วันจันทร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 137 Institute wind and cloud

Miracle Throne Chapter 137 Institute wind and cloud

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 137 สถาบันแห่งรัฐกลาง


บทที่ 137 สถาบันแห่งรัฐกลาง


  ***อาวุธของหยุนเซียวนั้นคือดาบยาว แต่วิชาคือมีดบิน ซึ่งหมายถึงปราณมีดบินนั่นเอง เป็นปราณมีดบินทีทำหน้าที่เป็นปราณเสริมพลังและโจมตีให้กับดาบยาวของเขา  ซึ่งแต่ก่อนนั้นมี 13 เล่ม ก่อนที่ฉู่เทียนจะปรับให้เหลือสามเล่ม.(ปล.เพิ่งเข้าใจเหมือนกัน (^o^)) 

ภายในอาณาเขตของรัฐกลางนั้น,นับตั้งแต่เมืองหลวงไปยังอาณาเขตของหมู่บ้านขนาดเล็ก,ประชาชนทุกคนทั่วทั้งรัฐกลางต่างก็ต้องการที่จะเข้าศึกษาที่สถาบันแห่งรัฐกลางกันทั้งนั้น.

ทั่วทั้งรัฐกลางนั้นมีประชากร 780 ล้านคน,สถาบันแห่งนี้สามารถที่จะรับคนได้เพียงแค่ 30,000 คนเท่านั้น

คนสองกลุ่มเท่านั้นถึงจะมีสิทธิ์ได้เข้าเรียนสถาบันการศึกษาของรัฐกลาง,ไม่มีเงินทอง,ก็ต้องมีศักยภาพพรสวรรค์ที่สูง,หรือหากมีทั้งสองอย่างย่อมสามารถที่จะเข้ามาในสถาบันชั้นยอดนี้ได้และยังได้รับตำแหน่งและอิทธิพลเป็นอย่างมากภายในสถานศึกษาแห่งนี้.


สถาบันการศึกษาแห่งรัฐกลางนั้นทั้งสามหมื่นคนนั้นจะถูกแยกออกเป็นสี่เขตลานต่อสู้ ประกอบด้วย,ล้านต่อสู้มังกรฟ้าและลานต่อสู้พยัคฆ์ขาว,ลานต่อสู้วิหกสีชาติและลานต่อสู้เต่าทมิฬ,รวมทั้งหมดสี่เขต,นี่คือวิธีการในการกำหนดทรัพยากรเพื่อให้เกิดการแข่งขันภายในนั่นเอง.

ในแต่ละเขตนั้นมีการจัดลำดับกันด้วย.

เพื่อให้เหล่านักเรียนแต่ละเขตแข่งขันจัดลำดับกันเอง.

ยิ่งมีระดับสูงในเขตนั้นๆ มีอันดับในระดับต้นๆเท่าไหร่ ก็จะยิ่งได้รับทรัพยากรในการฝึกฝนมากขึ้นเท่านั้น,คนที่มีระดับสูงนั้นจะได้รับผลประโยชน์เป็นอย่างมาก,ส่งผลให้เหล่านักเรียนนั้นมีการผลักดันตัวเองในการฝึกฝนเพื่อที่จะให้ได้รับทรัพยากรมากขึ้นเท่านั้น,นี่คือการสร้างความแข็งแกร่งให้กับเหล่านักเรียนภายในสถาบันแห่งรัฐกลางด้วยการแข่งขันนั่นเอง.

สี่ต้าซือแห่งรัฐกลางเอง,ต่างก็อยู่ในอันดับต้นๆของแต่ละเขตแดนกันทั้งนั้น.

ฉู่ซิงเหอ,ลวอเซียงหลง,เย่เทียนหลางและหยุนเหยา,พวกเขาคืออันดับหนึ่งของในแต่ละเขต,พวกเขาต่างก็เป็นนักเรียนที่มีพรสวรรค์ไร้ที่สิ้นสุดเป็นผู้นำเหล่านักเรียนของในแต่ละเขตเพื่อเขาต่อสู้แข่งขัน,จนทำให้ชื่อเสียงของพวกเขานั้นมีมากมายกลายเป็นสุดยอดพรสวรรค์!

สถานการณ์ตอนนี้ทั้งสี่เขต.
 ลานต่อสู้วิหกสีชาดนั้นอยู่อันดับสุดท้าย.

เพราะว่าความอ่อนแอของเขตแดนดังกล่าวลดลงในทุกๆปี,เขตแดนและจำนวนคนของพวกเขาตอนนี้ลดลงเรื่อยๆ,ตอนนี้มีพื้นที่ครอบครองเพียงแค่3000 มู่เท่านั้น,มีลานฝึกการต่อสู้สิบหกลาน,พวกเขามีศิษย์ภายในราวๆ 500 กว่าคน,ส่วนศิษย์ภายนอกนั้นมีเพียง 5,000-6,000 คนเท่านั้น,เพราะว่าพวกเขาขาดผู้นำที่แข็งแกร่งมานาน,การแข่งขันระหว่างเขตที่พ่ายแพ้อยู่เป็นประจำทำให้เขตแดนพวกเขาดูไร้สีสันเป็นอย่างมาก,

ในเช้าวันหนึ่ง,ก็มีข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเขตแดนวิหกสีชาดสร้างความตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก.
"ทุกๆคนเร็วเข้าๆ!
"หยุนเซียวกำลังจะท้าทาย 36 ดาราวิหกสีชาดแล้ว!"

หยุนเซียวที่สวมชุดสีทองหรูหราโอ่อ่าเป็นอย่างมาก,มือซ้ายของเขานั้นมีดาบยาวที่อยู่ในฝัก,ส่วนมือขวานั้นมีพัดสีขาวที่โบกสะบัดไปมา,เขาได้นำผู้ติดตามมาด้วย 4-5 คน,หนึ่งคนจูงหมา,หนึ่งคนที่ถือกรงนกและอีกหนึ่งคนที่ถือเครื่องดื่ม,และยังมีเหล่าสาวใช้ที่หน้าตางดงามอีกอยู่ด้านหลังของเขาที่กำลังเดินข้ามลานประลองเข้ามา.

กุล่มคนเหล่านี้ต่างก็สวมชุดที่ดูดโดดเด่นฉู่ฉาด,และยังมีป้ายคาดหน้าผากที่สลักคำพูดว่า"ข้าเป็นคุณชายเจ้าสำราญ"มัดที่หน้าผากพวกเขาไว้อีกด้วย.

ฉู่เทียนเองก็แฝงอยู่ในฝูงชนที่กำลังมามุงดูแห่งนี้ด้วย,การแต่งตัวของเขานั้นดูกลมกลืนเหมือนคนธรรมดาเป็นอย่างมาก,ไม่มีทางที่จะกลายเป็นจุดสนใจได้.
"เคลี้ง!"
"เคลี้ง!"
"เคลี้ง!"
หยุนเซียวที่ได้สั่นระฆังทองแดงขนาดใหญ่ให้สัญญาณ.

ระฆังทองแดงขนาดใหญ่ดังกล่าวนี้,นักเรียนทุกคนต่างก็เข้าใจได้เป็นอย่างดี!

เมื่อมีการสั่นระฆังทองแดงทุกคนย่อมเข้าใจได้ว่า 36 ดาราของลานประลองวิหกสีชาด ได้ถูกท้าทายขึ้นแล้ว!

อะไรคือ 36 ดาราวิหกสีชาติอย่างงั้นรึ?
ในเขตแดนของวิหกสีชาดนั้นมีเหล่านักเรียนทั้ง 36 คน,พวกเขาทั้งหมดนี้จะได้รับพื้นที่ส่วนตัวและยังได้รับทรัพยากรเพื่อใช้ในการฝึกฝนมากเป็นพิเศษ,เหล่านักเรียนทั้ง 36 คนนี้พวกเขาต่างก็ถูกนับให้กลายเป็นสุดยอดพรสวรรค์ระดับต้นๆของสถาบันแห่งรัฐกลางเลยก็ว่าได้

หากต้องการสถานที่ของพวกเขานะรึ?
ง่ายมาก!
ต้องสู้!
ต้องสู้เพื่อชนะและแทนที่!

หยุนเซียวที่สั่นระฆังเสียงดัง,พร้อมกับยืนตะเบ็งตะโกนออกไปดังลั่น"ทุกคน!ฟังทางนี้!วันนี้เป็นวันมงคลของข้าแล้ว,เป็นวันที่ดีสำหรับข้า,นายน้อยหยุนเซียวที่จะเลื่อนระดับจนกลายเป็นอันดับหนึ่งของเขตแดนวิหกสีชาดแห่งนี้มาถึงแล้ว!ขอให้ทุกๆคนเข้ามาเป็นสักขีพยานให้กับข้าในครั้งนี้ด้วย!"

หยุนเซียวนั้นยโสโอหังเป็นอย่างมาก!

หยุนเซียวตอนนี้อยู่ในอันดับที่ 26 ของลานประลองวิหกสีชาด!

เขาเองก็เคยมีระดับสูงกว่านี้,หากแต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้พ่ายแพ้การต่อสู้,ถูกทุบวิ่งหนีหางจุกตูด,จากนั้นผ่านมาไม่กี่วัน,กับต้องการที่จะท้าทายอีกอย่างงั้นรึ?นี่ไม่ใช่เรื่องตลกครั้งใหญ่หรืออย่างไร?
หยุนเซียวที่เห็นฝูงชนเป็นจำนวนมากให้ความสนใจออกมาดูเป็นอย่างมาก.

ภายในใจของเขานั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก!
มารดาเถอะ!
สามวันมานี้ข้าต้องทนฝึกเลือดตาแทบกระเด็น,ในที่สุดก็ได้เวลาเก็บเกี่ยวสักที!

หยุนเซียวที่โบกสะบัดพัดสีขาว,ผู้ติดตามของเขาก็เข้ามายืนอยู่ข้างหลัง,เสื้อคลุมสีทองที่กำลังโบกสะบัดไปมา,ต่อหน้าคนเป็นจำนวนมากที่กำลังเข้ามาจ้องมองลานประลองอยู่,ก่อนที่จะกล่าวกระซิบกระซาบกันไปมา.
ผู้ติดตามของเขาก้าวออกไปด้านหน้า,ก่อนที่จะตะเบ็งตะโกนออกไปเสียงดัง"นายน้อยหยุนเซียวอันดับ 26 ของลานประลองวิหกสีชาดต้องการที่จะท้าท้ายเจาคุนอันดับ 25 ,เจ้าจะรับคำท้าทายนี้หรือไม่?!"

ใบหน้าของหยุนเซียวนั้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่หลอกลวง,"อาหารว่างจานแรกวันนี้,ดูเหมือนว่าจะได้กินแต่หัววันเลย!"

ทุกคนที่อยู่รอบๆต่างไร้คำพูดที่จะกล่าวจริงๆ.

ทุกคนต่างก็รู้ถึงชื่อเสียงของหยุนเซียวดี,จะมีสักกี่คนในรัฐกลางแห่งนี้ที่จะไม่รู้?
ภายในพื้นที่ 36 ดารา,อันดับ 25 เป็นผู้เยาว์คนหนึ่งที่กำลังบำเพ็ญอยู่,เขาเป็นชายหนุ่มที่มีร่างกายไม่โตนัก,ร่างกายออกไปทางผอมบางตัวเล็กเลยทีเดียว,ดวงตาที่คมกริบราวกับเสือดาว,ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ดุดันโหดร้ายออกมา,บนใบหน้าของเขานั้นมีรอยแผลทั้งเก่าและใหม่,เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าเขาจะต้องต่อสู้อย่างหนักอยู่เป็นประจำ.

มีผู้ท้าชิงรึ?
.
คงจะดีไม่น้อยหากเป็นคนอื่น.
แต่กับกลายเป็นเจ้าโง่จากตระกูลหยุนที่แข็งแกร่งมาด้วยยาทิพย์มากมาย!

ทุกวันที่ใช้ชีวิตสำมะเลเทเมา,อาจจะเรียกได้ว่านายน้อยเจ้าสำราญที่มีชื่อเสียงที่สุดของรัฐกลางก็ว่าได้!

เจ้าโง่นี้สามารถรักษาตำแหน่งเอาไว้ที่ระดับ 26 นั้นก็เพราะว่าอยู่ในตระกูลที่ยิ่งใหญ่หรอกนะ,มีคนมากมายที่หวาดกลัวต่อตระกูลหยุน,ดังนั้นจึงไม่กล้าที่จะท้าท้ายกับเขาง่ายๆ!

ในตอนที่ต่อสู้กับเจาคุนก่อนนั้น,ไม่ถึงสิบกระบวนท่าเจ้าโง่ผู้นี้ก็ไปนอนกองไม่เป็นท่าแล้ว.
 คำดูถูกมากมายยังไม่ทันจะหายไป,วันนี้กลับเดินเข้ามาหาความอัปยศให้กับตัวเองอีกแล้วรึ?
"ก็ดี!"
จะอย่างไรสถาบันรัฐกลางเองก็สนับสนุนให้เกิดการแข่งขันกันอยู่แล้ว.
ทุกๆเดือนเหล่าศิษย์ภายในจะสามารถท้าทายเหล่าดาราวิหกสีชาดทั้ง 36 ได้หนึ่งครั้ง,ตราบเท่าที่พวกเขายังไม่พ่ายแพ้ก็จะสามารถท้าทายต่อสู้ไปเรื่อยๆ,ไม่ว่าใครจะไม่สามารถปฏิเสธได้หากไม่เช่นนั้นแล้วจะต้องยอมเสียตำแหน่งของตัวเอง.
เจาคุนที่กุมกระบี่ขึ้นมา,ก่อนที่จะกระโดดออกไปทางหน้าต่างราวกับเสือดาว,ดวงตาของเขานั้นลุกวาวจับจ้องมองออกไปยังฝ่ายตรงข้าม"ข้าเจาคุน อันดับ 25 ของดาราวิหกสีชาต!ยอมรับการท้าทายของเจ้า!"

เจาคุนนั้นเป็นผู้ฝึกตนที่มาจากตระกูลที่ยากจน.
บิดาของเขานั้นเป็นช่างตีเหล็กและมารดาเป็นช่างตัดเสื้อ,เขาเกิดในเมืองเล็กๆในรัฐกลางแห่งนี้.
ตั้งแต่ตอนแรกแล้วตระกูลของเขานั้นไม่มีความสามารถที่จะส่งเขาเข้าเรียนในสถาบันใดๆทั้งนั้น,แต่ด้วยความมุ่งมั่นอุตสาหะของเจาคุนเมื่อมีอายุ 11 ปี เขาก็ได้เดินทางออกจากเมืองเล็กๆด้วยตัวเอง,ก่อนที่จะมาถึงรัฐกลางและสามารถผ่านการทดสอบเข้าสถาบันแห่งรัฐกลางได้,โดยได้เข้ามาเป็นศิษย์ภายนอก,หากแต่เขาก็สามารถได้รับทุนการศึกษาในทุกๆปี.
ตลอดเจ็ดปีทั้งกลางวันและกลางคืนเขาได้แต่พยายามจนไปถึงขีดสุด,เขาได้เข้าร่วมการแข่งขันตลอดเวลาภายในสถาบันแห่งรัฐกลาง,เอาชีวิตเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย,เข้าร่วมปราบปรามเหล่าโจรร้ายและสัตว์อสูรอยู่เป็นประจำ,ไม่เคยได้ใช้ชีวิตอย่างปกติเลย,ชีวิตของเขานั้นยากลำบากยิ่งนักไม่เคยโรยด้วยกลีบกุหลาบแม้แต่น้อย.
หลังจากที่เดินข้ามอุปสรรค์มามากมายมานับไม่ถ้วน,สุดท้ายแล้วก็สามารถเข้ามาสู่ลานฝึกของศิษย์ภายในได้,ได้รับวิชาบำเพ็ญที่ยอดเยี่ยม!

เขาที่มีอายุ 19 ปีในตอนนี้,เจาคุนก็ได้กลายเป็นผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 1 ได้.

นี่คือตัวตนของคนในตำนานที่แปลกประหลาด มีความมุ่งมั่นในเป้าหมายตัวเองอย่างแรงกล้า.

อันดับที่ 20-30 ของดาราวิหกสีชาดนั้น,แน่นอนว่าศิษย์เกือบทั้งหมดนั้นล้วนแล้วแต่มาจากตระกูลใหญ่ทั้งนั้น,คนอย่างเช่นเจาคุนที่สามารถก้าวมาถึงนี่นับว่าเห็นได้น้อยมาก,แน่นอนว่ามันย่อมทำให้เจาคุนนั้นมีความภูมิใจในตัวเองอยู่ไม่น้อย.

หยุนเซียว?
 เมื่อสายตาของเจาคุนจับจ้องมองไปยังชายด้านหน้าในชุดสีทอง,สายตาของเขานั้นมีร่องรอยที่เต็มไปด้วยความเหยียดหยัน.
มันเต็มไปด้วยความอิจฉาและดูถูกไปพร้อมๆกัน,คนที่คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด,หากไม่มีของวิเศษช่วยล่ะก็ คนๆนี้ก็ไม่ต่างจากสวะทั่วไป,คนจำพวกนี้ทำให้เจาคุนนั้นดูถูกดูแคลนที่สุด.

แม้ว่าพลังฝึกตนของเจาคุนนั้นจะทะลวงผ่านระดับมาได้ไม่นาน,ทว่าการจะจัดการกับพวกที่แข็งแกร่งขึ้นมาด้วยยาทิพย์อย่างหยุนเซียวนั้น,เขามั่นใจเก้าสิบเปอเซ็นทีเดียว.
"ศิษย์พี่เจา!"
"สั่งสอนมันให้รู้สำนึกซะบ้าง!"
"ทำให้เจ้าเด็กคนนี้รู้ด้วยว่าความร้ายกาจโหดร้ายนั้นเป็นอย่างไร!"
เหล่าฝูงชนมากมายที่อยู่ด้านล่างต่างตะโกนออกมาไม่หยุด.

เจาคุนนั้นถึงแม้ว่าจะเป็นคนที่เกิดมาจากตะกูลสามัญก็ตาม,หากแต่ฝูงชนมากมายรวมทั้งเหล่าศิษย์จากตะกูลชั้นสูงต่างก็ส่งเสียงเชียร์เป็นกำลังใจอย่างล้นหลาม,พวกเขา จะรู้สึกดีเป็นอย่างมากหากว่าได้เห็นหยุนเซียวถูกทุบตีสั่งสอน.
ทุกคนต่างก็เสียงเสียงดังอื้ออึง!
เต็มไปด้วยความดูแคลนหยุนเซียว!
พวกเขาที่เปรียบกับหยุนเซียวที่คาบช้อนเงินช้อนเงินมาเกิดแล้วถึงจะเป็นตระกูลขุนนางเช่นกันก็ไม่อาจจะเทียบกับหยุนเซียวได้แน่นอน หากหยุนเซียวโดนสั่งสอนซะหน่อยพวกเขาย่อมรู้สึกเบิกบานใจ.
เจาคุนที่แค่นเสียงอย่างเย็นชา,จับจ้องมองไปด้วยความเหยียดหยัน,"นายน้อยหยุนเซียว,ไม่ว่าอย่างไรท่านก็ไม่ใช่คู่มือของข้า,ท่านอย่ามาทำให้ข้าเสียเวลาดีกว่า,ท่านควรที่จะรู้ธรรมเนียมสถาบันแห่งนี้ดี,ที่นี่วัดกันที่ความแข็งแกร่งเท่านั้น,ไม่ว่าท่านจะมีสถานะที่สูงส่งอย่างไร,ข้าย่อมไม่สามารถปราณีท่านได้."

หยุนเซียวที่หัวเราะออกมาเสียงดัง,ก่อนที่จะชักดาบของเขาออกมาในทันที,"นายน้อยคนนี้ได้เกิดใหม่แล้ว,วันนี้ข้าจะทำให้เจ้าได้ลิ้มลองความร้ายกาจของข้า!หากว่าเจ้าสามารถรับการโจมตีสามมีดบินของข้าได้ล่ะก็,วันนี้ข้าจะยอมแพ้ไม่มาตอแยเจ้าอีก!"
สามมีดนั่นจะนำมาใช้สู้เจาคุนอย่างงั้นรึ?
มันช่างเป็นเรื่องตลกจริงๆ!
"งั้นข้าจะแสดงให้เจ้าได้เห็นว่าข้านั้นพัฒนาไปถึงใหนแล้ว!"
เจาคุนที่กำลังคิดใคร่ครวญ,ที่จริงหยุนเซียวได้ฝึกฝนวิชา 13 มีดบินอสนีของตระกูลหยุนอยู่,หากปราณมีดทั้งสิบสามารถถูกปลดออกมาพร้อมกันได้ล่ะก็จะเป็นพลังทำลายล้างที่มากมายนัก,และถึงแม้ว่าจะแสดงออกมาได้เพียงแค่เจ็ดใบมีด,เจาคุนในครั้งก่อนก็สามารถรับรู้ถึงความกดดันอันหนักหน่วงและอันตรายได้แล้ว.
แต่ท้ายที่สุด!
มันยังขาดความเร็ว!
ความเร็วที่ต้องใช้ในการเผด็จศึกคู่ต่อสู้,ด้วยจำเป็นต้องใช้เวลาจำนวนหนึ่งถึงจะสามารถแสดงพลังที่แท้จริงออกมาได้.
ส่วนเจาคุนนั้นเขาที่ฝึกฝนวิชาการต่อสู้<<เพลงกระบี่สายลมไล่ล่า>,ด้วยเพลงกระบี่นี้เป็นหนึ่งในวิชาชั้นสูงของสถาบันการศึกษานี้เลยทีเดียว,เจาคุนเองได้ฝึกฝนทุ่มเทอย่างหนักจ่ายมันไปด้วยความยากลำบากไม่น้อยเลย,ในเวลานี้เขาสามารถฝึกฝนไปถึงระดับ 1 สำเร็จดินแดนขนาดเล็ก เรียบร้อยแล้ว.

เมื่อเขาใช้วิชาดังกล่าวนี้ออกมา,เขาจะมีความเร็วราวกับสายฟ้าทีเดียว,ยากที่จะมีใครเทียบความเร็วของเขาได้.

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!มองมาที่ข้า!"
หยุนเซียวที่ก้าวไปข้างหน้าสองก้าว,พร้อมกับกวัดแกว่งดาบยาวออกไปพร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันวิญญาณออกมาในทันที,ราวกับฝูงม้านับหมื่นที่พุ่งออกไป,โถมกระหน่ำไปยังฝ่ายตรงข้ามด้วยพลังมหาศาล.
"อะไร?!"
เจาคุนรู้สึกราวกับว่าแรงกดดันที่หนักหน่วงนี่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้า.
การฟันในครั้งนี้ราวกับเป็นพลังที่โหมกระหน่ำฟันลงมาหลายพันครั้งในคราเดียว,ราวกับเป็นการฟันของสุดยอดปรมาจารย์,เพียงพอที่จะบดขยี้ฝ่ายตรงข้ามด้วยแรงกดดันให้แหลกเป็นผุยผง.
มันเป็นไปไม่ได้!
ทักษะดาบของคุณชายคนไม่เอาถ่านคนนี้พัฒนาแบบก้าวกระโดดได้ขนาดนี้เลยรึ?
เจาคุณไม่มีแม้แต่เวลาที่จะต้านทาน เขาไม่สามารถทำอะไรได้เลยร่างที่สั่นสะท้านไปทั้งหัวใจ,เมื่อคมกระบี่และดาบปะทะกัน,กระแสไฟฟ้าที่หนักหน่วงก็ปะทุขึ้นมา,กระแทกไปยังร่างของเจาคุนในทันที,เกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวกวาดออกมาในทันที,แม้แต่พื้นรอบๆยังกลายเป็นแอ่งขนาดใหญ่,พลังที่รุนแรง,ส่งร่างของเจาคุนปลิวลอยออกไปราวกับกระดาษเปล่า,ลอยละล่องร่างหมุนเคล้งอยู่บนอากาศ
เจาคุนที่ตะโกนออกมาอย่างเจ็บปวดทรมาน.
ร่างกายที่ลอยออกไปราวกับกระดาษ.
ตูมมมมมม!
เมื่อเจาคุนหล่นไปกองกับพื้น,ร่างกายขอเขานั้นยังมีกระแสไฟฟ้าที่กำลังคลั่งสะบัดเกิดประกายแปร๊บๆบนร่างของเขาไม่หยุด,ร่างที่สั่นกระตุกไม่สามารถที่จะควบคุมเอาไว้ได้,แม้แต่จะยืนขึ้นยังทำไม่ได้เลย,ขนทั่วตัวตลอดเส้นผมของเขาถึงกับตั้งชันขึ้นทั้งหมด,ใบหน้าที่กลายเป็นสีดำจากการเผาไหม้,แทบจะถูกปกคลุมไปด้วยเถ้าถ่านของฝุ่นควันจากกระแสไฟฟ้า.
"เป็นไปได้อย่างไรทำไมถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้!"
ดวงตาทั้งสองข้างของเจาคุนนั้นเผยสีหน้าไม่อยากเชื่ออย่างรุนแรง!

นี่มันเป็นไปไม่ได้!
ทำไมกันข้าพ่ายแพ้ต่อขยะได้อย่างไร!
เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าโง่คนนี้,เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะน่าสะพรึงกลัวถึงเพียงนี้!
หยุนเซียวที่สะบัดฝุ่นควันออกจากชุดคลุมสีทองของเขาและร่ายรำดาบอีกสองสามกระบวนท่า,ก่อนที่จะเก็บมันเข้าฝักเหมือนเดิม,"ช่างน่าอับอายจริงๆ,ไม่คิดเลยว่าข้าจะใช้แรงมากไปหน่อย."
เจ้าเด็กนี้ที่จริงแล้วกำลังเล่นบทหมูกินเสืออยู่อย่างงั้นรึ!

ทักษะการฟันเมื่อสักครู่นี้รุนแรงเป็นอย่างมาก,แทบจะไม่อยากเชื่อเลยว่ามันเป็นการฟันของผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ 1 ที่ใช้มันออกมา!
ใบหน้าของเจาคุนนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำด้วยความอัดอั้น,นายน้อยเจ้าสำราญ คนที่เขาดูถูกดูแคลนที่สุด,กลับกลายเป็นว่าสามารถล้มเขาด้วยกระบวนท่าเดียวอย่างงั้นรึ?,นี่มันเป็นความอัปยศอดสูที่สุด!

ฉู่เทียนที่เห็นเหตุการ,ไอแห้งๆสองครั้งอย่างนุ่มนวล.

หยุนเซียวหยุดเสแสร้งทันที,ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นใจเย็นและกระแอมหนึ่งครั้งและเดินไปข้างหน้าเจาคุน,"ศิษย์น้องเจา, <<เพลงกระบี่สายลมไล่ล่า>>ของเจ้าถึงจะสำเร็จดินแดนขนาดเล็กได้ก็ตามที,ทว่าเจ้านั้นใส่ใจในเรื่องความเร็วมากจนเกินไป,นั่นไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องนัก!"

เจาคุนแค่นเสียงอย่างเย็นชาออกไป"แพ้ก็คือแพ้,ทว่าเจ้ายังต้องการพูดจาให้ข้าได้อายอยู่อีกเหรอ,อันดับ 25 ดาราวิหกสีชาดนั้นเป็นของเจ้า,แต่ว่าข้าจะต้องทวงมันคืนในเร็วๆนี้!"

หยุนเซียวที่ส่ายหน้าไปมาก่อนที่จะกล่าวออกมาอีกว่า"แก่นของ <<เพลงกระบี่สายลมไล่ล่า>>ไม่ใช่ความเร็ว,แต่มันเป็นการใช้เชาว์ปัญญาอย่างงดงามเพื่อแปรเปลี่ยนพลิกผันกระบวนท่าไปมา,เคลื่อนไหวไร้ร่องรอย,เปรียบเหมือนกับสายลมที่พัดผ่าน,จนทำให้ไม่มีคนที่จะสามารถจับทางมันได้,และจากนั้นก็เข้าจู่โจมศัตรูอย่างรวดเร็ว, แต่น้องเจา <<เพลงกระบี่สายลมไล่ล่า>>ของเจ้ากับมุ่งเน้นไปที่ความเร็ว,ละเลยความสละสลวยของมัน,ไม่ใช่ว่าเจ้าใส่ใจแต่รถลากมากกว่าม้าที่ใช้ลากหรอกรึ?"
"เจ้า...."

แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อ,ทว่าเจาคุนก็ต้องยอมรับกับคำพูดที่หยุนเซียวที่ได้กล่าวตำหนิเขา,เขาไม่เคยคิดเลยว่า คนเยี่ยงหยุนเซียวจะเข้าใจและให้ความเห็นเกี่ยวกับวิชาการต่อสู้เช่นนี้ได้.

"ข้าขอแนะนำพื้นฐานกระบี่ให้น้องเจาอีกสักเล็กน้อย"เมื่อเขากล่าวจบ,ทันใดนั้นก็กล่าวต่ออีก"น้องชายเจาเคยเห็นวิชา <<เพลงกระบี่ ร่างวายุไล่ล่า>>หรือไม่,นี่เป็นวิชาที่ได้ปรับปรุงมาจากวิชาก่อนหน้านี้ของเจ้า,ข้าหวังว่ามันจะสามารถช่วยเจ้าได้....."
หยุนเซียวเริ่มที่จะร่ายยาวเกี่ยวกับแก่นวิชาลับดังกล่าวออกไป.
เจาคุนที่ชายตามองออกไปในทันที.
หยุนเซียวผู้นี้เปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ,แต่สิ่งที่เขาได้กล่าวออกมานั้น ก็ได้บ่งบอกถึงข้อเสียในวิชาที่เขาที่ได้ฝึกมาอย่างตรงไปตรงมา!
มันเป็นสิ่งที่เขาไม่อยากจะเชื่อโดยเด็ดขาด.
ที่จริงแล้วเขาต้องการที่จะปรับปรุงเพลงกระบี่ชุดนี้อย่างงั้นรึ?
เพลงกระบี่สายลมไล่ล่า นับว่าเป็นเพลงกระบี่ลับที่มีชื่อเสียงไปทั่วทั้งรัฐกลาง,ถึงจะมีสุดยอดผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถที่จะปรับปรุงมันได้,แต่กับกลายเป็นคุณชายเจ้าสำราญคนนี้ทำมันสำเร็จอย่างงั้นรึ?อย่างไรก็ตามหลังจากที่เขาได้ฟังและคิดใคร่ครวญกับสิ่งที่หยุนเซียวได้กล่าวออกมานั้น,ร่างของเขาถึงกับสั่นเทิ้มสิ่งที่เขากล่าวออกมานั้นเป็นความจริง,ทำให้เจาคุนนั้นชื่นชมตัวคนผู้นี้เป็นอย่างมาก,เหล่านักเรียนที่ยืนอยู่รอบๆพวกเขาที่ได้ยินต่างก็สามารถเก็บเกี่ยวความรู้ดังกล่าวได้อีกด้วย.
เมื่อเจาคุนเริ่มที่จะร่ายรำเพลิงกระบี่ดังกล่าวหลังจากได้ปรับปรุงและชี้จุดบกพร่องดังกล่าวแล้ว,ทันใดนั้นเขาก็สามารถที่จะตระหนักได้ เกี่ยวกับวิชาดังกล่าวราวกับว่าเขาได้เปิดหูเปิดตามองเห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น เหมือนกับได้เข้ามายังโลกใหม่เลยก็ว่าได้!

"นายน้อยหยุน!"
"ข้ายอมรับทั้งกายและใจ!"
เจาคุนถึงกับต้องคุกเข่าให้,ทำให้คนอื่นๆถึงกับเต็มไปด้วยสายตาที่ยำเกรง.
นี่คือสิ่งที่เรียกว่าความเข้าใจอย่างงั้นรึ?
นี่คือสิ่งที่เรียกว่าเต็มไปด้วยความรู้?
นี่คือสิ่งที่เรียกว่ารูปแบบของผู้เชี่ยวชาญ?
พริบตานั้นหยุนเซียวรู้สึกราวกับว่าร่างของเขานั้นถึงกับเปิดออกมาทุกรูขุมขน,ราวกับว่าแสงตะวันสีทองกำลังสาดส่องมายังตัวเขา,มันได้ทะลวงเมฆคลึ้มหลายร้อยชั้น,สาดส่องประกายมายังร่างของเขา,ภายในใจของเขานั้นรู้สึกมีความสุขเป็นที่สุข,นี่สิเขาถึงเรียกว่าผู้โดดเด่นมีพรสวรรค์
อย่างไรก็๖มเมื่อเขากัดฟันจ้องมองขึ้นไปบนฟ้า,สายตาของเขาเองถึงกับมีร่องรอยของน้ำตาไหลออกมาเหมือนกัน,สำเร็จ,สำเร็จแต่โดยดี!เจ้านายไม่ได้หลอกลวงเขา,การฝึกของปิศาจนั่นไม่ได้ทำให้เขาต้องสูญเปล่าแต่อย่างใด!
เจาคุนเร่งรีบลุกขึ้นมาก่อนที่จะยกมือคารวะโค้งคำนับให้กับเขา"คุณชายหยุนช่างเป็นคนที่ล้ำลึกยิ่งนัก,ข้า,เจาคุนนับถือท่านจากใจ,ข้าต้องขอภัยที่เคยแสดงท่าทีไร้เหตุผล,ข้าจะมอบห้องของข้าให้กับท่านนับตั้งแต่วันนี้."
น่าพึงพอใจ!
บิดาช่างมีความสุขจริงๆ!
หยุนเซียวต้องการที่จะตะเบงตะโกนออกมาด้วยความตื่นเต้นจริงๆ!

หากว่าข่าวดังกล่าวนี้แพร่ออกไป,ไม่รู้ว่าคนมากมายเท่าไหร่จะจ้องมองตาตั้งขนาดใหน,ไม่รู้ว่าคนอื่นๆในตระกูลหยุนจะตื่นตะลึงเพียงใด,และยิ่งปู่ของเขารู้เรื่องนี้เข้า,ไม่รู้ว่าเขาจะแสดงท่าทางเช่นใดออกมา!



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

2 ความคิดเห็น:

  1. พี่ฉู่เตรียมเปิดคลาสปรับปรุงวิชายุทธแล้วมั๊ง ไถเงินได้หลายล้านเหรียญทองแน่ ๆ

    ตอบลบ