วันอังคารที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 145 Huge trouble

Miracle Throne Chapter 145 Huge trouble

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 145 ปัญหาใหญ่


บทที่ 145 ปัญหาใหญ่


ขณะที่สามตระกูลใหญ่ได้แอบประชุมลับในเวลาเดียวกันที่สถาบันแห่งรัฐกลางเหล่าอาวุโสระดับสูงเองก็เร่งรีบจัดประชุดด้วยเช่นกัน.

หยุนเทียนเหอที่มาถึงพักหนึ่งแล้ว.

ในเวลานี้เขาอยู่ในตำแหน่งของรองประธาน.

สถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางนั้นมีผู้อาวุโสสามคน,หนึ่งหัวหน้าผู้บริหารและสองรองประธาน,หัวหน้าอาวุโสก็คือตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของที่นี่,ต้องไม่ลืมว่าสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางนั้นเป็นสถาบันที่ถูกจัดตั้งขึ้นมาของราชสำนักของอาณาจักรหนานเซี่ย.


ดังนั้น,สถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางได้จึงมอบการบริหารงานการศึกษาทั้งหมดให้กับรองผู้บริหารทั้งสองคนเป็นคนตัดสินใจในเรื่องต่างๆ,ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงสุด,ทว่าความจริงพวกเขาก็ไม่ได้ดูแลเรื่องราวในชีวิตประจำวันของนักเรียนแต่อย่างใด,มีเพียงแค่เรื่องราวที่ดูหนักหนาเท่านั้นถึงจะปรากฏตัวออกมา.

การประชุมฉุกเฉินนี้จัดขึ้นโดยเหล่าอาวุโสและเหล่าอาจารย์ต่างๆเป็นคนร้องขอขึ้นมา.

หยุนเทียนเหอที่จับจ้องกวาดตามองคนทุกคน,เหล่าอาวุโสหลายคนที่นั่งอยู่,พวกเขาต่างก็แสดงท่าทางดูหนักหนาราวกับว่ากำลังกังวลเป็นอย่างมาก,มีเพียงแค่หยุนเทียนเหอที่ยังดูปรกติ,เรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆนี้ซึ่งเขาก็รู้ดีและค่อนข้างที่จะประหลาดใจและยินดีซะมากกว่า!

"ท่านประธาน!"

ชายวัยกลางคนอายุ 40-50 ปี,สวมมงกุฏที่ถูกสลักด้วยไพลินล้ำค่า,พร้อมกับชุดที่มีเครื่องหมายลวดลายสีม่วงและสีเขียวเข้มบนชุดคลุมยาว,และยังมีเสื้อไหมคลุมไปที่ด้านหลังอีกด้วย,บนใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยท่าทางเคร่งขรึมแสดงออกมาอย่างตรงไปตรงมาก,พร้อมกับมีเคราเล็กน้อย,ทำให้รู้สึกน่าเกรงขามยิ่งนัก.

ภายในสถาบันการศึกษาแห่งนี้มีอาวุโสที่เป็นผู้บริหารจากภายนอก,นั่นก็คือหยุนเทียนเหอที่เข้ามาเป็นหัวหน้าผู้บริหารคนหนึ่ง,เขาทำหน้าที่ในการบริหารเรื่องงานการศึกษา,ด้วยชื่อเสียงของเขานั้นมีมากมาย,ต้องไม่ลืมว่าหยุนเทียนเหอนั้นคร่ำหวอดในวงการศึกษามานานมากแล้ว,จึงมีสถานะและความสามารถที่สูงเป็นอย่างมาก,หากแต่ด้วยสถาบันแห่งรัฐกลางนั้นถูกจัดตั้งขึ้นมาจากราชสำนักของอาณาจักร,เขาที่ต้องเป็นประมุขตระกูลดูแลตระกูลตัวเองด้วย,จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะสามารถทำหน้าที่ดังกล่าวได้อย่างเต็มที.

เฟิงหยุนหู่คือประธานของสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางแห่งนี้.

เฟิงหยุนหู่นั้นเป็นรองเจ้าเมืองของรัฐกลางแห่งนี้ด้วย,เขาที่ดำรงตำแห่งของหัวหน้าผู้บริหารสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง,โดยมีพี่ชายของเขา เฟิงหยุนหลงที่เป็นเจ้าเมือง,เหตุผลที่พวกเขามีสถานะที่สูงส่งนั้น เนื่องจากพวกเขานั้นเป็นคนของตระกูลเดียวกันกับโหวเย่ว์วายุเทพเฟิงหยุนเทียนนั่นเอง.

ทุกคนต่างก็ลุกขึ้นถ้วนหน้า"คารวะท่านประธาน!"

เฟิงหยุนหู่ที่เดินเข้ามานั่งยังเกาอี้ตำแหน่งประธาน,ก่อนที่จะกวาดสายตาไปมองทุกๆคน"มาครบกันรึยัง?"

"มีรองประธานเฉินยังมาไม่ถึง!"
 "ชิ!,นางทำอะไรตามใจตัวเองตลอด,ทำไมนางถึงมาสายไม่ให้ความสำคัญกับการประชุมบ้างหรือไง?"

ในเวลาเดียวกันอุณหภูมิในห้องก็เปลี่ยนไปในฉับพลัน,คนทั้งห้องรู้สึกได้ถึงความเย็นที่น่าสะพรึงกลัวกำลังกระชากอุณหภูมิข้างในลงอย่างรวดเร็ว,เป็นความเย็นที่ราวกับจะชอนไชเขาไปถึงกระดูกปกคลุมไปทั่วถึงกับแช่แข็งถ้วยชาทั้งหมดให้กลายเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว.
สตรีนางหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามา.

ทุกๆคนที่สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายความหนาวเย็น,ราวกับว่าสตรีที่อยู่ก็หน้าทุกคนนี้,กำลังจะแช่แข็งทุกคนไปพร้อมๆกัน.

กระโปรงลายตาข่ายสีดำ,ทำให้มองเห็นผิวที่เนียนขาวราวหิมะและรูปร่างที่ละเมียดละไมของนาง,นางเป็นคนที่ดูสวยสง่า,รูปร่างสวยทรงเสน่ห์แบบผู้ใหญ่,และรูปร่างของนางเองยังดูเป็นผู้เยาว์อายุน้อยกว่า 30 ปี.

ดวงตาคู่งามที่ดูมืดมิดเย็นชา,ส่องประกายความเย็นยะเยือบแผ่ออกมา,ใบหน้าที่สดใสกระจ่างสวยงามท่าทางมีรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยหากแต่ ดูเหมือนหยกที่ถูกแช่แข็งซะมากกว่า.
เยือกเย็นนัก!

หญิงสาวคนนี้ทำให้ทุกคนถึงกับหนาวเย็นไปทั่วทุกรูขุมขนทีเดียว!

ความหนาวเย็นที่เหมือนกับน้ำแข็งขั้วโลก,ที่คงอยู่มาหลายหมื่นปี,ที่ไม่มีใครที่สามารถละลายมันได้.

เฟิงหยุนหู่ที่รู้สึกฮึดฮัดไม่สบอารมณ์เท่าไหร่,ในที่สุดคนที่เขาเอ่ยถึงก็ปรากฏแล้ว,ทำให้กระอักกระอ่วนเล็กน้อย,ก่อนที่จะสะบัดแขนเสื้อ"ในเมื่อรองประธานเฉินมาแล้ว,เช่นนั้นก็นั่งประจำที่ได้แล้ว,การประชุมจะได้เริ่มซักที."

สตรีตาข่ายดำเองก็หาได้พูดอะไรออกมาแม้แต่น้อย.

นางไม่ได้สนใจเฟิงหยุนหู่แม้แต่น้อย,นางเดินเข้ามานั่งประจำที่ของนาง.

เฟิงหยุนหู่นั้นรู้สึกเคยชินกับท่าทางเช่นนี้อยู่แล้ว,ดังนั้นเขาจึงไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองอะไรมาก"เอาล่ะทุกท่าน,ข้ามีเรื่องสำคัญที่จะประกาศในวันนี้เกี่ยวกับการเข้าทดสอบความสามารถที่จะจัดขึ้นทุกๆห้าปี,การทดสอบความสามารถนี้ตามประเพณีนั้นจะมีคนเข้าร่วมทั้งหมดสิบทีมและเหล่าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ก็มีสิทธิ์ในการเข้าร่วมกันคนล่ะหนึ่งสิทธิ์อยู่แล้ว,ส่วนอีกหกสิทธิ์ที่เหลือนั้นจะเป็นการตัดสินใจจากการแข่งขันของพวกเราสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง!"

"การแข่งขันงานประลองของสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง,ทุกๆห้าปีนั้นเป็นการแข่งขันที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก,ไม่เพียงแต่เป็นหน้าเป็นตาให้กับสถาบันการศึกษาของพวกเรา,และยังมีผลประโยชน์ที่จะได้รับอีกด้วย,ข้าเชื่อว่าด้วยความพยายามของทุกคน,การแข่งขันของพวกเรานั้นจะสามารถคัดเลือกคนที่มีคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมออกมาได้!ทว่าข้าคิดว่าหากจะเอาการแข่งขันเฉพาะสถาบันการศึกษาของพวกเรานั้นดูเหมือนว่ามันจะเล็กจนเกินไป!"

ใบหน้าของทุกคนตอนนี้เปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
ท่านประธานต้องการที่จะเปลี่ยนกฏอย่างงั้นรึ?
 เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่สำคัญมากเลย!

เฟิงหยุนหู่กล่าวต่อ,"ด้วยเหตุนี้,ข้าจึงขอเสนอให้มีการปรับเปลี่ยนกฏสักเล็กน้อย,การแข่งขันของสี่เขตการศึกษาของพวกเรานอกจากจะมีหลายสิบกลุ่มแล้ว,พวกเรายังจะคัดเลือกโดยให้คนจากภายนอกสามารถเข้าร่วมการแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราในครั้งนี้ได้ อีกสักสองกลุ่มเพื่อเพิ่มแรงกดดันให้กับคนของพวกเรา."

ท่านประธานที่เปลี่ยนกฏในครั้งนี้โดยไม่มีเหตุรองรับเหรอ.

แน่นนอนว่าจะต้องมีเหตุผลบางอย่างแน่,หากแต่ทำไมล่ะ?

เหล่าการศึกษาอื่นรวมทั้งคนของตระกูลฉู่มากมาย,หรือแม้แต่คนของตระกูลใหญ่ทั้งสามอีก,หากเพิ่มผู้เข้าแข่งขันจากภายนอก,ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะต้องเพิ่มแรงกดดันของการแข่งขันในครั้งนี้เป็นอย่างมาก,และนั่นก็จะมีผลทำให้โควต้าของเหล่านักเรียนลานประลองต่างๆของสถาบันแห่งรัฐกลางลดลงด้วยไม่ใช่หรือ?.
  
เฟิงหยุนหู่นั้นไม่รอให้ทุกคนได้สอบถามเหตุผลเขา ก็ได้เอ่ยออกไปในทันที"รองประธานทั้งสอง,พวกเจ้ามีความเห็นว่าอย่างไร?
สตรีผู้เย็นชากล่าวตอบออกไปเล็กน้อย"ไม่มีความเห็น!"

หยุนเทียนเหอเองก็ไม่ได้สนใจแต่อย่างใด,ด้วยโควต้าต่างๆนั้นก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อตระกูลหยุนอยู่แล้ว,ถึงจะไม่นับหยุนเซียว,แม้ว่าเขาจะกลายเป็นคนใหม่แล้ว,ทว่าการที่จะให้เขาจะกลายเป็นหนึ่งในหกอันดับได้ก็ยากอยู่เหมือนเดิม"หากเพิ่มเข้ามาอีกสองกลุ่มรวมกับอีก 20 กลุ่มจากทั้งสี่เขต,เรื่องนี้ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร,พวกเราก็ลองดูก็แล้วกัน."

"ก็ดี!ในเมื่อรองประธานทั้งสองไม่มีความเห็นอะไร,ถือว่าเรื่องนี้เป็นไปตามนั้นก็แล้วกัน!"

เฟิงหยุนหู่นั้นไม่เปิดโอกาสให้เหล่าอาวุโสและอาจารย์คนอื่นๆโต้แย้งได้เลยแม้แต่น้อย.

เมื่อคนอื่นๆเห็นรองประธานทั้งสองเห็นด้วยแล้วมีเหรอที่พวกเขาจะกล้าออกความเห็นอะไรออกมา,แน่นอนว่าพวกเขาก็คงทำได้แค่เงียบและยอมรับกับเรื่องดังกล่าว.

ถึงอย่างไรมันก็เป็นแค่การเพิ่มกลุ่มคนเข้ามาสองกลุ่มชั่วคราวเท่านั้น.

คิดไปแล้วมันก็หาได้มีผลกระทบอะไรมากมายนัก.

"เรื่องดังกล่าวตกลงตามนั้นแล้วกัน"หลังจากที่เฟิงหยุนหู่ได้จัดการเรื่องสำคัญของตัวเองแล้ว,เขาก็หันหน้ากวาดตามองไปยังทุกคน"มีเรื่องหนึ่ง,ข้าได้รับรายงานมาว่า,หลายวันมานี้,มีเหล่านักเรียนของสถาบันเราได้แอบหนีห้องเรียนของตัวเอง,หลายคนเป็นถึงนักเรียนระดับสูง,การแข่งขันใหญ่กำลังใกล้เข้ามาแล้ว,ไม่ใช่ว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมหรอกเหรอ?พวกเจ้าต้องการที่จะให้ข้าแก้ไขปัญหานี้อย่างไร?"

คนอื่นๆถึงกับตื่นตะลึงไปเหมือนกัน."

คนของตระกูลลวอผู้หนึ่งได้เร่งรีบกล่าวออกมาอย่างรวดเร็ว"ข้าเองก็ได้ทำการสืบสวนเรื่องนี้แล้วเหตุผลที่เหล่านักเรียนหลายคนได้โดดชั้นเรียนไปนั้น.พวกเขาได้ทำการเข้าร่วมฟังบรรยายจากห้องอบรมขององค์กรนักเรียนที่จัดตั้งขึ้น!"

"เป็นเรื่องตลกเกินไปแล้ว!"เฟิงหยุนหู่นั้นโดยปกติแล้วจะไม่ได้อยู่ในสถาบันดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสถาบันตอนนี้"ห้องเรียนสั่วๆพรรณนั้นมันดีกว่าของสถาบันรัฐกลางอย่างงั้นรึ?สถานที่เช่นนั้นมีผลต่อการเรียนของนักเรียน,ดังนั้นก็สั่งห้ามทำการซะ!"

"แค๊ก แค๊ก!"หยุนเทียนเหอที่ไอแห้งๆออกมาอย่างอักอ่วนใจ"ท่านประธาน,เรื่องนี้น่าจะลองสอบสวนดูก่อน,พวกเรายังไม่มีการสืบสวนให้ชัดแจ้งเลย.บางทีห้องเรียนกิเลนดังกล่าวนั้นอาจจะเป็นสถานที่ที่ไม่เลวก็เป็นได้!"

เฟิงหยุนหู่จ้องมองไปยังหยุนเทียนเหอด้วยความไม่พอใจ"อาวุโสหยุน!ท่านเป็นคนที่มีความรู้มากที่สุด,ท่านยังไม่เข้าใจได้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องภายในสถาบันแห่งนี้หรอกรึ?ท่านอย่าคิดนะว่าข้าไม่รู้,ห้องเรียนดังกล่าวนั้นจัดตั้งขึ้นโดยคนเล็กๆตระกูลหนานกงที่สร้างขึ้นมา,ไม่ว่ามันจะดีเยี่ยมอย่างไร!มันก็เป็นแค่เพียงองค์กรของนักเรียนเท่านั้น,ข้าไม่เห็นด้วย,ตอนนี้พวกเราจะไม่ปล่อยให้เหล่านักเรียนละเลยการฝึกฝนไม่ได้เด็ดขาด,เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบให้ละเอียด!"

เหตุผลที่ห้องเรียนดังกล่าวนี้เกิดขึ้นเติบโตขึ้นมาอย่างรวดเร็วนั้น.

 100% เลยว่าจะต้องเกี่ยวข้องกับชายหนุ่มลึกลับนั่น!

เรื่องดังกล่าวนี้หยุนเทียนเหอสามารถเข้าใจได้ในทุกสิ่ง,ชายที่มีนามว่าลูเร็นนั่น 80-90เปอร์เซ็นเลยสามารถสรุปได้ว่าเ ขาคืออัจฉริยะที่มีชื่อเสียง,ฉู่เทียน!

หลังจากที่หยุนเทียนเหอได้ตรวจสอบสถานะที่แท้จริงของเขาแล้ว,ภายในใจของเขาถึงกับตื่นตะหนกเป็นอย่างมาก,ฉู่เทียนนั้นไม่เพียงแต่มีเชื่อเสียงเป็นอย่างมาก,นามของเขานั้นยังมีชื่อเสียงที่เลวร้ายมากมายอีกด้วย.

ยิ่งชื่อเสียงที่บ้าคลั่งของเขานั่น.
ชื่อเสียงที่ดุร้ายบ้าคลั่งมีอยู่มากมายเป็นผลจากสามตระกูลใหญ่ที่ต้องการสาดน้ำโคลนราดเขา

พรสวรรค์ของชายหนุ่มคนนี้มีมากมายแทบจะไม่เคยมีคนเช่นนี้ในอดีตเลย,ไม่เพียงแต่สร้างความเกลียดชังบาดลึกกับคนของสามตระกูลใหญ่,เขาในตอนนี้ยังไม่ต่างกับระเบิดเดินได้!เฟิงหยุนหู่ต้องการที่จะตรวจสอบห้องเรียนกิเลนโดยละเอียด,ยากที่จะรับประกันได้ว่าสถานะของฉู่เทียนจะไม่ถูกเปิดเผย!

หยุนเทียนเหอที่ลุกขึ้นยืน"เอาล่ะ,เรื่องนี้ข้าจะเป็นคนไปตรวจสอบเป็นการส่วนตัวด้วยตัวเองแล้วกัน."

"ที่ข้ารู้มานั้น,สมาชิกคนสำคัญของห้องเรียนกิเลนนั่นคือหยุนเซียวหลานของท่าน"เฟิงหยุนหู่กล่าวออกมาเบาๆ"เพื่อไม่ให้มีข้อครหา,ท่านรองหยุนไม่ต้องทำอะไรดีกว่า!ข้าเห็นว่า...ให้รองประธานเฉินเป็นคนจัดการดีใหม?"

ใบหน้าของหยุนเทียนเหอถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
อะไรนะ?
ให้นางไปอย่างงั้นรึ?
ทุกคนต่างก็จับจ้องมองไปยังเหล่ารองประธานทั้งสอง.
หากว่าหยุนเทียนเหอเป็นขุนพลด้านวิชาการ,เช่นนั้นเฉินปิงยวีก็เป็นขุนพลด้านการรบ!

เฉินปิงยวีนั้นเป็นหนึ่งในสามผู้บริหาร,ที่อายุน้อยที่สุด,นางมีอายุต่ำกว่า 40 ปี,พลังฝึกตนของนางนั้นสูงส่งล้ำลึก,วันทั้งวันเต็มไปด้วยความเย็นชา,ราวกับเป็นก้อนน้ำแข็งจากโบราณกาล,นางแผ่กลิ่นอายที่เย็นชาไม่สนใจใครทั้งนั้นออกมา.

นางที่นั่งไขว่ห้างหลับตาในขณะมีการประชุม,ราวกับว่ามีเรื่องที่เกี่ยวกับนางแล้ว.

เมื่อนั้นเฉินปิงยวีค่อยๆลืมตาขึ้นมาช้าๆ,ก่อนที่จะจ้องมองไปยังคนอื่นๆ,ทำให้อุณหภูมิในห้องลดฮวบๆเป็นอย่างมาก.

เฟิงหยุนหู่เองก็หวั่นเกรงในสตรีนางนี้ไม่น้อย,เขาเองก็ไม่กล้าที่จะสั่งนางอย่างตรงไปตรงมา,และเขาก็ได้ถามนางออกไป"รองประธานเฉินท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?"

เฉินปิงยวีเงียบไปสักพัก,ก่อนที่จะแสดงท่าทางสุขุมและกล่าวอย่างเยือกเย็นออกไปว่า"ก็ดี!"
หน้าผากของหยุนเทียนเหอตอนนี้ถึงกับหลั่งเหงื่อที่เย็นเยือบออกมา!

มันจบแล้ว!
เฉินปิงยวี ฉายา ราชินีน้ำแข็งหิมะ,นิสัยที่แทบไม่ต่างจากฉายา,ทรงพลังเย็นชาเด็ดขาดราวกับราชันย์.ไม่ว่าเฉินปิงยวีทำสิ่งใดไป,ก็ตรงไปตรงมารวดเร็วเด็ดขาด,นางไม่ปล่อยให้เสียเวลาในการทำงานใดๆเลยแม้แต่น้อย.

และนางเองก็เป็นสหายสนิทของโหวเย่ว์วายุเทพเฟิงหยุนเทียนอีกด้วย.
ด้วยคำแนะนำของโหวเยว์วายุเทพ,เฉินปิงยวีจึงได้กลายมาเป็นรองประธานของสถาบันแห่งนี้!

ทั่วทั้งสถาบันแห่งรัฐกลางแล้ว,นอกจากโหวเย่ว์วายุเทพแล้ว,ยังไม่พบเลยว่าจะมีใครที่มีพลังฝึกตนเทียบกับนางได้,แม้แต่หยุนเทียนเหอ,พลังฝึกตนของเขายังอ่อนด้อยกว่านางอยู่ไม่น้อย.

หากว่าผู้หญิงคนนี้ต้องการที่จะตรวจสอบห้องเรียนกิเลนละก็,ถึงแม้ว่าจะเป็นหยุนเทียนเหอก็ยังไม่สามารถขัดได้!

เฉินปิงยวีลุกขึ้นยืนช้าๆ,ก่อนที่จะหันหน้าเดินออกไปด้านนอกประตูอย่างช้าๆ.

ที่มุมปากของเฟงหยุนหู่ที่ยกขึ้นยิ้มอย่างเด่นชัด,"อาวุโสหยุน,ด้วยความสามารถของรองประธานเฉินแล้ว,เจ้าไม่เชื่อใจอย่างงั้นรึ?ปล่อยนางไป!"

เจตจำนงของเฟิงหยุนหู่นั้นราวกับว่าจะไม่ปล่อยห้องเรียนกิเลนเอาไว้แน่!
หยุนเทียนเหอที่เร่งรีบออกจากห้องไป.

หยุนเหยาเองเร่งรีบเข้ามาหาเขาทันที"ท่านปู่,ข้าได้ยินข่าวมาว่า,สามตระกูลใหญ่กำลังจะจัดการลูเร็น..."

หยุนเทียนเหอที่กล่าวหยุดนางก่อน"เรื่องนี้เอาไว้ก่อน,ห้องเรียนกิเลนตอนนี้สถานการณ์ไม่ดีแล้ว,เจ้ารีบไปแจ้งพวกเขาเร็ว,เฉินปิงยวีกำลังจะไม่เยี่ยมสอบสวนพวกเขาวันนี้แล้ว!"
"อะไรนะ?"
หยุนเหยารู้สึกราวกับถูกทุบด้วยฆ้อนขนาดใหญ่อย่างแรง.
"พวกเขาจบแล้ว!"

"ข้าไม่สามารถทำอะไรได้ด้วยตัวเอง,เจ้ารีบไปเตือนพวกเขาให้ระวังตัวเอาไว้!"หยุนเทียนเหอที่แสดงท่าทางร้อนใจ"แน่นอนว่ารีบไปตอนนี้เลย!ไม่เช่นนั้นจะไม่มีเวลา!สตรีนางนั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็งขั้วโลก,และนางยังไม่ฟังใครทั้งนั้นด้วย!"
เขาต้องการที่จะให้ฉู่เทียนนั้นได้เตรียมตัว!

เพื่อเตรียมรับปัญหาใหญ่ที่จะเกิดขึ้น!
หยุนเหยาเร่งรีบไปยังห้องเรียนกิเลนทันที.

เมื่อนางไปถึงนั้นเห็นฉู่เทียนที่กำลังนั่งบำเพ็ญพลังอยู่,นางเดินตรงไปยังเขา พร้อมโน้มตัวไปพูดกับเขาทันที"ต้องหยุนอบรมตอนนี้เลย,พายุใหญ่กำลังจะมาแล้ว!"

ฉู่เทียนที่กล่าวออกมาด้วยท่าทางอยากรู้"เกิดสิ่งใดขึ้นเหรอ!"

"ไม่ใช่ว่าเจ้าให้ข้ากำลังจับตามองคนของสามตระกูลใหญ่ไว้หรอกรึ?ตอนนี้พวกเขาทั้งสามได้จัดเตรียมคนเอาไว้พร้อมที่จะส่งออกมาทำลายห้องเรียนแห่งนี้ให้ย่อยยับแล้ว!"
ใบหน้าของฉู่เทียนนั้นยังดูไม่สะทกสะท้านอะไร"ไม่ใช่ว่ามีเจ้าอยู่หรอกเหรอ?"

จะดีจะร้ายนางก็มีเป็นผู้เชี่ยวชาญดินแดนดวงจิตปรากฏ ผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 4,ฉู่เทียนไม่เชื่อว่าคนที่สามตระกูลส่งมา,จะแข็งแกร่งกว่าหยุนเหยา.

ใบหน้าของหยุนเหยานั้นเต็มไปด้วยความกระวนกระวายใจกล่าวออกไปต่อฉู่เทียน"คนของสามตระกูลจริงอยู่ว่าข้าอาจจะพอช่วยเจ้าป้องกันพวกเขาได้,ทว่ายังมีคนที่แข็งแกร่งอีกคนที่เจ้าต้องระวัง,คนผู้นี้....ข้าไม่สามารถต้านทานเขาได้เลย!ถึงแม้จะเป็นท่านปู่มาเอง,ยังไม่สามารถป้องกันได้เลย!"
"เฒ่าหยุนยังไม่สามารถขัดขวางได้เลยรึ?ใครกันที่ร้ายกาจขนาดนั้น!"

"ไร้สาระ!ราชินีน้ำแข็งหิมะเจ้าไม่เคยได้ยินรึไง?นางนั้นถือว่าเป็นสุดยอดของรัฐกลางเลยด้วย,นางมีความแข็งแกร่งรองลงมาจากโหวเย่ว์วายุเทพคนเดียวเท่านั้น!"
ไม่เห็นเคยได้ยิน!

ข้าเองก็ไม่เคยไปสร้างปัญหาหรือยุแหย่นางสักหน่อย,นางจำเป็นต้องมาหาเรื่องเขาด้วยเหรอ?
ห้องเรียนแห่งนี้เปิดทำการมาเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น,คาดไม่ถึงเลยว่าจะเจอปัญหาใหญ่ซะแล้ว,มันช่างน่าโมโหซะจริง!

คนของสามตระกูลใหญ่นั้นไม่ใช่สาระสำคัญ,ทว่าสตรีผู้นี้ยากที่จะสามารถจัดการได้,หากว่านางเคลื่อนไหวล่ะก็,ห้องเรียนของพวกเขาคงจะถูกทำลายย่อยยับไปทันที!"

"การปิดห้องเรียนชั่วคราวไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก,พวกเราทำได้แค่ซ่อนตัวชั่วคราวเท่านั้น"ดวงตาของฉู่เทียนกำลังลุกวาวด้วยความคิด"ข้ามีแผนบางอย่าง,หากแต่มันก็เสี่ยงอยู่เล็กน้อย,ทว่าก็น่าจะลองดู!"
หยุนเหยาถึงกับหมดคำพูดไปเลยทีเดียว.
สมองของชายคนนี้มีอะไรฝังอยู่กันแน่!


เขาไม่รู้รึอย่างไรว่าราชินีน้ำแข็ง เฉินปิงยวีนั้นน่าสะพรึงกลัวขนาดใหน!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น:

  1. เชื่อได้ว่าพี่ฉู่คงได้สอนวิชาให้คนที่มาสอบสวนแน่ ๆ ดีไม่ดีแมร่งเก้บสาว สว. เข้าบ้านอีกต่างหาก เย็นชานักเดี๋ยวเจอไปอเวจีรับรองละลายแน่นอน

    ตอบลบ