วันเสาร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 149 Participation

Miracle Throne Chapter 149 Participation

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 149 ความร่วมมือ


บทที่ 149 ความร่วมมือ


Chapter 149  Participation
 
การแข่งขันจากสี่เขตของสถาบันแห่งรัฐกลางได้จัดขึ้นแล้ว!

นี่คือสีสันบันเทิงอย่างหนึ่งของยุคนี้เลยก็ว่าได้,เป็นการแข่งขันชั้นยอด,เต็มไปด้วยความตื่นเต้น,ยิ่งใหญ่น่าสนุกสนาน,บ่อยครั้งก็มีม้ามืดปรากฏขึ้นมาบ่อยครั้ง,มีอีกหลายๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ,ทำให้เหล่าคนที่เข้ามาดูนั้นแทบบ้าคลั่ง,เป็นความสุขอย่างหนึ่งเหมือนกับงานเลี้ยงใหญ่นั่นเอง.


การแข่งขันงานประลองที่ยิ่งใหญ่ที่จัดขึ้นโดยสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง,ห้ากลุ่มที่ถูกเลือกมาจากทั้งสี่เขตของสถาบันการศึกษา,รวมทั้งหมดยี่สิบกลุ่ม มีผู้เข้าร่วมกว่าหนึ่งร้อยคน,การเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ก็เพื่อที่จะคัดเลือกคนจำนวนหกคนเพื่อรับสิทธิ์เข้าร่วมการทดสอบสุดท้ายซึ่งจะเหลือเพียงแค่หกคนเท่านั้น.

ในปีนี้ท่านประธานมีแผนชั่วคราวที่อนุญาตให้คนอีกสองกลุ่มจากข้างนอกร่วมด้วยโดยที่ทำให้คนอื่นๆคิดไม่ถึงเลย,เป็นการมอบโอกาสให้พวกเขาสามารถที่จะต่อสู้กับเหล่าผู้มากพรสวรรค์ของนักเรียนจากสถาบันแห่งรัฐกลาง.

ด้วยข่าวดังกล่าวนี้สร้างความตื่นตระหนกสั่นสะเทือนไปทั้งรัฐกลางทีเดียว.

มีคนหลายร้อยคนที่เดินทางมาร่วมลงทะเบียน.

เป็นเรื่องปรกติของการแข่งขัน,ที่บ่อยครั้งอาจจะมีคนพิการหรือคนตายอยู่เป็นประจำ,ทว่าเหล่าผู้เยาว์มากมายก็ได้แสดงฝีมือ,และยังสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลของพวกเขา,ทว่าก็นับว่าเสี่ยงว่าจะคุ้มค่าหรือไม่ ดังนั้นแล้วเหล่าตระกูลชั้นสูงนั้นมีหลายตระกูลที่ไม่กล้าที่จะเสี่ยงในครั้งนี้,ทว่าเหล่าผู้ฝึกตนเร่ร่อนนั้นต่างกันพวกเขานั้นเต็มไปด้วยความบ้างคลั่งอยู่แล้ว.

การแข่งขันในครั้งนี้จึงกลายเป็นการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่มากเหนือล้ำกว่าการชุมนุมของเมืองเทียนหนานมากนัก.ดูผิวเผินเหมือนจะเป็นเพียงแค่การแข่งขันธรรมดา,แต่แท้ที่จริงกับเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ที่มากมายมหาศาล,การแข่งขันรัฐกลางแห่งนี้จึงยิ่งใหญ่ไปด้วยนั่นเอง,ไม่ต้องเอ่ยถึงเลยว่ารัฐกลางแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาเนิ่นนานเท่าไหร่.

350 ปีมาแล้ว.

สถานที่แห่งนี้นั้นเคยเป็นทะเลทรายทีถูกทิ้งแห้งแล้งกันดานมาก่อนหลายพันปีมาแล้ว.

หลังจากที่อาณาจักรหนานเซียได้ถูกค้นพบ,ทันใดนั้นมันก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว,จนมีเมืองแห่งรัฐกลางได้ถูกก่อตั้งขึ้นในที่แห่งนี้!

นอกจากสภาพแวดล้อมที่ดูหนักหนารุนแรง,หากแต่ส่วนใหญ่ในภาคพื้นบริเวณนี้ก็พบเมืองที่เก่าแก่ที่ยังดูสมบูรณ์อยู่มาก,แม้ว่าที่แห่งนี้จะเคยเป็นซากปรักหักพังที่ถูกทำลายไป,ทว่าก็ยังหลงเหลือสถานที่ลึกลับอยู่หลายที่,และสถานที่มีชื่อเสียงที่สุดก็คือหอคอยทดสอบโบราณกาล,ตอนนี้คือหอคอยที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเลยก็ว่าได้.

เมื่อมีการก่อสร้างเมืองหลวงรัฐกลางแห่งนี้ขึ้นมาทำให้พวกเขาไม่มีทางที่จะศึกษาพวกมันได้ทั้งหมด.

เพราะว่าหลังจากที่เหล่านักวิชาการได้ทำการศึกษาแล้วหอคอยโบราณกาลนี้มีความเก่าแก่มากมายกว่าเมืองโบราณที่อยู่รอบๆมันซะอีก,จากการตรวจสอบแล้วเมืองโบราณที่มีอายุหลายพันปีได้ถูกสร้างขึ้นหลังหอคอยแห่งนี้มาก,ตัวตนของหอคอยทดสอบโบราณแห่งนี้จึงแทบจะไม่สามารถบอกความเก่าแก่ของมันได้อย่างชัดเจน.

การมีอยู่ของหอคอยฝึกฝนโบราณกาลแห่งนี้น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่เมืองโบราณได้ทำการก่อสร้างขึ้นมาอยู่รอบๆมัน.

หอคอยแห่งนี้กลายเป็นหอคอยฝึกฝนแห่งรัฐกลางที่จะมีการเปิดขึ้นทุกๆห้าปี,เพื่อที่จะให้เหล่าคนผู้มีพรสวรรค์เข้าร่วมทดสอบ,โดยห้ามไม่ให้คนที่มีอายุมากกว่า 30 ปีเข้าไป,และผู้เข้าร่วมทดสอบหอคอยโบราณกาลในแต่ล่ะครั้งจะต้องไม่เกินสิบคนอีกด้วย.

สี่ตระกูลใหญ่ต่างก็ได้โควต้ากันคนล่ะหนึ่งอยู่แล้ว,ส่วนอีกหกโควต้านั้นจะถูกคัดเลือกโดยสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง.

เป้าหมายที่แท้จริงของการแข่งขันใหญ่ของสถาบันแห่งรัฐกลางนั้นก็เพื่อรับสิทธิ์เพื่อเข้าทดสอบหอคอยโบราณกาลนั่นเอง.

ประธานเฟิงหยุนหู่นั้นได้เปลี่ยนแปลงกฏไป,หากกล่าวแล้วก็ไม่ถูกต้องกับข้อตกลงที่ได้สร้างขึ้นตั้งแต่แรกนัก,ทว่ามันเป็นการเปลี่ยนแปลงแค่ชั่วคราวและเพิ่มขึ้นมาเพียงแค่สองกลุ่ม,กับโครงสร้างขนาดใหญ่ของการแข่งขันในครั้งนี้จึงไม่ได้มีผลกระทบมากมายนัก,เหล่าตระกูลระดับสูงเองก็ยังพอยอมรับได้,ส่วนเหล่าประชาชนจำนวนมากเองก็ไม่มีความเห็นอันใด,และมันยังช่วยเพิ่มความสนุกมีชีวิตชีวาของการแข่งขันได้,และยังช่วยเพิ่มตัวแปรให้งานดูคึกคักมากมายนัก!

ผลประโยชน์สิทธิ์ในการเข้าร่วมหอคอยฝึกฝนโบราณไม่ได้สร้างความสนใจต่อฉู่เทียนมากนัก.

อย่างไรก็ตามโอกาสในการตบหน้าสามตระกูลใหญ่เองได้มาถึงแล้ว,มันจะต้องกลายเป็นการประกาศต่อคนรัฐกลางได้อีกด้วยว่า"ข้าฉู่เทียนได้มาถึงที่นี่แล้ว!"นี่คือเหตุผลที่ทำให้ฉู่เทียนกระตือรือร้นอยากเข้าร่วมงานแข่งขันในครั้งนี้.

แต่ถึงกระนั้นด้วยฉู่เทียนนั้นเป็นเพียงผู้ฝึกตนเร่ร่อนไม่มีสถานะพอที่จะลงทะเบียน,จึงนับว่าเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย.

ซ้ำการแข่งขันจะต้องมีกลุ่มหกคน,ไม่งั้นไม่สามารถลงทะเบียนได้!

สถานที่ลงทะเบียนตอนนี้,มีเหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดอยู่กว่าร้อยคน,ทั้งผู้เชี่ยวชาญจากตระกูลขนาดเล็กมากมายต่างก็มารวมตัวกัน,หวังว่าจะได้รับโชค,ภายในคนจำนวนมากนี้จะพบเจอกับผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,ที่กำลังมองหาคนเพื่อสร้างทีมอยู่.

ผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตนั้นความเป็นจริงแล้วมีค่าถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?

แน่นอนว่าอายุคนที่จะเข้าร่วมจะต้องต่ำกว่า 30 ปี,นั่นถึงจะกล่าวได้ว่าเป็นผู้เยาว์,หลายสำนักและกลุ่มอิทธิพลใต้ดินนั้น,ได้แอบฝึกฝนพวกเขา,หลายคนเป็นผู้ฝึกตนเร่ร่อนที่มีความสามารถยอดเยี่ยมเลยทีเดียว.

หลังจากที่ฉู่เทียนตะเวนหากลุ่มไปเรื่อยๆนั้น.

มีทีมหนึ่งที่ดูค่อนข้างน่าสนใจไม่น้อย.

พวกเขามีความแข็งแกร่งที่มีระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 ทุกๆคนนั้นมีกลิ่นอายของพลังปิศาจที่หมุนวนอยู่,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขามีประสบการณ์ที่ไม่ธรรมดาเลย,หัวหน้ากลุ่มที่มีตาเดียวอายุต่ำกว่า 30 ปี มีดาบจันทร์เสี้ยวรูปมังกรสีมรกตและมีเคราขึ้นอยู่เต็มไปหมดทำให้เขานั้นดูน่าเกรงขามยิ่งนัก.

"เฮ้ๆ ,นั่นไม่ใช่ดาบมังกรมรกตฉีป้าหรอกรึ?"

"เขาเป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงเลยทีเดียว!"

"ไม่คิดเลยว่าเขาจะมาเข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย,การแข่งขันในครั้งนี้น่าดูขึ้นมาบ้างแล้ว!"

เหล่าคนมากมายต่างก็ส่งเสียงอื้ออึ้ง,เหมือนว่าเขาจะหวั่นเกรงดาบมังกรมรกตของชายคนนี้เป็นอย่างมาก,เห็นได้ชัดเจนว่าชายคนนี้ท่าทางน่าสะพรึงกลัวไม่น้อย!

ทีมของพวกเขาเองนับว่าแข็งแกร่งเลยทีเดียว,นับว่ามีความสามารถอยู่ไม่น้อยและยังขาดคนอยู่ด้วย.

และด้วยเหตุนั้นฉู่เทียนจึงมีความคิดต้องการที่จะขอเข้าร่วมทีมพวกเขา.

"ปลุกดวงจิตระดับ 1 อย่างงั้นรึ?"

"ความสามารถเท่าเม็ดถั่ว,กลับหาญกล้าขอเข้าร่วมทีมพวกข้าอย่างงั้นรึ?"

"ทีมของข้าจะต้องเป็นหนึ่งในสิบอย่างแน่นอน,กระจอกอย่างเจ้ารีบไสหัวไปซะ?ก่อนที่บิดาจะโมโห,ไปให้พ้น!ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะหักขาของเจ้าซะ!"

ดูเหมือนว่ากลุ่มของพวกเขานั้นต่างก็ได้รับความสนใจจากคนอื่นไม่น้อย.

เหล่าผู้ฝึกตนที่มีอายุต่ำกว่ายี่สิบและยังมีพลังปลุกดวงจิตนั้นไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเขาด้วยซ้ำ,ทำให้กลุ่มคนดังกล่าวนี้ไม่ชายตามองแม้แต่น้อย!

ทำให้ฉู่เทียนโดนดูถูกอยู่ไม่น้อย!

ทำไมในโลกนี้ถึงได้มีคนตาบอดมากมายถึงเพียงนี้กัน?

ฉู่เทียนกล่าวออกไปว่า"ใคร,หากว่าคิดว่าข้านั้นไร้ความสามารถ,ไม่ลองหาใครมาต่อสู้กับข้าดูล่ะ!"

"ไม่เจียมกะลาหัว,เจ้าไม่เข้าใจที่ข้ากล่าวหรอกเหรอ?ข้าไม่ต้องการเจ้า!"ฉีป้าตะโกนออกไปเสียงดัง"ไสหัวไป!"

จิ้งจอกน้อยท่าทางขุ่นเคืองไม่น้อยมันได้ตะโกนออกไปเสียงดัง,บอกกล่าวให้ฉู่เทียนสั่งสอนคนพวกนี้,หากแต่ฉู่เทียนนั้นไม่ได้มีอารมณ์ที่จะทำเช่นนั้น,ทว่ายังไม่ทันได้ขยับไปใหน,ก็มีเสียงหนึ่งที่ตะโกนมาด้านหลังของเขา.

"ฉีป้า,นั่นไงคนเหล่านั้นมีความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงมากด้วย!"

ใบหน้าของฉีป้าถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน "เป็นพวกเขานั่นเอง,นั่นมันพวกเขามาอยู่ที่นี้ด้วยนับว่าสร้างความตื่นเต้นเลยไม่ใช่รึ?"

คนสองคนได้เดินตรงข้ามาหากลุ่มพวกเขาในทันที.

"นั่นไม่ใช่ ?"

"พวกเขาทั้งสองนั้นเป็นกลุ่มทหารรับจ้างกลุ่มใต้พิภพที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาใหม่,ทว่ากลับมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่ภายในรัฐกลางแห่งนี้ทีเดียว!"

"ทหารรับจ้างกลุ่มใต้พิภพนั้นนับว่าเป็นกลุ่มที่ได้รับความสำเร็จไม่น้อยเลย,พวกเขายังมีทักษะเฉพาะ,แม้แต่กองกำลังตระกูลเย่เองยังสนใจพวกเรา,ทว่าพวกเขากับปฏิเสธไป."

ทหารรับจ้างหนุ่มสองคนได้เดินมาข้างๆฉู่เทียนโดยไม่ให้สุ้มให้เสียงใดๆ.

"เฮ้!"

"เป็นเจ้านี่เอง!"

คนทั้งสามต่างรู้สึกตื่นตะลึง.

ทหารรับจ้างหนุ่มทั้งสองคนนั้นหาได้ใช่คนอื่น,คาดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาก็คือหลินมู่และฟางหานนั่นเอง,เป็นกลุ่มคนที่เจอกันที่เมืองฮวังชีนั่นเอง,ซึ่งเป็นฉู่เทียนที่ได้ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้!

ที่มุมปากของฉู่เทียนถึงกับเผยยิ้มออกมา"ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ,ความแข็งแกร่งของพวกเจ้าดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นมามายทีเดียว!"

พวกเขาทั้งคู่ยิ้มออกมาอย่างอักอ่วน,"ที่เป็นเช่นนี้,คงต้องขอบคุณเจ้านั่นล่ะ!"

ฉีป้าถึงกับไร้ซึ่งคำพูดไปในทันที,ส่วนคนอื่นๆที่อยู่กับเขาต่างก็ตื่นตะลึงไปด้วยเช่นกัน!

ด้วยคนทั้งสองนี้เป็นทหารรับจ้างที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในรัฐกลางแห่งนี้,คาดไม่ถึงเลยว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเด็กกะโปโลไร้นามคนนี้,กับแสดงท่าทีเคารพเป็นอย่างมาก,ทำไมถึงได้เป็นเช่นนั้นล่ะ?

ทันใดนั้นฉู่เทียนก็มีความคิดขึ้นมาในทันที,"เจ้าทั้งสองเองดูเหมือนว่าจะมีคนไม่พอ,พวกเรามาตั้งทีมขึ้นมาใหม่,เป็นอย่างไร?"

หลินมู่และฟางหานแสดงท่าทางยินดีเป็นอย่างยิ่ง.

เรื่องเช่นนี้นับว่าเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก!

ฉู่ป้าคนนี้,ช่างเป็นคนที่โง่บัดซบจริงๆ,หากว่าเด็กหนุ่มคนนี้ได้ร่วมทีมล่ะก็,ถึงจะเป็นพวกเขาทั้งสองยังไมโอกาสที่จะชนะได้เลย.

ดูเหมือนว่าเหตุการณ์นี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว!

หากแต่ที่มุมปากของฉู่ป้านั้นยกขึ้นมาเผยออกมาให้เห็นถึงท่าทางเหยียดหยันแค่นเสียงเย็นชาออกมา"หลินมู่,ฟางหาน,การกระทำของพวกเจ้าทั้งสองคน ทำให้ข้าผิดหวังยิ่งนัก,ไว้การแข่งขันเริ่มเมื่อไหร่ล่ะก็ ข้าจะทำให้พวกเจ้าได้รับบทเรียนอย่างสาสมเลย!"

"บทเรียน?"

"เจ้ามีความสามารถพออย่างงั้นเหรอ!"

"พวกเราจะรอดูแล้วกัน!"

ทีมหนึ่งนั้นต้องมีคนทั้งหมดหกคนตอนนี้พวกเขามีแล้วสาม,ทว่ายังขาดอีกสาม,พวกเขาควรที่จะหาใครดี?


"ลูเร็น!"

ขณะที่ฉู่เทียนกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น,เสียงที่หวาดแหว๋วน่าดึงดูดก็ดังผ่านข้ามมา.

เป็นหญิงสาวคนหนึ่งที่สามชุดผ้าแพรยาว,นางมีรูปร่างที่เพรียวระหง,ท่าทางดูสูงศักดิ์,เป็นความสวยงามที่ทำให้ทุกคนต้องจ้องมองตาค้าง.หญิงสาวคนนี้ช่างดูมีเสน่ห์อ่อนโยนประณีตหยดย้อยยิ่งนัก,ไม่ว่าใครก็อดไม่ได้ที่จะต้องจับจ้องมองมา.

ดูแปลกประหลาดยิ่งนัก.

ฉู่เทียนที่กำลังคิดอยู่ว่าเขาเคยรู้จักสาวงามเช่นนี้ด้วยรึ?

"มีปัญหาอะไร,ไม่ใช่ว่าเจ้าจำข้าไม่ได้หรอกเหรอ?"

เสียงที่ดูหยดย้อยของสาวงามผู้นี้,ทำให้ฉู่เทียนนั้นรู้สึกคุ้นเคยยิ่งนัก,ทันใดนั้น,เขาก็เผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก"เจ้าคือไฉ่เตี๋ย!"

แม้ว่านางจะมีหน้าตาที่ต่างจากเมื่อก่อน,หากแต่กลิ่นอายและซุ่มเสียงนั้นก็ยังเหมือนเดิม,หากแต่ดูเปลี่ยนไปไม่น้อยเลย,แน่นอนว่าไฉ่เตี๋ยก็คือคนที่เขาได้พบเจอที่ตลาดมืดก่อนหน้านี้นั่นเอง.

"เพราะว่าข้าต้องอยู่ห่างจากบ้าน,เพื่อความสะดวกข้าจึงต้องปกปิดหน้าตาเอาไว้,หวังว่าน้องลู่จะไม่ถือสาหาความ."เฟิงไฉเตี๋ยเผยยิ้มออกมา,"เรียกข้าว่า เฟิงไฉ่เตี๋ย!"

ฉู่เทียนพยักหน้า."ข้าเข้าใจดี."

"น้องลู่,ข้าไม่คิดเลยว่าจะได้มาเจอเจ้าที่แห่งนี้ด้วย!"

ชายผู้เยาว์คนหนึ่งที่เดินเข้ามา,คนผู้นี้ฉู่เทียนรู้จักเขาอย่างแน่นอน,เขานั้นไม่ใช่ใครที่ใหนคือเซี่ยงหู่เพื่อนร่วมทีมเขาก่อนหน้านี้นั่นเอง?ในเวลานี้,กลิ่นอายที่ทรงพลังของเซียงหู่ได้เปลี่ยนเป็นน่าเกรงขามอย่างสิ้นเชิง,หลายวันมานี้เขาสามารถได้รับผลประโยชน์มากมาย,ตอนนี้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตไปแล้ว.

นอกจากเฟิงไฉ่เตี๋ยและเซี่ยงหู่แล้ว,ที่ด้านข้างยังมีชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง.

ชายคนนี้ยังดูเด็กเป็นอย่างมาก,น่าจะเทียบได้กับฉู่เทียน,ดูจากหน้าตาแล้วน่าจะมีอายุ 16-17 ปี.

เขามีผมยาวสีเขียวเข้ม,สวมชุดคลุมที่ดูล้ำค่ามีราคา,ใบหน้าที่เต็มไปด้วยทางหยิ่งยโสโอหัง.

เมื่อหลินมู่และฟางหานได้ยินชื่อเฟิงไฉ่เตี๋ย,ทุกคนถึงกับตื่นตระหนก,นี่ไม่ใช่ธิดาของโหวเย่ว์วายุเทพหรอกเหรอ?เฟิงไฉ่เตี๋ยที่รัฐกลางนั้นนับว่ามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,นางที่มีข่าวว่ามีเส้นปราณพิการมาตั้งแต่กำเนิด,เป็นบุตรสาวหัวแก้วหัวแหวนของโหวเย่ว์วายุเทพ,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคนพิการ,ไม่ใช่แค่เพียงในรัฐกลางเท่านั้น,ถึงแม้ว่าจะเป็นทั่วทั้งอาณาจักรหนานเซี่ยเองก็เป็นเรื่องราวที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อย.

เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก,เฟิงหยุนเทียนยังคงรักและเอาใจใส่บุตรสาวของตัวเองเป็นอย่างมาก,ทรัพยากรมากมายของตระกูลเฟิง,ต่างก็มอบให้กับนางมากมาย,แม้แต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญสี่ตระกูลใหญ่ยังไม่สามารถเทียบได้.

อย่างไรก็ตาม,ตระกูลเฟิงนั้นก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าสี่ตระกูลใหญ่แม้แต่น้อย,ถ้าจะพูดให้ถูกล่ะก็มีสถานะที่สูงกว่าอยู่เล็กน้อย,หากแต่อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงกลับเป็น สี่ต้าซือแห่งรัฐกลางนั้น กลับไม่มีคนจากตระกูลเฟิงเลย.

ด้วยสถานการณ์เช่นนั้นทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย.

"ท่านพ่อของข้าได้รับเซียงหู่เป็นศิษย์พิเศษของท่านด้วย,และอีกคนคือญาติผู้น้องของข้าเฟิงชิงหยุน,พวกเราทั้งสามเดินทางมาเข้าร่วมการแข่งขันใหญ่ในครั้งนี้,ข้าคิดว่าพวกเจ้าทั้งสามคนเองก็คงกำลังจะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน,พวกเจ้ามีสามคนข้าเองก็มีสามคน,ทำไมพวกเราไม่รวมทีมกันล่ะ?"

ด้วยการแข่งขันใหญ่นั้นจำเป็นรวมกลุ่มกันหกคนนั่นเอง.

ตอนนี้ฉู่เทียนก็มีสมาชิกสามคนแล้ว,ฝ่ายเฟิงไฉ่เตี๋ยเองก็นำคนมาสามคน,ไม่ใช่ว่าครบหกคนกันเลยพอดี,นับว่าไม่ขาดไม่เกินเลยทีเดียว?

ฉู่เทียนที่ยังไม่กล่าวอะไรออกไป.

"ทหารรับจ้างสองคนนี้แข็งแกร่ง,มีคุณสมบัติพอที่จะเข้าร่วมทีมของพวกเขา"เฟิงชิงหยุนที่แค่นเสียงและจ้องมองไปยังฉู่เทียนอย่างดูถูกดูแคลน"ส่วนเจ้านะรึ?กระจอกงอกง่อย!ไสหัวไปซะ!"

เฟิงไฉ่เตี๋ยที่พูดออกมาเสียงดังอย่างรุนแรง"ข้าไม่ยอมให้เจ้าดูถูกเพื่อนของข้า!"

"ดูถูกรึ?ข้าดูถูกมันตรงใหน?ข้าแค่พูดความจริง,ในเมื่อมันกระจอกมันก็ไม่ต่างจากแมลง,ไร้คุณค่าไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าแข่งขันด้วยซ้ำ!"ใบหน้าของเฟิงชิงหยุนนั้นเต็มไปด้วยท่าทางหยิ่งยะโส,ซ้ำยังกล่าวเหน็บแนมฉู่เทียนอีกด้วย"มีปัญหาอะไร,ยังไม่รู้ตัวอีกรึ?จะต้องให้พวกเราไล่หรืออย่างไร?"

"หุบปาก!"เฟิงไฉ่เตี๋ยที่รู้จักนิสัยของญาติผู้น้องของนางดี,นางเร่งรีบเข้ามาขวางเฟิงชิงหยุน,"เจ้ายังไม่ลืมคำพูดของบิดาของข้านะ?วันนี้เป็นข้าที่พาเจ้ามาเข้าร่วม,ทุกอย่างเป็นข้าตัดสินใจ!ข้าบอกว่าเข้าเข้าร่วมได้,ก็แปลว่าเขาเข้าร่วมได้!"

"ชิ,คิดจะเอาโหวเย่ว์วายุเทพมาขุ่ข้าเหรอ,ก็ดี,เจ้าเองก็ถนัดอยู่แล้วนี้,ที่เอาบิดาตัวเองมาข่มขู่คนอื่น!"เฟิงชิงหยุนที่ยืนกอดอก,ก่อนที่จะหันหน้าหลบไปด้วยท่าทางขุ่นเคือง.


ใบหน้าของเฟิงไฉ่เตี๋ยที่รู้สึกกระอักกระอ่วนกับเรื่องที่เกิดขึ้น.


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

3 ความคิดเห็น:

  1. ได้เวลาตบเกรียนโชว์สาวแล้ว จัดชุดเล็กก็พอนะพี่ฉู่

    ตอบลบ
  2. พี่ฉู่ตบเลยครับ เเบบเซียวหยุนไรนั่น555+

    ตอบลบ