วันศุกร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 166 The smelting trial starts

Miracle Throne Chapter 166 The smelting trial starts

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 166 เริ่มทดสอบหอคอยฝึกฝน


บทที่ 166 เริ่มทดสอบหอคอยฝึกฝน



"พี่ไฉ่เตี๋ยนี้ช่างสง่างามจริงๆ,สมแล้วที่เป็นธิดาของโหวเย่ว์วายุเทพ!"

เมิ่งหยิงหยิงที่นำขวดหยกสองขวดออกมาจากหีบขนาดเล็ก,ก่อนที่จะอุทานออกมาด้วยท่าทางชื่นชม,เม็ดยาทิพย์จิตวิญญาณระดับ 2 ,มันมีราคาที่สูงมาก,หากไม่ใช่คนร่ำรวยล่ะก็ไม่สามารถซื้อของเช่นนี้ได้แน่.


"ข้ากับท่านพี่จะต้องเลื่อนระดับไปยังปลุกดวงจิตระดับ 2 ได้แน่นอน!"

เมิ่งชิงอู๋ที่จ้องมองไปยังฉู่เทียนด้วยสายตาที่แปลกประหลาด,"ท่านหญิงเฟิงคนนี้ดูเหมือนว่าจะดูสนิทกับเจ้าไม่น้อยเลยนะ,ข้าเกรงว่าพวกเจ้าจะไม่แค่สนิทสนมกันทั่วไปกระมั้ง..."

เมิ่งหยิงหยิงเองก็รู้สึกแปลกใจอยู่เช่นกันที่ได้ยินเรื่องนี้.

เมื่อนางตระหนักถึงเรื่องนี้ได้!

นางเก็บขวดหยกลงในกล่องและปิดฝาไว้,มือสองข้างท้าวสะเอวและกล่าวค่อนขอด"สารภาพมาเดี๋ยวนี้เลย,ที่เจ้าไม่ปฏิเสธของขวัญนี้เลย,เจ้ามีสัมพันธ์อะไรกับนาง!"

สองสาวที่กำลังซักไซร้หาหลักฐาน!

ฉู่เทียนที่จ้องมองอย่างทอดถอนใจ"ไม่เห็นจำเป็นที่ต้องกังวลเรื่องนี้เลย?"

"เพ้อเจ้อ!"เมิ่งหยิงหยิงที่กล่าวออกมาอย่างไม่มีเหตุผลและไม่สนใจสิ่งใดทั้งนั้น"หากว่าไม่เข้มงวดกับเจ้าล่ะก็,ไม่รู้ว่าจะมีสาวงามอีกเท่าไหร่ที่จะโดนเจ้าล่อลวง!"

อย่าคิดว่าคนอื่นจะฉลาดน้อยอย่างเจ้ารึไง?

ฉู่เทียนได้กล่าวความจริงทุกอย่างออกมาทั้งแล้ว.

เมิ่งหยิงหยิงที่ตระหนักได้ทันที"ไม่แปลกใจเลยว่าที่ตระกูลเย่ได้ปิดล้อมเมืองเทียนหนานในครั้งนั้น,โหวเย่ว์วายุเทพถึงได้ออกหน้ามาช่วยพวกเรา!พี่เฟิงไฉ่เตี๋ยคนนี้นางช่างเป็นคนดีจริงๆ!เป็นธิดาของโหวเย่ว์วายุเทพ,สถานะของนางนั้นทรงเกียรติมากนัก,หากแต่กลับปลีกตัวอยู่อย่างสันโดษ,เจ้าอย่าได้คิดอะไรหรือว่ารังแกนาง เข้าใจใช่ใหม!"


"เอาล่ะ,เอาล่ะ,ข้าไม่ได้คิดอะไรกับนางเลย!"

เมิ่งหยิงหยิงขยิบตาให้กับพี่สาวของนาง,เผยยิ้มออกมาราวกับว่าตนเองได้รับชัย.

นังหนูนี่เปลี่ยนเป็นแม่เสือน้อยตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

ช่างเป็นการกระทำที่ต่อต้านสวรรค์จริงๆ!

