วันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 152 The first war

Miracle Throne Chapter 152 The first war

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 152 ศึกแรก


บทที่ 152 ศึกแรก



ณ สนามการแข่งขันแห่งรัฐกลาง,มีเหล่าผู้ชมมากมายนับไม่ถ้วนที่เข้ามาชมการแข่งขันในครั้งนี้,ทุกคนต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น,แสดงให้เห็นถึงความรุ่งโรจน์ของรัฐกลางโดยแท้.

เวทีการแข่งขันมีทั้งหมดหกสนาม ถูกสร้างขึ้นจากไม้เนื้อแข็ง,แต่ละแห่งนั้นมีความสูงหลายฟุตทีเดียว,ดูเหมือนว่ามันจะถูกออกแบบให้มีรูปร่างลักษณะแปดเหลี่ยม,ทั้งหกสนามเองก็สูงเด่นเป็นสง่าให้เหล่าผู้เขาชมสามารถที่จะมองเห็นได้อย่างชัดเจนในมุมต่างๆ,อยู่ในใจกลางของสนามการแข่งขันขนาดใหญ่,ทำให้ทุกคนสามารถเห็นได้ตั้งแต่ต้นจนไปถึงรอบสุดท้ายทีเดียว.


รอบๆสนามการแข่งขันมีคนมากมายต่างเข้ามาชมกันอย่างคับคั่ง,มีที่นั่งสำหรับแขกพิเศษที่ด้านข้างเป็นสถานที่จัดเตรียมไว้ให้กับเหล่าผู้มีเกียรติจากตระกูลขนาดใหญ่,ตอนนี้พื้นที่ดังกล่าวยังคงว่างอยู่.

มีแผ่นไม้ขนาดใหญ่ขนาดหลายจ้างที่ได้เขียนตัวอักษรขนาดใหญ่สีทอง,ระบุตำแหน่งของแต่ละสนามและรายชื่อผุ้เข้าแข่งขันเอาไว้.

เหล่าคนทั้งหกของกลุ่มฉู่เทียนก็ได้แยกไปคนละสนามการแข่งขัน,ดังนั้นหากว่าพวกเขาสามารถเข้ารอบสุดท้ายมาได้ล่ะก็มีโอกาสที่พวกเขาจะได้ต่อสู้กันเอง.

เฟิงชิงหยุนที่จับจ้องมองไปยังแผ่นป้ายบนสนามแข่งขันและอ่านกฏข้อบังคับ,พร้อมกับแค่นเสียงออกมา."หวังว่าเจ้าคงจะมีโชค,สามารถผ่านมาถึงรอบสุดท้ายนะ."

ฉู่เทียนที่จับจ้องมองที่ป้ายคิดพักหนึ่งก่อนที่จะกล่าวออกมาว่า"ข้าโชคดีเสมอ."

เหล่าคนมากมายตอนนี้กำลังส่งเสียงอื้ออึ้งออกมาในทันใด.

"คนของตระกูลฉู่มาแล้ว!"

"นั่นประมุขตระกูล,ฉู่ซานเหอ,และก็นายน้อยกระบี่ฟ้า,ฉู่ซิงเหอ!"

ตระกูลฉู่นั้นไม่ได้เดินทางมามากมายนัก,พวกเขาสวมชุดมือกระบี่,ทุกคนล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนระดับอาวุโสทั้งหมด,ทุกคนที่เดินทางมาในครั้งนี้,ต่างก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงที่คนทั่วทั้งรัฐกลางรู้จักกันแทบทั้งสิ้น.

มีเหล่าอาวุโสราวๆ 50 คนของตระกูลฉู่,หากแต่กลับมีพื้นที่กว่าหลายร้อยที่ที่ได้จัดเตรียมไว้ให้กับคนของตระกูลฉู่,มีเก้าอี้ที่ดูสง่าหรูหราจัดพิเศษไว้สองทีและยกขึ้นสูงจนมองเห็นเวทีได้อย่างชัดเจน.

"ตระกูลลวอ,ตระกูลเย่และตระกูลหยุนก็มาด้วย."

"ทั้งสามตระกูลใหญ่ก็มาด้วยเช่นกัน!"

"ตระกูลลวอ,ลวอเหลียนเฉิง,นายน้อยพยัคฆ์มังกรลวอเซียงหลง,ตระกูลเย่,เย่อู๋เต๋า,นายน้อยหมาป่าสวรรค์เย่เทียนหลาง,ตระกูลหยุน,หยุนเทียนเหอ,พร้อมกับท่านหญิงอสนีบาตม่วง,หยุนเหยา."

"เหล่าตัวตนที่ยิ่งใหญ่ของคนในรัฐกลาง หลายปีมาแล้วที่จะได้เห็นทุกคนเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้,คาดไม่ถึงเลยว่านี้อาจนับเป็นเรื่องในตำนานเลยก็ว่าได้,คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมาพร้อมกันทั้งหมด."

สี่ประมูขของตระกูลใหญ่,และสี่ผู้สืบทอดของตระกูลใหญ่,ทุกคนมาเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง!

"แม่ทัพแห่งรัฐกลาง,ซ่งอู๋จี๋!"

แม่ทัพตัวมหึมาผิวดำเข้มดูแข็งแกร่งได้นำเหล่าทหารที่ทรงเกียรติหลายร้อยคนเข้ามายังสนามแข่งขัน,เหล่าคนมากมายต่างจับจ้องมองเป็นตาเดียวกัน,ตระกูลซ่งเป็นตระกูลทหารอันดับหนึ่งของรัฐกลาง,มีสถานะรองลงมาจากตระกูลเฟิงและสี่ตระกูลใหญ่ทั้งสี่นั่นเอง.

ฉู่เทียนที่จับจ้องมองเขม็งเหมือนกัน.

คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นเขา?

คนผู้นี่ก็คือแม่ทัพที่เขาได้พบที่ค่ายวายุทมิฬนั่นเอง,ฉู่เทียนเองนับว่ามีความประทับใจในครั้งแรกเลยไม่น้อย,แม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะตระหนักได้ว่าสถานะของชายผู้นี้จะไม่ต่ำอย่างแน่นอน,หากแต่ไม่คิดจริงๆเลยว่าเขาก็คือแม่ทัพที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของกองกำลังราชสำนักของรัฐกลาง.

แม้ว่าอิทธิพลส่วนตัวนั้นจะไม่สามารถเทียบได้กับสี่ตระกูลใหญ่ก็ตาม,ทว่าด้วยความแข็งแกร่งของอำนาจรัฐ,แม่ทัพอาวุโสที่มีนามว่าซ่งอู๋จี๋ผู้นี้,แน่นอนว่าไม่ได้ด้อยไปกว่าเหล่าตระกูลใหญ่ทั้งสี่เลยแม้แต่น้อย.

"ท่านเจ้าเมือง!"

"ท่านประธาน!"

ในเวลาเดียวกัน,เสียงกลองที่เริ่มบรรเลง,ราวกับว่าผู้มีเกียรติกำลังเข้ามาสู่สนามการแข่งขัน.

ชายผู้หนึ่งที่สวมชุดสีเขียวเครื่องแบบเจ้าเมือง,เหินลงมาก่อนที่จะไปนั่งประจำที่ของตัวเอง,ที่ด้านข้างตำแหน่งเจ้าเมืองนั้นมีชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่มีท่าทางราวกับนักวิชาการชั้นสูง,พวกเขาทั้งคู่นั้นมีหน้าตาที่คล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก,เนื่องจากพวกเขานั้นเป็นพี่น้องกันนั่นเอง.

เจ้าเมืองแห่งรัฐกลาง,เฟิงหยุนหลง!

ประธานแห่งสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง,เฟิงหยุนหู่!

พวกเขาทั้งสองเป็นคนของตระกูเฟิงที่นับว่าเป็นเสาหลักแห่งรัฐกลางแห่งนี้เลยก็ว่าได้.

หนึ่งคนเป็นเจ้าเมืองดูแลรัฐกลาง,อีกหนึ่งคนเป็นคนดูแลสถาบันแห่งรัฐกลาง!

ดังนั้นในตอนนี้,ผู้มีอำนาจทางการเมืองและการทหารทั้งสอง,สี่ตระกูลใหญ่และตระกูลขุนนางอื่นๆต่างก็เดินทางมาครบกันเรียบร้อยแล้ว!

บุคคลระดับสูงที่อยู่บนจุดยอดของพีรามิดแห่งรัฐกลาง,เป็นการรวบรวมคนสำคัญๆกันทั้งหมดมาในครั้งนี้.

การแข่งขันในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับสิทธิ์ที่จะได้รับเพื่อที่จะเข้าร่วมทดสอบหอฝึกฝนโบราณ!

หอคอยฝึกฝนแห่งรัฐกลางนั้นเป็นสถานที่ทุกคนต่างก็เฝ้าฝันที่จะได้เข้าร่วม!

หอคอยฝึกฝนแห่งรัฐกลางนั้นนับเป็นศูนย์รวมที่รวบรวมทรัพยากรมากมายมหาศาลและสมบัติตกทอดมากมาย,แม้แต่วิชาบำเพ็ญโบราณโบราณที่ล้ำค่า,ในการเข้าร่วมทดสอบในแต่ละครั้งนั้น,จะมีคนเข้าทดสอบได้ครั้งล่ะสิบคนเท่านั้น!

สำหรับตระกูลใหญ่ทั้งสี่นั้นต่างก็ได้รับสิทธิ์อย่างล่ะหนึ่งที่.

ส่วนอีกหกสิทธิ์นั้นจะเป็นการแข่งขันของสถาบันแห่งรัฐกลางที่ได้จัดขึ้นในครั้งนี้,ถึงแม้ว่าจะเป็นตระกูลเฟิงเองก็ยังไม่ได้รับสิทธิ์เข้าไปทดสอบเลย,แม้ว่าตระกูลเฟิงจะมีสถานะที่สูง,ทว่ายังไม่มีคนมากนัก,และเพิ่งที่จะเข้ามาภายในรัฐกลางแห่งนี้ไม่กี่ปีเท่านั้น.

ก๊องงงงง!

เสียงที่สดใสก้องกังวานของระฆังทอง!

เหล่าผู้ชมต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น.

ทุกคนต่างก็ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน,ต่างกำลังจับจ้องมองลงไปยังสนามแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น.

ในเวลาเดียวกันนี้,เกิดลมพายุหมุนที่รุนแรงพัดขึ้นอย่างหนักหน่วงบนท้องฟ้า,ก่อนที่จะปรากฏกลิ่นอายพลังวิญญาณที่หนักหน่วงปรากฏขึ้นมา,พร้อมกับเสียงหัวเราะดังลั่นบนท้องฟ้าก่อนที่จะปรากฏขึ้นบนสนามการแข่งขันแห่งรัฐกลาง.

"งานชุมนุมในปีนี้มันช่างคึกคักดีจริงๆ,โหวเย่ว์เช่นข้าชอบความมีชีวิตชีวายิ่งนัก!"

เมื่อทุกคนได้ยินเสียง,ทำให้ทุกคนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก!

เหล่าประชาชนมากมายในตอนนี้ต่างก็ต้องคุกเข่าให้กับเขา,คนธรรมดา,เหล่าองค์รักษ์และตระกูลขุนนาง,ไม่ว่าจะเป็นตระกูลใหญ่เล็ก,ผู้นำตระกูลทุกคน,รวมทั้งหัวหน้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่และสี่ต้าซือแห่งรัฐกลาง,ต่างก็ลุกขึ้นคารวะในเวลาเดียวกัน.

"คารวะโหวเย่ว์วายุเทพ!"

"คารวะโหวเย่ว์วายุเทพ!"

โหวเย่ว์วายุเทพเฟิงหยุนเทียนที่สวมชุดคลุมสีน้ำเงิน,พร้อมกับก้าวไปบนอากาศ,พริบตาเดียวก็เคลื่อนที่ไปถึงร้อยเมตร,ก่อนที่จะลงไปยังที่นั่ง,ที่ด้านข้างญาติทั้งสองของเขา.

"ไม่จำเป็นต้องมากพิธี!"

"โหวเย่ว์เพียงแค่ต้องการมาชมการแข่งขันเท่านั้น,ปล่อยให้เป็นไปตามพิธีเดิม,ไม่จำเป็นต้องจัดเตรียมอะไรให้กับข้า!"

ไม่ว่าจะเป็นใครเหล่าประชาชนมากมายไปจนถึงคนตระกูลขุนนางต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น,โหวเย่ว์วายุเทพนั้นแม้ว่าจะไม่มีตำแหน่งใดๆก็ตาม,หากแต่คนผู้นี้ก็เปรียบได้กับเทพผู้พิทักษ์ของรัฐกลางแห่งนี้,เป็นหนึ่งในแปดของโหวเย่ว์ทั้งหมดในอาณาจักรหนานเซียแห่งนี้!

ถึงจะเป็นเพียงแค่นามโหวเย่ววายุเทพเท่านั้น.

สถานะของเขาเองก็สูงกว่าท่านเจ้าเมืองแล้ว!

ตระกูลเฟิงนั้นถึงจะเป็นตระกูลราชวงศ์ยังให้ความเคารพพวกเขาไม่น้อย,ด้วยการทำสงครามกับเผ่าอสูรวิญญาณและสามารถทำผลงานได้โดดเด่นเป็นอย่างมาก,เฟิงหยุนเทียนในครานั้นได้เป็นผู้นำเผ่ามนุษย์ออกต่อสู้กับเหล่าอสูรวิญญาณ,ด้วยจำนวนคนไม่มากนัก,ก่อนที่จะได้รับเหรียญสดุดีทางการทหารและได้รับการประทานนามเป็นโหวเย่ว์วายุเทพและเขาก็ได้นำตระกูลมาตั้งรกรากที่รัฐกลางแห่งนี้มาสิบสองปีแล้ว.

ในสงครามที่รุนแรงในครั้งนั้น,เหล่าผู้เยาว์ของตระกูลเฟิงนั้นได้เสียชีวิตไปไม่น้อย.

เฟิงหยุนหู่,เฟิงหยุนหลง พวกเขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเฟิงหยุนเทียน,ทว่าพูดตามจริงแล้วคนทั้งสองนั้นเป็นเพียงคนของตระกูลสาขา,อย่างไรก็ตามเฟิงหยุนเทียนนั้นหาได้ใส่ใจในลาภยศ,เขาจึงได้มอบตำแหน่งทุกอย่างให้กับพวกเขาสองพี่น้อง,แม้แต่หัวหน้าตระกูลเขายังไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย,ทำให้คนทั้งสองนั้นกลายเป็นคนของตระกูลหลักและรักษาตำแหน่งแทน.

เมื่อเฟิงหยุนเทียนรู้ว่าบุตรสาวของตัวเองนั้นเส้นปราณพิการมาตั้งแต่เกิด,ตระกูลเฟิงเองก็รับรู้ดีว่าเป็นเป็นเพียงพวกใช้การไม่ได้,แต่ถึงอย่างงั้นพวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะใช้ทุกวิธีการใช้ทรัพยากรล้ำค่ามากมายในการบำรุงร่างกายของนาง.

ด้วยเหตุผลที่ว่า.

เฟิงหยุนเทียนก็คือคนที่เป็นประมุขตระกูลที่แท้จริง.

เพราะว่าเขานั้นช่วยเหลือตระกูลมากมายนักและยังมอบตำแหน่งให้กับพวกเขา,จะเป็นไปได้อย่างไรที่ตระกูลเฟิงจะปฏิเสธที่จะรักษาลูกหลานได้?นี่คือสิ่งที่ตระกูลเฟิงนั้นสามารถทำได้เพื่อตอบแทนเขา!

ตระกูลเฟิงที่มีอำนาจในรัฐกลาง,แต่ถึงกระนั้นคนของพวกเขาก็ไม่ได้มีมากมายนัก.

อย่างไรก็ดี,ด้วยความแข็งแกร่งของโหวเย่ว์วายุเทพเหนือล้ำกว่าใครทุกคนในรัฐกลางและแน่นอนว่าย่อมไม่มีใครกล้าล่วงเกินพวกเขา,ด้วยชื่อเสียงที่ขจรขจายไปทั่วทั้งอาณาจักรหนานเซี่ย,ถึงจะเป็นอาวุโสของสามตระกูลใหญ่ของอาณาจักยังต้องให้ความเคารพต่อโหวเยว์วายุเทพเลย.

ดังนั้นจึงไม่ได้เกี่ยวกับว่าพวกเขาจะมีสมาชิกมากมายเพียงใด!

ด้วยชื่อเสียงและความสามารถของโหวเย่ว์วายุเทพเพียงพอที่จะเป่าทุกคนให้หายไป!

"ไม่เจอท่านพี่มานาน!"

"เชิญท่านมานั่งที่นั่งตรงนี้ดีกว่า!"

ถึงจะเป็นเจ้าเมืองเฟิงหยุนหลงก็ตามทีย่อมไม่กล้าที่จะเชิดหน้าเมื่ออยู่ต่อหน้าโหวเย่ว์เวายุเทพได้,ทว่าเฟิงหยุนเทียนนั้นก็ไม่ได้สนใจเขาเช่นกัน,เขาได้นั่งยังตำแหน่งสูงที่สุด,"เริ่มรึยัง?"

"เริ่มได้,"เฟิงหยุนหู่ที่เป็นประธานสถาบันแห่งรัฐกลางที่รับผิดชอบงานได้ลุกขึ้นยืนและกล่าวว่า"งานประลองใหญ่,เริ่มขึ้นได้!"

เสียงระฆังสีทองขนาดใหญ่ได้ลั่นดังก้องกังวานขึ้นอีกครั้ง.

เหล่าผู้แข่งขันกว่า 100 คนได้เข้าสู่สนามเรียบร้อยแล้ว.

"สนามการแข่งขันที่ 3 ,งานประลองรอบแรกเริ่มได้!"

"ลูเร็นปะทะฉู่หมิง!"

ฉู่เทียนถึงกับเพ่งพิศตื่นตะลึงอยู่ไม่น้อย,ไม่คิดเลย?มันจะบังเอิญขนาดนี้,ไม่เพียงแต่รอบแรกเท่านั้น

คาดไม่ถึงจริงๆว่าจะต้องได้ประจันหน้ากับคนสกุลฉู่!

ฉู่เทียนที่เดินเข้ามาในสนาม.

คนจำนวนมากต่างก็เพ่งพิศด้วยความสนใจ.

หยุนเทียนเหอถึงกับลุกขึ้นยืน,"เป็นเจ้าเด็กนั่น!"

ดวงตาของฉู่ซิงเหอถึงกับเบิกตากว้าง,สายตาทีคมกริบของเขาจับจ้องมองไม่วางตา"เป็นเจ้าเด็กเวรก่อนหน้านี้รึ?"

เฟิงหยุนเทียนนั้นสามารถบอกได้แน่นอนว่านี่คือฉู่เทียน,เขาจับจ้องมองฉู่เทียนอยู่หลายครา,"เป็นศิลปะการปลอมตัวที่ยอดเยี่ยมนัก,แม้แต่ข้ายังยากที่จะมองเห็นตัวตนที่แท้จริงได้,ไม่แปลกใจเลยว่าสามารถหลบสายตาของคนจำนวนมากได้."

ฉู่หมิงนั้นเป็นผู้ติดตามของตระกูลฉู่.

ตระกูลฉู่เองก็เหมือนๆกับตระกูลหยุน,หากว่าตระกูลหยุนคือตระกูลของนักวิชาการ,เช่นนั้นตระกูลฉู่ก็คือตระกูลของนักรบ,ตระกูลหยุนที่รับนักวิชาการทั่วทั้งรัฐกลาง,ทว่าตระกูลฉู่นั้นรับเหล่านักรบทั่วทั้งรัฐกลางเช่นกัน.

ความแข็งแกร่งของตระกูลฉู่นั้นย่อมทรงพลังมากกว่าตระกูลหยุน,ตระกูลฉู่จึงมีทรัพยากรมากมายพื่อหล่อเลี้ยงผู้เยาว์ในด้านการฝึกฝนเป็นอย่างดี.

แน่นอนว่าอาหารในโลกนี้ไม่ได้กินโดยที่ไม่ต้องจ่ายอะไรไป,การดูแลของตระกูลฉู่นั้น,ก็ย่อมมีเงื่อนไขที่หนักหนาไม่น้อย,พวกเขาต้องถวายตัวและรับใช้ตระกูลฉู่เป็นผู้ติดตาม,ตราบเท่าที่เข้าตระกูลฉู่แล้ว,ทุกคนจะต้องเปลี่ยนสกุลเป็นฉู่.

ฉู่ถงเหวินเองก็ด้วย,หรือจะเป็นฉู่ป้าเทียนก็ไม่ต่างกัน.

ชายหนุ่มฉู่หมิงเองก็ไม่ต่างจากพวกเขา.

ฉู่หมิงที่เคยเป็นชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์และมีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,ตระกูลฉู่ที่ยื่นโอกาสให้เขา,ดังนั้นแล้วเขาจึงได้ขายชื่อให้กับตระกูลฉู่ในราคาสูง,ในสิบปีนี้เขานั้นได้ถวายชีวิตเพื่อตระกูลฉู่,ด้วยการได้รับวิชาบำเพ็ญชั้นสูงและฝึกฝนอย่างหนัก,ตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนตระกูลฉู่เต็มตัวแล้ว.

ฉู่หมิงนั้นไม่ได้เข้าเรียนที่สถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง,เขาเป็นหนึ่งในผู้เข้าคัดเลือกของคนภายนอก อีกกลุ่มหนึ่งในรอบคัดเลือกนั่นเอง.

คนของตระกูลฉู่นั้นต่างก็เผยแววตาที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก.

อาวุโสคนหนึ่งกล่าวออกมาว่า"พรสวรรค์ของฉู่หมิงภายในตระกูลฉู่ของเรานับว่าหายากมาก."

"ใช่แล้ว!"อาวุโสอีกคนพยักหน้า,"เขามีอายุเพียงแค่ 20 เอง,ก็มีพลังฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้น 2 แล้ว,เหนือกว่าเหล่าอาวุโสธรรมดาและพ่อบ้านหลายคนเลย."

"สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของเขานั้น,คือเพลงกระบี่ชั้นยอด,ในระดับเดียวกันนี้คงยากที่จะหาใครสามารถต้านทานกระบี่ของเขาได้,ถึงแม้จะเป็นข้ายังไม่สามารถสู้กับเขาได้เลย."

"ผู้ฝึกตนไร้นามเช่นนั้นต้องแพ้อย่างแน่นอน!"

เหล่าคนของตระกูลฉู่ต่างก็มั่นอกมั่นใจกันเป็นอย่างมาก.

มีเพียงแค่ฉู่ซิงเหอเท่านั้นที่กำลังขมวดคิ้วแน่น.

ในเวลาเดียวกัน,ฉู่หมิงที่ชักกระบี่โค้งออกมา,พร้อมกับยืนอย่างสุขุมและจ้องมองไปยังฉู่เทียน"ข้าให้โอกาสเจ้ายอมแพ้ตอนนี้!ข้าคือคนของตระกูลฉู่,ผู้ฝึกตนไร้นามกระจอกๆเช่นเจ้าหาญกล้าท้าทายคนตระกูลฉู่เช่นนี้,มีแต่ต้องตายเท่านั้น!"

ฉู่เทียนที่ไม่ได้ชักกระบี่ออกมา,ยืนกอดอกจ้องมองไปด้านหน้า"เจ้านี้ช่างกล้ามากล่าวอะไรไร้เดียงสาเช่นนี้?ลำพังเป็นแค่ทาสตระกูลฉู่,คิดว่าเป็นคนตระกูลฉู่แบบใดกัน?อย่าพล่ามให้มาก,ลงมือได้เลย!"

ทาสตระกูลฉู่อย่างงั้นรึ?

มันเป็นคำพูดที่แทงไปที่จุดเจ็บของฉู่หมิงเป็นอย่างมาก!

"แส่หาความตาย!ข้าจะช่วยเจ้าก็ได้!"

ฉู่หมิงที่กุมกระบี่โค้งของเขา,ก่อนที่จะพุ่งออกไปด้านหน้า,ร่างกายของเขาที่แทบจะมองไม่เห็น,พริบตาเดียวก็มาปรากฏอยู่ข้างหน้าฉู่เทียน,กระบี่โค้งของเขาเรืองแสงปล่อยประกายแสงที่เย็นยะเยือบออกไปพร้อมกับพุ่งไปยังหน้าอกฝ่ายตรงข้าม.

รวดเร็วเป็นอย่างมาก!

ร่างกายของฉู่หมิงที่แทบมองไม่เห็นความเคลื่อนไหวเลย,พริบตาเดียว,กลายเป็นเงาเลือนฟันไปด้านหน้าอย่างรุนแรง,รวดเร็ว.

หากแต่ฉู่เทียนนั้นกับไม่กระพริบตาแม้แต่น้อย,จ้องมองไปยังคมดาบที่กำลังพุ่งมาโดยไม่ทำอะไรเลยแม้แต่น้อย.

ทุกคนที่จับจ้องมองต่างก็ร้องออกมาด้วยท่าทางตื่นตะลึง"ไม่คิดจะหลบเลยรึ?"

ขณะที่กระบี่ส่งสว่างวาบพร้อมกับจ้วงออกไปในทันทีนั้น,ร่างของฉู่หมิงที่กลายเป็นริ้วแสงพร้อมกับร่างของเขาก็เลือนหายไปด้วยเช่นกัน!

เหล่าผู้ชมตอนนี้เต็มไปด้วยความตื่นตระหนก!

วิชาที่ฉู่หมิงฝึกฝนมานี้เป็นวิชาศาสตร์ลอบสังหาร,เป็นทักษะที่น่าหวาดกลัวยิ่งนัก,เพียงพริบตาเดียวที่เห็นว่าพุ่งเขามาโจมตี,แท้ที่จริงแล้วกับเป็นเพียงภาพลวงตาแทบจะไม่สามารถแยกแยะได้เลยว่า ภาพใหนเป็นตัวจริงหรือตัวปลอม.

ยิ่งฉู่เทียนพยายามที่จะต่อต้านหรือขยับล่ะก็,แน่นอนนั่นก็จะเป็นการเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมา,เช่นนั้นจะเป็นฉู่หมิงที่ฉวยโอกาสโจมตีเข้ามาได้.

ร่างของเขาที่เปลี่ยนเป็นเงาเลือนที่ปรากฏตัวไปมาและหายไปในแต่ละตำแหน่งที่ต่างกันไป.

ฉู่เทียนที่สามารถสัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือบที่กำลังฟันมายังคอหอยของเขา.

จิตสัมผัส!

ฉู่เทียนที่ขยับเพียงแค่เล็กน้อยห่างออกไปเพียงแค่ปลายเส้นผม,ก็สามารถหลบการโจมตีดังกล่าวได้.

ใบหน้าของฉู่หมิงถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.

กระทืบไปที่พื้นอย่างรุนแรงอีกหลายครั้ง.

แปรเปลี่ยนเป็นเงาเลือนและหายไปอีกครั้ง.

ฉู่เทียนที่เผยยิ้มที่เย็นชาแสดงท่าทางเหยียดหยัน,และค่อยๆรวบรวมพลังวิญญาณไปรวบตัวกันที่นิ้วมือด้านซ้ายก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นสีทอง.

ดัชนีเพชรตัดชีพจร!

ทันทีที่เขาปรากฏออกมาที่ด้านหน้า.

เคร้ง!

นิ้วสีทองของเขาก็คีบไปยังคมกระบี่พร้อมกับหักมันออกเป็นชิ้นๆ.

แกร๊กๆ!

ฉู่เทียนที่ใช้พลังเพียงแค่เล็กน้อย

ใบกระบี่ที่ถูกหักออกมาในพริบตานั้น,พลังที่มากมายที่คลุมอยู่สูญเสียการควบคุมในทันที,ทันใดนั้นก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง,ร่างโปร่งแสงของฉู่หมิงเองก็ถูกคลื่นกระแทกจนกระเด็นออกไปหลายก้าว.

ก่อนที่จะเผยร่างออกมาให้ทุกคนเห็น.

นี่คือทักษะตระกูลฉู่, <เพลงกระบี่ลับร่างสมมติ>,เป็นไปได้อย่างไรที่เขาสามารถมองกระบวนท่าดังกล่าวได้!

ฉู่หมิงที่จ้องมองไปยังกระบี่ยาวของเขาที่ถูกหักสะบั้น,ใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนเป็นดำมืดและเย็นชา,ตอนนี้เต็มไปด้วยความโกรธ.

มันเป็นไปได้อย่างไร?

ข้าคือคนที่มีพรสวรรค์ที่สุดในลานฝึกฝน!คาดไม่ถึงเลยว่าจะถูกผู้ฝึกตนไร้นามเช่นนี้จะหักหน้าข้าถึงขนาดนี้!

"ข้าไม่เชื่อจะสังหารเจ้าไม่ได้!"

ฉู่หมิงที่กระตุ้นพลังวิญญาณมากมายเพื่อเข้าโจมตีอีกครั้ง,หากแต่ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่หน้าอกของตัวเอง,ก่อนที่เขาจะก้มหน้าจ้องมอง,เศษกระบี่หัก ที่กำลังส่องประกายวับวาว ไม่รู้ว่าทะลวงเข้ามาในอกของเขาเมื่อไหร่,โลหิตที่กำลังพุ่งกระฉูดออกมาไม่หยุด.

"ไม่,ไม่!!!!"

ฉู่หมิงที่กุมหน้าอกตัวเองด้วยท่าทางหวาดกลัวสุดขีด,ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าได้อีกไม่กี่ก้าว,ท้ายที่สุดก็ทรุดลงนอนกองอยู่บนพื้น.

"นี่นะรึเพลงกระบี่ตระกูลฉู่?"ฉู่เทียนที่เดินตรงมายังร่างของฉุ่หมิงที่พะงาบๆ,ก่อนที่เตะราวกับบอลยาง,เขี่ยเขาลงเวทีไป,"เป็นวิชาที่ดาดๆทั่วไปเท่านั้น!"

เป็นการโจมตีที่น่าตื่นตะลึงยิ่งนัก!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันสร้างแรงสันสะเทือนขนาดใหญ่ไม่น้อย!

เพลงกระบี่ตระกูลฉู่เป็นเพียงวิชาดาดๆอย่างงั้นรึ?!

พวกเขานั้นคือตระกูลมือกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของรัฐกลาง,และยังเป็นตระกูลเชี่ยวชาญเชิงกระบี่ที่แข็งแกร่งที่สุดของอาณาจักรหนานเซียแห่งนี้อีกด้วย,คาดไม่ถึงเลยว่า คนผู้นี้กลับหาญกล้ากล่าวว่าเพลงกระบี่ตระกูลฉู่แค่ดาดๆอย่างงั้นรึ?นี่ไม่ได้หมายความว่าเป็นการทำลายชื่อเสียงอย่างรุนแรงของตระกูลฉู่ไปหรอกเหรอ!


ฉู่ซานเหอที่จ้องมองอย่างเย็นชาราวกับน้ำแข็ง,"ไอ้เด็กเวรนี้จะต้องตาย!"



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น:

  1. มรึงเป็นสายล่อฟ้าเหรอครับ หาเรื่องได้ตลอด เกิดโหวเหยไปเที่ยวกะคุณแม่น้ำแข็ง พี่ฉู่เตรียมลงโลงได้เลย

    ตอบลบ