Miracle Throne Chapter 170 Giant hard labor
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 170 แรงงานยักษ์เถื่อน
บทที่ 170 แรงงานยักษ์เถื่อน
รูปร่างที่เหมือนมนุษย์หากแต่มีตาเดียวขนาดใหญ่,ทั่วทั้งร่างของมันนั้นมีผิวสีน้ำตาล,ที่หยาบก้านเหมือนกับผิวของศิลา,กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ,ดูทรงพลังแข็งแกร่ง,ร่างกายส่วนล่างหากมองใกล้ๆแล้วจะเห็นเป็นผ้ากันเปื้อนเหมือนเหมือนชุดทำอาหารแต่ก็เป็นเนื้อเดียวกันเหมือนกับชุดเกราะโลหะ,ร่างกายใหญ่โตและนิ้วเท้าของมันแต่ล่ะข้างมีสาวนิ้วขนาดใหญ่,ส่วนมือของมันมีอาวุธที่ต่างกันออกไป.
ในยุคสมัยของฉู่เทียนนั้น.
สิ่งมีชีวิตเหล่านี้สูญพันธ์ไปหลายหมื่นปีแล้ว.
ยักษ์ตาเดียว,ถูกเรียกอีกในนามว่ามนุษย์ถ้ำ,ถูกเรียกว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีภูมิปัญญาครึ่งเดียว,เป็นครึ่งมนุษย์และครึ่งสัตว์,มีสติปัญญาที่ต่ำ,แต่ก็ยังมีความสามารถพิเศษบางอย่าง,แต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่โหดร้าย,ดังนั้นจึงมีความดุร้ายและและแข็งแกร่งเป็นอย่างมากทีเดียว!
ฉู่เทียนตะโกนออกไปเสียงดัง"ระวังตาของพวกมันเอาไว้!"
ช้าไปแล้ว,ตาขนาดใหญ่ตาเดียวได้ปล่อยแสงที่เย็นเยือบออกมาแล้ว,หนานกงหยุนและหยุนเหยาที่เตรียมโต้กลับยักษ์ตาเดียว,ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงแสงที่เย็นเยือบ,รู้สึกถึงพลังจิตที่กำลังแทรกเข้ามาในสมองของเขาในทันที,ทำให้ร่างกายของพวกเขานั้นแข็งทื่อไปเลย,ราวกับว่าได้กลายเป็นหินจนขยับไม่ได้.
"ไม่ดีแล้ว!"
"ข้าขยับไม่ได้!"
นี่คือหนึ่งในความสามารถของยักษ์ตาเดียว,พวกมันสามารถที่จะปล่อยลำแสงอัมพาตออกมาได้,ลำแสงอัมพาตของมันนั้นไม่ได้ทำให้ร่างกายเป็นง่อยหากแต่เป็นการแช่แข็งจิตวิญญาณทำให้คนๆนั้นไม่สามารถที่จะควบคุมร่างกายได้ชั่วคราว,อย่างไรก็ตาม,ด้วยพลังจิตที่มันสร้างขึ้นมานั้น,หากว่าไม่สบตามันเข้าล่ะก็,ความสามารถของมันก็จะไร้ผลเช่นกัน.
ไม่มีทางแล้ว!
โดนทักษะนั้นเข้าไปแล้ว!
จิ้งจอกน้อยที่โผล่ออกมาพร้อมกับพ่นหมุนสีแดงออกไปยิ่งใส่หัวของยักษ์ตัวเดียว,สังหารมันไปหนึ่งตัวในทันที.
กระบี่อเวจีที่มีเปลวเพลิงสีขาวน้ำเงินก็พ่วยพุ่งลุกโชนขึ้นมา,พร้อมกับพุ่งออกไปฟันไปยังร่างของยักษ์ตาเดียวที่อยู่ด้านหน้า,หัวของมันถูกสับออกไปในทันที.
ยักษ์ตาเดียวถึงแม้ว่าจะมีจำนวนมาก,ทว่าความแข็งแกร่งของมันเองก็ธรรมดาเป็นอย่างมาก.
โดยปรกติแล้วถึงจะเป็นผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับสามก็มีพลังทำลายสูงแล้วถึงแม้ว่าจะไม่ใช้วิชาทักษะใดเลย,ลำพักการเคลื่อนไหวและกำลังก็เพียงพอที่เต็มไปด้วยพลังไม่สามารถที่จะดูแคลนได้.
ฟิ้ว!!
ยักษ์ตาเดียวตนหนึ่งได้ยิงหน้าไม้ออกมา.
เคร้ง!
ลูกศรที่แข็งแกร่งถูกยิงมาบริเวณไหล่ของฉู่เทียน,ส่งผลให้เขาหลุดออกมาจากสภาพซ่อนร่างด้วยทักษะเงาลวงอเวจี!
สายตาของยักษ์ตาเดียวนั้นพิเศษ,ไม่เพียงแต่สามารถปล่อยพลังโจมตีพิเศษออกมาได้,ยังสามารถมองผ่านวิชาลวงตาได้อีกด้วยและยังสามารถโจมตีไปยังวิชาลวงตาของฉู่เทียนได้อีก,ด้วยพลังฝึกตนของฉู่เทียนนั้นไม่สูงนัก,จึงยากที่จะซ่อนร่างจากสายตามที่ทรงพลังของยักษ์ตาเดียวได้.
โชคดีที่เขามีวิชากายานิรันด์คุ้มกายอยู่.
ไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องได้รับบาดเจ็บหนักอย่างแน่นอน!
พร้อมกันนี้ยังมียักษ์ตาเดียวอีกสองตนที่พุ่งตรงเข้ามาอีกด้วย,ฉู่เทียนที่เร่งรีบยกกระบี่ของเขารับการโจมตีทันที,ค้อนยักษ์ที่ฟาดลงมาแทบจะทันที,พื้นดินรอบๆถึงกับยุบลงไปกลายเป็นหลุมขึ้นมาเลยทีเดียว.
โชคดีที่มันเป็นเพียงแค่ระดับทั่วไปเท่านั้น.
ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยการฟาดลงมาด้วยค้อนยักษ์ถึงสองครั้งคงทำให้เขาตกตายไปอย่างแน่นอน.
"ไอ้พวกบัดซบ!"
ภูติกระบี่เทพมารที่ถูกยิงขึ้นไปสู่ท้องฟ้า,ปลดปล่อยแรงกดดันวิญญาณมหาศาลผลักยักษ์ตาเดียวให้ถอยหลักออกมาสองสามก้าว,กระบี่ของเขาที่ส่องประกายพุ่งขึ้นมาอีกหลายเท่า,ก่อนที่เขาจะกระโดดเหวี่ยงการโจมตีตัดโค้งออกไป,หัวของยักษ์ตาเดียวสองตัวก็ถูกตัดลอยออกไปในทันที.
หนานกงหยุนและหยุนเหยาที่ได้สติคืนมาก"จัดการมันเร็วเข้า!"
หนานกงหยุนที่มีพลังกายานิรันดรปกป้องร่างกายและพุ่งเข้าไปด้านหน้าทั้งที่ยังปิดตาของนางตาหนึ่ง,พร้อมกับปล่อยบอลเพลิงกระแทกไปยังยักษ์ตาเดียว
3-4 ตนพร้อมกัน,แขนทั้งสองข้างของนางที่คว้าไปที่ยักษ์ตาเดียวซึ่งแต่ละตัวมีน้ำหนักถึง
1-2 ตัน,หากแต่กลับถูกนางเหวี่ยงออกไปหลายเมตร,พร้อมกับถูกกระแทกกลายเป็นหลุมลึกไปเลย.
หยุนเหยาและเฟิงไฉ่เตี๋ยโจมตีจากระยะไกล,ด้วยพลังป้องกันร่างของพวกนางนั้นไม่ได้แข็งแกร่งเท่าไหร่นักจึงจำเป็นต้องรักษาระยะโจมตีเอาไว้.
หยุนเซียว,หลินมู่และฟางหาน,มีพลังที่ค่อนข้างอ่อนด้อย,จึงไม่กล้าที่จะวิ่งเข้าไปประจันหน้ากับยักษ์ตาเดียว,จึงทำได้แค่เพียงป้องกันหยุนเหยาและเฟิงไฉ่เตี๋ย
ป้องกันเหล่าลูกธนูที่ถูกยิงมายังหยุนเหยาและเฟิงไฉ่เตี๋ยเท่านั้น,หรือหากมียักษ์ตาเดียวที่หลุดมา,พวกเขาทั้งสามก็จะร่วมมือโจมตีในทันที.
คนทั้งเจ็ดที่ต้องต่อกรกับยักษ์ตาเดียวที่มีมากกว่าพวกเขาถึงสิบเท่า.
แม้ว่าจะต้องใช้กำลังไปไม่น้อย,ทว่าก็ไม่มีวิธีที่ดีกว่านี้อีกแล้ว.
ในเวลาเดียวกัน,จากอุโมงค์ด้านหน้า,ก็ได้ยินเสียงคำรามลั่นของยักษ์ตาเดียวอีกกลุ่ม,ดูเหมือนว่าจะเป็นกำลังเสริมของยักษ์ตาเดียวที่กำลำโหยหิวเหยื่อ,เตรียมพร้อมที่จะเข้าร่วมการต่อสู้.
หนานกงหยุนที่จัดการยักษ์ตาเดียวให้ล้มคว่ำ,พร้อมกับขึ้นไปนั่งบนร่างและโขลกหัวกระแทกหัวของมันจนเละ.
ทันใดนั้นลมที่เย็นวูบเข้ามา,ค้อนขนาดใหญ่ที่ฟาดมายังด้านหลังของหนานกงหยุน.
เกราะแก้วพลังอำนาจแห่งดวงดาราถึงกับแตกออกเป็นเสี่ยงๆ,ส่งร่างของหนานกงหยุนลอยออกไปหลายเมตรทีเดียว,ยักษ์ตาเดียวอีก
4-5 ตัวที่รุมเข้ามาทันที,ปราณกระบี่และพลังสายฟ้าที่ฟาดมาทันที,ขัดขวาง,พร้อมกับกระแทกไปยังพวกมันจนร้องลั่น,หนานกงหยุนที่สบโอกาส,กระโดดออกมา,พร้อมกับค่อยๆฟื้นฟูพลังกายานิรันดร์,นางกระโดดเตะกวาด,พร้อมกระโดดโหม่งที่อกพวกมันอย่างแรง.
"พวกเราไม่สามารถสังหารมันได้หมดแน่!พวกมันมีมากจนเกินไป!"
เมื่อเห็นยักษ์ตาเดียวที่มีกำลังเสริมเข้ามา,ทำให้นางถึงกับจ้องมองอย่างหมดกำลังใจ.
เหล่ายักษ์ตาเดียวเหล่านี้ร้ายกาจอยู่ไม่น้อย,คนเจ็ดคนที่ต้องต่อกรกับพวกมันที่มีมากกว่าสิบเท่า,และตอนนี้ยังเรียกพวกมาเสริมอีก,จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขาจะสามารถจัดการได้หมด.
อย่างไรก็ตาม.
พวกเขาก็ไม่มีเส้นทางให้หนีเลย.
ด้วยฝูงยักษ์ตาเดียว,ทำให้พวกเขาเคลื่อนที่ไปข้างหน้าไม่ได้,ซ้ำด้านหลังเองก็มีฝูงยักษาที่มีขนาดกว่าสี่สิบเมตรรออยู่,ซึ่งแข่งแกร่งกว่ายักษ์ตาเดียวถึงร้อยเท่า!
"คู คู!"
จิ้งจอกน้อยที่ลุกขึ้นยืน,ก่อนที่จะกระโดดออกไป,พร้อมกับเหินลอยขึ้นสูงกลายเป็นควันและหายไปในทันทีจนไม่สามารถมองเห็นร่างของมันได้,พร้อมกับเวลาเดียวกันเอง,ก็ไปปรากฏอยู่ด้านหน้าของกำลังเสริมของยักษ์ตาเดียว,กงเล็บทั้งสี่ของมันข่วนไปยังตาขนาดใหญ่ของยักษ์ตาเดียว.
ยักษ์ตาเดียวที่ตบไปที่หน้าของมันอย่างบ้าคลั่งต้องการที่จะบดบี้เจ้าตัวเล็กให้แหลกเหลว,หากแต่เป็นการฟาดไปที่ใบหน้าของมันเอง,พร้อมกับล้มคว่ำด้วยหมัดตัวเอง,ทว่าจิ้งจอกน้อยก็เปลี่ยนเป็นควันหายไป,ปรากกฏอยู่ที่ยักษ์ตาเดียวตนที่สอง,ข่วนไปที่ลูกตาของมันมันตัวแล้วตัวเล่า.
"โฮกกก!"
ฝูงยักษ์ตาเดียวตกไปอยู่ในความโกลาหลด้วยความโกรธเกรี้ยวไปในทันที,มันได้เหวี่ยงค้อนไปมา.
พรึดๆ!
พลาดเป้าทุกการโจมตี!
ยักษ์ตาเดียวหลายตนที่ล้ำคล่ำลงไปกองบนพื้น.
การเคลื่อนไหวที่แปลกประหลาดของจิ้งจอกน้อย,เหล่ายักษ์ตาเดียวที่โดนยั่วยุตอนนี้ยักษ์ตาเดียวทั้งกลุ่มกำลังบ้าคลั่งด้วยความโกรธจัด,ฟาดค้อนไปมา,พยายามที่จะโจมตีจิ้งจอกน้อย.
"คู คู!"
จิ้งจอกน้อยได้ล่อยักษ์ตาเดียว,วิ่งไปรอบๆห้องโถงขนาดใหญ่วิ่งไล่ตามมันเป็นพรวน,พร้อมกับร่ายรำให้สัญญาณกับพวกฉู่เทียน,ให้รีบจัดการพวกก่อนนี้โดยเร็ว.
ฉู่เทียนที่หัวเราะออกมาอย่างพึงพอใจ"เจ้าตัวเล็ก,มีเจ้าอยู่!ช่วยข้าได้เยอะทีเดียว,ถ่วงเวลาพวกมันไว้สักหนึ่งนาทีก็แล้วกัน!"
คนอื่นๆตอนนี้ไม่คิดเลยว่าจิ้งจอกน้อยที่ดูธรรมดาๆนั่น,จะสามารถที่จะสามารถหลอกล่อเหล่ายักษ์ตาเดียวหลายสิบตัวออกไปได้,ได้โอกาสพวกเขาทั้งเจ็ดไม่ปล่อยให้เสียเวลาอย่างแน่นอน,เป็นโชคดีที่เหล่ายักษ์ตาเดียวเหล่านั้นมีสติปัญญาที่ไม่สูงนัก,ไม่เช่นนั้นแล้วเจ้าตัวน้อยนั่นคงไม่สามารถหลอกล่อมันออกไปได้ทั้งฝูงอย่างแน่นอน.
ฉู่เทียนและหนานกงหยุนรีบจัดการเหล่ายักษ์ตาเดียวที่อยู่ด้านหน้าในทันที.
เฟิงไฉ่เตี๋ยและหยุนเหยาเน้นโจมตีจากระยะไกล,โดยมีกลุ่มสามคนของหยุนเซียวคอยช่วยอยู่ข้างๆ.
เหล่ายักษ์ตาเดียวตัวแล้วตัวเล่าที่ถูกจัดการไป,จำนวนของพวกมันกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว,กองกำลังเสริมที่พวกมันส่งมาได้ถูกล่อออกไปรอบๆห้องโถง.
ในเวลานี้จิ้งจอกน้อยที่หายตัวพร้อมกับเข้าข่วนหน้าเหล่ายักษ์ตาเดียวไม่หยุด,พวกมันโจมตีพลาดเป้า,โจมตีกันเองจนได้บาดแผลอยู่เต็มไปหมด,ไม่รู้ว่าจะต้องหัวเราะหรือร้องไห้ดี,ด้วยบาดแผลที่พวกมันได้รับนั้น,เกิดจากพวกมันโจมตีตัวเองและพวกของมันเองทั้งนั้น.
"ไปกันได้แล้ว!"
หลังจากการต่อสู้จบลง.
เหล่ายักษ์ตาเดียวถูกจัดการนอนกองอยู่บนพื้นเต็มไปหมด.
"กำจัดฝูงแรงงานยักษ์เถื่อน!ได้รับแต้ม 3 คะแนน!ตอนนี้มีคะแนนรวม 148 แต้ม!"
"กำจัดฝูงแรงงานยักษ์เถื่อน!ได้รับเพิ่มอีก 2แต้ม!ตอนนี้มีคะแนนรวม 150 แต้ม!"
สร้อยหยกรายการฝึกฝนของทุกคนที่อยู่ด้านหน้า,เปล่งแสงออกมา,แปรเปลี่ยนเป็นคะแนนที่เพิ่มเข้ามา.
กลุ่มยักษ์ตาเดียวสองฝูงที่ถูกจัดการจนหมด,ทำให้ฉู่เทียนได้คะแนนเพิ่มอีก
5 คะแนน,หนานกงหยุนได้เพิ่ม 4 คะแนน,หยุนเหยางและเฟิงไฉ่เตี๋ยที่ได้คะแนนเพิ่ม 3
แต้มเท่ากัน,และที่ได้สองคะแนนเท่ากันก็มีกลุ่มสามคนของหยุนเซียว.
การแก้ไขรูบิคพันธนาการได้คะแนนถึง 20 คะแนน!
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการออกแบบด่านฝึกฝนนั้น,การแก้ปัญหารูบิคนั้นมีความยากเป็นอย่างมาก,บางทีคงยากกว่าเหล่ายักษาที่แข็งแกร่งนั่นก็เป็นได้!
การเคลื่อนไหวทุกอย่างภายในด่านทดสอบนี้,ยิ่งแสดงความสามารถออกมามากก็จะยิ่งได้คะแนนมากขึ้น,และคะแนนที่ได้รับนั้นก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับความยากง่ายในแต่ล่ะด่านด้วย!
ทันใดนั้นหยุนเซียวก็กล่าวออกมาด้วยท่าทางประหลาดใจ"พวกเจ้าดูซิ!ศพของยักษ์ตาเดียวหายไปแล้ว!"
ศพมากมายของยักษ์ตาเดียวที่เปลี่ยนเป็นเรืองแสง,ก่อนที่จะหายไปอย่างไม่คาดคิด.
ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร.
ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในด่านทดสอบแห่งนี้,เป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่จะเป็นของจริง,ทุกอย่างนั้นต่างก็เป็นภาพลวงตา,ไม่เว้นแม้แต่ยักษ์ตาเดียวหรือองค์รักษ์ยักษา,นี่คือค่ายกลขนาดใหญ่ที่สร้างภาพลวงตาที่แข็งแกร่งทรงพลังขึ้นมาเท่านั่นเอง.
"เอ๊ะ!พวกมันทิ้งสิ่งของเอาไว้ด้วยล่ะ!"หยุนเซียวที่เดินไปยังกองศพของยักษ์เถื่อนที่กำลังเลือนหายไป!พร้อมกับหยิบกุญแจทองแดงขึ้นมา.
"ที่ตรงนี้ก็มีด้วยอันหนึ่ง!"หนานกงหยุนที่เดินไปยังลานกองศพของยักษ์ตาเดียวที่นอนอยู่ก่อนนี้ได้ทิ้งกุญแจทองแดงเอาไว้.
หยุนเหยาที่ไม่ได้รู้สึกประหลาดใจอะไร,"มันคือสินสงคราม!หลังจากที่ผ่านการต่อสู้ในด่านทดสอบ,ก็จะมีโอกาสได้รับสินสงคราม,อาจจะเป็นสมุนไพรทำยา,บางทีอาจเป็นอาวุธ,นอกจากนี้ยังมีโอกาสได้รับของล้ำค่าอื่นๆอีกด้วย."
"แล้วกุญแจนี่มีประโยชน์อะไรกัน?"
"ด่านทดสอบจะมีกล่องสมบัติปรากฏขึ้นมาแบบสุ่มๆ,กุญแจเหล่านี้ก็เช่นกันบางทีมันอาจจะสามารถใช้ไขกล่องสมบัติเหล่านั้นได้สักหีบ."
ใบหน้าของหนานกงหยุนที่แสดงท่าทางประหลาดใจ,พร้อมกับกล่าวออกมาด้วยท่าทางสนใจเล็กน้อย!ไม่คิดเลยว่าการเข้าร่วมทดสอบในหอคอยแห่งนี้มีเรื่องราวน่าสนุกไว้ให้ผู้เข้าแข็งขันอยู่เหมือนกัน!
"สถานที่แห่งนี้อยู่นานไม่ได้,พวกเรารีบไปกันเถอะ."
มีเส้นทางให้เลือกสองเส้น.
เส้นหนึ่งคือเหล่าแรงงานยักษ์เถื่อนออกมา,ส่วนอีกเส้นทางนั้นพวกเขาไม่สามารถบอกได้,พวกเขาที่กำลังปรึกษาหารือกัน,และสุดท้ายก็ได้เลือกเส้นทางที่ยักษ์ตาเดียวออกมานั่นเอง.
เหล่ายักษ์ตาเดียวถึงแม้ว่าจะแข็งแกร่ง,ทว่าก็ไม่เกินกว่ากำลังที่พวกเขาจะสู้ได้.
เหล่ายักษ์ตาเดียวนั้นถูกเรียกว่า"แรงงานยักษ์เถื่อน"ของด่านทดสอบ,นั่นแปลว่ามันเป็นสัตว์ประหลาดระดับต่ำสุด,และก็หมายความว่าด่านด้านหน้าจึงควรจะเป็นด่านที่มีความปลอดภัยที่สุดของหอคอยโบราณแห่งนี้,และเส้นทางอื่นๆนั้นพวกเขาไม่รู้อะไรเลย,ดังนั้นควรที่จะเลือกด่านที่มีแรงงานยักษ์เถื่อนจึงเป็นทางเลือกที่ถูกที่สุดแล้ว.
เมื่อพวกเขาผ่านเข้าไปในทางเดินที่ยาวลึกเข้าไปนั้น,ก็ได้พบเข้ากับปราสาทใหญ่ปรากฏอยู่ข้างหน้าพวกเขา.
เป็นพระราชวังในหอคอยที่มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมากเท่าๆกับจัตรัสของเมืองหลวงรัฐกลางเลยก็ว่าได้,มันถูกก่อสร้างขึ้นด้วยศิลาและท่อนไม้.และมีฝูงของยักษ์เถือนที่กำลังลำเลียงวัตถุดิบไปยังด้านใน,จากที่เห็นแล้วดูเหมือนว่าพวกมันกำลังก่อสร้างหอคอยอยู่.
หอคอยแห่งนี้สร้างขึ้นเร็วมากดูเหมือนว่าจะเสร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว.
เมื่อฉู่เทียนจ้องมองไปยังด้านหน้า,ทันใดนั้นเขาก็เผยท่าทางดีใจและประหลาดใจ.
"ศิลาดวงดารา!"
"หอคอยแห่งนี้มีศิลาดวงดารา,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถหาศิลาแห่งดวงดรามาได้มากขนาดนี้!"
หนานกงหยุนที่สังเกตเห็นที่จุดยอดของหอคอยที่มีอัญมณีวางซ่อนกันอยู่,ดูเหมือนว่ามันจะส่องประกายวับวาวส่องประกายแสงดวงดาราออกมา,แสงดวงดารานี้ค่อนข้างคุ้นเคยอยู่ไม่น้อย,เหมือนว่ามันเป็นแสงเดียวกับที่ปลดปล่อยออกมาจากหญ้าสะเก็ดดาว.
เพียงแต่แสงดวงดาราที่ปล่อยออกมาจากหญ้าสะเก็ดดาวนั้นบางเบามาก.
"อัญญมณีดวงดารานั่นมีพลังแห่งดวงดาราที่ทรงพลังมาก,คงจะเทียบได้กับหญ้าสะเก็ดดาวราวๆ
100,000 ตนทีเดียว!"สายตาของฉู่เทียนที่ดูราวกับร้อนผ่าวลุกโชนขึ้นมา"หากว่าพวกเราได้สิ่งนี้มา,จะทำให้วิชากายานิรันดร์โอบแสงดาราพัฒนาไปถึงขั้นกายเพชรได้อย่างแน่นอน!"
ร่างของหนานกงหยุนถึงกับสั่นสะท้าน.
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆล่ะก็,ศิลาเหล่านั้นก็นับว่าเป็นสมบัติที่ประเมินค่าไม่ได้เลย,ถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้อะไรเลยจากการทดสอบนี้,หากแต่ได้ศิลาหินแห่งดวงดารานี้มาก็นับว่าการเข้าทดสอบในครั้งนี้ก็ไม่เสียเปล่าอย่างแน่นอน!
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
ขอบคุณครับ
ตอบลบ