วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 150 Trials

Miracle Throne Chapter 150 Trials

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 150 งานประลอง


บทที่ 150 งานประลอง



  元魂 Blue Luan Source Spirit แปลไว้ตอน 87 เป็นนกยูงสีน้ำเงิน
มันคือ
  สีเขียว  青色 สีน้ำเงิน   ( eng กับแปลเป็นน้ำเงินมา )
ความหมายคือ (luán ลวัน ) นกตระกูลหงส์ ,元魂 Source Spirit
***ดังนั้น ขอเปลี่ยนภูติวิญญาณของเฟิงไฉ่เตี๋ย จาก นกยูงสีนำเงิน เป็น หงส์มรกต 


เฟิงชิงหยุนนั้นดูเหมือนว่าจะซ่อนพลังของตัวเองเอาไว้ด้วย.

หากฉู่เทียนไม่ใช้ทักษะเนตรจิต,ย่อมไม่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังของเขาแน่นอน.

อย่างไรก็ตามท่าทางที่ยโสโอหังของเขานั้น,ไม่ได้ไว้หน้าเฟิงไฉ่เตี๋ยแม้แต่น้อย,นั่นคงเป็นเพราะเขาคิดว่ามีสิทธิ์ที่จะโอหังนั่นเอง.


เฟิงชิงหยุนและเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้น,พวกเขาต่างก็เป็นคนของตระกูลเฟิง,และยังไม่ได้เป็นคนของสถาบันแห่งรัฐกลาง,พวกเขาทั้งคู่ต่างอาศัยกฎเกณฑ์ที่เปลี่ยนไปชั่วคราว,โดยเรื่องในครั้งนี้,เป็นประธานที่ทำการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงโดยที่ไม่ปรึกษาใครเลยแม้แต่น้อย,อาจเป็นไปได้ว่าเป็นตระกูลเฟิงที่ต้องการทำเช่นนี้เพื่อสองคนนี้ก็เป็นได้.

ใบหน้าของเฟิงไฉ่เตี๋ยที่ดูเหนื่อยหน่าย"ชิงหยุนนั้นเป็นเป็นบุตรของลุงสองข้า,หลายปีมานี้เขาได้ฝึกฝนอยู่ภายนอก,เวลานี้เขาเดินทางมาเขาร่วมการแข่งขันนี้โดยเฉพาะ,เขาไม่ค่อยพอใจข้าตั้งแต่เด็กแล้ว,เขาเข้าใจเกี่ยวกับตัวข้าผิดไป...ดังนั้นแล้วเมื่อเขาเห็นเจ้าที่ดูจะเกี่ยวข้องกับข้า,เขาคงอดไม่ได้ที่จะเข้ามาหาเรื่อง."

นิสัยยังกับเด็กที่ไม่รู้จักโต.

แม้ว่าเขาจะกล่าวต่อฉู่เทียนด้วยน้ำเสียงที่รุนแรงก็ตาม,ทว่าตราบเท่าที่ไม่ได้เกินเลยไป,ฉู่เทียนก็ย่อมไม่เอาเรื่องราวของเด็กน้อยมาใส่อยู่แล้ว.

กลุ่มหกคนก็ได้ถูกตั้งขึ้น.

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่เป็นหัวหน้าทีมในการลงทะเบียนการแข่งขันในครั้งนี้.

ตอนนี้เป็นการแข่งขันรอบคัดเลือก,แต่ละทีมจะต้องประจันหน้ากับฝ่ายตรงข้ามและฝ่ายใหนที่ชนะหรือเหลือคนอยู่มากที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะ,มีเพียงแค่สองทีมเท่านั้นที่จะสามารถผ่านเข้าไปในรอบถัดไป.

ปัจจุบันมีทีมที่เข้าร่วมเพียงแค่สิบกว่าทีมเท่านั้น,เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงกฏนั้นเกิดขึ้นอย่างกระทันหัน,ทำให้รู้กันเฉพาะกลุ่มทหารรับจ้าของรัฐกลางเท่านั้น,แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงกฏนี้เกิดขึ้นรวดเร็วจนเกินไปทำให้ข่าวที่กระจายออกไปนั้นยังไปไม่ถึงเมืองอื่นด้วยซ้ำ,ดังนั้นคนส่วนมากจึงไม่มีเวลาเตรียมตัวนั่นเอง.

ตอนนี้กำลังจับสลากแบ่งสายเรียบร้อยแล้ว.

"ทีมเฟิงไฉ่เตี๋ย พบกับ ทีม จินหนิว!"

การแข่งขันรอบแรกนั้นเป็นกลุ่มของทหารรับจ้างที่รวมทีมขึ้นมาและผู้ฝึกตนไร้สังกัด,พวกเขาที่เป็นเพียงกลุ่มทหารรับจ้างขนาดเล็กเท่านั้น,ดังนั้นแน่นอนว่าคงไม่มีความแข็งแกร่งมากนัก.

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่กล่าวออกมาอย่างมั่นใจ,"ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!"

ฉู่เทียนที่สัมผัสได้ว่าความแข็งแกร่งของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นมีความแข็งที่เหนือกว่าระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 ซะอีก,ในแง่พลังฝึกตนเองนางก็มีความแข็งแกร่งกว่าฉู่เทียน,เฟิงไฉ่เตี๋ยที่เป็นธิดาของโหวเย่ว์วายุเทพ เฟิงหยุนเทียนนั้น,ทรัพยากรที่นางได้รับและใช้ไปนั้นไม่สามารถที่จะนำเหล่าทหารรับจ้างมาเทียบได้เลยแม้แต่น้อย.

ฉ่าง!!!

เสียงของฉาบทองแดงที่ถูกตีเสียงดังสนั่นไปรอบๆ!

การแข่งขันได้เริ่มขึ้นแล้ว.

"สังหารพวกมัน!"

เหล่าคนทั้งหกของทีมจินหนิวต่างก็ปลดปล่อยพลังของภูติวิญญาณของตัวเองออกมาพร้อมกัน,และทุกคนต่างก็พุ่งมาจากทุกทิศทุกทางและพวกเขาที่เข้าโจมตีพร้อมๆกัน,เป็นการเข้าโจมตีที่รุนแรงบ้าคลั่งราวกับห่าฝนเลยก็ว่าได้.

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่ไม่รีบไม่เร่ง,ขยับไปมาราวกับผีเสื้อสะบัดปีก,ร่างกายของนางที่ยืดหยุ่นเลื่อนไหลไปมากลายเป็นริ้วแสง,เคลื่อนที่ออกไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว,ความเร็วของนางนั้นแทบจะไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า,เหล่าทหารรับจ้างทีมจินหนิวนั้นไม่สามารถที่จะแตะต้องนางได้แม้แต่เสื้อผ้า.

"เป็นการเคลื่อนไหวที่ร้ายกาจมาก!"

ทีมจินหนิวนั้นรู้สึกตื่นตระหนกไปพร้อมๆกัน,พวกเขาหวาดหวั่นภายในใจไม่น้อย.

ร่างของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นกระโดดออกไปอย่างนุ่มนวล,ราวกับว่านางเป็นวิหกที่งดงามกำลังโผบินขึ้นไปบนท้องฟ้า,พลังวิญญาณเขียวที่ถูกปลดปล่อยออกมานั้นกำลังหมุนวนรอบๆร่างกายของนาง.

แกร๊กๆ!

แทบจะในทันที.

เสียงหวีดร้องที่ดังออกมาในทันทีทันใด!

วิหกยักษ์สีเขียว ปรากฏขึ้นบนร่างของเฟิงไฉ่เตี๋ย,เป็นวิหกสีน้ำเงินที่ดูทรงพลังเป็นอย่างมาก,มีกลิ่นอายที่สง่า สูงส่งทรงพลังมีอักษรรูนลึกลับมากมายที่หมุนวนอยู่,กลิ่นอายที่น่าอัศจรรย์นี้แข็งแกร่งสามารถที่จะกดทับลงมาบนทีมจินหนิวทุกคนให้ต้องถอยหลังออกไป.

ฉู่เทียนที่หรี่ตาลงเล็กน้อย"หงส์มรกตแห่งสายลม?ช่างเป็นภูติวิญญาณที่ยอดเยี่ยม!"

"หงส์มรกต!"

"นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตในตำนาน!"

"ภูติวิญญาณตนนี้เกือบจะมีระดับพระเจ้าแล้ว!"

เหล่าทีมจินหนิวนั้นไม่คิดเลยว่าการต่อสู้รอบแรกนั้นจะต้องพบเข้ากับฝ่ายตรงข้ามที่น่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้!

คนทั้งหกนั้นต่างก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 1 เท่านั้น,ภูติวิญญาณของพวกเขานั้นก็เป็นเพียงภูติระดับธรรมดา,ลำพังเฟิงไฉ่เตี๋ยที่มีระดับปลุกดวงจิตระดับ 2ขั้นปลาย ,พวกเขาทั้งหมดที่มีพลังปลุกดวงจิตระดับ 1 ก็ยากจะต่อกรแล้ว,ซ้ำภูติวิญญาณของนางนั้นยังเป็นหงส์มรกตที่แข็งแกร่ง,ถึงพวกเขารวมพลังกันทั้งหกคนก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้เลย.

ทีมจินหนิวที่ไม่ยินยอมที่จะยอมรับความพ่ายแพ้,พวกเราร่วมพลังเป็นหนึ่ง!"

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่เงื้อฝ่ามือขึ้นฟาดลงไป,"วายุหมุนสลายมวลเมฆา!"

ร่างของหงส์มรกตขนาดมหึมาแปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังบริสุทธิ์สีเขียวขึ้นมาในทันที,พร้อมกับสองมือของเฟิงไฉ๋เตี๋ยที่กำลังโบกไปมาควบคุมพลังดังกล่าว,กลายเป็นพลังหมุนวนขึ้นมาอย่างรุนแรง,แรงกดดันมหาศาลและหนักหน่วงกำลังแผ่ขยายขึ้นมาเรื่อยๆจนกลายเป็นพายุแห่งพลังวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว.

ท้ายที่สุดก็กลายเป็นพายุลมกรดสีเขียวขนาดมหึมาที่กำลังกวาดทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ รวมทั้งคนทั้งหกนั้นด้วย.

"ไม่ดีแล้ว!"

"วิ่งเร็วเข้า!"

จะมีสักกี่คนที่หลบลมพายุหมุนนี้ได้?

พายุลมกรดที่พุ่งออกไป หมุนวนด้วยความเร็วและพลังที่มากมาย,เหล่าคนทั้งหกแน่นอนว่าไม่มีแม้แต่เวลาให้หลบ,พวกเขาทั้งหมดถูกพายุลมกรดกลืนเข้าไปในทันที,พวกเขาทั้งหมดนั้นถูกพัดหมุนขึ้นไปบนท้องฟ้า,ไร้ซึ่งพลังต่อต้านได้เลยแม้แต่น้อย,สุดท้ายแล้วก็ถูกเหวี่ยงออกไปกระจัดกระจายหล่นไปในทิศทางที่ต่างกัน.

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่ใช้พลังด้วยความรอบคอบ.

แม้ว่านางจะโจมตีจัดการคนทั้งหกก็ตามที,ทว่านางก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำให้พวกเขาได้รับบาดเจ็บ.

"พวกเรายอมรับความพ่ายแพ้แล้ว!"

"ความแข็งแกร่งของท่านหญิงเฟิงนั้นช่างร้ายกาจจริงๆ!"

พวกเขาทั้งหมดต่างยอมรับความพ่ายแพ้อย่างหมดจด,เฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นมีพลังปลุกดวงจิตระดับ 2 ขั้นปลายแล้ว,ซ้ำนางยังมีภูติวิญญาณหงส์มรกตอีกด้วย,ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 3 นางยังสามารถต่อกรได้!

ใครกันที่บอกว่านางเป็นเพียงคนพิการของรัฐกลาง,นางร้ายกาจทรงพลังถึงเพียงนี้เลยรึ?

เหล่าคนที่จ้องมองกันอยู่นั้นต่างรู้สึกประหลาดใจจ้องมองออกไปตาโต,พลังฝึกตน,วิชาบำเพ็ญและยังมีภูติวิญญาณนั่นอีก,ทุกอย่างล้วนแล้วแต่อยู่ในระดับชั้นยอดทั้งนั้น!

นี่คือเฟิงไฉ่เตี๋ยอย่างงั้นรึ?

เหล่าผู้ชมมากมายต่างประหลาดใจอึ้งไปตามๆกันก่อนที่จะค่อยๆตั้งสติได้,ทันใดนั้นก็ระเบิดเสียงปรบมือและส่งเสียงยินดีดังกึกก้องดังก้องไปทั่วสนาม.

"เยี่ยม!"

"ต่อสู้ได้ดีมาก!"

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่ยืนอยู่บนเวทีการแข่งขัน,เมื่อนางจ้องมองออกไปรอบๆ ด้วยเสียงชื่นชมมากมายแสดงความยินดีดังกึกก้อง,ทำให้ภายในใจของนางนั้นสั่นไหวเต้นไปมาแทบจะไม่สามารถบรรยายออกมาด้วยคำพูดได้เลย.

ไม่เคยมีใครเข้าใจได้ถึงความกดดันที่นางได้แบกรับเอาไว้เลย.

นางที่เป็นธิดาคนเดียวของโหวเย่ว์วายุเทพเฟิงหยุนเทียนนั้น,ทั้งตระกูลเฟิงจำต้องมอบทรัพยากรทุกอย่างให้กับนาง,บอกได้เลยว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ล้ำค่าที่มีอยู่ในเมืองหลวงต่างก็นำมาใช้กับนาง,แน่นอนว่าด้วยนางที่มีปัญหาเส้นปราณมาตั้งแต่กำเนิดไม่มีทางที่จะฝึกฝนวิชาได้เหมือนคนปรกติทั่วไป,ทุกสิ่งทุกอย่างที่ตระกูลเฟิงทำลงไปนั้นทำให้กลายเป็นที่ขบขันให้กับคนทั่วทั้งเมืองหลวงรัฐกลางแห่งนี้.

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่เติบโตมาพร้อมกับคำเหน็บแนมดูถูกดูแคลน!

ความรู้สึงของนางในวันนี้รู้สึกภาคภูมิเป็นอย่างมากเพราะว่านางได้ทิ้งสลัดความมืดมนเหล่านั้นไปได้ในที่สุด,บอกได้อย่างเดียวว่านางซาบซึ้งในความช่วยเหลือของลูเร็นที่ได้ช่วยเหลือนางครั้งนี้อย่างที่สุด!

สายตาของเฟิงชิงหยุนที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองจับจ้องมองออกไป"ไม่คิดเลยว่าดอกไม้ประดับบ้านจะมีวันเปลี่ยนไปได้เหมือนกัน.!"

การแข่งรอบที่สองเริ่มได้.

รอบนี้ก็ยังเป็นเฟิงไฉ่เตี๋ยที่ลงมือออกไปแข่งขันเช่นเดิม,ซึ่งนางเองก็ได้รับชัยชนะมาได้อย่างง่ายดายโดยไม่ได้ออกแรงมากเท่าใดนัก.

ทักษะต่างๆที่นางได้ใช้มานั้นล้วนแล้วแต่เป็นทักษะที่พิเศษยอดเยี่ยมของโห่วเย่ว์วายุเทพทั้งนั้น,ทั้งการป้องกันและโจมตี,เป็นวิชาที่ดูทรงพลังและแปลกประหลาด,นางสามารถใช้มันออกมาได้อย่างคล่องแคล่ว,ซึ่งทักษะเหล่านี้นั้นนางสามารถใช้ได้ตั้งแต่ยังมีพลังระดับปรุงร่างมานานแล้ว,หากแต่มีอีกหลายทักษะที่ไม่สามารถใช้ได้ด้วยพลังฝึกตนที่ยังมีไม่เพียงพอ,ทว่าหลักจากที่นางก้าวขึ้นมา จนกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,วิชาบำเพ็ญดังกล่าวที่นางฝึกฝนมาหลายปี,และพิเศษเป็นอย่างมาก,ซึ่งตอนนี้ก็ก้าวไปถึงระดับ 2 เข้าใจลึกซึ้งประสบผลเชี่ยวชาญ เรียบร้อยแล้วด้วย.

ดังนั้นความแข็งแกร่งของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นมีความแข็งแกร่งที่ครบเครื่องอย่างแน่นอน!

ตอนนี้นางเองก็สามารถที่จะปลุกพลังของภูติวิญญาณหงส์มรกตออกมาได้อย่างเต็มที,ด้วยความแข็งแกร่งของมันนั้น,ถึงจะเป็นผู้ฝึกตระดับปลุกดวงจิตระดับ 3 ,ความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้ก็สามารถต่อกรพวกเขาได้อย่างสบายๆทีเดียว!

ถึงแม้ว่าจะเป็นฉู่เทียนด้วยความแข็งแกร่งที่เขามีตอนนี้ถึงจะสามารถต่อกรกับผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 3 ได้บ้าง,แต่ก็ต้องฝืนใช้กำลังออกมาไม่น้อย,ดังนั้นความแข็งแกร่งของเฟิงไฉ่เตี๋ยในตอนนี้,แน่นอนเลยว่านางจะต้องสามารถเข้าไปสู่รอบสุดท้ายของการแข่งขันได้อย่างแน่นอน!

นี่คือบุคคลที่เป็นเมล็ดพันธ์อันทรงคุณภาพคนหนึ่งอย่างแน่นอน!

รอบแล้วรอบเล่า!

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่แสดงทักษะวิชาต่างๆมากมายหลากหลายอออกมา,สร้างความตื่นตาตื่นใจกับทุกคนเป็นอย่างมาก,สวนคนอื่นๆในทีมของนางนั้น,พวกเขาไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือเลยแม้แต่น้อย.

ท้ายที่สุดแล้วตอนนี้ทีมของนางก็มาถึงรอบคัดเลือกรอบสุดท้ายแล้ว.

สำหรับทีมจากภายนอกนั้นได้เหลือทั้งหมดสี่ทีม,หากว่าพวกเขาสามารถผ่านรอบนี้ไปได้,ก็จะมีสองทีมที่จะสามารถเข้าไปแข่งขันอย่างเป็นทางการได้นั่นเอง.

"ทีมเฟิงไฉ่เตี๋ยพบกับทีมฉีป้า!"

ทุกคนต่างส่งเสียงตะโกนอื้ออึงเลยทีเดียว!

ความแข็งแกร่งของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นเห็นได้อย่างชัดเจนอย่างไม่ต้องสงสัย.

อย่างไรก็ตามทีมของฉีป้าเองก็ไม่ธรรมดา,ไม่เพียงแต่พวกเขามีพลังปลุกดวงจิตระดับ 2 ,วิชาบำเพ็ญของพวกเขาเองก็ลึกล้ำและยังมีประสบการต่อสู้ที่มากมาย!

ที่จริงแล้วมันควรที่จะเป็นการต่อสู้ของคนทุกคนในทีมไม่ใช่คนๆเดียวเช่นนี้!

ใบหน้าของคนในทีมฉีป้าตอนนี้เต็มไปด้วยท่าทางจงเกลียดจงชังเต็มอยู่ในใบหน้าของพวกเขา.

ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าถึงแม้ว่าพวกเขาทั้งหมดร่วมมือกัน,พวกเขายังไม่มีความมั่นใจว่าจะสามารถต่อกรกับเฟิงไฉ่เตี๋ยได้นั่นเอง,นอกจากนี้ยังมีหลินมู่และฟางหานในทีมของเฟิงไฉ่เตี๋ยอีกด้วย,พวกเขานั้นคือทหารรับจ้างที่ชื่อเสียงไม่น้อย,ดังนั้นแล้วการแข่งขันในครั้งนี้พวกเขาย่อมไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อยว่าจะสามารถผ่านไปได้.

กลุ่มของฉีป้านั้นกล่าวออกไปด้วยท่าทางจริงจังขึงขัง"พวกเราคงมีทางเดียวที่จะชนะได้,หวังว่าพวกเขาจะส่งคนออกมาเพียงคนเดียวเหมือนรอบอื่นๆ,หากว่าพวกเราร่วมมือกันและล้มเฟิงไฉ๋เตี๋ยได้ล่ะก็,คนอื่นๆเราก็ไม่ต้องกังวลแล้ว!"

"ใช่แล้ว!"

"เป็นวิธีที่ดีทีเดียว!"

ด้วยพลังวิญญาณที่นางใช้ไปไม่น้อยของเฟิงไฉ่เตี๋ย,หากว่านางเลือกที่จะออกมาต่อสู้เหมือนรอบๆอื่นๆล่ะก็,พวกเขาทั้งหกก็จะร่วมมือในการจัดการนาง,บางทีนี่อาจจะนับว่าเป็นกลยุทธ์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด.

ขณะที่พวกเขาทั้งหกคนที่กำลังคิดแผนการเพื่อที่จะตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอยู่นั้น.

"เจ้าเหนื่อยมาหลายรอบแล้ว."ฉู่เทียนที่ชักกระบี่อเวจีออกมา,พร้อมกับขวางเฟิงไฉ่เตี๋ยเอาไว้,ก่อนที่จะเดินไปยังสนามแข่งขัน,"รอบนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง!"

เฟิงชิงหยุนที่แค่นเสียงเย็นชา,บนใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยัน"ขยะระดับปลุกดวงจิตระดับ 1 อันกระจ่อยร่อย,คาดไม่ถึงเลยว่าต้องการที่จะจัดการกับผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 2 ตั้งหกคน,อยากหาความอัปยศให้กับตัวเองอย่างงั้นรึ?"

ภายในสายตาของเฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นมีประกายแสงแห่งความกังวล"ลูเร็น,ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ได้อ่อนแอ,ทว่าพวกเขาเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 2 กันทุกคน,ถึงเป็นข้ายังไม่มั่นใจว่าจะชนะพวกเขาทั้งหมด,เจ้า...."

เฟิงไฉ่เตี๋ยรู้ดีว่าลูเร็นนั้นแข็งแกร่งมาก.

ในเวลานั้นภายในสุสานศพทมิฬหมื่นปี,มีคนที่แข็งแกร่งมากมายเท่าไหร่กันที่ถูกเขาจัดการ?ทว่าที่แห่งนี้ไม่เหมือนกับภายในสุสานโบราณนั่น,ทุกคนล้วนแล้วแต่ไม่ได้ถูกปิดกั้นพลังฝึกตนด้วยค่ายกล.

ฉู่เทียนในครานั้นก็มีพลังฝึกตนเพียงแค่ระดับปรุงร่างระดับที่ 9 เท่านั้น!

ตอนนี้ผ่านมานานเท่าไหร่กัน?

ฉู่เทียนที่เพิ่งมีระดับปลุกดวงจิต,ซึ่งน่าจะเพิ่งทะลวงผ่านระดับมาได้ไม่นาน,ในเมื่อไม่ได้มีการผนึกพลังเอาไว้ด้วยค่ายกลแล้ว,เขาจะสามารถจัดการคนทั้งหกที่มีระดับปลุกดวงจิตระดับสองนี้ได้อย่างงั้นรึ?

เฟิงไฉ่เตี๋ยนั้นไม่ใช่ไม่เชื่อความสามารถเขา,ทว่าคนเหล่านี้มีความสามารถที่ยากจะจินตนาการถึงได้!

เฟิงชิงหยุนที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา"หากไม่มีปัญญา,ให้ข้าไปแทนก็แล้วกัน!"

ฉู่เทียนที่ไม่ได้สนใจเฟิงชิงหยุน,กล่าวต่อเฟิงไฉ่เตี๋ย"โปรดวางใจ!ข้าไม่เป็นไร!"

หลังจากกล่าวจบ,เขาไม่ได้สนใจใบหน้าที่อึมคลึมของเฟิงชิงหยุนแม้แต่น้อย,และก้าวเดินออกไป.

ใบหน้าของฉีป้าถึงกับตะลึงไปเลยทีเดียว"ทำไมเป็นสวะเช่นเจ้าล่ะ?!"

คนอีกคนเผยยิ้มออกมาอย่างเหน็นแนม"เจ้าเด็กนี้ถูกทีมของเราปฏิเสธ,ขี้หมาอย่างมันกับโชคดีถูกท่านหญิงเฟิงเหยียบติดเท้ามา,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเกาะแข็งเกาะขาจนมาถึงรอบสุดท้าย!"

"ข้าขอเตือน เจ้าอย่าทำให้ข้าต้องเสียเวลา!ไอ้สวะ!ให้ท่านหญิงเฟิงออกมา!"

สมาชิกอีกคนหนึ่งของทีมก็พูดสอดขึ้นมาทันที,"สงสัยท่านหญิงเฟิงจะหวั่นเกรงพวกเรา,เลยส่งขยะออกมาลองเชิงก่อนล่ะมั้ง?"

ฉู่เทียนที่ส่ายหน้าไปมา,"คนละกระบวนท่าก็คงพอมั้ง!"

ฉีป้าจ้องมองเขม็ง"พูดอะไร?"

ฉู่เทียนที่ไม่สนใจที่จะอธิบายเลยแม้แต่น้อย,เขาค่อยๆยกกระบี่ขึ้นช้าๆ,ก่อนที่เปลวเพลิงสีขาวน้ำเงินกำลังลุกโชติช่วงที่คมกระบี่.

"เจ้าเด็กเวรนี้ดูเหมือนว่าจะมีอะไรเด็ด!"

"ไป!ดูแลมันหน่อยสิ!"

คนทั้งหกที่กำลังเตรียมตัวจะเข้าโจมตี.

ปัง!

ทันใดนั้นเปลวเพลิงขนาดมหึมาของกระบี่อเวจี,ก็คลุมไปยังร่างของฉู่เทียนในทันที,เมื่อมันหมุนวนคลุมร่างของเขาไปทั้งหมดแล้วร่างของเขาก็ละลาย,ฉู่เทียนก็ได้หายไปในทันที.

"ไปใหนแล้ว?"

"ทำไมมันหายไปใหนแล้ว!"

คนทั้งหกไม่มีแม้แต่เวลาที่จะตื่นตกใจ.

ฉว๊ะ!

แสงกระบี่สาดส่องฟันมายังพวกเขาในทันที.

"อ๊าก!"

ทั้งอาวุธชุดเกราะของพวกเขาถึงกับละลาย,แม้แต่พลังวิญญาณที่ป้องกันร่างของเขาถึงกับถูกฉีกกระชากออกมาราวกับแผ่นกระดาษ,เปลวเพลิงปิศาจอเวจีนั้นติดแน่นฝั่งลึกเข้าไปยังร่างของลูกทีมคนหนึ่งของพวกเขา,พวกเขาทั้งหมดถึงกับขวัญหนีดีฝ่อตื่นตระหนกอย่างที่สุด,ถึงจะล้มลงเกลือกกลิ้งไปมาบนพื้นเพื่อที่จะดับไฟดังกล่าวให้เร็วที่สุดก็ตาม.

เพลิงอเวจีนั้นหาได้ใช่เพลิงทั่วไป,ไม่ใช่ว่ามันจะสามารถดับได้โดยง่าย,ยิ่งพวกเขาดิ้นรนเปลวเพลิงก็จะยิ่งโหมกระหน่ำ.

เห็นแค่เพียงประกายแสงกระบี่.

ไม่สามารถมองเห็นร่างของคนโจมตีด้วยซ้ำ!

นี่คือวิชาบำเพ็ญศาสตร์ลอบสังหารของนักฆ่า!

ฉีป้าไม่คาดคิดเลยว่าชายหนุ่มที่ดูกระจอกงอกง่อย,กลับมีวิชาบำเพ็ญเช่นนี้.

วิชาบำเพ็ญศาตร์ลอบสังหารนั้นไม่ใช่วิชาทั่วไป การฝึกฝนนั้นโหดหินยากลำบากเป็นอย่างมาก.

หากแต่สิ่งที่เขาเห็นตอนนี้.

วิชาบำเพ็ญสายลอบสังหารนั้นมีพลังทำลายที่รุนแรงมหาศาลมากหากแต่เมื่อโจมตีออกไปแล้วจะคงอยู่ได้ไม่นาน,หากแต่ที่พวกเขาต้องประสบอยู่นี้,ผู้เยาว์คนนี้หลังจากที่โจมตีไปแล้ว,เขาก็ยังไม่เผยร่างออกมาให้เห็นเลย.

ฉั๊บ!

ไม่ถึงหนึ่งวินาทีด้วยซ้ำ!

ประกายแสงกระบี่ที่ฟาดฟันออกมาเปลวเพลิงที่ลุกโชติช่วงได้ถูกทิ้งไว้ที่บนร่างกายสมาชิกของเขาอีกคน,ชุดเกราะอาวุธของเขานั้นถูกหลอมละลายถูกกัดกล่อนด้วยเปลวเพลิงอเวจีลุกไหม้ลามไปจนถึงพลังวิญญาณพวกเขาอีกด้วย,ร่างของเขานั้นกำลังลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงไปครึ่งหนึ่งแล้ว.

รวดเร็วยิ่งนัก!

ไม่มีเวลาให้พวกเขาได้คิดเลยแม้แต่น้อย.

ฉั๊บ!ฉั๊บ!ฉั๊บ!

ได้ยินแค่เสียงแต่ไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าตอนนี้อยู่ที่ใหน.

ฉีป้าที่ไม่เห็นแม้แต่เงาของชายหนุ่ม ก่อนที่จะเห็นเพียงแค่ประกายแสงของกระบี่ก็สามารถละลายกระบี่และชุดเกราะ หั่นพวกมันออกเป็นชิ้นๆแล้ว.

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า.

ว่าชายหนุ่มคนนี้ยังปรานีพวกเขาอยู่.

หากว่าจะสังหารพวกเขาล่ะก็,บางทีพวกเขาคงจะถูกสังหารไปหลายสิบครั้งแล้ว!

เมื่อแสดงให้เห็นว่าคนทั้งหกนั้นไม่มีความสามารถที่จะต้านทานได้เลย,ฉู่เทียนที่กุมกระบี่เดินเข้ามาอย่างสุขุมแล้วกล่าวว่า"พวกเจ้ายังต้องการที่จะสู้อยู่ใหม?"

"ข้า...พวกเรายอมแพ้แล้ว!"

พวกเขาไม่คิดไม่ฝันเลยแม้แต่น้อย!

ชายหนุ่มคนนี้ช่างมีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก!

แท้จริงแล้วเป็นพวกเขาทีมีตาแต่หามีแววไม่,หากว่าพวกเขารับชายคนนี้เข้ามาในทีมล่ะก็,ถึงแม้ว่าจะพบเข้ากับทีมของท่านหญิงเฟิงไฉ่เตี๋ย,พวกเขาย่อมมีโอกาสมากขึ้นที่จะชนะผ่านไปได้!

เสียใจ!หดหู่!อับอายเกินจะทน!

ฉู่ป้าและพวกตอนนี้อับอายจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนีแล้ว,พวกเขาในตอนนี้ได้แปรเปลี่ยนมองชายหนุ่มธรรมดาเช่นนี้ด้วยท่าทางเคารพเป็นอย่างมากไปด้วยแล้ว.

พวกเขาทั้งหกคนที่ดูถูกดูแคลนชายหนุ่มคนนี้,หากแต่ชายหนุ่มคนนี้กับปราณีไม่สังหารพวกเขา,หากเป็นคนอื่นล่ะก็พวกเขาคงจะต้องตายไปเรียบร้อยแล้ว!

"ขอบคุณ,ของคุณคุณชายที่เมตตา!"

กลุ่มของฉีป้าถึงกับถอนหายใจยาว,ก่อนที่จะเร่งรีบหนีออกจากเวทีการแข่งขันในทันที.

ที่จริงแล้วพวกเขาเองก็คงจะรู้ดีว่า ฉู่เทียนนั้นเหยียดหยันที่จะโต้เถียงกับคนอย่างพวกเขา,มันช่างเป็นอะไรที่ไร้ประโยชน์เป็นอย่างมาก.

การแข่งขันจบลงด้วยเวลาไม่ถึงสิบวินาทีด้วยซ้ำ,เหล่าคนที่อยู่รอบๆแทบไม่คาดคิดเลยว่าความจริงแล้วมันเกิดสิ่งใดขึ้น.

เฟิงไฉ่เตี๋ยลอบที่จะตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย!

ฉู่เทียนที่มีพลังปรุงร่างระดับ 9 นั้นสามารถที่จะต่อกรกับผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 1 ได้,และเขายังมีวิชาบำเพ็ญสายป้องกันทีทรงพลังและยังมีภูติวิญญาณที่แข็งแกร่ง,ดูเหมือนว่าความแข็งแกร่งของเขาตอนนี้จะเหนือยิ่งกว่าเดิมหลายเท่านัก!

เพลิงกระบี่ที่เขาใช้นั้นช่างทรงพลังเหนือความคาดหมายนัก,ดูเหมือนว่าพลังที่เขาใช้ออกไปนั้นจะยังไม่ได้ใช้พลังเต็มทีด้วยซ้ำ,บวกกับวิชาบำเพ็ญสายป้องกันที่แข็งแกร่งของเขาแล้ว,บางทีความสามารถของเขานั้นแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับสามยังยากที่จะต่อกรกับเขาได้.

เขาช่างเป็นคนที่ทรงคุณค่าจริงๆ,ไม่เคยทำให้นางต้องผิดหวังเลย!

เฟิงชิงหยุนที่เห็นฉู่เทียนที่ใช้วิชาที่แปลกประหลาด,ที่ดวงตาของเขาขมวดไปมาเล็กน้อย,ทว่าก็กล่าวออกไปอย่างสุขุม"คิดว่าทักษะดังกล่าวมีประโยชน์แล้วรึ?ความแข็งแกร่งนี้ก็แค่ของเด็กเล่น,เจ้าคิดว่ามันต่างจากขยะตรงใหน คิดว่าจะมีคุณสมบัติได้รับสิทธิ์เข้าร่วมทดสอบหอคอยโบราณได้อย่างงั้นรึ?"

เขาจงใจกล่าวออกไปเสียงดัง,เพื่อให้ฉู่เทียนนั้นได้ยินด้วย.

ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย.


ฉู่เทียนไม่ได้สนใจว่าเขาจะมีความเจ็บแค้นใดกับเฟิงไฉ่เตี๋ย,หากแต่มันไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาซักนิด,แน่นอนว่าฉู่เทียนนั้นไม่ต้องการเข้าไปยุ่งเลย,มันเป็นเรื่องในตระกูลพวกเขาเอง,หากแต่นิสัยที่พาลไปทั่วเช่นนี้และยังยั่วยุเขาซ้ำๆอยู่เช่นนี้ล่ะก็,อย่าหาว่าบิดาผู้นี้โหดร้ายก็แล้วกัน!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

2 ความคิดเห็น:

  1. รอฉากตบเกรียนโชว์สาว มันน่าจะโดนสักฉาดสองฉาด

    ตอบลบ
  2. เอาเลย เอาให้ฟันร่วงสักหลายๆซี่

    ตอบลบ