรงงานยักษ์ก็ยกระดับขึ้นมาทันทีเลยรึ?

ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้ไม่มีเหตุผลอะไรสำคัญแล้ว!

กลุ่มยักษ์แรงงานที่เพิ่มพลังไปยังระดับปลุกดวงจิตระดับ 3 แล้ว,และยังเข้าใกล้ระดับ 4 เขตแดนดวงจิตปรากฏอีกด้วย,ทำให้มันมีวิชาต่อสู้และพลังความแข็งแกร่งพร้อมกับทักษะสูงล้นจนก่อนนี้เทียบไม่ติดเลย.

ซ้ำตอนนี้ยังมีเหล่ายักษ์ตาเดียว 400-500 ตัว,แต่ล่ะตัวตอนนี้สูงขึ้นกลายเป็นสี่เมตร,ร่างของมันแต่ล่ะตนมีน้ำหนัก 12 ตัน,ดูราวกับรถถังยักษ์ที่สามารถวิ่งได้ด้วยความเร็ว,ยิ่งพลังกดดันของพวกมันนั้นไม่ได้ต่างจากกองทัพหลายหมื่นของมนุษย์เลย,หากว่าถูกมันล้อมกรอบแล้วล่ะก็,ไม่มีทางหนีพ้นอย่างแน่นอน!

หนานกงหยุนตะโกนออกไปด้วยท่าทางประหลาดใจและดีใจ,"ข้าพบแล้ว!"

ที่บนผนังนั้นภายในห้องโถงนั้น,มีอักษรขนาดใหญ่สีทอง,เหมือนกับอักษรโลหะที่โผล่บุบไปเข้าไปบนพื้น,แต่บุบลึกเข้าไปจนแทบจะไม่สามารถแยกออกได้,หากเข้าไปใกล้ๆละก็จะสามารถสังเกตุเห็นรอยตัดของผนังที่แยกบุบเข้าไปด้วย.

ดังนั้นสถานที่แห่งนี้น่าจะเป็นรอยประตูเข้าไปนั่นเอง.

หนานกงหยุนที่กระแทกไปยังประตูอย่างแรง,เพื่อเปิดประตู,หากแต่ประตูไม่เปิดมันยังสะท้อนพลังส่งร่างนางลอยออกมาด้วยซ้ำ.

"เพ่ย,ใช้แรงขนาดนั้นยังไม่สามารถเปิดได้อีก,นี่จะต้องเป็นประตูลับแน่!"ฉู่เทียนที่เดินเข้าไปตรวจสอบชั่วขณะ,ทันใดนั้น เขาก็พบชิ้นส่วนของอักษรรูนลึกลับมากมายหลายสิบชิ้น,"ปริศนาตัวต่อ?พวกเจ้าปกป้องข้าเอาไว้ก่อน!"

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่จ้องมองออกไปยังยักษ์ตาเดียวที่กำลังวิ่งไล่ล่ามา,"บางทีคงไม่มีเวลาแล้ว!"

"สิบวินาทีก็พอแล้ว!"

ฉู่เทียนเริ่มต้นตรวจสอบตัวอักษรโลหะที่เป็นอักระพิเศษ,ที่จริงแล้วมันสามารถเลื่อนขึ้นและลงได้,เป็นกฏการเล่นที่ดูง่ายดายมาก,ตราบเท่าที่สามารถจัดเรียงอักขระเวทย์นี้ได้อย่างถูกต้องและสมบูรณ์,ประตูดังกล่าวนี้ก็จะเปิดออก.

กฏการเล่นง่ายดาย

แต่การเล่นนั้นยากมาก.

ปัญหาแรกนั้นเขาไม่รู้ว่ารูปร่างตอนแรกนั้นคืออะไร,ถึงจะสามารถต่อเหล่าปริศนาตัวนี้ได้,จะดีจะร้ายลองต่อให้เป็นรูปร่างเหมือนกับตัวอักษรในแผนที่ดีใหม?,ในเมื่อไม่มีสิ่งใดอ้างอิงเลย,การวางอักษรรูนเพื่อสร้างวงเวทย์นี้จึงเป็นเรื่องยากเป็นอย่างมาก,และยิ่งยากเข้าไปอีกหากจะคิดหาต้นแบบเพื่อนำมาใช้ในตัวต่อปริศนานี้ได้.

สิ่งที่แย่ที่สุด,ต่อต่อปริศนานี้ถูกกำหนดไว้ตายตัว,หากว่าจำนวนการขยับพวกมันเกินกว่าที่กำหนดแล้วล่ะก็,มันก็จะแตกกระจาย,ให้เริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น.

หากว่านำแผนผังนี้ไปยังรัฐกลางให้คนของสำนักเมฆาแก้ล่ะก็,อย่างน้อยก็ต้องสิบวันหรืออาจจะครึ่งเดือนเลยก็ว่าได้.

ฉู่เทียนที่ไม่มีเวลาให้ใช้มากมายขนาดนั้น,ซ้ำยังถูกกดดันจากกองทัพของยักษ์ตาเดียวที่กำลังไล่หลังมาอีก.

คงจะต้องใช้เวทย์มนแล้วกระมั้ง?

ถึงจะสามารถทำให้สำเร็จได้?

กองทัพยักษ์ตาเดียวอยู่ห่างออกไปหลายสิบจ้างจากประตูแล้ว,บางตัวเริ่มที่จะง้างลูกศรกำลังยิงตรงมายังพวกเขาแล้ว.

"ขวางมันไว้ก่อน!"

หนานกงหยุนที่ปล่อยพลังวิญญาณมหาศาลออกมาก่อนที่จะโจมตีออกไปยังเหล่าลูกศรที่กำลังพุ่งมา.

สายฟ้าสีม่วงที่ถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้าเช่นเดียวกัน,มุกสายฟ้ากลายเป็นริ้วแสงลากยาวออกไป,ก่อนที่จะกระจายตัวออกไปรอบๆท้องฟ้า,พร้อมกับปลดปล่อยตาข่ายสายฟ้าออกมา,เป็นพลังไฟฟ้าที่หนาแน่นเป็นอย่างมาก,เมื่อเหล่ายักษ์ตาเดียวเข้ามาใกล้,ก็ถูกกระแทกกระเด็นไปด้วยตาข่ายไฟฟ้าทันที.

" เพลงกระบี่วายุสลายมวลเมฆา !"

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่สร้างปราณกระบี่ขึ้นมาหลายสิบสาย,พร้อมกับหมุนวนกลายเป็นพายุสีเขียว,พร้อมกับหมุนวนพุ่งตรงไปยังเหล่ายักษ์ตาเดียว.

พวกเขาได้ใช้หลายวิธีเพื่อที่จะต้านทานหยุดพวกมันให้ดีที่สุด,ทว่าขนาดของฝ่ายศัตรูนั้นมีขนาดใหญ่จนเกินไป,ซ้ำยังดุร้ายเป็นอย่างมาก,พวกเขาไม่มีทางที่จะสามารถต้านทานพวกมันได้ด้วยพลังที่มีพวกเขามีในตอนนี้.

เนื่องด้วยระยะตอนนี้ย่นเข้ามาเรื่อยๆ,ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถึงตัวพวกเขาอย่างแน่นอน.

หากเมื่อเหล่ากองทัพยักษ์ตาเดียวเข้ามาใกล้พวกเขาสามจ้าง,พวกมันจะต้องสามารถสังหารพวกเขาทั้งหมดได้อย่างแน่นอน!

ฉู่เทียนที่กำลังรวบรวมสมาธิเพื่อที่จะเปิดประตูลับ,เขาไม่สนใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบกายเขาเลย,ค่ายกลตอนนี้เริ่มลอยขึ้นมาบนอากาศขยับไปมาราวกับว่ามีชีวิต,และกำลังเชื่อมกันและกันอยู่.

พรึบบบ!

ฉู่เทียนยังคงเคลื่อนชิ้นส่วนต่างๆ,เพื่อให้มันเชื่อมกันและกันทีล่ะอันทีล่ะอัน,ตอนนี้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างรวมตัวขึ้นแล้วและเมื่อชิ้นส่วนสุดท้ายได้เคลื่อนออกไป.

คลื่นนนนน!

ค่ายกลวงเวทย์ตอนนี้ส่องสว่างโชติช่วง!

อักษรรูนมากมายที่กำลังหมุนวนอย่างรวดเร็วกระจายตัวออกมา,มันค่อยๆแผ่เข้าไปยังประตูช้าๆ,ท้ายที่สุดก็เริ่มมีเสียงดังออกมา,แค๊กๆๆๆ,ประตูโลหะที่ค่อยๆแง้มออกมา.

เสียงหนึ่งเสียงดังขึ้นมาบนจิตสำนึก.

"ประตูกลลับได้เปิดออกสำเร็จ!ได้รับคะแนน 20 แต้ม!ตอนนี้มีคะแนน 170 คะแนน!"

"ประตูเปิดแล้ว!"

หยุนเซียว,หลินมูและฟางหาน,ที่ค่อยๆช่วยผลักประตูเพื่อให้เปิดกว้างกว่าเดิม.

ฉู่เทียนที่หันหน้ากลับไป"หนีเร็วเข้า!"

เหล่าคนทั้งเจ็ดที่เร่งรีบเข้าไปหลังประตูในทันที.

เหล่าแรงงานมามายที่กรูกันเข้ามา,พร้อมกับเตรียมโจมตีปรูตลับ,มุกสายฟ้าของหยุนเหยาสว่างวาบและลำแพงมากมายก็ประกฏกระแทกไปยังเหล่ายักษ์ตาเดียว.

หยุนเซียว,หลินมู่และฟางหาน ต่างก็ช่วยกัน,ผลักประตูเหล็กเพื่อปิด.

มันเป็นเรื่องที่น่าพรันพรึงจริงๆ!

จิ้งจอกน้อยที่คลานขึ้นมาบนไหล่ของฉู่เทียน,พร้อมกับเลียไปที่เล็บของมันไปมา,ด้วยท่าทางคับอกคับใจ.

"ต้องลำบากเจ้าแล้ว!"ฉู่เทียนที่ลูบหัวของมันเบาๆ,"แล้วข้าจะให้รางวัลเจ้าที่หลัง!"

จิ้งจอกน้อยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ,,หวังว่ามันคงไม่ต้องเหนื่อยเปล่า.

หยุนเซียวที่กล่าวออกมาอย่างจริงจัง,"เหล่าอสูรภายในด่านทดสอบแข็งแกร่งขึ้นมาถึงขนาดนี้,ด้วยอัตรานี้พวกเราไม่สามารถอยู่ภายในได้นานแน่,การที่จะสามารถอยู่ได้ถึงสามวันสามคืนยิ่งเป็นไปได้ยาก!"

ใบหน้าของทุกคนตอนนี้รู้สึกหดหู่ไปด้วยเช่นกัน

ด่านทดสอบดังกล่าวนี้สามารถเปิดการทดสอบได้มากกว่าสามวัน,หากแต่ในตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ,หากเหล่าอสูรแข็งแกร่งขึ้นด้วยอัตรานี้ล่ะก็,อีก 2-3 วัน,ไม่ใช่ว่าเหล่าอสูรแรงงานเหล่านี้ไม่กลายเป็นระดับเทพเจ้าไปแล้วหรอกรึ?!

แทบจะไม่สามารถประมาณความแข็งแกร่งของเหล่าอสูรที่จะมีได้เลย!

บางทีเหล่าองค์รักษ์ยักษา,สามวันจากนี้,คงจะมีกายเพชร,เพียงแค่หายใจก็สามารถสังหารพวกเขาได้แล้ว!

"คนออกแบบสถานที่ฝึกฝนแห่งนี้เอาสมองส่วนใหนคิดกัน!"หนานกงหยุนที่รู้สึกขุ่นเคือง,"หอคอยทดสอบได้ใหนที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีมีระดับปลุกดวงจิตถึงจะเข้ามาได้,หรือในยุคโบราณนั่น..,ข้าไม่ยากเชื่อเลยว่าจะมีแต่ผู้เชี่ยวชาญระดับเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงเข้าร่วมกัน!แต่อย่างงั้นถึงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงก็ตาม,มันก็ยังยากที่จะรอดในชีวิตนี้ได้!ยักษาก่อนหน้านี้ก็มีพลังแทบจะเท่ากับผู้ฝึกตนเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงแล้ว,หลังจากนี้อีกไม่กี่ชั่วโมง คงจะไม่มีปีกบินไปมาทุกตัวหรอกนะ!"

