วันพุธที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 126 Institution insect

Miracle Throne Chapter 126 Institution insect

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 126 แมลงจักรกล


บทที่ 126 แมลงจักรกล


ชายหนุ่มคนนี้ทั่วทั้งร่างแผ่รังสีที่ดูสูงศักดิ์ออกมา,ที่ด้านหลังของเขานั้นมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอยู่,เป็นเด็กหญิงที่มีผิวสีชมพูผิวเนียนราวกับหยกสลัก,อายุราวๆ 13 หรือ 14 ปี,สายตาของนางเองมีร่องรอยที่ราวกับรู้สึกผิดปรากฏขึ้นมา.

ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย"ก็เห็นอยู่ว่า ข้าเป็นคนซื้อคนแรก,ทำไมขายให้กับเขาล่ะ!"

"เจ้าจ่ายเงินแล้วรึ?"พนักงานขายได้กล่าวโต้แย้งฉู่เทียน,พร้อมกับมองอย่างเหยียดหยันไปยังการ์ดเก็บเงินระดับทองในมือเขา,พร้อมกับเผยท่าทางรังเกียจ"ในเมื่อเจ้ายังไม่จ่ายเงินนั่นก็แสดงว่ายังไม่มีการซื้อขาย."


"หากกล่าวเช่นนั้น,เขาเองก็ยังไม่จ่ายเงินเช่นกัน."

หญิงสาวคนขายที่แสดงท่าทางอดรนทนไม่ไหว,"ชื่อเสียงของนายน้อยถงนั้นมีมากมายนับล้านเหรียญทอง,เจ้าจะเอาอะไรมาเทียบ?"

"เจ้าเด็กบัดซบเช่นเจ้าเป็นใครมาจากใหนกัน?"ใบหน้าของชายหนุ่มที่เต็มไปด้วยท่าทางเย้ยหยัน,"อย่าให้ข้าต้องมีน้ำโหรีบไสหัวไปให้พ้น!กลับไปตักน้ำไส่กระโหลกชะโงกดูเงาตัวเองบ้าง,ไม่รู้ว่าพวกกระจอกงอกง่อยจากบ้านนอกที่ใหนกัน,เจ้าไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะยืนอยู่ต่อหน้าข้าด้วยซ้ำ!"

หญิงสาวตัวเล็กที่อยู่ด้านหลังเร่งรีบดึงชายเสื้อของหนุ่มคนดังกล่าว,พร้อมกับกล่าวงุ้งงิ้งด้วยความอึดอัด"ท่านพี่,ลืมมันซะ!พวกเราเป็นคนผิดที่มาช้ากว่า!"

"มีสิ่งใดต้องกลัวกัน?พวกผู้ฝึกตนเร่รอน,ตระกูลของพวกเรา,ถึงจะไม่ใช่ตระกูลใหญ่,ทว่าก็ยิ่งใหญ่พอที่จะบดบี้พวกฝึกตนเร่ร่อนได้ทั้งนั้น,ในเมื่อมันแค่ก็พวกไร้สกุลรุนชาติไม่เห็นต้องไว้หน้ามันเลย,ไม่ว่าจะดีจะร้ายอย่างไร,มันก็ไม่อยู่ในสายตาของพวกเราอยู่แล้ว!"

"เจ้ากำลังทำให้ข้าหมดความอดทน."ฉุ่เทียนที่กล่าวออกมาเสียงดังพร้อมกับเผยยิ้มออกมาอย่างเย็นชา"นี่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าควรจะทำ!"

คิ้วของชายหนุ่มคนนั้นบิดไปมาเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยว"สามหาว!เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร?เด็กๆเข้ามา!โยนมันออกไปบนถนน!"

ยังไม่สิ้นเสียงพูดดี.
!
ผลั๊ว!

ฝ่ามือของฉู่เทียนก็ฟาดออกไปด้านหน้า.

ร่างชายหนุ่มคนดังกล่าวได้ลอยออกไปหลายเมตร,ใบหน้าบิดเบี้ยว,ฟันหลายซี่หล่อนออกมาจากปาก.

นี่มันเรื่องอะไรกัน?

ลำพังตัวมันเองมีพลังระดับปรุงร่างระดับ 9 ขั้นปลายคาดไม่ถึงเลยว่าจะไม่สามารถต้านทานฝ่ายตรงข้ามได้เลยแม้แต่น้อย.

หญิงสาวพนักงานขายได้หวีดร้องตะโกนออกมา"เจ้า,เจ้ากล้าทำร้ายนายน้อยถง!เรียกผู้คุ้มกันมา,เรียกผู้คุ้มกันมาเดียวนี้!มีคนกำลังสร้างปัญหาแล้ว!"

ก่อนที่เหล่าผู้คุ้มกันของผู้คุ้มกันหอสมบัติจะมา.

ฉู่เทียนก็ก้าวไปข้างหน้าอีกหลายก้าว,ใครจะรู้ล่ะว่าชายคนนี้คิดจะทำอะไร.

"ห้ามเจ้าทำร้ายพี่ชายข้านะ!"

หญิงสาวหยิบสิ่งของที่อยู่ภายในกระเป๋าที่เอวของนางออกมา,เป็นกองของท่อนไม้จำนวนมากก่อนที่มันจะเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของผึ้งท่อนไม้,ด้วยรูปร่างของผึ้งแต่ละตัวนั้นมีศิลาคลิสตัลฝังเอาไว้อยู่.

ผึ้งไม้เหล่านี้นั้นหากว่ากระทบเป้าหมายล่ะก็จะระเบิดออกมาแน่นอนซึ่งนับว่าจะกลายเป็นพลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวแน่.

ฉู่เทียนที่ยืนอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว,ไม่ว่าเหล่าผึ้งต้นไม้จะเข้าล้อมรอบตัวเขาอย่างไร,ฉู่เทียนยังใจเย็นจับจ้องไปยังเด็กหญิงอยู่"เจ้าเองก็ต้องการที่จะสู้กับข้ารึ?"

"ข้า..ข้า"

ใบหน้าของสาวน้อยเปลี่ยนเป็นสีแดงและเสียงของนางเปลี่ยนเป็นสั่นเคลือ,แม้ว่าร่างผิวสีชมพูราวกับหยกสลักนั้นจะสั่นไหว,ทว่าด้วยนิสัยขอนงนางนั้นไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว,นางที่อ้ำอึ้งและพูดจาติดๆขัด,

"ข้า..ขอโทษแทนพี่ข้า...เขาต้องการที่จะรักษาอาการป่วยของเข้าเท่านั้น!"

ผู้เยาว์คนดังกล่าวกุมใบหน้าตัวเองลุกขึ้นยืน,ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความจงเกลียดจงชังฉู่เทียน"เจ้าคิดว่าเป็นผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตแล้วยิ่งใหญ่นักรึ?ทั่วทั้งรัฐกลางนี้มีคนที่แข็งแกร่งกว่าเจ้ามากมาย!เจ้ากล้าแย่งของจากตระกูลถงของข้า,เจ้าคงไม่ต้องการมีชีวิตแล้วสินะ!เสี่ยวหยี,ระเบิดมันเดี๋ยวนี้เลย!"

หญิงสาวคนดังกล่าวก้มหน้าลงด้วยท่าทางหมดใจ"ให้มันจบเท่านี้เถอะ,สมุนไพรนั่นท่านนำมันไปได้เลย!"

ทันใดนั้นผึ้งไม้ทั้งหมดก็บินกลับไปยังกระเป๋าผ้าของนางในทันที.

หญิงสาวตัวน้อยได้ปิดกระเป๋าผ้าของนางก่อนจะหันหน้ากลับ"ท่านพี่,เราไปกันเถอะ!"

ผู้เยาว์คนนั้นที่ดูโกรธเกรี้ยว"เจ้ากำลังทำอะไร?สิ่งนี้จะต้องใช้เพื่อรักษาเจ้านะ!"

สาวน้อยคนดังกล่าวส่ายหน้าไปมา"พวกเรามาช้า,จะไปแย่งฉกฉวยจากคนอื่นนั้นเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง!"

"ช้าก่อน.!"ฉู่เทียนสอบถามออกไปในทันที"แมลงจักรกลนั่นเจ้าเป็นคนสร้างรึ?"

หญิงสาวที่ดูขี้อายอยู่ตลอดเวลา,ทว่าเมื่อมีคนเอ่ยถึงแมลงจักรกลของนาง,ราวกับว่าดวงตาของนางถึงกับเฉิดฉายลุกวาวขึ้นมาอีกหลายเท่าทีเดียว "ใช่...,เป็นเสี่ยวหยีสร้างเอง,แต่มันยังไม่ดีเท่าไหร่นะ.."

แม่นางน้อยคนนี้ดูเหมือนว่าจะมีพรสวรรค์ในเรื่องการสร้างเครื่องยนต์กลไกสินะ.

หัวใจของฉู่เทียนถึงกับสั่นไหว"เจ้าชื่ออะไรรึ?"

เหล่าทหารเข้ามาล้อมรอบเขาในทันที.

หญิงสาวพนักงานขายชี้ไปยังฉู่เทียน"มันคนนั้นเป็นคนสร้างปัญหา!"

เหล่าผู้คุ้มกันถึงกับตะโกนออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว,"กล้ามาสร้างปัญหาภายในหอสมบัติ,เจ้าเด็กเวร,แส่หาความตายแล้ว!ไสหัวไปให้พ้น!ไม่เช่นนั้นแล้วข้าจะทำให้เจ้าได้เห็นโลกใหม่แน่!"

ฉู่เทียนหาได้ใส่ใจเหล่าผู้คุ้มกันที่โกรธเกรี้ยวจ้องมองจะกินเลือดกินเนื้อมายังเขา,เขายังคงจับจ้องมองไปยังร่างของเด็กหญิง"ข้ารู้,ที่จะจริงแล้วเจ้าไม่ได้ป่วย,เพียงแต่ว่าร่างกายของเจ้านั้นพิเศษกว่าคนอื่น,ข้ากล่าวถูกใช่ใหม?"

"ข้ามีชื่อว่าถงเสี่ยวหยี."เด็กสาวคนดังกล่าวสอบถามด้วยความประหลาดใจ,"ท่านรู้ได้อย่างไร?"

"ข้าสามารถรักษาเจ้าได้!

ดวงตาของถงเสี่ยวหยีถึงกับเบิกกว้างไม่อยากจะเชื่อ"จริงๆรึ?"

"เสี่ยวหยี,เจ้าอย่าไปเชื่อเขา!"ชายหนุ่มคนดังกล่าวได้เขาไปขวางเด็กหญิงเอาไว้,ใบหน้าที่เฝ้าระวังจับจ้องไปยังฉู่เทียน"ชายคนนี้เป็นใครจากใหนก็ไม่รู้,ใครจะรู้ว่าเขาวางแผนใดอยู่ภายในใจ!"

ฉู่เทียนกล่าวออกมาอย่างนุ่นนวล,"จะตัดสินใจรักษาก็ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าแล้ว,เจ้าต้องการที่จะนำหยกหนอนไหมวิญญาณนี้ไป,ไม่มีอะไรเลยเพียงแค่ต้องการที่จะดูดพลังลึกลับในร่างของนางโดยใช้หยกไหมจิตวิญญาณเท่านั้น,หากแต่พลังงานภายในร่างของถงเสี่ยวหยีนั้นเป็นธาตุความมืด,ใช่ใหม?ทว่ามันไม่ได้ผลหรอก,มันแค่เพียงทำให้นางหายเจ็บชั่วคราวเท่านั้น!"

ชายหนุ่มคนดังกล่าวเผยท่าทางสงสัย"เจ้าสามารถรักษานางได้จริงๆรึ?"

ฉู่เทียนโบกมือไปมา"เจ้าไม่ให้ข้าลองแล้วจะรู้ได้ไง?"

"ก็ได้,ข้าจะให้เจ้าลอง!" ดูจากท่าทางแล้ว,ชายหนุ่มคนนี้คงเป็นผู้ฝึกตนเร่ร่อนที่เพิ่งเข้ามาเมืองหลวง,ถึงแม้ว่าจะล้มเหลวก็คงไม่แย่เท่าไหร่นัก"เจ้าหากว่าสามารถรักษาเสี่ยวหยีได้ล่ะก็,พวกเราจะไม่ถือสาเจ้าอีกต่อไป,หากว่าเจ้าไม่สามารถรักษาได้ล่ะก็,อย่าได้ตำหนิข้าหากไม่สุภาพ!"

"ท่านพี่!"

ถงเสี่ยวหยีบ่นออกมาคำหนึ่ง.

ชายหนุ่มได้ออกจากหอสมบัติ"ชิ,ไปได้แล้ว!"

บุรุษที่เหมือนกับคุณชายเจ้าสำราญคนหนึ่ง,ทว่าเขานั้นเป็นคนมีเหตุมีผล,รู้ตัวเองดีถึงแม้ว่าเขาจะถูกตบหน้าก็สามารถที่จะกลืนมันลงไปได้,หากว่าสามารถรักษาน้องสาวของเขาได้,ความเสียใจ,ความโกรธและความอัปยศเก็บไว้ในใจได้,บังคับความรู้สึกและกดข่มตัวเองด้วยเหตุผล

คฤหาสน์ตระกูลถง.

มีคนหลายคนที่ดูขึงขังจริงจังนั่งอยู่ภายในห้องโถงหลัก.

สายตาที่ดุร้ายของถงเย่กวาดตาจ้องมองออกไปยังคนอีกหลายคนด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์"ถงหมิง,ถงเสี่ยวหยี,นี่มันความว่าอย่างไร,พวกเจ้านำใครกลับมากัน?ตระกูลถงของพวกเราคิดว่าจะนำใครเข้ามาก็ได้อย่างงั้นรึ?เจ้ารู้ธรรมเนียมของเราหรือไม่!"

ชายหนุ่มถงหมิงเร่งรีบกล่าวออกไปในทันที"ท่านลุง,พวกเราพบเขาที่หอสมบัติ,เขาบอกว่าสามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของน้องสาวข้าได้,ดังนั้นข้าจึงได้นำเขากลับมาเพื่อลองดู!"

"ไร้สาระ!"

ถ้วยน้ำชาถูกปาลงมาบนพื้นแตกกระจาย.

เมืองถงเย่ยืนขึ้น,พลังกดดันก็แผ่กระจายออกไปรอบๆ,เขาเป็นผู้ผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 1ขั้นปลาย,ทว่าก็เพียงพอที่จะทำให้ถงหมิงและถงเสี่ยวหยีถึงกับหายใจไม่สะดวก"หลายปีมาแล้วเหล่าปรมาจารย์ปรุงยายังไม่สามารถรักษาได้,เจ้ากับไปรับพวกกุ้ยข้างถนนเข้ามาอย่างงั้นรึ?สวะเช่นนี้จะเอาไปเทียบกับเหล่าปรมาจารย์เหล่านั้นได้อย่างไร?เจ้ามีสมองบ้างใหม!"

ถงหมิงถึงกับก้มหน้าลงไม่กล้าที่จะเอ่ยอะไรออกมาออกมา.

แม้ว่าประมุขตระกูลถงนั้น,จะเป็นบิดาของถงหมิงก็ตาม,ทว่าสถานะของถงเย่กับมีมากกว่า,ดังนั้นด้วยศักดิ์แล้วเขาจึงอยู่สูงกว่า,เขาที่เป็นเพียงผู้เยาว์ยิ่งไม่กล้าที่จะกล่าวโต้ตอบออกไป.

ถงเย่ยังคงยืนนิ่งและกล่าวออกไปอย่างสุขุม,"หลังจากนี้ครึ่งเดือนถงเสี่ยวหยีต้องเข้าแต่งงานแล้ว,เจ้าควรจะรู้ว่าการแต่งงานนี้สำคัญกับตระกูลถงของเราอย่างไร,ตอนนี้ทุกตระกูลของรัฐกลางนั้นต่างก็หวั่นเกรงตระกูลของพวกเราเพราะสามารถเกี่ยวดองกับพวกเขาได้,อย่าได้ทำให้เกิดปัญหาอะไรในเวลานี้!"

ถงหมิงได้แต่กล้ำกลืน"ขอรับ!"

"โยนมันออกไปซะ!"

ฉู่เทียนแค่นเสียง"พวกเจ้าเป็นตัวอะไรกัน,ต้องการที่จะให้ข้าออกไปอย่างงันรึ?"

ถงเย่จ้องมาองมายังฉู่เทียนคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีคนกล้าโต้แย้งเขา,ตอนนี้เขาถึงกับโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง,"เจ้ากระจอก,กล้ามีปัญหาในตระกูลถงเหรอ!ไล่มันออกไป!หักแขนหักขามันด้วย!"

ผู้คุ้มกันกลุ่มหนึ่งเร่งรีบเข้ามา.

"กลัวว่าพวกเจ้าจะมีความสามารถไม่พอนะซิ!"

ฉู่เทียนที่ผายมือออกไปกุมกระบี่เอาไว้,พร้อมที่จะชักกระบี่อเวจีออกมา.

"มีเสียงเอะอะโวยวายอะไรกัน?"เสียงที่อ้อยอิ่ง,ดังผ่านออกมาจากข้างนอกประตู,เป็นชายวัยกลางคนแต่งตัวเหมือนกับนักศึกษา"ท่านพี่,ทำไมถึงต้องโกรธเกรี้ยวถึงเพียงนี้?"

ใบหน้าของถงหมิงและถงเสี่ยวหยีรู้สึกดีขึ้นมาทันทีก่อนที่จะตะโกนออกไปว่า"ท่านพ่อ!"

"ป๋อเหวิน,เจ้ามาก็ดีแล้ว!"ถงเย่ดูจะแสดงท่าทางใจเย็นลงและกล่าวออกไปว่า"พวกสิบแปดมงกุฏมันกล้าเข้ามาหลอกลวงคนในตระกูลถงของเขา,ถึงกับหาญกล้าบอกว่ารักษาอาการเจ็บป่วยของเสี่ยวหยูได้,มันก็แค่แอบอ้างเท่านั้น,เจ้าบอกมาซิว่าเรื่องนี้ควรที่จะจัดการอย่างไร?"

ถงป๋อเหวินเผยท่าทางตื่นตกใจพร้อมกับสอบถามออกไปทันที"อะไรนะ? เจ้าสามารถรักษาอาการของเสียวหยีได้!เจ้าสามารถรักษาของเสียวหยีได้จริงๆรึ?"

ฉู่เทียนพยักหน้า"ไม่ได้ยากเย็นอะไร!"

ถงเย่ที่ต้องการจะเอ่ย,หากแต่ถงป๋อเหวินกล่าวตัดไปในทันที,"ถ้างั้นก็ให้เขาได้ลองดูเถอะ!"

"เจ้า."

"สำหรับพวกเราแล้ว,ไม่เห็นจะเสียหายอะไรเลย."

ถงเย่ที่ขุ่นเคืองอย่างหนักก่อนที่จะแค่นเสียงออกไป"ก็ได้,ไอ้เด็กกะโปโล,งั้นเจ้าลองดู!"

ฉู่เทียนจับจ้องมองไปยังคนทั้งสองด้วยท่าทางงงงวย,ที่จริงแล้วใครกันที่เป็นประมุขตระกูลถงกันแน่?

แน่นอน,กับเรื่องที่เกิดขึ้น,ไม่ได้ทำให้ฉู่เทียนต้องใส่ใจอะไรทว่ามีเพียงแค่ถงเสี่ยวหยีเท่านั้นที่มีพรสวรรค์ในการสร้างหุ่นกล,ดังนั้นเขาจึงคิดที่จะนำนางมาฝึกฝน.

"เจ้าตัวเล็ก,ออกมาได้แล้ว!"

จิ้งจอกน้อยที่มีขนขาวราวกับหิมะขนาดเท่ากำปั้น,ก่อนที่จะมุดออกมาจากอกเสื้อของเขา,ก่อนที่จะไปนั่งบนไหล่ของฉู่เทียน,พร้อมกับหาวหวอดๆเอาขาหน้าของมันอังปากกวัดแกว่งไปมา.

"ทำงานได้แล้ว!"

เจ้าจิ้งจอกน้อยนั่นรู้ว่าฉู่เทียนนั้นคิดอะไรอยู่,มันได้กระโดดไปยังร่างของถงเสี่ยวหยี,ขาหน้าของมันได้ประทับไปที่คอของนาง,ก่อนที่มันจะทำอะไรสักอย่าง,ทันใดนั้น.

สิ่งที่ไม่อยากเชื่อก็เกิดขึ้น!

ทั่วทุกรูขุมขนของถงเสียวหยี,มีปราณทมิฬมากมายกำลังแผ่นซ่านไหลออกมาไม่หยุด,เป็นพลังงานความมืดที่บริสุทธิ์เป็นอย่างมากกำลังถูกดูดออกมาไม่หยุดหย่อน,ก่อนที่มันจะรวมตัวกันและถูกจิ้งจอกน้อยกลืนกินมันทั้งหมดไป.

มันเลียริมผีปากด้วยลิ้นสีแดงของมันราวกับว่ารู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก,ก่อนที่จะกระโดดไปยังไหล่ของฉู่เทียน.

ถงเสียวหยีเผยท่าทางสบายกายและมีความสุขเป็นอย่างมาก"ข้ารู้สึกดีแล้ว,ข้าหายแล้ว!"

ฉู่เทียนส่ายหน้าไปมาและกล่าวออกไปว่า"มีพลังงานความมืดที่สะสมอยู่ในเส้นปราณของเจ้าเป็นจำนวนมาก,ตอนนี้มันถูกนำออกมา,แต่เพราะร่างกายของเจ้านั้นมีความพิเศษอยู่,อีกไม่นานหลังจากนี้,พลังงานความมืดก็จะกลับมาสะสมกันอีก,ดังนั้นเจ้าควรที่จะติดตามข้าซักพัก,เมื่อสามารถควบคุมพลังงานดังกล่าวได้แล้ว,ก็จะหายได้อย่างสมบูรณ์."

ถงเย่ที่ได้ยิน ก็กล่าวออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวในทันที"เป็นไปได้อย่างไร!เสี่ยวหยีกำลังจะแต่งงานอีกครึ่งเดือนจากนี้แล้ว!"

ฉู่เทียนกล่าวออกมาด้วยความสงสัย"แต่งงานด้วยอายุน้อยถึงเพียงนี้เลยรึ?"

ถงเสียวหยีก้มหน้าลงต่ำท่าทางเศร้าสร้อยหากแต่ก็ไม่กล่าวสิ่งใดออกมา,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าการแต่งงานนี้เป็นตระกูลของนางที่ได้จัดการการซึ่ง ถงเสียวหยีนั้นไม่เต็มใจเลย.

"เป็นไปไม่ได้ที่ถงเสียวหยีจะติดตามเจ้า!"สายตาของถงเย่นั้นจับจ้องไปบนไหล่ของฉู่เทียน,เป็นจิ้งจอกน้อยที่กำลังเลียทำความสะอาดขนของมันอยู่,สายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความโลภ,เจ้าอสูรตัวน้อยนี้สามารถที่จะดูดซับพลังงานแห่งความมืดได้,นี่ไม่ใช่สัตว์อสูรธรรมดาแน่นอน,จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างไม่ต้องสงสัย."ในเมื่ออสูรตัวน้อยนี้สามารถบรรเทาอาการของเสียวหยีได้,เจ้าก็เอามันไว้ที่ตระกูลถงก็พอแล้ว!"

สายตาของฉู่เทียนนั้นเปลี่ยนเป็นเย็นชากวาดตามองออกไป"ข้าช่วยเจ้ารักษาโดยไม่คิดค่ารักษา,เจ้าไม่คิดจะขอบคุณ,ซ้ำยังต้องการที่จะเอาสัตว์เลี้ยงของข้าไปอย่างงั้นรึ?"

"ชิ!หุบปากของเจ้าไปซะ!"ถงเย่โบกมือไปมา"ข้าจะให้เจ้า 10,000 เหรียญทอง,ให้ทิ้งสัตว์อสูรตนนี้ไว้,แล้วเจ้าก็ไสหัวไปใหนก็ไป!"

สิ่งที่คนๆนี้ทำช่างเป็นคนที่น่าอับอายถึงเพียงนี้เลยรึ?

จิ้งจอกน้อยลุกขึ้นขนตั้งชัน,จับจ้องอย่างดุร้ายไปยังถงเย่.

ฉู่เทียนที่ค่อนข้างโกรธเกรี้ยว"หากว่าข้าปฏิเสธล่ะ?"

"ปฏิเสธรึ?เจ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ!"ถงเย่แค่นเสียงอย่างเย็นชา"ไม่เช่นนั้นแล้วก็จงทิ้งชีวิตเอาไว้ที่นี้ด้วย!"

ใบหน้าของถงป๋อเหวินเปลี่ยนเป็นอัปลักษณ์ดูไม่ได้"ท่านจะทำเช่นนี้ได้อย่างไร.."

"น้องรอง,เจ้าไม่ต้องพูดอะไรแล้ว!"ถงเย่ไม่แยแสต่อน้องชายของเขาแม้แต่น้อย,ใบหน้าของเขานั้นเต็มไปด้วยความโลภ,"เจ้าเองก็เห็น,เจ้าอสูรน้อยตนนี้มันสามารถช่วยเหลือเสียวหยีได้มาก,คนกระจอกเช่นนั้น,จะฆ่าไปสักคนสองคน,มีอะไรที่ต้องใส่ใจกัน?"

สิ้นเสียงเขาพูด.

ถึงเย่ก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณที่หนักหน่วงออกมา,พร้อมกับคำรามลั่น,ร่างกายของเขาก็สว่างจ้าออกมา,ทั่วทั้งร่างของเขานั้นปรากฏภูติวิญญาณออกมาตนหนึ่ง,ก่อนที่จะตวัดเขี้ยวเล็บตรงมายังร่างของฉู่เทียน.

"ระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 ก็ยังไปไม่ถึง!"

"โอหังซะเหลือเกิน!"

"ไสหัวไปให้พ้น!"

ฉู่เทียนชักกระบี่อเวจีออกมา.

เปลวเพลิงสีขาวน้ำเงินลุกโชน,พร้อมกับตวัดมันขึ้นบนฟ้า!

ถงเย่ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวดทรมานล้มลงไปนอนอยู่บนพื้น,แขนขวาของเขาถูกตัดออกมา,ร้องโหยหวนไปมา"ไม่,แขนข้า!"

แขนขวาที่ถูกตัดออกไปนั้นถูกเผาไหม้ด้วยเปลวเพลิงอสูรอเวจี,มันกำลังกัดกร่อนแขนดังกล่าวอย่างรวดเร็ว,ตอนนี้ถึงแม้ว่าจะมีวิธีรักษาที่ยอดเยี่ยม,แต่คงไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว.

"มีพลังเพียงเท่านี้ต้องการจะสังหารข้ารึ?"ฝ่ามือของฉู่เทียนกระแทกออกไปยังจุดตันเถียนของถงเย่,"ข้าจะทำลายพลังฝึกตนของเจ้า,ปากเหม็นๆของเจ้าจะได้ไม่ต้องไปข่มเหงคนอื่นอีก!"

พลังวิญญาณของภูติกระบี่เทพมารแผ่พุ่งออกมาจากฝ่ามือของเขา,พร้อมกับบดขยี้เส้นปราณทั่วร่างของถงเย่พร้อมกับสลายพลังวิญญาณทั้งหมดในทันที.

สิบห้านาทีก่อนนี้เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับปลุกดวงจิตระดับ 1 ขั้นปลาย.

ตอนนี้เขาได้กลายเป็นคนพิการไปแล้ว.

ถงป๋อเหวิน,ถงหมิงและถงเสี่ยวหยี,ทุกคนต่างตื่นตะลึงตาค้าง.

ตระกูลถงนั้นไม่ใช่ตระกูลใหญ่อะไรนัก,ตระกูลถงของพวกเขานั้นถงเย่เป็นคนที่มีพลังฝึกตนมากที่สุด,ดังนั้นถึงแม้ว่าเขาจะไม่ใช่ประมุขตระกูล,แต่เขากับมีความอหังกาก้าวร้าวที่สุด,ซ้ำยังกล้าที่จะยุแหย่ถงป๋อเหวินอย่างง่ายๆ.

ไม่คาดคิดเลยว่า.


ผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 1 ขั้นหลายจะไม่สามารถที่จะต้านทานชายคนนี้แม้แต่กระบวนท่าเดียว!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

3 ความคิดเห็น:

  1. สมหน้ามัน กร่างนัก 55555

    ตอบลบ
  2. ยังถือว่ามี เมตรา อยู่นะ ไม่ฆ่าทิ้งก็ดีแค่ไหนแล้ว

    ตอบลบ
  3. ducklode มีถึง 300ฟรี หาเอา

    ตอบลบ