ช่างน่าขันนัก,ข้าที่โดดเด่นหล่อเหลาถึงเพียงนี้ย่อมต้องมีอยู่แล้วไม่ใช่รึ?ปรกติแล้วข้าก็คิดดีกับคนอื่นตลอดเลยไม่ใช่หรือ?

"ข้าอยากกล่าวอีกเรื่องหนึ่ง,การเข้าหอคอยฝึกฝนแห่งรัฐกลางนั้นเจ้าต้องระวังเอาไว้ให้ดี."เมิ่งชิงอู๋ที่ได้ยินตำนานของหอกคอยดังกล่าวมา,ดังนั้นจึงตระหนักได้ถึงความสำคัญของหอคอยฝึกฝนโบราณนี้ได้ทันที"เพราะว่าเวลานี้ตัวเจ้านั้น,ได้ยุแหย่ตระกูลฉู่,ลวอและเย่,ทำให้มีผู้เยาว์ที่โดดเด่นไม่ได้เข้าร่วม,พวกเขาทั้งสามจะต้องแค้นเจ้าเป็นอย่างมากแน่,นอกเหนือจากหกอันดับการแข่งขันแล้ว,ยังมีสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางที่เข้าร่วมหอคอยฝึกฝนนี้อีก,แม้ว่าตระกูลหยุนจะคอยช่วยเจ้าอยู่ก็ตาม,ทว่าด้วยความแข็งแกร่งของท่านหญิงอสนีบาติม่วงนั้น,คงไม่มีทางต้านทานคนอื่นได้พร้อมกันแน่."

ในสี่ต้าซือที่มีชื่อเสียง,ท่านหญิงอสนีบาติม่วงเองรั้งอันดับสุดท้ายด้วยนั่นเอง.

หากแต่ตอนนี้เมื่อหยุนเหยาทะลวงไปยังระดับปลุกดวงจิตระดับ 4 และยังได้ศาสตราวิญญาณสื่อสารดวงจิต มุกภูติวิญญาณสายฟ้า,ความแข็งแกร่งของนางตอนนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าเย่เทียนหลางหรืออาจจะด้อยกว่าลวอเซียงหลงไม่มากนัก,ทว่าอย่างไรก็ตามหากคนทั้งสองร่วมมือกันผลก็แทบไม่ต่างกัน.

และยิ่งกับฉู่ซิงเหอแล้วแทบไม่สามารถต้านทานได้เลย,ความแข็งแกร่งของอันดับหนึ่งของต้าซือทั้งสี่นั้น,ถึงจะรวมพลังของอีกสามคนที่เหลือยังเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ.

นายน้อยกระบี่ฟ้า,นายน้อยพยัคฆ์มังกรและนายน้อยหมาป่าสวรรค์,ทั้งสามที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตปรากฏ,หากทำการเข้าโจมตีฉู่เทียนพร้อมกัน,ภายในหอคอยโบราณ ย่อมมีโอกาสเกิดขึ้นไม่ใช่รึ?

เมิ่งชิงอู๋ที่ย้ำเตือนเขา"เจ้าอย่าได้ดูถูกสามตระกูลใหญ่เด็ดขาด,ตระกูลใหญ่ทั้งสี่นั้นต่างก็ก่อตั้งและยืนหยัดมาแล้วกว่า 200-300 ปี.ถึงพวกเขาจะหวั่นเกรงต่อโหวเย่ว์วายุเทพ,พวกเขาจึงไม่กล้าโจมตีอย่างซึ่งๆหน้า,หากแต่ไม่สามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่ลอบโจมตีเจ้า."

"ลอบสังหารรึ?หากว่าพวกมันมีความสามารถพอล่ะนะ,ข้ามีวิธีเอาตัวรอดได้อยู่แล้วไม่งั้นคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้หรอก!"ฉู่เทียนที่เผยยิ้มออกมาอย่างผ่อนคลาย,"โปรดวางใจ,ตระกูลเล็กๆ,ในอาณาจักรเล็กๆ,จะมีความสามารถทำได้รึ?ถึงจะมีความสามารถบ้างแต่ก็ไม่เกินความสามารถที่ข้าจะรับมือได้!"

