Miracle Throne Chapter 139 The water clashes Longwang Temple
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ มังกรวารีผู้ทำลายวังตัวเอง.
บทที่ 139 มหันตภัยที่มาเยือนคนบ้านเดียวกัน
Chapter 139 The water clashes Longwang Temple
หยุนเซียวในตอนนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง!
นักเรียนทั้งสามเขตเองตอนนี้ต่างก็เดินทางมายังลานต่อสู้ของวิหกสีชาดเป็นจำนวนมากพวกเขาคอยสังเกตุและมาชมการแข่งขันด้วยความชื่นชมเป็นอย่างมาก!
"ว้าว!"
"นายน้อยหยุนท่านช่างหล่อเหลายิ่งนัก!"
"ไม่คิดเลยจริงๆว่าท่านจะร้ายกาจถึงเพียงนี้!"
หญิงสาวมากมายทั้งสาวเล็กสาวใหญ่มากหน้าหลายตาต่างก็จ้องมองไปยังหยุนเซียวตาเป็นมันเลยทีเดียว.
อารมณ์ของหยุนเซียวตอนนี้กำลังถูกซัดสาดด้วยความตื่นเต้น,มันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ,ราวกับหมาป่าร้ายที่กำลังจะโหยหวนคำรามออกไปให้ได้ยินไปทั่วท้องฟ้า!
เจ้าอันธพาลนี้คิดว่าเป็นฝีมือตัวเองทั้งหมดรึอย่างไร,ฉู่เทียนอดไม่ได้อยากเข้าไปย่ำเท้าเจ้าคนหลงตัวเองนี้จริงๆ!
เป็นเพียงแค่ก้อนขี้ที่ไม่ติดผนังด้วยซ้ำ,ไม่คิดรึไงว่าทักษะดาบนั่นใครเป็นคนสอน,เขาไม่คิดรึไงว่ามันเป็นเพราะวิชาบำเพ็ญของเขาที่ได้ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่,เขายังเข้าใจอยู่หรือไม่?แล้วยังกล้ากระทำการนอกเหนือคำสั่งเขาเหรออีก,เจ้านี่มันสมองหมูจริงๆ!
ที่จริงแล้วแผนการของฉู่เทียนนั้นง่ายดายเป็นอย่างมาก.
เขาต้องการที่จะเปิดห้องเรียนเพื่อทำการเรียนการสอน,โดยใช้หยุนเซียวเป็นตัวโฆษณา.
ด้วยสิ่งเขาคาดการณ์เอาไว้,หยุนเซียวที่มีแต่ชื่อเสียงด้านลบ,แล้วมาวันหนึ่งกลับสามารถชุบตัวกลายเป็นทองได้,คนเยี่ยงนี้ยังสามารถที่จะกลายมาเป็นคนสำเร็จได้?ด้วยการใช้ลักษณะพิเศษของหยุนเซียวเป็นตัวโฆษณา,ย่อมต้องได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน!
ฉู่เทียนเองก็ต้องการที่จะให้หยุนเซียวสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งรัฐกลาง,หากแต่ต้องไม่ไปเกินไปด้วย.
เพราะว่าหากไปไกลเกินกว่าจะควบคุมได้ล่ะก็,คงยากที่จะระวังที่จะเกิดปัญหาตามมาได้.
ฉู่เทียนที่ได้รับวิชาบำเพ็ญรวมถึงรายระเอียดเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ของทั้ง
25 ดาราวิหกสีชาด,เขาสามารถที่จะบ่งบอกจุดเด่นจุดด้อยของวิชาดังกล่าวเพื่อที่จะนำไปพัฒนาต่อได้,แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นเพียงแค่การปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเท่านั้น,ต่างจาก
การปรับปรุงไปทั้งโครงสร้างอย่าง <<วิชาลับประกายสายฟ้า>>ของตระกูลหยุน.
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นก็ตามที.
ผลที่ได้รับนั้นดูเหมือนว่าจะไกลเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก.
ถึงแม้ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับฉู่เทียน,หากแต่สำหรับคนอื่นแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก.
ทุกๆคำพูดที่หยุนเซียวได้กล่าวออกไป,ทุกๆตัวอักษร,ทำให้คนจำนวนมากได้รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่,จนกลายเป็นว่ามันสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสถาบันทีเดียว.
และแล้วในที่สุดก็ไม่รู้ว่าจะทำให้พวกเขาต้องหัวเราะหรือร้องไห้ดี.
เมื่อหยุนเซียวที่เข้าท้าทายอันดับสามและสอง ,พวกเขาที่ต้องการที่จะเห็นความแข็งแกร่งของหยุนเซียว.
ใครจะรู้เล่าว่าพวกเขาทั้งสองกับกลายเป็นขอยอมรับความพ่ายแพ้และขอรับคำแนะนำจากหยุนเซียวแทน.
ทุกคนย่อมรู้ดี.
ยิ่งมีระดับที่สูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รับทรัพยากรและเกียรติมากขึ้นเท่านั้น!
ทั้งลานการต่อสู้ทั้งสี่เขตนั้นการที่จะสามารถอยู่ในหนึ่งในสามนั้น,ทุกๆเดือนพวกเขายังได้รับเงินมากมายมหาศาล.
คนเหล่านี้กับเลือกที่จะยอมแพ้.
ขอรับเพียงแค่คำแนะนำเลยอย่างงั้นรึ!
เทียบกับเงิน 180,000
เหรียญทองและยาทิพย์อีกหลายอย่าง,กลายเป็นว่าคำแนะนำของหยุนเซียวมีค่ามากกว่าเลยเหรอ!
"ยินดีกับนายน้อยหยุนด้วย,ท่านได้เป็นอันดับสองของดาราวิหกสีชาดแล้ว!"
"ขอแสดงความยินดีกับนายน้อยหยุนเซียว,ท่านได้เป็นอันดับสองของดาราวิหกสีชาดแล้ว!"
คนมากมายต่างก็ส่งเสียงดังสนั่นแสดงความยินดี.
ด้วยคนมากมายนับไม่ถ้วนที่กำลังส่งเสียงยินดีกับหยุนเซียว,เขาถึงกับยืนอยู่ด้วยความงงงวย.
ในเวลานี้,ราวกับว่าเขานั้นอยู่ในความฝัน,ทำให้เขาแทบจะไม่สามารถแยกออกมาได้ว่าเป็นความจริงหรือเรื่องโกหก.
เกิดอะไรขึ้นบ้าง,มันบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอที่เขาได้อันดับที่สอง?มันช่างสับสนงงงวยยิ่งนัก!
ชายหนุ่มที่ร่ำรวย,ทุกๆวันมีแต่กินและดื่ม,งานการนั้นไม่เคยทำเลย,คาดไม่ถึงเลยว่า
คนเช่นเขา,กลับสามารถก้าวมาถึงอันดับสองของดาราวิหกสีชาด,ทำให้ทุกคนตอนนี้เต็มไปด้วยความเคารพเขา!
ข้า,หยุนเซียวสามารถที่จะมีเกียรติขนาดนี้เลยรึ?
ข้า,หยุนเซียวจะสามารถกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในสถาบันแห่งนี้ได้รึ?
ข้า,หยุนเซียวสามารถที่จะได้รับความยำเกรงด้วยความแข็งแกร่งของข้าได้อย่างงั้นรึ?
ในหลายสิบปีนี้คนของตระกูลหยุน,นอกจากพี่สาวของเขา,ก็ไม่มีใครสามารถเหนือจากเขาได้!
ทั่วทั้งสถาบันตอนนี้จะต้องสั่นสะเทือน,ตระกูลหยุนจะต้องสั่นสะท้าน,ทั่วทั้งสถาบันรัฐกลางต่างก็ต้องตื่นตระหนก,กับการพัฒนาของเขาในครั้งนี้!
สถานะของเขาในตระกูลหยุนและภายในสถาบันตอนนี้ได้ถูกยกระดับขึ้นมาทั้งคู่,เขาจะได้เงินเพิ่มขึ้นมา,สิทธิพิเศษมากมายและยังมีทรัพยากรล้ำค่าอีก,และสิ่งที่สำคัญที่สุดข้างกายเขาจะสามารถหาหญิงงามมาเคียงข้างได้อย่างสบายๆ,บนหัวของเขาตอนนี้กำลังมีวงแหวนแห่งฝันหมุนวนอยู่,สาวงามมากมายกำลังชื่นชมความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงของเขา!
ขณะที่เขากำลังฝันหวานอยู่นั้นก็เกิดเสียงดังอื้ออึ้งสั่นสะท้านกำลังปลุกเขาให้ตื่นขึ้น.
"ท้าทายอันดับหนึ่ง!"
"ท้าทายอันดับหนึ่ง!"
"ท้าทายอันดับหนึ่ง!"
เสียงที่กำลังยกยอเขาอยู่นั้นราวกับเป็นเสียงที่กำลังแซ่ซ้องจักรพรรดิก็ไม่ปาน,ก่อนที่มันจะดึงเขากลับมาสู่โลกความเป็นจริง!
หยุนเซียวที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ,ก่อนที่จะโบกมือไปมา,"ฮ่า
ฮ่า ฮ่า ฮ่า,ทุกท่าน,ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้น,ข้าจะต้องนำอันดับหนึ่งมาได้อย่างแน่นอน!"
เพียงแค่สิ้นเสียงพูด.
หยุนเซียวก็เร่งรีบเขาไปอยู่ข้างๆฉู่เทียน.
"ลูกพี่ใหญ่!"
"ท่านคือลูกพี่ใหญ่ของข้า!"
"ท่านช่วยชี้นำลูกน้องคนนี้ด้วยไม่ว่าท่านจะชี้ไปทิศใต้ข้าย่อมไม่ไปทิศเหนือแน่นอน,ถึงท่านจะให้ลูกน้องคนนี้ปีนป่ายภูเขากระบี่,ลูกน้องคนนี้ก็จะไม่เกี่ยง,ช่วยบอกด้วยว่าข้าควรที่จะท้าทายอันดับหนึ่งหรือไม่?ท่านช่วยบอกข้าด้วยเถอะ!"
ฉู่เทียนอดไม่ได้ที่จะกรอกตาไปมา,"เจ้าคิดว่าข้าเป็นเทพเจ้ารึไง?เจ้าบอกเพียงแค่ว่าอันดับหนึ่งดาราวิหกสีชาดมีวิชาบำเพ็ญธาตุไฟ,แค่นั้น,แล้วยังไม่รู้อะไรนอกจากนี้เลย,วิธีการต่อสู้แบบใดไม่รู้สักอย่าง,แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร?"
หยุนเซียวถึงกับจ้องมองตาโตเลยทีเดียว"แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรล่ะควาวนี้?"
อย่างไรก็ตาม.
ใครสนใจอันดับของหยุนเซียวกันเล่า,ยังไงเขาก็เป็นแค่เพียงนายแบบโฆษณาเท่านั้น!
"มารดามันเถอะ!ใครมันมาทำให้ขุ่นแม่อารมณ์เสียกัน!"
"มันเป็นใครที่กล้ามาสร้างความวุ่นวายในสนามประลองวิหกสีชาดแห่งนี้!"
เสียงโกรธเกรี้ยวที่รุนแรงดังสั่นสะท้านมาแต่ไกล.
แปลกนัก!
เสียงนี้ดูคุ้นเคยขนาดนี้เลยเหรอ!
ขณะที่ฉู่เทียนกำลังสงสัยอยู่นั้น,แรงกดดันวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวก็ปกคลุมไปทั่วล้านต่อสุ้วิหกสีชาด!
ทุกๆคนรู้สึกว่าร่างกายตัวเองราวกับจะเหือดแห้งไปด้วยความร้อน,ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในเตาอบก็ไม่ปาน.
"เป็นนางเองเหรอ!"
"กำลังมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมให้เห็นแล้ว!"
ท้องฟ้าที่มืดคลึ้มเต็มไปด้วยแสงสีน้ำเงิน,ภายในสิบลี้ไม่มีเมฆเลยแม้แต่น้อย,ได้ยินเพียงเสียงลมที่ดังหวีดหวิว,และท้องฟ้าตอนนี้ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงลุกโชติข่วงขึ้นมาอย่างรุนแรง.
เกิดเป็นหงเพลิงที่กำลังคำรามลั่น,กลิ่นอายของเทพอสูรจากบรรพกาลที่กำลังเสด็จมาสู่พื้นโลก,ความสง่างามของสัตว์อสูรระดับเทพพระเจ้า,พลังศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเผาไหม้อากาศรอบๆ,ความรุนแรงไร้เทียมทาน,กำลังถูกชโลมไปด้วยแรงกดดันที่จะเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้ไป!
สวรรค์!
นี่เป็นความแข็งแกร่งแบบใดกัน!
ภายในลานประลองวิหกสีชาดมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
เหล่านักเรียนจากลานการต่อสู้อื่นๆที่เข้ามามุงดูอยู่ตอนนี้เมื่อรับรู้ถึงพลังที่รุนแรงนั่น,คาดไม่ถึงเลยว่าแรงกดดันที่หนักหน่วงนี้แทบจะทำให้พวกเขาไม่สามารถหายใจสะดวกได้เลย.
นี่มันร้ายกาจเกินไปแล้ว!หยุนเซียวตอนนี้หวั่นเกงจนเยี่ยวแทบเล็ด,เขาไม่เคยเห็นภูติวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้มากก่อนเลย!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหงส์เพลิง,ไม่ต้องกล่าวถึงการท้าทายเลย,แม้แต่ความกล้านั้นยังแทบจะไม่เหลือ!
ในที่สุดก็เผยตัวตนออกมาแล้ว,นักเรียนใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์สถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางเมื่อครั้งนางมาถึงรัฐกลางนางมีพลังปรุงร่างระดับ
9
ขั้นสูงสุด,พร้อมกับสามารถที่จะเลื่อนระดับเป็นหนึ่งในสามของลานประลองวิหกสีชาดได้.
วันถัดมา.
ด้วยสัตว์ประหลาดพรสวรรค์นางก็สามารถต่อต้านสวรรค์ทะลวงผ่านไปถึงระดับปลุกดวงจิตได้.
พร้อมกันนี้ยังจัดการอันดับหนึ่งและอันดับสองภายในกระบวนท่าเดียว,จนกลายเป็นอันดับหนึ่งของลานต่อสู้วิหกสีชาดแห่งนี้.
วันที่สาม.
เกิดเรื่องประหลาดที่นางยังสามารถทะลวงไปยังระดับปลุกดวงจิตขั้นที่
2 อย่างง่ายๆอีก.
พัฒนาการของนางนั้นรวดเร็วจนน่าสะพรึงกลัว,เกินกว่าสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางซะอีก.
แม้ว่านางจะมีพลังปลุกดวงจิตระดับ 2
ก็ตาม,ทว่าเทียบกับเหล่าสี่ต้าซือแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าอย่างแน่นอน,ไม่ว่าจะเป็นพลังอำนาจหรือความเป็นผู้นำห่างจากเหล่าสามต้าซือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น,ถึงแม้ว่าเทียบกับฉู่ซิงเหอแล้วจะด้อยไปกว่านานน้อยกระบี่ฟ้าอยู่มากก็ตาม.
ต้องไม่ลืมว่า.
ฉู่ซิงเหอไม่เพียงแต่เป็นตัวตนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลฉู่,นอกจากนี้เขายังได้รับสืบทอดกระบี่โบราณและวิชาลับตกทอดอีกด้วย,ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง,เหล่าสามต้าซือที่เหลือยังไม่สามารถเอามาเทียบได้เลยแม้แต่น้อย.
ท่ามกลางเปลวเพลิงที่ร้อนแรงของการเผาไหม้นี้เต็มไปทั่วท้องฟ้า,ก่อนที่จะมีหญิงสาวที่ร่ำร้อนยืนอยู่.
หญิงสาวที่ท่าทางดึงดูดใจมาในชุดสีแดงเพลิง,ท่อนขาท่อนแขนที่เรียวงาม,ผิวที่ขาวสดใสประณีตราวกับหิมะ,ผมสีแดงที่กำลังโบกสะบัดร่ายรำไปมา,กลิ่นอายของเพลิงที่ลุกไหม้,ส่งผลให้ทุกคนทั้งหมดอดไม่ได้เลยที่จะต้องจับจ้องมองไปยังนางเป็นสายตาเดียว.
หนานกงหยุน?
อันดับหนึ่งดาราวิหกสีชาด,หนานกงหยุน?
ข้าเองก็สงสัยว่า,สหายตัวดีคนนี้หายไปใหนกัน!
ในเวลาเดียวกันที่นางเหินลงมายืนอยู่บนลานการแข่งขันเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนขึ้นด้วยความโกรธ,คลื่นความร้อนที่รุนแรงกำลังสะบัดไปมา,กระแทกไปยังคนที่อยู่ใกล้ๆถึงกับทำให้พวกเขานั่งก้นจ้ำเบ้าทีเดียว,และหลายคนถึงกับได้รับบาดเจ็บในทันที.
"บัดซบ!"
"ผู้หญิงนางนี้จะโหดร้ายเกินไปแล้ว!"
"พวกเราเป็นคนบริสุทธ์ที่มาดูเฉยๆนะ!"
"คุณชายหยุน,เร็วเข้า,ล้มนาง,ยึดอันดับหนึ่งมาเร็วเข้า!"
หยุนเซียวถึงกับยืนนิ่งไม่ขยับเลยทีเดียว,เมื่อเขาได้ยินเสียงจากฝูงชน,เหงื่ออันมากมายกำลังหลั่งไหลออกราวกับอยู่กลางสายฝน.
ดวงตาของพวกเจ้ากำลังมองไปที่ก้นอยู่รึไง?
จะเอาอะไรไปสู้!
กำลังส่งบิดไปหาความตายรึไง?
"เจ้าเด็กน้อย,เจ้าไปเอาความกล้านั่นมาจากใหนกัน?ถึงได้กล้ามายุแหย่
ขุ่นแม่คนนี้,แส่หาความตายชัดๆ!"
อารมณ์ของหนานกงหยุนกำลังไม่ดีอย่างหนัก!
ทุนตอนต้นที่นางได้มา 1
ล้านเพื่อมาบุกเบิกที่รัฐกลางนั้น,และนางนั้นต้องการทำมันออกมาให้ดีที่สุด,นางต้องการที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับฉู่เทียนและเมิ่งชิงอู๋!
ดังนั้น,นางก็ได้วางแผนขยายธุรกิจของนางอย่างมุทะลุ
ทว่ารัฐกลางแห่งนี้มันไม่ง่ายเหมือนกับเมืองเทียนหนานเลยไม่ใช่รึ?
อีกอย่างที่เมืองเทียนหนานนั้นนางสามารถที่จะทำอะไรก็ได้อันเนื่องมาจากบิดาของนางนั้นเป็นเจ้าเมือง,แน่นอนว่าภายในรัฐกลางแห่งนี้นางแทบจะไม่สามารถกระทำการอะไรได้เลย?
หนายกงหยุนได้กระทำไปแล้วหลายๆอย่าง,เงินที่ต้องใช้ก็เป็นจำนวนมาก,ท้ายที่สุดไม่เป็นไปตามเป้าหมายสักอย่างเลย,
นางเองเป็นหญิงสาวที่ฉลาด.
เมื่อสามารถตระหนักได้ว่าไม่สามารถที่จะสร้างคลื่นใหญ่เหมือนกับเมืองเทียนหนานได้,นางจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนกระทำการเรื่องอื่นแทน,อย่างแรกนั้นนางจะต้องเริ่มสร้างฐานในสถาบันรัฐกลางแห่งนี้ให้ได้ซะก่อน.
ที่จริงแล้วหนานกงหยุนนั้นเป็นคนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ในอะไรง่ายๆอย่างแน่นอน!
อย่างน้อยที่สุดนางจะต้องทำประโยชน์อะไรให้กับหอการค้าปาฏิหาริย์ให้ได้ซะก่อนไม่ใช่หรอกรึ?
ดังนั้น,หนานกงหยุนจึงได้ฉายแสงราวกับดวงหาง,นางที่เปิดตัวในสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางด้วยความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้,นางสามารถที่จะก้าวไปยังอันดับหนึ่งของดาราวิหกสีชาดได้อย่างสบายๆ,กลายเป็นม้ามืดของสถาบันการศึกษารัฐกลางแห่งนี้ในทันที.
นางยังคงจดจำคำเตือนของฉู่เทียนตลอดมา.
หนานกงหยุนจำต้องใช้เขตการต่อสู้วิหกสีชาดแห่งนี้ในการสร้างรากฐาน,นางจะต้องสร้างคนที่เชื่อใจได้และแข็งแกร่งขึ้นมาในสถาบันแห่งนี้,ยกตัวอย่างเจาคุนและอู๋หยง,ทุกคนต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของนาง,เหล่าดาราวิหกสีชาดทั้ง
36 คน,อย่างน้อยมี 20 คนแล้วที่ยินดีติดตามนาง.
คนเหล่านี้ทั้งหมดต่างก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์!
การพัฒนาที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่หอการค้าปาฏิหาริย์ขาดอยู่,ไม่ใช่ว่าก็คือคนที่มีพรสวรรค์หรอกเหรอ?
หนานกงหยุนต้องการที่จะลงหลักปักฐานที่แห่งนี้เพื่อที่จะคัดกรองเหล่าผู้มากพรสวรรค์,หลังจากที่หอการค้าปาฏิหาริย์มาถึงแล้ว,ย่อมสามารถที่จะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว.
ใครจะรู้ล่ะ,ถึงแม้ว่าจะทำขนาดนั้นแล้ว,หนานกงหยุนตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาแม้แต่น้อย.
ตระกูลฉู่,ลวอและเย่ ตระกูลทั้งสามนั้นมีเส้นสายที่แข็งแกร่งอยู่ภายในสถาบันแห่งนี้,เมื่อหนานกงหยุนเตรียมสมัครรับคนอย่างแข็งขัน,จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขานั้นจะละเลยเรื่องนี้?เพราะว่าเหตุนั้น,เหล่าคนของลานประลองวิหกสีชาดจึงได้มีคนมามายเข้ามาท้าทายไม่หยุดหย่อน,ตลอดจน,เหล่าคนที่ติดตามหนานกงหยุนเองต่างก็ถูกซื้อตัวไปอยู่เป็นประจำ,ส่วนใครที่ไม่ยอดละก็,จะถูกลอบโจมตีอย่างไรซึ่งเหตุผล.
จนสุดท้ายแล้วมีคนจำนวนมากที่ถอนตัวจากไป!
องค์กรที่หนานกงหยุนได้สร้างขึ้นมา,เพียงไม่กี่วันก็ทำให้เหลือสมาชิกเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น!
จะไม่ทำให้หนานกงหยุนบ้าได้อย่างไร?
จะไม่ทำให้หนานกงหยุนเต็มไปด้วยความเกลียดชังได้อย่างไร?
เรื่องที่สำคัญๆกับไม่สามารถทำได้สำเร็จ,แม้แต่เรื่องรองลงมาเองก็ไม่ต่างกัน,ประธานได้ไว้วางใจส่งนางมาเป็นผู้บุกเบิก,เพื่อที่จะสามารถก้าวเข้ามายังรัฐกลางได้อย่างสดวก,ใครจะรู้ล่ะว่ามันจะยากถึงขนาดนี้!
มารดาเถอะ!
แล้วยังมีคนเข้ามาสร้างปัญหาอีกเหรอ!
ความโกรธเกลียดของนางตอนนี้,ไม่สามารถที่จะบรรเทาได้แล้ว!
สิ่งที่ทำให้นางโกรธเกรี้ยวจนถึงขีดสุดนั้นเป็นเพราะว่าผู้ติดตามของนางที่อยู่ในการดูแลของนางต่างก็พ่ายแพ้กันทุกคน!
วันนี้จะให้พี่ใหญ่อย่างนางนั้น,ทนต่อไปได้อีกเหรอ?ไม่เช่นนั้นแล้วศักดิ์ศรีของขุ่นแม่คนนี้จะเอาไปทิ้งไว้ที่ใหนกัน!
หยุนเซียวที่เห็นปิศาจร้ายอย่างหนานกงหยุนแล้ว,ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเขานั้นซีดเผือก
เดี๋ยวเขียวเดียวซีด,ยืนสั่นเทิ้มอยู่กับที.
เขาเองก็เพิ่งจะได้ข่าวจากคนอื่นๆมาไม่นานนี่เอง,แม้ว่าจะยังไม่เคยพบนาง,ทว่าความร้ายกาจนั้นเขาต่างก็ได้ยินมาอยู่เต็มรูหู.
สิบวันที่แล้ว.
มีคนเข้าไปท้าทายหนานกงหยุน,นางที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวถึงกับหักแขนหักขาคนไปถึงหกคนทีเดียว.
หกวันที่แล้ว.
หนานกงหยุนได้นำคนราวๆ 20-30
คนบุกเข้าต่อสู้กับลานต่อสู้มังกรฟ้า,จัดการสั่งสอนศิษย์ภายในของพวกเขาให้รับบาดเจ็บมากกว่าสามสิบคนทีเดียว,และในจำนวนนั้นยังมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญมังกรทมิฬอยู่ด้วย,คนเกือบทั้งหมดกว่า
50 เปอร์เซ็นต์ถูกหนานกงหยุนจัดการไปทั้งหมด.
สามวันที่แล้ว.
หนานกงหยุนคนเดียวได้บุกเข้าไปยังลานฝึกฝนพิเศษของตระกูลฉู่ที่อยู่ภายในสำนักการศึกษาแห่งรัฐกลาง,ทำลายสถานที่ดังกล่าวพังลงไปกว่าครึ่ง,มีคนกว่ายี่สิบคนได้รับบาดเจ็บสาหัส.
............
นี่คือนางมารร้ายที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก.
หยุนเซียวรับรู้ได้อย่างดีว่าหญิงสาวคนนี้แข็งแกร่ง,ทว่าด้วยความเผลอเรอ
ลืมคิดไป,ดังนั้นจึงได้กล่าวโอ้อวด,ว่าต้องการท้าทายอันดับหนึ่ง.
หากเขารู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของนางนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดนี้.
เขาจะไปเอาความกล้าไปท้าทายนางได้อย่างไรกัน!
"เอิ่ม....เรื่องนี้...."หยุนเซียวที่ตัวสั่นงันงก,เสียงติดๆขัดๆก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมา"วันนี้นายน้อยผู้นี้เหนื่อยเหลือเกิน,การต่อสู้วันนี้เอาเป็นว่าวันหน้าข้าค่อยมาใหม่แล้วกัน!"
หนานกงหยุนนั้นหาได้ใส่ใจไม่,นางต้องการที่จะหาที่ระบายอยู่แล้ว"จะหนีรึ?เป็นผู้ชายอยุ่รึไม่,รับหมัดของข้าสัก
20 หมัดก่อนค่อยไป!"
หลังจากกล่าวจบ.
นางที่พับแขนเสื้อขางนางขึ้นก่อนที่จะพุ่งออกไปหาเขาในทันที.
นางไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าหยุนเซียวคนนี้จะเป็นใครในเมื่อตาบอดกล้ามาท้าทายนาง,หากว่าไม่ได้หักกระดูกสักสิบท่อนล่ะก็,มันย่อมไม่สมกับฉายาอันดุร้ายของนางแน่.
ขณะหนานกงหยุนที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณมหาศาลปะทุขึ้นมาพร้อมเขาโจมตีอยู่นั่น.
หยุนเซียวที่ร้องออกมาเสียงหลงหาคนช่วย.
ทันใดนั้น!
หนานกงหยุนถึงกับหยุดในทันที,กลิ่นอายพลังวิญญาณที่หนักหน่วงบ้าคลั่งค่อยๆผ่อนลงเรื่อยๆ,ดวงตาที่แดงฉานของนางจับจ้องไปยังชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆหยุนเซียว.
ชายคนนี้ท่าทางธรรมดาเป็นอย่างมาก,หน้าตาดาดๆทั่วไปเลยก้ว่าได้,ยืนออยู่ท่ามกลางฝูงชน,กลมกลืนจนไม่สามารถแยกออกมาได้เลย.
"ท่าน,เป็นท่าน..."
ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะไม่สามารถจดจำเขาได้.
แต่ไม่มีทางที่หนานกงหยุนจะจำไม่ได้?
วิชาแปลงโฉมของฉู่เทียนที่เคยแสดงให้นางได้ดูครั้งก่อน,ยังทำให้หนานกงหยุนตื่นตะลึงอยู่เลย.
ลำพัง,กระบี่อเวจีโบราณและจิ้งจอกสีขาวนั่น,เพียงแค่นั้นก็เพียงพอที่จะระบุว่าเป็นฉู่เทียนแล้วไม่ใช่รึ?
ชายคนนี้ที่มาปรากฏตัวขึ้นที่สถาบันแห่งรัฐกลางแหงนี้แล้วรึ?
ส่วนเจ้าโง่นั่นที่อยู่ข้างๆเขา,เป็นคนที่เขานำมาอย่างงั้นรึ?
จวบจนถึงตอนนี้,ฉู่เทียนเองไม่รู้ว่าอันดับหนึ่งดาราวิหกสีชาด,นี่ถึงได้เรียกว่าเป็นการนำมหันตภัยมาเยือนคนบ้านเดียวกันจริงๆซะแล้ว,ต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรอยู่.
หยุนเซียวที่หวาดกลัวอย่างหนักร่างกายที่สั่นไปมานั่น"ข้า..ข้า..ข้าต้องทำอย่างไรดี,ข้าเพิ่งทำให้คนทั้งหมดยอมรับได้และทำให้ชีวิตข้ากำลังจะสดใส,ข้าไม่ต้องการที่จะพิการด้วยฝีมือแม่มดนี่!ช่วยข้าด้วย!"
"หญิงสาวคนนี้แข็งแกร่งเกินไป,แม้แต่ข้าคิดว่าคงยากที่จะสู้กับนางได้,ข้าไม่มั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะชนะนางได้."ฉู่เทียนที่โบกมือไปมาเบาๆ"เจ้าเป็นคนที่ตอแยนางเองดังนั้น
ก็ยอมให้นางหักกระดูกไปสักท่อนสองท่อนแล้วกัน,แต่ว่าไม่ต้องเป็นกังวลไป,ด้วยความรู้ของข้าแล้ว,จะต้องรักษาเจ้าให้หายกลับมาอย่างรวดเร็วแน่นอน,ดังนั้นเจ้าคงจะไม่เจ็บมากเท่าไหร่หรอกมั้ง,แค่หลับตาสักครู่แล้วทนมันให้ได้,ถึงเจ้าจะพิการไป,แต่ตราบเท่าเจ้ายังมีชีวิต,ข้ามั่นใจจะต้องรักษาเจ้าหายแน่นอน."
"เจ้านาย!"ใบหน้าของหยุนเซียวถึงกับเปลี่ยนเป็นสีเขียวเลยทีเดียว"ท่านทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!"
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
RIP หยุนเซียว พี่ฉู่เทมึงแน่นอน รอลุ้นว่าคุณแม่สายฟ้าจะมาช่วยไหม หรือว่าจะโดนคุณแม่ไฟเผาเล่นแค่นั้น
ตอบลบ