วันพุธที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 139 The water clashes Longwang Temple

Miracle Throne Chapter 139 The water clashes Longwang Temple

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ มังกรวารีผู้ทำลายวังตัวเอง.


บทที่ 139 มหันตภัยที่มาเยือนคนบ้านเดียวกัน


Chapter 139  The water clashes Longwang Temple
 
หยุนเซียวในตอนนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลาง!
นักเรียนทั้งสามเขตเองตอนนี้ต่างก็เดินทางมายังลานต่อสู้ของวิหกสีชาดเป็นจำนวนมากพวกเขาคอยสังเกตุและมาชมการแข่งขันด้วยความชื่นชมเป็นอย่างมาก!
"ว้าว!"
"นายน้อยหยุนท่านช่างหล่อเหลายิ่งนัก!"
"ไม่คิดเลยจริงๆว่าท่านจะร้ายกาจถึงเพียงนี้!"
หญิงสาวมากมายทั้งสาวเล็กสาวใหญ่มากหน้าหลายตาต่างก็จ้องมองไปยังหยุนเซียวตาเป็นมันเลยทีเดียว.
อารมณ์ของหยุนเซียวตอนนี้กำลังถูกซัดสาดด้วยความตื่นเต้น,มันกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ,ราวกับหมาป่าร้ายที่กำลังจะโหยหวนคำรามออกไปให้ได้ยินไปทั่วท้องฟ้า!


เจ้าอันธพาลนี้คิดว่าเป็นฝีมือตัวเองทั้งหมดรึอย่างไร,ฉู่เทียนอดไม่ได้อยากเข้าไปย่ำเท้าเจ้าคนหลงตัวเองนี้จริงๆ!
เป็นเพียงแค่ก้อนขี้ที่ไม่ติดผนังด้วยซ้ำ,ไม่คิดรึไงว่าทักษะดาบนั่นใครเป็นคนสอน,เขาไม่คิดรึไงว่ามันเป็นเพราะวิชาบำเพ็ญของเขาที่ได้ถูกปรับปรุงขึ้นมาใหม่,เขายังเข้าใจอยู่หรือไม่?แล้วยังกล้ากระทำการนอกเหนือคำสั่งเขาเหรออีก,เจ้านี่มันสมองหมูจริงๆ!

ที่จริงแล้วแผนการของฉู่เทียนนั้นง่ายดายเป็นอย่างมาก.
เขาต้องการที่จะเปิดห้องเรียนเพื่อทำการเรียนการสอน,โดยใช้หยุนเซียวเป็นตัวโฆษณา.

ด้วยสิ่งเขาคาดการณ์เอาไว้,หยุนเซียวที่มีแต่ชื่อเสียงด้านลบ,แล้วมาวันหนึ่งกลับสามารถชุบตัวกลายเป็นทองได้,คนเยี่ยงนี้ยังสามารถที่จะกลายมาเป็นคนสำเร็จได้?ด้วยการใช้ลักษณะพิเศษของหยุนเซียวเป็นตัวโฆษณา,ย่อมต้องได้รับการตอบรับที่ดีอย่างแน่นอน!

ฉู่เทียนเองก็ต้องการที่จะให้หยุนเซียวสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งรัฐกลาง,หากแต่ต้องไม่ไปเกินไปด้วย.
เพราะว่าหากไปไกลเกินกว่าจะควบคุมได้ล่ะก็,คงยากที่จะระวังที่จะเกิดปัญหาตามมาได้.

ฉู่เทียนที่ได้รับวิชาบำเพ็ญรวมถึงรายระเอียดเกี่ยวกับทักษะการต่อสู้ของทั้ง 25 ดาราวิหกสีชาด,เขาสามารถที่จะบ่งบอกจุดเด่นจุดด้อยของวิชาดังกล่าวเพื่อที่จะนำไปพัฒนาต่อได้,แต่ถึงกระนั้นมันก็เป็นเพียงแค่การปรับเปลี่ยนเล็กน้อยเท่านั้น,ต่างจาก การปรับปรุงไปทั้งโครงสร้างอย่าง <<วิชาลับประกายสายฟ้า>>ของตระกูลหยุน.
แม้ว่าจะเป็นเช่นนั้นก็ตามที.
ผลที่ได้รับนั้นดูเหมือนว่าจะไกลเกินกว่าที่เขาคาดเอาไว้มาก.