จากนั้นเมิ่งชิงอู๋ก็กล่าวออกมาอีกว่า"นอกจากนี้ที่เมืองเทียนหนาน,ข้าได้ยินข่าวมาว่า,เหล่าคนจากสามตระกูลใหญ่ลอบพยายามถอดรหัสวงเวทย์ขโมยเทคโนโลยีของพวกเรา."

ฉู่เทียนที่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย,ทว่าก็หาได้สนใจไม่.

มันเป็นเพียงแค่ความพยายามที่เสียเปล่า!

ไมว่าจะเป็นยาเม็ดแบบใหม่หรือยันต์เวทย์ที่นำไปวางขายในตลาด,ล้วนแล้วแต่ดึงความสนใจจากเหล่าตระกูลใหญ่แทบทั้งสิ้น,หากว่าพวกเขาสามารถสร้างมันขึ้นมาได้เองล่ะก็ ย่อมต้องกลายเป็นมูลค่าทางการตลาดที่มหาศาลทีเดียว,แน่นอนว่าพวกเขาคงจะไม่ลังเลเลยพยายามที่จะถอดรหัสการสร้างสินค้าเหล่านั้นในทันที.

หลอดไฟฟ้าพลังเวทย์และวงเวทย์ต้นกำเนิดพลังกระทะปรุงอาหาร,ทำให้เหล่าตระกูลใหญ่ต่างก็เต็มไปด้วยความอิจฉา,ถึงแม้ว่าจะมีการคัดเลือกคนอย่างพิถีพิถันและป้องกันรูปแบบวงเวทย์ที่แท้จริงเอาไว้อย่างดี,แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนต้องการถอดรหัสและทำการเลียนแบบเพื่อให้ได้แบบแปลนไปใช้ประโยชน์เป็นจำนวนมาก.

หากว่าแบบแปลนวงเวทย์ถูกถอดรหัสได้แล้วล่ะก็.

วิธีการทำงานของวงเวทย์หลอดไฟฟ้าจะต้องถูกเปิดเผยอย่างแน่นอน!

แต่อย่างก็ตาม,ถึงแม้ว่าจะเป็นวงเวทย์กระทะที่สร้างขึ้นมาเหมือนๆกันก็ไม่เหมือนกันอยุ่แล้ว.

ที่จริงแล้วมันก็เป็นวิธีหนึ่งในการแข่งขันของยุคสมัยแห่งนี้,ซึ่งไม่มีกฎเกณฑ์ในการปกป้องคุ้มครองสิ่งประดิษฐ์,ขนาดราชสำนักยังเห็นดีเห็นงามด้วย,แทบจะทุกอย่างมักจะขึ้นอยู่กับผู้แข็งแกร่งกว่า,งานวิจัยต่างๆและวิธีการในการเพิ่มความแข็งแกร่ง,คนที่มีอำนาจมากกว่า,มักจะเป็นผู้ครอบครองเทคโนโลยีและมีสิทธิ์ในการผลิตเทคโลยีเหล่านั้นด้วย.

แม้ว่าจะยากที่จะสามารถถอดรหัสวงเวทย์ให้กับมาเป็นแบบแปลนได้,ทว่าความซับซ้อนของวงเวทย์ระดับ 1 นั้นก็ซับซ้อนเกินกว่าขีดจำกัดพวกเขาแน่นอน,หลายๆตระกูลใหญ่ได้ใช้นักวิชาการหลายร้อยคนในการช่วยกันถอดรหัสในครั้งนี้และคัดลอกเทคโนโลยีดังกล่าว,แม้แต่ส่งวงเวทย์เหล่านั้นไปยังราชอาณาจักรหลวงเพื่อที่จะให้ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะถอดรหัสมัน,พวกเขาได้ใช้เงินไปเป็นจำนวนมหาศาลทีเดียวเพื่อที่จะถอดรหัสดังกล่าว.

เมื่อเทคโนโลยีเหล่านั้นถูกถอดรหัสได้แล้วล่ะก็,หอการค้าปาฏิหาริย์ก็จะไม่มีอำนาจและอิทธิพลในผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเจ้าเดียวอีกต่อไป.เหล่าตระกูลใหญ่เหล่านั้นก็จะสามารถผลิตทรัพยากรดังกล่าวด้วยทรัพยากรที่น่าสะพรึงกลัวออกมาในทันที,อย่างไรก็ตามกว่าจะถึงตอนนั้นหอการค้าปาฏิหาริย์ก็จะครอบคลุมตลาดส่วนมากไปได้เรียบร้อยแล้ว.

ฉู่เทียนที่เผยยิ้มออกมาอย่างสบายใจ,"ไม่จำเป็นที่ต้องเป็นกังวล ก็แค่เพียงวงเวทย์ระดับ 1 เท่านั้น,ไม่ได้มีค่าอะไรมากมายนักกับเทคโนโลยีดังกล่าวอีกหลายปีกว่าที่พวกเขาจะสามารถถอดรหัสได้และเมื่อถึงตอนนั้นพวกเราก็เลิกใช้แล้ว,สินค้าดังกล่าวที่พวกเขาผลิตออกมา,จะเป็นเพียงสินค้าตกรุ่นเท่านั้น,และรับประกันได้ว่าคุณภาพของมันเองไม่สามารถมีประสิทธิภาพพอที่จะมาแข่งขันกับหอการค้าปาฏิหาริย์ได้.การทำเช่นนี้มีแต่จะเป็นผลร้ายต่อพวกเขาเอง,ปล่อยให้พวกเขาถอดรหัสสินค้าของพวกเราไปเถอะ,ยังไงสินค้าของพวกเราก็เหนือกว่า,ปล่อยให้พวกเขาได้กินของเหลือที่พวกเรากำลังจะทิ้งไปนั่นล่ะดี!"

ด้วยคำพูดของฉู่เทียน.

ก็ทำให้เมิ่งชิงอู๋รู้สึกวางใจไปด้วย.

เมิ่งชิงอู๋ที่มีภูติวิญญาณตำราสวรรค์ทำให้นางนั้นมีความสามารถในการเรียนรู้ที่สูงมาก,สินค้าชิ้นเอกที่มีอยู่ในตอนนี้,แม้ว่านางจะไม่เข้าใจหรือมีความรู้เรื่องวงเวทย์อักขระมากนัก,ทว่าก่อนหน้านี้ตระกูลของนางก็ทำการค้ายันต์เวทย์มาก่อน,ด้วยการสร้างยันต์เวทย์ขึ้นมานั้นก็เหมือนกับการฆ่าหมูเสร็จแล้วไม่ใช่ว่าจะกินได้เลย,มันจะต้องมีการแล่และทำให้สุกก่อนไม่ใช่รึ?

รูปแบบวงเวทย์ของฉู่เทียนนั้นมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปไม่เคยมีมาก่อนเป็นวงเวทย์ที่ไม่เคยปรากฏและมีใครเคยเห็นมาก่อน,บอกได้เลยว่ามันเหนือล้ำกว่าเทคโนโลยีในตอนนี้อีกมากมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นวงเวทย์อักขระระดับหนึ่งก็ยังต้องใช้เวลาในการถอดรหัสอีกหลายปี,ยิ่งทักษะของอาณาจักรหนานเซี่ยที่เล็กกระจ้อยร่อยนี้แล้วก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้,ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญของอาณาจักรขนาดใหญ่ก็ตามที ก็ยังยากที่จะทำได้สำเร็จได้โดยง่าย.

ถึงจะสามารถถอดรหัสออกมาได้,แต่ก็ไม่สามารถที่จะพัฒนาเหล่าสินค้าเหล่านั้นให้ยกระดับมันขึ้นมาได้,และสินค้าที่ได้จากการเลียนแบบเองก็ยากที่จะมีคุณภาพคงที,ทำให้มีระดับต่ำและไม่ปลอดภัย,ไม่สามารถที่จะเอามาเทียบกับสินค้าปาฏิหาริย์ได้เลย,จะเป็นเพียงแค่สินค้าระดับต่ำหรือสินค้าราคาถูกในตลาดล่างเท่านั้น.

ปล่อยให้พวกเขาถอดรหัสต่อไป!

เพราะสินค้าเหล่านี้เป็นเพียงสินค้าระดับพื้นฐานทั่วไปเท่านั้น.

ฉู่เทียนนั้นไม่ได้สนใจเรื่องดังกล่าวนี้ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว.

สิ่งที่ฉู่เทียนสนใจที่สุดก็คือการยกระดับความแข็งแกร่ง,หอคอยโบราณแห่งรัฐกลางนี้คือโอกาสของเขาแล้ว,ลำพังแค่อายุของหอคอยโบราณนี้,คงมีอายุหลายหมื่นปีเป็นของที่เหลือตกทอดในตำนาน,นับว่าเป็นสิ่งผิดปกติที่น่าสนใจ.
............

หลังจากนั้นก็ผ่านมาหลายวัน.

การเข้าทดสอบหอคอยโบราณกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว!

เมื่อช่วงเวลาหอคอยโบราณฝึกฝนของรัฐกลางได้เปิดออกสร้างความน่าสนใจกับประชาชนทั่วไปไม่น้อยเหมือนกัน.

นี่คือโอการครั้งเดียวในทุกๆห้าปี,บางคนมีคนหลายคนทีเดียวที่ได้รับสมบัติวิเศษหรือาวุธโบราณ,มีหลายครั้งที่ได้แม้กระทั่งวิชาบำเพ็ญโบราณหรือแม้แต่เม็ดยาทิพย์จิตวิญญาณหรือแม้แต่ยาทิพย์ศักดิสิทธิ์ยังมีให้เห็น.และเช่นนั้นแล้วจะไม่ให้เหล่าตระกูลใหญ่ต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นไปได้อย่างไร?

"ขอบเขตหวงห้ามได้เปิดขึ้นแล้ว!"

"ขอเชิญผู้เข้าร่วมฝึกฝนเข้าสู่สนามทดสอบได้!"

นี่คือเสียงที่ทรงพลังได้ดังออกมา.

แม่ทัพแห่งรัฐกลาง ซ่งอู๋จี้ได้นำกองกำลังของราชอาณาจักรล้อมรอบโบราณสถานแห่งนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว.

ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ก็มากันพร้อมแล้วพร้อมกับกองกำลังคุ้มกันที่ทรงเกียรติของพวกเราเองเดินทางมายังโบราณสถานแห่งนี้,ด้วยรถเทียมสัตว์อสูรที่หรูหราและกองกำลังที่ดูน่าสะพรึงกลัวและน่าเกรงขาม.

หอคอยโบราณแห่งรัฐกลาง!

นี่คือรากฐานของการสร้างเมืองของรัฐกลางแห่งนี้.

เพราะว่ามีคนมากมายต่างก็ต้องการที่จะเข้าไปฝึกฝนภายในหอคอยแห่งนี้,ดังนั้นจึงทำให้เมืองหลวงแห่งรัฐกลางแห่งนี้ดูคึกคัก!

หอคอยโบราณแห่งรัฐกลางนั้นก็เหมือนกับสุสานโบราณศพทมิฬหมื่นปี,หากแต่สถานที่แห่งนี้ไม่จำกัดพลังฝึกตน,หากใครจำกัดอายุผู้เข้าร่วมต้องไม่มากกว่า 30 ปี,ถึงจะไม่มีคุณสมบัติเข้าไปภายในหอคอยฝึกฝนแห่งนี้.

ดังนั้นหากว่าใครก็ตามที่มีพลังฝึกตนสูงก็จะยิ่งได้ประโยชน์มากขึ้นเท่านั้น,ภายในรัฐกลางแห่งนี้ฉู่ซิงเหอคือผู้เยาว์ที่มีความแข็งแกร่งที่สุด,ในการเข้าทดสอบหอคอยแห่งรัฐกลางนั้นไม่เคยมีใครเทียบเขาได้ นี่จึงเป็นชะตาลิขิตแล้วที่จะให้เขานั้นได้รับประโยชน์สูงสุดในการเข้าทดสอบในครั้งนี้.

