Miracle Throne Chapter 154 Blue luan getting a light from another light phoenix
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 154 หงส์มรกต ปะทะ หงส์เพลิง
บทที่ 154 หงส์มรกต ปะทะ หงส์เพลิง
เซี่ยงหู่,หลินมู่และฟางหาน,พวกเขาต่างก็พ่ายแพ้ไปแล้ว,กลุ่มของเขาตอนนี้ยังเหลือฉู่เทียน,เฟิงไฉ่เตี๋ยและเฟิงชิงหยุนรวมทั้งหมดสามคน,ในเวลาเดียวกันการแข่งขันของฉู่เทียนก็มาถึงอีกรอบ.
"สนามที่ 3 ,หยุนเซียวปะทะลูเร็น!"
อะไรนะ?
หยุนเซียว?
ฉู่เทียนแทบจะไร้คำพูดไปเลย!
หยุนเซียวที่สามารถผ่านมาได้สองรอบสบายๆตอนนี้แทบจะหมดสติไปกับที่,มารดามันเถอะ,มันจะโชคร้ายอะไรปานนั้น,ขนาดดื่มน้ำเปล่ายังติดคอเลย,ใครมันจะไปสู้อาจารย์ได้ล่ะ.
หยุนเซียวแทบจะไม่คิดสู้เลยแม้แต่น้อยเขายกมือขึ้นในทันที.
"ข้า,ข้ายอมแพ้!"
เหล่าผู้ชมรอบๆทันใดนั้นต่างส่งเสียงอื้ออึ้งขึ้นมา!
ทำบ้าอะไรลงไปนั่น?
จะดีจะร้ายหยุนเซียวเองก็เป็นคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงไม่น้อย,ถึงเขาจะเพิ่งพัฒนาและมีชื่อเสียงขึ้นมาเมื่อเร็วๆนี้ก็ตาม,ทว่าด้วยทักษะสามมีดบินสายฟ้าของเขาแล้ว,ถึงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปลุกดวงจิตระดับสาม,ยังยากที่จะต้านทานได้เลย.
ท้ายที่สุดผลที่ออกมา.
ชายคนนี้กลับยังไม่สู้เลยแม้แต่น้อยกลับยอมแพ้อย่างง่ายดาย!
"ไอ้บัดซบ!"
"เจ้าคนขี้ขลาด!"
"ข้าเดิมพันเจ้าไปเท่าไหร่ไม่รู้รึไง!"
เหล่าคนที่อยู่รอบๆต่างสาปแช่งและตำหนิเขาอย่างรุนแรง.
หยุนเซียวที่เผยยิ้มออกไปอย่างเหยียดหยัน,เจ้าพวกโง่ไม่เข้าใจอะไรซะเลย!
หยุนเทียนเหอที่เห็นเหตุการณ์เองก็ได้แต่ส่ายหน้า,แน่นอนว่าเขาไม่ได้ตำหนิอะไรเขาเช่นกัน!
หยุนเซียวที่ก้าวลงเวทีอย่างช้าๆก่อนที่จะหันมาพูดกับฉู่เทียน"เจ้านาย,ข้าไม่ลังเลยเลยที่จะช่วยท่านซ่อนความแข็งแกร่งเอาไว้,ทว่าข้าเองก็เสียหน้าไม่น้อยเลย,ท่านจะต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับหัวใจน้อยๆของข้าที่เสียไปนะ."
"เพ่ย,เจ้าเสียหน้าตรงใหนกัน?"ฉู่เทียนที่
ว่ากล่าวออกมา"ปรกติหน้าของเจ้ามันก็หนากว่าความแข็งแกร่งของเจ้าอยู่แล้ว?"
หยุนเซียวยังไม่ทันได้กล่าวโต้แย้งก็ได้ยินเสียงประกาศออกมาว่า"สนามที่หนึ่ง,เฟิงไฉ่เตี๋ยพบกับหนานกงหยุน!"
เฟิงไฉ่เตี๋ย กับ หนานกงหยุนอย่างงั้นรึ?
หยุนเซียวถึงกับดวงตาเป็นประกาย"ต้าเจี๋ยกำลังจะแข่งแล้ว!เจ้านาย,พวกเขารีบไปดูเถอะ!"
เฟิงไฉ่เตี๋ยและหนานกงหยุนทั้งคู่ต่างก็เป็นสุดยอดพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยมด้วยกันทั้งคู่.
พวกเขาทั้งคู่ต่างก็มีพลังฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ
2
ขั้นปลายด้วยกันทั้งคู่,และทั้งคู่ต่างก็ขึ้นชื่อลือชาในทักษะที่มีพลังทำลายและเป็นสตรีที่มีเสน่ห์และยังมีอายุ
19
ปีเท่ากันอีกต่างหาก,การแข่งขันในครั้งนี้ต่างก็กระตุ้นความสนใจต่อคนเป็นจำนวนมาก.
เฟิงไฉ่เตี๋ยที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับเส้นปราณพิการที่ดังกระฉ่อนไปทั่วรัฐกลางมานานแล้ว,อย่างไรก็ตาม,ก่อนหน้านี้ไม่นาน,เฟิงไฉ่เตี๋ยกับเปลี่ยนเป็นคนล่ะคน,พลังฝึกตนเองก็ก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว,จนมีระดับปลุกดวงจิตระดับ
2 ทำให้เกิดเสียงพูดคุยเรื่องดังกล่าวนี้ไปทั่วรัฐกลาง.
บิดาของนางก็คือโหวเย่ว์วายุเทพ เฟิงหยุนเทียน!
ทุกคนทั่วทั้งรัฐกลางนั้นต่างก็รู้ดีว่าเฟิงหยุนเทียนนั้นดูแลบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ราวกับสมบัติวิเศษ,ตั้งแต่แรกแล้ว
ถึงเขาจะรู้ว่าเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นจะมีเส้นปราณพิการมาตั้งแต่กำเนิด,ทว่าก็ไม่ลังเลเลยที่จะใช้ยาทิพย์มากมายเพื่อที่จะหล่อเลี้ยงเส้นปราณของนาง,ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถช่วยเพิ่มพลังฝึกตนของนางได้ไม่มากนัก,แต่ก็ยังสอนวิชาต่างๆให้นางอย่างดีที่สุด.
หลังจากที่ร่างกายของเฟิงไฉ่เตี๋ยกลับมาเหมือนเดิม,ทันใดนั้นก็สามารถปลุกภูติวิญญาณหงส์มรกตขึ้นมาได้ด้วย,พลังวิญญาณมากมายที่ถูกสะสมเอาไว้หลายปี,ทำให้ความแข็งแกร่งพลังฝึกตนของนางก้าวกระโดดขึ้นมาในทันที,หลังจากที่ต้องพบกับคืนวันที่มืดมนมานานนับปี,ท้ายที่สุดแล้วดอกไม้ดังกล่าวก็สามารถบานได้ในที่สุด,พร้อมกับเปล่งประกายเฉิดฉายต่อหน้าผู้คนมามายในตอนนี้.
นางที่ยังไปไม่ถึงระดับปลุกดวงจิตระดับ 3
หากแต่ทักษะที่นางมีก็เพียงพอที่จะต่อกรกับลวอจินซีได้อย่างสูสีแน่นอน!
ดังนั้นเฟิงไฉ่เตี๋ยจึงเป็นอีกคนหนึ่งที่มีศักยภาพที่สูงล้ำที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้.
ส่วนอีกคนหนานกงหยุนนั้นคนไม่ค่อยรู้จักนางมากนัก,รู้เพียงว่านางคืออันดับหนึ่งของลานประลองวิหกสีชาด,เป็นคนที่แข่งแก่งที่สุดในหมู่นักเรียนใหม่และมีข่าวลือว่านางได้ยืนให้หยุนเซียวใช้สามใบมีดอสนีฟันลงมาโดยที่ไม่เคลื่อนไหวเลย,เป็นพลังความแข็งแกร่งสายฟ้าที่รุนแรงที่ทุกคนไม่สามารถที่จะต้านทานได้.หากแต่กับไม่มีผลต่อนาง!
และที่สำคัญที่สุดที่พวกเขารู้.
หนานกงหยุนมีภูติวิญญาณหงส์เพลิง,เป็นภูติวิญญาณระดับพระเจ้า,เป็นภูติวิญญาณทีทรงพลัง,และสถานะของนางเองก็ไม่ต่ำเลย.
นางที่เป็นคนจากตระกูลหนานกง
หนึ่งในสามตระกูลใหญ่ระดับอาณาจักรแห่งนี้,และวิชา <<เพลิงผลาญสวรรค์>>ของตระกูลหนานกงก็เป็นหนึ่งในวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรหนานเซียแห่งนี้อีกด้วย.
ด้วยสิ่งที่พวกเขารุ้มาแม้จะไม่มากนัก,แน่นอนว่าไม่มีใครกล้าประเมินหนานกงหยุนต่ำอย่างแน่นอน!
การแข่งขันในครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันที่น่าสนใจที่สุดของการแข่งขันหนึ่งเลยทีเดียว!
พวกนางทั้งคู่ต่างก็เหินขึ้นมาบนเวทีแล้ว.
หนานกงหยุนที่มาในอาภรณ์สีแดงเพลิง,เสื้อผ้าที่รัดติ้ววาบหวิว,ทำให้นางดูร้อนแรงเป็นอย่างมาก,ท่อนขายาวลายตาข่ายเผยให้เห็นต้นขาวเนียนงามราวหยกสลัก,แขนที่เพรียวบางประณีต,ราวกับ
ใยสีขาวอันบริสุทธิ์ที่อยู่ข้างในรากบัว,หน้าอกที่ถูกรัดแน่นให้ชี้เด่ออกมา,ขนาดมหึมาแทบจะไม่สมส่วนกับร่างกายของนางเลย,ใหญ่โตมโหฬารล้นเสื้อผ้าจนสามารถมองเห็นข้างในเลือนลาง,ผมตรงยาวสีแดงถักเปียและบางส่วนที่กำลังโบกสะบัดร่ายรำไปมากับสายลมที่โกรกเข้ามาปัดป่ายใบหน้าของนางเล็กน้อย,ร่างกายที่สมส่วนร้อนแรงดั่งเพลิงบรรลัยกรร,เป็นหญิงสาวที่สวยดุเป็นอย่างมาก.
ส่วนเฟิงไฉ่เตี๋ยที่ดูสวยสง่าที่สวมชุดผ้าแพรคลุมยาว,รัดรูปร่างของนางเข้ากันให้กระชับ,เสื้อผ้าของนางนั้นเป็นผ้าไหมปักมีลวดลายที่ประณีตทำให้ความงามของนางราวกับองค์หญิงผู้สูงศักดิ์,ผมที่ยาวสลวยปะบ่าทิ้งสลวยไปด้านหลังราวกับน้ำตกที่งดงาม,ทรวดทรงองเอวที่เพรียวสมส่วน,ใบหน้าที่งดงามเต็มไปด้วยรอยยิ้มไม่มีความเย็นชาแฝงอยู่เลยเต็มไปด้วยความอบอุ่นราวกับแสงแดงที่สาดส่องลงมาในฤดูหนาว,ดู่อ่อนโยนน่าทนุถนอม,ดูเป็นมิตรต่อทุกคนเหมือนองค์หญิงที่สูงศักดิ์.
งดงามยิ่งนัก!
เป็นความงามที่ไม่สามารถวางตาได้เลย!
หญิงงามระดับต้นๆทั้งสองและสุดยอดผู้เข้าแข่งขันระดับสุดยอด!
เฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นตระหนักได้ดีว่าหนานกงหยุนนั้นน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,ดังนั้นนางไม่สามารถที่จะประมาทได้เลยแม้แต่น้อย,กระบี่วิเศษที่อยู่ที่เอวด้านขวาของนาง,มันส่องประกายแสงออกมาทุกครั้งที่นางกำลังชักออกมาจากฝัก.
ทันทีที่กระบี่ถูกชักออกมาทั้งหมด.
เกิดพายุหมุน ที่กำลังหมุนวนกระจายไปทั่วทั้งสนามการแข่งขัน.
"กระบี่วิเศษ,เทพวายุ!"
"นี่คือกระบี่เทพวายุ
อาวุธประจำตัวของโหวเย่ววายุเทพ"
"นี่คือศาสตราวิญญาณชั้นยอดอีกครึ่งก้าวก็จะมีเชาว์ปัญญาเป็นของตัวเองแล้ว!"
ประมุขสี่ตระกูลใหญ่ถึงกับตื่นตะลึงรวมทั้งท่านเจ้าเมืองด้วย,เมื่อเห็นกระบี่ดังกล่าว
ซึ่งนั่นคืออาวุธของโหวเย่วเฟิงหยุนเทียนที่เคยใช้เมื่อตอนหนุ่มๆ,มันเป็นอาวุธที่มีชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วทั้งอาณาจักรแห่งนี้ทีเดียว,สามารถที่จะสังหารสัตว์อสูรวิญญาณระดับหัวหน้าได้เลย.
โหวเย่ว์วายุเทพถึงกับส่งมอบอาวุธประจำกายให้กับบุตรสาวของตนเอง!
ฉู่เทียนที่จับจ้องไปยังกระบี่เทพวายุ,แอบที่จะตกใจไม่น้อย,นี่คืออาวุธระดับปฐพี,กระบี่อเวจีเองก็สามารถเทียบได้รับกระบี่เทพวายุพวกมันเป็นศาสตราวิญญาณระดับสูงที่สามารถสื่อดวงจิตได้,อย่างไรก็ตามเนื่องด้วยกระบี่อเวจีของเขาตอนนี้ถูกเก็บเอาไว้นานจนเกินไป,ดังนั้นจิตวิญญาณของมันจึงได้อ่อนแอ,ถึงแม้ว่าจะได้รับพลังจากศิลาธาตุแห่งชีวิตมาบ้างแล้ว,หากแต่ก็ไม่สามารถที่จะคืนชีพให้มันก้าวไปยังระดับสุดยอดได้,ดังนั้นมันจึงไม่ได้ไร้เทียมทานเหมือนเมื่อครั้งแรก.
กระบี่เทพวายุเล่มนี้ต้องไม่ด้อยไปกว่ากระบี่อเวจีของเขาแน่นอน!
ขณะที่เฟิงไฉ่เตี๋ยมีพลังอยู่ในระดับปรุงร่างนั้น,นางได้ใช้ศาสตราวิญญาณระดับสูงกระบี่วารีหลั่งไหล่,ในเวลานั้นไม่ใช่ว่าโห่วเย่ว์วายุเทพไม่ได้ต้องการให้นางใช้อาวุธดีๆ,ทว่าด้วยความแข็งแกร่งของเฟิงไฉ่เตี๋ยในตอนนั้น,ถึงแม้ว่าจะมีศาสตราวิญญาณชั้นยอด,ก็ไม่สามารถที่จะแสดงพลังที่แข็งแกร่งออกมาได้.
ตอนนี้เขาสามารถที่จะมอบศาสตราวิญญาณชั้นยอดกระบี่เทพวายุให้นาง,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างมาก.
โหวเย่ว์คงหวังว่าบุตรสาวตนเองคงจะสามารถสืบทอดพลังทั้งหมดของเขาไปได้!
"!ผู้หญิงนางนี้ช่างน่าไม่อายเลย!"หยุนเซียวที่อดรนทนไม่ได้กล่าวออกมา"ใช้กระบี่วิเศษหาได้ใช้ฝีมือตัวเอง!เช่นนี้มันก็ไม่ยุติธรรมก็ต้าเจี๋ยนะสิ!"
"เหลวไหลน่า!"ฉู่เทียนที่เคาะไปที่หัวของหยุนเซียว,"อาวุธก็ถือเป็นความแข็งแกร่งอย่างหนึ่ง!เจ้าคงจะไม่กล่าวว่าข้าใช้กระบี่อเวจีรังแกเจ้า,แล้วบอกว่าไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ได้เหมือนกันใช่ใหม?"
เฟิงไฉ่เตี่ยที่กุมกระบี่วิเศษ,พร้อมกับยกมือคารวะผสานมือไปข้างหน้าต่อหนานกงหยุนด้วยกิริยาเรียบร้อย"แม่นางหนานกง,ชี้แนะด้วย!"
หนานกงหยุนเม้มริมฝีปาก,ก่อนที่จะกล่าวออกมาราวกับเป็นอันธพาล"เจ้าเข้ามาได้เลย!ข้าเกรงว่าจะลงมือหนักไปหน่อย,จนทำให้บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของโหวเย่ว์วายุเทพบาดเจ็บ!"
เฟิงไฉ่เตี๋ยยังคงแสดงกริยางาม,เผยยิ้มออกมาอย่างนุ่มนวลไม่ได้โกรธแต่อย่างใด"งั้นข้าไม่เกรงใจ,แม่นางหนานกงระวังตัวด้วย!"
เสียงวิหกคำราม!
ผืนปฐพีถึงกับสั่นสะเทือน!
หงส์มรกตที่ถูกปลดปล่อยออกมา,ก่อให้เกิดแรงพายุลมกรดที่รุนแรงเกิดขึ้น!
การแข่งขันในครั้งนี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายที่ทรงพลังและหนักหน่วง.
หงส์มรกตนั้นเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถสร้างลมได้,ดังนั้นไฉ่เตี๋ยที่มีพลังวิญญาณธาตุลม,นั่นก็เป็นเพราะว่าสืบสายโลหิตมาจากโหวเย่ว์วายุเทพ,เพราะว่าภูติวิญญาณคุณสมบัติธาตุวายุทำให้นางมีทักษะลอยอยู่บนอากาศได้,นางที่โผขึ้นไปบนอากาศรวมร่างเข้ากับภูติวิญญาณหงส์มรกต.
กระบี่เทพวายุที่ตวัดไปมา.
กระบี่ที่ส่องประกายสีเขียวส่องแสงลุกโชตช่วง,พร้อมกับควบรวมพลังก่อให้เกิดพายุใหญ่ขึ้นมา,เสียงกระบี่ที่ขับขานเสียงวิหกคำรามออกมาเสียงดังสนั่น,ทำให้ดูอลังการน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก.
"นี่คือ <<เพลงกระบี่วายุสลายมวลเมฆา >>!"
"นี่เป็นทักษะต่อสู้เฉพาะของโหวเย่ว์วายุเทพเลย!"
ตระกูลฉู่ทุกคนล้วนแล้วแต่ฝึกเพลงกระบี่,เมื่อเห็นเพลงกระบี่ที่ไม่เคยเห็น,แน่นอนว่าพวกเขานั้นอดไม่ได้เลยที่จะจับจ้องมองไม่วางตาด้วยความสนใจ,แม้แต่ฉู่ซิงเหอถึงกับขมวดคิ้วไปมา,เห็นได้อย่างชัดเจนนี้คือวิชากระบี่ที่มีคุณสมบัติพลังธาตุแบบพิเศษ.
"งดงามน่าสนใจแต่ไร้แก่นสาร!"
หนานกงหยุนที่ไม่เร่งไม่รีบ,นางยังคงมีความมั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก,เมื่อเห็นวิชาของเฟิงไฉ่เตี๋ยที่รวบรวมพลังจนไปถึงขีดสุด,ในที่สุดนางก็เริ่มแสดงฝีมือเช่นกัน.
พลังวิญญาณสีแดงที่ลุกเป็นไฟถูกยิ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า.
ราวกับเปลวเพลิงที่โหมกระหน่ำพวยพุ่งทะลวงขึ้นไปบนท้องฟ้า!
เสียงคำรามของหงส์เพลิงที่สั่นสะท้านก้องกังวานไปทั่วท้องฟ้า,เปลวเพลิงที่รุนแรงหนักหน่วงกำลังเผาใหม้อยู่กลางอากาศทั่วทั้งสนามตอนนี้ถูกแสงสีแดงจากการเผาไหม้ปกคลุมไปจนทั่ว,ความร้อนมหาศาลจนทำให้หมู่มวลเมฆาถึงกับระเหยกลายเป็นอากาศ!
"เป็นพลังวิญญาณที่หนักหน่วงน่าหวาดกลัวยิ่งนัก!"
"พลังวิญญาณของหนานกงหยุน,อย่างน้อยน่าจะทรงพลังยิ่งกว่าคนทั่วไปถึงสามเท่า!"
"นี่เป็นความน่ากลัวของพลังผู้ครอบครองภูติวิญญาณหงส์เพลิงอย่างงั้นรึ?
ใบหน้าของประมุขของสี่ตระกูลใหญ่ถึงกับเปลี่ยนเป็นจริงจัง.
สีหน้าของเฟิงหยุนเทียนถึงกับแสดงท่าทางสนใจเลยทีเดียว.
พลังฝึกตนของเฟิงไฉ่เตี๋ยและหนานกงหยุนนั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย,ความหนาแน่นและศักยภาพของภูติวิญญาณดูเหมือนว่าเฟิงไฉ่เตี๋ยจะด้อยกว่าหนานกงหยุน.
ต้องไม่ลืมว่าหงส์มรกตนั้นไม่สามารถเทียบกับหงส์เพลิงได้.
พลังวิญญาณของหงส์มรกตนั้นไม่ได้มีความหนาแน่มากมายนัก.
ประกายแสงสีเขียวที่หงส์มรกตเปล่งแสงออกมา,เป็นประกายแสงที่เพิ่งตื่นขึ้นมายังไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ,แน่นอนว่านี้คือสัตว์อสูรเทพโบราณ,อย่างไรก็ตามถึงหงส์มรกตและหงส์เพลิงจะเป็นอสูรศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองตน,หากแต่ก็มีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก.
ภูติวิญญาณหงส์มรกตของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าภูติกระบี่มังกรวารีสีทองของฉู่ซิงเหอเลย!
หากแต่หงส์เพลิงคือภูติวิญญาณที่ยอดเยี่ยมกว่าก็เท่านั้นเอง!
แม้ว่าภูติวิญญาณตอนนี้จะมีความแข็งแกร่งเพียงแค่ครึ่งเดียว,ทว่าเพียงเท่านี้ก็เพิ่มพลังความแข็งแกร่งและความหนาแน่นทางพลังวิญญาณขึ้นมาได้อย่างมหาศาล,หนานกงหยุนที่มีภูติวิญญาณที่ทรงพลังเช่นนี้,ก็ยิ่งทำให้นางแข็งแกร่ง,อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่านางจะไม่มีภูติวิญญาณ,นางตอนนี้ก็หาได้อ่อนแอแต่อย่างใด!
หงส์มรกต,หงส์เพลิง,พลังวิญญาณที่รุนแรงหนักหน่วงกำลังแบ่งครึ่งสนามการแข่งขันแยกออกเป็นสองส่วน.
นับตั้งแต่กระบวนท่าแรกแล้วนางก็เตรียมพร้อม,ด้วยศาสตราวิญญาณชั้นยอด,แน่นอนว่าย่อมทำให้นางได้เปรียบอยู่ไม่น้อย.
"ลิ้มลองหมัดของข้าดูหน่อยเป็นไง!"
ผมสีแดงของหนานกงหยุนที่ร่ายรำไปกับสายลมที่โกรกหน้านางเข้ามาก,หมัดของนางนั้นราวกับฆ้อนขนาดมหึมาที่ฟาดอกไปอย่างรุนแรง,คลื่นกระแทกที่หนักหน่วงรุนแรงถึงกับทำให้โล่พลังวิญญาณของเฟิงไฉ่เตี๋ยแตกกระจายออกเป็นไปหลายส่วนก่อนที่เฟิงไฉ่เตี่ยจะสร้างมันขึ้นมาใหม่ในทันที.
ลานประลองถึงกับสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง.
ร่างของเฟิงไฉ่เตี๋ยถึงกับสั่นสะท้านทีเดียว,นางประมาทพลังโจมตีที่ทรงพลังของหนานกงหยุนไปจริงๆ,หากว่าหนานกงหยุนเข้ามาใกล้นางกว่านี้ล่ะก็,นางคงไม่มีความสามารถที่จะป้องกันได้แน่!
"เทพวายุเก้าสวรรค์,ขอยืมพลังของเจ้า,จงสถิตที่กระบี่,ปลดปล่อยพลังที่สั่นสะเทือนสวรรค์ด้วย!"
นี่คือการสื่อสารกับกระบี่เทพวายุอย่างหนึ่ง
พลังวิญญาณสีเขียวที่กำลังแปรเลี่ยนเป็นปราณกระบี่มากมายหลายสาย.
ปราณกระบี่สีเขียวหลายสิบสายที่หมุนวนไปมา,จนสามารถมองเห็นเป็นคมมีดที่โก่งโค้งสีเขียวส่องแสงวับวาว,พร้อมกับกำลังหมุนวนล้อมรอบร่างของเฟิงไฉ่เตี๋ย,ทำให้ความเร็วของนางนั้นเพิ่มขึ้นมากมายจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า,พร้อมกับเสียงลมที่หวีดหวิวดังระงมแสบแก้วหู.
นี่คือเพลงกระบี่ วายุแหวกมวลเมฆา
ในตำนานอย่างงั้นรึ?
แม้แต่มือกระบี่ตระกูลฉู่ยังอดตื่นตกใจไม่ได้ในตอนนี้,พวกเขาไม่เคยเห็นเพลงกระบี่เช่นนี้มาก่อนเลย,สามารถที่จะสร้างปราณกระบี่ขึ้นมามากมายพร้อมกับยังรวบรวมและควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์เช่นนี้ได้อีก,หากว่าต้องการสังหารศัตรูล่ะก็,แน่นอนว่าคงจะแค่เพียงลมหายใจเดียวเท่านั้น.
สามารถที่จะโจมตีและป้องกันร่างกายตัวเองไปพร้อมกัน!
นี่คือเพลงกระบี่ทำลายล้างอย่างเห็นได้ชัดเจน!
เฟิงไฉ่เตี๋ยที่ประเมินหนานกงหยุนต่ำเกินไป,ทว่าหนานกงหยุนเองก็มั่นใจจนเกินไป!
นางไม่ควรที่จะปล่อยให้เฟิงไฉ่เตี๋ยแสดงเพลงกระบี่
<<เพลงกระบี่วายุสลายมวลเมฆา >>
จนมันทรงพลังและสมบูรณ์,ด้วยปราณกระบี่ที่ทรงพลังและกระบี่เทพวายุที่ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวทำให้นางทรงพลังขึ้นมาอีกหลายเท่า.
กระบวนท่าที่ทรงพลังโจมตีลอยข้ามท้องฟ้าตัดผ่านเข้ามา,หนานกงหยุนจะสามารถต้านทานได้หรือไม่?
ตอนนี้ทุกคนเริ่มเป็นกังวลแทนหนานกงหยุนแล้ว.
หนานกงหยุนที่หลับตาแน่น,ไม่คิดที่จะหยุดการโจมตี,ยังคงลอยออกไปราวกับลูกธนู,พุ่งตรงไปยังพายุปราณกระบี่ของเฟิงไฉ่เตี๋ย,ประกายแสงดวงดาราที่ปรากฏล้อมรอบตัวนางพร้อมกับเข้าปะทะกับพายุปราณกระบี่,เกราะป้องกันประกายแสงดวงดาราที่เหมือนจะร้าว,ทว่าก็ไม่แตกออก.
"เอ๊ะ?"
"นี่มันวิชาบำเพ็ญป้องกันของน้องลู่นี่นา!"
เฟิงไฉ่เตี๋ยที่ใช้วิชาป้องกันที่เหมือนกับของลูเร็น,เป็นไปได้ว่าหนานกงหยุนและลูเร็นจะมาจากสถานที่เดียวกัน,ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะมีวิชาบำเพ็ญที่เหมือนกันได้อย่างไร?
วิชาบำเพ็ญสายป้องกันวิชานี้ทรงพลังและแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก!
ก่อนหน้านี้ที่ลูเร็นสามารถสังหารผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตได้ด้วยพลังปรุงร่างระดับ
9 เท่านั้น,นั่นก็เพราะอาศัยพลังป้องกันที่ร้ายกายของวิชาดังกล่าวนี้นั่นเอง!
เฟิงไฉ่เตี๋ยก่อนหน้านี้นางเองก็เป็นกังวลว่า
<<เพลงกระบี่วายุสลายมวลเมฆา >>ของนางนั้นจะทรงพลังเกินไปจนทำให้หนานกงหยุนบาดเจ็บถึงชีวิตได้,ตอนนี้นางไม่จำเป็นต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว.
นางสามารถที่จะปล่อยพลังเต็มที่ได้!
ปราณกระบี่สีเขียวที่ถูกปลดปล่อยออกมาเพิ่มหมุนวนร่างกายของนางกลายเป็นพายุหมุนที่รุนแรงกว่าเดิมอีก.
หนานกงหยุนปลดปล่อยพลังวิญญาณของนางออกมาทันทีทันใด,ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังระเบิดออกมา,คลุมไปทั่วร่าง"หมัดเพลิงผลาญสวรรค์!"
พลังที่รุนแรงทั้งสองเข้าปะทะกัน.
หนานกงหยุนที่เร่งพลังของนางก่อนที่จะต่อยออกไปยังปราณกระบี่เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว!
เหล่าคนที่จ้องมองต่างเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง!
สตรีทั้งสองช่างร้ายกาจกันจริงๆ!
คาดไม่ถึงเลยว่านางจะสามารถต้านทานปราณกระบี่เทพวายุด้วยพลังหมัดอย่างเดียว,เป็นการโจมตีที่บ้าคลั่งรุนแรงจนน่าสะพรึงกลัว,แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ
3 ยังไม่กล้าที่จะปล่อยหมัดเปล่าๆเขาโจมตีปราณกระบี่เช่นนี้เลย.
เพียงแต่ว่า!
ปราณกระบี่ดังกล่าวนี้ได้ถูกปล่อยออกมาเป็นจำนวนมาก!
พลังโจมตีของนางไม่มีทางที่จะทำลายปราณกระบี่ทั้งหมดได้!
หมัดของหนานกงหยุนเองทำลายปราณกระบี่ไปเป็นจำนวนมากทีเดียว,แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อยที่โจมตีฟาดมายังร่างของหนานกงหยุน,ส่งผลให้ความเร็วของนางลดลงไปไม่น้อย,พลังกายานิรันดรโอบแสงดาราเองก็เริ่มที่จะเป็นรอยร้าวมากขึ้นและก็มากขึ้น,แม้ความเร็วในการฟื้นฟูจะมีมากหากแต่ความเร็วในการโจมตีของฝ่ายตรงข้ามกลับมีมากกว่า.
ด้วยความเฉลียวฉลาดของเฟิงไฉ่เตี๋ย,ทำให้นางถอยห่างออกไปเป็นระยะก่อนที่จะโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็วเป็นจังหวะๆ.
ด้วยผู้ฝึกตนที่มีคุณสมบัติธาตุวายุทำให้นางมีความรวดเร็วเป็นอย่างมาก,หนานกงหยุนที่ต้องการเผด็จศึกย่อมไม่เป็นเรื่องที่ง่ายดายนัก,ลำพัง
<<เพลงกระบี่วายุสลายมวลเมฆา >>ยังช่วยเพิ่มความเร็วในการโต้ตอบของนางไม่ใช่วิชาที่อ่อนด้อยเลย.
ทุกคนตอนนี้ต่างจับจ้องมองไม่ว่างตา.
หนานกงหยุนที่ทรงพลังทั้งโจมตีและป้องกัน,ทว่าเมื่อร่างของหนานกงหยุนขยับเข้าใกล้,ร่างของเฟิงไฉ่เตี๋ยก็หายไปไกลแล้ว.
ความเร็วของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นรวดเร็วจนเกินไป,ความเร็วของนางนั้นเหนือกว่าหนานกงหยุนอยู่ไม่น้อย,นอกจากนี้
<<เพลงกระบี่วายุสลายมวลเมฆา >>ยังสามารถโจมตีระยะไกลได้อีกด้วย,ด้วยสนามแข่งที่มีจำกัด,ไม่ว่าหนานกงหยุนอยู่ตำแหน่งใหน,ก็อยู่ในระยะโจมตีของเฟิงไฉ่เตี๋ยทั้งหมด.
หนานกงหยุนตอนนี้ไม่สามารถที่จะกดดันเฟิงไฉ่เตี๋ยได้เลย.
ดังนั้นจึงกลายเป็นนางรับการโจมตีอยู่เพียงฝ่ายเดียว!
"หากว่ากายานิรันดร์โอบแสงดาราของนางถูกทำลายจนหมด!"ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อยพร้อมกับกล่าวออกไปว่า"หนานกงหยุนก็จะแพ้!"
"!แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ!"
หยุนเซียวที่กระวนกระวายใจเกาศีรษะไปมา,เพราะเขาไม่เคยสงสัยในสายตาของฉู่เทียนเลย,ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนขนาดฉู่เทียนเองก็รู้สึกว่าหนานกงอาจจะแพ้,นั่นเป็นเพราะพี่ใหญ่ของเขาโชคร้ายมากกว่าโชคดีนั่นเอง.
เฟิงชิงหยุนที่แค่นเสียงอยู่ในลำคอ.
สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความมืดมนและเย็นชา.
เหล่าประมุขทั้งสี่ตระกูลต่างก็พูดคุยกระซิบกันไปมา,ศักยภาพของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นทรงพลังยิ่งนัก,ในอีกไม่ช้า,สี่ต้าซือแห่งรัฐกลางแห่งนี้จะต้องกลายเป็นห้าต้าซือแห่งรัฐกลางอย่างแน่นอน.
สีหน้าของเจ้าเมืองเองรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย,กล่าวต่อเฟิงหยุนเทียนออกไปว่า"ท่านพี่,ไฉ่เตี๋ยพัฒนาก้าวกระโดดจนน่าพึงพอใจจริงๆ."ถึงเขาจะคิดเช่นนั้นหากแต่ก็มีแววตากังวลอยู่เหมือนกัน.
สีหน้าของเฟิงหยุนเทียนนั้นเต็มไปด้วยท่าทางมีความสุขเป็นอย่างมาก.
ทั้งหมดนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับเจ้าเด็กหนุ่มนั่นจริงๆ!
ตอนนี้แทบทุกคนต่างก็เชื่อว่าหนานกงหยุนจะต้องพ่ายแพ้ในไม่ช้า.
หนานกงหยุนรุ้สึกลำคาญใจอยู่ไม่น้อย,มารดาเถอะ,ไม่คิดมาก่อนเลยว่าหญิงสาวคุณหนูจะจัดการยากถึงเพียงนี้,หากรู้มาก่อนว่าจะเป็นเช่นนี้
ตั้งแต่เริ่มต้น,นางควรที่จะเร่งรีบปิดบัญชีจัดการนางให้จบๆไปซะ.
ตอนนี้.
หญิงสาวคนนี้รวดเร็วหลบหนีราวกับปิศาจ,นางจะไม่สามารถจับตัวคู่ต่อสู้คนนี้ได้จริงๆรึ?
หากว่าเป็นพื้นที่ปรกติล่ะก็นางคงจะโชคดีกว่านี้
ทว่าตอนนี้อยู่บนเวที,พื้นที่มีจำกัด,หนานกงหยุนจึงไม่สามารถที่จะหลบหลีกระยะโจมตีของเฟิงไฉ่เตี๋ยได้เลย,ซ้ำการโจมตีของนางรวดเร็วและรุนแรงไม่น้อย.
ถึงจะเป็นวิชากายานิรันดร์โอบแสงดารายังไม่สามารถฟื้นฟูพลังป้องกันได้ทันพลังทำลายของนางเลย.
นี่นางจะพ่ายแพ้จริงๆรึ?
เจ้านายของนางกำลังจ้องมองอยู่ด้านล่าง!
หากว่านางแพ้ล่ะก็,ไม่ต้องทำให้นางต้องขายหน้าเลยเหรอ!
ด้วยนิสัยที่แข็งกร้าวรุนแรงของหนานกงหยุน,นางไม่ยินยอมที่จะยอมแพ้กับคนเช่นนี้,นางต้องพ่ายแพ้ให้กับเฟิงไฉ่เตี๋ยที่ใช้แผนการได้อย่างไร.
ไม่
นางจะไม่ยอมแพ้,ถึงปลายสุดของภูเขาและแม้น้ำข้างหน้าจะไม่มีทางไปได้อีกแล้วก็ตาม.
ขอเพียงแค่กระบวนท่าเดียว!
แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีโอกาส,หากแต่เมื่อไหร่ที่นางมองเห็นล่ะก็นางจะต้องคว้ามันเอาไว้ให้ได้.
山穷水尽 ความหมายคือ
(shān qión shǔi jìn)ถึงปลายสุดของภูเขาและแม่น้ำซึ่งข้างหน้าจะไม่มีทางไปได้อีกแล้ว
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
เกราะจะแตกก่อน หรือจุดอ่อนฝ่ายตรงข้ามจะเผยมาให้เห็นก่อน ตามลุ้นกันไป
ตอบลบว่าแต่ทำไมพี่ฉู่ ไม่หาอาวุธดีๆ ถุงมือ หรือสนับอะไรเทือกนี้ให้เจ้ แกบ้างละนิ
ตอบลบปกติเป็นสาวโหดอยู่แล้ว อีกอย่างยังไม่ได้ทำสงครามระหว่างสี่ตระกูลใหญ่ก็คงยังไม่ให้ของใช้
ลบป.ล. สร้างของไม่ได้ด้วย ระดับยังต่ำอยู่