ถึงแม้ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อยเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับฉู่เทียน,หากแต่สำหรับคนอื่นแล้วเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างมาก.
ทุกๆคำพูดที่หยุนเซียวได้กล่าวออกไป,ทุกๆตัวอักษร,ทำให้คนจำนวนมากได้รับผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่,จนกลายเป็นว่ามันสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งสถาบันทีเดียว.
และแล้วในที่สุดก็ไม่รู้ว่าจะทำให้พวกเขาต้องหัวเราะหรือร้องไห้ดี.
เมื่อหยุนเซียวที่เข้าท้าทายอันดับสามและสอง ,พวกเขาที่ต้องการที่จะเห็นความแข็งแกร่งของหยุนเซียว.
ใครจะรู้เล่าว่าพวกเขาทั้งสองกับกลายเป็นขอยอมรับความพ่ายแพ้และขอรับคำแนะนำจากหยุนเซียวแทน.
ทุกคนย่อมรู้ดี.
ยิ่งมีระดับที่สูงเท่าไหร่ก็จะยิ่งได้รับทรัพยากรและเกียรติมากขึ้นเท่านั้น!
ทั้งลานการต่อสู้ทั้งสี่เขตนั้นการที่จะสามารถอยู่ในหนึ่งในสามนั้น,ทุกๆเดือนพวกเขายังได้รับเงินมากมายมหาศาล.
คนเหล่านี้กับเลือกที่จะยอมแพ้.
ขอรับเพียงแค่คำแนะนำเลยอย่างงั้นรึ!
เทียบกับเงิน 180,000 เหรียญทองและยาทิพย์อีกหลายอย่าง,กลายเป็นว่าคำแนะนำของหยุนเซียวมีค่ามากกว่าเลยเหรอ!
"ยินดีกับนายน้อยหยุนด้วย,ท่านได้เป็นอันดับสองของดาราวิหกสีชาดแล้ว!"
"ขอแสดงความยินดีกับนายน้อยหยุนเซียว,ท่านได้เป็นอันดับสองของดาราวิหกสีชาดแล้ว!"
คนมากมายต่างก็ส่งเสียงดังสนั่นแสดงความยินดี.

ด้วยคนมากมายนับไม่ถ้วนที่กำลังส่งเสียงยินดีกับหยุนเซียว,เขาถึงกับยืนอยู่ด้วยความงงงวย.
ในเวลานี้,ราวกับว่าเขานั้นอยู่ในความฝัน,ทำให้เขาแทบจะไม่สามารถแยกออกมาได้ว่าเป็นความจริงหรือเรื่องโกหก.
เกิดอะไรขึ้นบ้าง,มันบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอที่เขาได้อันดับที่สอง?มันช่างสับสนงงงวยยิ่งนัก!
ชายหนุ่มที่ร่ำรวย,ทุกๆวันมีแต่กินและดื่ม,งานการนั้นไม่เคยทำเลย,คาดไม่ถึงเลยว่า คนเช่นเขา,กลับสามารถก้าวมาถึงอันดับสองของดาราวิหกสีชาด,ทำให้ทุกคนตอนนี้เต็มไปด้วยความเคารพเขา!
ข้า,หยุนเซียวสามารถที่จะมีเกียรติขนาดนี้เลยรึ?
ข้า,หยุนเซียวจะสามารถกลายเป็นคนที่มีชื่อเสียงที่สุดในสถาบันแห่งนี้ได้รึ?
ข้า,หยุนเซียวสามารถที่จะได้รับความยำเกรงด้วยความแข็งแกร่งของข้าได้อย่างงั้นรึ?
ในหลายสิบปีนี้คนของตระกูลหยุน,นอกจากพี่สาวของเขา,ก็ไม่มีใครสามารถเหนือจากเขาได้!

ทั่วทั้งสถาบันตอนนี้จะต้องสั่นสะเทือน,ตระกูลหยุนจะต้องสั่นสะท้าน,ทั่วทั้งสถาบันรัฐกลางต่างก็ต้องตื่นตระหนก,กับการพัฒนาของเขาในครั้งนี้!
 สถานะของเขาในตระกูลหยุนและภายในสถาบันตอนนี้ได้ถูกยกระดับขึ้นมาทั้งคู่,เขาจะได้เงินเพิ่มขึ้นมา,สิทธิพิเศษมากมายและยังมีทรัพยากรล้ำค่าอีก,และสิ่งที่สำคัญที่สุดข้างกายเขาจะสามารถหาหญิงงามมาเคียงข้างได้อย่างสบายๆ,บนหัวของเขาตอนนี้กำลังมีวงแหวนแห่งฝันหมุนวนอยู่,สาวงามมากมายกำลังชื่นชมความแข็งแกร่งและมีชื่อเสียงของเขา!

ขณะที่เขากำลังฝันหวานอยู่นั้นก็เกิดเสียงดังอื้ออึ้งสั่นสะท้านกำลังปลุกเขาให้ตื่นขึ้น.

"ท้าทายอันดับหนึ่ง!"
 "ท้าทายอันดับหนึ่ง!"
"ท้าทายอันดับหนึ่ง!"
เสียงที่กำลังยกยอเขาอยู่นั้นราวกับเป็นเสียงที่กำลังแซ่ซ้องจักรพรรดิก็ไม่ปาน,ก่อนที่มันจะดึงเขากลับมาสู่โลกความเป็นจริง!
หยุนเซียวที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ,ก่อนที่จะโบกมือไปมา,"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า,ทุกท่าน,ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้น,ข้าจะต้องนำอันดับหนึ่งมาได้อย่างแน่นอน!"
เพียงแค่สิ้นเสียงพูด.
หยุนเซียวก็เร่งรีบเขาไปอยู่ข้างๆฉู่เทียน.
"ลูกพี่ใหญ่!"
"ท่านคือลูกพี่ใหญ่ของข้า!"
"ท่านช่วยชี้นำลูกน้องคนนี้ด้วยไม่ว่าท่านจะชี้ไปทิศใต้ข้าย่อมไม่ไปทิศเหนือแน่นอน,ถึงท่านจะให้ลูกน้องคนนี้ปีนป่ายภูเขากระบี่,ลูกน้องคนนี้ก็จะไม่เกี่ยง,ช่วยบอกด้วยว่าข้าควรที่จะท้าทายอันดับหนึ่งหรือไม่?ท่านช่วยบอกข้าด้วยเถอะ!"
ฉู่เทียนอดไม่ได้ที่จะกรอกตาไปมา,"เจ้าคิดว่าข้าเป็นเทพเจ้ารึไง?เจ้าบอกเพียงแค่ว่าอันดับหนึ่งดาราวิหกสีชาดมีวิชาบำเพ็ญธาตุไฟ,แค่นั้น,แล้วยังไม่รู้อะไรนอกจากนี้เลย,วิธีการต่อสู้แบบใดไม่รู้สักอย่าง,แล้วเจ้าจะให้ข้าทำอย่างไร?"
หยุนเซียวถึงกับจ้องมองตาโตเลยทีเดียว"แล้วพวกเขาจะทำอย่างไรล่ะควาวนี้?"
อย่างไรก็ตาม.
ใครสนใจอันดับของหยุนเซียวกันเล่า,ยังไงเขาก็เป็นแค่เพียงนายแบบโฆษณาเท่านั้น!

"มารดามันเถอะ!ใครมันมาทำให้ขุ่นแม่อารมณ์เสียกัน!"
"มันเป็นใครที่กล้ามาสร้างความวุ่นวายในสนามประลองวิหกสีชาดแห่งนี้!"
เสียงโกรธเกรี้ยวที่รุนแรงดังสั่นสะท้านมาแต่ไกล.

แปลกนัก!
เสียงนี้ดูคุ้นเคยขนาดนี้เลยเหรอ!
ขณะที่ฉู่เทียนกำลังสงสัยอยู่นั้น,แรงกดดันวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัวก็ปกคลุมไปทั่วล้านต่อสุ้วิหกสีชาด!
ทุกๆคนรู้สึกว่าร่างกายตัวเองราวกับจะเหือดแห้งไปด้วยความร้อน,ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในเตาอบก็ไม่ปาน.
"เป็นนางเองเหรอ!"

"กำลังมีการแสดงที่ยอดเยี่ยมให้เห็นแล้ว!"
ท้องฟ้าที่มืดคลึ้มเต็มไปด้วยแสงสีน้ำเงิน,ภายในสิบลี้ไม่มีเมฆเลยแม้แต่น้อย,ได้ยินเพียงเสียงลมที่ดังหวีดหวิว,และท้องฟ้าตอนนี้ก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงเพลิงลุกโชติข่วงขึ้นมาอย่างรุนแรง.

เกิดเป็นหงเพลิงที่กำลังคำรามลั่น,กลิ่นอายของเทพอสูรจากบรรพกาลที่กำลังเสด็จมาสู่พื้นโลก,ความสง่างามของสัตว์อสูรระดับเทพพระเจ้า,พลังศักดิ์สิทธิ์ที่กำลังเผาไหม้อากาศรอบๆ,ความรุนแรงไร้เทียมทาน,กำลังถูกชโลมไปด้วยแรงกดดันที่จะเผาไหม้ทุกสิ่งทุกอย่างให้มอดไหม้ไป!

สวรรค์!
นี่เป็นความแข็งแกร่งแบบใดกัน!
ภายในลานประลองวิหกสีชาดมีผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน!
เหล่านักเรียนจากลานการต่อสู้อื่นๆที่เข้ามามุงดูอยู่ตอนนี้เมื่อรับรู้ถึงพลังที่รุนแรงนั่น,คาดไม่ถึงเลยว่าแรงกดดันที่หนักหน่วงนี้แทบจะทำให้พวกเขาไม่สามารถหายใจสะดวกได้เลย.

นี่มันร้ายกาจเกินไปแล้ว!หยุนเซียวตอนนี้หวั่นเกงจนเยี่ยวแทบเล็ด,เขาไม่เคยเห็นภูติวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนี้มากก่อนเลย!
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหงส์เพลิง,ไม่ต้องกล่าวถึงการท้าทายเลย,แม้แต่ความกล้านั้นยังแทบจะไม่เหลือ!
ในที่สุดก็เผยตัวตนออกมาแล้ว,นักเรียนใหม่ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์สถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางเมื่อครั้งนางมาถึงรัฐกลางนางมีพลังปรุงร่างระดับ 9 ขั้นสูงสุด,พร้อมกับสามารถที่จะเลื่อนระดับเป็นหนึ่งในสามของลานประลองวิหกสีชาดได้.
วันถัดมา.
ด้วยสัตว์ประหลาดพรสวรรค์นางก็สามารถต่อต้านสวรรค์ทะลวงผ่านไปถึงระดับปลุกดวงจิตได้.
พร้อมกันนี้ยังจัดการอันดับหนึ่งและอันดับสองภายในกระบวนท่าเดียว,จนกลายเป็นอันดับหนึ่งของลานต่อสู้วิหกสีชาดแห่งนี้.
วันที่สาม.
เกิดเรื่องประหลาดที่นางยังสามารถทะลวงไปยังระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 อย่างง่ายๆอีก.
พัฒนาการของนางนั้นรวดเร็วจนน่าสะพรึงกลัว,เกินกว่าสี่ต้าซือแห่งรัฐกลางซะอีก.

แม้ว่านางจะมีพลังปลุกดวงจิตระดับ 2 ก็ตาม,ทว่าเทียบกับเหล่าสี่ต้าซือแล้วไม่ได้ด้อยไปกว่าอย่างแน่นอน,ไม่ว่าจะเป็นพลังอำนาจหรือความเป็นผู้นำห่างจากเหล่าสามต้าซือเพียงเล็กน้อยเท่านั้น,ถึงแม้ว่าเทียบกับฉู่ซิงเหอแล้วจะด้อยไปกว่านานน้อยกระบี่ฟ้าอยู่มากก็ตาม.

ต้องไม่ลืมว่า.
ฉู่ซิงเหอไม่เพียงแต่เป็นตัวตนที่มีพรสวรรค์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ตระกูลฉู่,นอกจากนี้เขายังได้รับสืบทอดกระบี่โบราณและวิชาลับตกทอดอีกด้วย,ประวัติศาสตร์ของพวกเขาเอง,เหล่าสามต้าซือที่เหลือยังไม่สามารถเอามาเทียบได้เลยแม้แต่น้อย.

ท่ามกลางเปลวเพลิงที่ร้อนแรงของการเผาไหม้นี้เต็มไปทั่วท้องฟ้า,ก่อนที่จะมีหญิงสาวที่ร่ำร้อนยืนอยู่.

หญิงสาวที่ท่าทางดึงดูดใจมาในชุดสีแดงเพลิง,ท่อนขาท่อนแขนที่เรียวงาม,ผิวที่ขาวสดใสประณีตราวกับหิมะ,ผมสีแดงที่กำลังโบกสะบัดร่ายรำไปมา,กลิ่นอายของเพลิงที่ลุกไหม้,ส่งผลให้ทุกคนทั้งหมดอดไม่ได้เลยที่จะต้องจับจ้องมองไปยังนางเป็นสายตาเดียว.

หนานกงหยุน?
อันดับหนึ่งดาราวิหกสีชาด,หนานกงหยุน?
ข้าเองก็สงสัยว่า,สหายตัวดีคนนี้หายไปใหนกัน!
ในเวลาเดียวกันที่นางเหินลงมายืนอยู่บนลานการแข่งขันเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชนขึ้นด้วยความโกรธ,คลื่นความร้อนที่รุนแรงกำลังสะบัดไปมา,กระแทกไปยังคนที่อยู่ใกล้ๆถึงกับทำให้พวกเขานั่งก้นจ้ำเบ้าทีเดียว,และหลายคนถึงกับได้รับบาดเจ็บในทันที.
"บัดซบ!"
"ผู้หญิงนางนี้จะโหดร้ายเกินไปแล้ว!"
"พวกเราเป็นคนบริสุทธ์ที่มาดูเฉยๆนะ!"
"คุณชายหยุน,เร็วเข้า,ล้มนาง,ยึดอันดับหนึ่งมาเร็วเข้า!"
หยุนเซียวถึงกับยืนนิ่งไม่ขยับเลยทีเดียว,เมื่อเขาได้ยินเสียงจากฝูงชน,เหงื่ออันมากมายกำลังหลั่งไหลออกราวกับอยู่กลางสายฝน.
ดวงตาของพวกเจ้ากำลังมองไปที่ก้นอยู่รึไง?
จะเอาอะไรไปสู้!
กำลังส่งบิดไปหาความตายรึไง?
"เจ้าเด็กน้อย,เจ้าไปเอาความกล้านั่นมาจากใหนกัน?ถึงได้กล้ามายุแหย่ ขุ่นแม่คนนี้,แส่หาความตายชัดๆ!"

อารมณ์ของหนานกงหยุนกำลังไม่ดีอย่างหนัก!
ทุนตอนต้นที่นางได้มา 1 ล้านเพื่อมาบุกเบิกที่รัฐกลางนั้น,และนางนั้นต้องการทำมันออกมาให้ดีที่สุด,นางต้องการที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับฉู่เทียนและเมิ่งชิงอู๋!
ดังนั้น,นางก็ได้วางแผนขยายธุรกิจของนางอย่างมุทะลุ
ทว่ารัฐกลางแห่งนี้มันไม่ง่ายเหมือนกับเมืองเทียนหนานเลยไม่ใช่รึ?

อีกอย่างที่เมืองเทียนหนานนั้นนางสามารถที่จะทำอะไรก็ได้อันเนื่องมาจากบิดาของนางนั้นเป็นเจ้าเมือง,แน่นอนว่าภายในรัฐกลางแห่งนี้นางแทบจะไม่สามารถกระทำการอะไรได้เลย?

หนายกงหยุนได้กระทำไปแล้วหลายๆอย่าง,เงินที่ต้องใช้ก็เป็นจำนวนมาก,ท้ายที่สุดไม่เป็นไปตามเป้าหมายสักอย่างเลย,
นางเองเป็นหญิงสาวที่ฉลาด.
เมื่อสามารถตระหนักได้ว่าไม่สามารถที่จะสร้างคลื่นใหญ่เหมือนกับเมืองเทียนหนานได้,นางจำเป็นต้องเปลี่ยนแผนกระทำการเรื่องอื่นแทน,อย่างแรกนั้นนางจะต้องเริ่มสร้างฐานในสถาบันรัฐกลางแห่งนี้ให้ได้ซะก่อน.
ที่จริงแล้วหนานกงหยุนนั้นเป็นคนที่ไม่ยอมพ่ายแพ้ในอะไรง่ายๆอย่างแน่นอน!
อย่างน้อยที่สุดนางจะต้องทำประโยชน์อะไรให้กับหอการค้าปาฏิหาริย์ให้ได้ซะก่อนไม่ใช่หรอกรึ?
ดังนั้น,หนานกงหยุนจึงได้ฉายแสงราวกับดวงหาง,นางที่เปิดตัวในสถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางด้วยความเร็วที่ไม่มีใครเทียบได้,นางสามารถที่จะก้าวไปยังอันดับหนึ่งของดาราวิหกสีชาดได้อย่างสบายๆ,กลายเป็นม้ามืดของสถาบันการศึกษารัฐกลางแห่งนี้ในทันที.
นางยังคงจดจำคำเตือนของฉู่เทียนตลอดมา.
หนานกงหยุนจำต้องใช้เขตการต่อสู้วิหกสีชาดแห่งนี้ในการสร้างรากฐาน,นางจะต้องสร้างคนที่เชื่อใจได้และแข็งแกร่งขึ้นมาในสถาบันแห่งนี้,ยกตัวอย่างเจาคุนและอู๋หยง,ทุกคนต้องอยู่ภายใต้คำสั่งของนาง,เหล่าดาราวิหกสีชาดทั้ง 36 คน,อย่างน้อยมี 20 คนแล้วที่ยินดีติดตามนาง.
คนเหล่านี้ทั้งหมดต่างก็เป็นคนที่มีพรสวรรค์!
การพัฒนาที่ยอดเยี่ยมคือสิ่งที่หอการค้าปาฏิหาริย์ขาดอยู่,ไม่ใช่ว่าก็คือคนที่มีพรสวรรค์หรอกเหรอ?
หนานกงหยุนต้องการที่จะลงหลักปักฐานที่แห่งนี้เพื่อที่จะคัดกรองเหล่าผู้มากพรสวรรค์,หลังจากที่หอการค้าปาฏิหาริย์มาถึงแล้ว,ย่อมสามารถที่จะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว.
ใครจะรู้ล่ะ,ถึงแม้ว่าจะทำขนาดนั้นแล้ว,หนานกงหยุนตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาแม้แต่น้อย.
ตระกูลฉู่,ลวอและเย่ ตระกูลทั้งสามนั้นมีเส้นสายที่แข็งแกร่งอยู่ภายในสถาบันแห่งนี้,เมื่อหนานกงหยุนเตรียมสมัครรับคนอย่างแข็งขัน,จะเป็นไปได้อย่างไรที่พวกเขานั้นจะละเลยเรื่องนี้?เพราะว่าเหตุนั้น,เหล่าคนของลานประลองวิหกสีชาดจึงได้มีคนมามายเข้ามาท้าทายไม่หยุดหย่อน,ตลอดจน,เหล่าคนที่ติดตามหนานกงหยุนเองต่างก็ถูกซื้อตัวไปอยู่เป็นประจำ,ส่วนใครที่ไม่ยอดละก็,จะถูกลอบโจมตีอย่างไรซึ่งเหตุผล.
จนสุดท้ายแล้วมีคนจำนวนมากที่ถอนตัวจากไป!
องค์กรที่หนานกงหยุนได้สร้างขึ้นมา,เพียงไม่กี่วันก็ทำให้เหลือสมาชิกเพียงหนึ่งในสามเท่านั้น!
จะไม่ทำให้หนานกงหยุนบ้าได้อย่างไร?
จะไม่ทำให้หนานกงหยุนเต็มไปด้วยความเกลียดชังได้อย่างไร?

เรื่องที่สำคัญๆกับไม่สามารถทำได้สำเร็จ,แม้แต่เรื่องรองลงมาเองก็ไม่ต่างกัน,ประธานได้ไว้วางใจส่งนางมาเป็นผู้บุกเบิก,เพื่อที่จะสามารถก้าวเข้ามายังรัฐกลางได้อย่างสดวก,ใครจะรู้ล่ะว่ามันจะยากถึงขนาดนี้!
มารดาเถอะ!
แล้วยังมีคนเข้ามาสร้างปัญหาอีกเหรอ!
ความโกรธเกลียดของนางตอนนี้,ไม่สามารถที่จะบรรเทาได้แล้ว!
สิ่งที่ทำให้นางโกรธเกรี้ยวจนถึงขีดสุดนั้นเป็นเพราะว่าผู้ติดตามของนางที่อยู่ในการดูแลของนางต่างก็พ่ายแพ้กันทุกคน!
วันนี้จะให้พี่ใหญ่อย่างนางนั้น,ทนต่อไปได้อีกเหรอ?ไม่เช่นนั้นแล้วศักดิ์ศรีของขุ่นแม่คนนี้จะเอาไปทิ้งไว้ที่ใหนกัน!
หยุนเซียวที่เห็นปิศาจร้ายอย่างหนานกงหยุนแล้ว,ความตื่นตระหนกบนใบหน้าของเขานั้นซีดเผือก เดี๋ยวเขียวเดียวซีด,ยืนสั่นเทิ้มอยู่กับที.
เขาเองก็เพิ่งจะได้ข่าวจากคนอื่นๆมาไม่นานนี่เอง,แม้ว่าจะยังไม่เคยพบนาง,ทว่าความร้ายกาจนั้นเขาต่างก็ได้ยินมาอยู่เต็มรูหู.
สิบวันที่แล้ว.
มีคนเข้าไปท้าทายหนานกงหยุน,นางที่เต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวถึงกับหักแขนหักขาคนไปถึงหกคนทีเดียว.
หกวันที่แล้ว.
หนานกงหยุนได้นำคนราวๆ 20-30 คนบุกเข้าต่อสู้กับลานต่อสู้มังกรฟ้า,จัดการสั่งสอนศิษย์ภายในของพวกเขาให้รับบาดเจ็บมากกว่าสามสิบคนทีเดียว,และในจำนวนนั้นยังมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญมังกรทมิฬอยู่ด้วย,คนเกือบทั้งหมดกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ถูกหนานกงหยุนจัดการไปทั้งหมด.
สามวันที่แล้ว.
หนานกงหยุนคนเดียวได้บุกเข้าไปยังลานฝึกฝนพิเศษของตระกูลฉู่ที่อยู่ภายในสำนักการศึกษาแห่งรัฐกลาง,ทำลายสถานที่ดังกล่าวพังลงไปกว่าครึ่ง,มีคนกว่ายี่สิบคนได้รับบาดเจ็บสาหัส.
............
นี่คือนางมารร้ายที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก.
หยุนเซียวรับรู้ได้อย่างดีว่าหญิงสาวคนนี้แข็งแกร่ง,ทว่าด้วยความเผลอเรอ ลืมคิดไป,ดังนั้นจึงได้กล่าวโอ้อวด,ว่าต้องการท้าทายอันดับหนึ่ง.
หากเขารู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของนางนั้นแข็งแกร่งถึงขนาดนี้.
เขาจะไปเอาความกล้าไปท้าทายนางได้อย่างไรกัน!

"เอิ่ม....เรื่องนี้...."หยุนเซียวที่ตัวสั่นงันงก,เสียงติดๆขัดๆก่อนที่จะฝืนยิ้มออกมา"วันนี้นายน้อยผู้นี้เหนื่อยเหลือเกิน,การต่อสู้วันนี้เอาเป็นว่าวันหน้าข้าค่อยมาใหม่แล้วกัน!"

หนานกงหยุนนั้นหาได้ใส่ใจไม่,นางต้องการที่จะหาที่ระบายอยู่แล้ว"จะหนีรึ?เป็นผู้ชายอยุ่รึไม่,รับหมัดของข้าสัก 20 หมัดก่อนค่อยไป!"

หลังจากกล่าวจบ.

นางที่พับแขนเสื้อขางนางขึ้นก่อนที่จะพุ่งออกไปหาเขาในทันที.
นางไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าหยุนเซียวคนนี้จะเป็นใครในเมื่อตาบอดกล้ามาท้าทายนาง,หากว่าไม่ได้หักกระดูกสักสิบท่อนล่ะก็,มันย่อมไม่สมกับฉายาอันดุร้ายของนางแน่.
ขณะหนานกงหยุนที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณมหาศาลปะทุขึ้นมาพร้อมเขาโจมตีอยู่นั่น.

หยุนเซียวที่ร้องออกมาเสียงหลงหาคนช่วย.
ทันใดนั้น!
หนานกงหยุนถึงกับหยุดในทันที,กลิ่นอายพลังวิญญาณที่หนักหน่วงบ้าคลั่งค่อยๆผ่อนลงเรื่อยๆ,ดวงตาที่แดงฉานของนางจับจ้องไปยังชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างๆหยุนเซียว.
ชายคนนี้ท่าทางธรรมดาเป็นอย่างมาก,หน้าตาดาดๆทั่วไปเลยก้ว่าได้,ยืนออยู่ท่ามกลางฝูงชน,กลมกลืนจนไม่สามารถแยกออกมาได้เลย.

"ท่าน,เป็นท่าน..."
ถึงแม้ว่าคนอื่นๆจะไม่สามารถจดจำเขาได้.
แต่ไม่มีทางที่หนานกงหยุนจะจำไม่ได้?
วิชาแปลงโฉมของฉู่เทียนที่เคยแสดงให้นางได้ดูครั้งก่อน,ยังทำให้หนานกงหยุนตื่นตะลึงอยู่เลย.
ลำพัง,กระบี่อเวจีโบราณและจิ้งจอกสีขาวนั่น,เพียงแค่นั้นก็เพียงพอที่จะระบุว่าเป็นฉู่เทียนแล้วไม่ใช่รึ?
ชายคนนี้ที่มาปรากฏตัวขึ้นที่สถาบันแห่งรัฐกลางแหงนี้แล้วรึ?
ส่วนเจ้าโง่นั่นที่อยู่ข้างๆเขา,เป็นคนที่เขานำมาอย่างงั้นรึ?
จวบจนถึงตอนนี้,ฉู่เทียนเองไม่รู้ว่าอันดับหนึ่งดาราวิหกสีชาด,นี่ถึงได้เรียกว่าเป็นการนำมหันตภัยมาเยือนคนบ้านเดียวกันจริงๆซะแล้ว,ต่างคนต่างก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนกำลังทำอะไรอยู่.
หยุนเซียวที่หวาดกลัวอย่างหนักร่างกายที่สั่นไปมานั่น"ข้า..ข้า..ข้าต้องทำอย่างไรดี,ข้าเพิ่งทำให้คนทั้งหมดยอมรับได้และทำให้ชีวิตข้ากำลังจะสดใส,ข้าไม่ต้องการที่จะพิการด้วยฝีมือแม่มดนี่!ช่วยข้าด้วย!"
"หญิงสาวคนนี้แข็งแกร่งเกินไป,แม้แต่ข้าคิดว่าคงยากที่จะสู้กับนางได้,ข้าไม่มั่นใจแม้แต่น้อยว่าจะชนะนางได้."ฉู่เทียนที่โบกมือไปมาเบาๆ"เจ้าเป็นคนที่ตอแยนางเองดังนั้น ก็ยอมให้นางหักกระดูกไปสักท่อนสองท่อนแล้วกัน,แต่ว่าไม่ต้องเป็นกังวลไป,ด้วยความรู้ของข้าแล้ว,จะต้องรักษาเจ้าให้หายกลับมาอย่างรวดเร็วแน่นอน,ดังนั้นเจ้าคงจะไม่เจ็บมากเท่าไหร่หรอกมั้ง,แค่หลับตาสักครู่แล้วทนมันให้ได้,ถึงเจ้าจะพิการไป,แต่ตราบเท่าเจ้ายังมีชีวิต,ข้ามั่นใจจะต้องรักษาเจ้าหายแน่นอน."


"เจ้านาย!"ใบหน้าของหยุนเซียวถึงกับเปลี่ยนเป็นสีเขียวเลยทีเดียว"ท่านทำอย่างนี้ไม่ได้นะ!"


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น:

  1. RIP หยุนเซียว พี่ฉู่เทมึงแน่นอน รอลุ้นว่าคุณแม่สายฟ้าจะมาช่วยไหม หรือว่าจะโดนคุณแม่ไฟเผาเล่นแค่นั้น

    ตอบลบ