"เจ้ากล่าวผิดแล้ว."ฉู่เทียนกล่าวเสริม,"สถานที่ฝึกฝนลึกลับแห่งนี้ทุกครั้งก็จะมีระดับ ที่ถูกปรับไปตามความแข็งแกร่งของผู้เข้าร่วม,สี่ต้าซือแห่งรัฐกลางในปีนี้แข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก,ดังนั้นจึงทำให้ด่านทดสอบในปีนี้ยากขึ้นกว่าเดิม,กล่าวอีกอย่างหนึ่ง,ถึงจะมีผู้เข้าร่วมเป็นเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงถึงสิบคน,พวกเขาก็ยากที่จะผ่านการทดสอบนี้ไปได้ง่ายๆ,นี่คือปัญหาที่พวกเขาจะต้องก้าวผ่านให้ไปได้,ไม่เช่นนั้นแล้วจะเรียกว่าหอคอยฝึกฝนได้อย่างไร."

"ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี?"

"ถึงจะอยู่ที่นี่ตลอดไป,สถานที่ในหอคอยฝึกฝนย่อมจะต้องปล่อยเหล่าอสูรออกมาอยู่ดี,ดังนั้นพวกเราจะต้องก้าวไปด้านหน้า."ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังแผนที่อย่างระมัดระวัง,"แปลก...."

"อย่างไร?"

ฉู่เทียนที่แสดงแผนที่ให้กับทุกคนดู"ทางลับตรงนี้เป็นเพียงเส้นปะ,สถานที่พวกเรากำลังไปนี้,ไม่ได้ปรากฏขึ้นบนแผนที,มันไม่มีชื่อบอกเอาไว้ด้วยซ้ำ."

"เจ้าจะกล่าว่ามันเป็นพื้นที่ลับในแผนนี้อย่างงั้นรึ?"

"ไม่ว่าอย่างไร,พวกเราก็ไม่สามารถที่จะถอยหลังไปได้อยู่แล้ว!"

ฉู่เทียนที่เก็บแผนที่,ก่อนที่คนทั้งหมดจะมุ่งหน้าไปยังทางเดินยาวด้านหน้า!

คลืนนนน!

แผ่นดินไหวอย่างงั้นเหรอ!

หยุนเซียวที่จ้องมองไปยังทางเดิน,ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมาต่อว่าต่อขาน"บัดซบ!ทางเดินนี้เต็มไปด้วยเหล่าองค์รักษ์ยักษาอีกแล้ว!"

ทางเดินด้านหน้านั้นแทบจะไม่แตกต่างจากทางเดินวงกตมันมีสภาพที่คล้ายๆกันเหมือนกันตอนที่พวกเขาเข้ามา,มีทางแยกซ้ายขวา,และก็ยังมีโพรงรูปโค้งที่ผนึกเหล่ายักษาหินเอาไว้อีกมากมาย.

เมื่อไหร่ก็ตามที่พวกเขาเข้าใกล้.

เหล่ายักษาหินเหล่านั้นก็จะเริ่มถูกปลุกขึ้นมาในทันที!

ที่ทางเดินด้านหน้านั้นเหมือนว่าการคืนชีพของเหล่าองค์รักษ์ยักษาจะเร็วกว่าในห้องโถงแรกที่พวกเขาพบซะอีก!

"วิ่งเร็วเข้า!"

นี่มันไม่ตลกแล้ว,นี่มันเพียงพอที่จะทำลายพวกเขาให้เละเป็นข้าวต้มได้เลย,มีเพียงแค่วิ่งเท่านั้น,ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว,พวกเขาทั้งเจ็ดวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้.

ทางเดินทางหน้านั้นมีศิลาก้อนเล็กและก้อนน้อยตกลงมาอย่างรุนแรง.

มีศิลาขนาดใหญ่ที่พุ่งตรงมายังข้างๆพวกเขา.

เมื่อคนทั้งเจ็ดวิ่งมาถึงตรงกลาง,เหล่ายักษาก็เริ่มวิ่งไล่กวดพวกเขา,ด้วยรูปร่างห้าสิบเมตรกล้ามเนื้อเป็นมัดๆพร้อมกับปลดปล่อยพลังวิญญาณที่หนักหน่วงออกมาด้วย

"มารดามันเถอะ!พวกมันเริ่มตื่นกันหมดแล้ว!"

"วิ่งเร็วเข้า!"

คนทั้งเจ็ดที่ถูกเหล่ายักษาไล่หลังมา,ทุกครั้งที่มันวิ่งไล่นั้นพื้นดินสั่นสะเทือนไม่หยุดหย่อน,แม้ว่าจะยังเหลือระยะทางอีกตั้งครึ่งหนึ่ง,ทว่าด้วยความเร็วในตอนนี้เกินกว่าที่พวกเขาจะเพิ่มขึ้นได้อีกแล้ว,ซ้ำก้าวหนึ่งของยักษายังได้ระยะทางมากกว่าพวกเขาซะอีก,ไม่ช้าก็เร็วจะต้องถูกจับได้อย่างแน่นอน.

ฉู่เทียนกล่าวออกมาทันที,"สร้างน้ำแข็ง!สร้างพื้นน้ำแข็งเร็วเข้า!"

ฟางหานที่รั้งหลังได้เรียกภูติวิญญาณยักน้ำแข็งออกมาพร้อมกับพร้อมกับปล่อยพลังวิญญาณที่เป็นหมอกสีขาวพวยพุ่งอาบไปทั่วพื้นไม่หยุด,ก่อนที่ทุกหนทุกแห่งที่เขาวิ่งผ่าน,ทำให้พื้นบริเวณนั้นกลายเป็นน้ำแข็งไปหมด,ชั้นน้ำแข็งหนาถูกสร้างขึ้นด้านหลังเขาตลอดเวลา.

ห้า,สิบ,ยี่สิบ!

เหล่ายักษาต่างก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาเรื่อยๆมากขึ้นและก็มากขึ้น!

คนทั้งเจ็ดต่างวิ่งสุดกำลังเท่าที่จะสามารถทำได้,กลุ่มของหยุนเซียวที่มีพลังฝึกตนต่ำที่สุด,ดังนั้นความเร็วของพวกเขาจึงเทียบกับคนอื่นๆไม่ได้,พวกเขาอาจจะเริ่มถึงขีดสุดแล้ว,หากแต่ด้วยวินาทีเป็นตายนั้น,ประตูขนาดใหญ่ด้านหน้าของพวกเขาก็มองเห็นแต่ไกล,มันส่องประกายแสงวับวาว,เป็นเป็นอุโมงค์ส่องแสงสว่างสำหรับพวกเขา.

"ในที่สุด  ก็เจอทางข้างหน้าจนได้!"

"หยุนเหยาและไฉ่เตี่ย,พวกเจ้านำทางเข้าไป,พวกเราจะดูข้างหลังเอง!"

ด้วยอุโมงค์ทางเดินด้านหน้าอยู่หางไม่ไกลแล้วสำหรับเหล่ายักษาคงไม่ไกล,ทว่าสำหรับมนุษย์แล้วแตกต่างออกไป,คนทั้งเจ็ดวิ่งตรงไปอุโมงค์ข้างหน้าอย่างรวดเร็วใช้เวลาไปราวๆสิบนาที,ในที่สุดพวกเขาก็เข้าไปยังอุโมงค์ดังกล่าวได้.

เฟิงไฉ่เตี๋ยและหยุนเหยาที่นำหน้ามา,พวกนางที่พุ่งเข้าไปพร้อมกับเริ่มปิดประตูรอเหล่าคนทั้งห้า,ก่อนที่คนทั้งห้าใกล้เข้ามา พวกเขาทั้งห้ากระโดดเข้าช่องประตู,ที่กำลังปิด ประตูโลหะดังกล่าวก็ปิดลงไปในทันที.

ประตูโลหะตอนนี้ได้ปิดเรียบร้อยแล้ว.

คนทั้งห้ากระโดดเข้ามาภายในอย่างหวุดหวิด พร้อมกับประตูโลหะก็ปิดลงพอดี.

คลื่นๆๆ!

เสียงกระแทรกประตูดังผ่านมาเป็นระยะ.

พื้นที่ด่านฝึกฝนถึงกับสั่นสะเทือน,เหมือนว่าเหล่ายักษากำลังกระแทกประตูอย่างด้านนอก,อย่างไรก็ตามนับว่าโชคดีไม่น้อย,ที่ประตูแห่งนี้แข็งแกร่ง,เมื่อปิดลงแล้ว,ทำให้แม้แต่เหล่ายักษายังไม่สามารถทะลวงเข้ามาได้!

คนทั้งเจ็ดถึงกับทรุดลงกับพื้น.

ในที่สุดฉู่เทียนก็สามารถที่จะตระหนักได้ถึงความเป็นจริง.

ความเป็นจริงแล้วมีข้อห้ามอยู่ด้วย คือห้ามขัดแย้งกันในการเข้าทดสอบในครั้งนี้,นี่เป็นการทดสอบความร่วมแรงร่วมใจของทีม,เป็นการร่วมมือกันเพื่อให้ผ่านการทดสอบครั้งนี้ไปให้ได้.

กลุ่มสามคนของฉู่ซิงเหอที่ขัดแย้งกับกลุ่มพวกเขามาตั้งแต่แรก,ทำให้คนทั้งสิบนั้นแยกออกมาตั้งแต่แรก,กลุ่มเจ็ดคนของฉู่เทียนที่อ่อนแอกว่า,ดังนั้นสถานการณ์การทดสอบจึงได้ยากตั้งแต่เริ่มต้น.

"ในที่สุดพวกเราก็รอดได้อย่างหวุดหวิดอีกแล้ว!"

"แล้วที่นี่,มันที่ใหนกัน?"

ทุกๆคนที่จ้องมองไปรอบๆ,และจ้องมองผ่านเข้าไปด้านใน,ที่ด้านหน้าของพวกเขานั้น ที่จริงแล้วมันมีหุบเหวลึกลงไป ดำมืดไปหมด.

มืดมิด,จนมองไม่เห็นก้นเลย,ด้วยภาพที่เห็นทำให้พวกเขาถึงกับกลืนอากาศที่เย็นเยือบเข้ามา.

"ดูแผนที่เร็วเข้า!"

ฉู่เทียนที่เปิดแผนที่อีกครั้ง,จากทางลับที่พวกเขาผ่านออกมา,ที่แผนที่ของพวกเขาก่อนหน้าไม่มีสัญลักษณ์ใดๆ ทว่าตอนนี้กลับมีสถานที่ปรากฏขึ้นมาที่บนแผนอย่างไม่คาดคิด.

เป็นตัวอักษรของเผ่าสวรรค์ที่เขียนไว้หลายตัว"พื้นที รังผึ้งยักษ์!"

"พื้นที รังผึ้งยักษ์?! คืออะไรกัน!"

หลินมู่กล่าวออกมาเสียงดัง"ที่ด้านหน้ามีสะพานศิลาด้วย!"

ทุกๆคนค่อยจับจ้องมองไปอย่างช้าๆ.


มีสะพานศิลาอันหนึ่งที่พาดยาวข้ามผ่านความว่างเปล่า,ราวกับเป็นเพียงวัตถุที่ปรากฏขึ้นมาบนความมืดมิด,อยู่กลางพื้นที่ว่างเปล่า,เป็นสะพานที่เหมือนจะไม่มีจุดสิ้นสุด ดูราวกับว่าเหมือนมันลอยอยู่บนอากาศ ,ทำให้ทุกคนรู้สึกลับ,จนทำให้ภายในใจรู้สึกสั่นไหวเต็มไปด้วยความสงสัย.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น