หอคอยแห่งรัฐกางที่มีความสูงสิบจ้าง,ตั้งตระหง่านอยู่บนซากเมืองโบราณ,ผิวของหอคอยนั้นสีขาวสว่าง ราวกับหิมะ,มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยศิลาที่เป็นเงาราวกับหยกสลัก,ส่องประกายแสงเลือนๆออกมา,กลิ่นอายจากโบราณกาลที่แผ่ออกไปฟุ้งไปทั่วอากาศ,เป็นสิ่งก่อสร้างที่มีอายุมาหลายหมื่นปีแล้ว,หากแต่กลับยังดูสมบูรณ์,ไม่มีร่องรอยของความเสื่อมโทรมและพลังทลายไปเลยแม้แต่น้อย.

ดูเหมือนว่ามันมีความแข็งแกร่งที่จะก้าวผ่านยุคแห่งการล่มสลายมาได้.

ฉู่เทียนที่เดินทางมายังเมืองหลวงในวันแรก,เขาสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากโบราณกาลเป็นพิเศษนั้น.

ดูเหมือนว่ากลิ่นอายดังกล่าว จะมาจากสถานที่แห่งนี้นั่นเอง.

เหล่าสี่ตระกูลใหญ่ได้เดินทางมาอยู่ใกล้ๆบริเวณของหอคอยแห่งรัฐกลางแล้ว,เพื่อรอเข้าทดสอบหอคอยโบราณ.

ฉู่ซานเหอ,เย่อู๋เต๋า และลวอเหลียงเฉิง,ใบหน้าที่ที่เต็มไปด้วยท่าทางน่าเกรงขาม,ใบหน้าถมึงทึงแสดงท่าทางอารมณ์ไม่ดีอยู่ไม่น้อย.

พวกเขาทั้งสามตระกูลนั้นได้ส่งผู้เชี่ยวชาญไม่น้อยเพื่อไปสังหารฉู่เทียน,ทว่ากลับกลายเป็นว่าทุกคนที่ส่งไปนั้น,ไม่มีใครมีชีวิตกลับคืนมาเลยสักคนเดียว!

เป็นไปได้เหรอที่เจ้าเฒ่าแซ่หยุน ที่จะปกป้องพวกเขาเอาไว้ได้!

และแล้วเมื่อพวกเขาสามตระกูลใหญ่สังเกตเห็นคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง,ร่างในชุดดำที่เงียบขรึม,ทันใดนั้นก็ตระหนักได้ว่านั่นคือเฉินปิงยวี!

คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผู้หญิงคนนี้!

พวกเขาบอกได้เลยว่าคนที่พวกเขาส่งไปนั้นคงจะจะถูกหญิงนางนี้สังหารไปอย่างแน่นอน.

หญิงสาวอย่างเฉินปิงยวี,ที่เฉยเมยไม่สนใจใครเลย,ทำไมคนที่แข็งแกร่งถึงขนาดนั้นต้องคอยปกป้องฉู่เทียนด้วย?!

มันเป็นเรื่องบัดซบที่สุด!

หากมีหญิงสาวคนนี้อยู่ข้างกายฉู่เทียนล่ะก็,เป็นไปไม่ได้เลยที่จะส่งนักฆ่าไปสังหารฉู่เทียนได้,ถึงแม้ว่าจะเป็นพวกเขาไปเองก็แทบจะไม่ต่างกันเลย,คงทำได้แค่เพียงรอเหล่าอาวุโสที่เก็บตัวฝึกวิชาออกมาก่อนเท่านั้น,ทว่าถึงอย่างงั้นก็ยากที่จะบอกได้ว่าจะทำให้สำเร็จง่ายดาย?

สายตาที่เกลียดชังของพวกเขาจับจ้องมองออกไป.

สายตาที่คมกริบราวกับลูกธนูที่จ้องมองจิกไปยังร่างของฉู่เทียน.

หยุนเทียนเหอที่ค่อนข้างหนักใจอยู่ไม่น้อยกล่าวต่อฉู่เทียนด้วยเสียงโทนตำ,"หอคอยฝึกฝนนี้เป็นสถานที่ลึกลับ,คนที่เข้าไปทดสอบนั้นไม่มีทางตาย,อย่างไรก็ตามหากว่าเจ้าถูกคนเหล่านั้นจับตัวเอาไว้ล่ะก็,อาจจะถูกทรมานอย่างนักและนั่นจะได้รับผลร้ายเป็นอย่างมาก,ดังนั้นเจ้าควรที่จะระวังตัวเอาให้ดี."

เมิ่งชิงอู๋ที่อยู่ข้างๆ,เมื่อได้ยินคำพูดของหยุนเทียนเหอแล้วทำให้นางนั้นกังวลอยู่ภายในใจไม่น้อย.

แม้ว่าหอคอยฝึกฝนแห่งนี้เป็นดินแดนลึกลับที่ไม่สามารถสังหารคนอื่นได้,ทว่าการได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือพิการนั้นก็ยังมีโอกาสเป็นไปได้,ฉู่เทียนที่เข้าไปในหอคอยฝึกฝนแห่งนี้,นับว่ามีความเสี่ยงที่สุด.

ใบหน้าของฉู่เทียนที่ดูผ่อนคลายเป็นอย่างมากดูราวกับว่าไม่สนใจสิ่งใดเลยแม้แต่น้อย,เขาจับจ้องมองไปยังสองพ่อลูกเย่อู๋เต๋า,พร้อมกับจงใจกล่าวออกไปอย่างอบอุ่นทักทายพวกเขา"โย่ว!นั่นไม่ใช่คุณชายหมาข้างทางหรอกเหรอ!เจอกันครั้งก่อนข้าเผลอสับแขนของเจ้าไป,ทำให้ข้านั้นรู้สึกผิดกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก,ทว่ากลับไม่คิดเลยว่าเจ้าจะสามารถรักษาหายได้รวดเร็วถึงเพียงนี้,ตอนนี้ข้าเองก็รู้สึกวางใจ!ทว่าข้าขอแนะนำเจ้าอีกสักหน่อย,เจ้าไม่ควรที่จะซุกซนอีกล่ะ,ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่ใช่แค่แขนทั้งสองข้างของเจ้าแน่นอน!"

นายน้อยหมาข้างทางเหรอ?!

ใบหน้าของคนมากมายต่างก็จับจ้องมองมาด้วยท่าทางผิดปรกติ!

ใบหน้าของเย่เทียนหลางตอนนี้กำลังแดงกล่ำด้วยความโกรธ.

เหตุการณ์ที่ข่มขื่นในเมืองเทียนหนานนั้น,เป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตของเย่เทียนหลางเลยก็ว่าได้!

ใบหน้าที่ดำมืดของเย่อู๋เต๋าสั่นระริก,หากเขาไม่เห็นหยุนเทียนเหอและเฉินปิงยวีอยู่ล่ะก็,เขาจะต้องกระโจนออกไปสังหารเจ้าคนยโสคนนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย!

"เจ้าจะปากดีไปได้นานเท่าไหร่กัน?"ใบหน้าที่บิดเบี้ยวของเย่เทียนหลางสบถอย่างโหดร้าย"ขอเพียงเจ้าเข้าไปในหอคอยโบราณแล้วล่ะก็,ข้าจะทำให้เจ้าต้องกราบขอชีวิตเลย!"

ฉู่เทียนที่แสร้างแสดงตัวสั่นงันงก,พร้อมกับเผยท่าทางหวาดกลัว"นายน้อยหมาข้างทางอย่าได้โกรธ,ข้ากลัวจะแย่อยู่แล้ว!"

ลวอเซียงหลงที่แค่นเสียงออกมา.

แม้ว่าความสัมพันธ์ของเขากับเย่เทียนหลางจะไม่ดีนัก,ทว่าจะดีจะร้ายศักดิ์ศรีของเย่เทียนหลางก็เทียบเท่าตัวเขา,ฉู่เทียนที่ดูไม่สนใจในศักดิ์ศรีของสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางเลย,จะทำให้เขานั้นยอมรับกับท่าทางเช่นนี้ได้รึ?

ฉู่ซิงเหอที่ปิดตาแน่นทำสมาธิอยู่จึงไม่กล่าวสิ่งใดออกมาแม้แต่คำเดียว.

ฉู่เทียนที่รุ้ดีว่าตอนนี้ควรที่จะหยุดได้แล้ว,การเข้าทดสอบหอคอยโบราณนี้มีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว.

จิ้งจอกน้อยที่ดันหัวออกมาจากภายในอกเสื้อของเขา"คู คู!"

