วันเสาร์ที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 167 The knowledge is the strength

Miracle Throne Chapter 167 The knowledge is the strength!

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 167 ความรู้คือพลัง


บทที่ 167  ความรู้คือพลัง




พริบตาเดียวที่เข้ามาด้านใน,ทุกสรรพสิ่งสั่นไหวไปมาอย่างรุนแรงทำให้ทุกๆคนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก,พลังจิตวิญญาณและกาลอากาศที่กำลังกดทับมายังร่างกายของพวกเขาราวกับคลื่นสึนามิที่ล้อมร่างกายของเขา,ทันใดนั้นรอบๆร่างกายของเขานั้นก็เกิดโลกด่านทดสอบขึ้นมา.

สถานที่ขนาดใหญ่กำลังปรากฏและถูกสร้างขึ้นมาอย่างช้าๆ.


ฉู่เทียนที่เปิดเสื้อของเขาออกมา,ก่อนที่หัวที่ฟูฟ่องของจิ้งจอกน้อยจะยื่นออกมา,รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ของมันเผยให้ฉู่เทียนเห็น,แสดงท่าภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก.

"ไม่คิดนะเนี่ยว่าเจ้าเองก็มีความสามารถอยู่เหมือนกัน!"

ฉู่เทียนที่ได้อ่านบันทึกของไฉ่เตี๋ยมาแล้วว่า,เกี่ยวกับการพยายามนำสิ่งอื่นเข้ามาในหอคอยฝึกฝนแห่งนี้นั้น ไม่สามารถที่จะนำสิ่งมีชีวิตอื่นเข้ามาได้,ดังนั้นการจะนำสัตว์ต่อสู้หรือสัตว์เลี้ยงทั่วไปเข้ามาเป็นไปไม่ได้เลย.

หากแต่จิ้งจอกน้อยตนนี้กลับสามารถที่จะต้านทานกฏของหอคอยแห่งนี้ได้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถเข้ามากับฉู่เทียนได้!

จิ้งจอกน้อยที่กลับเข้าไปอยู่ในอกเสื้อของเขาเหมือนเดิม.

ฉู่เทียนไม่สนใจเรื่องดังกล่าวอีกต่อไปเขาได้จ้องมองไปรอบๆร่างกายของเขา,สถานที่แห่งนี้ดูไม่เหมือนพระราชวังแต่อย่างใด,ที่จริงแล้วสถานที่แห่งนี้ควรที่จะเป็นทางเดินที่ลาดยาวไปข้างหน้ามากกว่า.

มีเส้นทางที่ลาดไปด้านหน้าลึกเข้าไปจนมองไม่เห็นจุดสิ้นสุด,เป็นทางเดินที่ล้ำลึกมาก.

แม้ว่าจะเรียกว่าเป็นทางเดินก็ตามที,หากแต่มันเป็นทางเดินที่มีขนาดมโหฬารจนเกินไป,จนรู้สึกราวกับว่าอยู่ภายในตำหนักขนาดมหึมา.


เสาแต่ล่ะต้นมีความสูงราวๆ 200 เมตร!

มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 60-70 คนโอบเลยก็ว่าได้

โถงทางเดินแต่ล่ะช่องนั้นมีขนาดพื้นที่ราวๆ 30-40 ตารางเมตร!

มีคบเพลิงทองแดงขนาดมหึมาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้ากระจายออกไปรอบๆคล้ายๆกับปาสาททั่วไป!

บอกได้คำเดียวว่า,สิ่งของทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในนี้เหมือนว่ามันจะมีขนาดใหญ่กว่าเดิมหลายสิบเท่า,ทำให้มนุษย์ที่เขามาในนี้ก็แทบจะไม่ต่างจากมดปลวกเลยแม้แต่น้อย!

จิตสังหารที่รุนแรงสามจุดก็พุ่งเข้ามาคลุมร่างของฉู่เทียนในทันที.

ไม่จำเป็นต้องบอกเลยว่ามันจะต้องเป็นของนายน้อยหมาป่าสวรรค์,นายน้อยพยัคฆ์มังกรและนายน้อยกระบี่ฟ้า,ซึ่งเป็นคนที่เกลียดชังฉู่เทียนอย่างลึกล้ำ,พวกเขาคงไม่สามารถทานทนความต้องการที่จะทรมานฉู่เทียนที่เข้ามาภายในหอคอยฝึกฝนนี้ได้เลย?

พื้นที่ฝึกฝนด้านในนั้นไม่อนุญาตให้ใครตาย,ทว่าการจะเตะฉู่เทียนออกไป,ก่อนที่จะมีโอกาสได้รับอะไรนั้นก็เป็นสิ่งที่พวกเขาคิดเอาไว้ก่อนแล้ว!

มีเหรอที่ฉู่เทียนจะไม่รู้ว่าพวกลูกเต่าเหล่านี้คิดอะไรอยู่?

ไม่ว่าจะเป็นฉู่ซิงเหอหรือคนทั้งสอง คนใดก็ตาม,ฉู่เทียนนั้นล้วนแล้วแต่ไม่ใช่คู่มือพวกเขา!และยิ่งต้องเผชิญหน้าพวกเขาพร้อมกัน,ยิ่งทำให้โอกาสของฉู่เทียนนั้นแทบจะไม่มีเลย.

นับว่าเป็นเรื่องที่ย่ำแย่ทีเดียว!

เพียงกระบี่เดียวของฉู่ซิงเหอก็สามารถส่งเขากลับบ้าน,หลุดออกจากหอคอยแห่งนี้แน่นอน!

อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายสิ่งของดินแดนโลกแห่งการทดสอบนี้ยังสร้างขึ้นมาไม่สมบูรณ์ดี,ทำให้คนทั้งสิบตอนนี้ไม่สามารถที่จะขยับไปใหนได้,และฉู่เทียนเองก็ทำได้แค่มองดูรอบๆเท่านั้น.

คนทั้งสิบตอนนี้จึงได้ถูกขังเอาไว้ภายในกรงขังขนาดใหญ่,มีโซ่ตรวจที่แข็งแกร่งผูกรัดตรึงกรงขังของพวกเขาเอาไว้,และที่ด้านบนของโซ่ตรวนเองก็มีอักษรรูนที่กำลังหมุนไปมาไม่หยุดหย่อน,นี่คืออักษรรูนของเผ่าโบราณแน่นอน,ถึงแม้ว่าจะดูไม่คุ้นเคเยนัก,ทว่าก็สามารถบอกได้ว่ามันเป็นเวทย์พันธนาการอย่างหนึ่ง.

การจะหลุดออกจากกรงขังนี้ได้ล่ะก็ แน่นอนว่าจะต้องทำลายพันธนาการนี้ให้ได้.

กล่าวอีกอย่างหนึ่งคือ,คงลำบากไม่น้อยที่จะทำลายพันธนาการดังกล่าวนี้ด้วยพลัง.

โซ่ตรวนที่ปิดล๊อคพวกเขาอยู่นั้น,มีรูบิครูปร่างพิเศษอยู่,ดูเหมือนกับลูกบิดลูกบาศก์ที่ซับซ้อนกันสิบหกชั้น,ถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องมันเป็นลูกบิดซับซ้อนที่มีหน้าขนาดเล็กถึงด้านล่ะ 16 ช่อง นอกจากนี้รูปร่างของมันก็อยู่ผิดปกติเป็นอย่างมาก.

น่าสนใจ!

ฉู่เทียนที่สีคางของตัวเองไปมา,ที่มุมปากของเขานั้นเผยยิ้มออกมาเล็กน้อย!

จากบันทึกของไฉ่เตี๋ย,ฉู่เทียนรู้ว่าทุกครั้งในการทดสอบจะมีด่านที่แตกต่างกันไป,แม้ว่าจะเป็นเหมือนการทดสอบความแข็งแกร่งก็ตามที,การทดสอบนี้ก็มีวิธีการลับที่ใช้ในการแก้ไขอยู่,หากว่าผู้เข้าร่วมการแข่งขันทีมีเชาว์ปัญญาและความรู้เพียงพอ,พวกเขาก็จะใช้ความพยายามเพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น.

หากจะกล่าวล่ะก็,ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนไม่ว่าจะเป็นสี่ต้าซือคนใดก็ตามเขาก็ไม่ใช่คู่มือแม้แต่น้อย.

อย่างไรก็ตามหากจะกล่าวถึงเรื่องความรู้ล่ะก็....ถึงจะเอาคนทั้งสี่รวมหัวกันล่ะก็,ย่อมไม่อยู่ในสายตาของเขาเลยแม้แต่น้อย!

ฉู่เทียนที่จับจ้องมองไปรอบๆและเขาที่มองเห็นทางเดินโดยรอบ,และห้องโถงแต่ละห้องที่ถูกแบ่งเขตด้วยเสาสูง 30-40 จ้าง,ในมุมมองของเผ่ามนุษย์นั้นเป็นทางเดินแบบใดกัน?นี่มันไม่ต่างจากห้องโถงขนาดใหญ่ชัดๆ!

นี่คือห้องโถงขนาดมหึมาที่มีกลิ่นอายมหาศาลปกคลุมเอาไว้.

แต่เขาเองราวกับว่ารู้สึกคุ้นเคยอยู่เล็กน้อย!

ฉู่เทียนเป็นนักวิชาการที่ได้เห็นภาพของพระราชวังโบราณสมัยก่อนในตำราโบราณมาก่อน,รูปแบบของด่านฝึกฝนแห่งนี้นั้นบรรยากาศรอบๆดูคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก,เขาบอกได้เลยว่าสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ต้องเป็นของเผ่ายักษาแน่นอน.

ผนังด้านข้างซ้ายขวาของผนังทางเดินนี้มีโพรงขนาดมหึมาที่บุบเข้าไปและมีรูปปั้นสลักอยู่,รูปปั้นด้านในนั้นมีความสูง 40-50 เมตรก็ว่าได้,คล้ายกับเป็นองค์รักษ์ที่สวมชุดเกราะเต็มยศ,บางคนถือปืน,บางคนถือกระบี่ยักษ์,บางคนถือขวานขนาดมหึมา,มีอาวุธมากมายหลากหลายแตกต่างกันออกไป.

บนรูปร่างของเหล่ารูปปั้นองค์รักษ์ขนาดใหญ่นั้น,ถูกสลักเอาไว้ด้วยวงเวทย์ค่ายกลมากมาย!

ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย.

สุดยอด!

ฮึมๆๆๆ!

บรรยากาศรอบๆที่อยู่ภายในนี้ทำให้หัวใจของเขาเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้น,ถึงกับหยุดนิ่งไปหลายวินาทีเหมือนกัน.

"ฉู่เทียน!" เย่เทียนหลางที่ถูกขังเอาไว้ภายในกรงอีกกรงหนึ่ง,ใบหน้าของเขาที่ดูถมึงทึง,คำรามออกมาราวกับสัตว์ป่าที่คุ้มคลั่ง"ถึงเวลาที่ข้าจะคิดบัญชีกับเจ้าแล้ว!"

ใบหน้าของลวอเซียงหลงที่เปลี่ยนเป็นดำมืด,เต็มไปด้วยจิตสังหารที่รุนแรงแผ่ออกมารอบร่างของเขา"เจ้าอ่อนแอกระจอกงอกง่อย,จะจัดการเจ้านั้นแทบไม่ต้องพยายามอะไรเลย,คิดว่าตัวเองนั้นมีคุณสมบัติที่จะเข้าร่วมทดสอบอย่างงั้นรึ?เจ้าได้พบพวกเรา,โชคของเจ้าหมดลงแล้ว!"

ฉู่ซิงเหอนั้นไม่กล่าวสิ่งใดออกมา,เขาสวมชุดสีขาวที่มีเสื้อนอกสีเขียว,ที่บนศีรษะของเขาเองนั้นมีมงกุฏหยกสีดำและสีทองที่กำลังสบัดร่ายรำไปตามแรงลมที่โกรกเข้ามา,กระบี่วิเศษสีทองที่เหน็บอยู่ด้านหลัง!

กระบี่วิเศษของเขาตอนนี้กำลังสั่นไปมาเล็กน้อย.

ราวกับพลังแรงกดดันจากมังกรวารีที่ถูกปิดกั้นเอาไว้,พร้อมที่จะกระโจนออกมาได้ในทุกเวลา.

แม้ว่าเขาจะไม่กล่าวสิ่งใดออกมา,หากแต่กลิ่นอายที่หนักหน่วงและอันตรายนั้นแผ่ออกมาจากร่างของเขาไม่หยุดมันเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ,แตกต่างจากพวกโง่เง่าบ้าพลังทั้งสองคนด้านข้างของเขา!

หากว่าเขามีโอกาสแม้เพียงเล็กน้อยล่ะก็!

ฉู่ซิงเหอย่อมลงมือในทันทีแน่นอน,ไม่มีทางแสดงท่าทีเหมือนดังคนทั้งสองเด็ดขาด.

หยุนเหยาที่สวมชุดสีม่วงมีเสื้อคลุมสีน้ำเงิน,พลังสายฟ้าจากมุกภูติวิญญาณสายฟ้ากำลังหลั่งไหลออกมาเรื่อยๆก่อนที่จะหมุนวนล้อมรอบร่างกายของนาง,พร้อมกับเห็นแสงระยิบระยับส่องสว่างแสบตา,เป็นเป็นลำแสงที่แผ่ออกมาสะท้อนกับเส้นผมของนางทำให้มองเห็นเป็นสีน้ำเงินเข้มบนเส้นผมของนาง,นางกล่าวออกมาอย่างเย็นชา"หอการฝึกฝนแห่งนี้ไม่ใช่สถานที่ให้ใครมากชำระความแค้นกัน!"

"ฮึม,ฮึม ฮึม!ไม่ใช่หน้าที่ของเจ้าที่จะตัดสิน!"ลวอเซี่ยงหลงราวกับหวั่นเกรงในมุกภูติวิญญาณสายฟ้าในมือของหยุนเหยาและแค่นเสยงอย่างเย็นชาออกไป"หยุนเหยา,เจ้าได้กระทำผิดแล้วที่ได้เลือกฝั่งผิด!ดังนั้นเจ้าจะต้องได้ชดใช้อย่างสาสมแน่นอน!"

"หุบปากไปซะ!"หนานกงหยุนที่กระทืบเท้าไปมาอย่างบ้าคลั่งและตะโกนออกมาเสียงดัง"ไม่ใช่เพราะว่าพวกเจ้ามีพลังฝึกตนมากกว่าพวกเราเท่านั้นหรอกเหรอ?หากว่าขุ่นแม่ก้าวไปถึงเขตแดนดวงจิตปรากฏเมื่อไหร่ล่ะก็,แค่เจ้า,คงไม่ต่างจากสุนักเท่านั้นล่ะ!"

นี่อาจจะเป็นการแสร้งทำว่าแข็งแกร่งอยู่เท่านั้น.

หนานกงหยุนเองก็เข้าใจได้ดี,ความแข็งแกร่งของนางและฉู่เทียน,ยังด้อยกว่าสี่ต้าซือที่มีอันดับสุดท้ายซะอีก,และพลังฝึกตนเองก็ห่างกันอย่างลึกลับ,และยิ่งสี่ต้าซือพวกเขานั้นมีพรสวรรค์ที่สูงเด่น,ทำให้ช่องว่างความแข็งแกร่งของพวกเขาเหนือกว่าจนยากจะคาดคิดได้.

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่สวมชุดต่อสู้,ที่พร้อมกับมือขวาของนางนั้นกุมกระบี่เทพวายุเอาไว้,พร้อมกับขมวดคิ้วและกล่าวออกไปว่า"พวกเจ้าต้องการที่จะทำเช่นนี้จริงๆรึ?ไม่ใช่ว่ามันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับตัวเองหรอกเหรอ?ความเกลียดชังไม่สามารถที่จะปล่อยวางได้แล้วหรืออย่างไร,ทำไมถึงไม่ยอมปล่อยฉู่เทียนไป!"

"ท่านหญิงเฟิง,ข้าไม่สามารถที่จะทำอะไรท่านได้ด้วยท่านเป็นธิดาของโหวเย่ว์วายุเทพ."ดวงตาที่โหดเหี้ยมส่องประกายอยู่ภายในดวงตาของเย่เทียนหลาง,"ทว่าหากว่าท่านใช้อิทธิพลของโหย่วเย่ววายุเทพขวางทางพวกเราล่ะก็,คงเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมนัก!"

ความแค้นของเย่เทียนหลางที่มีต่อฉู่เทียนนั้นฝังลึกจนไม่สามารถที่จะสลายได้อย่างแน่นอน.

ถึงแม้ว่าพื้นที่ฝึกฝนในหอคอยโบราณแห่งนี้จะไม่ทำให้ใครตายได้หากแต่การไล่ใครออกไปก่อน,นี่ก็นับว่าเป็นการตัดโชคลาภมหาศาลกับคนๆนั้นได้เลย,ถึงแม้ว่าจะเป็นโหวเยว่วายุเทพ,ก็ไม่สามารถที่จะใช้เหตุผลดังกล่าวนี้ทำอะไรพวกเขาได้?

ยกเว้นเฟิงไฉ่เตี๋ย.

คนอื่นๆทั้งหมดต้องถูกสังหาร!

หยุนเหยา,หลินมู่และฟางหาน,ต่างก็จับจ้องมองออกไปอย่างช่วยไม่ได้.

"ข้าบอกเอาไว้ก่อนว่าข้าหาได้ต้องการเข้ามาแต่อย่างใด,เป็นท่านปู่ของข้าที่ส่งเข้ามาต่างหาก!"หยุนเหยาที่แสดงท่าทางช่วยไม่ได้"ถึงข้าจะไม่ได้รับสมบัติอะไรจากหอคอยโบราณกลับไป,หากว่าข้าจะต้องถูกทำร้ายจนตายล่ะก็,ข้าขอส่งตัวเองออกไปจะดีกว่า."

หนานกงหยุนตะโกนออกมาไปเสียงดัง"ไม่คิดว่าเจ้าจะมีความความมุ่งมั่นเล็กน้อยขนาดนั้น!"

ในเวลาเดียวกันนั้น,พื้นที่ทั้งหมดกำลังสั่นสะเทือน,มีลำแสงมากมายที่พุ่งออกมา,ทันใดนั้นก็มาปรากฏที่ด้านหน้าคนทั้งหมด ก่อนที่จะกลายเป็นสร้อยคอที่ปรากฏพร้อมกับคล้องไปที่ลำคอของพวกเขา,มีแผ่นหยกสีขาวแสดงสถานะห้อยอยู่ที่ลำคอของทุกคน,พร้อมกับปล่อยเรืองแสงสว่างจ้าออกมา.

"ตราเครื่องหมายของการฝึกฝนได้ถูกเปิดการทำงานแล้ว!"

"ตราเครื่องหมายดังกล่าวนี้ก็คือแผ่นป้ายแสดงคะแนนของผู้เข้าร่วมการทดสอบ,ตราบเท่าที่ทุกคนมีชีวิตรอด,ก็จะสามารถได้รับคะแนนมากขึ้นเรื่อยๆ,คะแนนสูงต่ำขึ้นอยู่กับความสามารถของพวกเจ้าที่จะได้รับในแต่ละด่านทดสอบต่างๆภายในหอคอยฝึกฝนแห่งนี้!"

"ด่านทดสอบได้เริ่มเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว!"

พวกเขาทั้งสิบต่างก็ได้ยินเสียงที่ดังก้องกังวานที่สามารถดังเข้าไปในจิตใจของพวกเขา,เป็นเสียงที่เย็นยะเยือก,ไร้ซึ่งความรู้สึก,ได้ดังขึ้นมาเพื่ออธิบายกฏการแข่งขันเท่านั้น.

"คู คู" เจ้าตัวน้อยที่กำลังแสดงท่าทางตื่นเต้นยืนหัวของมันออกมา,พร้อมกับใช้เล็บของมันชี้ไปที่แผ่นป้ายที่อยู่บนคอของมันด้วยท่าทางภาคภูมิ.

เจ้าตัวน้อยนี้ได้แผ่นป้ายร่วมการทดสอบด้วยอย่างงั้นเหรอ!

หอคอยฝึกฝนดูเหมือนว่าจะไม่ใส่ใจปัญหาดังกล่าวนี้เลย,ซ้ำยังละเลยปล่อยให้เจ้าตัวน้อยนี้สามารถเข้าร่วมการทดสอบได้ด้วย?แล้วกฏเกณฑ์ของผู้เข้าร่วมแท้ที่จริงเป็นอย่างไรกันแน่!

แต่ก็ดีเหมือนกัน!

ยิ่งมีคนเข้าร่วมการทดสอบแห่งนี้มากขึ้น,ไม่ใช่ว่าจะทำให้ได้รางวัลมากขึ้นไปด้วยหรอกเหรอ?

เมื่อการทดสอบกำลังจะเริ่ม,ก็ทำให้พื้นที่บริเวณดังกล่าวสั่นสะเทือนอีกรอบ.เหล่าคนทั้งสิบเริ่มที่จะเห็นได้ว่ารูปปั้นที่อยู่รอบๆผนังที่ไม่ขยับก่อนหน้านี้กำลังเริ่มสั่น,เศษหินที่ปกคลุมมันอยู่กำลังแตกออกมา,พร้อมกับปลดปล่อยกลิ่นอายมหาศาลแผ่ออกมา ซึ่งมันกำลังกดทับไปยังบริเวณรอบๆ.

ไม่ดีแล้ว!

รูปปั้นหินยักษาดูเหมือนว่ามันเริ่มจะคืนชีพขึ้นมาแล้ว!

ทุกคนตอนนี้เริ่มเผยท่าทางหวาดกลัวขวัญหนีดีฝ่อ,แม้แต่ฉู่ซิงเหอยังต้องขมวดคิ้ว.

เหล่าองค์รักษ์หินขนาดมโหฬารนั้นกลิ่นอายที่หนักหน่วงกำลังแผ่ออกมาคุกคามพวกเขาเรื่อยๆ,จากสัมผัสพวกเขาแล้วสามารถบอกได้เลยว่าแต่ละตนนั้นมีพลังปลุกดวงจิตเขตแดนดวงจิตปรากฏระดับสูงสุด,จวนเจียนก้าวไปยังเขตแดนปลุกดวงจิต เขตแดนดวงจิตที่แท้จริงเรียบร้อยแล้ว!

ด้วยตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนั้น,ถึงจะเป็นฉู่ซิงเหอยังยากที่จะต่อกรกับพวกมันสักตัวได้เลย,ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่าพวกมันมีอยู่เป็นจำนวนมากอีกด้วย!

หากเหล่าองค์รักษ์รูปปั้นหินเหล่านั้นฟื้นคืนชีพได้อย่างสมบูรณ์ล่ะก็.

สิ่งที่คนทั้งสิบต้องเผชิญนั้นคือหายนะชัดๆ!

และที่แย่ไปกว่านั้นคนทั้งสิบตอนนี้กำลังติดอยู่ภายในกรงขังอยู่,หากว่าพวกเขาไม่สามารถหนีออกไปจากกรงขังดังกล่าวแล้วล่ะก็,ท้ายที่สุดแล้วจะต้องตกอยู่ในกำมือขององค์รักษ์หินขนาดมหึมานั้นอย่างแน่นอน.

"กระบี่!"

ฉู่ซิงเหอที่ตะโกนออกมาเสียงดัง.

กระบี่วิเศษของเขาที่พุ่งออกมาจากฝักเอง,มีเสียงคำรามของมังกรดังก้องกังวาน,แสงกระบี่สีทองที่ฟันลงไปในกรงโลหะที่กำลังขัง ตัวเขาเอาไว้.

กรงขังของเขาที่สั่นไหวอย่างรุนแรง,อักษรรูนมากมายที่ปรากฏขึ้นมาล้อมรอบกรงขังของเขา,ก่อนที่จะกลายเป็นกำแพงที่แข็งแกร่ง,พร้อมกับดูดซับพลังโจมตีของฉู่ซิงเหออย่าไม่คาดฝัน!

เย่เทียนหลางและลวอเซียงหลงที่พยายามโจมตีไปยังกรงขังพวกเขาเช่นกัน,หากแต่ท้ายที่สุดก็ยังถูกกำแพงพลังป้องกันเอาไว้.

หยุนเซียว,หลินมู่และฟางหาน คนทั้งหมดถึงกับตื่นตระหนกหน้าเสียไปทีเดียว.

ด้วยคนที่มีพลังโจมตีมากกว่าพวกเขาหลายเท่ายังยากที่จะทะลวงกรงนี้ได้เลย,ดังนั้นหากเป็นพวกเขาล่ะ?ด้วยพลังที่อ่อนด้อยเช่นนี้,พวกเขาได้แต่เงียบจับจ้องมองไปยังเหล่ารูปปั้นหินยักษาที่กำลังสะบัดเศษหินออกจากร่างของพวกมัน.

หนานกงหยุนที่กล่าวออกมาอย่างหดหู่,"เจ้านายสถานการณ์ตอนนี้ไม่สู้ดีแล้ว?พวกเราจะทำอย่างไรดี!"

"พวกเจ้ากังวลอะไรกัน?ยังมีข้าอยู่ทั้งคน!"ฉู่เทียนที่จับจ้องมองออกไปอย่างเหยียดหยัน"เจ้าเป็นพี่ใหญ่,สูญเสียความกล้าไปง่ายๆได้เหรอ?"

หนานกงหยุนถึงกับสบถทีเดียว"หากว่าท่านออกมาจากกรงได้แล้ว,แน่นอนว่าข้าไม่หวั่นเกรงแน่นอน,แต่ปัญหาตอนนี้,พวกเราถูกขังเอาไว้อยู่!"

"ดูข้า!"

ฉู่เทียนที่เดินทอดน่องไปยังด้านหน้ากรงก่อนที่จะทำการแก้ รูบิคกักขังสิบหกเหลี่ยมที่ซับซ้อนที่ที่พันธนาการเขาเอาไว้
 
พรึบ พรึบ พรึบ!


ด้วยการขยับมือบิดมันไปมาอย่างรวดเร็ว!

ลูกบิดสิบหกเหลี่ยม สิบหกหน้า,ถูกหมุนด้วยนิ้วทั้งสิบของฉู่เทียน,ด้วยความเร็วที่แทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า.

แค๊ก แค๊ก แค๊ก!

ผ่านไปราวๆสามนาที,รูบิคสิบหกลูกบาศที่ใช้ล๊อกกรงของเขาเอาไว้ส่งเสียงออกมา,ก่อนที่มันกำลังหดตัวลงอย่างช้าๆ,แต่ล่ะหน้าของรูบิคสิบหกเหลี่ยมที่กลับสู่สภาพเดิม,ทุกๆหน้ากำลังปล่อยอักษรรูนออกมา,มันกำลังส่องแสงวับวาวสว่างสไว,พร้อมกับปลดปล่อยพลังมหาศาลออกมา.

ป้านหยกที่คอของเขาส่องประกาย,พร้อมกับมีเสียงที่เกิดขึ้นในจิตใจของเขา.

"หนีออกมาได้จากกรงพันธนาการสำเร็จ!ได้รางวัลทดสอบ 5 คะแนน!ในตอนนี้มีแต้มการทดสอบ 5 คะแนน!"

"สามารถปลดล๊อกรูบิคได้สำเร็จ!ได้รับคะแนนเพิ่มเป็น 20 แต้ม!ตอนนี้มีคะแนน 25 แต้ม!

ฉู่เทียนที่ผลักกรงขังออกไปเบาๆ,ทำให้กรงขังเปิดออกมาอย่างช้าๆ.

เขาเดินออกมาจากกรงพร้อมกับเดินออกไปพร้อมกับจ้องมองไปยังนายน้อยทั้งสาม,ที่กำลังโจมตีกรงขังอย่างบ้าคลั่ง,เขาที่เริ่มต้นหัวเราะออกมาเสียงดัง,พร้อมกับจงใจเหน็บแนมคนเหล่านั้นพร้อมกับสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสารและกล่าวออกมาว่า"ข้ารู้สึกหวาดกลัวเหลือเกิน!ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าต้องการสังหารข้าหรอกเหรอ?มาซิ,มา,มา,ออกมาเร็วเข้า,รีบๆออกมา!"

นายน้อยทั้งสามตอนนี้โกรธเกรี้ยวจนปอดของพวกเขาจะแทบระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆด้วยความโกรธ!

เจ้าเด็กนี้ทำสำเร็จได้อย่างไร?

รูบิค สิบหกเหลี่ยมนั่นเป็นเพียงแค่ของเด็กเล่นเท่านั้น,แต่ละหน้าของพวกมันนั้นมีอักษรรูนสลักเอาไว้,หากว่าทำให้อักษรรูนเรียงออกมาถูกต้องทุกหน้าล่ะก็,รูบิคดังกล่าวก็จะหยุดทำงานกลายเป็นแค่ของเล่นธรรมดา,ไม่มีพลังในการสร้างกำแพงขึ้นมาปิดกั้นและไม่มีพลังพันธนาการขังเขาเอาไว้ได้อีก,ทว่าอักษรรูนเหล่านั้นก็เป็นอักษรรูนโบราณที่คนธรรมดายากที่จะรู้จัก,ไม่ต้องเอยถึงเลยว่าถึงจะรู้จักก็ยากที่จะสามารถปลดล๊อกมันได้,ด้วยความซับซ้อนถึงเพียงนั้น,คงมีเพียงตัวเขาเท่านั้นที่จะแก้ได้?

หนานกงหยุนที่ตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น"เจ้านาย!ท่านหล่อมากเลย!ช่วยข้าออกไปเร็วเข้า!"

"ไม่ต้องรีบ,ข้ากำลังไปแล้ว!"

ฉู่เทียนที่เดินไปยังด้านหน้ากงของหนานกงหยุน,พร้อมกับยื่นมือเข้าไปในกรงเหล็กและคว้าไปที่รูบิค,พร้อมกับหมุนมันไปมาไม่หยุดหลายร้อยรอบ,ผ่านไปสามนาทีก็สามารถแก้มันได้สำเร็จ.

ปัง!

รูบิคดังกล่าวที่ปิดล๊อกพันธนาการกรงขังเอาไว้ก็สลายกลายเป็นเถ้าถ่าน!

ภายในหัวของฉู่เทียนก็ได้ยินเสียงที่เย็นชาดังก้องอยู่!

"สามารถปลดล๊อกรูบิคได้!ได้รับคะแนนทดสอบ 20 แต้ม!ตอนนี้ได้คะแนนทดสอบ 45 แต้ม!"
"

"สามารถปลดล๊อกรูบิคได้!ได้รับคะแนนทดสอบ 20 แต้ม!ตอนนี้ได้คะแนนทดสอบ 65 แต้ม!"

"สามารถปลดล๊อกรูบิคได้!ได้รับคะแนนทดสอบ 20 แต้ม!ตอนนี้ได้คะแนนทดสอบ 85 แต้ม!"
”......”

ฉู่เทียนนับเป็นคนแรกที่สามารถแก้รูบิคทั้งเจ็ดอัน,ทำให้เขาได้คะแนนทั้งหมด 140 แต้ม,หยุนเหยา,เฟิงไฉ่เตี๋ยและคนอื่นๆต่างก็สามารถออกมาจากรงขังได้อย่างราบรื่น,ซึ่งทุกคนก็ได้คะแนนคนล่ะ 5 คะแนนที่สามารถออกมาจากกรงขังได้.

มีเพียงฉู่เทียนที่ได้คะแนนไปแล้วถึง 145 แต้ม!

นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?

ฉู่เทียนจำได้ว่าในบันทึกที่เขาอ่านมานั้นอันดับหนึ่งในการเข้าร่วมทดสอบแต่ล่ะครั้ง,หลังจากที่จบการเข้าร่วมทดสอบครั้งนี้จะมีคะแนนอยู่ในระหว่าง 100-200 แต้ม.

ฉู่เทียนเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จตั้งแต่เริ่ม!คงจะยากที่จะจินตนาการถึงความสำเร็จของเขาจนรอบสุดท้ายได้!

ผู้สร้างด่านทดสอบแห่งนี้อาจจะไม่เคยคาดคิดว่าผลของมันจะเป็นเช่นนี้!

การแก้ปัญหาตัวล๊อกรูบิคนั้นนับว่าเป็นเรื่องลำบากและมีความท้าทายที่สูงเป็นอย่างมาก,การที่จะสามารถแก้ไขแต่ล่ะหน้าได้นั้น,เป็นเรื่องที่มหัศจรรย์เป็นอย่างมาก,ไม่เพียงแต่ต้องเป็นนักวิชาการที่มีเชาว์ปัญญาล้ำเลิศด้วยเท่านั้น,จะต้องสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย.

ปริศนาตัวล๊อก รูบิคนี้แทบจะเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้,ผ่านมามายมายหลายปีเท่าไหร่แล้ว,แทบจะไม่มีใครเลยที่จะสามารถแก้ไขมันได้!
ดังนั้นแน่นอนว่ารางวัลที่ได้จึงมีรางวัลถึง 20 แต้มทีเดียว.

สำหรับผู้สร้างหอคอยทดสอบนี้คงจะไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนสามารถทำเช่นนี้ได้,และไม่เพียงแค่สามารถแก้ไขปัญหารูบิคได้เท่านั้น,ทว่ายังมีเวลาอีกมากมายที่จะไปช่วยแก้ไขปัญหารูบิคของคนอื่นอีก,นี่เป็นการเก็บแต้มที่บ้าคลั่งเป็นอย่างมาก!

พรสวรรค์และความสามารถของฉู่เทียนนั้นแทบจะไม่ต่างจากสัตว์ประหลาด.

เขาสามารถที่จะแก้ไขปัญหารูบิค เจ็ดอันด้วยเวลาแค่อึดใจเท่านั้น!

ฉู่เทียนที่จับจ้องมองไปยังแผ่นอกบนสร้อยคอของเขาที่อยู่บนอกมีอักษรโบราณที่แสดงจำนวน 145 คะแนน,ถึงแม้ว่าฉู่ซิงเหอจะมีความสามารถหนีออกมาจากกรงขังได้ในตอนนี้,พร้อมกับสังหารฉู่เทียนด้วยกระบวนท่าเดียว,ฉู่เทียนตอนนี้ก็มีแต้มทดสอบอยู่ถึง 145 แต้มแล้ว,ดังนั้นก็เพียงพอที่จะให้เขานั้นสามารถที่จะนำแต้มทดสอบทั้งหมดไปแลกยาทิพย์ได้หลายอย่าง,เป็นไปไม่ได้แล้วที่เขาจะกลับไปมือเปล่า!


ด้วยความรู้ที่มากมายของเขา,ทำให้สามารถกระทำเช่นนี้ได้นั่นเอง!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

5 ความคิดเห็น:

  1. ได้ปลดให้ใครมั่งกว่า งงๆ แฮะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. 1. ฉู่เทียน 2 หนานกงหยุน 3.เฟิงไฉ่เตี๋ย 4.หยุนเซียว 5.หลินมู่ 6.ฟางหาน 7.หยุนเหยา
      เข้ามา 10 คน คนที่ไม่ช่วยปลด
      1.ฉู่ซิงเหอ 2. เย่เทียนหลาง 3. ลวอเซียงหลง

      ลบ
    2. อ้อ ขอบคุนครับ

      ลบ
  2. ปลดให้พวกตัวเองหมด น่าจะแถมวงเวทย์กักขังสามเกรียนไว้อีกสักสองสามชั้น
    ดีไม่ดีสามเกรียนอาจจะจบที่ศูนย์คะแนนนะเนี่ย

    ตอบลบ