วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2560

Miracle Throne Chapter 110 Day demon merit

Miracle Throne Chapter 110 Day demon merit

นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ ตอนที่ 110   ศาสตร์ปิศาจสวรรค์


บทที่ 110   ศาสตร์ปิศาจสวรรค์


 ฉู่เทียนสามารถมองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในค่ายได้อย่างละเอียด,ความเป็นจริงก่อนหน้านี้,เขาที่เห็นเหยี่ยนอู๋หยางครั้งแรกที่จวนเจ้าเมืองนั้น,ฉู่เทียนก็สามารถสัมผัสได้ถึงปราณอสูรที่โคจรเปื้อนร่างของเขาจางๆ.
 เขาคงจะฝึกวิชาศาสตร์แห่งความปิศาจอย่างแน่นอน.

โดยปรกติแล้ว,ฉุ่เทียนไม่ได้ใส่ใจเรื่องเช่นนี้แน่นอน,ทว่าเขาจำข้อมูลที่จิงหู่อธิบายเกี่ยวกับลักษณะของหัวหน้าโจรได้,เรื่องดังกล่าวนี้จึงไม่ใช่เรื่องธรรมดา.

ศาสตร์แห่งปิศาจ?


เป็นศาสตร์การต่อสู้แบบใดกัน?
 ศาสตร์แห่งปิศาจเป็นวิชาที่มีการฝึกฝนที่โหดเหี้ยมเป็นอย่างมาก,วัตถุดิบที่ใช้ในการฝึกวิชาบำเพ็ญคือโลหิตหรือพลังชีวิต,ยกตัวอย่างอาจเป็นแก่นชีวิตหรือแก่นโลหิต, และยังมีดวงจิต อีกด้วย ..และยังมีอีกหลากหลายทีใช้ในการฝึก,เมื่อคนเหล่านี้บำเพ็ญวิชาศาสตร์แห่งปิศาจแล้ว,ยิ่งวิชาแข็งแกร่งและลึกซึ้งขึ้นเท่าใด,พวกเขาก็จะยิ่งกระหายโลหิตมากขึ้นเท่านั้น,พวกเขาจะกลายเป็นดุร้ายกระหายโลหิตอย่างที่สุด,และบางครั้งอาจจะเสียสติและการควบคุมตัวเองได้เลย.
ดังนั้นแล้วแม้ว่าศาสตร์แห่งปิศาจจะให้พลังที่แข็งแกร่งแต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงจึงมีคนที่ฝึกฝนวิชาเช่นนี้ไม่มากนัก.

เหล่าโจรร้ายที่ลึกลับและยังเป็นกลุ่มคนที่ฝึกฝนวิชาปิศาจ,เจ้าเมืองฮวังซีเองก็ฝึกฝนวิชาศาสตร์แห่งปิศาจ,เรื่องทั้งสองนี้จะบังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ?

เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวนี้,ทำให้เขาไม่ยากที่จะสรุปสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ได้.

หลังจากที่ได้เข้ามาในค่ายโจรภูเขาวายุทมิฬ,ฉู่เทียนก็บอกได้ว่าค่ายแห่งนี้มีความลับซ่อนอยู่,และตระหนักได้ว่ามันจะต้องเป็นกับดักอย่างแน่นอน!
 ไม่แปลกใจเลยว่าเหยี่ยนอู๋หยางถึงต้องการเหล่าผู้ฝึกตนไร้สังกัด.
 และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาได้จ้างเหล่าทหารรับจ้างที่ไม่มีคนหนุนหลังอยู่ด้วย.
คนเหล่านี้ถึงแม้ว่าจะตายหรือหายไป,ย่อมไม่มีใครสืบสาวนำปัญหามาให้กับเขาอย่างแน่นอน.
ฉู่เทียนที่สามารถมองออกถึงแผนร้ายของเหยี่ยนอู๋หยางได้,แม้ว่าเขาจะกล่าวเตือนหลินมู่แล้ว,ใครจะรู้ล่ะว่ากลุ่มของทหารหนุ่มเช่นพวกเขาจะไม่ฟังเลยแม้แต่น้อย,ซ้ำยังดูถูกเหน็บแนมเขาอีก,สุดท้ายแล้วก็เดินเข้าไปติดกับดักจนไม่สามารถหนีออกมาได้.
"ค่ายกลเวทย์ที่ถูกเปิดใช้งานแล้ว."

"คนเหล่านี้ช่างโชคร้ายจริงๆ!"
ฉู่เทียนรู้สึกถึงเสียงดังสั่นสะเทือนที่อยู่ไกลออกไป,การต่อสู้ฝั่งนั้นคงจะเริ่มปะทุกขึ้นมาแล้ว,ทักษะการต่อสู้ของหลินมู่เองก็ยังนับว่ายอดเยี่ยมถึงแม้ว่าจะถูกดูดพลังไปก็ตามที,แต่ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะหนีออกมาจากกับดักนั่นได้.
ตอนนี้พวกเขาคงจะประสบปัญหาอย่างหนักแล้ว.
กลุ่มคนเหล่านี้จะเป็นหรือตาย,ฉู่เทียนเองก็หาได้ใส่ใจ!
ใครบอกให้โง่ไม่เชื่อฟังคำแนะนำเขาเลยไม่ใช่หรือ?
ฉู่เทียนสามารถที่จะหนีไปได้อย่างแน่นอน,หากแต่สินค้าหอการค้าปาฏิหาริย์ที่ถูกคนเหล่านี้ชิงไปล่ะ,หากว่าเขาหนีไปล่ะก็,ไม่ว่าจะเป็นหญ้าเพลิงอเวจีที่มีราคาหลายล้าน,แมลงอสูรสามชีพ,และยังมีศิลาผลึกแม่เหล็กไฟฟ้าอีก ของเหล่านี้จะทำอย่างไร?
12 ล้านเหรียญทองเองก็ไม่เท่าไหร่.
หากแต่หญ้าเปลวเพลิงอเวจี,แมลงอสูรสามชีพ,นับเป็นวัตถุดิบที่หายาก,ถึงแม้ว่าจะมีช่องทางของหอการค้าเทียนเฉินในการหา,หากแต่การจะซื้อขายวัตถุดิบเหล่านั้นในเวลาสั้นๆนั้นก็ทำได้ยาก,ซึ่งหากปล่อยเวลารอบถัดไปล่ะก็อาจจะเป็นหลายสิบวันหรืออาจจะครึ่งเดือนเลยก็เป็นได้,ซึ่งนับว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆกับหอการค้าปาฏิหาริย์เลย.
เวลาทุกนาทีก็คือเงิน!
ขณะที่ฉุ่เทียนยืนลังเลอยู่ภายนอกค่ายโจรวายุทมิฬอยู่นั้น.
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ในที่สุดข้าก็พบเจ้าแล้ว!"
กลิ่นอายแห่งความมืดที่รุนแรงก็โถมกระหน่ำมาในทันที,ราวกับจะทะลวงผ่านโจมตีเข้าไปได้ถึงดวงจิตทีเดียว.

ที่มุมปากของฉุ่เทียนนั้นยกขึ้นมาด้วยท่าทางเหยียดหยัน.
มือขวาของเขาตวัดออกไป.
กระบี่อเวจีก็โผล่ออกมาจากล่องไม้.
คมกระบี่ส่องประกายวับวาวเปล่งแสงสว่างจ้า,ฉีกกระชากความว่างเปล่าในทันที,เกิดประกายแสงสีม่วงทุกครั้งที่เขาตวัดออกมา.
เพลี้ง!
เงาร่างสีดำถูกกระแทกออกไปหลายเมตร.
กระบี่ของเหยี่ยนจุนถึงกับหักออกเป็นสองท่อน,ทำให้เขาถึงกับตื่นตกใจเป็นอย่างมาก"อาวุธของข้า,เป็นไปได้อย่างไรกันมันเป็นถึงศาสตราวิญญาณระดับสูง,เป็นกระบี่วิเศษเล่มหนึ่งที่แข็งแกร่ง!"
ภายใต้แสงจันทรา,คมประบี่อเวจี,ราวกับว่ามันจะเปล่งประกายเป็นเหล็กน้ำแข็งที่มีอายุหลายหมื่นปีก็ไม่ปาน,ราวกับว่าจะไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถสั่นคลอนหรือสร้างความเสียหายให้กันมันได้!
ฉู่เทียนที่สวมชุดสีน้ำเงิน,ที่มือขวาของเขานั้นกุมกระบี่พร้อมกับชี้มันออกไปด้านหน้าอย่างสุขุม,สายตาของเขาส่องประกายราวกับสายน้ำลึก,พร้อมกับมองออกไปรอบๆ,ก่อนที่จะเผยยิ้มออกมาและกล่าวไปว่า"ไล่ตามข้ามาเพียงคนเดียว,คิดว่ามันไม่เป็นเรื่องที่บ้าคลั่งไปหน่อยเหรอ!"
"ฮ่า ฮ่า ฮี่ ฮ่า ฮ่า!"เหยี่ยนจุนที่หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง,ดวงตาทั้งสองข้างเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำ,ทั่วทั้งร่างกายของเขาตอนนี้เต็มไปด้วยปราณปิศาจ,"เจ้าคิดว่ามีอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในมือเท่านั้น,จะสามารถล้มข้าได้อย่างงั้นรึ?ข้าจะทำให้เจ้าเข้าใจแจ่มแจ้งว่าเจ้านั้นโง่งมถึงเพียงใหน!"
พลังวิญญาณที่เหยี่ยนจุนปลดปล่อยออกมานั้นมีรูปร่างเป็นวานรยักษ์สีเขียว,ทันทีที่ภูติวิญญาณของเขาปรากฏขึ้น,พลังวิญญาณของเขาก็เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่าทันที,ร่างกายของเขาในตอนนี้ขยายใหญ่ขึ้นกลายเป็นมัดๆปรากฏขึ้นเต็มไปหมด,จนทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นใหญ่โต.
ภูติวิญญาณวานรสี่กรอย่างงั้นรึ?
ภูติวิญญาณอสูรวานรสี่กรนั้นเป็นภูติวิญญาณรูปร่างสัตว์อสูรที่ร้ายการเป็นอย่างมาก.
มันเป็นสัตว์อสุรวิญญาณที่มีสี่แขนตั้งแต่กำเนิด,ไม่เพียงมีพลังที่ไร้ขอบเขต,นอกจานี้ยังมีร่างกายที่แข็งแกร่งราวกับเพชร,เป็นสัตว์อสูรที่อาศัยในสถานที่เลวร้ายเป็นอย่างมาก,และภูติวิญญาณวานรสี่กรยังเป็นภูติวิญญาณอสูรที่หากยากอีกด้วย,สัตว์อสูรชนิดนี้สามารถนำมาเป็นภูติวิญญาณและนำมาใช้ในการฝึกฝนวิชาบำเพ็ญได้ด้วยวิชาลับพิเศษของเผ่ามนุษย์.
ภูติวิญญาณวานรสี่กรของเหยี่ยนจุนนั้น,ไม่เพียงแต่เพิ่มพลังโจมตีและป้องกันขึ้นมาพร้อมๆกัน,วิชาที่เขาใช้นั้นยังช่วยเพิ่มความเร็วเป็นอย่างมาก,ดังนั้นทักษะต่อสู้ของเขานั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน.
ฉู่เทียนจ้องมองไปยังภูติวิญญาณวานรสี่กร,ทำให้เขานั้นขมวดคิ้วเล็กน้อยและกล่าวออกไปว่า"แม้ว่าข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าฝึกฝนศาสตร์แห่งปิศาจอะไรมา,ทว่าข้าขอบอกได้เลยว่าศาสตร์แห่งปิศาจที่เจ้าฝึกนั้นมันขัดกับภูติวิญญาณของเจ้า,มันสามารถเพิ่มพลังให้กับเจ้าได้ในเวลาสั้นๆ,และมันก็สร้างผลกระทบที่รุนแรงในเวลาอันสั้นอีกด้วย,มันได้ทำลายศักยภาพของเจ้าที่ควรมี!เจ้าคงจะเป็นแค่เพียงของใช้ของคนอื่นเท่านั้นล่ะ!"
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า!"
"เจ้าคิดว่าข้าจะเชื่อเจ้าหรืออย่างไร?"
"ตายไปด้วยหมัดของข้าซะ!"
หมัดของเหยี่ยนจุนนั้นถูกปกคลุมไปด้วยปราณทมิฬ,มันเริ่มเปลี่ยนหมัดของเขาให้ดำขึ้นๆ,จนเห็นราวกับว่ามีภูติผีที่กำลังหมุนวนอยู่รอบๆหมัดของเขา.
"หมัดปีศาจโหยหวน!"
พลังวิญญาณที่บ้าคลั่งทันใดนั้นก็พุ่งตรงมายังเขาในทันที!
ฉู่เทียนได้กวัดแกว่งกระบี่ออกไปเพื่อป้องกันพลังของหมัด,ทว่าด้วยพลังหนักหน่วงที่ระเบิดออกมาไม่หยุด,ราวกับว่าเป็นหินขนาดมหึมาที่ล่วงหล่นลงมาจากที่สูง,พลังหมัดที่กำลังกดดันอย่างรุนแรงถึงกับปัดเป่าเศษดินเศษหินที่อยู่ข้างๆจนกลายเป็นรูที่ลึกลงไปหลายเมตรทีเดียว.
"อะไรกันกระบี่เล่มนี้สามารถดูดพลังวิญญาณของข้าได้!"
หมัดที่ทรงพลังของเหยี่ยนจุนนั้นรุนแรงที่กระหน่ำลงมานั้น,หากเป็นศาสตราวิญญาณทั่วไปล่ะก็คงจะถูกบดกลายเป็นผุยผงไปแล้ว,หากแต่กระบี่ยาวของชายคนนี้,ไม่เพียงสามารถป้องกันการโจมตีของเหยี่ยนจุนได้,ยังสามารถดูซับพลังส่วนใหญ่ของเขาได้อีกด้วย,ซ้ำพลังส่วนเกินนั้นยังสามารถส่งถ่ายมาให้กับฉู่เทียนอีกด้วย,ไม่ทำให้พลังส่วนเกินสูญเปล่าเลย.
นี่คือความร้ายกาจของกระบี่อเวจี.
ที่เพียงกระบี่อเวจีเป็นอาวุธที่คมกริบพลังทำลายล้างสูง,ยังมีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย.
ฉู่เทียนตะโกนออกมาเสียงดัง.
"กระบี่!"
ภูติกระบี่เทพมารถูกปลดปล่อยออกมาในทันที,กระบี่อเวจีที่รวมพลังกับภูติกระบี่เทพมาร,ทำให้เกิดประกายแสงลุกโชติช่วงขึ้นมาในทันที,พลังทำลายล้างเองก็เพิ่มขึ้นมาอีกหลายเท่า,เพียงแค่กลิ่นอายของมันก็กระแทกเหยี่ยนจุนปลิวลอยออกไปในทันที.
เหยี่ยนจุนเผยท่าทางหวาดกลัวเป็นอย่างมาก.
เป็นกลิ่นอายของภูติวิญญาณที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก!
ภูติวิญญาณกระบี่ภายในรัฐกลางนั้นมีอยู่มากมาย,หากแต่ไม่เคยได้ยินหรือรู้จักภูติวิญญาณตนนี้เลย!
บางทีภูติวิญญาณกระบี่ที่ไม่เคยเห็นตนนี้ไม่เพียงแต่เป็นภูติวิญญาณที่ไม่เคยเห็นเท่านั้น,ยังมีพลังระดับพระเจ้าในตำนานอีกด้วย,เหล่าผู้ฝึกตนที่มีภูติวิญญาณเช่นนี้,การที่จะเข้าต่อกรนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายดายเลย!
กระบี่ที่อันตราย!
ยังมีภูติวิญญาณที่อันตรายอีกด้วย!
แม้ว่าคนผู้นี้จะไม่มีวิชาชั้นยอด,เพียงที่เขามีตอนนี้ก็ไม่สามารถที่จะดูแคลนได้!
ท่าทางของเหยี่ยนจุนนั้นเปลี่ยนเป็นจริงจัง"ความจริงเจ้ามีความสามารถที่เยี่ยมทีเดียว,ทว่าด้วยวิชากระบี่ของเจ้ายังไม่ดีพอ,คงไม่สามารถที่จะต่อกรกับวิชา <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>> ที่ท่านปราชญ์ศักดิสิทธิ์ได้สอนข้าได้!"
"<<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>อย่างงั้นรึ?"ฉู่เทียนที่สายหน้าไปมา,"**วุ่นวายจริงๆ,ทำให้ข้าเสียเวลาจริงๆ,อยากโจมตีก็รีบโจมตีมาซะ!"

สำนวนจีน 乱七八糟 luànqībāzāo (ล่วน-ชี-ปา-จาว) แปลว่า รก, ระเกะระกะ, ยุ่งเหยิงไปหมด หรือ everything in disorder 
"ชิ!งั้นเจ้าจงดูให้เต็มตากับพลังที่แท้จริงของศาสตร์ปิศาจสวรรค์!"
เหยี่ยนจุนยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาในทันที,ท่าทางของเขาในตอนนี้เปลี่ยนเป็นดุร้ายเป็นอย่างมาก,ผิวเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำเงา,มันเริ่มกระจายออกไปทั่วร่างการก่อนที่จะคลุมไปทั่วร่าง,จนท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นสีดำคล้ำ,ราวกับว่าทั่วร่างของเขานั้นเต็มไปด้วยรอยสักสีดำ.

ฉู่เทียนที่เปลี่ยนเป็นจริงจัง"พลังวิญญาณดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า,เป็นการเพิ่มพลังขึ้นอย่างคาดไม่ถึงจริงๆ!"
เมื่อเหยี่ยนจุนใช้วิชานี้ออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ,ทั่วร่างกายของเขานั้นจะมีอักษรรูนสีม่วงที่ลึกล้ำร้ายกาจปกคลุมทั่วร่างของเขา,คล้ายกับตราอักขระที่น่าสะพรึงกลัวปกคลุมทั่วร่างของเขา,ผิวกายของเขาตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีดำเข้ม,พลังปราณปิศาจที่หมุนวนทั่วร่างของเขา,เป็นมนุษย์ที่ให้กลิ่นอายที่แปลกประหลาดเป็นอย่างมาก.
จิ้งจอกน้อยที่ออกมานั่งอยู่บนไหล่ของฉู่เทียน,หางสีขาวที่ฟูฟ่องของมันสะบัดไปมา,ดวงตาเปล่งประกายแสดงท่าทางที่เต็มไปด้วยการเหยียดหยัน.
"ถึงเวลาตายของเจ้าแล้ว!"
ขาทั้งสองข้างของเหยี่ยนจุนขยับอย่างรวดเร็วพร้อมกับหายไปในทันที.

ที่จริงแล้วเขาไม่ได้หายไปใหน,หากแต่เป็นการเคลื่อนที่ที่รวดเร็วเป็นอย่างมาก,จนทำให้ไม่สามารถที่จะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า.

รวดเร็วมาก!
ด้วยตาเปล่าของฉู่เทียนไม่มีทางที่จะสามารถจับการเคลื่อนไหวได้ทัน,เมื่อเขาปรากฏตัวออกมา,เหยี่ยนจุนก็มาปรากฏตัวข้างหลังแล้ว,ฝ่ามือของเขาก็ฟาดลงมาในทันที,ราวกับมีดที่คมกริบที่พยายามจะทะลวงร่างของฉู่เทียน.

ในช่วงเวลาวิกฤตินั้น.
จิ้งจอกน้อยที่สูดลมเข้าจมูกอย่างรุนแรง,เกิดเรื่องที่แปลกประหลาดขึ้นในทันที,ปราณปิศาจรอบๆตัวของเหยี่ยนจุนนั้นไม่สามารถควบคุมได้.มันเริ่มไหลซึมออกมาจากร่างกาย,ก่อนที่จะถูกดูดเข้ามาโดยจิ้งจอกน้อยเกือบทั้งหมด.
เหยี่ยนจุนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก.
สัตว์อสูรขนาดเล็กเท่ากับกำปั้น,ท่าทางที่ดูธรรมดาเป็นอย่างมาก,ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ให้ความสนใจในตัวมันตั้งแต่แรกแล้ว,เขาไม่คาดคิดเลยว่าเจ้าอสูรตัวน้อยตนนี้จะมีทักษะที่คาดไม่ถึงเช่นนี้.
กายแก้ว!
ทั่วร่างกายของฉู่เทียนถูกปกคลุมไปด้วยแสงดวงดาราที่โปร่งแสงวับวาวปรากฏขึ้นมาในทันที,เมื่อผ่ามือที่คมกริบของเหยี่ยนจุนประทับลงไป,เกิดเสียงดังสนั่น,พลังอำนาจแห่งดวงดาราส่องประกายแตกออกเป็นเสี่ยงๆฟุ้งกระจายส่องแสงระยิบระยับ,หากแต่ก็ยังสามารถทนการโจมตีได้.
พลังที่รุนแรงน่าสะพรึงกลัวถูกดีดกลับไปในทันที.
แขนของเหยี่ยนจุนถึงกับบิดงอแตกหักจนต้องร้องออกมาอย่างโอดโอย,ลอยละลิ่วลงไปนอนกองกับพื้นกลิ้งไปมา.
"เจ้าตัวน้อยเจ้าเองก็ไม่ได้ไร้ประโยชน์เหมือนกันนิ!"
ฉู่เทียนถึงกับต้องชื่นชมเจ้าจิ้งจอกน้อยเป็นพิเศษเลยทีเดียว,ดูเหมือนว่าเขาเองจะดูถูกฝ่ายตรงข้ามไปหน่อย,วิชาบำเพ็ญ <<ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>เป็นวิชาบำเพ็ญจากโบราณกาล,ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งไม่น้อยเลยทีเดียว,ถึงเขาจะรู้ว่าเป็นหนึ่งในวิชาที่แข็งแกร่ง,แต่มันกับทรงพลังมากเกินกว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้.
หากว่าไม่เพราะจิ้งจอกน้อยดูดกลืนปราณปิศาจของเหยี่ยนจุนออกไปล่ะก็,เขาคงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องได้รับบาดแผลในครั้งนี้.
จิ้งจอกน้อยที่ลุกขึ้นยืนอย่างเหยียดหยัน,ยืนสองขาราวกับคน,ขาหน้าทั้งสองข้างของมันกอดอกเข้าหากัน,จ้องมองออกไปอย่างดูถูกและแสดงท่าทางภาคภูมิใจออกมา.
"นี่คือรางวัลของเจ้า!"
ฉู่เทียนยื่นแก่นหยินให้กับมัน,จิ้งจองน้อยที่กอดอกด้วยท่าทางมีความสุข,พร้อมกับเคี้ยวไปมา กร็อบๆ อย่างเอร็ดอร่อย.
เหยี่ยนจุนที่นอนกองอยู่บนพื้น,ไร้ซึ่งพลังจะต่อสู้,ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยหวั่นเกรงตะโกนออกมาเสียงดัง"วิชาบำเพ็ญอะไรกัน,คาดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถป้องกันศาสตร์ปิศาจสวรรค์ของข้าได้!"
เหยี่ยนจุนนั้นเข้าใจได้ถึงพลังโจมตีของเขาดี.
ถึงแม้ว่าปราณอสูรของเขาจะถูกดูดไปจากเจ้าอสูรวิญญาณลึกลับนั่น,แต่เขาก็ยังมีพลังเหลืออยู่อีกครึ่ง,ถึงจะเป็นผู้ฝึกตนที่มีระดับเดียวกันยังยากที่จะต้านทานได้,คนผู้นี้เขาก็เห็นได้อย่างชัดแจ้งว่าเป็นผู้ฝึกตนที่เพิ่งเลื่อนระดับกลายเป็นผู้ฝึกตนระดับปลุกดวงจิต,ไม่คิดจริงๆว่าจะสามารถป้องกันทักษะเขาได้,ซ้ำยังสะท้อนพลังโจมตีของเขาเอง,กระแทกเขามายังร่างของเขาจนได้รับบาดเจ็บแทน.
พลังป้องกันที่ทรงพลังสามารถต่อต้านพลังสวรรค์ได้เลยเหรอ  นี่มันน่าเกรงขามยิ่งนัก!
เห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ากระบี่ที่เขาใช้ออกมานั้น,เป็นการใช้พลังโลนๆของภูติกระบี่และกระบี่เท่านั้น,ไม่มีทักษะใดๆนั่นคงเป็นเพราะว่าเขาฝึกวิชาป้องกันนั้นแทน,และวิชาบำเพ็ญสายป้องกันนั้นนับว่าเป็นวิชาป้องกันชั้นยอดอีกด้วย,บางทีอาจจะสำเร็จไปถึงขึ้นที่สาม ดินแดน ประสบผลที่ใหญ่เป็นเอกลักษณ์ แล้วก็ได้.
นี่คือสิ่งที่เหยี่ยนจุนรับรู้ในตอนนี้.
ที่จริงแล้ว <<กายานิรันดรโอบแสงดารา>>ของฉุ่เทียน นั้นเพิ่งสำเร็จในขั้นที่ 1 สำเร็จดินแดนขนาดเล็ก เท่านั้น.
"วิชา <ศาสตร์ปิศาจสวรรค์!>>แม้จะสามารถเพิ่มพลังต่อสู้ของเจ้าขึ้นมามากมาย,อย่างไรก็ตามมันก็มีผลกระทบกับร่างของเจ้าด้วย,ทำลายตัวเองแปดส่วน,ทำลายศัตรูสิบส่วน,มันเป็นเหมือนดาบสองคม,ยากที่จะสามารถก้าวไปถึงระดับที่สุดยอดได้."
สิ้นคำพูด,กระบี่ของเขาก็สะบัดออกไป,หัวของเหยี่ยนจุนก็หล่นไปกองอยู่บนพื้น.
เหยี่ยนจุนถูกสังหารไปเรียบร้อยแล้ว.
ฉู่เทียนชำเลืองมองไปยังทิศทางของค่ายโจรภูเขาวายุทมิฬ,พร้อมกับบ่นพึมพำ"คนเหล่านี้ไปได้ศาสตรแห่งปิศาจโบราณมาจากใหนกัน?พวกเขาได้ค้นพบสิ่งใดเข้า,มันเป็นเรื่องที่น่าสนใจเข้าให้แล้ว!พวกโจรภูเขาวายุทมิฬเหล่านี้,คงจะเป็นเหล่าทหารในกองทัพเมืองฮวังซีเป็นแน่,ข้าจะเด็ดหัวพวกมันให้เหี้ยนเลย,จะได้ไม่ต้องมีปัญหาอีกต่อไปอีก."
จิ้งจอกน้อยที่กำลังเคี้ยวแก่นหยินอยู่ก็หยุดเคี้ยวและได้ใช้กงเล็บเล็กๆของมันชี้ไปยังทิศทางหนึ่ง.
"เจ้าต้องการให้ข้าไปยังทิศทางดังกล่าวรึ?"
จิ้งจอกน้อยพยักหน้า,ฉู่เทียนที่มุ่งไปยังทิศทางของเจ้าตัวน้อยบอก,เพื่อหลบเลี่ยงการสายตาของเหล่าโจรภูเขาวายุทมิฬ,ใครจะรู้ล่ะทางดังกล่าวนั้นกับกลายเป็นทางลัดและทำให้เขาได้หลุดเข้าไปส่วนลึกของหุบเขาที่ลึกลับซับซ้อน เขาได้มาโผล่ที่หน้าถ้ำขนาดใหญ่.
ถ้ำดังกล่าวนี้เป็นถ้ำที่ตั้งฉากลงไปยังพื้นดิน.
รอบๆบริเวณนั้นมีเหล่าโจรชุดดำที่สวมหน้ากากยืนคุ้มกันอยู่.
มีกลิ่นอายปิศาจที่แผ่ออกมาจากภายในถ้ำที่มืดมิดแห่งนั้นมันกำลังพวยพุ่งออกมาช้าๆ,ด้วยสัมผัสที่แหลมคมของฉู่เทียน,กลิ่นอายปิศาจที่ลึกลับที่อยู่ภายถ้ำดังกล่าวนี้จะต้องเกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้อย่างแน่นอน.
ฉู่เทียนที่เตรียมตัวบุกเข้าไป,ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงดังออกมาแต่ไกล,เขาเร่งรีบปิดกลั้นกลิ่นอายตัวเองทันที.
เหยี่ยนอู๋หยางที่เดินนำหน้ามา,พร้อมกับเหล่าคนที่ถูกมัดมือมัดเท้า,ที่ถูกเหล่าทหารในชุดดำลากตัวมาอย่างช้าๆ.
พวกเขาถูกจับได้ทั้งหมดเลยรึ?
"เข้าไป!"

เหยี่ยนอู๋หยางได้จับกุมหลินมู่และคนอื่นๆ,พร้อมกับลากพวกเขาเข้าไปยังถ้ำที่มืดมิด.



ที่มาจากhttps://lnmtl.com/novel/miracle-throne

#นิยาย บัลลังก์แห่งปาฏิหาริย์ #Miracle throne#นิยายแปลไทย



สนใจสนับสนุนพวกเรา เข้าร่วมกลุ่ม VIP  Click

-เว็ปฟรี 2 วันนอัพหนึ่งตอน

-กรุ๊ป vip วันล่ะ 2 ตอน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น