Miracle Throne Chapter 153 Login lion and cicatrice
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 153 ลอวจินซี และ เย่เหิน.
บทที่ 153 ลอวจินซี และ เย่เหิน.
ฉู่เทียนที่เดินลงมาจากเวที.
เซี่ยงหู่เองก็เต็มไปด้วยความหดหุ่เช่นกัน,ใบหน้าที่เศร้าสร้อยปรากฏเต็มใบหน้าของเขา.
เขาพ่ายแพ้ตั้งแต่รอบแรก!
เขาที่เป็นเพียงแค่ผู้ฝึกตนเร่ร่อนมาเกือบทั้งชีวิตและได้พบเข้ากับโชคที่ไม่มีใครเชื่อ,เขาที่ได้รับการยอมรับจากเฟิงหยุนเทียนให้กลายเป็นศิษย์พิเศษ,ทว่าเขาก็ยังเป็นเพียงแค่ศิษย์ในนาม.,ด้วยนิสัยที่แปลกประหลาดของโหวเย่ว์วายุเทพ,จะมาสอนเขาเป็นการส่วนตัวได้อย่างไร?เขาที่มอบเพียงแค่ยาทิพย์และวิชาบำเพ็ญให้และอนุญาตให้เขานั้นฝึกด้วยตัวคนเดียว,นอกจากนี้เวลาปรกติเขายังต้องทำงานทุกอย่างแทบจะตะเวนไปทั่วทั้งหุบเขาไม่ต่างจากคนรับใช้เลย.
ในรอบนี้นั้นคนส่วนมากมีพลังฝึกตนปลุกดวงจิตขั้นที่
2 หรือแม้แต่ระดับ 3 ก็มี,เซียงหูที่ได้เฟิงไฉ่เตี๋ยนำมาเป็นสมาชิกเท่านั้นจนมาถึงรอบนี้ได้,การที่เขาต้องพ่ายแพ้รอบแรกคงจะไม่ใช่เรื่องแปลก.
ฉู่เทียนที่ต้องการจะปลอบเซียงหู่ซักหน่อย,หากแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังก้องผ่านเข้ามาในหูของเขา.
"ทหารรับจ้างที่มีนามว่าหลินมูกำลังจะแย่แล้ว."
"รอบแรกเขาเจอกับลวอจินซีล่ะ!"
ฉู่เทียนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย.
สหายของเขาโชคร้ายขนาดนี้เลยรึ?
ในเวลาเดียวกัน,หลินมู่ที่ยืนอยู่บนเวทีที่ 2,คู่ต่อสู้ของเขานับว่าแข็งแกร่งทีเดียว,แม้ว่าอายุของเขาจะเพียงแค่ยี่สิบปีก็ตามที,หากแต่ใบหน้าที่มีหนวดเครารุงรัง,ทำให้เขาดูราวกับคนมีอายุสามสิบปีก็ไม่ปาน.
ชายผู้นี้ไม่ได้นำอาวุธขึ้นมาด้วยและยังแต่งตัวที่ธรรมดาเป็นอย่างมาก,กล้ามเนื้อที่หนาแน่นเป็นมัดๆเบียดนูนออกมาจากแขนทั้งสองข้าง,พร้อมกับมีรอยศักดิ์สีแดงปกคลุมไปทั่ว,ดูราวกับทหารที่ดุร้ายของเผ่าคนเถื่อน.
นี่คืออันดับหนึ่งของลานประลองเต่าทมิฬ,ลวอจินซี!
เขาคืออันดับสองรองจาก นายน้อยพยัคฆ์มังกร
ลวอเซียงหลงของตระกูลลวอ,ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด.
ราชสีห์ลวอจินซี
ที่ดูยิ่งใหญ่สง่างามจับจ้องมองไปยังทหารรับจ้างหลินมู,สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน"เป็นเพียงทหารรับจ้างสกปรก,เจ้าไม่คู่ควรจะต่อสู้กับข้า!ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ทำงานตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว! หอคอยฝึกฝนโบราณนั้นไม่ใช่สถานที่สำหรับขยะที่จะเข้าไปได้,เข้าใจใช่ใหม?ไสหัวไปให้พ้น!ไม่เช่นนั้นแล้วอย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!"
พลังฝึกตนของหลินมู่นั้นอยู่ในระดับ 2
ขั้นปลาย,
ส่วนลวอจินซีนั้นมีระดับปลุกดวงจิตระดับ 3
แล้ว.
ลวอจินซีเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญของลูกหลานตระกูลลวอที่ควรค่าที่จะฝึกฝน,ดังนั้นทรัพยากรที่เขาได้รับเองก็นับว่ามากมายทีเดียว,เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาคนธรรมดาทั่วไปมาเทียบได้,ทำให้แม้แต่คนที่มีพลังฝึกตนระดับเดียวกันกับเขายังไม่ใช่คู่ต่อกรกับเขาเลย!
หลินมู่ที่กล่าวไม่ยโสและไม่สุภาพ,"คนของตระกูลเย่เองก็เป็นทหารรับจ้าง,การที่ท่านกล่าวเช่นนี้,ไม่ใช่ว่าเป็นการกล่าวดูถูกทหารรับจ้างทั้งหมดเลยรึ?"
ด้วยการกล่าวเช่นนี้.
เหล่าคนของตระกูลเย่เองที่กำลังจ้องมองอยู่ถึงกับเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ทีเดียว.
"เจ้า..."ใบหน้าของลวอจินซีที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,"หุบปากเน่าๆของเจ้าซะ,คนเช่นเจ้าคือคนที่ข้าเกลียดที่สุด,วันนี้ข้าจะบดขยี้ปากของเจ้าซะ,เข้าจะไม่ให้เจ้าพูดได้อีก
ตลอดไป!"
หลินมู่ที่แสดงสีหน้าจริงจัง"ข้าเองก็ปรารถนาที่จะประลองกับคนตระกูลลวอด้วยเหมือนกัน!"
"แส่หาความตาย!ก็ดี!ข้าจะช่วยเจ้าเอง!"
ดวงตาของลวอจินซีที่จ้องมองตาเขม็งพร้อมกับคำรามเสียงดังลั่น,พลังวิญญาณระเบิดออกมาอย่างรุนแรงกลายเป็นราชสีห์ขนาดมหึมาสีทอง,เป็นราชสีห์ที่ตัวใหญ่มโหฬารยิ่งนัก,ทั่วทั้งร่างของมันนั้นราวกับว่าได้หลอมมาจากทองคำ,พลังของมันนั้นดูน่าเกรงขามดุร้ายเป็นอย่างมาก,ทำให้ทุกคนต่างก็จับจ้องมองด้วยความตื่นตะลึง.
ลวอจินซี!
เหมือนดังชื่อตัวเอง!
ภูติวิญญาณราชสีห์ทองคำ!
นี่คือสัตว์อสูรระดับสูงเป็นอย่างมาก,มันแข็งแกร่งขนาดสามารถล่าแมมมอสได้เลย,และยังสามารถฉีกมังกรบินและมังกรปฐพีได้อีกด้วย,พลังของมันนั้นไร้ขอบเขต,น่าสะพรึงกลัว,เมื่อเขาเรียกใช้ภูติวิญญาณราชสีห์ทองคำแล้ว,จะทำให้พลังและความเร็วของลวอจินซีนั้นเพิ่มขึ้นมามหาศาล,ความดุร้ายเองดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า,ด้วยทักษะวิชาบำเพ็ญการต่อสู้ระยะประชิดของตระกูลลวอด้วยแล้ว,นี่อาจจะเรียกว่าเครื่องจักรมนุษย์ที่ใช้สังหารก็เป็นได้!
แข็งแกร่งนัก!
สมแล้วที่เป็นอันดับหนึ่งของลานประลองเต่าทมิฬ!
เปรียบกับพรสวรรค์ของนานน้อยพยัคฆ์มังกรแล้ว,อาจจะห่างกันไม่มากนัก!
หลินมู่นั้นตระหนักได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,ทว่าเขาที่เป็นทหารรับจ้างหนุ่มไม่เคยหวาดกลัวคู่ต่อสู้พร้อมจะสู้แม้โลหิตเหลือหยดสุดท้าย,ลวอจินซีนั้นแข็งแกร่ง,แต่กระนั้นถึงจะเป็นสีต้าซือแห่งรัฐกลางที่เขาไม่สามารถต่อกรได้ก็ตาม,ในเมือยืนอยู่บนเวทีแล้ว,เขาจะต้องสู้จะให้ถอยได้อย่างไร?
"พรึบ!"
ขาและแขนของหลินมู่ที่ยืดยาวขยายออกมา,กลายเป็นต้นหลิวที่เติบโตขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง,เพียงแค่พริบตาเดียวก็มีความสูงหลายเมตรแล้ว,ทั่วทั้งร่างนั้นต่างปกคลุมด้วยกิ่งก้านที่เต็มไปด้วยสีเขียวมรกต,ราวกับเส้นผมที่บ้าคลั่งของเทพอสูร
"โอ้ว?เป็นภูติวิญญาณประเภทพืช!"
เหล่าประมุขทั้งสี่ตระกูลเองก็รู้สึกประหลาดใจ.
เป็นภูติวิญญาณที่หายากหากแต่ดูแล้วท่าทางอ่อนแอ,ไม่รู้ว่าเป็นภูติวิญญาณแบบใดเช่นกัน.
"แส่หาความตาย!"
ลวอจินซีที่พุ่งออกไปจากระยะไกลด้วยความรุนแรงราวกับแรดที่หลุดจากการควบคุม.
"หนามไม้ทิ่มแทง!"
ฝ่ามือของหลินมู่ที่ฟาดลงไปบนพื้นทันที.
ลวอจินซีที่สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่กำลังแผ่ลงไปใต้พื้น,ก่อนที่มันจะงอกขึ้นมา,กลายเป็นท่อนไม้พุ่งพรวดขึ้นมาบนพื้น,เขาที่สามารถหลบท่อนซุงเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว,ด้วยสัมผัสที่ยอดเยี่ยมและความเร็วที่คล่องแคล่ว,ลวอจินซีจึงสามารถหลบท่อนไม้ที่พุ่งขึ้นมาบนพื้นได้อย่างสบายๆ.
ในเวลาเดียวกัน.
"จับ!"
หลินมู่ที่ผสานมือทั้งสองข้างประกบเข้าหากัน,ก่อนที่จะมีวิญญาณร้ายมากมายโผล่ขึ้นมาบนแขนของเขา,มันพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า,ก่อนที่จะปกคลุมไปทั่วร่างของลวอจินซีและยึดแขนยึดขาทั้งสี่ของเขาเอาไว้,ขึงพรืดร่างของเขาลอยอยู่กลางอากาศในทันที.
คนอื่นๆต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.
หลินมู่ใช้ภูติวิญญาณของเขาโจมตีอย่างงั้นรึ?
ภูติวิญญาณเขตแดน
ดวงจิตเสมือนนั้นยังคงอ่อนแอเป็นอย่างมาก,ปรกติแล้วจะสามารถช่วยในการโจมตีได้เล็กน้อยเท่านั้น,ยิ่งภูติวิญญาณของหลินมู่นั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นระดับทั่วไป,กลับสามารถนำมาโจมตีเช่นนี้ได้ช่างคาดไม่ถึงจริงๆ!
วิชาบำเพ็ญของตระกูลลวอนั้นเป็นวิชาการต่อสู้ระยะประชิดเป็นหลัก,หากว่าเขาถูกผนึกการเคลื่อนไหวไว้บนอากาศเช่นนี้ล่ะก็ย่อมไม่มีโอกาสที่จะโจมตีได้แน่,เขาไม่มีทักษะการต่อสู้ระยะไกลที่ทรงพลังเลยนั่นเอง.
หลินมู่ที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.
กลิ่นอายแห่งความมืดที่คละคลุ้งไปทั่วอากาศ,ผิวกายของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำในทันที,คนทุกคนต่างก็จ้องมองตาค้าง,นี่จะต้องเป็นวิชาศาสตร์แห่งปิศาจที่ดุร้ายบางอย่างแน่.
ร่างของหลินมู่ที่กระโดดออกไปด้านหน้า.
ต้นหลิวมากมายหลายตนที่หมุนวนรอบๆร่างกายของเขาที่ถูกกระตุ้นให้ปล่อยการโจมตีออกไปยังร่างของลวอจินซีที่ลอยอยู่บนอากาศ.
ปัง!ปัง!ปัง!
เหล่าหอกที่แหลมคมจำนวนมากของต้นหลินยังคงถูกยิงออกไปยังร่างของลวอจินซีราวกับห่าฝน,ขณะที่ลวอจินซีนั้นได้รับความเจ็บปวดจากการโจมตีที่รุนแรงหนักหน่วง,พลังสีดำสนิทราวกับหมึกก็กระแทกไปยังร่างของลวอจินซี.
ร่างของลวอจินซีที่ถูกปกคลุมด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งก็อ่อนแอลงทันที.
หากว่าถูกโจมตีด้วยหมัดที่รุนแรงอีกหมัดย่อมจะทำให้ลวอจินซีได้รับบาดเจ็บหนักแน่นอน!
"เจ้าคิดจะใช้แต่ทักษะกระจอกเช่นนั้นอย่างงั้นรึ?"
ภูติวิญญาณราชสีห์ทองคำ
คำรามลั่น,พร้อมกับปล่อยคลื่นเสียงที่รุนแรงออกมา,พร้อมกับทำลายผนึกการเคลื่อนไหวของเขาในทันที.
"เจ้าต้องการที่จะเห็นวิชาบำเพ็ญของตระกูลลวออย่างงั้นรึ?,งั้นก็ดูให้ดีว่า
วิชาตระกูลลวอของข้านั้นร้ายกาจเพียงใด <<หมัดคู่พยัคฆ์ราชสีห์>>!"
หมัดซ้ายที่ปล่อยคลื่นวายุที่รุนแรงออกมาพร้อมกันกลายเป็นรูปร่างของศีรษะของราชสีห์,มันฉีกกระชากต้นหลิวที่อยู่รอบๆร่างของหลินมู่อย่างไม่คาดคิด,และยังโจมตีไปยังศาสตร์ปิศาจ,งับไปที่ร่างของหลินมู่.
"ตายไปซะ!"
หมัดขวาอีกหมัดของลวอจินซี,โผทะยานพุ่งออกไปด้วยพลังวิญญาณที่เข้มข้นกลายเป็นพยัคฆ์ตัวมหึมาพุ่งกระแทกหลินมู่ลอยออกไปกลางอากาศก่อนที่เขาจะหล่นลงมากองอยู่กับพื้น,ด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงทำให้ลานประลองตรงกลางถึงกับเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา.
เหมือนกับว่าได้ยินเสียงกระดูกของหลินมู่ทีลั่นแกร๊กๆทีเดียว.
พลังวิญญาณที่เป็นรูปร่างพยัคฆ์ยังคงคำรามลั่นตวัดออกไปอีกครั้ง.
หลินมู่ที่เป็นเหมือนกับว่าวสายป่านขาดลอยปลิวออกไป
หล่นลงไปยังข้างล่างเวทีการแข่งขัน.
ลอวจินซีไม่มีทางอภัยฝ่ายตรงข้ามแน่นอน,การโจมตีของเขานั้นหมายมั่นสังหารคนๆนี้ให้ตกตายไปอยู่แล้ว!
ชายหนุ่มทหารรับจ้าง,ไร้ซึ่งคนสนับสนุน,ไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง,การสังหารให้ตายไป,ยังนับว่าปราณีไปด้วยซ้ำ!
หากแต่ใครจะรู้ล่ะว่าหลินมู่ที่ตกลงไปบนพื้น,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถลุกขึ้นยืนได้,พร้อมกับปล่อยภูติวิญญาณตัวเองออกมาได้อีกครั้ง,นอกจากนี้ยังมีขามากมายปรากฏขึ้นมาอีกด้วย,ราวกับว่าเป็นรากไม้ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้น,มันกำลังขุดลงไปใต้พื้นดิน,พลังงานสีเขียวกำลังหมุนวนรอบๆร่างของเขาไม่หยุดหย่อน.
กิ กิ กิ กิ!
กระดูกที่แตกหักของเขากำลังฟื้นฟู!
อาการบาดเจ็บของเขานั้น,พริบตาเดียวก็หายไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว!
เฟิงหยุนเทียนที่จับจ้องมองออกไปค่อนข้างประหลาดใจไม่น้อย"ภูติวิญญาณของชายหนุ่มคนนั้น,มีความสามารถในการรักษาด้วย!"
ทักษะของภูติวิญญาณที่มีความสามารถในการรักษา.
เป็นภูติวิญญาณที่หายากเป็นอย่างมากทีเดียว!
หยุนเทียนเหอคิดใคร่ครวญท่าทางลังเลใจอยู่เล็กน้อย"บางที,ร่างกายของเขาอาจจะมีลักษณะพิเศษ,ภายในร่างกายอาจจะมีสายโลหิตที่พิเศษไหลเวียนอยู่,บางทีคงจะเป็นไปได้ว่าบรรพบุรุษของเขานั้นจะต้องมีเชื้อสายจากเอลฟมาสักรุ่นแน่นอน,ด้วยศักยภาพของชายหนุ่มคนนี้จึงดูไม่ธรรมดาเลย!"
ฉู่เทียนที่จ้องมองออกไปเช่นเดียวกัน.
สายโลหิตของหลินมูนั้นดูจะค่อนข้างพิเศษ,ร่างกายที่มีลักษณะพิเศษนั้น,น่าจะเป็นลักษณะพิเศษของเผ่าโบราณ,เขาต้องเป็นลูกหลานของเผ่าโบราณแน่นอน,แม้ว่าสายโลหิตที่สืบทอดมานั้นจะเจือจางไปมากแล้ว,ทว่าก็เห็นได้ว่าเขานั้นมีศักยภาพที่ดีทีเดียว.
หลินมู่ไม่ได้ใช้ทักษะดังกล่าวนี้ที่ค่ายวายุทมิฬ.
เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากที่ผ่านการต่อสู้ที่หนักหน่วงมาก,พลังของเขาก็ค่อยๆตื่นขึ้นมาทีละน้อยๆ,คุ้มค่าที่จะช่วยเหลือและฝึกฝน.
แม้ว่าเขาจะมีพลังที่เหลือพอที่จะสู้,หากแต่เขาก็พ่ายแพ้ตามกฏของการแข่งขันเนื่องจากตกเวทีไปแล้วนั่นเอง.
หลินมู่รู้อยู่แก่ใจ,เปรียบความแข็งแกร่งของเขากับลวอจินซีตอนนี้,นับว่าแตกต่างกันมากมายนัก.
การต่อสู้รอบแรกช่างจบเร็วเป็นอย่างมาก.
ในกลุ่มของฉู่เทียน,เซียงหูและหลินมู่ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว,ส่วนคนอื่นๆสามารถที่จะเข้าไปในรอบต่อไปได้.
รอบที่สองได้เริ่มขึ้นแล้ว,ฉู่เทียนได้พบกับอันดับหนึ่งในห้าของลานประลองมังกรขาว,ซึ่งมีระดับอยู่ที่ปลุกดวงจิตระดับสองนั่นเอง,คู่ต่อสู้ของเขานั้นไม่ได้น่าสนใจแต่อย่างใด,ไม่จำเป็นต้องชักกระบี่ออกมา,ก็สามารถรับชัยชนะกลับมา.
"ลานประลองที่ห้า!ฟางหานปะทะ เย่เหิน!"
เมื่อฉู่เทียนได้ยิน,ทำให้เขานั้นเป็นกังวลกับพี่น้องทหารรับจ้างนี้อยู่ไม่น้อย.
หลินมู่ที่โชคร้ายไปก่อนได้ปะทะเข้ากับอันดับหนึ่งลานประลองเต่าทมิฬ,ลวอจินซี.
ฟางหานเองก็โชคร้ายไม้แพ้กัน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับอันดับหนึ่งของลานประลองพยัคฆ์ขาว,เย่เหิน
ด้วยเช่นกัน.
เย่เหินและลวอจินซีนั้นหากกล่าวถึงชื่อเสียงและความแข็งแกร่งล่ะก็,ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย.
ฟางหานและหลินมู่ทั้งสองนั้นเหมือนกันเป็นอย่างมาก,โดยฟานหานนั้นมีภูติวิญญาณสายน้ำแข็งที่หายาก,และยังได้พลังที่แข็งแกร่งจากวรยุทธ์ศาสตร์แห่งปิศาจ,แม้แต่สายโลหิตที่เขามีนั้น,ก็นับได้ว่าเป็นสายโลหิตโบราณหายากเหมือนกัน.
ภูติวิญญาณของเย่เหินนั้นที่มีลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร.
ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น,เขาได้เรียกภูติวิญญาณหมาป่าอสูรที่โปร่งแสงออกมา,ดวงตาของมันที่จับจ้องออกมานั้น,ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณสีเทาออกมาเป็นระลอกๆหากว่าใครก็ตามที่หันไปสบตามันเข้าล่ะก็,ราวกับว่าพวกเขาจะถูกสะกดจิตให้ไร้เรี่ยวแรงในทันที.
"หมาป่าอสูรดวงตามายา!"
นี่คือสัตว์อสูรที่ดูอันตรายเป็นอย่างมาก.
เป็นสัตว์อสูรที่มีการโจมตีทางกายภาพไม่แข็งแกร่งนัก,ทว่ากลับสามารถโจมตีทางจิตวิญญาณได้รุนแรง,เป็นการโจมตีที่แทบจะไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย,ความสามารถของเย่เหินเช่นนี้นับว่าเป็นภูติวิญญาณที่มีพลังโจมตีจิตวิญญาณที่หายากเป็นอย่างมาก,มันสามารถโจมตีเข้าไปยังจิตวิญญาณได้เลย.
ไม่ต้องถามเลยมันเป็นการโจมตีที่มองไม่เห็นและสามารถสังหารศัตรูได้อย่างไร้ร่องรอย!
เป็นทักษะความสามารถที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้นั่นเอง!
ฟางหานสามารถตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของเย่เหิน,หากเทียบกับลวอจินซีที่มีทักษะการต่อสู้ทางกายภาพละก็,ยังทำให้เขารู้สึกดีซะกว่า,บอกได้อีกเลยว่าการตัดสินกันกับเย่เหินนั้นแทบจะสามารถตัดสินกันได้ภายในพริบตาเดียว.
ภูติวิญญาณยักษ์น้ำแข็งถูกเรียกออกมา!
กระจกน้ำแข็งที่ดูเลือนลางได้ปรากฏขึ้นและฟางหานได้ใช้กระจกดังกล่าวทำให้มีรูปร่างของเย่เหินปรากฏขึ้นได้,ในเมื่อไม่สามารถมองเย่เหินได้ด้วยตาเปล่า,ทำไมไม่ใช้กระจกจ้องมองการเคลื่อนไหวของเขาล่ะ?
ทักษะต่อสู้ของเย่เหิงนั้นไม่ได้ทรงพลังมากนัก,ตราบเท่าที่เขาไม่สามารถโจมตีโดยใช้วิชาลวงตาได้ล่ะก็,ย่อมลดทอนความสามารถของเขาได้บ้าง.
ไม่ต้องกล่าวเลย.
หลินมูก็ดี,ฟางหานก็ดี,พวกเขาทั้งคู่ถึงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมทีเดียว.
แต่ถึงกระนั้น,พวกเขาก็ยังทำผิดพลาด.
พวกเขานั้นประเมินคู่ต่อสู้ต่ำจนเกินไป.
"หมาป่าอสูรกลายร่าง!ก่อร่างก่อเกิดร่างกาย!"
ภูติวิญญาณอสูรหมาป่าของเย่เหินนั้นได้แปรเลี่ยนเป็นเงาที่เลือนลางพร้อมกับรวมร่างเข้ากับร่างของเย่เหิน,คนทั้งสองก็กลายเป็นร่างเดียวกัน,หลอมดวงจิตเข้าด้วยกัน,นี่คือวิชาตกทอดที่สืบทอดกันมาของวิชา
<<อสูรหมาป่ากลายร่าง>>!ของตระกูลเย่!
วิชานี้เป็นวิชาที่สามารถใช้ภูติวิญญาณอสูรหมาป่าเพื่อแสดงตัวตนที่แท้จริงของมันออกมา.
ที่จริงแล้วในเมืองเทียนหนานนั้น,เย่เทียนหลางก็เคยใช้วิชานี้โดยการรวมร่างเข้ากับอสูรหมาป่าเช่นกัน.
หลังจากที่เย่เหินแสดงทักษะ
<<อสูรหมาป่ากลายร่าง>>!,ร่างกายของเขาตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นโปร่งแสงไปด้วยเช่นกัน,ฟางหานตอนนี้ไม่สามารถที่จะมองหาตัวตน,ค้นหาร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามได้,ทำให้ใบหน้าของฟางหานถึงดับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.
พรึบ!
กงเล็บสีดำที่ลุกโชนขึ้นมาในทันทีก่อนที่จะสับลงมา.
กระจกน้ำแข็งแตกกระจายออกเป็นเสียงๆ,ภาพร่างของเย่เหินในกระจกก่อนนี้ได้หายไปทันที,ดวงตาสีแดงเข้มจับจ้องมายังร่างของฟางหานในทันที!
"ไม่ดีแล้ว!"
สายตาของฟางหานที่สบตาเข้ากับสายตาของฝ่ายตรงข้าม,โลหิตถึงกับพุ่งออกมาในทันที.
เย่เหินที่สบโอกาสได้ต่อยออกมายังร่างของฟางหานทันที,เกราะน้ำแข็งป้องกันร่างกายของเขาระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ,ในตอนต้นฟางหานที่ได้รับบาดเจ็บภายในแล้ว,ก็ถูกกระแทกหล่นลงมาบนเวทีพร้อมกับหมดสติไป.
"ฟางหาน!"
หลินมู่ที่เร่งรีบเข้าไปช่วยเขา.
ฉู่เทียนที่เดินตรงไป,เขาได้เข้าไปจับชีพจรของฟางหาน,พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย,"อาการทางร่างกายไม่น่าเป็นห่วง,หากแต่จิตวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทีเดียว."
"เกิดสิ่งใดขึ้นกัน?"
"ทันที่ที่เย่เหินสบตากับฝายตรงข้าม,เขาก็จะใช้วิชาลวงตาที่ทรงพลัง,แม้พวกเราจะเห็นแค่เพียงพริบตาเดียวก็ตามที,ที่จริงแล้ววิชาลวงตาดังกล่าวนั้น,ราวกับว่าได้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว,พูดอีกอย่างได้เลยว่า,เย่เหินนั้นได้ทรมานฟางหานมาหนึ่งชั่วโมงด้วยภาพลวงตา!หากว่าไม่เพราะจิตใจเขามั่นคงล่ะก็,บางทีถ้าไม่ตายก็ต้องกลายเป็นบ้าไปอย่างแน่นอน."
"โหดเหี้ยมนัก!"
เย่เหินที่ยืนกอดอกอยู่บนเวทีจับจ้องมองไปยังด้านล่าง,ที่มุมปากของเขานั้นเต็มไปด้วยท่าทางยโสโอหัง,ก่อนที่จะหันหลังกลับเดินลงเวทีไป.
เย่เหินและลวอจินซี!
หนึ่งคือพรสวรรค์จู่โจมทางจิตวิญญาณ!
ส่วนอีกหนึ่งคือพรสวรรค์ต่อสู้ระยะประชิด!
พวกเขาไม่เพียงแต่มีระดับปลุกดวงจิตระดับ 3
,พรสวรรค์และวิชาที่พวกเขาใช้ยังอยู่ในระดับชั้นยอดทั้งนั้น,นับว่าเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวไม่น้อย,สำหรับคนธรรมดาแล้วคงยากที่จะต่อต้านพวกเขาได้.
สถาบันแห่งรัฐกลางเองก็ยังมีตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวอีกคน,ฉู่อู๋เฟิงถึงจะยังไม่ได้แสดงฝีมือออกมา,หากแต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นก็ยังเหนือกว่าคนทั้งสองถึงครึ่งก้าวทีเดียว.
การแข่งขันในครั้งนี้เต็มไปด้วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญจริงๆ!
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น