วันอาทิตย์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 156 Who is crazier?

Miracle Throne Chapter 156 Who is crazier?

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่  156 ใครที่บ้าคลั่งกว่ากัน?


บทที่ 156 ใครที่บ้าคลั่งกว่ากัน?




การแข่งขันรอบสุดท้ายได้เริ่มขึ้นแล้ว.

ฉู่อู๋เฟิง,ลวอจินซีและเย่เหิน,ทั้งสามต่างก็เป็นสุดยอดพรสวรรค์ทั้งนั้น,ตอนนี้ได้เล็งมาที่ฉู่เทียนกันทั้งหมด,ชายหนุ่มที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า,ไม่เพียงยุแหย่ลบหลู่ตระฉู่,นอกจากนี้ยังไม่ไว้หน้าพวกเขาอีกด้วย.

ผู้ฝึกตนที่ยะโสโอหังเช่นนี้!แค่ทรมานยังน้อยไปด้วยซ้ำ?


"คงจะต้องหุบปากของมันก่อนเช่นนั้น พวกเรามามอบความตายให้กับมันก่อนก็แล้วกัน"ฉู่อู๋เฟิงที่กล่าวออกมาเป็นคนแรก"จานั้นพวกเราค่อยมาสู้กันอีกที่เป็นอย่างไร?"

ลวอจินซี"ให้เป็นฝีมือข้าเอง!"

เย่เหินที่แค่นเสียงเย็นชา,"ผู้ฝึกตนอันกระจ่อยร่อยกล้าที่จะลบหลู่สามตระกูลใหญ่รึ?วันนี้มันต้องชดใช้ความโง่ของมัน!จะได้จำใส่กะโหลกไว้ว่าในโลกนี้มีคนที่ไม่สามารถลบหลู่ได้."

"เกี่ยวกับความคิดพวกเจ้า,ต้องการให้ข้าเป็นผู้ติดตาม,คิดว่าข้าต้องตื่นเต้น,ร้องห่มร้องไห้ดีใจรึอย่างไร?"ฉู่เทียนที่จ้องมองอย่างเหนื่อยหน่าย"สมองของพวกเจ้านี้มันเกินกว่าคำว่าปกติจริงๆ!"

"สำหรับพวกเราจะสังหารเจ้ามันง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วย!"

"การเก็บชีวิตของเจ้าไว้,และให้กลายเป็นสุนัขรับใช้ตระกูลของพวกเรา,มันก็ทำให้เจ้าราวกับได้ของขวัญล้ำค่าจากสวรรค์แล้ว!จำใส่หัวไว้ซะ!"

ลวอจินซีที่กล่าวออกไปเสียงดัง"อย่าเสียเวลาอีกเลย!ในเมื่อมันกล้าหักหน้าพวกเรา!ก็ให้มันตายไปซะ!"

เมื่อเห็นท่าทางของคนทั้งสาม.

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮีๆ!"เสียงหัวเราะดังลั่น,ดังสนั่นบนเวที,นอกจากฉู่เทียนแล้ว,ชายหนุ่มคนหนึ่งก็ค่อยๆเดินออกมาช้าๆ.

เย่เหินที่ยืนอยู่อย่างสงบกล่าวออกไปอย่างสุขม"เจ้ามีเรื่องอะไรน่าขันขนาดนั้นกัน?"

"ข้าไม่เข้าใจความคิดขยะสามตัวนี้จริงๆ!มีคุณสมบัติอะไรที่จะแสดงท่าทางบ้าคลั่งออกมา!"เสียงที่ดังสนั่นผ่ากลุ่มคนทั้งสาม"เจ้ากระจอกมีความสามารถอันกระจ่อยร่อยนั้นพวกเจ้ากับคิดว่ามันยอดเยี่ยมที่สุดในรัฐกลางแห่งนี้แล้วรึ?พวกเจ้านี้มันน่าสงสารไม่ต่างจากพวกกบในกะลา!"

กับคำพูดดังกล่าว.

ถึงกับทำให้ใบหน้าพวกเขาทั้งสามเปลี่ยนเป็นซับซ้อนไปเลยทีเดียว.

เฟิงชิงหยุนที่ตอนนี้ราวกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน,สายตาที่ราวกับเด็กเกเรที่เต็มไปด้วยท่าทางยโสโอหังที่บ้าคลั่งออกมา,ชุดคลุมสีเขียวที่ยังนิ่งไม่ขยับ,ทว่าหากมองให้ดีๆแล้วล่ะก็,จะพบว่ามีพายุหมุนขนาดเล็กมากมายที่กำลังหมุนวนอยูรอบๆร่างของเฟิงชิงหยุน.

ลวอจินซีที่กล่าวออกมาด้วยความโกรธ"เจ้าพูดอะไร!"

เฟิงชิงหยุนที่ค่อยๆเหินขึ้นไปบนฟ้าอย่างช้าๆ,พลังวิญญาณที่มองไม่เห็นกำลังคลุมไปทั่วร่างของเขา"ข้าบอกว่า!พวกเจ้ามันแค่ขยะ,เป็นสุนัขที่ไม่รู้วิธีการเห่าด้วยซ้ำ!"

ใบหน้าของสุดยอดพรสวรรค์ทั้งสามเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ไปในทันที!

เหล่าคนทั้งสามตระกูลใหญ่ใบหน้าเปลี่ยนไปเป็นอึมคลึมเลยทีเดียว.

นอกเหนือจากสีต้าซือแห่งรัฐกลาง,ไม่เคยมีใครที่แสดงท่าทางเช่นนี้ออกมา,ซึ่งสี่ต้าซือนั้นพวกเขามีสิทธิ์นื่องจาก,เป็นสุดยอดอัจฉริยะที่ได้รับฉายา สีต้าซือแห่งรัฐกลาง.

หากแต่ตอนนี้ชายผู้นี้ไม่มีใครเคยได้ยินหรือมีชื่อเสียงอะไรเลย,กลับกล้าที่จะพูดจาอหังการ,กล่าวว่าพวกเขาเป็นเพียงขยะ,เป็นน้ำเสียงที่จองหอง จะปล่อยให้พวกเขาทนได้อย่างไร?

หนานกงหยุนเผยท่าทางประหลาดใจ.

พลังกดดันวิญญาณของเฟิงชิงหยุนนั้นกำลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ,นางไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นพลังแบบใด,แม้ว่าชายคนนี้จะดูยะโสโอหัง,ทว่าคงไม่ได้มีดีแค่ท่าทางเป็นแน่,ความจริงแล้วเขาน่าจะมีความแข็งแกร่งเกินกว่าที่ทุกคนจะคาดถึงได้.

เฟิงไฉ่เตี๋ยได้แต่ถอนหายใจยาว.

ท่าทางของนางราวกับแสดงท่าทางเหนื่อยหน่ายเป็นอย่างมาก.

"ขยะทั้งสามอย่าเสียเวลาเห่าอยู่เลย,รำคาญหูข้าจริงๆ!ข้าจะปิดปากพวกเจ้าเดียวนี้!"เฟิงชิงหยุนที่หัวเราะออกมาวางท่า"อย่าเสียเวลาเลยดีกว่า,พวกกระจอก ข้าจะให้โอกาส,เข้ามาทั้งสามคนได้เลย!"

ทุกคนต่างเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!

เขาช่างเป็นคนที่หยิ่งยโสโอหังเหลือเกิน,ถึงกับดูถูกอัจฉริยะทั้งสาม,ซ้ำยังท้าทายให้คนทั้งสามเข้ามาพร้อมกันอีก!ซึ่งพวกเขาทั้งสามนี้คือคนที่เป็นตัวเต็งในตำแหน่งชนะเลิศของการแข่งขันใหญ่ครั้งนี้.

ตระกูลฉู่,ตระกูลลวอและตระกูลเย่,ใบหน้าของพวกเขาถึงกับเปลี่ยนเป็นน่าเกียจ.

เฟิงชิงหยุนที่เป็นบุตรชายของเจ้าเมือง,แต่เขากับกล้าแสดงท่าทางยโสโอหังถึงเพียงนี้ บนเวทีเลยเหรอ,การกระทำเช่นนี้ได้รับอนุญาตจากเจ้าเมืองแล้วเหรอ,หรือนี้เป็นความตั้งใจของเจ้าเมืองกัน!

ไม่แปลกใจเลยว่าท่านประธานสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางได้เปลี่ยนกฏเป็นพิเศษ!

นั่นก็เพื่อพวกเขาต้องการเปิดโอกาสให้คนตระกูลเฟิงเข้าร่วมนั่นเอง!

เพราะว่าเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นต้องพ่ายแพ้ให้แก่หนานกงหยุน,แต่กระนั้น อย่างน้อยที่สุดตอนนี้เขาก็มีอกาสได้รับโค้วต้าเข้าหอคอยมากที่สุดแล้ว!ทุกคนต่างก็คิดไม่ถึงเลยว่า,ตระกูลเฟิงนั้นได้โควต้าเข้าหอคอยโบราณแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ,พวกเขาซ่อนคนที่มีพรสวรรค์ไว้นั่นก็เพื่อที่จะมาก้าวข้ามสามพรสวรรค์อย่างงั้นเหรอ!

สีหน้าของเจ้าเมืองเฟิงหยุนหลงแสดงท่าทางพึงพอใจเป็นอย่างมาก,บุตรชายของเขากำลังสร้างชื่อแล้ว!

ทั่วทั้งรัฐกลางนั้นรู้จักแต่สี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,ทว่าตระกูลเฟิงเองที่ทรงพลังและมีอำนาจระดับสูงเช่นกัน,กลับไม่มีใครเลยที่พอจะก้าวไปเทียบกับสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางได้,จะทำให้เจ้าเมืองเช่นเขาเอาหน้าไปไว้ที่ใหนกัน?

อย่างน้อยก้าวแรกของเขา เฟิงชิงหยุนต้องสร้างชื่อเสียงก้าวข้ามสามอัจฉริยะแห่งสถาบันแห่งรัฐกลางแห่งนี้ซะก่อน!

หากผ่านการแข่งขันนี้ไปได้ล่ะก็,ทุกคนก็จะรู้ว่าตระกูลเฟิงนั้นก็มีคนที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางแน่นอน,และก็จะแสดงให้เห็นว่าคนของพวกเขานั้นมีพรสวรรค์เหนือกว่าสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางซะอีก!และคนๆนั้นก็คือบุตรชายของเขา,เฟิงหยุนหลงนั่นเอง!

"โอหังไร้ยางอาย!"

สามสุดยอดพรสวรรค์ไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไป,เป็นฉู่อู๋เฟิงที่โจมตีเข้ามาก่อนเพื่อน.


ช๊างงง!,กระบี่วิเศษที่ถูกชัดออกมาก่อนที่จะถูกยิงขึ้นไปบนท้องฟ้า!

กลิ่นอายที่หนักหน่วง,เสียงแหลมหวีดหวิวตัดอากาศก้องไปทั่วสนาม.

ฉู่อู๋เฟิงที่เหินขึ้นไปบนท้องฟ้า,ก่อนที่จะคว้าไปยังกระบี่วิเศษ,พลังวิญญาณที่ถูกปล่อยออกมาเป็นภูติวิญญาณกระบี่สีม่วง,และพลังที่เอ่อล้นไหลออกมาจากระบี่วิเศษราวกับสายน้ำที่เชี่ยวกราก.

"ปราณลับกระบี่วิญญาณ! เฉือนนภา!"

เสียงดังกระหึ่มพลังที่รุนแรงน่าสะพรึงกลัวของกระบี่,บีดอัดพลังไปจนถึงขีดสุดในเวลาสั้นๆ!

ภูติวิญญาณ,กระบี่,และคน,สามประสานที่ราวกับว่าได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน!

"กล้าหยิ่งยโสไร้ยางอายเช่นนี้!จงรับความโกรธเกรี้ยวของกระบี่ตระกูลฉู่ไปซะ!"

ปราณกระบี่ของฉู่อู๋เฟิงที่สะบัดไปมา,ราวกับว่ากำลังฉีกสะบั้นอากาศออกจากกัน,ท้องฟ้าในสนามการแข่งขันกลายเป็นรอยกระบี่ลากยาวออกมา,ราวกับว่าเป็นการดาษเปล่าที่กำลังถูกเฉือน,ซึ่งเกิดจากรอยของปราณกระบี่ที่มีความคมเป็นอย่างมาก,มันพุ่งทะยานตรงเข้าหาเฟิงชิงหยุน.

เฉือนนภา!

การบวนท่าของปราณลับกระบี่วิญญาณนั้นทรงพลังเป็นอย่างมาก!

ก่อนหน้านี้เมื่อฉู่เทียนเข้ามาในเมืองหลวงและได้พบเข้ากับฉู่ซิงเหอ,ฉู่ซิงเหอที่คิดจะจัดการเขา,ถึงแม้ว่าจะใช้พลังฝึกตนเดียวกัน,ฉู่เทียนยังแทบจะไม่สามารถต้านทานกระบวนท่าของเขาได้เลย,นับตั้งแต่เดินทางมายังยุคนี้,เป็นครั้งแรกที่เขาได้รับบาดเจ็บจากพลังของคนที่มีพลังฝึกตนในระดับเดียวกัน.

กระบวนท่าที่กำลังใช้ออกมานี้,เหมือนกันที่เขาได้รับก่อนหน้านี้!

ฉู่อู๋เฟิงนั้นเป็นมือกระบี่ของตระกูลฉู่ที่ใช้วิชา <<ปราณลับกระบี่วิญญาณ>>เช่นเดียวกัน,แต่ก็ยังด้อยกว่าฉู่ซิงเหออยุ่ไม่น้อย,ทว่าเขาเองก็สำเร็จวิชาบำเพ็ญขั้นที่ 3 ประสบผลที่ใหญ่ยิ่งเป็นเอกลักษณ์แล้ว,การฟันของเขานั้น,จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง,ซ้ำยังเป็นผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 3 อีก.

ขณะที่ทุกคนต่างก็คิดว่าเฟิงชิงหยุนนั้นจะรับมืออย่างไร.

ฟรึบ!!!

ร่างของเฟิงชิงหยุนที่รับปราณกระบี่เข้ามาเต็มไป!

ทุกคนต่างก็จ้องมองตาโต!

เฟิงชิงหยุนที่เต็มไปด้วยท่าทางยโสโอหังนั่น,ไม่สามารถรับได้แม้แต่ปราณกระบี่อย่างงั้นรึ?

ในเวลาเดียวกันทุกคนก็เต็มไปด้วยความสงสัยเช่นกัน,ทันทีที่ร่างของเฟิงชิงหยุนถูกฟันด้วยปราณกระบี่ที่คมกริบ,ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็เปลี่ยนเป็นเงาเลือน,ราวกับสายลมที่ถูกกรีดออก,ก่อนที่จะสลายหายไปในทันที,พร้อมกับมีพลังวิญญาณสีเขียวที่ปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า,ร่วมตัวกันเป็นร่างของเฟิงชิงหยุนอีกครั้ง.

"นี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน?"

"เขาไม่ได้ถูกหั่นเป็นสองท่อนแล้วเหรอ!"

ทุกคนที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง,รู้สึกตื่นตระหนกตาตั้งรวมทั้งเหล่าคนตระกูลใหญ่ทั้งสี่ก็เช่นกัน.

ดวงตาฉู่ซิงเหอที่จับจ้องมองไป,ยังคงสงบเงียบและกล่าวออกมาอย่างสุขุม"ภูติวิญญาณวายุ,เขาได้รับพลังจากวายุ,วิชาบำเพ็ญเองก็ดูแตกต่างจากคนของตระกูลเฟิงอีกด้วย."

ใช่แล้ว.

ภูติวิญญาณของเฟิงชิงหยุนนั้นคือวายุ!วายุพิสุทธิ์!

เป็นภูติวิญญาณที่มีความสามารถเอนกประสงค์,เป็นภูติวิญญาณธาตุบริสุทธิ์,ไม่มีรูปร่างที่แน่นอน,มีเพียงพลังวิญญาณบริสุทธิ์,ภูติวิญญาณเช่นนี้หาได้ยากมาก,มีความสามารถที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ไปพร้อมกัน,แต่ดูเหมือนว่าฝั่งมีประโยชน์จะมีมากกว่า.

ภูติวิญญาณจำพวกธาตุที่เคยเห็นมาก่อนก็มี.

ท่านหญิงอสนีบาติม่วงหยุนเหยาที่มีภูติวิญญาณสายฟ้า,เป็นเพียงพลังสายฟ้าบริสุทธ์,ไม่มีรูปร่างแน่นอน,ดังนั้นจึงนับได้ว่าหยุนเหยาเองก็มีภูติวิญญาณธาตุด้วยเหมือนกัน.

เฟิงชิงหยุนนั้นก็เหมือนกับหยุนเหยา,ทว่าคุณสมบัติของเขานั้นเป็นธาตุวายุนั่นเอง!

เฟิงชิงหยุนที่ไม่เพียงมีภูติวิญญาณวายุพิสุทธิ์,เหมือนว่าเขาจะได้สืบทอดสมบัติลับ,เป็นวิชาบำเพ็ญโบราณอีกด้วย,ที่สามารถเปลี่ยนร่างกายให้เป็นสายลมโดยที่ไม่สามารถที่จะค้นหาร่องรอยได้,เป็นวิชาลวงตาอย่างหนึ่งที่ทรงพลัง,แน่นอนว่าจะต้องเป็นวิชาที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน.

ภูติวิญญาณของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางเลย,อาจจะเหมือนกับฉู่ซิงเหอในอนาคตก็เป็นได้,ซึ่งฉู่ซิงเหอ,ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ได้รับสมบัติตกทอดจากโบราณกาล,ทำให้พลังและศักยภาพเพิ่มขึ้นจนเหนือกว่าอีกสามต้าซือ,ถึงแม้ว่าจะมีพลังฝึกตนเท่ากันก็ตาม,ฉู่อู๋เฟิงก็ยากที่จะต้านทานเฟิงชิงหยุนได้ นับเป็นเรื่องลำบากที่จะต่อกรได้.

ลวอจินซีกล่าวต่อเย่เหิน"จัดการเขาด้วยการโจมตีไปที่จิตวิญญาณของเขาเลย!"

ดวงตาของเย่เหินทั้งคู่ที่ส่องประกายมีพลังวิญญาณที่ปลดปล่อยออกมาเป็นระลอก,หลังจากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น"ไม่ดีแน่,ถึงจะดูเหมือนเขายืนนิ่งอยู่กับที่,แต่นความเป็นจริงแล้วมันเป็นการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาด้วยความเร็วสูง,ข้าไม่สามารถที่จะเล็งไปที่เขาได้เลย!"

"อย่างไร?"

"หมาบ้าสามตนที่ไม่รุ้จักวิธีเห่านี่เรียกว่าความสามารถทั้งหมดของพวกเจ้าแล้วรึ?"

เฟิงชิงหยุนที่หายตัวไปอย่างไร้ร่องลอย,ไม่สามารถที่จะมองเห็นตัวของเขาได้เลย,ได้ยินเพียงเสียงที่ดังออกมาจากทุกทิศทุกทาง,และลมที่พัดโกรกไปมาทั่วทั้งสนาม.

"แม่นางหนานกง,จากที่ข้าเห็นแล้ว,เทียบกับพวกสวะสามชิ้นนี้แล้ว,มีเจ้าที่พอจะมีคุณสมบัติเป็นคู่ต่อสู้ให้กับข้าได้!"

ร่างกายของเฟิงชิงหยุนตอนนี้ที่ดูเลือนลาง,ราวกับว่าเป็นหมึกที่หยดลงไปบนน้ำที่กำลังแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว,ขณะที่เขากล่าวนั้น,ทันใดนั้นเขาก็จับจ้องไปยังฉู่เทียน.

"ส่วนเจ้า...ไอ้ขยะ!ข้ารังเกียจเจ้าตั้งแต่แรกแล้ว,พลังฝึกตนก็ต่ำสถุล!ไสหัวไปให้พ้นซะ!"

เป็นวิชาบำเพ็ญที่แปลกประลาด!

มีพรสวรรค์ที่น่าพรั่นพรึงยิ่งนัก!

เฟิงชิงหยุนที่ไม่เพียงแต่บ้าคลั่งเท่านั้น,เขายังได้ทำการควบคุมการแข่งขันนี้เอาไว้ด้วยตัวเขาเอง!

เฟิงชิงหยุนที่มีความรู้สึกสุขใจเป็นอย่างมาก,เขาได้เผยความแข็งแกร่งของตัวเองออกมาแล้ว,คนอื่นๆก็แทบไม่ต่างจากขยะ,นับจากนี้จะได้รู้ตัวกันซะที!

ไม่ใช่ว่าเขาตอนนี้ทำให้พวกกระจอกคอตกไปหมดเลยเหรอ!

หากขัดขืนล่ะก็มันต้องตาย!

ฉู่เทียนกล่าวออกมาอย่างนุ่มนวล,"ข้าจำเป็นต้องเชื่อฟังเจ้าด้วยรึ?"

"งั้นข้าจะเป็นคนไล่เจ้าไปด้วยตัวข้าเอง!"


เฟิงชิงหยุนที่ผลุบๆโผล่ๆไปยังหลายตำแหน่ง,ราวกับเป็นผีที่หายตัวและโผล่ออกมาจากอากาศที่ว่างเปล่าได้,ดูเหมือนว่าเขาจะสามารถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง,พร้อมกับพุ่งกระโจนมายังร่างของฉู่เทียนอย่างรวดเร็ว.

ฉู่เทียนยื่นมือขวาไปยังด้านหลังช้าๆ,ก่อนที่จะกุมไปที่กระบี่อเวจี,ความหนาวเย็นที่แผ่ออกมาจากคมกระบี่ขณะที่เขาชักมันออกมาช้าๆ "ทำไมโลกนี้มันถึงได้มีคนโง่มากมายเพียงนี้กัน ถึงได้คิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่ตลอดเวลาเลยรึ?**"

กลิ่นอายจากโบราณกาลที่ยิ่งใหญ่ที่แผ่ออกไปเต็มไปทั่วทั้งอากาศมันกำลังไหลออกมาจากร่างของฉู่เทียน.

เมื่อความหนานเย็นที่กำลังแผ่ออกมานั้นกำลังพวยพุ่งแผ่ซานออกไปรอบๆรู้สึกได้ราวกับว่ามันเป็นน้ำแข็งหลายหมื่นปีที่ได้แช่แข็งกระบี่ยาวเล่มนี้เอาไว้ก่อนที่จะถูกชักออกมา,กระบี่สีดำสนิดปล่อยปล่อยจิตกระบี่จากโบราณกาลออกมา,จิตกระบี่เช่นนี้ทั่วทั้งรัฐกลางแห่งนี้ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย,กลิ่นอายที่ทรงพลังน่าเกรงขามยากที่จะจินตนาการถึงได้,มันเป็นพลังที่ไร้ขอบเขตอย่างไม่เคยรับรู้มาก่อน,ราวกับว่าเป็นเหมือนดังแขนข้างหนึ่งของเทพอสูร.

ประกายแสดงสีม่วงที่อาบไปทั่วกระบี่ที่กำลังฉีกกระชากความว่างเปล่า!

ฉู่เทียนที่ไม่ได้สนใจร่างที่ผลุบๆโผล่ของเฟิงชิงหยุนเลยแม้แต่น้อย,กระบี่ของเขาทะลวงออกไปในอากาศ,เจตจำนงกระบี่ที่น่าสะพรึงกลัว,คำรามโหยหวน,พร้อมกับปล่อยปราณกระบี่พุ่งออกไปแหวกอากาศที่ว่างเปล่าฉีกกระชากมันจนแหลกสลายแหลกออกเป็นชิ้นๆ.

เงาสีเขียวของคนๆหนึ่งที่ออกมาจากอากาศเนื่องจากอากาศที่ว่างเปล่านั้นถูกตัดแยกออกมานั่นเอง!

"เป็นไปไม่ได้!"เฟิงชิงหยุนที่จ้องมองไปยังหน้าอกตัวเองแทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาเองแม้แต่น้อย,บาดแผลตรงหน้าอกที่กำลังหลั่งโลหิตพุ่งกระฉูดออกมา"เจ้า,เจ้ามองเห็นว่าข้าอยู่ที่ใหนได้อย่างไร!ทำไม?"

ในเวลาเดียวกัน.

เฟิงชิงหยุนที่รับรู้ได้ถึงพลังวิญญาณที่มองไม่เห็นได้,เขากวาดตามองไปยังร่างกายของเขาในทันที,ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเบิกกว้าง,"ดวงตาแห่งใจ! เจ้ามีทักษะดวงตาแห่งใจ!"

ถูกแล้ว!

ฉู่เทียนที่กวัดแกว่งกระบี่ของเขาออกไป,พร้อมๆกับเปิดใช้ทักษะดวงตาแห่งใจ!

วิชาของชายผู้นี้เกินกว่าที่คนทั่วไปจะจินตนาการถึงได้ช่างน่าหวาดกลัวจริงๆ.

ร่างของเฟิงชิงหยุนที่ปรากฏออกมานั้นไม่ใช่อะไรนอกจาก ภูติวิญญาณธาตุบริสุทธิ์เท่านั้นเอง,ที่จริงแล้วเขาได้ซ่อนร่างตัวเองภายในอากาศที่ว่างเปล่า,ปกปิดบิดเบือนแสง,ทำให้ทุกคนไม่สามารถมองเห็นร่างที่แท้จริงๆได้.

การต่อสุ้เพียงแค่พริบตาเดียวแทบจะไม่ต่างกับการต่อสู้กับฉู่หมิงก่อนหน้านี้เลย.

อย่างไรก็ตาม,เฟิงชิงหยุนที่ซ่อนทักษะที่แข็งแกร่งของตัวเองเอาไว้,เขาที่มีทักษะย้ายร่างที่แปลกประหลาด,ท้ายที่สุดกับถูกฉู่เทียนสามารถมองออกถึงวิชาดังกล่าวได้.

และร่างของเฟิงชิงหยุนที่เคลื่อนที่ 5-6 ตำแหน่งในพริบตาเดียวก่อนนั้น.

และร่างที่ฉู่อู๋เฟิงไม่สามารถตัดให้ขาดได้นั้น,แท้ที่จริงก็เป็นเพียงแค่ภูติวิญญาณวายุเท่านั้นเอง!

เป็นการแน่นอนว่าวิชาดังกล่าวของเฟิงชิงหยุนเองก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าวิชาโบราณ <<กระบี่เพลิงอเวจี>>!แต่อย่างใด,หากว่าพลังฝึกตนของเขาสูงกว่านี้ล่ะก็,ความเร็วของเขาก็จะยิ่งมากกว่านี้แน่นอน,หรือวิชาที่เขามีก็จะลึกล้ำยิ่งกว่านี้อีก,เช่นนั้นแล้วถึงจะเป็นฉู่เทียนก็ยากที่จะสามารถใช้ทักษะ เนตรแห่งใจมองผ่านวิชานี้ได้.

อย่างไรก็ตามเฟิงชิงหยุนก็ยังเด็กจนเกินไป,พลังฝึกตนเองก็อยู่เพียงระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 3 เท่านั้น.

"อย่างไรล่ะ?ตกใจกันรึไง?"

"เจ้า,ทำไมถึงกล้ายโสโอหังว่าคนอื่นๆกระจอกล่ะ,ทำไมไม่รู้จักคิดใคร่ครวญให้ดีว่าใครกันแน่ที่มันกระจอก?"

ด้วยคำกล่าวเช่นนั้นดั่งสนั่นก้องกังวานไปทั่วทั้งสนามแข็งขัน,ตบหน้าของเฟิงชิงหยุนอย่างแรง.

เฟิงชิงหยุนที่รู้สึกราวกับว่ากำลังฝันอยู่,ไม่คิดเลยว่าคนที่เขาดูถูกดูแคลนมาตลอด,การเคลื่อนไหวที่เขาภาคภูมิใจกลับถูกทำลายลง!

ใบหน้าของเฟิงหยุนหลงเองถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อนและดำมืดขึ้นมาทันที!

เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้มันเกินกว่าที่เขาจะคาดการณ์ได้จริงๆ!

เจ้าบัดซบนี้เป็นใครมาจากใหนกัน?เห็นได้ชัดเจนว่ามีพลังเพียงแค่ปลุกดวงจิตระดับ 2 !

คมกระบี่ของฉู่เทียนที่กำลักโชติช่วงด้วยเปลวเพลิงสีขาวน้ำเงิน,เขาจ้องมองไปยังหนานกงหยุนที่อยู่ด้านข้า"เจ้าอยู่ตรงนั้นล่ะเป็นเพียงผู้ชมก็พอ!ข้าจะดูแลเหล่าขยะเหล่านี้ด้วยตัวข้าเอง!"

เหล่าผู้ชมมากมายที่กำลังดูอยู่ถึงกับเงียบฉี่จนแทบจะได้ยินเสียงเข็มตก!

เฟิงชิงหยุนที่บ้าคลั่งข่มขู่ไปทั่วว่าจะจัดการอัจฉริยะทั้งสาม!

ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นชายหนุ่มที่มาจากใหนไม่รู้,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลายมาเป็นคนที่ยโสโอหังแทน,เขาไม่เห็นกลุ่มทั้งสามของฉู่อู๋เฟิงอยู่ในสายตาเลย,เหมือนกับเฟิงชิงหยุนที่กระทำไปก่อนหน้านี้!

การแข่งขันนี้มันเป็นแบบใดกัน?

มันช่างเป็นการแข่งขันที่ทำให้พวกเขาแทบจะลืมหายใจหายคอ!

การแข่งขันใหญ่ที่มีแต่เรื่องเหนือจินตนาการเกิดขึ้นสร้างความตื่นตาตื่นใจจริงๆ!


自以 Zìyǐwéishì จื้ออี่เหวยซื่อ  คิดว่าตัวเองถูกต้องอยู่ตลอดเวลา


ที่มาจากhttp://www.novelupdates.com/series/miracle-throne/

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



3 ความคิดเห็น: