Miracle Throne Chapter 111 Devil's lair
นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 111 ถ้ำปิศาจ.
บทที่ 111 ถ้ำปิศาจ.
Chapter 111 Devil's lair
ถ้ำปิศาจ.
มีสิ่งใดอยู่ใต้ถ้ำปิศาจแห่งนี้กัน?
ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถละทิ้งความอยากรู้อยากเห็นได้,หากแต่สินค้าของหอการค้าปาฏิหาริย์ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ใหน,คงมีแต่ต้องลงไปดูเท่านั้น.
รอบๆถ้ำปิศาจแห่งนี้มีเหล่าชายชุดดำอยู่หลายคนป้องกันเอาไว้,แต่ระคนนั้นไม่ใช่ธรรมดาเลย,พวกเขาทุกคนมีพลังระดับปรุงร่างขั้น
9 กันทั้งหมด,ฉู่เทียนคงจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกำราบพวกเขา.
ถึงแม้ว่าจะใช้ยันต์เวทย์ปกปิดกลิ่นอายเอาไว้,เพื่อที่จะใช้ในการลอบโจมตีก็ตาม,หากใช้กระบี่โจมตีคนเหล่านั้น,ไม่มีทางที่จะไม่ส่งเสียงออกมาได้อย่างสมบูรณ์.
โจรภูเขาวายุทมิฬนั้นมีจำนวนหลายพันคน,หากว่าเขาเคลื่อนไหวโฉ่งฉ่างล่ะก็,บางทีแล้วคงไม่ต่างจากไปแหย่รังผึ้งให้แตกรังแน่นอน,ฉู่เทียนเองก็จะไม่สามารถรับรู้อะไรได้ว่าภายในถ้าปิศาจแห่งนี้ซ่อนสิ่งใดเอาไว้กัน.
แต่คงไม่มีทางเลือกแล้ว.
คงมีแต่ต้องบุกอย่างเดียว!
ฉู่เทียนที่เดินออกมาจากซอกหินขนาดใหญ่,ก่อนที่จะก้าวตรงไปยังทิศทางของถ้ำปิศาจ.
เพราะว่าฉู่เทียนสวมชุดแบบเดียวกันกับเหล่าโจรวายุทมิฬอยู่ในตอนนี้,จึงทำให้เหล่าคนชุดดำได้แต่ชำเลืองมองมา,อยู่ชั่วขณะไม่สามารถที่จะบอกสถานะของเขาตอนนี้ได้,ดังนั้นพวกเขาจึงได้ยกกระบี่ขึ้นมาก่อนที่จะโกนออกมาว่า"เจ้ามาจากใหนกัน!มาอยู่แถวนี้ได้อย่างไร,ไม่รู้อะไรรึ?ไสหัวไปให้พ้น,ไม่เช่นนั้นต้องถูกลงโทษอย่างหนัก!"
ตูมมมม!
กลิ่นอายที่มองไม่เห็นโถมกระหน่ำ,ระเบิดกดลงมาในทันที!
กลิ่นอายที่หนักหน่วงดุร้ายได้ปรากฏขึ้นด้านหลังของฉู่เทียน,เป็นราวกับเทพอสูรจากโบราณกาลที่ยิ่งใหญ่ที่ได้เสด็จมายังยุคปัจจุบัน,เป็นกลิ่นอายที่โบราณและที่มีพลังไร้เทียมทาน,ส่งผลให้ทุกคนหวาดกลัวสั่นสะท้านตัวสั่นงันงกและแทบจะหายใจไม่ออก.
กลิ่นอายดังกล่าวนั้นโผล่ขึ้นมาเพียงชั่วพริบตาเดียว.
ดวงตาที่ปิดอยู่ก่อนนี้ของฉู่เทียนก็เปิดขึ้นมา,ประกายตาของเขานั้นดูแปลกประหลาดมีประกายแสงสีขาวและน้ำเงินที่เปล่งประกายอยู่,ที่ดวงตาด้านซ้ายเป็นสีเงินและที่ดวงตาด้านขวาเป็นสีขาว,ที่ภายในดวงตาของเขาลึกเข้าไปนั้นมีดวงตาอยู่อีกเจ็ดดวงมันลืมตาขึ้นมาในส่วนลึกของดวงตาของเขา,ดวงตาแต่ล่ะดวงนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก,มันกำลังสาดส่องประกายแสงที่ต่างกันออกมาในที่ๆเดียวกัน,ดูราวกับว่าเป็นดอกไม้ที่แปลกประหลาดกำลังบานอยู่.
เหล่าชายชุดดำทุกคนจับจ้องมายังฉู่เทียนพร้อมกันในทันที.
ตูมมมม!
ในเวลาเดียวกันนั้น.
โลกทั้งใบราวกับว่าถูกบดขยี้ลงมาด้วยพลังมหาศาล!
เหล่าคนคุมกันทั้งหมดถึงกับสูญสิ้นสติไปด้วยกันทั้งหมด,ไม่มีแม้แต่คำพูดที่สามารถเปล่งออกมาได้พวกเขาล้มลงนอนกองระเกะระกะ,สมองของพวกเขาหยุดทำงาน,หัวใจหยุดเคลื่อนไหว,ทั้งอวัยวะภายในและภายนอกแม้จะไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด,หากแต่พวกเขากับตายตามๆกันไปโดยไม่สามารถบอกสาเหตุได้.
เพียงแค่เวลาชั่วพริบตา.
กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ.
ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังคนเหล่านั้น,พวกเขาทั้งหมดก็ถูกสังหารไปจนหมด.
เจ็บ!
เจ็บปวดยิ่งนัก!
ใบหน้าของฉู่เทียนถึงกับซีดเผือด,ถึงกับต้องปาดเหงื่อบนหน้าผากทีเดียว,เขาจำต้องหายใจเข้าลึกๆอีกหลายครั้ง,ก่อนที่จะค่อยกลับมาทรงตัว,พร้อมกับล้วงน้ำยาหญ้าแก่นหยวนออกมาในกระเป่า,พร้อมกับกลืนมันลงไป,เพื่อทดแทนพลังวิญญาณที่แห้งเหือดไป,ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นฟูกลับมาบางส่วน.
ภูติวิญญาณหลักของเขา ในการเรียกใช้ออกมาในแต่ละครั้งนั้น,เผาผลาญพลังวิญญาณในร่างของเขาเป็นจำนวนมาก!
ด้วยการใช้หญ้าสะเก็ดดาวปรับแต่งร่างกาย,ทำให้เส้นปราณของฉู่เทียนนั้นแข็งแกร่งและยืดหยุ่นเหนียวแน่นกว่าคนทั่วไป,พลังวิญญาณก็มีมากมายกว่าคนทั่วไปในระดับเดียวกันมหาศาลทีเดียว,แต่ถึงอย่างนั้นหากว่าเขาใช้ภูติวิญญาณหลักในการโจมตี,ก็ยังไม่สามารถใช้ได้อย่างสมบูรณ์.
ด้วยการเผาผลาญพลังวิญญาณที่มหาศาล!
จนแทบทำให้ร่างกายของเขาทนไม่ไหว!
จิ้งจอกน้อยถึงกับฮึมฮำในลำคอทีเดียว,ขนทั่วร่างของมันถึงกับตั้งชัน,ประกายแสงในดวงตาตื่นตกใจด้วยความยำเกรง.
"ตอนนี้เจ้ารู้รึยังล่ะว่าเจ้านายของเจ้านั้นร้ายกาจ!"
"จากนี้ไปเจ้ายังกล้าดื้อกับข้าอยู่ใหม!"
จิ้งจอกน้อยที่กลับมาเป็นปกติ,จ้องมองเขม็งขุ่นเคืองไปยังฉู่เทียน,ราวกับว่าจะประท้วงฉู่เทียน.
ฉู่เทียนที่ไม่สนใจ,ย่างก้าวเดินเข้าไปยังถ้ำปิศาจต่อไป,จากร่องรอยแล้ว,คงจะมีอายุไม่นานนัก,แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีอายุหลายร้อยปี.
บันไดหินที่ทอดยาวลงไปด้านล่าง,ที่ผนังถ้ำด้านข้างนั้นมีรูปสลักภูติปิศาจ,พร้อมกับส่งกลิ่นอายที่แปลกประหลาดออกมา,จวบจนเขาก้าวไปสุดทางแล้ว,ก็พบเข้ากับห้องโถงใหญ่ที่มืดมิด,ปรากฏต่อหน้าของฉู่เทียน.
มีกล่องมากมายนับไม่ถ้วนวางอยู่รอบๆมุมห้องโถงแห่งนี้.
ทอง,เงินและเครื่องประดับ,และอาวุธยุทโธปกรณ์,กระจายกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง,ราวกับว่าสถานทีแห่งนี้นั้นเป็นโพรงเก็บสมบัติก็ไม่ปาน.
"มารดารมันเถอะ,ในที่สุดก็พบแล้ว"ฉู่เทียนได้พบเข้ากับกองสินค้ามากมายหลากหลาย,มีธงที่หลากหลายของกองคาราวานสินค้า,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งหมดนี้คือสินค้าที่ถูกปล้นมา.
ที่ใจกลางห้องโถงหลักนั้นมีบ่อโลหิต,ส่งกลิ่นคาวโลหิตที่ข้นเหนียวหนืดออกมา,มันบิดตัวกันไปมาช้าๆราวกับว่ามีชีวิต,เจ้าเมืองฮวังซีเหยี่ยนอู๋หยาง,นำเหล่าโจรในชุดดำ
20 คนยืนรายล้อมอยู่ด้านข้างของเขา.
ใบหน้าของเหยี่ยนอู๋หยางที่เต็มไปด้วยความเกรงขามและบูชา,เขาก้มลงคุกเข่าอยู่ที่ใจกลางของห้อง,แสดงท่าทางเคารพอย่างที่สุด,ก้มกราบอย่างนับถือครั้งแล้วครั้งเล่า,ที่ปากของเขานั้นบ่นพึมพำอยู่,ราวกับว่ากำลังพูดคุยกับบางคนอยู่.
ทันใดนั้น,เขาก็ลุกขึ้นยืน,โบกมือขวาไปมา"โยนพวกมันลงไป."
คนที่ชายชุดดำนำมานั้นเป็นเหล่าผู้ฝึกตนที่ถูกจับมานั่นเอง
"พวกเจ้าจะทำอะไร?"
"ปล่อยข้า,ปล่อยข้าเดียวนี้!"
หวงเห่าหานและผู้ฝึกตนไร้สังกัดอีกสามคน,ถูกลากออกมาจากกลุ่มคนที่ถูกจับ,
พวกเขาถูกลากและโยนลงไปในบ่อโลหิตทันที.
เหล่าชายชุดดำและเหยี่ยนอู๋หยางก้มลงคำนับไปมาพลางตะโกนออกมาเสียงดัง.
"ข้าขอบรรณาการ,ขอให้นายท่านได้รับเหยื่อสังเวยจากข้าด้วย!"
หลินมู่และฟางหานที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น,ได้ร้องออกมาด้วยเสียงที่แหบพล่า"ไม่!!!"
เหล่าคนทั้งสี่ที่ถูกโยนลงไปในบ่อโลหิตหากแต่ยังไม่จมตีนัก,เหมือนพวกเขากำลังลอยอยู่บนผิวของบ่อ,โลหิตที่ไหลไปมาราวกับมีชีวิต,ได้เคลื่อนที่ไหลวนโอบไปทั่วร่างพวกเขา,ร่างกายของพวกเขาในตอนนี้กระตุกดิ้นรนไปมา,พลังวิญญาณถูกดูดออกมาไม่หยุด,ผิวหนังของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว,ร่างกายที่เริ่มแก่ชราลงเรื่อยๆ.
ฉู่เทียนที่กุมกระบี่อเวจีแน่นซ่อนตัวอยู่ที่มุม,พร้อมกับขมวดคิ้วแน่น,บ่อโลหิตดังกล่าวราวกับว่าสามารถดูดกลืนพลังชีวิตได้,เป็นอะไรที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก.
"เยี่ยม,ยอมเยี่ยมมาก"
"แก่นชีวิตและโลหิตของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต
รสชาดอร่อยสร้างพลังให้กับข้าได้มากทีเดียว."
"ตราบเท่าที่สามารถกลืนกินเหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,จะทำให้ข้าฟื้นคืนชีพได้ในไม่ช้า."
"เหล่าสินค้ามากมายที่ได้ปล้นมาจนถึงตอนนี้,จะกลายเป็นทรัพยากรที่จะใช้ในการสร้างเมืองสำหรับข้าเซียนศักดิสิทธิ์."
"พวกเจ้าที่ช่วยข้าฟื้นคืนชีพ,เกียรติยศชื่อเสียงมากมายที่พวกเจ้าจะได้รับ,แน่นอนพวกเจ้าจะได้รับรางวัลตอบแทนกันทุกๆคน."
เป็นเสียงที่แหบพล่าเย็นยะเยือกดังผ่านออกมาจากบ่อโลหิต,เป็นเสียงที่แหบแห้งและแหลมคม,ราวกับเสียงข่วนหินหนา,ทำให้ทุกคนที่ได้ยินทั่วทั้งร่างถึงกับสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว.
เหยี่ยนอู๋หยางก้มลงคำนับด้วยความตื่นเต้นอีกครั้งและอีกครั้ง,"ขอบคุณ,นายท่าน!ข้าและคนพร้อมจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่าน! พวกเจ้ากำลังมองอะไรอยู่?รีบโยนพวกมันลงไปอีก!"
"ช้าก่อน!"เสียงที่ดังมาจากบ่อโลหิตกล่าวออกมาช้าๆ"ดูเหมือนพวกเจ้าได้ปล่อยหนูเล็ดลอดเข้ามา!"
เหยี่ยนอู๋หยางถึงกับสะดุ้งตื่น,ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมาว่า"นั่นใครกัน!"
ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย,สัมผัสอสูรเทวะของเจ้าแก่นี่ไม่อ่อนด้อยเลย,ว่าจะรอโอกาสลอบโจมตีซะหน่อย,ใครจะรู้ล่ะเพียงแค่เข้ามาในห้องโถง,แค่ไม่นานก็ถูกฝ่ายตรงข้ามพบตัวเข้าแล้ว.
!
ในเมื่อถูกเปิดเผยแล้ว,เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไป.
ฉู่เทียนที่ค่อยๆเผยตัวเดินออกมาจากมุมเสา"ท่านเจ้าเมืองเหยี่ยน,พวกเราพบกันอีกแล้ว!"
หลินมู่,ฟางหานและคนอื่นๆที่ยังไม่ตายจับจ้องมาในทันที.
เจ้าเด็กนี้โง่รึเปล่า?
เขาที่หนีไปอย่างยากลำบาก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลับมาอีก!
เหยี่ยนอู๋หยางเองก็ไม่คาดคิดเลยว่าจะเห็นเขาที่แห่งนี้"เหยี่ยนจุน,นี่มันไม่เอาถ่านจริงๆ!"
ฉู่เทียนที่เผยยิ้มออกมาอย่างเฉิดฉาย"ทำไมต้องกระวนกระวายด้วยล่ะ?ข้าจะส่งเจ้าไปเป็นเพื่อนเขาเอง!"
เหยี่ยนอู๋หยางตะโกนออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,"ไป,สังหารมันซะ!"
เหล่าโจรชุดดำ 20
คนที่ชักอาวุธออกมา,พร้อมกับพุ่งออกไปเป็นเงา,จากทิศทางที่ต่างกัน,พุ่งเข้าจู่โจมฉู่เทียน,เหล่าคนทั้ง
20 คนนี้ต่างก็มีระดับปรุงร่างขั้นที่ 9
ซึ่งโดยปรกติแล้วพวกเขามีความสามารถที่จะจัดการเหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตธรรมดาได้อย่างสบายๆทีเดียว!
เขตแดนจิตสัมผัส!
ฉู่เทียนเปิดการใช้งานทักษะจิตสัมผัส,ด้วยความเร็วทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นช้าลงในทันที,ทุกๆการเคลื่อนไหวของเหล่าคนชุดดำเขาสามารถที่จะเข้าใจและจดจำได้อย่างละเอียดทีเดียว.
ภูติวิญญาณกระบี่เทพมารปรากฏขึ้นมาในทันที.
ฉู่เทียนที่กุมกระบี่อเวจีในมือพุ่งออกไป,ลำแสงกระบี่ส่องประกาย,ถูกส่งออกไปตัดผ่านเหล่าโจรชุดดำในพริบตาเดียว,ไม่มีใครสักคนที่สามารถป้องกันกระบี่ของเขาได้.
ประกายแสงกระบี่ฉู่เทียนทะลวงผ่านเหล่าโจรร้ายทั้ง
20 คน,ก่อนที่เขาจะยั้งเท้าอยู่ที่ตรงกลางของห้อง.
พรึดๆๆ,พรืดๆๆๆ
เหล่าโจรชุดดำต่างก็ล้มลงระเนระนาด,เพียงแค่การตวัดกระบี่ครั้งเดียว,ก็ถูกจัดการได้อย่างง่ายดายและหมดจด,ไร้ซึ่งท่าทางลังเลแม้แต่น้อย!
ดวงตาของเหยี่ยนอู๋หยางหรี่ตาลงเล็กน้อย"ดินแดนจิตสัมผัส?เหยี่ยนจุนเจ้าขยะนั่น
ตายด้วยฝีมือเจ้าจริงๆสินะ!"
ฉู่เทียนที่ชำเลืองไปยังบ่อโลหิตอยู่ชั่วขณะด้วยท่าทางสนใจทีเดียว,หวงเห่าหานและผู้ฝึกตนคนอื่นๆในตอนนี้ถูกดูดพลังชีวิตจนกลายเป็นศพที่เหือดแห้งไปแล้ว.
"แก่นชีวิตและโลหิต,เกรงว่าจะใช้เหล่าผู้ฝึกตนมากกว่า
2,000 คนสร้างมันขึ้นมาสินะ"สายตาของฉู่เทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น"เป็นการกระทำที่ชั่วร้ายจริงๆ,ถึงกับนำคนบริสุทธิ์มาใช้หาผลประโยชน์ของตัวเอง,ไม่กลัวว่าเวรกรรมจะตามทันหรืออย่างไร?"
"***คนไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินลงโทษ!"เหยี่ยนอู๋หยางเผยประกายตาที่บ้าคลั่ง"ข้าอายุ
60 ปีกว่าแล้ว,ทำงานเป็นเจ้าเมืองเล็กๆแห่งนี้มา 20
กว่าปี,ครั้งหนึ่งข้าเคยคิดว่าจะใช้ชีวิตเช่นนี้ไปตลอดทั้งชีวิต!"
"แต่โลกใบนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก,โลกใบนี้มีสิ่งวิเศษมากมายนับไม่ถ้วน,อาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้เป็นเพียงอาณาจักรที่เล็กระจิดริด,เป็นเพียงแค่หยดน้ำหยดเล็กๆในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่,จะให้ข้านั้นใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ภายในเมืองอันกระจ่อยร่อยแห่งนี้นะรึ?ข้าไม่ยินดีนัก,ข้าไม่ต้องการ!"
"นายท่านเซียนศักดิ์สิทธิ์,ได้มอบโอกาสให้กับข้าแล้ว!ให้ข้าสามารถได้ฝึกฝนวิชา <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>ที่ยอดเยี่ยม,ได้มอบชีวิตใหม่มาให้กับข้า!เจ้าเด็กเมื่อวานซืนเช่นเจ้า,จะมาเข้าใจความรู้สึกของข้าได้อย่างไร!"
ฉู่เทียนถอนหายใจ.
ทุกๆคนต่างก็มีชะตาชีวิตเป็นของตัวเอง.
อย่างไรก็ตาม,ความรู้สึกของเหยี่ยนอู๋หยางนั้น,เขาเข้าใจได้ดีทีเดียว.
โลกที่ยอดเยี่ยม,โลกใบนี้ที่กว้างใหญ่ไพศาล,เหยี่ยนอู๋หยางก็แทบไม่ต่างจากมดแมลง,เขาที่ต้องอาศัยอยู่ในเมืองขนาดเล็กเช่นนี้ตลอดชีวิต,แน่นอนว่าเขาย่อมต้องการที่จะจากไปสู่โลกกว้าง,ไปในทุกที่ที่เขาต้องการ,มันไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร?
ใช่แล้ว!
ฉู่เทียนเองก็เช่นกันไม่ใช่รึ?
ความฝันของฉู่เทียน,จุดหมายของฉู่เทียน,ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ต่างจากเหยี่ยนอู๋หยางนัก,เขาต้องการที่จะค้นหาดินแดนที่ไม่เคยมีและสำรวจโลกใหม่,นั่นคือสิ่งที่เขาปรารถนาอยู่ภายในใจ.
ร่างของเหยี่ยนอู๋หยางที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำเงา,ทั่วทั้งร่างนั้นมีอักขระต้องสาปมากมายนับไม่ถ้วน,ดูคล้ายกับตราสัญลักษณ์ของปิศาจโบราณ,เกิดขึ้นบนร่างกายของเขา.
ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย.
บนร่างของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยอักษรรูนที่ลึกลับมากมาย,นี่คือ
<<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>ที่น่าเกรงขาม,มันสามารถช่วยเพิ่มพลังให้กับเหยี่ยนจุนก่อนนี้,เหยี่ยนอู๋หยางเองก็มีพลังปลุกดวงจิตระดับ
2 ขั้นปลาย,ด้วยการใช้วิชา <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>,ทำให้พลังฝึกตนของเขาตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง!
"ตอนนี้เจ้าก็จงกลายเป็นเครื่องสังเวยในพิธีกรรมบูชาของลัทธิปิศาจสวรรค์ซะ!"
เหยี่ยนอู๋หยางที่กระทืบเท้าขวาอย่างดุร้าย,พลังวิญญาณสีแดงและสีขาวพวยพุ่งออกมา,มีบางสิ่งที่กำลังผุดขึ้นมาจากภายในร่างของเขา,มันค่อยๆกลายเป็นจิตวิญญาณวารสองหัวที่ดุร้าย.
ฉู่เทียนเผยท่าทางจริงจังขึ้นมาในทันที"ภูตวิญญาณคู่
เปลวเพลิงและน้ำแข็งรึ?นี่คือภูติวิญญาณคุณสมบัติคู่!"
ภูติวิญญาณของเหยี่ยนอู๋หยางนั้นเป็นวานรสองหัวเปลวเพลิงและน้ำแข็ง,เป็นหนึ่งในอสูรวิญญาณที่มีความแข็งแกร่งมีคุณสมบัติของพลังธาตุสองอย่าง,เหยี่ยนอู๋หยางจะสามารถฝึกฝนวิชาบำเพ็ญสองสถานะด้วยกันได้,ถึงแม้ว่าจะมีคุณสมบัติธาตุที่ขัดกัน,แต่ก็ไม่ต่อต้านกัน,นับว่าเป็นภูติวิญญาณที่มีพลังทำลายที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก.
และตอนนี้เหยี่ยนอู๋หยางยังใช้วิชา
<<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>,เพื่อที่จะเพิ่มพลังของตัวเองขึ้นมาจนถึงขีดสุด,เขาในตนนี้ได้กลายเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้นที่
3 ไปแล้ว.
ฉู่เทียนไม่มีวิชาบำเพ็ญในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง
ซ้ำยังเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 1
เท่านั้น,การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ง่ายแล้ว!
แทบจะในพริบตา!
ร่างที่ผอมบางของเหยี่ยนอู๋หยาง,ขยายขึ้นมาในทันทีอีกหนึ่งเท่า,กลายเป็นร่างที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง,พร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นเงาเลือน,เสี้ยววินาทีก็มาอยู่ด้านหน้าของฉู่เทียนแล้ว,หมัดซ้ายที่เย็นยะเยือกรวบรวมพลังความเย็นในอากาศคลุมหมัดของเขาเอาไว้พร้อมกับปล่อยมันออกมา.
การยานิรันดรโอบแสงดารา!
ร่างของฉู่เทียนควบรวมพลังอำนาจแห่งดวงดารา,พร้อมกับยกกระบี่ในแนวตั้งเข้าป้องกันด้านหน้า,หมัดของเหยี่ยนอู๋หยางกระแทกฟาดเข้ากับคมกระบี่,หมัดน้ำแข็งแช่แข็งคมกระบี่ในทันที.
"โฮก!"
เหยี่ยนอู๋หยางที่คำรามออกมาราวกับสัตว์ป่า,หมัดอีกข้างของเขาที่ลุกไหม้โชติช่วง,ก็ปล่อยออกมายังคมกระบี่ที่มีน้ำแข็งเกาะ,น้ำแข็งและเปลวเพลิงเข้าผสมกัน,เกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นมาในทันที.
แรงระเบิดส่งร่างของฉู่เทียนลอยออกมาราวกับแผ่นกระดาษ,ก่อนที่จะกระแทกกับเสาหิน,เสาหินขนาดใหญ่ถึงกับแหลกออกเป็นเสี่ยงๆทันที,ทว่าด้วยการปกป้องด้วยวิชากายานิรันดรโอบแสงดารา,จึงทำให้เขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด.
"ฮี ฮี
ฮี"เหยี่ยนอู๋หยางที่หัวเราะอย่างออกรส"วิชาบำเพ็ญของเจ้าไม่ธรรมดาเลย,นับว่ามีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง,เจ้าอาจจะโชคดีสามารถสังหารเหยี่ยนจุนได้,อย่างไรก็ตาม,สำหรับข้าแล้ว,เพียงแค่พลังป้องกันนะ,มันไม่เพียงพอ!"
ระหว่างที่เขากำลังพูดนั้น,ปราณปิศาจของเหยี่ยนอู๋หยางก็แข็งแกร่งขึ้นและก็แข็งแกร่งขึ้น,มันแผ่ออกมาปกคลุมไปทั่วบริเวณ,ราวกับเป็นพลังปิศาจที่น่าสยดสยองที่กำลังโคจรอยู่รอบๆร่างกายของเขา.
สองหมัดก่อนหน้าคือการลองเชิงเท่านั้น.
ในตอนนี้คือพลังสูงสุดของเขา.
ฉู่เทียนด้วยมีประสบการกับการต่อสู้กับเหยี่ยนจุนมาแล้ว,เขาเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งของพลังของเหยี่ยนอู๋หยางเป็นอย่างดี,ความเร็วของเขานั้นไม่สามารถที่จะมองด้วยตาเปล่าในสถานการณ์เช่นนี้ได้,ก่อนหน้านี้ฉุ่เทียนแทบจะยังไม่ขยับอะไรเลย,หมัดที่รุนแรงของศัตรูก็ถูกปลดปล่อยมาแล้ว.
สายตาทั่วไปไม่สามารถจับจังหวะศัตรูได้,นั่นจึงไม่ควรที่จะใช้สายตาทั่วไปในการต่อสู้!
ฉู่เทียนที่หลับตาลงและใช้ทักษะเนตรจิต!
เมื่อเทียนเปิดทักษะเนตรจิต,เขาก็สามารถเข้าใจร่างกายของเหยี่ยนอู๋หยางได้ในทันที,โครงสร้างพลังที่แข็งแกร่งของเขา,คุณลักษณะเฉพาะของวิชาบำเพ็ญดังกล่าว,การโคจรของพลังวิญญาณ,และยังหมายถึงจุดอ่อนของเขาด้วย,ฉุ่เทียนสามารถเข้าใจได้ทั้งหมดแล้ว.
"เนตรจิต?"
บ่อโลหิตถึงกับกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ประหลาดใจ.
"ตายไปซะ!"
เหยี่ยนอู๋หยางที่ไม่ใส่ใจอะไรแม้แต่น้อย,เขาได้ปล่อยปราณปิศาจโถมเข้ามาในทันที,หนึ่งหมัดน้ำแข็งและอีกหนึ่งหมัดเปลวเพลิง,หมัดคู่ที่ถูกส่งออกมารวมพลังกันเป็นพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากพุ่งตรงมายังฉู่เทียนเสียงดังสั่น
"เจ้าตัวน้อย,หน้าที่เจ้ามาถึงแล้ว!"
จิ้งจอกน้อยที่ได้รับคำสั่ง,ลุกขึ้นยืนบนไหล่ของฉู่เทียนและรวบรวมพลังดูด,ปราณปิศาจของเหยี่ยนอู๋หยางก็ถูกสูบออกมาก่อนที่จะถูกกลืนลงในท้องของมัน.
เหยี่ยนอู๋หย่างถึงกับตื่นตะลึง,"อะไรกัน,คาดไม่ถึงเลยว่าจำทำลายปราณปิศาจของข้าได้!"
พลังวิญญาณของฉู่เทียนปะทุขึ้นมาทันที,ภูติวิญญาณกระบี่เทพมารปรากฏขึ้นมา,มันถูกแผ่พุ่งเข้าไปในกระบี่อเวจีเป็นพลังที่มากมายมหาศาล,ทันใดนั้นกระบี่ก็ส่องแสงสีแดงม่วงลุกโชนเพิ่มพลังขึ้นมาอีกหลายเท่า.
หนึ่งก้าว!
สองก้าว!
ฉู่เทียนที่ก้าวไปด้านหน้าสองก้าว,จุดการไหลที่อ่อนแอของเหยี่ยนอู๋หยาง,ย่อมไม่สามารถหลบพ้นทักษะเนตรจิตได้.
แสงประกายของกระบี่ได้กวาดไปยังจุดดังกล่าวในชั่วพริบตา!
พลังน้ำแข็งและพลังเปลวเพลงที่ถูกปล่อยไปด้านหน้า
กระแทกลงไปบนพื้นเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นสองแห่ง,พลาดไม่โดนร่างกายของฉู่เทียน,สายตาของเขาเบิกกว้างกลมโต,เผยประกายแสงที่ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย.
"คาดไม่ถึงข้าแพ้อย่างงั้นรึ?มันเป็นไปไม่ได้!"
ที่เอวของเหยี่ยนอู๋หยางนั้นปรากฏเส้นสีแดงขึ้นมา,ราวกับฟางข้าวที่ถูกตัด,ร่างกายของเขาถูกแยกออกเป็นสองท่อน,ตกตายไปด้วยคมกระบี่ของฉู่เทียน!
จวบจนกระทั่งสติสุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่.
ยังเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากเชื่อว่าตัวเขานั้นได้พ่ายแพ้ไปแล้ว!
人为己天诛地灭 คนไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินลงโทษ Rénwéi jǐ tiānzhūdìmiè
"ไม่เห็นแก่ตัว
ฟ้าดินลงโทษ"... คำติดปากของคนเห็นแก่ตัว ที่พูดเพื่อสร้างความสบายใจให้ตนเอง
เมื่อทำผิด ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำมันผิด!
คนบ้านนอกกับต้นแอ๊ปเปิล
posted
on 13 Jan 2012 08:15 by krareinpa
คนบ้านนอกคนหนึ่งในสวนของเขามีต้นแอ๊ปเปิลที่ไม่ออกดอกออกผลอยู่ต้นหนึ่ง แต่เป็นสวนสนุกให้กับเหล่านกและแมลงต่าง ๆ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจโค่นต้นแอ๊ปเปิลนี้ทิ้ง
ขณะที่เขาใช้ขวานจามไปที่ต้นแอ๊ปเปิลครั้งแรก เหล่าแมลงและนกได้ขอร้องให้เขาอย่าโค่นต้นไม้ที่เป็นสวนสนุกของพวกมันเลย
และยังบอกว่าหากเขายอมละเว้นที่จะไม่โค่นต้นไม้นี้ พวกมันก็จะร้องเพลงให้เขาฟัง บรรเทาความเหน็ดเหนื่อยหลังการทำงานของเขา แต่คนบ้านนอกไม่ใส่ใจในคำขอร้องของพวกมัน ยังคงใช้ขวานของเขาจามต่อไป ขวานที่หนึ่ง
ขวานที่สอง ขวานที่สาม ขณะที่เขาจามมาถึงโพรงไม้โพรงหนึ่ง พบว่ามีรังผึ้งที่มีน้ำผึ้งอยู่เต็มรัง เขาลองชิมน้ำผึ้งดู และแล้วก็โยนขวานทิ้งไป
แล้วดูแลรักษาต้นไม้ต้นนี้ด้วยความระมัดระวังยังกับต้นไม้เทวดา
*** นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้เสียดสีความเห็นแก่ตัวของมนุษย์-------จะดูแลเอาใจใส่ผู้อื่นเมื่อตนเองได้รับประโยชน์
แน่นอน ไม่ได้เป็นเช่นนี้ทุกคน ผู้ที่ “ ทำเพื่อผู้อื่น ” ก็มี แต่ “ คนไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินลงโทษ ”ดูเหมือนจะเป็นที่ยอมรับของหลาย
ๆ คน เพียงแต่ หากไม่มีผู้อื่นขัดขวางคุณ ไม่กระทบผลประโยชน์ของคุณแล้ว จะเหลือช่องว่างให้ผู้อื่นได้อยู่รอดก็ไม่น่าจะเป็นไร
ที่มา http://krareinpa.exteen.com/20120113/entry
ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne
#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย
สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP Click
-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน
-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน
ขอบคุณครับ
ตอบลบ