วันจันทร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 112 The day demon teaches

Miracle Throne Chapter 112 The day demon teaches

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 112 เซียนปิศาจสวรรค์ 


บทที่ 112 เซียนปิศาจสวรรค์ 



เคร้ง!

เคร้ง!

เสียงตัดโลหะหลายครั้ง!

ฉู่เทียนที่ตัดตรวนหลินมู่,ฟางหานและคนอื่นๆให้แยกออกจากกัน.
หลินมู่เผยท่าทางที่ซาบซึ้งเป็นอย่างมาก,"ไม่มีคำพูดใดที่จะสามารถแทนคำขอบคุณได้,ตอนนี้พวกเราต้องการจะเอาคืนพวกมันสักหมื่นเท่า!"
"ที่นี่จะต้องถูกล้อมในเร็วๆแน่!"ฉู่เทียนที่ยื่นหญ้าแก่นหยวนให้กับทุกคน"นี่คือสมุนไพรทิพย์พวกเจ้าเอาไปแบ่งกันซะ,มันสามารถฟื้นฟูพลังวิญญาณได้อย่างรวดเร็ว,สถานที่แห่งนี้ไม่สามารถที่จะอยู่นานได้,จงเตรียมพร้อมเพื่อเปิดทางออกไป."


"ไอ้พวกสุนัขขี้เรื้อน,ใช้การไม่ได้เลยจริงๆ."
บ่อโลหิตที่ใจกลางบ่อนั้นกำลังเดือดพล่าน,พร้อมกับก่อเป็นรูปร่างขนาดใหญ่ลอยขึ้นมาจากภายใน,ทันใดนั้นกลิ่นอายที่น่าสะพรึงกลัวก็พวยพุ่งแผ่ออกมาในทันที,ทั่วทั้งอากาศรอบๆตอนนี้ถูกกลิ่นอายดังกล่าวนี้คลุมไปหมด,กลิ่นคาวโลหิตอย่างรุนแรงฟุ้งกระจายไปทั่วทำให้คนที่อยู่รอบๆนี้แทบจะอาเจียนออกมา.
"พวกเจ้าทุกคน,ความสามารถของพวกเจ้านับว่าใช้ได้,จะสังหารพวกเจ้าก็น่าเสียดาย,ตอนนี้เซียนศักดิ์สิทธิ์เลือกพวกเจ้าแล้ว,ตอนนี้พวกเจ้าควรที่จะเลือกรับใช้ข้าซะ,แล้วข้าจะรับพวกเจ้าเป็นศิษย์,พร้อมกับเซียนศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงจะมอบวิชา<<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>,พร้อมกับทรัพยากรในการฝึกฝน,ที่ไม่มีวันหมดให้."
ร่างขนาดมหึมา,ทั่วทั้งร่างนั้นเปลือยกายไม่ใส่อะไรเลย,อาบโชกไปด้วยโลหิตเหนียวหนืด,ราวกับว่าเป็นมนุษย์ขี้ผึงที่ถูกไฟลนหลอมไปแล้วครึ่งหนึ่ง,แทบจะไม่สามารถเห็นเป็นรูปเป็นร่างของคนได้อย่างชัดเจน,มีเพียงดวงตาสีแดงเพลิงคู่หนึ่งที่จับจ้องออกมา.

หลินมู่และฟางหานเต็มไปด้วยความตื่นตกใจ!
สิ่งดังกล่าวนี้คืออะไรกัน?
สัมผัสที่น่าสะพรึงกลัวนี่กดข่มมายังพวกเขา.
ชายคนนี้เห็นได้ชัดเจนว่าได้ตายมาหลายร้อยปีแล้ว,ในเวลานี้ได้ถูกชุบชีวิตให้มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขา,แน่นอนว่าจะไม่ทำให้คนปรกติตื่นตกใจหวาดกลัวได้อย่างไร?
"ฮ่า ฮ่า,เจ้าเคยส่องกระจกดูตัวเองบ้างใหม ว่ามันน่าดูหรือเปล่า!"ใบหน้าของฉู่เทียนที่พบกับแรงกดดันของมนุษย์โลหิตผู้นี้,ไม่มีร่องรอยแห่งความหวาดกลัวแม้แต่น้อย,ซ้ำยังเต็มไปด้วยความเหยียดหยันอีกด้วย"จะดูเหมือนคนก็ไม่ใช่ เหมือนกับก้อนอึซะมากกว่า,ยังกล้าที่จะรับข้าเป็นศิษย์อีกรึ? ถึงเจ้าจะไม่รู้จักอาย,แต่คิดว่าข้าจะไม่อับอายรึไง,เพ่ย!"
"โอหัง!"
แรงกดดันที่น่าเกรงขาม,ถูกปลดปล่อยออกมาในทันที.
หลินมู่และคนอื่นๆถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งร่าง,กลิ่นคาวโลหิตที่รุนแรงราวกับท่วมไปทั่วห้องส่งกลิ่นอย่างรุนแรงแทบทำให้พวกเขาหายใจไม่ออก,สมองรู้สึกงงงวย,มันชอนไชทะลวงไปถึงดวงจิต,พลังกดดันรุนแรงดังกล่าวนี้,ส่งผลให้พวกเขาถึงกับหายใจไม่ออกทีเดียว!
น่ากลัว,น่าหวาดกลัวเกินไปแล้ว!
แรงกดดันนี้บางทีคงเกินกว่าระดับผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิตระดับ ดวงจิตเสมือนซะอีก,หรืออาจจะเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญปลุกดวงจิต ดวงจิตปรากฏไปอีก!
มนุษย์โลหิตผู้นี้จะต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเขตแดน ดวงจิตที่แท้จริงในตำนานอย่างงั้นรึ?
ผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตนั้นจะถูกแยกออกเป็นสามเขตแดน,ทั่วทั้งรัฐกลางนั้น,พวกเขารู้ว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงมีไม่ถึงสิบคนด้วยซ้ำ,นี่คือกลิ่นอายของผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตที่แท้จริง,มันสามารถกดข่มเหล่าผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตทั่วไปให้พ่ายแพ้โดยไร้ซึ่งการต่อสู้ได้เลย!
"ข้าคือร่างจำแลงเซียนปิศาจสวรรค์,เจ้าอยู่ในอาณาจักรที่อ่อนแอถึงเพียงนี้,ในสายตาของข้านั้นก็ไม่ต่างจากมดปลวก!"มนุษย์โลหิตที่ขึ้นมาจากบ่อโลหิตช้าๆ,พร้อมกับปลดปล่อยแรงกดดันที่หนักหน่วงกดดันทุกคนที่อยู่รอบๆ,"เดิมทีข้าเห็นพวกเจ้าพอจะมีความสามารถบ้างดังนั้นจึงต้องการให้มารับใช้,แต่ว่าไม่คิดเลยว่าพวกเจ้านั้นจะไม่เห็นคุณค่าของมัน?เช่นนั้นก็จงตายไปซะ!"
จิตสังหารที่รุนแรงบ้าคลั่งกำลังปะทุออกมา.
ทุกๆคนตอนนี้ราวกับว่ากำลังตกลงไปในหุบเหวที่ลึกจนไม่มีก้น!
จบ,จบกันแล้ว,หากว่าผู้เชี่ยวชาญเขตแดนดวงจิตที่แท้จริงเริ่มต้นโจมตีมาล่ะก็,คนเหล่านี้ย่อมไม่มีพลังที่จะต้านทานอย่างแน่นอน.
มนุษย์โลหิตกวาดสายตาจ้องมองคนทุกคนก่อนที่จะแค่นเสียงออกมา"ตอนนี้,ข้าได้ฟื้นชีวิตกลับมาแล้ว,ข้าเองก็ต้องการที่จะได้ผู้ช่วยสักนิดหน่อย,จะให้โอกาสสำหรับคนที่ไม่อยากตาย!"

ทุกคนราวกับกำลังเห็นแสงสว่างอยู่ปลายอุโมงค์!
ใครยินดีที่จะตายกัน?
การต้องการมีชีวิตอยู่เป็นสัญญาติญาณของมนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว!
คนที่พวกเขาต้องเชิญหน้านี้ไม่รู้เลยว่ามีอายุเท่าใด,อาจจะเป็นสัตว์ประหลาดที่มีอายุที่ทุกคนในโลกนี้ไม่เคยเห็นอยู่ก็เป็นได้แล้วพวกเขาจะกล้าต่อกรได้อย่างไร.
"สังหารมันซะ!"
"ใครสามารถสังหารมันได้,ละก็จะได้เป็นศิษย์ของข้าเซียนปิศาจสวรรค์ที่ยิ่งใหญ่!"มนุษย์โลหิตกล่าวเชิญชวนด้วยเสียงก้องกังวานสั่นสะท้านไปทั่วห้องโถง,"ใครก็ตามที่ได้รับการสั่งสอนเป็นการส่วนตัวและเข้าสู่ลัทธิปิศาจสวรรค์ พวกมันจะได้รับวิชาสือบทอด <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>จากข้า!"
ด้วยข้อเสนอดังกล่าว.
ทุกคนตอนนี้ถึงกับเผยสีหน้าที่ซับซ้อน.
มนุษย์โลหิตผู้นี้มีพลังฝึกตนที่สูงล้ำอย่างแน่นอน!
วิชาบำเพ็ญและทรัพยากรอีกหลายร้อยปีของอาวุโสคนนี้มี,จะต้องมากมายเกินกว่าจินตนาการแน่!
วิชาบำเพ็ญที่พวกเขามีนั้น,เป็นได้เพียงแค่ทหารรับจ้างหรือผู้ฝึกตนไร้สังกัด,และสามารถก้าวไปเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตทั่วไปเท่านั้น,การจะก้าวขึ้นไปให้สูงกว่านี้อาจจะไม่สามารถทำได้ตลอดชีวิตของพวกเขาก็เป็นได้.
ใครกันเล่าที่จะไม่อยากเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่ง?
ใครกันเล่าที่ไม่อยากฝึกฝนวิชาบำเพ็ญที่แข็งแกร่ง?
ใครกันเล่าที่ไม่ต้องการที่จะก้าวออกไปสู่โลกใบใหม่?
โอกาสเช่นนี้อาจจะมีเพียงครั้งเดียวหากพลาดแล้วคงจะไม่สามารถได้พบอีกแล้ว!
ฉู่เทียนที่เห็นท่าทางของคนหลายคนเปลี่ยนไป,"เป็นเพียงแค่เล่ห์กล,อย่าได้โดนหลอกง่ายๆ!"
มนุษย์โลหิตกล่าวออกไปด้วยน้ำเสียงชักชวนอย่างที่สุดเต็มไปด้วยท่าทางกระวนกระวายเป็นอย่างมาก"พวกเจ้าต้องการที่จะใช้ชีวิตอย่างไร้ตัวตนไปตลอดอย่างงั้นรึ?ตอนนี้โอกาสทอง,โอกาสหล่นมาอยู่ในมือพวกเจ้าแล้ว,ตราบเท่าที่พวกเจ้าผ่านการทดสอบของข้า,พวกเจ้าก็จะสามารถกลายมาเป็นศิษย์ของนิกายปิศาจสวรรค์ได้,เจ้าติดตามข้าจะสามารถได้ออกไปพบโลกใหม่,เซียนศักดิ์สิทธ์คนนี้จะมอบความรุ่งโรจน์ให้กับพวกเจ้าทุกคน!"
สายตาของหลายๆคนเริ่มที่จะตื่นเต้นเต็มไปด้วยความโลภ.

คนผู้นี้พลังต่ำสุดก็อยู่ในเขตแดน ดวงจิตที่แท้จริง อาจจะสามารถทะลวงผ่านอาณาจักรปลุกดวงจิตด้วยก็ได้,เหล่าผู้เชี่ยวชาญที่จะสามารถทะลวงผ่านอาณาจักรปลุกดวงจิตไปได้นั้นยังไม่เคยพบเจอมาก่อนในรัฐกลางแห่งนี้เลย,หากว่าพวกเขาสามารถติดตามคนที่แข็งแกร่งไร้คู่เปรียบเช่นนี้ได้,ต้องได้รับโชคลาภมากมายมหาศาลแน่นอน!
"อย่าไปสับสน,คนผู้นี้มีอายุมาหลายร้อยปีแล้ว,บาดแผลที่ได้รับนั้นหนักหน่วงจนถึงกับต้องตาย,ไม่เช่นนั้นคงไม่ถูกปิดผนึกอยู่ที่แห่งนี้,หลับลึกถูกขังจนถึงวันนี้,มันหลอกลวงได้แต่เหยี่ยนอู๋หยาง,เพื่อที่จะรวบรวมวัตถุดิบในการรักษาให้กับมันเท่านั้นล่ะ"
"ตอนนี้อาการบาดเจ็บของมันยังไม่หายดีด้วยซ้ำ,อ่อนปวกเปียกทำอะไรไม่ได้ด้วยซ้ำ,หากไม่เช่นนั้นแล้วมันคงเริ่มสังหารพวกเราไปแล้ว,มีรึจะมาพูดจาไร้สาระอยู่อย่างนี้!"
มนุษย์โลหิตถึงกับเปลี่ยนเป็นตื่นตกใจ
คาดไม่ถึงเลยว่าชายผู้นี้จะสามารถมองออกได้?
ความจริงแล้วมนุษย์โลหิตนั้นเป็นเพียงร่างจำแลงของเซียนปิศาจสวรรค์,ในอดีตนั้นมันได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจนต้องมาตายในสถานที่แห่งนี้,ด้วยทักษะลึกลับในการผนึกแช่แข่งร่างของมันไว้,มันจึงสามารถอยู่รอดมาถึงทุกวันนี้.
หลังจากที่เหยี่ยนอู๋อย่างเปิดถ้ำแห่งนี้และได้ใช้โลหิตปลุกมันขึ้นมา,มนุษย์โลหิตจึงได้ทำการล่อลวงเหยี่ยนอู๋หยาง,โดยการเผยความลับพร้อมกับให้ไล่ล่าคนทั่วไปมากมาย,และยังล่อลวงให้สังหารผู้ฝึกตนระดับปรุงร่าง 1,000-2,000 คน,เพื่อที่จะสร้างแก่นชีวิตโลหิตแห่งนี้ขึ้นมา,เพื่อใช้ในการรักษาชีวิตของมันเอาไว้.
หลายเดือนที่มันทำการรักษาตัวเอง.
อาการบาดเจ็บของมนุษย์โลหิตนั้นเริ่มคงตัวแล้ว,ทว่าในส่วนของพลังวิญญาณและพลังฝึกตนนั้นยังไม่คืนมาเหมือนเดิม,ทำได้แค่เพียงดูดซับแก่นชีวิตของเหล่าผู้ฝึกตนจนกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตหรือแม้แต่สามารถไปถึงระดับสูงอีกหลายขั้นได้.
ใครจะรู้ล่ะว่าฉู่เทียนจะปรากฏขึ้นมาครึ่งทาง.
มนุษย์โลหิตตอนนี้ยังคงอ่อนแอเป็นอย่างมาก,ตอนนี้เขาไม่สามารถใช้พลังที่เขามีอยู่แม้แต่ 1 เปอร์เซ็นต์ ของพลังที่มีอยู่ตอนนี้.
หลินมู่ที่สามารถยับยั้งคำล่อลวงได้แล้ว,ได้หันหน้ากับมาหาทุกคนพร้อมกับตะโกนออกมาเสียงดังใส่คนอื่นๆ,"นี่มันเรื่องโกหก!ไม่มีอะไรเลยมันต้องการให้พวกเราสังหารกันและกัน!พวกเจ้าอย่าได้หลงกลมันโดยเด็ดขาด!"
"วิชาบำเพ็ญที่ไร้เทียมทาน,ทรัพยากรที่ไร้ขีดสุด,เกียรติยศ,ตราบเท่าที่พวกเจ้าตามข้ามา,พวกเจ้าจะได้ทั้งหมดไปอย่างง่ายดาย!"มนุษย์โลหิตยังคงกล่าวออกมาอย่างไม่เร่งรีบและเสียงดัง"พวกเจ้าไม่ต้องการโอกาสที่เลอเลิศนี้หายไปใช่ใหม,พวกเจ้าไม่ต้องการเป็นคนไร้ค่าใช่ใหม?"
"สังหารมัน,สังหารมันซะ!"
"รีบสังหารชายคนนี้ซะ!"
เหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดเริ่มโกรธเกรี้ยว,ดวงตาของพวกเขาเป็นเปลี่ยนเป็นสีแดง,พวกเขาจ้องมองไปยังฉู่เทียนอย่างบ้าคลั่ง,ก่อนนี้พวกเขาได้ลืมไปแล้ว,ว่าใครกันที่ช่วยชีวิตพวกเขา,เป็นใครกันที่ช่วยพวกเขาฟื้นฟูพลังวิญญาณกลับมา.
ฟางหานตะโกนออกไปอย่างโกรธเกรี้ยวพร้อมกับด่าว่าออกไป,"ไอ้ปิศาจตนนี้มันคิดที่จะดูดพลังของพวกเราเท่านั้นล่ะ,หากไม่ได้น้องลูช่วยพวกเราก่อนหน้านี้ล่ะก็,ตอนนี้พวกเรายังไม่ได้ตอบแทนน้องลู,ยังจะไปช่วยปิศาจตนนี้ทำลายเขาอีก!พวกเจ้าไม่รู้จักคำว่าละอายบ้างเลยรึ?"

"ไปให้พ้น!"
"อย่ามายุ่งกับพวกเรา!"
"นี่เป็นโอกาสที่พันปีจะมีหนึ่งครั้ง,พวกเจ้าไม่ต้องการแต่พวกเราต้องการ!"
ฟางหานและหลินมู,ยืนอยู่ด้านหน้าของฉู่เทียน,ใบหน้าของเขานั้นดูจริงจัง จ้องมองไปยังคนอื่นๆที่บ้าคลั่ง.
มนุษย์โลหิตยังคงกล่าวกระตุ้นคนเหล่านั้น,หัวเราะอย่างบ้าคลั่งและมีความสุขด้วยคำพูดไม่กี่คำ"สังหาร!สังหาร!สังหารพวกมันซะ!คนพวกนี้ต้องถูกลงโทษด้วยกฏสวรรค์,การก้าวผ่านซากศพพวกมันจะทำให้สามารถก้าวไปสู่โลกใหม่ได้!"
ฉู่เทียนตะโกนออกไป,"ขวางพวกเขาเอาไว้,ข้าจะสังหารปิศาจอัปลักษณ์ตนนี้เอง!"
"ดี!"
หลินมู่และฟางหานที่ตะเบ็งเสียงดังออกมา,พวกเขาทั้งคู่ร่วมมือกันป้องกันเหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัดเอาไว้.

ฉู่เทียนที่เงื้อกระบี่ขึ้น,ก่อนที่จะพุ่งออกไปยังกลางห้องโถง,พร้อมกับเข้าจู่โจมมนุษย์โลหิต.
การต่อสู้ได้ปะทุขึ้นมาแล้ว!
หลินมู่และฟางหานนั้นมีพลังฝึกตนที่แข็งแกร่ง,ทว่าพวกเขาสองคนที่ต้องต้านทานศัตรูที่บ้าคลั่งถึงสี่คน,คงจะไม่สามารถที่จะต้านทานได้นานนัก,ฉู่เทียนจึงจำต้องเร่งรีบจัดการศัตรูด้านหน้าให้เร็วที่สุด.
"เจ้าต้องการที่จะต่อกรกับข้าเพียงคนเดียวรึ?"
พลังวิญญาณของมนุษย์โลหิตถูกปลดปล่อยออกมา,มันเป็นคลื่นเสียงแหลมที่เสียดแทงแก้วหูเป็นอย่างมาก,ภูติวิญญาณค้างคาวโลหิตขนาดมหึมา,ได้ลอยแยกออกมาจากร่างกายของมัน,มันเป็นภูติวิญญาณค้างคาวแดงเพลิงที่ถูกอัญเชิญมา,ทันใดนั้นอากาศรอบๆก็เปลี่ยนไปในทันที,บรรยากาศที่บิดเบี้ยวกลายเป็นสีแดงเข้มไปหมด!
"ค้างคาวอสูรโลหิตอย่างงั้นรึ?"
ฉู่เทียนที่เพ่งพิศอยู่ชั่วครู่,ทันใดนั้นเขาก็หยุดก้าวไปข้างหน้า,พร้อมกับถอยหลังออกมาในทันที,คลื่นพลังสีแดงนั่นส่งผลต่อร่างกายของเขา,ทำให้กายแก้วของเขาเสียหายแตกสลายออกเป็นเสี่ยงๆ.
นี่คือคลื่นพลังรูปตาข่าย,มันจู่โจมมายังสมองของเขาโดยตรงเลย,จนทำให้สติของฉู่เทียนวูบไปชั่วขณะ,ถึงกับทำให้เขาหน้ามืด,จนเกือบหมดสติ.
เป็นการโจมตีที่รุนแรงมาก!
คลื่นเสียงของค้างคาวตนนี้สามารถจู่โจมได้ทั้งสองทาง,ทั้งการโจมตีทางกายภาพและการโจมตีทางจิตของเขาพร้อมๆกัน!
ฉู่เทียนที่ฝึกฝน วิชา กายานิรันดรโอบแสงดารา สามารถที่จะป้องกันการโจมตีทางกายภาพได้เป็นอย่างดี,หากแต่ไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางจิตได้,ความแข็งแกร่งของมนุษย์โลหิตตนนั้น ถึงแม้ว่าจะไม่ฟื้นฟูกลับมาเต็มทีก็ตาม,ทว่าทักษะการต่อสู้ของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 3 เลย!
ความแข็งแกร่งของฉู่เทียนในตอนนี้,สามารถล้มผู้ฝึกตนปลุกดวงจิตระดับ 2 ขั้นปลายได้,ซึ่งก็นับว่าตรึงมืออยู่ไม่น้อย,ไม่ต้องเอ่ยถึงผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 3 เลย,พลังฝึกตนที่แตกต่างกันนี้มันแตกต่างกันมากจนเกินไป!
"ในเมื่อเจ้าไม่ต้องการมีชีวิต,ข้าจะช่วยเจ้าเอง,จงมาเป็นเหยื่อสังเวยให้กับข้าที่นี้ซะ!"
ภูติวิญญาณค้างคาวโลหิตได้ปลดปล่อยคลื่นเสียงทำลายล้างออกมา,กระแทกไปยังร่างของฉู่เทียนลอยออกไปหลายเมตรทีเดียวกระแทกเสาที่อยู่ด้านลัง,หากไม่เพราะมีวิชาป้องกัน กายานิรันดรโอบแสงดารา,ฉู่เทียนตอนนี้คงได้รับบาดเจ็บหนักไปแล้ว.
แต่สิ่งที่แย่ที่สุดในตอนนี้,คลื่นเสียงทำลายนี้กระแทกมายังจิตวิญญาณของเขา,จนแทบจะทำให้ฉู่เทียนขยับตัวไม่ได้,ด้วยการถูกโจมตีทางจิตเช่นนี้คงยากที่เขาจะต้านทานได้.
"หมื่นอสูรค้างคาวกลืนกินร่าง!"
มนุษย์โลหิตที่ยกแขนทั้งสองข้างขึ้น,ภูติวิญญาณค้างคาวเปื่อนยุ่ยหายในทันที,พร้อมกับเปลี่ยนเป็นหมอกโลหิต,ไหลมาคลุมร่างของมนุษย์โลหิต,ค้างคาวสีแดงมากมายพุ่งออกมาจากหมอกดังกล่าวกลายเป็นเป็นเมฆโลหิต,ที่จู่โจมไปยังร่างของฉู่เทียนอย่างรวดเร็ว.
เหล่าค้างคาวดูดเลือดที่พุ่งตรงไปยังร่างกายของเขา,มันเป็นค้างคาวที่มีไว้ใช้ดูดแก่นชีวิตและโลหิตของคนอื่นให้แห้งเหือดนั่นเอง.
"ไสหัวไปให้พ้น!"

กระบี่เทพมารปรากฏขึ้นมาส่องแสงเปล่งประกาย!
ค้างคาวโลหิตถูกทำลายในพริบตาเดียว,ก่อนจะถูกเปลี่ยนเป็นหมอกโลหิตบินกลับไปยังร่างของมนุษย์โลหิต,ไม่เพียงเท่านั้นพลังอำนาจแห่งดวงดาราของเขากำลังฟื้นฟูตัวเองไม่หยุดหย่อน,พร้อมกับมีพลังป้องกันที่แข็งแกร่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมซะอีก,บาดแผลที่เขาได้รับก่อนหน้านี้ค่อยๆถูกรักษาอย่างรวดเร็ว.
"สามารถฟื้นฟูร่างกายได้รวดเร็วเพียงนี้เลยรึ?"
มนุษย์โลหิตรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย.
แทบไม่ต้องกล่าวเลยว่า,ผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตระดับ 1 อันกระจ่อยร่อยนั่น,หากว่าได้รับการโจมตีทางจิตวิญญาณล่ะก็,คงจะหมดสติไปในทันที,แต่ว่าฉู่เทียนตอนนี้ยังมีสติที่มั่นคง,และเป็นไปได้อย่างไรที่จะสามารถฟื้นฟูได้รวดเร็วถึงเพียงนี้.

เจ้าเด็กเวรนี้ชักจะตรึงมือขึ้นมาแล้ว!
เป็นภูติวิญญาณหลักของฉู่เทียนนั้นเองที่ป้องกันการจู่โจมทางจิตวิญญาณไม่ไห้ได้รับบาดเจ็บ!
ดังนั้นพลังคลื่นกระแทกของภูติวิญญาณอสูรค้างคาวโลหิต,จึงไม่สามารถสร้างผลกระทบให้กับเขามากนัก!
มนุษย์โลหิตคำรามลั่น,หมอกโลหิตหมุนวนทั่วร่างของเขาอย่างรวดเร็ว"ยืดชีวิตของตัวเจ้าเองไปได้หน่อยหนึ่ง,คราวนี้ล่ะข้าจะเอาชีวิตที่ไร้ค่าของเจ้ามา,"
พลังวิญญาณของฉู่เทียนนั้นเหลือไม่มากแล้ว,ภูติวิญญาณกระบี่เทพมารของเขาในตอนนี้ ค่อยๆถ่ายพลังลงไปในกระบี่อเวจีไม่หยุดหย่อน,ประกายแสงของกระบี่อเวจีที่ลุกโชนเป็นสีม่วงค่อยๆเข้มๆขึ้นและก็เข้มขึ้น,หนึ่งเมตร,สองเมตร,สามเมตรจนลุกโชตช่วงขึ้นมาอีกราวๆ 4-5 เมตร,เปล่งรัศมีสีแดงม่วงออกไปรอบทิศ,พร้อมกับปลดปล่อยพลังที่ลึกล้ำเก่าแก่ออกมา,ราวกับว่ามันจะสามารถตัดผ่านโลกใบนี้ได้!
จิตกระบี่ทรงพลังขนาดนี้เลยรึ?
ภูติวิญญาณกระบี่ตนนี้ไม่ใช่ธรรมดาจริงๆ!
การฟันในครั้งนี้ฉู่เทียนได้รวบรวมพลังทั้งหมดเอาไว้,หากสามารถตัดผ่านมนุษย์โลหิตตรงๆได้ล่ะก็ ไม่มีทางที่จะต้านทานได้แน่,อย่างไรก็ตามมนุษย์โลหิตเองก็มั่นใจไนตัวเองเป็นอย่างมาก,ด้วยการฝึกฝนของวิชาเซียนปิศาจสวรรค์<< วิชาขับกล่อมโลหิต>> เป็นวิชาปิศาจที่ร้ายกาจและโหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก,มันจำเป็นต้องใช้แก่นชีวิตของผู้ฝึกตนที่มีชีวิตอยู่เป็นจำนวนมากใช้เป็นวัตถุดิบในการฝึก,มีทั้งพลังโจมตีและพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง.
หมอกโลหิตที่หมุนวนรอบๆร่างกายมนุษย์โลหิตอย่างรุนแรง,ราวกับว่ามันมีชีวิตซึ่งกำลังกลั่นตัวเองส่วนหนึ่งกลายเป็นพลังป้องกันที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก,มันมั่นใจเป็นอย่างมากว่าจะสามารถป้องกันการโจมตีของฉู่เทียนได้!
"โลหิตกลืนกินปิศาจสวรรค์!"
มนุษย์โลหิตปลดปล่อยหมอกโลหิตกลืนกินร่างของฉู่เทียนในทันที,พลังทำลายล้างที่รุนแรงกำลังชอนไชซึมเข้าไปในพลังป้องกันวิชากายานิรันดรโอบแสงดาราและทำให้พลังป้องกันของมันบางลงเรื่อยๆ
ทว่าตราบเท่าที่มันยังไม่พังทะลาย!
ฉู่เทียนย่อมยังไม่ได้รับอันตรายจากหมอกโลหิตอย่างแน่นอน!
ในช่วงเวลาสำคัญ,ทันใดนั้นเจ้าจิ้งจอกน้อยก็กระโดดออกมาพร้อมกับพ่นลำแสงเทาเข้มไปยังร่างของมนุษย์โลหิต,เมือร่างของมนุษย์โลหิตถูกปกคลุมด้วยลำแสงแล้วทั่วทั้งร่างของมนุษย์โลหิตได้ถูกเปลี่ยนกลายเป็นของเหลวไหลเปื่อยผุพัง,ก่อนที่จะถูกเจ้าจิ้งจอกน้อยสูบเข้ามาในท้องของมัน.

มนุษย์โลหิตถึงกับสะดุ้ง"อะไรนะ?"
แม้ว่าเขาจะสังเกตเห็นอสูรวิญญาณตนนี้ก็ตามที,ทว่าไม่คาดคิดเลยว่าอสูรวิญญาณตนนี้จะมีทักษะความสามารถเช่นนี้,ไม่เพียงแต่สามารถดูดปราณปิศาจจากวิชา <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>,มันยังสามารถดูดปราณโลหิตจาก<< วิชาขับกล่อมโลหิต>>ได้อีกด้วย.
ปราณทั้งสองนี้เป็นส่วนหนึ่งในวิชาลับที่สำคัญของ เซียนปิศาจสวรรค์!

นี่มันอสูรธรรมดาทั่วไปอย่างงั้นเหรอ,มันสามารถควบคุมศาสตร์ปิศาจทั้งหมดในโลกนี้เลยเหรอ?
หมอกโลหิตได้ถูกดูดจนหายไปเรียบร้อยแล้ว!

ไม่เพียงพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยมของมนุษย์โลหิตได้หายไป.
พลังความแข็งแกร่งของมนุษย์โลหิตเองก็ลดลงอย่างมหาศาล!
มนุษย์โลหิตที่ฝึกฝน << วิชาขับกล่อมโลหิต>>ซึ่งจำเป็นต้องใช้ปราณโลหิตที่ได้จากแก่นชีวิตและโลหิต,เมื่อปราณโลหิตทั้งหมดถูกดูดออกไป,ก็เท่ากับว่า,พลังวิญญาณของเขาก็ถูกดูดออกไปด้วย,เขาที่อ่อนแอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว,ตอนนี้ก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นอ่อนแอยิ่งกว่าเดิมอีก.
"ไม่!"
"หยุดเดี่ยวนี้!"
มนุษย์โลหิตที่ตะโกนออกมาด้วยความเศร้าและเจ็บปวด,จิตกระบี่ที่ส่องสว่างแผ่ลำแสงโชติช่วง5-6 เมตร,ฟันฉับมาตั้งแต่บนหัวลงมาถึงเท้า.
มนุษย์โลหิตที่ถูกตัดออกเป็นส่องท่อน!

ปิศาจอย่างเขาที่อยู่มาหลายร้อยปี,คาดไม่ถึงเลยว่าจะต้องมาตายด้วยคมกระบี่ของฉู่เทียน!


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

2 ความคิดเห็น: