วันพฤหัสบดีที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 153 Login lion and cicatrice

Miracle Throne Chapter 153 Login lion and cicatrice

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 153 ลอวจินซี และ เย่เหิน.


บทที่ 153 ลอวจินซี และ เย่เหิน.



 ฉู่เทียนที่เดินลงมาจากเวที.

เซี่ยงหู่เองก็เต็มไปด้วยความหดหุ่เช่นกัน,ใบหน้าที่เศร้าสร้อยปรากฏเต็มใบหน้าของเขา.

เขาพ่ายแพ้ตั้งแต่รอบแรก!

เขาที่เป็นเพียงแค่ผู้ฝึกตนเร่ร่อนมาเกือบทั้งชีวิตและได้พบเข้ากับโชคที่ไม่มีใครเชื่อ,เขาที่ได้รับการยอมรับจากเฟิงหยุนเทียนให้กลายเป็นศิษย์พิเศษ,ทว่าเขาก็ยังเป็นเพียงแค่ศิษย์ในนาม.,ด้วยนิสัยที่แปลกประหลาดของโหวเย่ว์วายุเทพ,จะมาสอนเขาเป็นการส่วนตัวได้อย่างไร?เขาที่มอบเพียงแค่ยาทิพย์และวิชาบำเพ็ญให้และอนุญาตให้เขานั้นฝึกด้วยตัวคนเดียว,นอกจากนี้เวลาปรกติเขายังต้องทำงานทุกอย่างแทบจะตะเวนไปทั่วทั้งหุบเขาไม่ต่างจากคนรับใช้เลย.


ในรอบนี้นั้นคนส่วนมากมีพลังฝึกตนปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 หรือแม้แต่ระดับ 3 ก็มี,เซียงหูที่ได้เฟิงไฉ่เตี๋ยนำมาเป็นสมาชิกเท่านั้นจนมาถึงรอบนี้ได้,การที่เขาต้องพ่ายแพ้รอบแรกคงจะไม่ใช่เรื่องแปลก.

ฉู่เทียนที่ต้องการจะปลอบเซียงหู่ซักหน่อย,หากแต่ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังก้องผ่านเข้ามาในหูของเขา.

"ทหารรับจ้างที่มีนามว่าหลินมูกำลังจะแย่แล้ว."

"รอบแรกเขาเจอกับลวอจินซีล่ะ!"

ฉู่เทียนที่ขมวดคิ้วเล็กน้อย.

สหายของเขาโชคร้ายขนาดนี้เลยรึ?

ในเวลาเดียวกัน,หลินมู่ที่ยืนอยู่บนเวทีที่ 2,คู่ต่อสู้ของเขานับว่าแข็งแกร่งทีเดียว,แม้ว่าอายุของเขาจะเพียงแค่ยี่สิบปีก็ตามที,หากแต่ใบหน้าที่มีหนวดเครารุงรัง,ทำให้เขาดูราวกับคนมีอายุสามสิบปีก็ไม่ปาน.

ชายผู้นี้ไม่ได้นำอาวุธขึ้นมาด้วยและยังแต่งตัวที่ธรรมดาเป็นอย่างมาก,กล้ามเนื้อที่หนาแน่นเป็นมัดๆเบียดนูนออกมาจากแขนทั้งสองข้าง,พร้อมกับมีรอยศักดิ์สีแดงปกคลุมไปทั่ว,ดูราวกับทหารที่ดุร้ายของเผ่าคนเถื่อน.

นี่คืออันดับหนึ่งของลานประลองเต่าทมิฬ,ลวอจินซี!

เขาคืออันดับสองรองจาก นายน้อยพยัคฆ์มังกร ลวอเซียงหลงของตระกูลลวอ,ที่มีพรสวรรค์มากที่สุด.

ราชสีห์ลวอจินซี ที่ดูยิ่งใหญ่สง่างามจับจ้องมองไปยังทหารรับจ้างหลินมู,สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความเหยียดหยัน"เป็นเพียงทหารรับจ้างสกปรก,เจ้าไม่คู่ควรจะต่อสู้กับข้า!ข้าขอเตือนเจ้าเอาไว้ทำงานตัวเองให้ดีที่สุดก็พอแล้ว! หอคอยฝึกฝนโบราณนั้นไม่ใช่สถานที่สำหรับขยะที่จะเข้าไปได้,เข้าใจใช่ใหม?ไสหัวไปให้พ้น!ไม่เช่นนั้นแล้วอย่าหาว่าข้าโหดร้ายก็แล้วกัน!"

พลังฝึกตนของหลินมู่นั้นอยู่ในระดับ 2 ขั้นปลาย,

ส่วนลวอจินซีนั้นมีระดับปลุกดวงจิตระดับ 3 แล้ว.

ลวอจินซีเองก็เป็นหนึ่งในคนสำคัญของลูกหลานตระกูลลวอที่ควรค่าที่จะฝึกฝน,ดังนั้นทรัพยากรที่เขาได้รับเองก็นับว่ามากมายทีเดียว,เป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาคนธรรมดาทั่วไปมาเทียบได้,ทำให้แม้แต่คนที่มีพลังฝึกตนระดับเดียวกันกับเขายังไม่ใช่คู่ต่อกรกับเขาเลย!

หลินมู่ที่กล่าวไม่ยโสและไม่สุภาพ,"คนของตระกูลเย่เองก็เป็นทหารรับจ้าง,การที่ท่านกล่าวเช่นนี้,ไม่ใช่ว่าเป็นการกล่าวดูถูกทหารรับจ้างทั้งหมดเลยรึ?"

ด้วยการกล่าวเช่นนี้.

เหล่าคนของตระกูลเย่เองที่กำลังจ้องมองอยู่ถึงกับเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ทีเดียว.

"เจ้า..."ใบหน้าของลวอจินซีที่เปลี่ยนเป็นซับซ้อน,"หุบปากเน่าๆของเจ้าซะ,คนเช่นเจ้าคือคนที่ข้าเกลียดที่สุด,วันนี้ข้าจะบดขยี้ปากของเจ้าซะ,เข้าจะไม่ให้เจ้าพูดได้อีก ตลอดไป!"

หลินมู่ที่แสดงสีหน้าจริงจัง"ข้าเองก็ปรารถนาที่จะประลองกับคนตระกูลลวอด้วยเหมือนกัน!"

"แส่หาความตาย!ก็ดี!ข้าจะช่วยเจ้าเอง!"

ดวงตาของลวอจินซีที่จ้องมองตาเขม็งพร้อมกับคำรามเสียงดังลั่น,พลังวิญญาณระเบิดออกมาอย่างรุนแรงกลายเป็นราชสีห์ขนาดมหึมาสีทอง,เป็นราชสีห์ที่ตัวใหญ่มโหฬารยิ่งนัก,ทั่วทั้งร่างของมันนั้นราวกับว่าได้หลอมมาจากทองคำ,พลังของมันนั้นดูน่าเกรงขามดุร้ายเป็นอย่างมาก,ทำให้ทุกคนต่างก็จับจ้องมองด้วยความตื่นตะลึง.

ลวอจินซี!

เหมือนดังชื่อตัวเอง!

ภูติวิญญาณราชสีห์ทองคำ!

นี่คือสัตว์อสูรระดับสูงเป็นอย่างมาก,มันแข็งแกร่งขนาดสามารถล่าแมมมอสได้เลย,และยังสามารถฉีกมังกรบินและมังกรปฐพีได้อีกด้วย,พลังของมันนั้นไร้ขอบเขต,น่าสะพรึงกลัว,เมื่อเขาเรียกใช้ภูติวิญญาณราชสีห์ทองคำแล้ว,จะทำให้พลังและความเร็วของลวอจินซีนั้นเพิ่มขึ้นมามหาศาล,ความดุร้ายเองดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า,ด้วยทักษะวิชาบำเพ็ญการต่อสู้ระยะประชิดของตระกูลลวอด้วยแล้ว,นี่อาจจะเรียกว่าเครื่องจักรมนุษย์ที่ใช้สังหารก็เป็นได้!

แข็งแกร่งนัก!

สมแล้วที่เป็นอันดับหนึ่งของลานประลองเต่าทมิฬ!

เปรียบกับพรสวรรค์ของนานน้อยพยัคฆ์มังกรแล้ว,อาจจะห่างกันไม่มากนัก!

หลินมู่นั้นตระหนักได้ว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นน่าสะพรึงกลัวเป็นอย่างมาก,ทว่าเขาที่เป็นทหารรับจ้างหนุ่มไม่เคยหวาดกลัวคู่ต่อสู้พร้อมจะสู้แม้โลหิตเหลือหยดสุดท้าย,ลวอจินซีนั้นแข็งแกร่ง,แต่กระนั้นถึงจะเป็นสีต้าซือแห่งรัฐกลางที่เขาไม่สามารถต่อกรได้ก็ตาม,ในเมือยืนอยู่บนเวทีแล้ว,เขาจะต้องสู้จะให้ถอยได้อย่างไร?

"พรึบ!"

ขาและแขนของหลินมู่ที่ยืดยาวขยายออกมา,กลายเป็นต้นหลิวที่เติบโตขึ้นมาอย่างบ้าคลั่ง,เพียงแค่พริบตาเดียวก็มีความสูงหลายเมตรแล้ว,ทั่วทั้งร่างนั้นต่างปกคลุมด้วยกิ่งก้านที่เต็มไปด้วยสีเขียวมรกต,ราวกับเส้นผมที่บ้าคลั่งของเทพอสูร

"โอ้ว?เป็นภูติวิญญาณประเภทพืช!"

เหล่าประมุขทั้งสี่ตระกูลเองก็รู้สึกประหลาดใจ.

เป็นภูติวิญญาณที่หายากหากแต่ดูแล้วท่าทางอ่อนแอ,ไม่รู้ว่าเป็นภูติวิญญาณแบบใดเช่นกัน.

"แส่หาความตาย!"

ลวอจินซีที่พุ่งออกไปจากระยะไกลด้วยความรุนแรงราวกับแรดที่หลุดจากการควบคุม.

"หนามไม้ทิ่มแทง!"


ฝ่ามือของหลินมู่ที่ฟาดลงไปบนพื้นทันที.

ลวอจินซีที่สัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณที่กำลังแผ่ลงไปใต้พื้น,ก่อนที่มันจะงอกขึ้นมา,กลายเป็นท่อนไม้พุ่งพรวดขึ้นมาบนพื้น,เขาที่สามารถหลบท่อนซุงเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว,ด้วยสัมผัสที่ยอดเยี่ยมและความเร็วที่คล่องแคล่ว,ลวอจินซีจึงสามารถหลบท่อนไม้ที่พุ่งขึ้นมาบนพื้นได้อย่างสบายๆ.

ในเวลาเดียวกัน.

"จับ!"

หลินมู่ที่ผสานมือทั้งสองข้างประกบเข้าหากัน,ก่อนที่จะมีวิญญาณร้ายมากมายโผล่ขึ้นมาบนแขนของเขา,มันพุ่งออกไปราวกับสายฟ้า,ก่อนที่จะปกคลุมไปทั่วร่างของลวอจินซีและยึดแขนยึดขาทั้งสี่ของเขาเอาไว้,ขึงพรืดร่างของเขาลอยอยู่กลางอากาศในทันที.

คนอื่นๆต่างเต็มไปด้วยความประหลาดใจ.

หลินมู่ใช้ภูติวิญญาณของเขาโจมตีอย่างงั้นรึ?

ภูติวิญญาณเขตแดน ดวงจิตเสมือนนั้นยังคงอ่อนแอเป็นอย่างมาก,ปรกติแล้วจะสามารถช่วยในการโจมตีได้เล็กน้อยเท่านั้น,ยิ่งภูติวิญญาณของหลินมู่นั้นเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเป็นระดับทั่วไป,กลับสามารถนำมาโจมตีเช่นนี้ได้ช่างคาดไม่ถึงจริงๆ!

วิชาบำเพ็ญของตระกูลลวอนั้นเป็นวิชาการต่อสู้ระยะประชิดเป็นหลัก,หากว่าเขาถูกผนึกการเคลื่อนไหวไว้บนอากาศเช่นนี้ล่ะก็ย่อมไม่มีโอกาสที่จะโจมตีได้แน่,เขาไม่มีทักษะการต่อสู้ระยะไกลที่ทรงพลังเลยนั่นเอง.

หลินมู่ที่ตะโกนออกไปเสียงดัง.

กลิ่นอายแห่งความมืดที่คละคลุ้งไปทั่วอากาศ,ผิวกายของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำในทันที,คนทุกคนต่างก็จ้องมองตาค้าง,นี่จะต้องเป็นวิชาศาสตร์แห่งปิศาจที่ดุร้ายบางอย่างแน่.

ร่างของหลินมู่ที่กระโดดออกไปด้านหน้า.

ต้นหลิวมากมายหลายตนที่หมุนวนรอบๆร่างกายของเขาที่ถูกกระตุ้นให้ปล่อยการโจมตีออกไปยังร่างของลวอจินซีที่ลอยอยู่บนอากาศ.

ปัง!ปัง!ปัง!

เหล่าหอกที่แหลมคมจำนวนมากของต้นหลินยังคงถูกยิงออกไปยังร่างของลวอจินซีราวกับห่าฝน,ขณะที่ลวอจินซีนั้นได้รับความเจ็บปวดจากการโจมตีที่รุนแรงหนักหน่วง,พลังสีดำสนิทราวกับหมึกก็กระแทกไปยังร่างของลวอจินซี.

ร่างของลวอจินซีที่ถูกปกคลุมด้วยพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งก็อ่อนแอลงทันที.

หากว่าถูกโจมตีด้วยหมัดที่รุนแรงอีกหมัดย่อมจะทำให้ลวอจินซีได้รับบาดเจ็บหนักแน่นอน!

"เจ้าคิดจะใช้แต่ทักษะกระจอกเช่นนั้นอย่างงั้นรึ?"

ภูติวิญญาณราชสีห์ทองคำ คำรามลั่น,พร้อมกับปล่อยคลื่นเสียงที่รุนแรงออกมา,พร้อมกับทำลายผนึกการเคลื่อนไหวของเขาในทันที.

"เจ้าต้องการที่จะเห็นวิชาบำเพ็ญของตระกูลลวออย่างงั้นรึ?,งั้นก็ดูให้ดีว่า วิชาตระกูลลวอของข้านั้นร้ายกาจเพียงใด <<หมัดคู่พยัคฆ์ราชสีห์>>!"

หมัดซ้ายที่ปล่อยคลื่นวายุที่รุนแรงออกมาพร้อมกันกลายเป็นรูปร่างของศีรษะของราชสีห์,มันฉีกกระชากต้นหลิวที่อยู่รอบๆร่างของหลินมู่อย่างไม่คาดคิด,และยังโจมตีไปยังศาสตร์ปิศาจ,งับไปที่ร่างของหลินมู่.


"ตายไปซะ!"

หมัดขวาอีกหมัดของลวอจินซี,โผทะยานพุ่งออกไปด้วยพลังวิญญาณที่เข้มข้นกลายเป็นพยัคฆ์ตัวมหึมาพุ่งกระแทกหลินมู่ลอยออกไปกลางอากาศก่อนที่เขาจะหล่นลงมากองอยู่กับพื้น,ด้วยแรงกระแทกที่รุนแรงทำให้ลานประลองตรงกลางถึงกับเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นมา.

เหมือนกับว่าได้ยินเสียงกระดูกของหลินมู่ทีลั่นแกร๊กๆทีเดียว.

พลังวิญญาณที่เป็นรูปร่างพยัคฆ์ยังคงคำรามลั่นตวัดออกไปอีกครั้ง.

หลินมู่ที่เป็นเหมือนกับว่าวสายป่านขาดลอยปลิวออกไป หล่นลงไปยังข้างล่างเวทีการแข่งขัน.

ลอวจินซีไม่มีทางอภัยฝ่ายตรงข้ามแน่นอน,การโจมตีของเขานั้นหมายมั่นสังหารคนๆนี้ให้ตกตายไปอยู่แล้ว!

ชายหนุ่มทหารรับจ้าง,ไร้ซึ่งคนสนับสนุน,ไร้ซึ่งความแข็งแกร่ง,การสังหารให้ตายไป,ยังนับว่าปราณีไปด้วยซ้ำ!

หากแต่ใครจะรู้ล่ะว่าหลินมู่ที่ตกลงไปบนพื้น,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถลุกขึ้นยืนได้,พร้อมกับปล่อยภูติวิญญาณตัวเองออกมาได้อีกครั้ง,นอกจากนี้ยังมีขามากมายปรากฏขึ้นมาอีกด้วย,ราวกับว่าเป็นรากไม้ที่โผล่ขึ้นมาจากพื้น,มันกำลังขุดลงไปใต้พื้นดิน,พลังงานสีเขียวกำลังหมุนวนรอบๆร่างของเขาไม่หยุดหย่อน.

กิ กิ กิ กิ!

กระดูกที่แตกหักของเขากำลังฟื้นฟู!

อาการบาดเจ็บของเขานั้น,พริบตาเดียวก็หายไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว!

เฟิงหยุนเทียนที่จับจ้องมองออกไปค่อนข้างประหลาดใจไม่น้อย"ภูติวิญญาณของชายหนุ่มคนนั้น,มีความสามารถในการรักษาด้วย!"

ทักษะของภูติวิญญาณที่มีความสามารถในการรักษา.

เป็นภูติวิญญาณที่หายากเป็นอย่างมากทีเดียว!

หยุนเทียนเหอคิดใคร่ครวญท่าทางลังเลใจอยู่เล็กน้อย"บางที,ร่างกายของเขาอาจจะมีลักษณะพิเศษ,ภายในร่างกายอาจจะมีสายโลหิตที่พิเศษไหลเวียนอยู่,บางทีคงจะเป็นไปได้ว่าบรรพบุรุษของเขานั้นจะต้องมีเชื้อสายจากเอลฟมาสักรุ่นแน่นอน,ด้วยศักยภาพของชายหนุ่มคนนี้จึงดูไม่ธรรมดาเลย!"

ฉู่เทียนที่จ้องมองออกไปเช่นเดียวกัน.

สายโลหิตของหลินมูนั้นดูจะค่อนข้างพิเศษ,ร่างกายที่มีลักษณะพิเศษนั้น,น่าจะเป็นลักษณะพิเศษของเผ่าโบราณ,เขาต้องเป็นลูกหลานของเผ่าโบราณแน่นอน,แม้ว่าสายโลหิตที่สืบทอดมานั้นจะเจือจางไปมากแล้ว,ทว่าก็เห็นได้ว่าเขานั้นมีศักยภาพที่ดีทีเดียว.

หลินมู่ไม่ได้ใช้ทักษะดังกล่าวนี้ที่ค่ายวายุทมิฬ.

เห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากที่ผ่านการต่อสู้ที่หนักหน่วงมาก,พลังของเขาก็ค่อยๆตื่นขึ้นมาทีละน้อยๆ,คุ้มค่าที่จะช่วยเหลือและฝึกฝน.

แม้ว่าเขาจะมีพลังที่เหลือพอที่จะสู้,หากแต่เขาก็พ่ายแพ้ตามกฏของการแข่งขันเนื่องจากตกเวทีไปแล้วนั่นเอง.

หลินมู่รู้อยู่แก่ใจ,เปรียบความแข็งแกร่งของเขากับลวอจินซีตอนนี้,นับว่าแตกต่างกันมากมายนัก.

การต่อสู้รอบแรกช่างจบเร็วเป็นอย่างมาก.

ในกลุ่มของฉู่เทียน,เซียงหูและหลินมู่ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว,ส่วนคนอื่นๆสามารถที่จะเข้าไปในรอบต่อไปได้.

รอบที่สองได้เริ่มขึ้นแล้ว,ฉู่เทียนได้พบกับอันดับหนึ่งในห้าของลานประลองมังกรขาว,ซึ่งมีระดับอยู่ที่ปลุกดวงจิตระดับสองนั่นเอง,คู่ต่อสู้ของเขานั้นไม่ได้น่าสนใจแต่อย่างใด,ไม่จำเป็นต้องชักกระบี่ออกมา,ก็สามารถรับชัยชนะกลับมา.

"ลานประลองที่ห้า!ฟางหานปะทะ เย่เหิน!"

เมื่อฉู่เทียนได้ยิน,ทำให้เขานั้นเป็นกังวลกับพี่น้องทหารรับจ้างนี้อยู่ไม่น้อย.

หลินมู่ที่โชคร้ายไปก่อนได้ปะทะเข้ากับอันดับหนึ่งลานประลองเต่าทมิฬ,ลวอจินซี.

ฟางหานเองก็โชคร้ายไม้แพ้กัน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะได้พบกับอันดับหนึ่งของลานประลองพยัคฆ์ขาว,เย่เหิน ด้วยเช่นกัน.

เย่เหินและลวอจินซีนั้นหากกล่าวถึงชื่อเสียงและความแข็งแกร่งล่ะก็,ไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย.

ฟางหานและหลินมู่ทั้งสองนั้นเหมือนกันเป็นอย่างมาก,โดยฟานหานนั้นมีภูติวิญญาณสายน้ำแข็งที่หายาก,และยังได้พลังที่แข็งแกร่งจากวรยุทธ์ศาสตร์แห่งปิศาจ,แม้แต่สายโลหิตที่เขามีนั้น,ก็นับได้ว่าเป็นสายโลหิตโบราณหายากเหมือนกัน.

ภูติวิญญาณของเย่เหินนั้นที่มีลักษณ์พิเศษไม่เหมือนใคร.

ก่อนที่การต่อสู้จะเริ่มขึ้น,เขาได้เรียกภูติวิญญาณหมาป่าอสูรที่โปร่งแสงออกมา,ดวงตาของมันที่จับจ้องออกมานั้น,ได้ปลดปล่อยพลังวิญญาณสีเทาออกมาเป็นระลอกๆหากว่าใครก็ตามที่หันไปสบตามันเข้าล่ะก็,ราวกับว่าพวกเขาจะถูกสะกดจิตให้ไร้เรี่ยวแรงในทันที.

"หมาป่าอสูรดวงตามายา!"

นี่คือสัตว์อสูรที่ดูอันตรายเป็นอย่างมาก.

เป็นสัตว์อสูรที่มีการโจมตีทางกายภาพไม่แข็งแกร่งนัก,ทว่ากลับสามารถโจมตีทางจิตวิญญาณได้รุนแรง,เป็นการโจมตีที่แทบจะไม่สามารถต้านทานได้เลยแม้แต่น้อย,ความสามารถของเย่เหินเช่นนี้นับว่าเป็นภูติวิญญาณที่มีพลังโจมตีจิตวิญญาณที่หายากเป็นอย่างมาก,มันสามารถโจมตีเข้าไปยังจิตวิญญาณได้เลย.

ไม่ต้องถามเลยมันเป็นการโจมตีที่มองไม่เห็นและสามารถสังหารศัตรูได้อย่างไร้ร่องรอย!

เป็นทักษะความสามารถที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าได้นั่นเอง!

ฟางหานสามารถตระหนักได้ถึงความน่ากลัวของเย่เหิน,หากเทียบกับลวอจินซีที่มีทักษะการต่อสู้ทางกายภาพละก็,ยังทำให้เขารู้สึกดีซะกว่า,บอกได้อีกเลยว่าการตัดสินกันกับเย่เหินนั้นแทบจะสามารถตัดสินกันได้ภายในพริบตาเดียว.

ภูติวิญญาณยักษ์น้ำแข็งถูกเรียกออกมา!

กระจกน้ำแข็งที่ดูเลือนลางได้ปรากฏขึ้นและฟางหานได้ใช้กระจกดังกล่าวทำให้มีรูปร่างของเย่เหินปรากฏขึ้นได้,ในเมื่อไม่สามารถมองเย่เหินได้ด้วยตาเปล่า,ทำไมไม่ใช้กระจกจ้องมองการเคลื่อนไหวของเขาล่ะ?

ทักษะต่อสู้ของเย่เหิงนั้นไม่ได้ทรงพลังมากนัก,ตราบเท่าที่เขาไม่สามารถโจมตีโดยใช้วิชาลวงตาได้ล่ะก็,ย่อมลดทอนความสามารถของเขาได้บ้าง.

ไม่ต้องกล่าวเลย.

หลินมูก็ดี,ฟางหานก็ดี,พวกเขาทั้งคู่ถึงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมทีเดียว.

แต่ถึงกระนั้น,พวกเขาก็ยังทำผิดพลาด.

พวกเขานั้นประเมินคู่ต่อสู้ต่ำจนเกินไป.

"หมาป่าอสูรกลายร่าง!ก่อร่างก่อเกิดร่างกาย!"

ภูติวิญญาณอสูรหมาป่าของเย่เหินนั้นได้แปรเลี่ยนเป็นเงาที่เลือนลางพร้อมกับรวมร่างเข้ากับร่างของเย่เหิน,คนทั้งสองก็กลายเป็นร่างเดียวกัน,หลอมดวงจิตเข้าด้วยกัน,นี่คือวิชาตกทอดที่สืบทอดกันมาของวิชา <<อสูรหมาป่ากลายร่าง>>!ของตระกูลเย่!

วิชานี้เป็นวิชาที่สามารถใช้ภูติวิญญาณอสูรหมาป่าเพื่อแสดงตัวตนที่แท้จริงของมันออกมา.

ที่จริงแล้วในเมืองเทียนหนานนั้น,เย่เทียนหลางก็เคยใช้วิชานี้โดยการรวมร่างเข้ากับอสูรหมาป่าเช่นกัน.

หลังจากที่เย่เหินแสดงทักษะ <<อสูรหมาป่ากลายร่าง>>!,ร่างกายของเขาตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นโปร่งแสงไปด้วยเช่นกัน,ฟางหานตอนนี้ไม่สามารถที่จะมองหาตัวตน,ค้นหาร่องรอยของฝ่ายตรงข้ามได้,ทำให้ใบหน้าของฟางหานถึงดับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.

พรึบ!


กงเล็บสีดำที่ลุกโชนขึ้นมาในทันทีก่อนที่จะสับลงมา.

กระจกน้ำแข็งแตกกระจายออกเป็นเสียงๆ,ภาพร่างของเย่เหินในกระจกก่อนนี้ได้หายไปทันที,ดวงตาสีแดงเข้มจับจ้องมายังร่างของฟางหานในทันที!

"ไม่ดีแล้ว!"

สายตาของฟางหานที่สบตาเข้ากับสายตาของฝ่ายตรงข้าม,โลหิตถึงกับพุ่งออกมาในทันที.

เย่เหินที่สบโอกาสได้ต่อยออกมายังร่างของฟางหานทันที,เกราะน้ำแข็งป้องกันร่างกายของเขาระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ,ในตอนต้นฟางหานที่ได้รับบาดเจ็บภายในแล้ว,ก็ถูกกระแทกหล่นลงมาบนเวทีพร้อมกับหมดสติไป.

"ฟางหาน!"

หลินมู่ที่เร่งรีบเข้าไปช่วยเขา.

ฉู่เทียนที่เดินตรงไป,เขาได้เข้าไปจับชีพจรของฟางหาน,พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อย,"อาการทางร่างกายไม่น่าเป็นห่วง,หากแต่จิตวิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างหนักทีเดียว."

"เกิดสิ่งใดขึ้นกัน?"

"ทันที่ที่เย่เหินสบตากับฝายตรงข้าม,เขาก็จะใช้วิชาลวงตาที่ทรงพลัง,แม้พวกเราจะเห็นแค่เพียงพริบตาเดียวก็ตามที,ที่จริงแล้ววิชาลวงตาดังกล่าวนั้น,ราวกับว่าได้ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว,พูดอีกอย่างได้เลยว่า,เย่เหินนั้นได้ทรมานฟางหานมาหนึ่งชั่วโมงด้วยภาพลวงตา!หากว่าไม่เพราะจิตใจเขามั่นคงล่ะก็,บางทีถ้าไม่ตายก็ต้องกลายเป็นบ้าไปอย่างแน่นอน."

"โหดเหี้ยมนัก!"

เย่เหินที่ยืนกอดอกอยู่บนเวทีจับจ้องมองไปยังด้านล่าง,ที่มุมปากของเขานั้นเต็มไปด้วยท่าทางยโสโอหัง,ก่อนที่จะหันหลังกลับเดินลงเวทีไป.

เย่เหินและลวอจินซี!

หนึ่งคือพรสวรรค์จู่โจมทางจิตวิญญาณ!

ส่วนอีกหนึ่งคือพรสวรรค์ต่อสู้ระยะประชิด!

พวกเขาไม่เพียงแต่มีระดับปลุกดวงจิตระดับ 3 ,พรสวรรค์และวิชาที่พวกเขาใช้ยังอยู่ในระดับชั้นยอดทั้งนั้น,นับว่าเป็นตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวไม่น้อย,สำหรับคนธรรมดาแล้วคงยากที่จะต่อต้านพวกเขาได้.

สถาบันแห่งรัฐกลางเองก็ยังมีตัวตนที่น่าสะพรึงกลัวอีกคน,ฉู่อู๋เฟิงถึงจะยังไม่ได้แสดงฝีมือออกมา,หากแต่ความแข็งแกร่งของเขานั้นก็ยังเหนือกว่าคนทั้งสองถึงครึ่งก้าวทีเดียว.


การแข่งขันในครั้งนี้เต็มไปด้วยเหล่าผู้เชี่ยวชาญจริงๆ!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น