ฉู่เทียนที่ตบหัวมันเบาๆ,"มีอะไรรึ?เจ้าต้องการที่จะเข้าไปข้างในด้วยรึ?แต่ว่าสิ่งมีชีวิตเช่นเจ้า,สามารถที่จะเข้าไปในหอคอยฝึกฝนได้ด้วยรึ?"

จิ้งจอกน้อยที่กวัดแกว่งขาหน้าของมันไปมา,แสดงสัญญาว่าไม่มีปัญหา.

"ก็ได้!"ฉู่เทียนที่กรอกตาไปมา"งั้นอย่าได้ขวางทางข้าล่ะ ไม่เช่นนั้นเจ้าถูกข้าเต๊ะออกมาแน่!"

ไม่มีปัญหา!

โปรดวางใจ!

ให้สัญญาณเสร็จจิ้งจอกน้อยก็มุดเข้าไปในอกเสื้อของเขา.

ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่นและท้องฟ้าก็ค่อยๆมืดคลึ้ม,ดวงตะวันดูเหมือนว่าจะมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นถูกบดบังแสงเอาไว้ทำให้ท้องฟ้ามืดขึ้นในทันที.

สุริยะคลาส!

หอคอยแห่งรัฐกลางที่เปิดออกถึงกับทำให้เกิดสุริยะคลาสเลยเหรอ?

เสียงฟ้าร้องดังสนั่น,ตามมาด้วยสายฟ้าที่ฟาดลงมาบนหอคอยโบราณ,ก่อนที่พลังที่มากมายมหาศาลกำลังไหลบ่าออกมาจากหอคอย.

อักษรรูนมากมายมหาศาลกำลังหมุนวนปรากฏขึ้นบนอากาศ,ก่อนที่จะมีประตูหยกที่ค่อยๆปรากฏขึ้นมาจากความว่างเปล่า,แสงสีขาวที่สว่างจ้ากำลังสาดส่องทอดยาวลงมากลายเป็นเส้นทางให้ทุกคนก้าวเข้าไปด้านใน.

พลังจากนั้นพลังจากบรรพกาลและกลิ่นอายที่รุนแรงลึกลับกำลังพวยพุ่งไหลพล่านเลยทีเดียว.

ทำให้ทุกคนต่างก็คิดไปต่างๆนาๆ,ตราบเท่าที่พวกเขาผ่านเส้นทางดังกล่าวนี้ไปก็จะเข้าไปยังโลกอีกโลกหนึ่ง,เป็นดินแดนที่แตกต่างจากโลกใบนี้อย่างสิ้นเชิง!

"ด่านฝึกฝนของหอคอยโบราณเปิดแล้ว!"

ฉู่ซิงเหอ,ลวอเซียงหลง,เย่เทียนหลางและหยุนเหยา,สี่ต้าซือแห่งรัฐกลางที่เป็นคนนำเข้าไป.

ฉู่เทียน,หนานกงหยุน,เฟิงไฉ่เตี๋ย,หยุนเหยา,หลินมู่และฟางหาน,คนทั้งหกก็ตามเข้าไปหลังจากนั้น,รวมทั้งจิ้งจอกน้อยที่ซ่อนตัวอยู่ภายในเสื้อของฉู่เทียน,ร่างของมันตอนนี้ได้ปล่อยพลังสีเทาบางๆออกมาปกคลุมร่างกายของมันเอาไว้,ทำให้ร่างของมันเลือนหายไม่มีใครสามารถมองเห็นได้,เพื่อที่จะสามารถลอบเข้าไปด้านในกับฉู่เทียนนั่นเอง.

 นี่คือด่านฝึกฝนของหอคอยโบราณ,ได้ทำการเปิดอย่างเป็นทางการแล้ว!

臭小子 Chòu xiǎozi -ไอ้หนู กับ 小丫头 Xiǎo yātou -อีหนู

เป็นสรรพนามที่ผู้ใหญ่ใช้เรียกเด็กที่อายุค่อนข้างห่างกันมาก อาจเป็นคำด่า หรือ เรียกด้วยความเอ็นดู ก็ได้ขึ้นอยู่กับบริบท



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น: