วันอาทิตย์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 130 Shocking talent

Miracle Throne Chapter 130 Shocking talent

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 130   พรสวรรค์ที่น่าตื่นตะลึง.


บทที่ 130   พรสวรรค์ที่น่าตื่นตะลึง.


การกระทำที่น่าตื่นตกใจของฉู่เทียนนั้นไม่ได้มีเพียงแต่ฝูงชนเท่านั้นที่เห็น,ห่างออกไปไม่ไกล,ที่ห้องใต้หลังคา,มีชายชราคนหนึ่งและหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่,ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความตื่นตกใจและตื่นตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาได้เห็น.

ชายชราคนนี้ก็คือหยุนเทียนเหอนั่นเอง.

ส่วนหญิงสาวนั่น,แน่นอนว่าจะต้องเป็นหยุนเหยา!


เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสำนักเมฆานั้นมีคนมาแจ้งข่าวแล้ว,ขณะที่หยุนเหยาและหยุนเทียนเหอมาถึง,หยุนเหยาก็สามารถจำได้ว่าคนที่จับเจียงฉีนั้นคือลูเร็น.

พวกเขาทั้งคู่ยังไม่ได้แสดงตัว ทำให้สามารถได้เห็นความสามารถของฉู่เทียน,อักษรโบราณทั้ง 8,000 ตัวนั้นมันช่างเป็นเหมือนกับงานชิ้นเอกที่เลอเลิศ,หากแต่การแสดงนั้นมันกับสั้นจนเกินไป,พวกเขาทั้งคู่ตอนนี้ได้แต่ยืนตกตะลึง.

หยุนเหยาเองในตอนนี้.

นางไม่คิดเลยว่าชายหนุ่มคนนี้จะมีความรู้มากมายขนาดนี้,เขามีความรู้ทั้งภาษาโบราณและภาษาปัจจุบันเลยเหรอ,และที่คาดไม่ถึงนั่น,เรื่องที่เขาสามารถเรียนรู้ภาษาเอลฟโบราณซึ่งเป็นเรื่องที่แม้แต่เหล่าปรมาจารย์ชั้นยอดของรัฐกลางยังไม่สามารถทำได้!

หากแต่คนที่ตกใจมากที่สุดตอนนี้,แน่นอนว่าจะต้องเป็นหยุนเทียนเหอ!

หยุนเทียนเหอที่เป็นนักวิชาการที่เรียนรู้มามากมาย,รู้คุณค่าของตำรา <<เหยาเซนจิง>>ดี ชายคนนี้สามารถท่องออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ,เป็นภูมิปัญญาแบบใด,ถึงจะเป็นหยุนเทียนเหอเองยังยากที่จะทำเช่นชายคนนี้ได้เลย!

พรสวรรค์รึ?

 ไม่ๆ!

เหล่าคนมีพรสวรรค์ต่างก็มีมากมายนับไม่ถ้วน!

ด้วยคำดังกล่าวนี้ไม่มีทาง เพียงพอที่จะบรรยายความสามารถของเขาได้!

สัตว์ประหลาด,สัตว์ประหลาดพรสวรรค์!

หยุนเทียนเหอไม่สามารถที่จะทนได้อีกต่อไป,เขาต้องการที่จะตรงดิ่งลงไปและทักทายอัจฉริยะแห่งปาฏิหาริย์นี้เป็นการส่วนตัว,ทว่ากลับกลายเป็นหยุนเหยาที่ได้หยุดหยุนเทียนเหอเอาไว้,"ท่านปู่,ท่านกำลังทำอะไร?ท่านไม่อยากจะเห็นพรสวรรค์อื่นของเขาแล้วรึ?"

ภายในใจของหยุนเทียนเหอนั้นเต้นระสำไม่เป็นจังหวะ,ทว่าเขาเองก็เป็นกังวลด้วยเช่นกัน.

"ท่านโปรดวางใจ!"หยุนเหยากล่าวต่อหยุนเทียนเหอ,"ข้ารู้ความคิดของคนผู้นี้ดี,เขามาปรากฏตัวในวันนี้,และแสดงความสามารถนั่นออกมา เขามีแผนการแน่นอน,เขาต้องการมาพบข้า,ตราบเท่าที่พวกเรายังไม่ปรากฏตัว,เขาจะต้องแสดงอะไรบางอย่างจนทำให้พวกเราแสดงตัวออกไปอย่างแน่นอน!"
นี่คืออัจฉริยะที่หายากแน่นอน.

และเป็นอัจฉริยะที่แปลกประหลาดอีกด้วย!
คนผู้นี้เป็นคนดื้อดึง,มีเพียงแค่เขาต้องการทำเท่านั้นถึงจะได้เห็น,ไม่เช่นนั้นแล้ว,ไม่มีใครที่จะสามารถบังคับเขาได้,นี่คืออัจฉริยะที่จะเห็นได้ในรอบหลายพันปี,เป็นโอกาสที่ยากจะได้เห็น,พวกเขาควรที่จะปล่อยให้ฉู่เทียนได้แสดงความสามารถต่อไป,และจะได้ให้เหล่าศิษย์ของสำนักเมฆาได้เปิดหูเปิดตาด้วย,และทำให้หยุนเทียนเหอเองได้ประสบการณ์ที่แปลกใหม่,จะอย่างไรก็ตามคนผู้นี้คืออัจฉริยะที่มีทักษะชั้นสูงอย่างแน่นอน!

"ก็ได้!"

"พวกเราจะรอดูต่อไป!"

หยุนเทียนเหอเองก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น.
ผู้เยาว์คนนี้สามารถทำเรื่องที่พวกเขาคาดไม่ถึงไห้ได้เห็น,ส่วนชื่อเสียงหน้าตาของสำนักเมฆานั้น,ไม่ได้มีความสำคัญเท่าความอยากรู้ของพวกเขา,อีกอย่างการที่สำนักเมฆาถูกจู่โจมในวันนี้ก็ถือได้ว่าจะได้กลายเป็นบทเรียนสำหรับพวกที่ชอบคุยโตซะบ้าง.
............
หยุนกวังเหยี่ยน,เกาเหาเหรียนและลีไทว,พวกเขาทั้งหมดเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง,ส่วนคนอื่นๆแทบจะไม่ต่างกันพวกเขาตกใจตาค้าง.

เป็นไปได้อย่างไร?

เผ่าเอลฟนั้นมีประวัตศาสตร์ที่ศิวิไลซ์ยิ่งกว่าเผามนุษย์ซะอีก,ซ้ำยังมีภาษาพูดภาษาเขียนมากกว่าร้อยภาษา,แต่ละภาษานั้นก็ซับซ้นจนกลายเป็นยากเลยก็ว่าได้,ลำพังเพียงแค่อาณาจักรเล็กๆแห่งนี้,ถึงจะเป็นสุดยอดนักวิชาการระดับอาณาจักรก็ตาม,แทบจะไม่มีใครที่จะสามารถพูดภาษาเอลฟโบราณได้เลยสักคนเดียว!

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าชายคนนี้ถึงได้ก้าวร้าวและบ้าคลั่ง,เขามีความสามารถที่ท้าทายสวรรค์อยู่นี่เอง.

เขาช่างเป็นนักวิชาการที่เปี่ยมความสามารถจริงๆ.
สิ่งที่เขาเพิ่งแสดงออกไปนั้น,สามารถที่จะบอกได้เลยว่ามันเป็นพรสวรรค์ที่หายาก,แทบจะบอกได้เลยว่าไม่มีใครสามารถเทียบเขาได้.

"มีปัญหาอะไร?สำนักเมฆามีแต่ระดับทั่วไปรึไง!"ฉู่เทียนยื่นกระบี่ไปวางบนคอของเจียงฉี,"มีแต่คำถามให้กับเด็กตอบ,พวกเจ้ายังคิดที่จะนำมาท้าทายข้าได้อย่างงั้นรึ?"
คำกล่าวของฉู่เทียนนั้น.

ถึงกับทำให้พวกเขาหมดแรงที่จะสู้จริงๆ!

ที่จริงแล้วในอนาคตข้างหน้าตำรา <<เหยาเซนจิง>>,เป็นศาสตร์เบื้องต้นที่นักปรุงยาทุกคนต้องเรียนรู้,การที่จะสามารถท่องตำราดังกล่าวนี้ได้นับว่าเป็นเรื่องราวพื้นฐานเป็นอย่างมาก!

ซึ่งก็หมากความว่าภาษของเอลฟเองนั้นนักวิชาการทุกคนต้องเรียนรู้มันด้วย!

ใบหน้าของเกาเหาเหรียนและลีไทว,ถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.
พวกเขาไม่คาดคิดเลยว่าสถานการณ์กลับกลายมาเป็นเช่นนี้.
เรื่องนี้ต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่แน่,ศักดิ์ศรีของสำนักเมฆาไม่ใช่เรื่องใหญ่,หากแต่พวกเขานั้นเป็นศิษย์ของ ต้าเซวจื่อ กู่เซียนชิวที่โดดเด่น,หากว่าเรื่องที่พวกเขาไม่สามารถจัดการเจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนี่ได้ล่ะก็,พวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใหนกัน?

พวกเขาต่างสบตากันและกัน.

ลีไทวที่ก้าวออกมา,"แม้ว่าข้าไม่รู้ว่าเจ้าแอบไปขโมยคาถาบทแรกของตำราโบราณมาจากใหน,ทว่าเจ้าคิดว่าเหนือล้ำกว่าพวกเราแล้วรึ?วันนี้พวกเราจะทำให้เจ้ารู้ว่าพวกบ้านนอกกับผู้เชี่ยวชาญนั้นแตกต่างกันอย่างไร!"

"พี่ลีนั้นมีความรู้กว้างขวาง,เรียนรู้ประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน,เขานั้นต่างก็ได้รับการยกย่องจากเหล่าปรมาจารย์มากมาย."ใบหน้าที่ดูภาคภูมิกล่าวออกมาต่อฉู่เทียน"ข้าได้เรียนรู้วงเวทย์อักษรรูน,แม้ว่าจะไม่กล้าบอกว่าเทียบกับท่านอาจารย์ได้,หากแต่ก็ฝึกฝนมาหลายสิบปีแล้ว,พวกเราจะให้โอกาสเจ้าได้ท้าทายสักครั้ง,เจ้าต้องการที่ท้าทายกับใคร,ก็เข้ามาได้เลย!"

สองผู้เชี่ยวชาญต้องการที่จะเข้าจัดการเป็นการส่วนตัวเลยรึ?
เหล่าคนของสำนักเมฆาถึงกับตื่นตะลึงไปเลยทีเดียว!
คนทั้งสองต่างก็เป็นศิษย์ที่โดดเด่นของต้าเซวจื่อ กู่เซียนชิว,แม้นว่าพวกเขาทั้งคู่จะเป็นจะอยู่ในสถานที่ธรรมดาเช่นนี้ก็ตามที!

ฉู่เทียนมีเหรอที่จะเห็นคนทั้งสองอยู่ในสายตา,เขาได้กล่าวออกไปอย่างสุขุม,"หากไม่เป็นการลำบากล่ะก็,พวกเจ้าทั้งสองเข้ามาพร้อมกันเลย!"

"เจ้า...."

ฉู่เทียนกล่าวขัดพวกเขาทันทีที,"เอาเป็นมาแข็งหมากรุกอาคมอักขระสิบกระดานเป็นไง,พวกเจ้าเปิดตำราได้ตามสบาย,ข้าจะเล่นกับพวกเจ้าเอง,พร้อมกับแข่งความรู้ไปด้วย!"

หมากรุกอาคมอักขระคือหมากรุกแบบพิเศษนั่นเอง.
ใช้วงเวทย์อักขระในการเล่นกระดานหมากรุก,โดยใช้อักษรรูนเป็นตัวหมาก,เสี่ยงดวงจู่โจมและต้านกันและกัน,ไม่เพียงแต่เป็นการทดสอบเชาว์ปัญญาและยังเป็นการทดสอบการวางแผนจู่โจมอีกด้วย,เป็นการประจันหน้ากันด้วยศาสตร์การใช้อาคมอักขระในการโจมตีฝ่ายตรงข้าม!

หมากรุกประเภทนี้มีรูปแบบต่างจากหมากรุกทั่วไปเป็นอย่างมาก,เพราะจะใช้อักขระอาคมให้เป็นตัวหมากในการเล่น,ซึ่งอักขระที่มีในโลกนี้นั้นมีมากมายขนาดใหนกันล่ะ?อาจจะบอกได้ว่าการเล่นหมากรุกดังกล่าวนี้จะใช้อักษรรูนแทนหมากในการการเล่นเป็นหลัก,ซึ่งอักษรรูนในโลกนี้หากจะนับล่ะก็มีมากกว่า 100 ล้านอักษร,ซึ่งมีรูปแบบที่ผสมกันแล้วจะเปลี่ยนแปลงไปมา,เป็นจำนวนนับไม่ได้ ไร้ที่สิ้นสุด,มีความลึกลับมากมายซ่อนแฝงเอาไว้ในตัวของมันเอง,เป็นความลึกลับที่ไร้ซึ่งขอบเขต!

คนที่สามารถเล่นหมากรุกอาคมอักขระได้นั้น,จะต้องเป็นปรมาจารย์วงเวทย์อักขระที่เก่งกาจเท่านั้น.

หากใครก็ตามสามารถเล่นหมากรุกอาคมอักขระได้ล่ะก็,ย่อมถือว่าคนเหล่านั้นเป็นปรมาจารย์วงเวทย์อักขระในระดับต้นๆได้เลย.

หากแต่ชายคนนี้ถึงกับต้องการเล่นพร้อมกันสิบกระดานเชียวรึ?นอกจากนี้ยังต่อกรกับปรมาจารย์ของสำนักเมฆาอีก?นี่มันเป็นเรื่องที่ไม่เคยมีมาก่อนเลย!

ลำพังแค่ฉู่เทียนต้องการเล่นหมากรุกอาคมอักขระก็น่าพรั่นพรึงพอแล้ว,ขณะนี้ยังยอมรับการท้าทายจากเหล่าผู้เชี่ยวชาญของสำนักเมฆาพร้อมๆกันอีก,ซ้ำยังแข่งวัดความรู้,ประวัติศาสตร์,และยังมีเชาว์ปัญญา,พร้อมกับท้าทายเหล่าคนของสำนักเมฆาให้เปิดตำราได้อีกด้วย,ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขายิ่งกว่าคำว่าเสียเปรียบอย่างไม่ต้องสงสัย.

ทำไมเขาต้องการที่จะทำเช่นนี้กัน?

สมองของเขามีแต่รูโหว่อย่างงั้นรึ?

ไม่ใช่,เห็นอย่างชัดเจนตอนนี้ ว่าไม่,มันเป็นความมั่นใจ,ความมั่นใจที่มากมายจนหาอะไรมาเปรียบไม่ได้!

มันเป็นการดูถูก***ดูถูกอย่างที่สุด!

เกาเหาเหรียนถึงกับตัวสั่นลมออกหู"ดี!ก็ได้!ให้มันได้อย่างงี้!มาเริ่มกันเลย!"

ใบหน้าของหยุนกวังเหยี่ยนถึงกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด.
มันเกินไปจริงๆ,ถึงสำนักเมฆาชนะได้,บางทีชื่อเสียงคงจะเสียหายอย่างหนัก!

หากแต่คนทุกคนต่างก็ไม่กล้าละเลย,ทันใดนั้นพวกเขาเริ่มเตรียมการทันที,ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง,กระดานหมากรุกอาคมอักขระทั้งสิบก็ถูกจัดเตรียม,เป็นกระดานหมากรุกที่ดูแปลกประหลาดมาก,เป็นกระดาษที่ทำมาจากหนังของสัตว์อสูรขนาดใหญ่,มีรูปแบบวงเวทย์สามเหลี่ยม,หกเหลี่ยม,วงกลมและวงเวทย์แปดเหลี่ยมสลักอยู่.

ไม่ยากนักที่จะเห็นการไหลเวียนของพลังเวทย์ที่ส่องแสงประกายวับวาว,มันเป็นวงเวทย์อย่างหนึ่งที่ทรงพลังมาก,ตราบเท่าที่ใส่อักษรรูนลงไป,ก็จะสามารถที่จะกระตุ้นให้พลังวิญญาณของกระดานหมากรุกอาคมอักขระทำงานได้.

หมากอาคมทีที่ใช้ในกระดาษหมากรุกอาคมอักขระนั้นก็คืออักษรรูนนั่นเอง.พวกเขาจำต้องใช้ปากกาพลังวิญญาณในการเขียนรูปแบบวงเวทย์ต่างๆลงไป,ทั้งสองฝั่งจะสร้างวงเวทย์อักขระขึ้นมาเพื่อที่จะใช้รูปแบบอักขระต่างๆในการต่อสู้กัน,หากว่าวงเวทย์ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสามารถทำลายวงเวทย์ของอีกฝ่ายได้ล่ะก็,ฝ่ายทีเหลือวงเวทย์อยู่ในกระดานเป็นคนสุดท้ายก็จะเป็นฝ่ายชนะ
รูปของกระดานหมากรุกอาคมอักขระนั้น,มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป.

เหล่าคนของสำนักเมฆาต่างก็เตรียมชั้นตำราเอาไว้,ซึ่งภายในนั้นมีข้อมูลมากมายหลากหลายจำนวนมหาศาลที่สำนักเมฆาได้รวบรวมเอาไว้,เนื้อหาที่อยู่ภายในนั้น,มีจำนวนมากเลยทีเดียวที่สำนักเมฆาเองยังไม่สามารถอธิบายที่มาที่ไปได้.
"ตอนนี้พวกเรามีเวลาเหลือเพียงแค่ครึ่งก้านธูป!"ฉู่เทียนพยักหน้าพึงพอใจ,"ข้าไม่ต้องการที่จะทำให้พวกเจ้าได้รับความอัปยศ,ดังนั้นหากว่าข้าพ่ายแพ้แม้แต่กระดานเดียว,นั่นก็ให้นับว่าข้าเป็นคนพ่ายแพ้!หากว่าคำถามจากตำราใดจากหนังสือเล่มใดที่ข้าไม่สามารถตอบได้,เช่นนั้นก็ถือว่าข้าพ่ายแพ้!เอาล่ะ,มาเริ่มกันได้แล้ว!"

เกาเหาเหรียนแค่นเสียงอย่างเย็นชาและกล่าวออกไป"เริ่มที่เจ้าก่อนเลย"

"งั้นข้าไม่เกรงใจล่ะ."ฉู่เทียนที่จับไปยังปากกาพลังวิญญาณ,ก่อนที่จะตวัดเขียนอักษรรูนสร้างวงเวทย์อักขระลงไปโดยไม่มีลังเลแม้แต่น้อย,อักษรรูนที่ลึกซึ้งซับซ้อนสิบตัวก็ถูกวาดลงไป,ก่อนที่จะก่อร่างสร้างวงเวทย์ขึ้นมาตามลำดับ.

ใบหน้าของเกาเหาเหรียนถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน.
วงเทย์อักขระที่กระดานหมากรุกอาคมอักขระที่ก่อร่างขึ้นมานั้นไม่เคยเห็นมาก่อนเลย.

รูปแบบวงเวทย์บนกระดานหมากรุกอาคมอักขระนั้นจะมีการเปลี่ยนไปตลอดเวลาทุกครั้งที่เติมอักษรรูนลงไป,ไม่เพียงแต่รูปร่างของวงเวทย์ที่เปลี่ยนไปเท่านั้นสาระสำคัญก็เปลี่ยนไปด้วย,ทั้งคุณสมบัติและกฎเกณฑ์ยังเปลี่ยนไปอีก,เหล่าปรมาจารย์วงเวทย์อักขระที่ทำการศึกษารูปแบบวงเวทย์มาทั้งชีวิต,บางทียังสามารถที่จะสร้างรูปแบบวงเวทย์ขึ้นมาบนกระดานอาคมอักขระได้ไม่ถึง 2-3 รูปแบบเท่านั้น.

ด้วยรูปแบบของวงเวทย์ที่แปลกประหลาดได้ปรากฏขึ้นมาบนกระดานเหล่าผู้เล่นอื่นๆเริ่มคิดใคร่ครวญก่อนที่จะเริ่มวางอักษรรูนเพื่อสร้างวงเวทย์ขึ้นมาเช่นกัน,ทว่ามันกับเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากที่พวกเขาจะสามารถสร้างรูปแบบวงเวทย์ที่จะสามารถทำลายวงเวทย์ฝ่ายตรงข้ามได้.

ทว่าสำหรับเทียนนะรึ?
เขาที่กวาดตามองเพียงแว็บเดียว,แทบจะไม่คิดเลย,เขาก็ลงอักษรตัวต่อไปในทันที!

หากอักษรรูนทั้งสองข้างไม่สอดคลองตามกฏของกระดานอาคมแล้วล่ะก็,มันจะผลักดันกันไปมาและจะไม่หายไป,ดังนั้นอักษรรูนที่วาดลงไปในกระดานนั้นจะต้องใส่ลงไปด้วยความระมัดระวัง,นอกจากอักษรรูนแต่ละตัวจะไม่สามารถเชื่อมต่อกันจนกลายเป็นวงเวทย์ให้ทำงานได้แล้วซ้ำมันยังไม่สามารถทำลายวงเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามได้อีกด้วย!

อักษรรูนกว่าสิบตัวที่ถูกประทับลงไปในวงเวทย์ตอนนี้,มันเริ่มส่องสว่าง,ปลดปล่อยกลิ่นอายที่ทรงพลังออกมา,เผยให้เห็นได้ว่าอักษรรูนทั้งสิบตอนนี้ได้เชื่อมต่อกันและกันตามกฏของกระดานหมากรุกอาคมอักขระ!

เป็นเขตแดนอาคมวงเวทย์ที่ร้ายกาจยิ่งนัก!

อักษรทั้งสิบตัวของฉู่เทียน,ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อนเลย!
นอกจากจากเขตแดนของวงเวทย์ที่สร้างขึ้นมาจะต้องต้านท้านพลังของวงเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามแล้ว,สิ่งสำคัญในการเล่นก็คือรูปแบบวงเวทย์ที่จะสามารถทำลายอาคมของฝ่ายตรงข้ามได้,เช่นนั้นถึงจะเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จ.ตอนนี้อักษรรูนมากมายที่ถูกใส่ลงมา,หากเป็นสิ่งที่ฉู่เทียนเขียนลงไปนั้นไม่รู้ว่าเป็นอักษรรูนที่จะสร้างวงเวทย์อะไรขึ้นมา,เช่นนั้นพวกเขาจะสามารถทำลายได้อย่างไร?

ฉู่เทียนที่จ้องมองเหล่าเหล่าตาเฒ่าด้วยท่าทางใบหน้าที่บอกบุญไม่รับก่อนที่เขาจะหัวเราะออกมาเสียงดัง"ไม่จำเป็นต้องรักษาภาพพจน์ของพวกเจ้าหรอก!ทุกคนในสำนักเมฆาพวกเจ้าสามารถเรียกออกมาช่วยเพื่อแข่งหมากรุกอาคมประลองกับข้าได้เลย!"

"มันจะเกินไปแล้ว!"

"ตาเฒ่าเกา,พวกเราจะช่วยท่านเอง!"

เหล่าสมาชิกของสำนักเมฆาต่างก็เต็มไปด้วยท่าทางขุ่นเคือง,พวกเขาเริ่มเข้ามาล้อมรอบเหล่ากระดานอาคมทั้งสิบก่อนที่จะเริ่มปรึกษาหารือกันอย่างกระตือรือร้น.

ลีไทวที่เห็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้น,ที่มุมปากของเขานั้นถึงกับยกขึ้นมา,แค่นเสียงอย่างเย็นชา,ก่อนที่จะนำตำราโบราณเล่มหนึ่งพร้อมกับโยนออกไปให้กับฉู่เทียน."มีเนื้อหาอะไรที่บันทึกเอาไว้ในตำราเล่มนี้?"

ฉู่เทียนที่ใช้ฝ่ามือตบไปที่เจียงฉีกดให้ล้มนอนไปบนพื้น.
ก่อนที่เขาจะยกมือขึ้นมาหยิบตำราโบราณ.

"นี่คือภาษามังกร,หากจะกล่าวให้ถูกต้องล่ะก็,มันคือภาษามังกรวารีโบราณ,บันทึกเกี่ยวกับชีวะวัติศาสตร์ยุคโบราณเอาไว้."

"ราชันย์มังกรวารีหยก,อามิซิวลวอซี,เกิดในยุคสำริดปี 1331,ตายในยุคสำริดในปี 3412,เขาคือผู้ครอบครองทุ่งหญ้ามูซีถึง 500 ปี,ก่อตั้งเผ่าพันธ์มังกรโลหิตทมิฬ,และยังได้รับพรจากจักรพรรดิมังกร,มีลูกหลานด้วยกันทั้งหมดเก้ารุ่น,แยกออกเป็น...."

นี่คือภาษาเขียนของมังกรที่ซับซ้อนไม่ใช่รึ?
ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้แตกฉาน,ยังจำเป็นที่จะต้องใช้เวลาหลายวันในการศึกษา,หากแต่ฉู่เทียนกลับอ่านมันหน้าแล้วหน้าเล่า,ผ่านไปราวกับว่ามันเป็นบันทึกทั่วไปของราชันย์อสูรที่เขียนด้วยภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน,ซ้ำยังสมบูรณ์แบบไม่มีตกหล่นเลยแม้แต่คำเดียว.

นี่คืองานอัตประวัติที่ล้ำค่าเป็นอย่างมาก!

แม้แต่ลีไทวเองยังเข้าใจมันแค่เพียงเล็กน้อย.
แม้ว่านี่จะไม่ใช่วิชาบำเพ็ญ,ไม่ใช่สูตรยา,ทว่าด้วยบันทึกอัตประวัตินี้ก็เป็นเรื่องราวบันทึกการใช้ชีวิตของเผ่าพันธุ์มังกรที่น่าสะพรึงกล้ว,หากว่าสามารถสำรวจสถานที่ต่างๆตามเรื่องราวที่ได้บันทึกเอาไว้,ซึ่งมันได้บันทึกสถานที่ต่างๆ,หลังจากที่มังกรตนนี้ได้ตายแล้ว,รวมถึงสถานที่ฝังศพ....หากสามารถสำรวจตามบันทึกดังกล่าวนี้ล่ะก็,อาจจะพบเข้ากับสมบัติล้ำค่ามากมายเข้าก็เป็นได้!

ฉู่เทียนที่อ่านตำราโบราณดังกล่าวจบ ก็ปิดมันลง,"นี่คือตำราที่บันทึกด้วยมังกรที่มีสถานะอันต่ำต้อย,ใช้ภาษาของมังกรวารีในการบันทึก,ดังนั้นคงพอจะบอกได้ล่ะว่าราชันย์มังกรวารีหยกตนนี้ไม่ได้มีระดับสูงเท่าไหร่นักในเผ่ามังกร,บันทึกที่มีอยู่มันจึงไม่ค่อยมีคุณค่าสักเท่าไหร่!"

ฉู่เทียนที่สะบัดมืออีกครั้ง.

ตำราโบราณก็ได้ลอยเข้าไปเก็บในชั้นตำราเหมือนเดิม.
ขณะที่เวลากำลังไหลผ่านไปช้าๆ,เกาเหาเหรียนและคนอื่นๆต่างก็เริ่มเขียนอักษรรูนลงไปในกระดานอาคมสร้างรูปแบบวงเวทย์ขึ้นมาอย่างระมัดระวัง.

รูปแบบโจมตี,รูปแบบป้องกัน,รูปแบบกับดัก,และยังมีรูปแบบตรวจสอบ.

ฉู่เทียนไม่ได้สนใจพวกเขาเลยแม้แต่น้อย,ซ้ำอักษรรูนสิบตัวที่เขาวางลงมาแบบไม่คิดนั้นมันยังได้กลายเป็นวงเวทย์ที่ทรงพลังไปแล้ว,อักษรรูนแต่ละตัวมันได้ส่องสว่างเชื่อมต่อกันและกันตั้งแต่ตัวแรกจนถึงตัวสุดท้าย,เป็นรูปแบที่แตกต่าง ไม่เคยมีใครเคยเห็นมาก่อนจริงๆ.

เกาเหาเหรียนและเหล่าผู้เชี่ยวชาญของสำนักเมฆา,เหงื่อที่เย็นเยือบกำลังไหลออกมาเป็นสาย.

นี่มันคืออะไรกัน?

ทำไมพวกเขาไม่สามารถเข้าใจรูปแบบวงเวทย์ดังกล่าวได้เลยแม้แต่น้อย!

เกาเหาเหรียนและคนอื่นๆต่างปรึกษาหารือกันอย่างลับๆ"วงเวทย์ของเจ้าเด็กเวรนี้มันค่อนข้างแปลก,ไม่สามารถบอกได้เลยว่าอักษรรูนแต่ละตัวนั้นมาจากใหน,พวกเราคงไม่สามารถทำลายรูปแบบวงเวทย์ของมันได้แล้ว,คงทำได้อย่างเดียวแล้ว,ตั้งแถวขวางเอาไว้!"

ใช่แล้ว!

ขวางเอาไว้!

ในเมื่อไม่รู้ว่าจะทำลายอย่างไร,ไม่รู้ว่าจะป้องกันอย่างไร,เช่นนั้นคงทำใด้แต่ขวางเอาไว้,อย่างแรกก็ลงอักษรรูนเพื่อยึดครองพื้นที่,กันอักษรรูนแต่ละตัวไม่ให้เชื่อมกัน,ขัดขวางไม่ให้วงเวทย์ของฝ่ายตรงข้ามทำงานได้.

ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหยุดการก่อตัวของวงเวทย์ได้,แต่อย่างน้อยก็สามารถถ่วงเวลาไม่ให้มันทำงานสมบูรณ์ได้!
ไม่ใช่ว่าเจ้าเด็กเวรนี้มั่นใจเกินไป จนกล่าวว่าภายในครึ่งก้านธูป,หากว่ากระดานใหนเขาไม่ชนะให้ถือว่าพ่ายแพ้ไม่ใช่รึ? หากว่าสามารถถ่วงเวลาเอาไว้ได้ล่ะก็,แน่นอนว่าเจ้าเด็กนี้จะสามารถชนะกระดานอาคมทั้งสิบกระดานคงจะเป็นเรื่องยาก,และด้วยจำเป็นต้องใช้พลังความจำมหาศาลเพื่อที่จะทำให้อักษรรูนแต่ละตัวนั้นเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์.
พวกเขามีเหล่าผู้เชี่ยวชาญในหมากรุกอาคมอักขระ,รวมทั้งเกาเหาเหรียนด้วยนับรวมมากกว่าสิบคนทีเดียว!

พวกเขาทั้งหมดต้อนนี้คิดหาวิธีที่จะก่อกวน,ถึงจะไม่สามารถทำลายและป้องกันวงเวทย์ของอีกฝ่ายได้,แต่ก็ย่อมสามารถถ่วงเวลาได้,ในเมื่อไม่สามารถหาทางชนะด้วยฝีมือได้,พวกเขาก็จะใช้วิธีถ่วงเวลาให้ชนะได้ก็เป็นพอ.

พวกเขาไม่ได้หาวิธีชนะแล้วแต่เป็นการหาวิธีในการถ่วงเวลาเพื่อที่จะชนะอย่างงั้นรึ?

เรื่องเช่นนี้มีรึที่ฉู่เทียนจะมองไม่เห็น,

แต่ถึงกระนั้นเหล่าพวกโง่เขลาเบาปัญญาทั้งหมดนี่,คิดได้อย่างไรว่าจะสามารถต้านทานวงเวทย์ของเขานั้น,มันแทบจะไม่ต่างกับตั๊กแตนขวางรถนั่นล่ะ!

ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น