วันศุกร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 171 Escaping dense

Miracle Throne Chapter 171 Escaping dense [say / way]

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 171 เส้นทางหลบหนี


บทที่ 171 เส้นทางหลบหนี




หลายร้อยยักษ์งานเถื่อนสวมกันเปื้อน,พร้อมกับแบกศิลาและท่อนไม้.มีบางกลุ่มที่กำลังทำการตัดท่อนไม้และตัดหินให้ได้ขนาดอยู่,ค้อยยักษ์ของมันที่ฟันลงไปบนท่อนไม้เสียงดังสนั่นไปทั่วบริเวณ,และด้วยเหตุนั้นพวกมันจึงไม่สามารถสังเกตเห็นผู้บุกรุกที่ได้แทรกซึมเข้ามาในห้องโถงแห่งนี้แล้ว.


ด้วยตะเกี่ยงทองแดงที่ส่องออกมาไม่สว่างนักและศิลาดวงดาราบนหอคอยก็เพียงพอที่จะทำให้ส่องสว่างไปทั่วทั้งห้องโถงแห่งนี้.

สถานที่แห่งนี้มีแรงงานยักษ์เถื่อนอยู่เป็นจำนวนมาก,คงยากที่จะสู้กับพวกมันด้วยจำนวนขนาดนี้,ดังนั้นจึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถลอบเข้าไปขโมยศิลาแห่งดวงดาราได้.

ทันใดนั้นจิ้งจอกน้อยที่จับจ้องไปยังฉู่เทียนและเสนอตัวเป็นอาสาสมัคร.

ฉู่เทียนที่เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง,"เจ้าแน่ใจรึว่าทำได้?"

จิ้งจอกน้อยที่เชิดหน้าอย่างอหังการ,ราวกับว่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย,ง่ายๆกว่าปลอกกล้วยซะอีก!หลังจากนั้น,สายตาของมันก็ลุกวาวเปล่งประกายขึ้นมาพร้อมกับถูขาหน้าของมันไปสามสีครั้ง,พร้อมกับกระดิกกงเล็บของมันหงิกๆพร้อมกับชี้ไปยังปากของมัน,และเผยสายตาอย่างคาดหวัง.

หนานกงหยุนที่ไม่ค่อยเข้าใจเท่าใดนัก็กล่าวออกมาว่า"มันต้องการจะกล่าวอะไรอย่างงั้นรึ?"

"มันต้องการอาหารหลังจากทำงานเสร็จนะ,มันบอกว่าจะช่วยก็ได้,หากว่ามันได้รางวัลเพื่อเติมท้องมันให้อิ่ม."

ดูเหมือนว่ามันกำลังต่อรองกับเจ้านายของมันอย่างงั้นรึ?

เชาว์ปัญญาของเจ้าตัวเล็กนี้ดูเหมือนว่ามันช่างน่าเหลือเชื่อยิ่งนัก!

"เจ้าสบายใจได้!"ฉู่เทียนที่ลูบขนฟูฟ่องบนหัวของมันเบาๆ"เคยมีเหรอที่เจ้านายใจร้ายกับเจ้า!"

จิ้งจอกน้อยที่กรอกตาไปมาราวกับว่ามันไม่อยากเชื่อถือเลย.

หยุนเซียวกล่าวเสริมขึ้นมาในทันที"เจ้านาย,ปรกติท่านก็ไม่ใช่คนใจดีอยู่แล้วนี่นา."

"เพ่ย!"ฉู่เทียนที่เขกหัวของหยุนเซียว"เจ้าคิดว่าเจ้าตัวน้อยนี้มันไม่ได้กินของดีรึไง?บิดาบอกเจ้าเลยนะว่ามันกินจนข้าจะหมดตัวกลายเป็นยาจกอยู่แล้ว!"

แก่นหยินหมื่นปีและแก่นหยินพันปีมากมายต่างก็ไปอยู่ในท้องของมันเป็นจำนวนมาก,จนตอนนี้นะรึ?แทบจะไม่มีอะไรเหลือแล้ว!

แก่นหยินพันปีมากมาย,เป็นแก่นหยินที่มีพลังปลุกดวงจิต มูลค่าของแก่นหยินนั้นมีค่ากว่าแก่นอสูรซะอีก,เขาที่นำไปแลกเปลี่ยนกับสองพี่น้องเหยี่ยนโกยและปิงโม่ได้ยาทิพย์และวัตถุดิบปรุงยามากๆ,และแก่นหยินที่เหลือจากนั้นก็ไปอยู่ในท้องของเจ้าตัวน้อยเรียบร้อยแล้ว.

ซ้ำตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าเจ้าตัวน้อยตนนี้มันเป็นสัตว์อสูรสายพันธ์ใหน.

ไม่ว่าจะเป็นของล้ำค่าอะไร,มันก็กินซะเกลี้ยงไม่เหลือเลย!

ฉู่เทียนที่เคาะไปที่หัวของจิ้งจอกน้อยเบาๆ"ไปได้แล้ว!"
 
จิ้งจอกน้อยสะอื้นสองครั้ง,ก่อนที่มันจะกระโดดออกไปในทันที,พร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นหมอกและเลือนหายไป,ไม่สามารถมองเห็นมันได้อีก.

ห่างออกไปร้อยกว่าเมตร,มันก็ปรากฏขึ้นที่บนพื้นทันที,พร้อมกับกระโดดออกไป,กลายเป็นหมอกอีกครั้ง,มันเล็ดลอดเข้าไป,ทุกการก้าวของมันแต่ละครั้งห่างออกไปทีละหลายร้อยเมตร.

หยุนเหยาและคนอื่นๆรู้สึกประหลาดเป็นอย่างมาก"การเคลื่อนไหวชั่วพริบตาของมันนั้นยอดเยี่ยมมาก!ถึงทักษะการต่อสู้จะไม่สูงก็ตามที,ทว่าท่าร่างของมันนั้นร้ายกาจยิ่งนัก!"

จิ้งจอกน้อยนับว่ามีความสามารถมากมาย.

ทว่าฉู่เทียนเองก็ไม่เข้าใจในตัวของมันสักเท่าไหร่.

ทักษะต่อสู้ของจิ้งจอกน้อยแทบจะเป็นศูนย์เลยก็ว่าได้,อาจจะมีเพียงหมุดวิญญาณที่สามารถใช้ลอบโจมตีได้บ้าง,หากแต่ยังไม่เคยเห็นเจ้าตัวเล็กนี้แสดงทักษะต่อสู้อะไรออกมาเลย,แต่ถึงกระนั้น,สัมผัสรับรู้ของมันก็แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉู่เทียนไม่สามารถบอกได้,จิ้งจอกน้อยตนนี้ต้องมีอะไรมากกว่านั้นแน่,แม้ว่าจิ้งจอกน้อยจะเกิดมาจจากพลังงานหยินที่ทรงพลังและแข็งแกร่ง,แต่นพลังของมันกลับสามารกกำราบเหล่าภูติวิญญาณหรืออสูรได้,หากว่าต้องต่อสู้กับเหล่าผู้ฝึกตนสายปิศาจหรืออสูรล่ะก็,ทักษะของเจ้าตัวน้อยนี้ก็มีประโยชน์กับฉู่เทียนเป็นอย่างมากทีเดียว

ทันใดนั้นจิ้งจอกน้อยก็ข่วนไปยังตายักษ์ของยักษ์แรงงานในทันที.

เหล่ายักษ์แรงงานที่กำลังขนเสาเหล็กอยู่,เมื่อต้องพบเข้ากับการลอบโจมตี,ทำให้มันตกใจรีบกุมดวงตาของมันทีที,ส่งผลให้เสาเหล็กหล่นทับเท้าของมันเสียงดังสนั่นก่อนที่จะกระโดดร้องตะโกนอย่างเจ็บปวด,ราวกับเป็นตัวตลกที่กำลังเต้นอยู่.

ตนที่สอง,ที่สามและที่สี่....

จิ้งจอกน้อยผู้เชี่ยวชาญการข่วนตาโดยเฉพาะ,เพียงแค่พริบตาเดียวมันก็ข่วนยักษ์ตาเดียวไปลายสิบตนแล้ว,ทุกๆตนต่างก็ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน.

"โฮก โฮก โฮก!"

ด้วยนิสัยดุร้ายของพวกมันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจะปล่อยให้เจ้าตัวเล็กนี้มายุแหย่ได้รึ?และตอนนี้มันได้ล่ะมือจากงานของมันทุกอย่าง,พร้อมกับระเบิดความโกรธ,และจิ้งจอกน้อยที่เห็นสถานการณ์เริ่มไม่ดีแล้วมันก็เริ่มหนีทันที.

และแล้ว.

เหล่ายักษ์ตาเดียวหลายร้อยตนก็เริ่มวิ่งใล่จิ้งจอกน้อยไปเป็นพรวน,บางตัวถือดาบ,บางตัวถือค้อน,พร้อมกับจิตสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมา,วิ่งไล่ตามแทบไม่ต่างจากระต่ายที่กำลังถูกไล่ล่าจากฝูงหมาป่า.

จิ้งจอกน้อยที่ล่อเหล่ายักษ์ตาเดียวออกมาพร้อมกับให้สัญญาณกับฉู่เทียน.

"พวกยักษ์เถือนถูกล่อออกไปแล้ว!"

"พวกเราไปกันเถอะ!"

ฉู่เทียนที่กระโดขึ้นไปยังยอดหอคอยที่มีศิลาดวงดาราอยู่,ยอดเยี่ยม,มี 6-7 ก้อนทีเดียว,ไม่คิดว่าจะง่ายดายและราบรื่นขนาดนี้,คงต้องรีบหนีแล้ว!

ในเวลาเดียวกัน,เสียงแห่งความโกรธเกรี้ยวก็คำรามออกมาเสียงดังก้องกังวานดังลั่นทั่วทั้งห้องโถงแห่งนี้.

ใบหน้าของพวกเขาถึงกับเปลี่ยนไป,"เกิดอะไรขึ้น?กับดักหนีเร็วเข้า!"

ที่ด้านบนหอคอยที่สูงใหญ่นั้นมีประกายแสงของดวงตาที่ดำมืดและเย็นชาที่ราวกับจะกัดกร่อนจิตใจ,หนานกงหยุนและฉู่เทียนกระโดดหลบฉากออกมาเกิดแรงกระแทกกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นมาทันที.

ยักษ์ตาเดียวสองตนยืนจังก้าดูแตกต่างจากตนอื่นๆได้โจมตีออกมา,เห็นได้อย่างชัดเจนมันมีโล่ขนาดใหญ่,นอกจากนี้ยังมีชุดเกราะที่หนากว่าปรกติ,อาวุธอีกข้างที่มันถือนับว่าสุดยอดยิ่งนัก,เป็นค้อนดาวตกเขี้ยวหมาป่าที่หนาเป็นพิเศษ!

หยุนเซียวถึงกับขมวดคิ้วแน่น,"แข็งแกร่งมาก!อยู่ในระดับเขตแดนดวงจิตปรากฏซะอีก!มีพลังเหนือกว่าข้าอย่างเห็นได้ชัด!"

"โฮกกก!"

ผิวกายของมันนั้นเป็นสีแดงเพลิง,นี่จะต้องเกิดขึ้นจากพลังวิญญาณจากการฝึกตนอย่างแน่นอน,ขาขวาของมันกระทืบไปที่พื้นเกิดหลุมโบ๋ลงไปทีเดียว,พร้อมกันนี้พวกมันยังพุ่งออกมากลายเป็นริ้วแสง,เป็นความเร็วที่ไม่สมกับรูปร่างมันเลยแม้แต่น้อย พุ่งเข้ามาจนหาอะไรจะเปรียบได้!

"เร็วมาก!หนีไม่พ้นแน่!"

พลังสายฟ้าของหยุนเหยาก็พวยพุ่งออกมาในทันที,คลื่นสายฟ้าสาดกระจาย,ก่อร่างกลายเป็นพลังป้องกัน,เกิดเป็นม่ายพลังไฟฟ้าป้องกันยักษ์ตาเดียวตนหนึ่งในทันที,ก่อนที่ร่างของมันจะกระแทกกำแพงสายฟ้าเสียงระเบิดดังสนั่น,ส่วนอีกตนที่สามารถเหวี่ยงค้อนดาวตกออกมา,ฉู่เทียนที่ยื่นกระบี่อเวจีขึ้นมาขวางเช่นกัน.

ค้อนดาวตกที่ถูกคลุมไปด้วยลำแสงสีแดงชาดก่อนที่มันจะส่องประกายโชติช่วง,เหมือนกับมีพลังที่แข็งแกร่งคลุมมันเอาไว้,และก่อนที่จะถึงตัวฉู่เทียนมันก็เกิดระเบิดที่รุนแรงกระแทกไปยังฉู่เทียนทันที.

ตูมมมม!

อากาศถึงกับบิดเบี้ยว!

ค้อนที่ไม่จำเป็นต้องกระแทกมาถึงฉู่เทียน,ทว่าคลื่นพลังที่มองไม่เห็นก็ถูกปล่อยออกมาอย่างรุนแรงจนร่างของฉู่เทียนปลิวลอยออกไปทีเดียว,เป็นพลังโจมตีที่หนักหน่วงจนทุกคนพูดไม่ออก,ถึงจะเป็นหยุนเหยาที่มีพลังปลุกดวงจิตระดับ 4 คงไม่สามารถต้านทานได้เช่นกัน.

เพราะกระบี่อเวจีที่สามารถดูดซับพลังโจมตีส่วนใหญ่เอาไว้ได้,ทว่าพลังที่เหลือก็ยังส่งเขาลอยออกมาได้!

พลังกายานิรันดร์ของเขาถึงกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆและรู้สึกเหมือนกระดูกจะหักไปหลายท่อนเหมือนกัน,ฉู่เทียนที่ถูกส่งลอยออกมาหลายเมตรตอนนี้สถานการณ์ดูไม่ดีนัก!

"ไม่ต้องห่วงข้า!"

"ข้ายังไม่ตาย!พวกเจ้าระวังตัวด้วย!"ฉู่เทียนที่กุมหน้าอกพยายามลุกขึ้นยืน"พวกมันใช้คลื่นพลังในการโจมตี!หยุนเหยา,เจ้าใช้มุกภูติวิญญาณสายฟ้ากันมันเอาไว้ให้ห่างจากพวกมันสิบเมตร!และอย่าให้มันโจมตีเข้ามาในระยะสามเมตรได้โดยเด็ดขาด!ไม่งั้นถูกมันเล่นงานแน่!"

ความแข็งแกร่งของยักษ์ตาเดียวสองตนนี้,เกรงว่าจะสามารถสังหารคนอื่นๆได้ในชั่วพริบตา,โชคดีของฉู่เทียนที่ไม่ถูกสังหาร,ไม่เช่นนั้นแล้วคงจะถูกดีดออกไปจากการทดสอบนี้ไปแล้ว.

"พวกเจ้ามาช่วยข้า!"

หยุนเหยาที่มีพลังฝึกตนสูงที่สุดและพลังโจมตีของนางเองก็สูงที่สุดอีกด้วย,สัตว์ประหลาดตนนี้ต้องอยู่ในเขตแดนดวงจิตปรากฏแน่นอน,แน่นอนว่านางแค่คนเดียวก็เพียงพอจัดการอีกหนึ่งตนส่วนเขากับหนานกงหยุน พร้อมคนอื่นๆ หากว่าร่วมมือกันล่ะก็จะต้องสามารถจัดการได้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 4 แน่นอน,ถึงแม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะแข็งแกร่ง,แต่พวกเขายังคงมั่นใจในการต่อสู้.

ผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 4 และระดับ 3 นั้นแม้ว่าจะดูห่างกันเพียงแค่นิดเดียว,แต่ที่จริงแล้วกับห่างกันราวกับสวรรค์และปฐพี!

"สายฟ้า!"

หยุนเหยาที่เรียกสายฟ้ายสีม่วงหลายพันเส้น,กระแทกไปยังร่างของยักษ์ตาเดียวที่กำลังเหวี่ยงค้อนดาวตก,ที่เตรียมจะโจมตีเข้ามา,มุกสายฟ้าที่ปลดปล่อยสายฟ้าออกมาแผ่ซ่านล้นออกมาจากฝ่ามือของนางพร้อมกับถูกยิงออกไปเกิดแสงสว่างจ้าเป็นริ้วแสงราวกับดาวตก.

ตูมมมมม!

มุกพลังสายฟ้าที่ปะทะเข้ากับค้อนดาวตก.

สายฟ้าสีม่วงที่กระแทกไปยังค้อนดาวตกกระเด็นออกไป,พุ่งผ่านกระแทกไปยังยักษ์ตาเดียว,พลังมุกสายฟ้าที่น่าสะพรึงกลัวกระแทกไปยังร่างของมันพร้อมกับระเบิดออกมาในทันที,เกิดเสียงดังสนั่นส่งร่างของมันลยอออกไปหลายเมตรทีเดียว.

พลังฝึกตนของหยุนเหยานั้นไม่ได้น้อยเลย,นางที่เป็นคนสำคัญที่ได้รับการฝึกฝนมาจากตระกูลหยุนโดยเฉพาะ,หากว่าคู่ต่อสู้อยู่ในระดับเดียวกันล่ะก็ย่อมไม่ใช่คู่มือของนางแน่นอน,และด้วยพลังสายฟ้าจากมุกภูติวิญญาณที่ช่วยเพิ่มพลังให้กับนางอีกหลายเท่า,การโจมตีดังกล่าวนั้นเพียงพอที่จะทำให้ยักษ์ตาเดียวได้รับบาดเจ็บสาหัส.

ยักษ์ตาเดียวอีกตนที่กำลังโต้กลับ.

หลินมู่และฟางหานที่ร่วมมือโจมตีออกไปพร้อมกัน,เขาได้เรียกภูติวิญญาณรากไม้ขึ้นมาจากใต้พื้นดิน,พันรัดตรึงยักษ์ตัวเดียวเอาไว้,ฟางหานที่เรียกน้ำแข็งออกมาแช่แข็งร่างกายของมันด้วยเช่นกัน,แม้ว่าพลังฝึกตนของทั้งสองจะไม่มาก,เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดการศัตรูได้,ทว่าก็สามารถที่จะรั้งศัตรูได้ชั่วขณะ.

หนานกงหยุนที่สบโอกาศก่อนที่จะเตะออกไปอย่างรุนแรงเข้าที่หน้าอกของมันเกราะของยักษ์ตาเดียวถึงกับแหลกเป็นชิ้นๆ,ร่างของมันที่หมุนลอยออกไปราวกับลูกบอล,หยุนเหยาได้โอกาสเรียกมุกวิญญาณสายฟ้ากลับมา,เพื่อชาร์จพลังสายฟ้าใหม่,เพื่อที่จะใช้โจมตียักษ์ตาเดียวอีกตัวในครั้งต่อไป.

ยักษ์ตาเดียวอีกตัวก็ถูกโจมตีไปด้วยสายฟ้าจนล้มลงไปอีกครั้ง.

ตอนนี้ยักษ์ตาเดียวทั้งสองตันได้รับบาดเจ็บหลายแห่งเลยทีเดียว.

พลังโจมตีของยักษ์ตาเดียวนั้นค่อนข้างน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,ทว่าพลังป้องกันของมันนั้นอ่อนแอเป็นอย่างมาก,ทั้งมุกวิญญาณสายฟ้าและกระบี่อเวจีต่างก็เป็นศาสตราวุธระดับสื่อสารดวงจิต,นอกจากนี้พลังทำลายของหยุนเหยาเองก็ทรงพลังเป็นอย่างมากถึงจะต้องใช้พลังวิญญาณเป็นจำนวนมากก็ตามที,และพลังของนางตอนนี้ก็ลดลงมากเลยทีเดียว!

"สังหาร!"

คนทั้งเจ็ดตอนนี้เข้าประชิดในทันที,พร้อมกับร่วมแรงร่วมใจสับพวกมันอย่างพร้อมเพรียงเพื่อสังหารมันให้ได้เร็วที่สุด.

ฉู่เทียนถึงกับพยุงร่างด้วยกระบี่,ก่อนที่จะนำขวดน้ำยาแก่นวารีแห่งชีวิตออกมา,พร้อมกับดื่มมันไปครึ่งขวด,บาดแผลของเขาค่อยๆหายไปอย่างรวดเร็ว,และหายเหนื่อยล้าไปในทันที.

"พวกเราได้ยินเสียงจากป้ายหยกว่า,สัตว์ประหลาดตัวนี้คือหัวหน้าแรงงานยักษ์เถื่อน,นั่นก็หมายความว่ามันคือหัวหน้าของเหล่ายักษ์เถื่อนพวกนี้นั่นเอง!"

"ใช่แล้ว!มารดามันเถอะ,ว่าแล้วทำไมมันถึงได้ร้ายกาจได้ขนาดนี้!ข้อมือของบิดาตอนนี้แทบจะแตกหักไปแล้ว!"

หลังจากร่างสองร่างของหัวหน้ายักษ์เถื่อนตายไปแล้วทำให้ศพของมันค่อยๆเลือนหายไป,ก่อนที่จะเหลือสินสงคราม,พวกเขาต่างก็จับจ้องมาพร้อมๆกัน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นแผนที.

"แผนที่เขาวงกตยักษ์!"

พวกเขาทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น!

นี่คือแผนที่ของเขาวงกตยักษ์ที่สมบูรณ์,มันมีอักษรบรรยายเต็มแผนที่,เขาวงกตยักษ์นี้ซับซ้อนเป็นอย่างมาก,มีเส้นทาง 100-200 เส้นเลยก็ว่าได้,และแต่ละเส้นทางยังมีทางแยกแตกแขนงออกไปมากมายนับไม่ถ้วน,ตำหนักขนาดเล็กเองก็มีอยู่ถึงสิบแห่ง,มันถูกกากบาทอย่างชัดเจนบนแผนที่!

หนานกงหยุนที่หยิบมันขึ้นมามองดู,"มีอักษรอะไรมากมาย,ข้าไม่เห็นจะเข้าใจเลย!"

"แผนทีอย่างงั้นรึ?ส่งมาให้ข้าดูสิ!"ฉู่เทียนที่ค่อยเปิดแผนทีออกดู"นี่คือตัวอักษรของเผ่าสวรรค์โบราณ,คนไร้การศึกษาเช่นเจ้าจะเข้าใจได้อย่างไรกัน!"

หากเป็นคนอื่นที่ว่ากล่าวหนานกงหยุนว่าไร้การศึกษาล่ะก็,คนเหล่านั้นจะต้องได้รับหมัดแห่งความพิโรจน์ของนางไปแน่,ทว่านี่มาจากปากของฉู่เทียน,นางจึงไม่ได้รู้สึกโกรธแต่อย่างใด"เผ่าสวรรค์คืออะไร?"

"เป็นเผ่าหนึ่งที่เก่าแก่เป็นอย่างมากเป็นเผ่ายุคบรรพกาลเลยก็ว่าได้,พวกเขาเป็นเผ่าที่ปกครองทวีปในยุคนั้น,แม้แต่เผ่าเอลฟ์ก็ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ,ไม่ต้องพูดถึงเผ่าสัตว์อสูร,หรือแม้แต่เผ่ามนุษย์,ข้าคิดว่าพวกเขายังเป็นแค่มนุษย์ถ้ำที่ยังไม่มีเชาว์ปัญญา,วิ่งตัวเปล่าเต้นรำรอบกองไฟอยู่เลย."

เผ่าสวรรค์นั้นเป็นเผ่าในตำนาน,บอกได้ว่าเหล่าลูกหลานของเผ่าสวรรค์ยุคบรรพกาล,เป็นหนึ่งในเผ่าที่เหลือรอดมาได้จากการระเบิดของทวีป,พวกเขาสามารถที่จะได้รับมรดกที่ยิ่งใหญ่มาด้วย,ทว่าของส่วนใหญ่แล้วกับไม่ตกทอดมาจนถึงชนรุ่นหลัง,มันช่างเป็นสิ่งที่น่าเศร้าจริงๆ!

"งั้นเจ้ากำลังจะบอกว่าหอคอยฝึกฝนโบราณแห่งนี้มีส่วนสัมพันธ์กับเผ่าสวรรค์อย่างงั้นเหรอ."

"ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นก็ได้,เผ่าสวรรค์นั้นเป็นเผ่ายุคบรรพกาลที่เก่าแก่มากๆ,แทบจะไม่มีสิ่งใดเหลือมาจากยุคนั้นแล้ว,หอคอยฝึกฝนนี้เป็นหอคอยที่สร้างขึ้นมาเพื่อฝึกฝนผู้เยาว์และเป็นความรู้ที่ได้มาจากเผ่าสวรรค์ก็เป็นได้,และไม่น่าจะใช่หอทดสอบระดับสูงของเผ่าสวรรค์ด้วยซ้ำ,เป็นเพียงหอคอยการฝึกระดับต่ำ,แผนผังของหอคอยฝึกฝนเอง,ก็มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมากและต้องใช้แรงงานคนจำนวนมากเพื่อที่จะสร้างขึ้นมา."

"มันไม่สำคัญหรอก!"หนานกงหยุนถามต่อ,"เจ้ารีบดูเร็วเข้า!มีเส้นทางใหนบ้างที่ปลอดภัย?พวกเราที่เข้ามาเกือบ 2-3 ชั่วโมงแล้ว,หากแต่สัตว์ประหลาดเริ่มต้นนั้นกลับดูแข็งแกร่งยิ่งนัก!หากเป็นเช่นนี้ล่ะก็,ไม่ใช่ว่าพวกเราจะสังหารได้เฉพาะพวกแรงงานระดับต่ำหรอกเหรอ!"

ที่นางกล่าวมาก็ถูก.

ขณะที่ฉู่เทียนกำลังเพ่งพิศจ้องมองแผนที่อยู่นั้น,จากช่องทางเดินก็ได้ยินเสียงดังผ่านลอดออกมา!

"พวกยักษ์ตาเดียวที่ถูกล่อออกไปนั้น,กลับมาแล้วอย่างงั้นรึ?พวกเรายังไม่ได้ก้าวไปใหนเลย!"

หยุนเซียวที่กำลังสังเกตเหตุการณ์,ทันใดนั้นก็รู้สึกหวาดกลัว"จบกันแล้ว,สถานที่แห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยหน้าผา!พวกเราจะต้องถูกพบเข้าอย่างแน่นอน!"

จิ้งจอกน้อยที่พุ่งเข้าไปในห้องโถงหลัก,วิ่งหนีการไล่ล่าอย่างกระวนกระวายใจ.

เป็นเรื่องที่แปลกประหลาด,ไม่ใช่ว่ามีแต่พวกแรงงานยักษ์ตาเดียวหรอกเหรอ,มันน่าจะจัดการได้อย่างง่ายๆไม่ใช่รึ?ตอนนี้กับแสดงท่าทางลำบากยากเข็ญอย่างหนัก!เมื่อคนทั้งเจ็ดเริ่มมองเห็นก็เผยท่าทางตกใจอย่างแรง.

เหล่าแรงงานยักษ์หลายร้อยคนตอนนี้ร่างกายของพวกมันได้เปลี่ยนไปแล้ว,จากผ้ากันเปื้อน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลายเป็นชุดเกราะหนัง,พร้อมกับแต่ละตัวนั้นยังมีโล่ขนาดใหญ่และคันธนู,ทำให้พวกมันเหมือนกับกองทัพขนาดย่อมๆบางตัวที่มีค้อนดาวตก,ค้อนโบราณ,ดาบยาว,หอกแหลม,และหน้าไม้และลูกธนู,พวกมันไล่ล่าจิ้งจอกน้อยอย่างบ้าคลั่ง,ซ้ำยังยิ่งธนูและปามีดไล่หลังมาด้วย,ด้วยความเร็วขนาดนี้,และความแข็งแกร่งขนาดนี้มันสามารถที่จะบดขยี้ทุกอย่างได้เลย.

บัดซบ!

พวกมันในตอนนี้ได้ยกระดับเป็นระดับหัวหน้าไปจนหมดทุกตัวแล้ว?!

ก่อนหน้านี้ยังเป็นยักษ์งานอยู่เลยผ่านมาเพียงแค่ไม่กี่นาทีเท่านั้น,หลังจากที่พวกมันถูกจิ้งจอกน้อยล่อออกไป ตอนนี้ได้กลายเป็นเหล่าอสูรระดับหัวหน้าไปแล้ว!การเปลี่ยนแปลงยกระดับนี้มันไม่เร็วจนเกินไปรึ?หากว่ามันเป็นไปรวดเร็วถึงเพียงนี้ล่ะก็,อีกหน่อยมันไม่กลายเป็นขุนพลและแม่ทัพเลยหรอกเหรอ!เพียงแค่คิดก็กลายเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดเข้าแล้ว!

ฉู่เทียนไม่มีเวลาที่จะหาคำตอบเกี่ยวกับการวิวัตนาการของเหล่าอสูรภายในหอทดสอบแห่งนี้เลย,ด้วยจำนวนของแรงงานยักษ์เถื่อน 400-500 ตัวที่ได้กลายเป็นตัวหัวหน้าแล้วและกำลังไล่ตามพวกเขามาแล้วนั้น,ซ้ำตัวหัวหน้าสองตนก่อนหน้านี้แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,หากต้องเจอกับตัวหัวหน้ามากมายึงเพียงนั้น,พวกเขาจะเอาอะไรไปต่อกรกับพวกมัน!

ตำหนักแห่งนี้มีทางออกทางเดียวอย่างงั้นเหรอ!

ไม่มีทางหนีให้กับพวกเขาแล้ว!


"ช้าก่อน!"ฉู่เทียนที่จับจ้องไปยังตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขาบนแผนที,ทันใดนั้นเขาก็สามารถที่จะสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง"ที่ด้านหลังของห้องโถงนี้,มีเส้นทางให้ไปได้เส้นทางหนึ่ง,แต่เป็นเส้นปะ...ทำไมถึงไม่ใช่เส้นทึบล่ะ?หรือว่านี้คือเส้นทางลัด!เอาล่ะยังไงก็หามันให้เจอเร็วเข้า!"


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น: