วันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 111 Devil's lair

Miracle Throne Chapter 111 Devil's lair

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 111 ถ้ำปิศาจ.


บทที่ 111 ถ้ำปิศาจ.


Chapter 111  Devil's lair
ถ้ำปิศาจ.
มีสิ่งใดอยู่ใต้ถ้ำปิศาจแห่งนี้กัน?

ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถละทิ้งความอยากรู้อยากเห็นได้,หากแต่สินค้าของหอการค้าปาฏิหาริย์ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ใหน,คงมีแต่ต้องลงไปดูเท่านั้น.


รอบๆถ้ำปิศาจแห่งนี้มีเหล่าชายชุดดำอยู่หลายคนป้องกันเอาไว้,แต่ระคนนั้นไม่ใช่ธรรมดาเลย,พวกเขาทุกคนมีพลังระดับปรุงร่างขั้น 9 กันทั้งหมด,ฉู่เทียนคงจะต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการกำราบพวกเขา.
ถึงแม้ว่าจะใช้ยันต์เวทย์ปกปิดกลิ่นอายเอาไว้,เพื่อที่จะใช้ในการลอบโจมตีก็ตาม,หากใช้กระบี่โจมตีคนเหล่านั้น,ไม่มีทางที่จะไม่ส่งเสียงออกมาได้อย่างสมบูรณ์.
โจรภูเขาวายุทมิฬนั้นมีจำนวนหลายพันคน,หากว่าเขาเคลื่อนไหวโฉ่งฉ่างล่ะก็,บางทีแล้วคงไม่ต่างจากไปแหย่รังผึ้งให้แตกรังแน่นอน,ฉู่เทียนเองก็จะไม่สามารถรับรู้อะไรได้ว่าภายในถ้าปิศาจแห่งนี้ซ่อนสิ่งใดเอาไว้กัน.

แต่คงไม่มีทางเลือกแล้ว.
คงมีแต่ต้องบุกอย่างเดียว!
ฉู่เทียนที่เดินออกมาจากซอกหินขนาดใหญ่,ก่อนที่จะก้าวตรงไปยังทิศทางของถ้ำปิศาจ.

เพราะว่าฉู่เทียนสวมชุดแบบเดียวกันกับเหล่าโจรวายุทมิฬอยู่ในตอนนี้,จึงทำให้เหล่าคนชุดดำได้แต่ชำเลืองมองมา,อยู่ชั่วขณะไม่สามารถที่จะบอกสถานะของเขาตอนนี้ได้,ดังนั้นพวกเขาจึงได้ยกกระบี่ขึ้นมาก่อนที่จะโกนออกมาว่า"เจ้ามาจากใหนกัน!มาอยู่แถวนี้ได้อย่างไร,ไม่รู้อะไรรึ?ไสหัวไปให้พ้น,ไม่เช่นนั้นต้องถูกลงโทษอย่างหนัก!"
ตูมมมม!
กลิ่นอายที่มองไม่เห็นโถมกระหน่ำ,ระเบิดกดลงมาในทันที!
กลิ่นอายที่หนักหน่วงดุร้ายได้ปรากฏขึ้นด้านหลังของฉู่เทียน,เป็นราวกับเทพอสูรจากโบราณกาลที่ยิ่งใหญ่ที่ได้เสด็จมายังยุคปัจจุบัน,เป็นกลิ่นอายที่โบราณและที่มีพลังไร้เทียมทาน,ส่งผลให้ทุกคนหวาดกลัวสั่นสะท้านตัวสั่นงันงกและแทบจะหายใจไม่ออก.

กลิ่นอายดังกล่าวนั้นโผล่ขึ้นมาเพียงชั่วพริบตาเดียว.
ดวงตาที่ปิดอยู่ก่อนนี้ของฉู่เทียนก็เปิดขึ้นมา,ประกายตาของเขานั้นดูแปลกประหลาดมีประกายแสงสีขาวและน้ำเงินที่เปล่งประกายอยู่,ที่ดวงตาด้านซ้ายเป็นสีเงินและที่ดวงตาด้านขวาเป็นสีขาว,ที่ภายในดวงตาของเขาลึกเข้าไปนั้นมีดวงตาอยู่อีกเจ็ดดวงมันลืมตาขึ้นมาในส่วนลึกของดวงตาของเขา,ดวงตาแต่ล่ะดวงนั้นแตกต่างกันเป็นอย่างมาก,มันกำลังสาดส่องประกายแสงที่ต่างกันออกมาในที่ๆเดียวกัน,ดูราวกับว่าเป็นดอกไม้ที่แปลกประหลาดกำลังบานอยู่.

เหล่าชายชุดดำทุกคนจับจ้องมายังฉู่เทียนพร้อมกันในทันที.
ตูมมมม!
ในเวลาเดียวกันนั้น.
โลกทั้งใบราวกับว่าถูกบดขยี้ลงมาด้วยพลังมหาศาล!
เหล่าคนคุมกันทั้งหมดถึงกับสูญสิ้นสติไปด้วยกันทั้งหมด,ไม่มีแม้แต่คำพูดที่สามารถเปล่งออกมาได้พวกเขาล้มลงนอนกองระเกะระกะ,สมองของพวกเขาหยุดทำงาน,หัวใจหยุดเคลื่อนไหว,ทั้งอวัยวะภายในและภายนอกแม้จะไม่มีบาดแผลแต่อย่างใด,หากแต่พวกเขากับตายตามๆกันไปโดยไม่สามารถบอกสาเหตุได้.
เพียงแค่เวลาชั่วพริบตา.
กระบวนการทั้งหมดที่เกิดขึ้นไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ.
ฉู่เทียนที่จ้องมองไปยังคนเหล่านั้น,พวกเขาทั้งหมดก็ถูกสังหารไปจนหมด.
เจ็บ!
เจ็บปวดยิ่งนัก!
ใบหน้าของฉู่เทียนถึงกับซีดเผือด,ถึงกับต้องปาดเหงื่อบนหน้าผากทีเดียว,เขาจำต้องหายใจเข้าลึกๆอีกหลายครั้ง,ก่อนที่จะค่อยกลับมาทรงตัว,พร้อมกับล้วงน้ำยาหญ้าแก่นหยวนออกมาในกระเป่า,พร้อมกับกลืนมันลงไป,เพื่อทดแทนพลังวิญญาณที่แห้งเหือดไป,ก่อนที่จะค่อยๆฟื้นฟูกลับมาบางส่วน.
ภูติวิญญาณหลักของเขา ในการเรียกใช้ออกมาในแต่ละครั้งนั้น,เผาผลาญพลังวิญญาณในร่างของเขาเป็นจำนวนมาก!

ด้วยการใช้หญ้าสะเก็ดดาวปรับแต่งร่างกาย,ทำให้เส้นปราณของฉู่เทียนนั้นแข็งแกร่งและยืดหยุ่นเหนียวแน่นกว่าคนทั่วไป,พลังวิญญาณก็มีมากมายกว่าคนทั่วไปในระดับเดียวกันมหาศาลทีเดียว,แต่ถึงอย่างนั้นหากว่าเขาใช้ภูติวิญญาณหลักในการโจมตี,ก็ยังไม่สามารถใช้ได้อย่างสมบูรณ์.
ด้วยการเผาผลาญพลังวิญญาณที่มหาศาล!
จนแทบทำให้ร่างกายของเขาทนไม่ไหว!
จิ้งจอกน้อยถึงกับฮึมฮำในลำคอทีเดียว,ขนทั่วร่างของมันถึงกับตั้งชัน,ประกายแสงในดวงตาตื่นตกใจด้วยความยำเกรง.
"ตอนนี้เจ้ารู้รึยังล่ะว่าเจ้านายของเจ้านั้นร้ายกาจ!"
"จากนี้ไปเจ้ายังกล้าดื้อกับข้าอยู่ใหม!"
จิ้งจอกน้อยที่กลับมาเป็นปกติ,จ้องมองเขม็งขุ่นเคืองไปยังฉู่เทียน,ราวกับว่าจะประท้วงฉู่เทียน.
ฉู่เทียนที่ไม่สนใจ,ย่างก้าวเดินเข้าไปยังถ้ำปิศาจต่อไป,จากร่องรอยแล้ว,คงจะมีอายุไม่นานนัก,แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีอายุหลายร้อยปี.
บันไดหินที่ทอดยาวลงไปด้านล่าง,ที่ผนังถ้ำด้านข้างนั้นมีรูปสลักภูติปิศาจ,พร้อมกับส่งกลิ่นอายที่แปลกประหลาดออกมา,จวบจนเขาก้าวไปสุดทางแล้ว,ก็พบเข้ากับห้องโถงใหญ่ที่มืดมิด,ปรากฏต่อหน้าของฉู่เทียน.
มีกล่องมากมายนับไม่ถ้วนวางอยู่รอบๆมุมห้องโถงแห่งนี้.
ทอง,เงินและเครื่องประดับ,และอาวุธยุทโธปกรณ์,กระจายกระจายอยู่ทุกหนทุกแห่ง,ราวกับว่าสถานทีแห่งนี้นั้นเป็นโพรงเก็บสมบัติก็ไม่ปาน.
"มารดารมันเถอะ,ในที่สุดก็พบแล้ว"ฉู่เทียนได้พบเข้ากับกองสินค้ามากมายหลากหลาย,มีธงที่หลากหลายของกองคาราวานสินค้า,เห็นได้อย่างชัดเจนว่าทั้งหมดนี้คือสินค้าที่ถูกปล้นมา.
ที่ใจกลางห้องโถงหลักนั้นมีบ่อโลหิต,ส่งกลิ่นคาวโลหิตที่ข้นเหนียวหนืดออกมา,มันบิดตัวกันไปมาช้าๆราวกับว่ามีชีวิต,เจ้าเมืองฮวังซีเหยี่ยนอู๋หยาง,นำเหล่าโจรในชุดดำ 20 คนยืนรายล้อมอยู่ด้านข้างของเขา.
ใบหน้าของเหยี่ยนอู๋หยางที่เต็มไปด้วยความเกรงขามและบูชา,เขาก้มลงคุกเข่าอยู่ที่ใจกลางของห้อง,แสดงท่าทางเคารพอย่างที่สุด,ก้มกราบอย่างนับถือครั้งแล้วครั้งเล่า,ที่ปากของเขานั้นบ่นพึมพำอยู่,ราวกับว่ากำลังพูดคุยกับบางคนอยู่.

ทันใดนั้น,เขาก็ลุกขึ้นยืน,โบกมือขวาไปมา"โยนพวกมันลงไป."
คนที่ชายชุดดำนำมานั้นเป็นเหล่าผู้ฝึกตนที่ถูกจับมานั่นเอง
"พวกเจ้าจะทำอะไร?"
"ปล่อยข้า,ปล่อยข้าเดียวนี้!"
หวงเห่าหานและผู้ฝึกตนไร้สังกัดอีกสามคน,ถูกลากออกมาจากกลุ่มคนที่ถูกจับ, พวกเขาถูกลากและโยนลงไปในบ่อโลหิตทันที.
เหล่าชายชุดดำและเหยี่ยนอู๋หยางก้มลงคำนับไปมาพลางตะโกนออกมาเสียงดัง.
"ข้าขอบรรณาการ,ขอให้นายท่านได้รับเหยื่อสังเวยจากข้าด้วย!"
หลินมู่และฟางหานที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้น,ได้ร้องออกมาด้วยเสียงที่แหบพล่า"ไม่!!!"
เหล่าคนทั้งสี่ที่ถูกโยนลงไปในบ่อโลหิตหากแต่ยังไม่จมตีนัก,เหมือนพวกเขากำลังลอยอยู่บนผิวของบ่อ,โลหิตที่ไหลไปมาราวกับมีชีวิต,ได้เคลื่อนที่ไหลวนโอบไปทั่วร่างพวกเขา,ร่างกายของพวกเขาในตอนนี้กระตุกดิ้นรนไปมา,พลังวิญญาณถูกดูดออกมาไม่หยุด,ผิวหนังของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว,ร่างกายที่เริ่มแก่ชราลงเรื่อยๆ.
ฉู่เทียนที่กุมกระบี่อเวจีแน่นซ่อนตัวอยู่ที่มุม,พร้อมกับขมวดคิ้วแน่น,บ่อโลหิตดังกล่าวราวกับว่าสามารถดูดกลืนพลังชีวิตได้,เป็นอะไรที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก.

"เยี่ยม,ยอมเยี่ยมมาก"
"แก่นชีวิตและโลหิตของผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต รสชาดอร่อยสร้างพลังให้กับข้าได้มากทีเดียว."
"ตราบเท่าที่สามารถกลืนกินเหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,จะทำให้ข้าฟื้นคืนชีพได้ในไม่ช้า."
"เหล่าสินค้ามากมายที่ได้ปล้นมาจนถึงตอนนี้,จะกลายเป็นทรัพยากรที่จะใช้ในการสร้างเมืองสำหรับข้าเซียนศักดิสิทธิ์."
"พวกเจ้าที่ช่วยข้าฟื้นคืนชีพ,เกียรติยศชื่อเสียงมากมายที่พวกเจ้าจะได้รับ,แน่นอนพวกเจ้าจะได้รับรางวัลตอบแทนกันทุกๆคน."
เป็นเสียงที่แหบพล่าเย็นยะเยือกดังผ่านออกมาจากบ่อโลหิต,เป็นเสียงที่แหบแห้งและแหลมคม,ราวกับเสียงข่วนหินหนา,ทำให้ทุกคนที่ได้ยินทั่วทั้งร่างถึงกับสั่นเทิ้มด้วยความหวาดกลัว.
เหยี่ยนอู๋หยางก้มลงคำนับด้วยความตื่นเต้นอีกครั้งและอีกครั้ง,"ขอบคุณ,นายท่าน!ข้าและคนพร้อมจะบุกน้ำลุยไฟเพื่อท่าน! พวกเจ้ากำลังมองอะไรอยู่?รีบโยนพวกมันลงไปอีก!"
"ช้าก่อน!"เสียงที่ดังมาจากบ่อโลหิตกล่าวออกมาช้าๆ"ดูเหมือนพวกเจ้าได้ปล่อยหนูเล็ดลอดเข้ามา!"
เหยี่ยนอู๋หยางถึงกับสะดุ้งตื่น,ทันใดนั้นก็ตะโกนออกมาว่า"นั่นใครกัน!"
ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย,สัมผัสอสูรเทวะของเจ้าแก่นี่ไม่อ่อนด้อยเลย,ว่าจะรอโอกาสลอบโจมตีซะหน่อย,ใครจะรู้ล่ะเพียงแค่เข้ามาในห้องโถง,แค่ไม่นานก็ถูกฝ่ายตรงข้ามพบตัวเข้าแล้ว.
!
ในเมื่อถูกเปิดเผยแล้ว,เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนตัวอีกต่อไป.
ฉู่เทียนที่ค่อยๆเผยตัวเดินออกมาจากมุมเสา"ท่านเจ้าเมืองเหยี่ยน,พวกเราพบกันอีกแล้ว!"
หลินมู่,ฟางหานและคนอื่นๆที่ยังไม่ตายจับจ้องมาในทันที.
เจ้าเด็กนี้โง่รึเปล่า?
เขาที่หนีไปอย่างยากลำบาก,คาดไม่ถึงเลยว่าจะกลับมาอีก!
เหยี่ยนอู๋หยางเองก็ไม่คาดคิดเลยว่าจะเห็นเขาที่แห่งนี้"เหยี่ยนจุน,นี่มันไม่เอาถ่านจริงๆ!"
ฉู่เทียนที่เผยยิ้มออกมาอย่างเฉิดฉาย"ทำไมต้องกระวนกระวายด้วยล่ะ?ข้าจะส่งเจ้าไปเป็นเพื่อนเขาเอง!"
เหยี่ยนอู๋หยางตะโกนออกไปด้วยความโกรธเกรี้ยว,"ไป,สังหารมันซะ!"
เหล่าโจรชุดดำ 20 คนที่ชักอาวุธออกมา,พร้อมกับพุ่งออกไปเป็นเงา,จากทิศทางที่ต่างกัน,พุ่งเข้าจู่โจมฉู่เทียน,เหล่าคนทั้ง 20 คนนี้ต่างก็มีระดับปรุงร่างขั้นที่ 9 ซึ่งโดยปรกติแล้วพวกเขามีความสามารถที่จะจัดการเหล่าผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตธรรมดาได้อย่างสบายๆทีเดียว!

เขตแดนจิตสัมผัส!
ฉู่เทียนเปิดการใช้งานทักษะจิตสัมผัส,ด้วยความเร็วทุกสิ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนเป็นช้าลงในทันที,ทุกๆการเคลื่อนไหวของเหล่าคนชุดดำเขาสามารถที่จะเข้าใจและจดจำได้อย่างละเอียดทีเดียว.
ภูติวิญญาณกระบี่เทพมารปรากฏขึ้นมาในทันที.
ฉู่เทียนที่กุมกระบี่อเวจีในมือพุ่งออกไป,ลำแสงกระบี่ส่องประกาย,ถูกส่งออกไปตัดผ่านเหล่าโจรชุดดำในพริบตาเดียว,ไม่มีใครสักคนที่สามารถป้องกันกระบี่ของเขาได้.
ประกายแสงกระบี่ฉู่เทียนทะลวงผ่านเหล่าโจรร้ายทั้ง 20 คน,ก่อนที่เขาจะยั้งเท้าอยู่ที่ตรงกลางของห้อง.
พรึดๆๆ,พรืดๆๆๆ
เหล่าโจรชุดดำต่างก็ล้มลงระเนระนาด,เพียงแค่การตวัดกระบี่ครั้งเดียว,ก็ถูกจัดการได้อย่างง่ายดายและหมดจด,ไร้ซึ่งท่าทางลังเลแม้แต่น้อย!
ดวงตาของเหยี่ยนอู๋หยางหรี่ตาลงเล็กน้อย"ดินแดนจิตสัมผัส?เหยี่ยนจุนเจ้าขยะนั่น ตายด้วยฝีมือเจ้าจริงๆสินะ!"
ฉู่เทียนที่ชำเลืองไปยังบ่อโลหิตอยู่ชั่วขณะด้วยท่าทางสนใจทีเดียว,หวงเห่าหานและผู้ฝึกตนคนอื่นๆในตอนนี้ถูกดูดพลังชีวิตจนกลายเป็นศพที่เหือดแห้งไปแล้ว.
"แก่นชีวิตและโลหิต,เกรงว่าจะใช้เหล่าผู้ฝึกตนมากกว่า 2,000 คนสร้างมันขึ้นมาสินะ"สายตาของฉู่เทียนเปลี่ยนเป็นเย็นชาเต็มไปด้วยความเยือกเย็น"เป็นการกระทำที่ชั่วร้ายจริงๆ,ถึงกับนำคนบริสุทธิ์มาใช้หาผลประโยชน์ของตัวเอง,ไม่กลัวว่าเวรกรรมจะตามทันหรืออย่างไร?"
"***คนไม่เห็นแก่ตัว  ฟ้าดินลงโทษ!"เหยี่ยนอู๋หยางเผยประกายตาที่บ้าคลั่ง"ข้าอายุ 60 ปีกว่าแล้ว,ทำงานเป็นเจ้าเมืองเล็กๆแห่งนี้มา 20 กว่าปี,ครั้งหนึ่งข้าเคยคิดว่าจะใช้ชีวิตเช่นนี้ไปตลอดทั้งชีวิต!"
"แต่โลกใบนี้กว้างใหญ่ไพศาลนัก,โลกใบนี้มีสิ่งวิเศษมากมายนับไม่ถ้วน,อาณาจักรหนานเซี่ยแห่งนี้เป็นเพียงอาณาจักรที่เล็กระจิดริด,เป็นเพียงแค่หยดน้ำหยดเล็กๆในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่,จะให้ข้านั้นใช้ชีวิตทั้งชีวิตอยู่ภายในเมืองอันกระจ่อยร่อยแห่งนี้นะรึ?ข้าไม่ยินดีนัก,ข้าไม่ต้องการ!"
"นายท่านเซียนศักดิ์สิทธิ์,ได้มอบโอกาสให้กับข้าแล้ว!ให้ข้าสามารถได้ฝึกฝนวิชา <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>ที่ยอดเยี่ยม,ได้มอบชีวิตใหม่มาให้กับข้า!เจ้าเด็กเมื่อวานซืนเช่นเจ้า,จะมาเข้าใจความรู้สึกของข้าได้อย่างไร!"

ฉู่เทียนถอนหายใจ.
ทุกๆคนต่างก็มีชะตาชีวิตเป็นของตัวเอง.
อย่างไรก็ตาม,ความรู้สึกของเหยี่ยนอู๋หยางนั้น,เขาเข้าใจได้ดีทีเดียว.
โลกที่ยอดเยี่ยม,โลกใบนี้ที่กว้างใหญ่ไพศาล,เหยี่ยนอู๋หยางก็แทบไม่ต่างจากมดแมลง,เขาที่ต้องอาศัยอยู่ในเมืองขนาดเล็กเช่นนี้ตลอดชีวิต,แน่นอนว่าเขาย่อมต้องการที่จะจากไปสู่โลกกว้าง,ไปในทุกที่ที่เขาต้องการ,มันไม่ใช่สิ่งที่ผิดอะไร?

ใช่แล้ว!
ฉู่เทียนเองก็เช่นกันไม่ใช่รึ?
ความฝันของฉู่เทียน,จุดหมายของฉู่เทียน,ที่จริงแล้วก็ไม่ได้ต่างจากเหยี่ยนอู๋หยางนัก,เขาต้องการที่จะค้นหาดินแดนที่ไม่เคยมีและสำรวจโลกใหม่,นั่นคือสิ่งที่เขาปรารถนาอยู่ภายในใจ.

ร่างของเหยี่ยนอู๋หยางที่ค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีดำเงา,ทั่วทั้งร่างนั้นมีอักขระต้องสาปมากมายนับไม่ถ้วน,ดูคล้ายกับตราสัญลักษณ์ของปิศาจโบราณ,เกิดขึ้นบนร่างกายของเขา.
ฉู่เทียนขมวดคิ้วเล็กน้อย.
บนร่างของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยอักษรรูนที่ลึกลับมากมาย,นี่คือ <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>ที่น่าเกรงขาม,มันสามารถช่วยเพิ่มพลังให้กับเหยี่ยนจุนก่อนนี้,เหยี่ยนอู๋หยางเองก็มีพลังปลุกดวงจิตระดับ 2 ขั้นปลาย,ด้วยการใช้วิชา <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>,ทำให้พลังฝึกตนของเขาตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง!
"ตอนนี้เจ้าก็จงกลายเป็นเครื่องสังเวยในพิธีกรรมบูชาของลัทธิปิศาจสวรรค์ซะ!"
เหยี่ยนอู๋หยางที่กระทืบเท้าขวาอย่างดุร้าย,พลังวิญญาณสีแดงและสีขาวพวยพุ่งออกมา,มีบางสิ่งที่กำลังผุดขึ้นมาจากภายในร่างของเขา,มันค่อยๆกลายเป็นจิตวิญญาณวารสองหัวที่ดุร้าย.
ฉู่เทียนเผยท่าทางจริงจังขึ้นมาในทันที"ภูตวิญญาณคู่ เปลวเพลิงและน้ำแข็งรึ?นี่คือภูติวิญญาณคุณสมบัติคู่!"
ภูติวิญญาณของเหยี่ยนอู๋หยางนั้นเป็นวานรสองหัวเปลวเพลิงและน้ำแข็ง,เป็นหนึ่งในอสูรวิญญาณที่มีความแข็งแกร่งมีคุณสมบัติของพลังธาตุสองอย่าง,เหยี่ยนอู๋หยางจะสามารถฝึกฝนวิชาบำเพ็ญสองสถานะด้วยกันได้,ถึงแม้ว่าจะมีคุณสมบัติธาตุที่ขัดกัน,แต่ก็ไม่ต่อต้านกัน,นับว่าเป็นภูติวิญญาณที่มีพลังทำลายที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างมาก.
และตอนนี้เหยี่ยนอู๋หยางยังใช้วิชา <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>,เพื่อที่จะเพิ่มพลังของตัวเองขึ้นมาจนถึงขีดสุด,เขาในตนนี้ได้กลายเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 3 ไปแล้ว.

ฉู่เทียนไม่มีวิชาบำเพ็ญในการต่อสู้ที่แข็งแกร่ง ซ้ำยังเป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิตขั้นที่ 1 เท่านั้น,การต่อสู้ในครั้งนี้ไม่ง่ายแล้ว!
แทบจะในพริบตา!
ร่างที่ผอมบางของเหยี่ยนอู๋หยาง,ขยายขึ้นมาในทันทีอีกหนึ่งเท่า,กลายเป็นร่างที่ใหญ่โตและแข็งแกร่ง,พร้อมกับแปรเปลี่ยนเป็นเงาเลือน,เสี้ยววินาทีก็มาอยู่ด้านหน้าของฉู่เทียนแล้ว,หมัดซ้ายที่เย็นยะเยือกรวบรวมพลังความเย็นในอากาศคลุมหมัดของเขาเอาไว้พร้อมกับปล่อยมันออกมา.

การยานิรันดรโอบแสงดารา!
ร่างของฉู่เทียนควบรวมพลังอำนาจแห่งดวงดารา,พร้อมกับยกกระบี่ในแนวตั้งเข้าป้องกันด้านหน้า,หมัดของเหยี่ยนอู๋หยางกระแทกฟาดเข้ากับคมกระบี่,หมัดน้ำแข็งแช่แข็งคมกระบี่ในทันที.
"โฮก!"
เหยี่ยนอู๋หยางที่คำรามออกมาราวกับสัตว์ป่า,หมัดอีกข้างของเขาที่ลุกไหม้โชติช่วง,ก็ปล่อยออกมายังคมกระบี่ที่มีน้ำแข็งเกาะ,น้ำแข็งและเปลวเพลิงเข้าผสมกัน,เกิดระเบิดขนาดใหญ่ขึ้นมาในทันที.
แรงระเบิดส่งร่างของฉู่เทียนลอยออกมาราวกับแผ่นกระดาษ,ก่อนที่จะกระแทกกับเสาหิน,เสาหินขนาดใหญ่ถึงกับแหลกออกเป็นเสี่ยงๆทันที,ทว่าด้วยการปกป้องด้วยวิชากายานิรันดรโอบแสงดารา,จึงทำให้เขานั้นไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด.
"ฮี ฮี ฮี"เหยี่ยนอู๋หยางที่หัวเราะอย่างออกรส"วิชาบำเพ็ญของเจ้าไม่ธรรมดาเลย,นับว่ามีพลังป้องกันที่แข็งแกร่ง,เจ้าอาจจะโชคดีสามารถสังหารเหยี่ยนจุนได้,อย่างไรก็ตาม,สำหรับข้าแล้ว,เพียงแค่พลังป้องกันนะ,มันไม่เพียงพอ!"
ระหว่างที่เขากำลังพูดนั้น,ปราณปิศาจของเหยี่ยนอู๋หยางก็แข็งแกร่งขึ้นและก็แข็งแกร่งขึ้น,มันแผ่ออกมาปกคลุมไปทั่วบริเวณ,ราวกับเป็นพลังปิศาจที่น่าสยดสยองที่กำลังโคจรอยู่รอบๆร่างกายของเขา.
สองหมัดก่อนหน้าคือการลองเชิงเท่านั้น.
ในตอนนี้คือพลังสูงสุดของเขา.
ฉู่เทียนด้วยมีประสบการกับการต่อสู้กับเหยี่ยนจุนมาแล้ว,เขาเข้าใจได้อย่างแจ่มแจ้งของพลังของเหยี่ยนอู๋หยางเป็นอย่างดี,ความเร็วของเขานั้นไม่สามารถที่จะมองด้วยตาเปล่าในสถานการณ์เช่นนี้ได้,ก่อนหน้านี้ฉุ่เทียนแทบจะยังไม่ขยับอะไรเลย,หมัดที่รุนแรงของศัตรูก็ถูกปลดปล่อยมาแล้ว.
สายตาทั่วไปไม่สามารถจับจังหวะศัตรูได้,นั่นจึงไม่ควรที่จะใช้สายตาทั่วไปในการต่อสู้!
ฉู่เทียนที่หลับตาลงและใช้ทักษะเนตรจิต!
เมื่อเทียนเปิดทักษะเนตรจิต,เขาก็สามารถเข้าใจร่างกายของเหยี่ยนอู๋หยางได้ในทันที,โครงสร้างพลังที่แข็งแกร่งของเขา,คุณลักษณะเฉพาะของวิชาบำเพ็ญดังกล่าว,การโคจรของพลังวิญญาณ,และยังหมายถึงจุดอ่อนของเขาด้วย,ฉุ่เทียนสามารถเข้าใจได้ทั้งหมดแล้ว.
"เนตรจิต?"
บ่อโลหิตถึงกับกล่าวออกมาด้วยเสียงที่ประหลาดใจ.
"ตายไปซะ!"
เหยี่ยนอู๋หยางที่ไม่ใส่ใจอะไรแม้แต่น้อย,เขาได้ปล่อยปราณปิศาจโถมเข้ามาในทันที,หนึ่งหมัดน้ำแข็งและอีกหนึ่งหมัดเปลวเพลิง,หมัดคู่ที่ถูกส่งออกมารวมพลังกันเป็นพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากพุ่งตรงมายังฉู่เทียนเสียงดังสั่น
"เจ้าตัวน้อย,หน้าที่เจ้ามาถึงแล้ว!"
จิ้งจอกน้อยที่ได้รับคำสั่ง,ลุกขึ้นยืนบนไหล่ของฉู่เทียนและรวบรวมพลังดูด,ปราณปิศาจของเหยี่ยนอู๋หยางก็ถูกสูบออกมาก่อนที่จะถูกกลืนลงในท้องของมัน.
เหยี่ยนอู๋หย่างถึงกับตื่นตะลึง,"อะไรกัน,คาดไม่ถึงเลยว่าจำทำลายปราณปิศาจของข้าได้!"
พลังวิญญาณของฉู่เทียนปะทุขึ้นมาทันที,ภูติวิญญาณกระบี่เทพมารปรากฏขึ้นมา,มันถูกแผ่พุ่งเข้าไปในกระบี่อเวจีเป็นพลังที่มากมายมหาศาล,ทันใดนั้นกระบี่ก็ส่องแสงสีแดงม่วงลุกโชนเพิ่มพลังขึ้นมาอีกหลายเท่า.
หนึ่งก้าว!
สองก้าว!
ฉู่เทียนที่ก้าวไปด้านหน้าสองก้าว,จุดการไหลที่อ่อนแอของเหยี่ยนอู๋หยาง,ย่อมไม่สามารถหลบพ้นทักษะเนตรจิตได้.
แสงประกายของกระบี่ได้กวาดไปยังจุดดังกล่าวในชั่วพริบตา!
พลังน้ำแข็งและพลังเปลวเพลงที่ถูกปล่อยไปด้านหน้า กระแทกลงไปบนพื้นเกิดหลุมขนาดใหญ่ขึ้นสองแห่ง,พลาดไม่โดนร่างกายของฉู่เทียน,สายตาของเขาเบิกกว้างกลมโต,เผยประกายแสงที่ไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่เกิดขึ้นแม้แต่น้อย.
"คาดไม่ถึงข้าแพ้อย่างงั้นรึ?มันเป็นไปไม่ได้!"
ที่เอวของเหยี่ยนอู๋หยางนั้นปรากฏเส้นสีแดงขึ้นมา,ราวกับฟางข้าวที่ถูกตัด,ร่างกายของเขาถูกแยกออกเป็นสองท่อน,ตกตายไปด้วยคมกระบี่ของฉู่เทียน!
จวบจนกระทั่งสติสุดท้ายที่ยังคงเหลืออยู่.
ยังเป็นความรู้สึกที่ไม่อยากเชื่อว่าตัวเขานั้นได้พ่ายแพ้ไปแล้ว!


己天 คนไม่เห็นแก่ตัว  ฟ้าดินลงโทษ Rénwéi jǐ tiānzhūdìmiè
"ไม่เห็นแก่ตัว ฟ้าดินลงโทษ"... คำติดปากของคนเห็นแก่ตัว ที่พูดเพื่อสร้างความสบายใจให้ตนเอง เมื่อทำผิด ไม่คิดว่าสิ่งที่ทำมันผิด!

คนบ้านนอกกับต้นแอ๊ปเปิล
posted on 13 Jan 2012 08:15 by krareinpa
               คนบ้านนอกคนหนึ่งในสวนของเขามีต้นแอ๊ปเปิลที่ไม่ออกดอกออกผลอยู่ต้นหนึ่ง  แต่เป็นสวนสนุกให้กับเหล่านกและแมลงต่าง ๆ  ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจโค่นต้นแอ๊ปเปิลนี้ทิ้ง  ขณะที่เขาใช้ขวานจามไปที่ต้นแอ๊ปเปิลครั้งแรก  เหล่าแมลงและนกได้ขอร้องให้เขาอย่าโค่นต้นไม้ที่เป็นสวนสนุกของพวกมันเลย  และยังบอกว่าหากเขายอมละเว้นที่จะไม่โค่นต้นไม้นี้  พวกมันก็จะร้องเพลงให้เขาฟัง  บรรเทาความเหน็ดเหนื่อยหลังการทำงานของเขา  แต่คนบ้านนอกไม่ใส่ใจในคำขอร้องของพวกมัน  ยังคงใช้ขวานของเขาจามต่อไป  ขวานที่หนึ่ง  ขวานที่สอง  ขวานที่สาม  ขณะที่เขาจามมาถึงโพรงไม้โพรงหนึ่ง  พบว่ามีรังผึ้งที่มีน้ำผึ้งอยู่เต็มรัง  เขาลองชิมน้ำผึ้งดู  และแล้วก็โยนขวานทิ้งไป  แล้วดูแลรักษาต้นไม้ต้นนี้ด้วยความระมัดระวังยังกับต้นไม้เทวดา

***  นิทานเปรียบเทียบเรื่องนี้เสียดสีความเห็นแก่ตัวของมนุษย์-------จะดูแลเอาใจใส่ผู้อื่นเมื่อตนเองได้รับประโยชน์

 แน่นอน  ไม่ได้เป็นเช่นนี้ทุกคน     ผู้ที่ ทำเพื่อผู้อื่น ”  ก็มี   แต่  คนไม่เห็นแก่ตัว  ฟ้าดินลงโทษ ดูเหมือนจะเป็นที่ยอมรับของหลาย ๆ คน  เพียงแต่  หากไม่มีผู้อื่นขัดขวางคุณ  ไม่กระทบผลประโยชน์ของคุณแล้ว  จะเหลือช่องว่างให้ผู้อื่นได้อยู่รอดก็ไม่น่าจะเป็นไร


ที่มา http://krareinpa.exteen.com/20120113/entry


ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

1 ความคิดเห็น: