วันเสาร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 155 Tournament

Miracle Throne Chapter 155 Tournament

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 155 การแข่งขันจัดอันดับ



หนานกงหยุนที่ถูก <<เพลงกระบี่วายุสลายมวลเมฆา >>กำราบลงอย่างสิ้นเชิง,ทุกคนต่างก็คิดว่าผู้ชนะในครั้งนี้จะต้องเป็นเฟิงไฉ่เตี๋ยอย่างแน่นอน.

แน่นอนว่าหนานกงหยุนไม่สามารถทำใจยอมรับได้แน่!

นางไม่คิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้!

นางนึกขึ้นมาได้ว่าก่อนที่นางจะออกมาจากเมืองเทียนหนาน,ฉู่เทียนได้มอบวิชาบำเพ็ญ <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ให้กับนาง,ในเวลานั้น นางเองก็คิดว่าวิชา <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>คงจะร้ายกาจเหมือนกับวิชา <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>อย่างแน่นอน.


เมื่อนางสงบใจพยายามที่จะศึกษา <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>อย่างละเอียดแล้ว นางก็พบว่านางได้คิดผิด.

กลับกลายเป็นว่าวิชา <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>> กลับเป็นวิชาที่แข็งแกร่งโดดเด่นอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน,มันมีพลังที่น่าหวั่นเกรงยิ่งกว่า <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>ซะอีก,หากแต่ความยากของมันก็มากกว่า <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>สิบเท่าด้วยเช่นกัน,จำเป็นต้องใช้วัตถุดิบมากมายที่นางแทบจะไม่เคยได้ยินมาก่อน,เป็นไปไม่ได้เลยจะสามารถฝึกฝนวิชานี้จนผ่านทุกขั้น!

ในคราแรกฉู่เทียนที่มอบ <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ให้กับนาง,ก็ไม่คิดว่านางจะสามารถฝึกฝนได้แต่อย่างใด.

ฉู่เทียนไม่ได้นำสุดยอดวิชากลับมาในยุคนี้มากนัก,ส่วนวิชา <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>นั้นที่เขาจำได้เนื่องจากว่ามันเป็นวิชาที่ร้ายกาจที่เขาสนใจและสามารถปรับแต่งร่างกายได้,และมันเป็นแค่วิชาที่อยู่ระดับกลางที่ฝึกฝนได้ไม่ยากนัก,ส่วนวิชา <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>เป็นวิชาที่เหนือกว่านั้นขึ้นมาอีก.

ในวิชาบำเพ็ญที่มีอยู่หลายวิชานั้น,บอกได้เลยว่ามันมีความยากเป็นอย่างมาก,มีระดับขั้นแต่ละขั้นที่สูงเป็นอย่างมาก,วัตถุดิบที่ใช้ในการฝึกฝนก็ยากที่จะสามารถหาได้,บางทีแม้แต่ระดับต้นยังยากที่จะสามารถฝึกให้สำเร็จได้เลย.

เหตุผลที่ฉู่เทียนมอบ <<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ให้กับหนานกงหยุนนั้น,เนื่องจากเขาหวังว่านางจะสามารถเข้าใจในความลึกล้ำในวิชาดังกล่าวได้ในภายหลัง,และสามารถที่จะสร้างเป็นพื้นฐานให้กับตัวเองได้,และสามารถช่วยยกระดับวิชา <<เพลิงผลาญสวรรค์>>ของนาง.

หนานกงหยุนยังคงคำรามลั่นชกออกไปทำลายปราณกระบี่ที่พุ่งมามากมายไม่หยุดหย่อน.

เฟิงไฉ่เตี๋ยยังคงใช้กระบี่เทพวายุโจมตีจากระยะไกล.

7-8 ปราณกระบี่ที่ถูกปล่อยออกมา,ราวกับว่ากำลังกลายเป็นกงขังที่จะผนึกหนานกงหยุนเอาไว้,เป็นพลังกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงทรงพลังเป็นอย่างมาก.

ตูมมมม!

พลังอำนาจแห่งดวงดาราเกราะโปล่งแสงที่ขาดสะบั้นออกเป็นเสี่ยงๆ!

วิชากายานิรันดรโอบแสงดาราถูกทำลายแล้ว,กลายเป็นฝุ่นดาวส่องประกายระยิบระยับมากมาย!

ถูกทำลายแล้ว!ในที่สุดก็ทำลายได้แล้ว!วิชาป้องกันที่ร้ายกาจ,ในที่สุดเฟิงไฉ่เตี๋ยก็ทำได้สำเร็จ!

เฟิงไฉ่เตี๋ยโจมตีด้วยความถี่สูงติดต่อกันไปมา,ด้วยการโจมตีไปที่จุดเดียวไม่หยุดแม้แต่พลังกายานิรันดรโอบแสงดาราก็ไม่สามารถต้านทานได้,นับจากนี้ไป,ราวกับว่าชัยชนะและแพ้เหมือนจะตัดสินแล้ว.

พลังวิญญาณของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นใช้ไป 60-70เปอรเซ็นต์,ส่วนหนานกงหยุนนั้นใช้ไปเพียงแค่ 30 เปอรเซ็นต์เท่านั้น,เหมือนว่าเฟิงไฉ่เตี๋ยจะใช้พลังวิญญาณไปมหาศาลเลยทีเดียว,เป็นการแลกเปลี่ยนโอกาสได้เปรียบที่จะชนะของนางนั่นเอง.

"พอได้แล้ว!"

"ไม่งั้นเจ้าจะต้องได้รับบาดเจ็บแน่!"

เฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นรู้ดีว่าหนานกงหยุนนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับลูเร็นแน่,ตอนนี้พลังป้องกันของนางถูกทำลายไปแล้ว,แน่นอนว่าเฟิงไฉ่เตี๋ยไม่ต้องการที่จะทำให้หนานกงหยุนได้รับบาดเจ็บ.

"หยุดพล่ามได้แล้ว!"

"คิดว่าขุ่นแม่จะยอมแพ้เหรอ!"
 
จะให้หนานกงหยุนยอมแพ้ได้อย่างไร?

นางตอนนี้ได้รวบรวมพลังวิญญาณขนาดมหึมา,เตรียมที่จะตอบโต้เต็มกำลัง,เฟิงไฉ่เตี๋ยที่เห็นดังนั้น,นางจึงไม่มีทางเลือก,หากว่านางลังเลและยอมให้หนานกงหยุนฟื้นฟูเกราะป้องกันแสงดาราได้อีกล่ะก็,นางคงไม่มีพลังวิญญาณเหลือพอที่จะต่อสู้ได้อีกแน่!

กระบี่เทพวายุที่กวัดแกว่งไปมา.

ปราณกระบี่มากมายที่ปรากฏขึ้นมาหมุนวนก่อนที่จะถูกเหวี่ยงออกไปยังร่างของหนานกงหยุน.

ความแข็งแกร่งของหนานกงหยุนนั้นถึงแม้จะทรงพลัง,แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะทำลายปราณกระบี่มากมายที่โจมตีมาจากทุกทิศทุกทางได้.

แพ้ชนะตัดสินกันเพียงแค่พริบตาเดียว!

ในช่วงเวลาวิกฤติ!

หนานกงหยุนที่ตะโกนออกมาเสียงดังก่อนที่จะปลดพลังออกมาในทันที,หงส์เพลิงที่ราวกับว่าถูกราดไปด้วยน้ำมัน,มันปกคลุมไปทั่วเปลวเพลิงก่อนที่จะเปลี่ยนสีแดงเป็นสีทองปนแดง,มีกลิ่นอายของพลังศักดิ์สิทธิ์กำลังไหลบ่าเอ่อล้นขึ้นมาในทันที!

"นี่มัน...."

"เกิดอะไรขึ้น?"

โหวเย่ว์วายุเทพ,เจ้าเมือง,ประมุขทั้งสี่ตระกูลใหญ่และคนอื่นๆ,ต่างก็ลุกขึ้นมายืนจ้องมองออกไปด้วยท่าทางตื่นตะลึง,สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก,นี่มันไม่ใช่เพลิงผลาญสวรรค์ของตระกูลหนานกง.

ร่างของหนานกงหยุนหายไปในทันที,ก่อนที่จะปรากฏอยู่บนอากาศรวมร่างกับหงส์เพลิงสีทอง,ปราณกระบี่สีเขียวที่กระแทกไปยังหงส์เพลิง,ไม่เพียงแต่ไม่สามารถตัดผ่านเข้าไปได้,ซ้ำยังกลายเป็นเพิ่มพลังความแข็งแกร่งให้กับหงส์เพลิงซะอีก.

วายุช่วยให้เปลวเพลิงลุกโชนขึ้น!

เสียงคำรามของหงส์เพลิงดังกึกก้องกังวานหวีดร้องยาว,ก่อนที่เปลวเพลิงจะพุ่งตรงไปยังเฟิงไฉ่เตี๋ยเป็นความเร็วที่มากมายที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าจากเดิม!

เฟิงไฉ่เตี๋ยถึงกับตื่นตะลึงเมื่ออยู่ต่อหน้าของเปลวเพลิงที่ทรงพลังยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า,นางไม่เคยคิดเลยว่านี้จะเป็นกับดักของหนานกงหยุน,และถูกนางถูกตีโต้กลับมาด้วยพลังที่แข็งแกร่งอย่างไม่คาดคิดเช่นนี้!

ร่างของหนานกงหยุนราวกับว่าได้ผสานร่างเขากับหงส์เพลิงอย่างสมบูรณ์พร้อมกับพุ่งตรงมาต่อยหมัดออกไปยังเฟิงไฉ่เตี๋ยเสียงดังสนั่น.

หมัดของนางยังไม่ถึงร่างของเฟิงไฉ่เตี๋ยด้วยซ้ำ.

คลื่นพลังที่รุนแรงราวกับได้ฉีกกระชากพลังวิญญาณป้องกันร่างของนางออก,เฟิงไฉ่เตี๋ยที่แค่นเสียง,พร้อมกับพ่นโลหิตออกมา,ก่อนที่จะลอยละล่องหล่นลงมาจากเวทีการแข่งขันลงมาอยู่ด้านล่าง.

แพ้แล้ว!

ในที่สุดเฟิงไฉ่เตี๋ยก็แพ้แล้ว!

หนานกงหยุนที่เหินอยู่บนอากาศก่อนที่จะร่อนลงบนกลางเวทีช้าๆ,ใบหน้าของนางที่ซีดขาวราวกับกระดาษ,ด้วยการระเบิดพลังออกมาจนพลังวิญญาณแห้งเหือด,แทบจะทำให้นางทรงตัวไม่อยู่.

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่ลุกขึ้นยืนช้าๆ,ก่อนที่จะปัดรอยไหม้บนเสื้อผ้าของนางออก,จ้องมองออกไปด้วยท่าทางเจ็บใจอยู่เหมือนกัน,ทว่านางเองก็รู้ว่าหนานกงหยุนนั้นได้ปราณีนางอยู่ไม่น้อย,ไม่เช่นนั้นนางคงจะไม่ไร้บาดจนต้องนอนแปลไปแล้ว.

นางได้เดินไปเก็บกระบี่เทพวายุ,ก่อนที่จะยกมือคารวะไปด้านหน้าต่อหนานกงหยุน,"แม่นางหนานกงช่างแข็งแกร่งนัก,ไฉ่เตี๋ยยอมรับความพ่ายแพ้แล้ว!"

"เจ้าเองก็โชคดีไม่น้อย!"หนานกงหยุนที่กล่าวออกไป ว่านางนั้นไม่ได้เมตตานางแต่อย่างใด"ขุ่นแม่คนนี้เหลือพลังวิญญาณไม่มากพอ,ไม่เช่นนั้นแล้วหมัดของข้า,อาจจะทำให้เจ้าต้องนอนบนเตียงอีกครึ่งปีแน่นอน!"

สตรีคนนี้ที่จริงแล้วกำลังจะแสดงว่าตัวเองแข็งแกร่งมากมายกว่านี้หรืออย่างไร!

เจ้าเมืองที่ถอนหายใจ"ช่างน่าเศร้าแทนไฉ่เตี๋ยที่ประมาทไปหน่อย,ไม่เช่นนั้นแล้วด้วยความแข็งแกร่งของนางอาจจะได้รับตำแหน่งชนะเลิศก็เป็นได้."

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า,แพ้ก็คือแพ้,ความจริงแล้วไฉ่เตี๋ยนั้นไม่สามารถที่จะสู้กับแม่นางน้อยตระกูลหนานกงนั้นได้อยู่แล้ว."โหวเย่ว์วายุเทพที่หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างพึงพอใจ,"ส่วนตำแหน่งชนะเลิศ..จะเป็นได้ได้อย่างงั้นรึ?ถึงแม้ว่าจะไม่แพ้แม่นางน้อยตระกูลหนานกงนี่,นางคงจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของบุตรชายท่าน,ยังไงก็เหมือนกัน,เหมือนๆกันนั่นล่ะ!"

ประกายแสงของเจ้าเมืองที่ลุกวาว,เผยยิ้มออกมาแต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกมา.

ในการแข่งขันในครั้งนี้เขาได้ทำการเตรียมการอย่างเอาจริงเอาจังทุ่มทุนไปมากทีเดียว.

ตำแหน่งชนะเลิศนั้นถ้าไม่ใช่ ลวอจินซี,ไม่ใช่เย่เหิน,ไม่ใช่ฉู่อู๋เฟิง,หรือไม่ใช่หนานกงหยุนแล้วล่ะก็,คนอื่นๆตอนนี้คงไม่สามารถคิดได้แล้ว.

"เจ้านาย,เป็นอย่างไร,ข้าร้ายกาจเป็นอย่างมากใช่ใหม!"หนานกงหยุนที่กระโดดลงมาจากเวที,ใบหน้าของนางที่เผยยิ้มออกมาอย่างเฉิดฉายต่อหน้าฉู่เทียน"ข้ารู้สึกว่าข้าจะสามารถชนะท่านได้ด้วยล่ะ,เจ้านาย,อย่าได้ตำหนิข้าละหากว่าข้านั้นหักหน้าท่าน,ข้าจะจัดการท่านอย่างนุ่มนวลแล้วกัน.ฮึ ฮึ."

ฉู่เทียนที่กล่าวออกไปอย่างดูแคลนจ้องมองไปยังนาง"หากเจ้าไม่สามารถรับรู้ได้ถึงวิชา<<ศาสตร์เทพแห่งนิพพาน>>ที่สามารถผสานเข้ากับ<<เพลิงผลาญสวรรค์>>ในนาทีสุดท้ายล่ะก็,เจ้าคงจะไม่มีโชคชนะมาได้หรอกนะ,ลำพังมีแค่ทักษะเช่นนี้ยังกล้ามาคุยว่าจะชนะข้าได้รึ?"

หนานกงหยุนที่แค่นเสียงขึ้นจมูก,"ไว้ไปถึงรอบสุดท้ายเมื่อไหร่แล้วก็จะรู้เองล่ะ!"
 
เป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมจริงๆ.

แต่ถึงกระนั้นหลังจากที่เฟิงไฉ่เตี๋ยและหนานกงหยุนที่ได้ต่อสู้อย่างน่าดูจบไป,ก็ไม่มีการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นอีกเลย,เหล่าสนามแข่งขันทั้งหกตอนนี้ต่างก็ได้ผู้ชนะเข้ารอบมาทั้งหมดแล้ว.

คนทั้งหกนั้นประกอบไปด้วย,ฉู่อู๋เฟิง,ลวอจินซี,เย่เหิน,หนานกงหยุน,ลูเร็นและเฟิงชิงหยุน.

เหล่าคนทั้งสี่ที่เข้ารอบมานั้นทุกคนต่างก็ประจักษ์ในความแข็งแกร่งได้ดี,มีเพียงแค่ฉู่เทียนและเฟิงชิงหยุนเท่านั้นที่ต่อสู้มาอย่างไม่น่าตื่นเต้นเลยแม้แต่น้อย,ฉู่เทียนที่ไม่ได้ชักระบี่ของตัวเองออกมาเลยจนมาถึงรอบสุดท้าย,เฟิงชิงหยุนเองก็ใช้พลังเพียงพลังเล็กน้อยเท่านั้นก็จัดการศัตรูได้,ดังนั้นแล้วความแข็งแกร่งของพวกเขาทั้งสองนั้นแข็งแกร่งขนาดใหนไม่มีใครรู้เลย.

อันดังหนึ่งจะอยู่ในหกคนนี้แล้ว.

"ทุกคนมีสิทธิ์ทั้งหมด!"

"นี่คือการจัดลำดับการแข่งขัน!"

"จะเป็นการคัดเลือกคนที่แข็งแกร่งที่สุดในการแข่งขันในครั้งนี้"

ภายใต้การจับจ้องของประชาชนเป็นจำนวนมาก,สนามการแข่งขันทั้งหกที่ใช้ในการแข่งขันได้ถูกรวมเข้ารวมเป็นสนามเดียว,นี่คือการจัดลำดับการแข่งขันที่สำคัญ,เป็นไปตามกฏการแข่งขันใหญ่,อันดับหนึ่งถึงหกนั้นจะมีสิทธิ์เข้าร่วมทดสอบหอคอยโบราณแห่งรัฐกลาง.

คนทั้งหกที่ชนะเลิศทั้งหกสนามนี้ยังไม่สามารถที่จะสรุปได้.

เกี่ยวกับกฏการแข่งขันนั้น,เมื่อมีการจัดลำดับการแข่งขันเสร็จแล้ว,จะเปิดโอกาสให้ท้าทายกันได้

เหล่าคนที่จะสามารถเป็นหนึ่งในหกนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นหนึ่งในหกคนที่เหลือรอบสุดท้ายนี้ก็ได้.

เหล่าคนทั้งหกนี้จะทำการต่อสู้กัน,เพื่อที่จะให้กรรมการตัดสินความสามารถ,หลังจากที่ได้อันดับออกมาแล้ว,หากว่ามีคนใดไม่พอใจผลตัดสินล่ะก็,จากนั้นก็จะเปิดการท้าท้าย,ตราบเท่าที่สามารถชนะอีกฝ่ายได้ก็จะได้อันดับของคนนั้นไป,จากนั้นก็จะมีการจัดลำดับใหม่.

นี่คือเวทีที่จะให้พวกเขาได้แสดงความสามารถ.

รอบนี้จึงถือเป็นรอบการต่อสู้ที่หนักหน่วงที่สุด.

ในการแข่งขันจัดลำดับนี้เมื่อเริ่มการแข่งขัน,ทุกคนก็จะเข้ามาในสนามแข่งขันทั้งหมดและต่อสู้จนกว่าอีกฝ่ายจะยอมแพ้หรือต่อสู้ต่อไปไม่ได้,พวกเขาจะได้รับการจัดอันดับจากการแสดงฝีมือบนเวทีนั่นเอง.

ในสนามการแข่งขัน.

คนทั้งหกต่างก็อยู่มุมสนามที่ต่างกันออกไป.

ฉู่อู๋เฟิงที่เป็นชายหนุ่มที่มีรูปร่างผอม,สวมชุดของตระกูลฉู่,ที่ด้านหลังมีกระบี่วิเศษเหน็บอยู่,ท่าทางค่อนข้างธรรมดา,หากแต่กับมีสายตาที่คมกริบ,ราวกับคมกระบี่วิเศษเลยทีเดียว.

ลวอจินซีรูปร่างสูงทรงพลัง,ใบหน้าที่หยาบกร้านดุดันราวกับราชสีห์,ยืนเด่นอยู่ข้างเวที,ท่าทางจริงจังนั้นแผ่ออกมาเต็มอากาศไปหมด,ยืนเด่นเป็นสง่าราวกับราชสีห์ที่ยืนอย่างผ่าเผยบนทุ่งหญ้า.

เย่เหินที่รูปร่างทั่วๆไป,ปกปิดกลิ่นอายตัวเองเอาไว้,ดวงตามืดมนเย็นชา,แฝงความชั่วร้ายที่แปลกประหลาดเอาไว้,ราวกับหมาป่าอสูรที่กำลังซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกจับจ้องเหยื่อที่หลงมา.

พวกเขาทั้งสามที่ขึ้นไปบนเวทีอย่างช้าๆ.

ฝูงชนที่อยู่รอบๆต่างก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ!

พวกเขาทั้งสามคนคืออัจฉริยะที่มีพรสวรรค์สูงที่สุดของสถาบันแห่งรัฐกลาง.

เกือบ 90 เปอเซ็น พวกเขาเชื่อว่าการแข่งขันในครั้งนี้ผู้ชนะเลิศจะต้องเป็นหนึ่งในสามนี้อย่างแน่นอน!

นอกจากพวกเขาทั้งสามคนแล้ว,หนานกงหยุนเองก็นับได้ว่าโดดเด่น,ทว่านางได้ใช้พลังที่มากมายในการต่อสู้กับเฟิงไฉ่เตี๋ยไปแล้ว,บอกไม่ได้ว่าตอนนี้นางเหลือเรี่ยวแรงเท่าไหร่กัน.

ส่วนเฟิงชิงหยุนและลูเร็นนะรึ?

ทุกคนต่างก็ส่ายหน้าไปตามๆกัน.

เฟิงชิงหยุนที่มีสกุล เฟิง,บอกได้ว่าเป็นญาติกับเฟิงไฉ่เตี๋ย,และเป็นคนของตระกูลเฟิง,เพียงแต่เฟิงชิงหยุนคนนี้ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน,ไม่มีใครคิดว่าเขาจะแข็งแกร่ง.

ส่วนชายที่มีนามว่าลูเร็นอีกคน?

ชื่อนี้ราวกับยาจกเป็นเพียงคนจร,แม้ว่าจะมีความสามารถอยู่บ้าง,ทว่าก็ระดับทั่วๆไป,บางทีการเข้ามาถึงรอบสุดท้ายนี้,คงเป็นเพราะโชคล้วนๆ.

ถึงเฟิงชิงหยุนจะไม่มีชื่อเสียง,ทว่าเบื้องหลังก็เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่,มีเพียงแค่ลูเร็นเป็นเพียงผู้ฝึกตนเร่ร่อน,จะมีความสามารถสักเท่าไหร่กัน?

หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาสงสัย.

ทำไมคนที่มีความสามารถเช่นหยุนเซียวเห็นได้อย่างชัดเจนว่าร้ายกาจ,กลับกลายเป็นว่าขอยอมแพ้ต่อลูเร็น,ไม่ว่าอย่างไรก็ตามที,ไม่มีใครที่เอาใจช่วยคนผู้นี้เลย.

การแข่งขันใหญ่ตอนนี้ยังไม่เริ่มอย่างเป็นทางการ.

คนทั้งหกต่างก็จ้องมองพิจารณากันและกันอยู่.

ฉู่อู๋เฟิงยืนอย่างสุขุมจ้องมองไปยังฉู่เทียน"เจ้าเองดูเหมือนจะพอมีความสามารถอยู่บ้าง,หากไม่ลบหลู่ตระกูลฉู่,ท้ายที่สุดเจ้าย่อมได้รับโอกาสที่ดี,หลังจากจบการแข่งขัน,ตระกูลฉู่คงมอบโอกาสให้เจ้า,ได้ถวายตัวต่อตระกูลฉู่,หรือหากเจ้ากลับตัวตอนนี้ล่ะก็,ข้าจะขอให้ท่านประมุข,ยกโทษตายให้กับเจ้าได้!"

"คนตระกูลฉู่มีคนมากเกินไปแล้ว,มีลิ่วล่อมากเกินไปย่อมไม่สามารถเป็นคนสำคัญได้."ในเวลาเดียวกัน,ลวอจินซีก็กล่าวออกมาเช่นกัน"เอาเป็นว่าตระกูลลวอจะจ้างเจ้าเป็นไง,ข้าจะแนะนำการฝึกฝนให้เจ้าเป็นการส่วนตัวเลย,เจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?"

เย่เหินที่ยังคงยืนอยู่อย่างสุขุมแค่นเสียงอย่างเย็นชาราวกับจะชอนไชผ่านเข้าไปในจิตวิญญาณเป็นคลื่นกระแทกอากาศออกไป,"มีเพียงถวายชีวิตให้กับตระกูลเย่เท่านั้น,เจ้าไม่มีทางเลือกอื่น!ไม่เช่นนั้น,ข้าไม่ปล่อยเจ้ามีชีวิตลงไปจากเวทีการแข่งขันได้แน่!"

บางทีคนทั่วไปคงจะไม่รู้จักฉู่เทียนเป็นแน่.

ทว่าเหล่าตระกูลใหญ่เอง,ก็ย่อมมีการตรวจสอบเขาเรียบร้อยแล้ว.

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้สถานะที่แท้จริงของฉู่เทียน,ทว่าก็น่าจะมีใครได้ยินข่าวลือมาบ้างว่าเขาเป็นคนที่รอดมาจากการฟันของฉู่ซิงเหอโดยที่ไม่ตาย,และยังมีคนรับรู้ด้วยว่าเขานั้นมีความสัมพันธ์กับห้องเรียนกิเลนอีกด้วย.

คนผู้นี้มีคุณค่าที่จะนำมาใช้งานนั่นเอง.

"ฮี่ ฮ่า ฮา ฮ่า!"หนานกงหยุนที่หัวเราะท้องแข็ง"ท่านนี้ช่างเป็นที่นิยมจริงๆ!มันทำให้รู้สึกอิจฉาจริงๆ!"

"ก็มันไม่มีทางล่ะนะ,ข้าที่โดดเด่นและหล่อเหลา,ไม่ว่าอย่างไรมันคงจะซ่อนไม่มิด!"

ฉู่เทียนที่หัวเราะและกล่าวออกมาพร้อมกัน.

เหล่านายน้อยทั้งสามถึงกับโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที.

เจ้าคนบัดซบ!,คาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่เห็นพวกเขาทั้งสามอยู่ในสายตาเลย!

ในเวลาเดียวกัน.

"เริ่มแข่งได้!"


เสียงของระฆังทองที่ดังก้องกังวาน,สั่นสะท้านไปทั่วสนาม บ่งบอกได้ว่าการแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น:

  1. พี่ฉู่ตบสี่เกรียนพร้อมกันเลยไหม เฟิง เย่ ลอว และฉู่

    ตอบลบ