วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561

Miracle Throne Chapter 123 Sky Sword young master

Miracle Throne Chapter 123 Sky Sword young master

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 123 นายน้อยกระบี่ฟ้า


บทที่  123 นายน้อยกระบี่ฟ้า




ฉู่เทียนที่ดูเหมือนกับคนจรเร่ร่อนเข้าไปยังเมืองหลวง,ถนนของรัฐกลางนั้นมีขนาดใหญ่กว่าถนนเมืองเทียนหนานหลายเท่า,นอกจากนี้ยังมีการแบ่งสรรกันระหว่างถนนคนเดินและถนนสำหรับยานพาหนะรถลากสัตว์อสูร,บนถนนที่มีรถเทียมอสูรใช้งานนั้น,จะไม่มีฝูงชนปรากฏอยู่.

"รัฐกลางแห่งนี้เลอเลิศจริงๆ!"


ฉู่เทียนที่จ้องมองไปรอบๆนั้น,บนถนนของเมืองหลวงรัฐกลางแห่งนี้,เต็มไปด้วยร้านค้ามากมาย,และยังมีสำนักสอนศิลปะการต่อสู้,บนถนนเองมีผู้ฝึกตนเต็มไปหมด,แต่ล่ะคนนั้นจะสวมชุดที่ดูเป็นเอกลักษณ์.
 ทุกๆคนล้วนแล้วแต่เป็นคนที่มาจากหลากหลายตระกูล,ดังนั้นเสื้อผ้าของพวกเขาจึงมีสันที่ดูแตกต่างกัน,มีสัญลักษณ์ของตระกูลต่างๆติดอยู่,มีอักษรบ่งบอกที่ชัดเจน,ดูโดดเด่นเป็นอย่างมาก,เพียงแค่มองตาเดียวก็บอกได้ว่าพวกเขานั้นเป็นคนของตระกูลใหน,มีผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังหรือไม่.

ฉู่เทียนที่ดูเหมือนกับผู้ฝึกตนไร้สังกัด,คนเช่นเขานั้นไม่ค่อยที่จะเห็นอยู่ในรัฐกลางแห่งนี้.

หากว่าคนเช่นเดียวกับเขานั้นไม่ได้อยู่ภายในกลุ่มอิทธิพลใด,ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะดูไร้ค่าในสถานที่เช่นนี้.

ผู้ฝึกตนไร้สังกัดไม่มีสิทธิ์มีเสียงเลยอย่างงั้นรึ?

ฉู่เทียนไม่สนใจกับเสียงซุบซิบนินทากับสายตาที่ผู้ฝึกต้นไร้สังกัดนั้นเป็นเหมือนดั่งตัวประหลาด,เขายังคงเดินทอดน่องไปเรื่อยๆ,ราวกับกำลังชื่นชมฉากที่สวยงามของรัฐกลางอยู่.

สถาบันการศึกษาของรัฐกลางที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในระดับอาณาจักร,"สถาบันเจิ้งโจว"พวกเขามีนักเรียนนับหมื่นคน,อาจจะเรียกว่าเป็นสถานบันขนาดกลางของอาณาจักรแห่งนี้,ดังนั้นรัฐกลางแห่งนี้จึงมีบรรยากาศที่ดูเคร่งขรึมในการเรียนรู้เรื่องวิชาการและการฝึกฝน,ไม่ว่าจะเดินทางไปใหนก็จะพบกับสำนักต่างๆที่กำลังฝึกฝนส่งเสียงที่เข้มแข็งดังผ่านออกมา.

หากเอ่ยถึงสถาบันเจิ้งโจวล่ะก็.

ฉู่เทียนนึกถึงหนานกงหยุนทันที.

นางเดินทางมาระยะหนึ่งแล้ว,ควรที่จะปรับตัวเข้ากับที่นี่ได้แล้ว!

ฉู่เทียนเองควรที่จะเดินทางไปที่สถาบันเจิ้งโจวเพื่อมองหาหนานกงหยุน,หากแต่สถาบันเจิ้งโจวนั้นมีขนาดใหญ่มาก,ฉู่เทียนไม่รู้เลยว่าจะสามารถไปพบนางได้ที่ใหน,หากตั้งท่าสอบถามคนอื่นๆล่ะก็,รังแต่จะทำให้สถานะตัวเองถูกเปิดเผย.

เช่นนั้นแล้วก็ควรที่จะรอไปก่อน!

ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบถึงเพียงนั้น!

ฉู่เทียนยังคงเดินไปตามถนน,ทันใดนั้นก็ยินเสียงคำรามเสียงดังมาจากด้านหลัง,นักรบแปดคนที่นั่งพยัคฆ์ที่ดุร้ายตัวมหึมา,วิ่งเขามา,ราวกับปิศาจร้ายที่ขับไล่ขนที่อยู่รอบๆ,ให้พวกเขาเปิดทาง เหล่าคนมากมายเพื่อที่จะให้รถเทียมอสูรที่หรูหราคันหนึ่งวิ่งผ่าน,เหล่าคนที่อยู่รอบๆต่างถูกหวดด้วยแส้ฟาดลงไป,ส่งผลให้เกิดเสียงดังร้องอย่างเจ็บปวดไปตลอดข้างทาง.

"ไสหัวไปให้พ้น!"

"หลบไปให้หมด!"

"นายน้อยกระบี่ฟ้ากำลังจะผ่านมาแล้ว,ไอ้พวกชั้นต่ำม้วนหางออกไปให้พ้น!"
 ท่าทางของเหล่านักรบที่ดุร้ายเสียงที่โหดเหี้ยมดังลั่น,สร้างความไม่พอใจกับคนที่อยู่รอบๆเป็นอย่างมาก,อย่างไรก็ตามเมื่อได้ยินคำว่านายน้อยกระบี่ฟ้าเท่านั้น,ความหวาดกลัวก็แทรกเข้าไปในจิตใจของพวกเขาสร้างความตื่นตกใจ,จนแม้แต่เสียงสักคำก็ไม่กล้าส่งออกมา.

ฉู่เทียนที่หรี่ตาลง,คิดอยู่ภายใน,"นายน้อยกระบี่ฟ้ารึ? เป็นฉู่ซิงเหอสินะ!ชายคนนี้มันช่างกดขี่ข่มเหงคนอื่นยิ่งนัก!"

จิ้งจอกน้อยโผล่หัวออกมาพร้อมกับพยักหน้าหงึกๆ,เห็นด้วยกับคำพูดของเจ้านายของมัน.

"เจ้าเด็กเวรเจ้าไม่เข้าใจอะไรหรือไง!"

"นายน้อยกระบี่ฟ้านั้นเป็นคนระดับใดกัน!"

"เขาคือสุดยอดอัจฉริยะ!เป็นหนึ่งในสี่ต้าซือที่มีพรสวรรค์สูงสุดเชียวนะ!"

"เขาเป็นคนที่น่านับถือของรัฐกลาง,เป็นความความภาคภูมิใจของรัฐกลางของพวกเรา,เจ้ากล้าเอ่ยวาจาเช่นนี้,ระวังชีวิตน้อยๆของเจ้าเอาไว้ให้ดี!"

เหล่าคนที่สัญจรไปมาจ้องมองจงเกลียดจงชังฉู่เทียนทันที,ราวกับพวกฉู่เทียนนั้นกำลังดูถูกนายน้อยกระบี่ฟ้าก็เหมือนกับดูถูกพวกเขาไปด้วย,ทำให้ฉู่เทียนไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย,ฉู่ซิงเหอสูงส่งถึงเพียงนั้นเลยเหรอ,ทำไมทุกคนในเมืองนี้ถึงต้องเป็นเดือดเป็นร้อนถึงเพียงนั้น?

ในเวลาเดียวกัน.

"ฉึกฉัก!กุบกับ!คึกคัก!"

เหล่ามือกระบี่ของตระกูลฉู่สามแถวที่สวมชุดสีเงินกำลังนำขบวนมา,เหล่ามือกระบี่ของตระกูลฉู่ทุกคนนั้นต่างก็แต่งชุดเต็มยศเลยทีเดียว,พวกเขาแต่งชุดที่เหมือนกันเป็นอย่างมาก,นั่งอยู่บนหลังของม้าขนาดมหึมาที่มีเกร็ดมังกรสีเขียวปกคลุมไปทั่วร่างของมัน,เป็นม้าศึกที่ดูน่าเกรงขามเป็นอย่างมาก,มันมีขนาดสูงถึงสองเมตร,ร่างของมันนั้นดูแข็งแกร่งราวกับหินผา ผิวที่ฉาบไปด้วยสีทองแดง,ความแข็งแกร่งที่สามารถเดินทางได้หมื่นลี้ภายในวันเดียว,นอกจากนี้พวกมันทุกตนต่างมีพลังอยู่ในระดับปรุงร่างขั้นที่ 9 เลยก็ว่าได้.

เหล่านักรบที่แข็งแกร่งสามแถว,แต่ละแถวมีอยู่ทั้งหมดแปดคน,รวมทั้งสิ้น 24 คนนั่นเอง.

กลิ่นอายที่น่าสะพรึงที่ส่งออกมาจากร่างของพวกเขานั้นยากที่จะหาใดเปรียบได้.

ท่ามกลางฝูงชนพวกเขาต่างส่งเสียงออกมาดังอื้ออึ้งไปทั่ว"นั่นมัน 24 องค์รักษ์เทียนเจียนของนายน้อยกระบี่ฟ้า!ทุกๆคนต่างก็มีพลังระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 กันทั้งหมด,และยังได้รับสืบทอดวิชาบำเพ็ญโบราณและฝึกฝนจากนายน้อยกระบี่ฟ้า, พวกเขาติดตามนายน้อยกระบี่ฟ้ามาหลายปีแล้ว,คอยปัดกวาดทุกสิ่งไปทั่วทุกสารทิศ,จัดการเหล่าคนที่ขวางทาง,เหล่าองค์รักษ์เทียนเจียนพวกเขาเป็นองค์รักษ์ที่ซื่อสัตย์เป็นอย่างมาก,นับว่าเป็นกลุ่มผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลฉู่ในรัฐกลางแห่งนี้ก็ว่าได้!"

"นี่คือพลังและความแข็งแกร่งของนายน้อยกระบี่ฟ้าอย่างงั้นรึ?"

"ควรค่าแล้วที่ได้รับฉายานายน้อยกระบี่ฟ้า!"

เหล่าผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆต่างจ้องมองด้วยท่าทางตื่นตะลึกและตกใจ,เหล่าผู้คุ้มกันเหล่านี้ล้วนแล้วมีพลังปลุกดวงจิตระดับ 2 ,นอกจากนี้ยังมีถึง 24 คน,พลังวิญญาณที่หนักหน่วงดุดันนั้น,เห็นได้อย่างชัดเจนว่า,วิชาบำเพ็ญของพวกเขานั้นมีลักษณะพิเศษ,ทักษะต่อสู้ที่ทรงพลังของพวกเขาจะต้องเหนือล้ำกว่าผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตขั้นที่ 2 ธรรมดาแน่นอน.

นายน้อยกระบี่ฟ้าช่างน่าสะพรึงกลัวจริงๆ!

ที่ด้านหลังของ 24 องค์รักษ์เทียนเจียน ,ยังมีแถวของเหล่าผู้คุ้มกันที่ทรงเกียรติอีกเป็นจำนวนมาก,เป็นขบวนขนาดใหญ่,พวกเขาต่างสวมชุดเกาะที่ล้ำค่าพร้อมกับนั่งบนม้าศึกที่ดูสวยงาม,ร่างของพวกมันสูงมากกว่าสามฟุตลร่างของมันดูแข็งแกร่งราวกับเหล็กล้า,เหล่านักรบในชุดเกราะสีทองกว่าหนึ่งร้อยที่นั่งอยู่บนม้าศึกหยกขาว,พวกเขากำลังเดินขบวนล้อมรอบรถเทียมสัตว์อสูรคันมหึมา,ที่กำลังขับเคลื่อนอยู่ในขบวนอย่างช้าๆ.

นั่นมันรถเทียมสัตว์อสูรแบบใดกัน?"

ประกายแสงสีทองสีเหลืองมากมาย,ส่องประกายออกมาทุกทิศทุกทาง,ทันทีที่มันได้ปรากฏตัวขึ้นมา,ทำให้เหล่าคนทั่วไปที่อยู่รอบๆถึงกับสั่นเท่า,ราวกับว่าได้พบเข้ากับเทพวิญญาณโบราณ,ที่ได้จุติขึ้นมาบนโลกนี้,กลิ่นอายที่เด็ดขาดทรงพลัง,เป็นเหมือนดั่งราชันย์ที่ปรากฏตัวขึ้นบนฝูงชนทั่วไป,แรงกดดันอันหนักหน่วงไร้ที่สิ้นสุด,เป็นเหมือนกับพายุสึนามิที่พร้อมจะกวาดทุกสิ่งทุกอย่างให้หายไป,ทำให้คนที่พบเห็นรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นเพียงฝุ่นผง.

"โฮก! โฮก!"

สัตว์อสูรสีทองที่ลากรถเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีร่างใหญ่โตมหึมาสองตน,เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขาทั้งสี่ข้างของมันเป็นพยัคฆ์,และส่วนร่างกายนั้นเป็นมังกร,ดูน่าเกรงขามและทรงพลัง,ปลดปล่อยกลิ่นอายที่น่าพรั่นพรึงออกมา,ทำให้คนที่อยู่รอบๆถึงกับหายใจไม่ทั่วท้อง.

มังกรพยัคฆ์!

สัตว์อสูรจากโบราณกาล มังกรพยัคฆ์!

เหล่าผู้ฝึกตนพเนจรเมื่อเห็นขบวนที่ยิ่งใหญ่นายน้อยกระบี่ฟ้าแล้วต่างก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น,ต่างโก่งโค้งทำความเคารพในทันที,มังกรพยัคฆ์นั้นเป็นมังกรวารีสายโลหิตโบราณ,มันมีความแข็งแกร่งจนน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด,ซ้ำมันยังมีถึงสองตนถูกนำมาใช้ในการลากรถ,ความแข็งแกร่งของพวกมันนั้นอยู่ถึงระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 3 เลยก็ว่าได้,นอกจากนี้มันยังสามารถเติบโตขึ้นไปได้อีกด้วย.

มังกรพยัคฆ์ลากรถสีทองที่หรูหราไปตามถนน,ทันทีที่มันปรากฏตัวออกมา,บรรยากาศรอบๆดูหนักอึ้งขึ้นมาในทันที,ทุกๆคนรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วร่าง,ราวกับว่าขุนเขาลูกใหญ่กำลังกดทับมาบนศีรษะของพวกเขากดทับไหล่ของพวกเขาเอาไว้.

"คารวะนายน้อยกระบี่ฟ้า!"

"คารวะนายน้อยกระบี่ฟ้า!"


ด้วยแรงกดดันวิญญาณที่น่าสะพรึงกลัว,ทุกคนๆได้คุกเข่าลงไปจนหมด,ราวกับว่าสามัญชนคนธรรมดาได้พบเข้ากับขบวนของบุคคลชั้นสูง..

ฉู่เทียนที่สามารถสัมผัสได้ถึงพลังที่รุนแรงของมักกรพยัคฆ์ที่ส่งออกมาได้,เป็นพลังที่มากมายมหาศาลเลยทีเดียว,มังกรพยัคฆ์สองตนนี้ราวกับภูเขาของพลังวิญญาณขนาดใหญ่และทรงเกียรติ,มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่จะอาศัยอยู่ในรัฐกลางแห่งนี้เลย.

อาจจะเป็นไปได้ว่า!

ฉู่ซิงเหอคนนี้ได้รับเป็นมรดกตกทอดมา,สิ่งมีชีวิตทั้งสองนี้อาจจะเป็นสมบัติตกทอด....ไม่คาดคิดเลยจริงๆ,ว่าเขาจะมีโชควาสนาถึงเพียงนี้,คนผู้นี้ไม่คิดเลยว่าคงยากที่จะต่อกรได้จริงๆ.

บนรถของมังกรพยัคฆ์นั้นมีองค์รักษ์ส่วนตัวอีกสองคน,หนึ่งในคนนั้นแต่งกายเป็นนักศึกษา,ส่วนอีกคนนั้นเป็นชายร่างยักษ์ที่มีดวงตาเหลือเพียงข้างเดียว,คนทั้งสองต่างก็สวมชุดนักศึกษา,คนหนึ่งในนั้นไม่ใช่ใครที่ใหนเป็นคนเดียวกันที่พ่ายแพ้ต่อฉู่เทียน เป็นนักศึกษาคร่าชีวิต ฉู่ถงเหวินนั่นเอง.

เหล่าคนมากมายต่างก็คุกเข่าลงเพราะไม่สามารถทนต่อแรงกดดันวิญญาณที่หนักหน่วงของนายน้อยกระบี่ฟ้ากันได้ทั้งนั้น.

มีเพียงแค่ฉู่เทียนที่ยังคงยืนเด่นอยู่คนเดียว,ดังนั้นฉู่เทียนจึงกลายเป็นที่จับตาทันที,ฉู่ถงเหวินที่กวาดตามองออกไป,สายตาของเขาแทบจะหยุดอยู่กับที,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นขาวซีด,"เป็นเขา!"

นั่นคือลูเร็นที่เขาเคยเจอมาก่อนหน้านี้ไม่ใช่รึ?

ทำไมไม่รู้เช่นกัน,ไม่เห็นพียงไม่กี่วัน,รูปร่างของเขาเปลี่ยนเป็นผู้เยาว์ที่มีอายุน้อยกว่าเดิมมาก!

ภายในรถสีทองนั้นมีเสียงที่ดูเย็นชาและจองหองเป็นอย่างมากกล่าวออกมา"เจ้าเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมนั้นสามารถต้านแรงกดดันวิญญาณไม่คุกเข่าต่อหน้าขบวนรถ,ดูเหมือนว่าจะพอมีความสามารถอยู่เหมือนกัน,ท่านถงเหวินรู้จักเขาใหม?"

ฉู่ถงเหวินที่ดูลังเลใจอยู่ชั่วขณะก่อนที่จะกล่าวออกมา,เพื่อที่จะปกปิดความเป็นจริง ต้องการที่จะเลี่ยงการเผชิญหน้า"เขาและข้านั้นขัดแย้งกันมาก่อน,ไม่มีทางที่จะมีไมตรีให้กันและกันได้."

"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"ชายตาเดียวหัวเราะขึ้นมาในทันที"ในเมือมันกล้ายุแหย่สหายถงเหวิน,ยังต้องปล่อยให้มันมีชีวิตอยู่ในรัฐกลางได้อีกรึ?ปล่อยให้ข้าฉุ่ป้าเทียนได้นำชีวิตอันน้อยนิดของมันมามอบให้กับสหายถงเหวินเอง!"

ใบหน้าของฉู่ถงเหวินถึงกับเปลี่ยนเป็นซับซ้อน,ต้องการที่จะห้ามเขาเอาไว้,หากแต่ก็ไม่มีเวลาเพียงพอ.

ชายตาเดียวได้กระโดดออกไปจากรถทันที,เพียงพริบตาเดียวเขาก็เหินออกไป,ก่อนที่จะปรากฏอยู่หน้าหน้าของฉู่เทียน,พร้อมกับหมัดขวาของเขาที่ควบรวมพลังที่มากมายมีอักษรรูนนับไม่ถ้วนหมุนวนไปมา,พร้อมกับหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง"เจ้าเด็กกะโปโล,เจ้านี่มันโชคไม่ดีเอาซะเลย,ตายไปซะ!"

ไร้ซึ่งเหตุผล.
 ไม่หวั่นเกรงต่อผู้ใด.

เพียงแค่เห็นว่าฉู่เทียนไม่คุกเข่าคำนับขบวนส่วนตัวของนานน้อยกระบี่ฟ้า,ชายตาเดียวคนนี้ถึงกับจะต้องลงมือสังหารคนที่สัญจรไปมาบนถนน,ต้องการที่จะเอาชีวิตของฉู่เทียนไป.

หมัดที่ทรงพลังราวกับขุนเขาขนาดมหึมาได้กระแทกออกไป.

ชายตาเดียวคนนี้ไม่สนใจเลยว่าจะมีเหล่าคนจรบริสุทธิ์คนอื่นๆที่อยู่รอบๆอีกหลายคน.

ใบหน้าของฉู่เทียนเปลี่ยนไปเล็กน้อย,ชายตาเดียวคนนี้มีพลังอยู่ในระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 3 ,หากฉู่เทียนต้องการจัดการเขาล่ะก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายดายนัก,เขาได้ประทับเปิดการใช้งานของวิชา กายานิรันดร์โอบแสดงดาราอย่างเต็มพลัง,เพื่อรับการโจมตีในครั้งนี้,พลังที่แข็งแกร่งหนักหน่วงได้ส่งร่างของฉู่เทียนลอยออกไปหลายฟุตทีเดียว,เหล่าคนที่อยู่ใกล้ๆเหล่านี้,ต่างได้รับลูกหลงไปด้วย,ร่างกายของพวกเขาถึงกับสั่นสะท้านด้วยคลื่นกระแทกจนต้องพ่นโลหิตออกมาอย่างบ้าคลั่ง.

พลังแห่งดวงดาราที่โปร่งแสงวับวาวถึงกับแตกออกเป็นเสียงๆ,มันแทบจะระเบิดออกมาฟุ้งกระจายไปทั่วร่างกายของเขา.

พลังทำลายของชายคนนี้นับว่ามหาศาลทีเดียว!

และนี่คงจะไม่ใช่พลังทั้งหมดของเขาแน่!

ฉู่ป้าเทียนถึงกับเผยท่าทางประหลาดใจเป็นอย่างมาก"พลังอันน้อยนิด ระดับปลุกดวงจิตระดับ 1 ,ข้าใช้พลังไปเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น,แต่หมัดต่อไปเจ้าไม่โชคดีอย่างแน่นอน."

"ป้าเทียน,กลับมา!"

ฉู่ป้าเทียนที่เตรียมโจมตีในหมัดต่อไปเพื่อบดขยี้พลังป้องกันของฝ่ายตรงข้าม,ทว่ากลับมีเสียงที่ยิ่งใหญ่ดังผ่านออกมาจากรถเทียมมังกรพยัคฆ์สีทอง,ฉู่ป้าเทียนเพ่งพิศอยู่เล็กน้อย,ก่อนที่จะถอยกลับมาอย่างเชื่อฟัง.

รถเทียมมังกรพยัคฆ์สีทองเคลื่อนตัวออกมาช้าๆ,ก่อนที่จะหยุดอยู่ด้านหน้าของฉู่เทียน,พร้อมกับส่งเสียงผ่านออกมาจากด้านใน,"หนุ่มน้อย,พรสวรรค์ของเจ้านับว่าใช้ได้,ตายที่ตรงนี้ ช่างน่าเสียดาย,ตอนนี้ข้าจะให้โอกาสสวามิภัคต่อข้า,เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของข้า,ข้าจะแนะนำวิธีฝึกฝนที่ยอดเยี่ยมเป็นการส่วนตัวให้เจ้า."

ให้ติดตามเจ้าอย่างงั้นรึ?

คิดจะแนะนำวิธีฝึกฝนให้กับข้าอย่างงั้นรึ?

ฉู่เทียนที่ใช้ชีวิตมาถึงสองชาติภพ.

นับว่าเป็นครั้งแรกที่มีคนกล่าวว่ากล่าวจะแนะนำวิธีฝึกฝนให้กับเขา.

ฉู่เทียนยังคงยืนอยู่อย่างสงบและเผยยิ้มออกมา,พร้อมกับกล่าวออกไปเสียงดังไม่เร็วและไม่ช้า"ข้าไม่เห็นสนใจ!"

วิ้งงงง!

ทุกแห่งถึงกับเงียบไปหมด!

ใบหน้าของทุกคนถึงกับเปลี่ยนสี,นายน้อยกระบี่ฟ้าฉู่ซิงเหอได้ทำการรับสมัครด้วยตัวเองก็นับว่ามหัศจรรย์แล้ว,เพียงเท่านี้ก็เป็นเกียรติมากมายแล้วไม่ใช่รึ?ฉู่ซิงเหอแห่งรัฐกลางนั้น,เพียงแค่มอบโอกาสให้มาก็เท่ากับว่าในอนาคตข้างหน้า ไม่ต้องกล่าวเลยว่าจะกลายเป็นผู้เยี่ยมยุทธ์ที่สูงศักดิ์เพียงใหน,มีเหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตมากมายที่ใฝ่ฝันต้องการที่จะติดตามเขา.

ชายหนุ่มไร้ชื่อเสียงคนนี้,เป็นเพียงผู้ฝึกตนไร้สังกัดไม่มีชื่อเสียงใดๆ,คาดไม่ถึงเลยว่ากลับหาญกล้าปฏิเสธโอกาสที่ยอดเยี่ยมนี้ไป,ซ้ำยังแสดงท่าทางรังเกียจออกมาเป็นอย่างมาก,และปฏิเสธคำชวนของนายน้อยกระบี่ฟ้าต่อหน้าคนจำนวนมาก.

นี่ไม่นับว่าเป็นการตบหน้านายน้อยกระบี่ฟ้าอย่างรุนแรง!

เป็นตามที่คาด.

แรงกดดันวิญญาณมหาศาลก็ปะทุส่งออกมาจากรถเทียมมังกรพยัคฆ์สีทอง,รุนแรงพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า,ทำให้คนที่อยู่รอบๆแทบหยุดหายใจ,ความหวาดกลัวหนาวเย็นกัดกินชอนไชเข้าไปในกระดูกของพวกเขา,"เป็นการเลือกที่โง่งมบัดซบที่สุด,ทำไม?"

ฉู่เทียนที่เผชิญหน้ากับแรงกดดันวิญญาณที่รุนแรงราวกับคลื่นสึนามึ,หากแต่ยังคงยืนนิ่งไม่ไหวติง"เพราะเจ้าไม่มีคุณธรรมเพียงพอ,ข้ารู้สึกรังเกียจที่จะเป็นลูกน้องของเจ้า,ข้าจะต้องแข็งแกร่งกว่าเจ้าได้อย่างแน่นอน,ไม่เห็นจำเป็นต้องลดตัวรับใช้เจ้าเลย!"

เจ้าไม่มีคุณธรรมเพียงพอ,รังเกียจที่จะเป็นลูกน้อง!

ข้าต้องแข็งแกร่งกว่าเจ้า,ไม่จำเป็นต้องลดตัวรับใช้ใคร!

ด้วยคำพูดที่ราวกับก้อนอิฐสีทองที่กำลังทับถมซ้อนกันไปมาเรียงกันขึ้นมาบนพื้น,ก่อนที่จะถูกทุบทำลายไปอย่างไม่มีเหลือ,ส่งผลให้เกิดเสียงระเบิดออกมาอย่างรุนแรงส่งผลให้ผืนปฐพีสั่นสะเทือน!

เหล่าทหารหลายพันคนและเหล่าประชาชนทุกคนถึงกับหน้าเปลี่ยนสีด้วยความประหลาดใจ,ถึงกับคุกเข่าหมอบราบลงไปในทันที.

ชายคนนี้เป็นใครมาจากใหน,ไปเอาความมั่นใจนั่นมาจากใหนกัน,ถึงกับกล้าที่จะเผชิญหน้ากับนายน้อยกระบี่สวรรค์ตัวตนที่เป็นตัวแทนของสวรรค์,ชายคนนี้ยังกล้าที่จะแบกรับศักดิศรีมากกว่าชีวิตของตัวเองอย่างงั้นรึ?

ไม่คิดรึอย่างไรกัน,ว่าจะเกิดผลเช่นใดหากว่าแสดงท่าทางเช่นนี้ออกมา.

เกียรติยศ,มันสำคัญมากกว่าชีวิตของตัวเองเลยอย่างงั้นรึ?




ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

3 ความคิดเห็น:

  1. ปลอมตัวเพื่อไม่เป้นจุดเด่นจุด สนใจ แต่เสือก ไปยืนไม่กลัวอะไร ยังจะไปยืนให้เขาชัดแล้ว เถียงอีก ในเมื่อไมึงไม่กลัวฟ้าดินไม่กลัวอะไรเลย มึง ปลอมตัวทำไม แต่งมานี้ขัดกันชิบหาย มั่วชิบหาย ปลอมตัวทำไม ถามหน่อย ควาย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มึงควรเลิกอ่านอะกูว่าถ้าอ่านแล้วรู้สึกแย่อะ555เก็บกดเกินปล่อยวางบ้างบางทีคิดเยอะควย5555

      ลบ
  2. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