Miracle Throne Chapter 160 Conclusion
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 160 บทสรุป
บทที่ 160 บทสรุป
ฉู่ซานเหอ,เย่อู๋เต๋า,ลวอเหลียงเฉิงและยังมีหยุนเทียนเหอ,เฉินปิงยวี
รวมทั้งประธานสถาบันการศึกษาและท่านเจ้าเมือง,หากว่าพวกเขาเกิดขัดแย้งและต่อสู้กันขึ้นมาล่ะก็,ผลที่ตามมานั้นแทบจะไม่สามารถจินตนาการถึงได้เลย.
ไม่เพียงแต่สนามการแข่งขันแห่งนี้จะต้องถูกทำลายแหลกสลายออกเป็นชิ้นๆ,เหล่าคนธรรมดาที่เข้ามาชมการแข่งขันในครั้งนี้คงจะไม่สามารถประสบโชค
หนีออกไปได้ทันอย่างแน่นอน!
ขณะที่การต่อสู้ที่หนักหน่วงกำลังจะปะทุขึ้นนั้น.
"หยุดกันเท่านี้ล่ะ!"
เสียงที่นุ่มนวลแต่กลับดังก้องกังวานไปทั่ว.
"พวกเจ้าทุกคนถึงกับกล้ามาต่อสู้กันต่อหน้าโหวเย่ว์อย่างข้าเลยเหรอ,ไม่เห็นข้าอยู่ในสายตาแล้วอย่างงั้นรึ?!"
ขณะที่โหวเย่ววายุเทพกล่าวจบ,ร่างกายของเขาที่ราวกับว่าไร้ซึ่งแรงดึงดูด,ก็ค่อยๆลอยขึ้นไปบนอากาศ,กลิ่นอายที่ดูเหมือนจะไม่แข็งแกร่งนัก,หากแต่ยากที่จะสามารถต้านทานได้.
โหวเย่ว์วายุเทพที่ดูเหมือนจะไม่ใช่คนอันตราย,ทว่าหากใครก็ตามได้เข้าร่วมสงครามต่อสู้กับเผ่าสัตว์อสูรวิญญาณในอดีตล่ะก็,คงจะรู้ว่าเขาสังหารศัตรูไปมากมายนับไม่ถ้วน,ร่างกายที่ชโลมด้วยโลหิตทั่วร่างมาหลายปี,สัตว์อสูรวิญญาณที่ดุร้ายไม่เคยกลัวใคร
หากแต่ได้ยินนามโหวเยว่ผู้นี้ล่ะก็ถึงกับถอยหนีด้วยความโหดร้ายของเขาเลยก็ว่าได้.
พลังวิญญาณที่หนักหน่วงของโหวเยว์วายุเทพนั้นส่งผลให้ทุกคนรู้สึกอ่อนแอ.
ใบหน้าของฉู่ซานเหอนั้นเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์,"เป็นไปได้อย่างไรที่โหวเย่วจะเข้ามายุ่งกับเรื่องของตระกูลฉู่?"
โหวเย่ว์กล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,"เรื่องของตระกูลฉู่ข้าไม่เคยสนใจ,ทว่าฉู่เทียนนั้นเป็นคนรักษาร่างกายของไฉ่เตี๋ย,ข้าเป็นหนี้ของเขาอยู่."
รักษาเฟิงไฉ๋เตี๋ย,คาดไม่ถึงเลยคนๆนั้นก็คือฉู่เทียน!
ใบหน้าของประมุขตระกูลใหญ่หลายคนถึงกับเปลี่ยนเป็นน่าเกียจ,ไม่สงสัยเลยว่าทำไมโหวเย่ว์วายุเทพถึงได้ไปปรากฏที่เมืองเทียนหนานเพื่อช่วยฉู่เทียนในครั้งก่อน,หากว่าโหวเย่ว์วายุเทพออกหน้า,คนมากมายย่อมไม่สามารถต้านทานเขาได้.
"ท่านเจ้าเมืองนี่คือท่าทางของเจ้าเมืองที่ควรกระทำอย่างงั้นเหรอ."โหวเย่ว์วายุเทพที่ตำหนิเฟิงหยุนหลง,"แพ้,ก็คือแพ้,เป็นเฟิงชิงหยุนเองที่แสดงท่าทางยโสเกินไป,แล้วกลับไม่ยอมฉู่เทียนที่แสดงท่าทางอหังการกลับอย่างงั้นรึ?หากว่าด้อยกว่าก็ต้องยอมรับว่าด้อยกว่า,พวกเราคนตระกูลเฟิงไม่รู้จักคำว่าแพ้หรือย่างไร!"
ท่านเจ้าเมืองถึงกับกำหมัดแน่น.
เรื่องเช่นนี้เขาไม่อยากยอมรับเลย!
"พวกเจ้าทุกคนต่างก็มีสถานะที่สูงกันทั้งหมด,อย่างไรก็ตามกับมีจิตใจที่คับแคบยิ่งนัก,การกระทำเช่นนี้ยังจะทำให้เป็นที่ยอมรับกับชื่อเสียงของตระกูลใหญ่แห่งรัฐกลางได้อีกเหรอ?พวกเจ้าทำให้โหวเย่ว์เช่นข้าขายหน้านัก!หากไม่เป็นผู้นำที่ดีให้กับลูกหลานในวันข้างหน้าลูกหลานพวกเจ้ายังจะมีคนดีอยู่อีกเหรอ,หากสาธารนะชนที่ไม่สามารถคาดหวังความยุติธรรมได้,ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเจ้าที่ได้สั่งสอนเหล่าลูกหลานที่เต็มไปด้วยความหยิ่งยโสขึ้นมา,พวกเจ้าที่ทำให้คนอื่นพิการ,ทำลายพลังฝึกตนพวกเขาและยังบังคับพวกเขาเป็นทาส,และไม่มีลังเลเลยแม้แต่น้อยที่จะเอาชีวิตคนที่ขวางทางพวกเจ้า!
พวกเจ้านั้นสนใจแต่ความแข็งแกร่งตระกูลตัวเอง หากแต่ไม่คิดที่จะช่วยพัฒนาอาณาจักรให้แข็งแกร่งขึ้นเลย!ใช้มาตรฐานกฏของพวกเจ้าเพื่อที่จะสังหารฉู่เทียนทันทีที่เห็นเขา,เขาคืออัจฉริยะที่มีฝีมือในการต่อสู้!ที่พวกเจ้าควรที่จะเรียนรู้ซะมากกว่า!"
"พวกเราจะจำคำสอนของโหวเย่ว์..!"
ฉู่ซานเหอและคนอื่นๆทำได้แค่อดทนยอมรับความพ่ายแพ้.
ทำได้แค่เพียงต้องอดทนสำหรับเวลานี้.
โหวเย่ววายุเทพเฟิงหยุนเทียนจับจ้องมองไปยังฉู่เทียน,สายตาของเขานั้นมีประกายแสงแห่งความชื่นชมอยู่ภายใน"หนุ่มน้อย,ความสามารถเจ้าพัฒนาขึ้นมาจนทำให้ข้าประหลาดใจไม่น้อย,ข้าดูเจ้าไม่ผิดจริงๆ.ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถก้าวไปข้างหน้าและวันหนึ่งกลายเป็นเสาหลักของอาณาจักรเทียนหนานแห่งนี้ได้!"
หากว่าไม่ได้โหวเย่ว์วายุเทพออกหน้าล่ะก็,วันนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าจะมีปัญหาใหญ่เท่าใดเกิดขึ้น.
ฉู่เทียนที่รู้สึกซาบซึ้งยื่นมือคารวะไปด้านหน้า"ขอบคุณในความกรุณา!"
"แข่งขันต่อไป!"
โหวเยว์วายุเทพที่สะบัดแขนเสื้อและกล่าวออกมาเสียงดัง,ก่อนที่จะกลับไปนั่งยังที่นั่งของเขาในทันที.
ทุกคนๆตอนนี้ที่ไร้ทางเลือกโดยสิ้นเชิงด้วยเห็นแก่หน้าของโหวเย่ว์วายุเทพแล้ว,ใบหน้าที่ถมึงทึงของพวกเขาความโกรธเกรี้ยวที่มีมากมายได้แต่กลืนมันลงคอไปพล้อมกับกลับไปนั่งที่เดิมของพวกเขา.
แม้ว่าจะเกิดความวุ่นวายสับสนขึ้นก็ตามที,ทว่าการแข่งขันใหญ่เองก็ยังไม่จบ,บนสนามการแข่งขันตอนนี้ยังคงเหลือฉู่เทียนและหนานกงหยุนสองคน.
"เจ้านาย,ท่านนี่ช่างร้ายกาจจริงๆ,ข้าคงจะชนะท่านยากแล้ว!"หนานกงหยุนที่แสดงท่าทางตื่นเต้นเป็นอย่างมาก"แต่ว่านะพวกเราก็ยังไม่เคยต่อสู้กันมาก่อน,ดังนั้นนี่เป็นโอกาสแล้ว,พวกเรามาประลองความแข็งแกร่งกันดูซักครั้งจะเป็นอย่างไร?"
ฉู่เทียนที่เผยยิ้มด้วยท่าทางยั่วยุ"ข้านึกถึงตอนที่ข้าจะล้มสาวงามลง
มันจะทำให้ข้านั้นเสียหน้าเพียงใด!ข้าเกรงว่าจะทำให้ข้านอนไม่หลับไปเลยทีเดียว,แต่สุดท้ายแล้วคงหนีไม่พ้นสินะ?ข้าคงต้องใช้ความสามารถสักเล็กน้อย,เพื่อว่านางจะได้ว่านอนสอนง่ายซะหน่อย!"
"เพ่ย!ข้ากลัวว่าท่านจะมีความสามารถไม่พอนะสิ!ดูฝีมือข้าซะก่อน!"
ขาที่เรียวงามของหนานกงหยุนที่กระโดดขึ้นไปอย่างรุนแรงและปลดปล่อยพลังวิญญาณสีแดงออกมาอย่างหนักหน่วง,ก่อนที่จะเรียกหงส์เพลิงที่เหินลอยปล่อยกลิ่นอายมหาศาลเต็มท้องฟ้าไปหมด,เสียงคำรามลั่นของหงส์เพลิงสั่นสะท้านไปทั่วทั้งเวทีการแข่งขัน,ช่างเป็นสัตว์อสูรเทพโบราณที่สง่างามโดยแท้,พลังวิญญาณที่หลั่งไหลออกมาไม่หยุดหย่อน,ก่อนที่หมัดทั้งสองข้างของหนานกงหยุนจะส่องประกาย,เปลวไฟที่ลุกโชนหนักหน่วงพร้อมกับปล่อยหมัดติดต่อกัน
4-5 หมัดออกมายังร่างของฉู่เทียนเสียงดังสนั่น.
ภูติวิญญาณระดับพระเจ้านั้นช่วยเพิ่มพลังและความสามารถของหนานกงหยุนขึ้นอีกหลายเท่าเลย,แม้ว่านางจะยังไปไม่ถึงระดับปลุกดวงจิตระดับ
3 หากแต่พลังของนางเองก็เพียงพอที่จะบดขยี้ผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 3
ทั่วๆไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก.
"เคลื่อนไหวได้ดี!"
ฉู่เทียนจุดเพลิงกระบี่อเวจี,ก่อนที่จะเกิดประกายแสงวับวาวส่องประกายระยิบระยับ
ร่ายรำเผาไหม้อากาศ,ใช้เปลวเพลิงป้องกันการโจมตีของหนานกงหยุน,หมัดของนางถูกเพลิงกระบี่อเวจีเผาไหม้ไปเล็กน้อย,กระบี่อเวจีของฉู่เทียนสามารถดูดซับและเผาไหม้เพลิงดังกล่าวได้แค่เพียงส่วนน้อยเท่านั้น.
พลังวิญญาณที่ไร้เทียมทานของหงสาเพลิงร้ายกาจไม่น้อย.
ถึงจะเป็นเพลิงอสูรอเวจีเองก็ยากที่จะเผาไหม้มันได้.
ฉู่เทียนไม่ได้ต้องการที่จะใช้ทักษะกายานิรันดร์โอบแสงดาราแม้แต่น้อย,เขาได้กระต้นภูติวิญญาณกระบี่เทพมาร,ในมือของเขาให้ปลดปล่อยพลังออกมา,เพื่อสร้างพลังทำลายให้มากกว่าเดิมหลายเท่า.
เงาลวงอเวจี!
เปลวเพลิงที่ส่องสว่างถูกยิงไปยังหนานกงหยุนด้วยความเร็วที่น่าสะพรึงกลัว.
หนานกงหยุนรู้ว่าฉู่เทียนนั้นฝึกฝนเพลงกระบี่ที่ร้ายกาจมา,ทันใดนั้นนางก็เปิดใช้ทักษะกายานิรันดรโอบแสงดารา,พร้อมกับโคจรภูติวิญญาณหงส์เพลิงเพิ่มระดับพลังจนไปถึงขีดสุด.
เปลวเพลิงสีแดงแกมทอง,ปกคลุมร่างนางตั้งแต่หัวจนเท้า.
เปลวเพลิงที่เผาไหม้คลุมพลังกายานิรันดร์โอบแสงดาราอีกชั้น,นับว่าเป็นพลังป้องกันที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก!
"ทำลาย!"
หมัดของหนานกงหยุนที่ปล่อยออกไปเกิดริ้วแสงยาวกระแทกไปยังกระบี่เสียงดัง
เกร๊งๆๆ,เพียงพริบตาเดียวเปลวเพลิงอเวจีก็โหมลุกขึ้นมาทันที,อย่างไรก็ตามเปลวเพลิงสีขาวม่วงก็แตกกระจายออกเป็นเสี่ยงๆ,หล่นไปรอบๆร่างของหนานกงหยุน.
เปลวเพลิงกระบี่อเวจีนั้นไม่เพียงแต่แข็งแกร่ง,ทว่ายังมีเปลวเพลิงปิศาจอเวจีที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีอีกด้วย,ซ้ำยังมีพลังป้องกันในตัวเองไม่ได้อ่อนด้อยเลย,และยังสามารถสร้างพลังโจมตีที่หนักหน่วงให้กับร่างกายได้อีก.
หนานกงหยุนที่ตระหนักได้เป็นอย่างดีว่ากระบี่อเวจีนั้นร้ายกาจยิ่งนัก.
ทั้งที่กระบี่เล่มนี้ยังฟื้นฟูความแข็งแกร่งมาไม่ได้ทั้งหมด,หากแต่เทียบกับกระบี่เทพวายุของเฟิงไฉ่เตี๋ยแล้วกลับรู้สึกถึงอันตรายได้มากกว่า!
ซึ่งนั่นทำให้หนานกงหยุนได้เตรียมตัวมาก่อนหน้านี้แล้ว,ไม่เพียงแต่เปิดใช้งานเกราะกายานินิรันดร์โอบแสงดารา,นางยังเคลือบร่างนางด้วยเพลิงหงสาอีกชั้นหนึ่ง,เปลวเพลิงหงสานั้นแม้แต่เพลิงของกระบี่อเวจียังยากที่จะกัดกร่อน.
ภายใต้พลังป้องกันแบบพิเศษที่นางสร้างขึ้น,หนานกงหยุนสามารถที่จะป้องกันกระบี่เพลิงอเวจีของฉู่เทียนสบายหายห่วง!
"ฮี ฮี!"
"กระบี่ของท่านทำอะไรข้าไม่ได้แล้ว!"
ขณะที่นางสามารถป้องกันเพลิงกระบี่ที่ถูกฟันออกมาจากทุกทิศทุกทาง,นางที่มีความสุขหัวเราะออกมาหัวโยกหัวคอนอย่างพึงพอใจ,ที่จริงแล้วฉู่เทียนไม่คิดที่จะใช้พลังเต็มกำลังด้วยเกรงว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บ,ทว่าเมื่อเห็นความสามารถของนางที่สามารถป้องกันเพลิงอเวจีได้,ทำให้ฉู่เทียนสามารถโจมตีได้อย่างสบายใจ.
ดี!
เยี่ยมมาก!
หนานกงหยุนเป็นผู้มากพรสวรรค์อย่างแท้จริง!
ด้วยพรสวรรค์และภูติวิญญาณของนางในตอนนี้,เหนือล้ำกว่าฉู่ซิงเหออย่างแน่นอน,เพียงแค่นางยังขาดโอกาสในการฝึกฝนอยู่,ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนในตอนนี้สามารถที่จะจัดการผู้เชี่ยวชาญระดับปลุกดวงจิตระดับ
3 ได้ ทว่าเขาตอนนี้ยังไม่สามารถจัดการหนานกงหยุนได้.
นั่นก็หมายความว่าหนานกงหยุนเหนือกว่าระดับปลุกดวงจิตขั้นที่
3 ไปแล้วนั่นเอง.
ฉู่เทียนรู้สึกมั่นใจอยู่ไม่น้อย.
ภูติวิญญาณกระบี่เทพมารที่ส่องประกายแสงวับวาว,ส่งผลให้กระบี่อเวจีส่องประกายผสานเข้ากับภูติวิญญาณกระบี่เทพมาร,แสงที่เจิดจรัสนั้นแผ่ออกมาทันทีทันใดหลายเท่าเลยก็ว่าได้,พร้อมกับฟันไปยังแขนทั้งสองข้าของหนานกงหยุนที่มีเปลวเพลิงที่รุนแรงลุกโชนอยู่,เพื่อป้องกันการโจมตีที่รุนแรงของเขา!
ตูมมมมมม!
เปลวเพลิงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ!
พลังกายานิรันดร์โอบแสงดาราถึงกับแตกออกมาด้วย,พร้อมกับกระแทกร่างขอนางกระเด็นออกไปหลายสิบเมตร,เกือบหล่นลงจากเวทีการแข่งขัน.
กระบี่ที่ฉู่เทียนตวัดออกไปนั้นยังคงมีเพลิงลุกไหม้อยู่บนอากาศ,มันค่อยๆสร้างร่างกายของมันขึ้นเป็นกระบี่ขนาดใหญ่และยาวมีความยาวถึงสามเมตรและมีเปลวเพลิงที่หนักหน่วงลุกโชนขึ้นมาอยู่ไม่หยุด.
"เพลงกระบี่ อเวจีกัดกร่อนเชือดเฉือน!!"
เพลงกระบี่อเวจีของเขานั้นได้สำเร็จระดับ 1 สำเร็จดินแดนขนาดเล็กเรียบร้อยแล้วทำให้เขาสามารถใช้เพลงกระบี่
อเวจีกัดกร่อนเชือดเฉือนออกมาได้,เมื่อวิชาบำเพ็ญของเขาไปถึงขั้นนั้นก็ทำให้สามารถรวมร่างเข้ากับภูติวิญญาณกระบี่ได้อย่างมีประสิทธิ์ภาพ,ทำให้ทักษะที่ใช้ออกมานี้,สามารถใช้เปลวเพลงในการเพิ่มพลังของปราณกระบี่ได้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว!
พลังกัดกร่อนของเปลวเพลิงอเวจีนั้นยากที่จะหาพลังใดมาเทียบได้,ทั้งรวดเร็ว,และยังมีพลังระเบิดที่แข็งแกร่ง,เป็นพลังทำลายที่ยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้.
เปรียบกับการฟันก่อนหน้านี้ของเขา,เปลวเพลิงกัดกร่อนเชือดเฉือนนี้มีความเร็วมากกว่าและพลังทำลายก็มากกว่าหลายเท่านัก.
ฉู่เทียนที่ฝึกฝนเพลงกระบี่อเวจีนั้น,มีความสามารถที่จะปรับแต่งวิชาดังกล่าวให้กลายเป็นวิชาเฉพาะขึ้นไปอีก,เขาสามารถที่จะรวบรวมพลังที่เหนือขึ้นไปอีกครั้งในเวลาที่รวดเร็ว,เมื่อเขาใช้เพลิงกระบี่เพลิงผลาญอเวจีเชือดเฉือน!,จึงทำให้ฝ่ายตรงข้ามนั้นไม่สามารถที่จะทำลายกระบวนท่าดังกล่าวนี้ได้เลย.
"มาตัดสินกันในกระบวนท่าเดียวเลยอีกกว่า!"
หนานกงหยุนที่ตะโกนออกมาเสียงดัง,และหงส์เพลงที่กำลังแปรเปลี่ยนเปลวเพลิงกลายเป็นสีทอง,พร้อมกับแปลงร่างใหม่,เปลี่ยนเป็นวิหกสีทองขนาดมหึมา.
กระบวนท่าของหนานกงหยุนนั้นล้ำลึกเป็นอย่างมาก,ซึ่งนางได้จากวิชา
<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>นำมารวมเข้ากับ
<<เพลิงผลาญสวรรค์>>ของตระกูลหนานกง,เพื่อสร้างเป็นกระบวนท่าลับให้กลายเป็นแบบเฉพาะของนางเอง,แม้ว่านางจะยังไม่ได้ตั้งชื่อของมัน,แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันทรงพลังเป็นอย่างมาก.
ฉู่เทียนที่หายตัวไปอีกครั้ง.
ในเวลานี้มีเปลวเพลงขนาดมหึมากำลังลุกโชนขึ้นที่กระบี่อเวจีก่อนที่มันจะฉีกกระชากอากาศพร้อมกับพุ่งเข้าหาเปลวเพลิงสีทอง,ในเวลานี้พลังที่ยิ่งใหญ่สองลูกกำลังปะทะกันอยู่,เกิดระเบิดขึ้นมาไม่หยุดหย่อน,เสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งเวทีการแข่งขัน,เปลวเพลิงสีขาวน้ำเงินที่ระเบิดต่อเนื่องกำลังผสมรวมเข้ากับเปลวเพลิงสีแดงแกมทอง,ก่อนที่จะผลักดันจะกลายเป็นเมฆระเบิดดอกเห็ดขนาดมโหฬารขึ้นที่กลางอากาศ.
แข็งแกร่งจนเกินไปแล้ว!
ทุกคนที่จับจ้องมองรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเฟิงชิงหยุนถึงได้พ่ายแพ้!
ถึงแม้ว่าจะไม่มีฉู่เทียนเข้าแข็งขันในครั้งนี้,ก็รับประกันไม่ได้เลยที่เฟิงชิงหยุนจะล้มหนานกงหยุนได้,พลังโจมตีของหนานกงหยุนนั้นช่างยิ่งใหญ่และน่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก,ถึงแม้ว่าเฟิงชิงหยุนจะมีกระบวนท่าวิชาลวงตาก็ตามที,ด้วยเวทีที่มีพื้นที่จำกัดเช่นนี้,เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบพ้นพลังโจมตีที่ทรงพลังและยิ่งใหญ่ของหนานกงหยุนได้.
กระบี่ของฉู่เทียนที่แหวกเปลวเพลิงตรงออกไป.
กระบี่ของเขาที่ฟันออกไปยังร่างของหนานกงหยุน!
พลังอำนาจแห่งดวงดาราที่ป้องกันร่างของนางกงหยุนเริ่มแตกออกเป็นเสี่ยงๆและส่งร่างของนางลอยกระเด็นออกไป,ก่อนที่จะหล่นลงไปนอนอยู่บนเวที.
ฉู่เทียนที่เดินออกมาจากกลุ่มควันของการเผาไหม้
พลังกายานิรันดร์โอบแสงดาราของเขาเองก็ถูกทำลายไปเช่นกัน,"พลังทำล้ายของเจ้านั้นกว้างใหญ่จนเกินไป,ย่อมเทียบกับพลังที่รวมไปที่จุดเดียวของข้าไม่ได้,หากว่าพลังป้องกันของข้าอ่อนแอกว่านี้หรือว่าพลังโจมตีของเจ้ามากกว่านี้,บางทีคงเป็นข้าที่พ่ายแพ้!"
"แพ้ก็คือแพ้!ไม่เห็นจำเป็นที่จะให้ท่านมาปลอบข้า!"หนานกงหยุนที่ยืนขึ้นยิ้มอย่างตรงไปตรงมา,ท้ายที่สุดฉู่เทียนเองก็ยังคงออมมือให้นาง,เพียงแค่ทำลายพลังป้องกันของนางเท่านั้น,ไม่ได้ทำให้นางได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด"พ่ายแพ้แก่ท่านไม่เห็นจะเสียหน้าตรงใหน!ทว่าท่านคงจะภูมิใจไปไม่ได้นานหรอกนะ,ข้าจะต้องเก่งกว่าท่านในเร็วๆนี้!"
การแข่งขันใหญ่ได้จบลงแล้ว.
อับดับหนึ่ง,ฉู่เทียน.
อันดับสอง,หนานกงหยุน.
อันดับสาม,เฟิงชิงหยุน.
อันดับสี่,ฉู่อู๋เฟิง.
อันดับห้า,เย่เหิน.
อันดับหก,ลวอจินซี.
อันดับดังกล่าวนี้ไม่มีข้อโต้แย้ง.
อย่างไรก็ตามมันเป็นเพียงอันดับของการแข่งขันรอบสุดท้ายเท่านั้นซึ่งยังไม่ใช่การจัดลำดับที่แท้จริง,เกี่ยวกับกฏระเบียบแล้ว,หลังจากที่สามารถจัดลำดับการแข่งขันได้แล้ว,จะมีเวลาเปิดให้มีการท้าทายกันและกัน,ถึงรอบแรกและรอบสองจะจบลงไปแล้ว,ทว่ารอบสุดท้ายที่แท้จริงคือการท้าทายและการแข่งขันรอบสุดท้ายที่แท้จริงยังไม่เริ่มขึ้นเท่านั่นเอง.
นี่คือการแข่งขันรอบท้าทายผู้เข้าแข่งขัน,หลังจากการจัดลำดับการแข่งขันเสร็จสิ้น,ถ้าผู้เข้าแข่งขันคนใหนไม่สามารถยอมรับตำแหน่งดังกล่าวได้,เช่นนั้นก็จะสามารถออกมาท้าทายได้.
หยุนเซียวกระโดดขึ้นเวทีอย่างอหังการ,"ข้าขอท้าทายฉู่อู๋เฟิง!"
ใบหน้าของตระกูลฉู่ถึงกับเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ขึ้นมาในทันที.
ฉู่อู๋เฟิงที่ถูกฉู่เทียนจัดการจนแทบจะกลายเป็นคนพิการไปแล้ว,อาจจะหนึ่งปีหรือมากกว่าด้วยซ้ำถึงจะสามารถฟื้นคืนกลับมาได้,หยุนเซียวที่ท้าทายฉู่อู๋เฟิงในเวลานี้,ต้องการที่จะรังแกกันอย่างงั้นรึ?
คงไม่จำเป็นต้องกล่าวสิ่งใดอีกต่อไปตำแหน่งของฉู่เฟิงนั้นได้ถูกหยุนเซียวเปลี่ยนไปแล้วนั่นเอง.
หลินมู่ที่ออกมาท้าทายลวอจินซี,ฟางหานที่ออกมาท้าทายเย่เหิน,ท้ายที่สุดเฟิงชิงหยุนก็ถูกเฟิงไฉ่เตี๋ยแทนที่ไปด้วยเช่นกัน,เฟิงชิงหยุนตอนนี้นี้ครึ่งเป็นครึ่งตาย,ไม่รู้ว่าหนึ่งปีจะสามารถลุกจากเตียงได้หรือไม่,
2-3 ปี
ต่อไปนี้คงไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้,ถึงแม้ว่าเขาจะมีความสามารถพอหากแต่โควต้าหกที่,ไม่มีทางที่เขาจะสามารถเข้าไปร่วมทดสอบหอคอยโบราณได้!ทางทีดีมอบให้คนตระกูลเฟิงยังจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า!
การแข่งขันเพื่อหาสิทธิ์หกทีก็กลายเป็นว่า,ฉู่เทียน,หนานกงหยุน,เฟิงไฉ่เตี๋ย,หยุนเซียว,ฟางหานและหลินมู่ได้ไปครอง.
ตระกูลฉู่,ลวอและเย่,
พวกเขาแทบจะอัดอั้นเก็บความโกรธเกรี้ยวเอาไว้ไม่อยู่!
คาดไม่ถึงเลยว่าท้ายที่สุดผลมันจะออกมาเป็นเช่นนี้!
ฉู่เทียนสามารถดึงฟื้นออกมาจากใต้หม้อได้อย่างงดงามจริงๆ!(***)
ไม่เพียงแค่เขาเอาชนะอัจฉริยะทั้งสี่ไป,เขายังจงใจโจมตีอย่างหนักหน่วงให้คนเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่มีแม้แต่โอกาสในการฟื้นฟูในเวลาสั้นๆ,นี่ก็นับว่าเป็นการทำลายคุณสมบัติของพวกเขาที่จะสามารถเข้าร่วมหอคอยฝึกฝนโบราณแห่งรัฐกลางได้!
การเข้าร่วมทดสอบของหอคอยโบราณแห่งรัฐกลางนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก,มันสามารถที่จะช่วยให้พวกเขาได้เพิ่มระดับขึ้นมาได้อีกด้วย,ตลอดจนสมบัติมากมายที่อยู่ในนั้น.
เหล่าอัจฉริยะทั้งสี่นั้น,หากว่าได้เข้าร่วมทดสอบหอคอยโบราณแห่งรัฐกลางล่ะก็,จะทำให้พวกเขาได้รับประสบการณ์มากมายและเพิ่มพลังให้กับพวกเขาไม่น้อยเลย.
ท้ายที่สุด?
พวกเขากลับไม่มีโอกาสดังกล่าวอีกแล้ว!
นั่นก็เพราะว่าพวกเขานั้นได้ยุแหย่คนที่พวกเขาไม่สมควรจะไปตอแยด้วยนั่นเอง!
ผลสุดท้ายที่ไม่เคยมีใครคาดคิด,คุณชายเจ้าสำราญตระกูลหยุน,และยังมีทหารรับจ้างฐานะอันต่ำต้อยได้คว้าผลประโยชน์ดังกล่าวนี้ไป,และแล้วการแข่งขันอันยิ่งใหญ่ของสถานบันแห่งรัฐกลางก็ได้มาถึงตอนจบเรียบร้อย!
釜底抽薪 ความหมายคือ (fǔ dǐ chōu xīn)ดึงฟืนออกจากใต้หม้อข้าวอุปมาว่า ตัดไฟต้นลม สามารถแก้ปัญหาที่ต้นตอ
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ
ตอบลบได้เวลาปลุกสายเลือดโบราณของฟางหาน กะ หลินมู่แล้วมั๊ง
ตอบลบขอบคุณค่ะ
ตอบลบขอบคุณมากครับ
ตอบลบ